วันที่ 25 เมษายน 2024

ในหลวง พระราชินี พระราชทานชุด PPE. 7 แสนชุดแก่บุคลากรการแพทย์ และสาธารณสุข

People Unity News : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานชุด PPE. 7 แสนชุดแก่บุคลากรการแพทย์ และสาธารณสุข ใช้ป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชน

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร รับพระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ อาคารกองกิจการในพระองค์ พระที่นั่งอัมพรสถาน และให้สัมภาษณ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จำนวน 7 แสนชุด ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งชุด PPE. มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก ทำให้มีความปลอดภัยขณะปฏิบัติหน้าที่ ทั้งขณะให้การดูแลรักษาผู้ป่วย/ ผู้ติดเชื้อ การเก็บตัวอย่างเพื่อเฝ้าระวัง ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก ซึ่งทำให้การป้องกันควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล 7 แสนชุดที่ได้รับพระราชทาน ประกอบด้วย เสื้อคลุมแขนยาว (Isolation Gown) 4 แสนชุด ชุดสวมคลุมร่างกายชิ้นเดียว มีฮู้ดคลุมคอและศีรษะ (Coverall Gown) 1 แสนชุด และเสื้อคลุมแขนยาวชนิดใช้ซ้ำได้ (Reusable Isolation Gown) 2 แสนชุด โดยกระทรวงสาธารณสุข จะกระจายไปยังโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต รวม 4.9 แสนชุด กรุงเทพมหานคร 7 หมื่นชุด และเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHOSNET) 1.4 แสนชุด

Advertising

นายกรัฐมนตรีเผยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

People Unity News : นายกรัฐมนตรีเผยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ยืนยันรัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง เร่งผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วและได้มากที่สุด

เมื่อวานนี้ (7 พ.ย. 63) เวลา 10.00 น. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ประสบอุทกภัย ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ พร้อมมอบสิ่งของผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่  จังหวัดนครศรีธรรมราช

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้นำความพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ทรงมีความห่วงใยมาถึงทุกคน รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบด้วย วันนี้ ได้นำรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาด้วย ยืนยันรัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง ซึ่งจากสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 900 มิลลิเมตร เกิดปริมาณน้ำไหลหลากเข้าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช  แม้จะไม่ได้เดินทางมาด้วยตนเองตั้งแต่ต้น แต่ก็ติดตามข้อมูลต่างๆด้วยความห่วงใย และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบกับอุทกภัยในพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยเร่งผลักดันน้ำออกให้มากที่สุด

ทั้งนี้  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงห่วงใยประชาชน โดยพระราชทานถุงยังชีพพระราชทานผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 10,000 ชุด และจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน 1 แห่ง และพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ผ่านมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวว่า ทุกวันนี้ โลกมีการเปลี่ยนแปลง คนต้องอยู่กับน้ำให้ได้ แต่ต้องไม่ขาดแคลนทั้งสิ่งของเครื่องใช้  ซึ่งรัฐบาลจึงได้เดินหน้าโครงการต่างๆ เช่น โครงการเที่ยวด้วยกัน  โครงการคนละครึ่ง ที่กำลังเดินหน้าไปด้วยดี และกำลังจะมีโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ในเดือนมกราคม  นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า คาดว่าวัคซีนสำหรับโควิด-19 น่าจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณกลางปีหน้า ดังนั้น ทุกคนต้องไม่ประมาท ให้ระมัดระวังตนเอง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันยังไม่ใช่การระบาดขนาดใหญ่ หรือ ซุเปอร์สเปรดเดอร์  เพราะสามารถติดตามย้อนกลับไป ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ในไทยอยู่อันดับท้ายๆของโลก ที่สำคัญ คือ คนไทยทุกคนต้องรักกัน รวมทั้งขอให้ยึดมั่นในชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์  เพื่อรวมกันเดินประเทศไทย สู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน

Advertising

รัฐบาลเดินหน้า “โครงการหลวง” สนองพระราชปณิธาน ร.10 “สืบสาน รักษา ต่อยอด”

People Unity News : รัฐบาลต่อยอด “โครงการหลวง” สนองพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 10 “สืบสาน รักษา ต่อยอด”

วันนี้ (15 ก.ค. 63) เวลา 13.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ครั้งที่ 1/2563 โดยมี นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิโครงการหลวง  พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ที่ปรึกษาพิเศษ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และกรรมการ ร่วมประชุม

ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2562-2563 ของมูลนิธิโครงการหลวง และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. โดยโครงการหลวงได้รับการรับรองทะเบียนพันธุ์พืชใหม่กับกรมวิชาการเกษตรแล้ว 15 พันธุ์ และกำลังขอขึ้นทะเบียนพันธุ์ไม้ดอกมาลีรัตน์ วงศ์ขิง รวมทั้ง ฟักทองญี่ปุ่น คะน้าฮ่องกง และมะเขือเทศผลเล็ก ผลงานวิจัยที่นำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากสารสกัดถั่งเช่า โยเกิร์ตนมกระบือ และผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด คือ กาแฟอราบิกาเฉพาะถิ่น กาแฟแคบซูลซิงเกิลออริจิน น้ำมันลินินสกัดเย็น ผลิตภัณฑ์คีนัวกรอบ คีนัวบาร์ และขนมปังคีนัวผสมสตรอว์เบอร์รี  โดยเกษตรกรในพื้นที่โครงการหลวง 13,645 ครัวเรือน ได้รับการส่งเสริมให้ปลูกพืชเขตหนาวและกึ่งหนาว 381 ชนิด ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัย จำหน่ายภายใต้ตรา “โครงการหลวง” ในปีงบประมาณ พ.ศ.2562 มูลค่ารวม 1,328 ล้านบาท

ที่ประชุมยังได้พิจารณาอนุมัติงบประมาณสนับสนุนการสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ณ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นศูนย์รวมการปฏิบัติงานวิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูง เกิดประโยชน์โดยรวมแก่ประเทศ พร้อมรับทราบผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่สูงตามแนวทางของโครงการหลวง โดยขณะนี้กรมป่าไม้ได้รับการอนุมัติขอบเขตการใช้พื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่รวม 2,508,958 ไร่ 1 งาน 27 ตารางวา เพื่อให้หน่วยงานต่างๆเข้าปฏิบัติงานในขอบเขตพื้นที่อย่างคล่องตัว และเตรียมดำเนินการขอใช้ประโยชน์พื้นที่ตั้งศูนย์/สถานีฯ และพื้นที่เกษตร รวมทั้งพื้นที่ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสำหรับการแก้ปัญหาในพื้นที่นำร่อง คือ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง  ได้ฟื้นฟูพื้นที่กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยความร่วมมือทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ และประชาชนในพื้นที่ เป็นแบบอย่างของการดำเนินการต่อไปบนพื้นที่สูงอื่นในจังหวัดเชียงใหม่ และตาก รวมทั้งต่อยอดไปในพื้นที่สูงของจังหวัดเชียงราย ลำพูน พะเยา และแม่ฮ่องสอน

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้รับฟังผลการประชุมวิชาการนานาชาติด้านการพัฒนาเกษตรที่สูงอย่างยั่งยืน ตามพระราชปณิธานสืบสาน รักษา ต่อยอดงานโครงการหลวง จัดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ มีผู้เข้าร่วมประชุมจาก 17 ประเทศ 675 คน ความสำเร็จของโครงการหลวง ถือเป็นต้นแบบการพัฒนาทางเลือกที่เป็นแนวปฏิบัติบนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยหลักการทำงาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เน้นการบูรณาการของทุกภาคส่วน และเตรียมต่อยอดสู่การจัดตั้งสถาบันเรียนรู้การพัฒนาที่สูงอย่างยั่งยืน เพื่อขยายแนวทางและองค์ความรู้ ให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางต่อไป

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาอนุมัติกรอบงบประมาณของหน่วยงานบูรณาการและสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนแม่บทศูนย์พัฒนาโครงการหลวง และแผนแม่บทโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2560-2565)  โดยให้ความสำคัญกับการจัดการปัจจัยพื้นฐาน น้ำ พื้นที่ป่าต้นน้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตชุมชนบนพื้นที่สูง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป

Advertising

นายกฯนำข้าราชการถวายสัตย์ฯเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน วันเฉลิมพระชนมพรรษา

People Unity : นายกรัฐมนตรีนำข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปีพุทธศักราช 2562

เมื่อวานนี้ (28 กรกฎาคม 2562) เวลา 07.50 น. ณ ท้องสนามหลวง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปีพุทธศักราช  2562 โดยมี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณฯ  ความว่า “ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน มีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามพระยุคลบาท มุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน และดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนแห่งศาสนาตามแนวทางในพระบรมราโชวาทตลอดไป”

จากนั้น ประธานและผู้เข้าร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีจอมราชา ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันแล้ว เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

ใต้ร่มพระบารมี : นายกฯนำข้าราชการถวายสัตย์ฯเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

People Unity : post 29 กรกฎาคม 2562 เวลา 05.30 น.

จัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลและเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล

People Unity : นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศล และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล

เมื่อวานนี้ (22 กรกฎาคม 2562) เวลา 17.45 น. ณ พระลานพระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล และพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2562 สมเด็จพระนางเจ้สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และทรงนำพระสงฆ์ จำนวน 191 รูป ร่วมเจริญพระพุทธมนต์ในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศล และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญพระคันธารราษฎร์ ที่ทรงสถาปนาขึ้นใหม่ในรัชกาลปัจจุบัน ออกประดิษฐานเป็นพระพุทธปฏิมาประธานในพิธีมหามงคลดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้กราบสักการะเป็นสวัสดิมงคลแก่ชีวิต และเพื่อความอุดมสมบูรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย ในช่วงเข้าสู่ฤดูฝนปีนี้เป็นครั้งแรก พร้อมทั้ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ฉายกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ล้อมกรอบด้วยรูปหัวใจ และภาพวาดการ์ตูนฝีพระหัตถ์ พิมพ์บนปกหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ สำหรับพระราชทานแก่ประชาชนที่มาร่วมสวดมนต์ในพิธีมหามงคล

และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์หนังสือ “พระสุนทรีวาณี” ด้วยทรงพระอนุสรณ์ถึง “คาถาพระสุนทรีวาณี” ที่โบราณสรรเสริญว่า หากบริกรรมสม่ำเสมอจะเกิดปัญญา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหวังพระราชหฤทัยว่า ประโยชน์อันพึงเกิด ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พิมพ์เป็นพระราชกุศลธรรมทานนี้ จักเกื้อกูลให้ผู้ได้รับพระราชทานประสบประสิทธิผลไพบูลย์ยิ่งขึ้น เพื่อความเป็นสิริมงคล และความสุขของประชาชนทุกหมู่เหล่าผู้มีศรัทธาบำเพ็ญธรรมทุกคน

ใต้ร่มพระบารมี : จัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลและเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล

People Unity : post 23 กรกฎาคม 2562 เวลา 09.50 น.

พระราชดำรัสในหลวง พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรี ในวโรกาสเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ

People Unity : พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานต่อคณะรัฐมนตรี ในการพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ 36 คน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 เวลา 17.45 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า

“ขอให้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ได้ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ ทั้งนี้เพื่อความสุขและความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชน งานใดๆก็ต้องมีอุปสรรค งานใดๆก็ต้องมีปัญหา เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องแก้ปัญหา และเข้าหางาน เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสถานการณ์ โดยแก้ไขให้ตรงเป้าตรงจุดและมีความเข้มแข็งอดทน ก็ขอให้คณะรัฐมนตรีและรัฐบาลมีกำลังใจ มีพลังที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีด้วยความถูกต้องต่อไป”

ใต้ร่มพระบารมี : พระราชดำรัสในหลวง พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรี ในวโรกาสเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ

People Unity : post 18 กรกฎาคม 2562 เวลา 23.20 น.

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปิดประชุมรัฐสภา พุทธศักราช ๒๕๖๒

People Unity : พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพิธีทรงเปิดประชุมรัฐสภา พุทธศักราช ๒๕๖๒ ณ ห้องประชุมวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ วันศุกร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒

“บัดนี้ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสร็จสิ้นลง และมีการเรียกประชุมรัฐสภา พุทธศักราช ๒๕๖๒ แล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อให้ทำหน้าที่นิติบัญญัติ ตั้งแต่วาระนี้เป็นต้นไป ขอให้สมาชิกแห่งสภาพึงนึกถึงความสำคัญและความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง เพราะการกระทำทุกอย่างของแต่ละคน จะมีผลโดยตรงถึงความมั่นคงของประเทศและความสุขทุกข์ของประชาชน จึงจำเป็นที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันปฏิบัติภารกิจทั้งปวงโดยเต็มสติปัญญาความสามารถ ด้วยความสุจริต และด้วยความคิดพิจารณาอันสุขุม รอบคอบ หนักแน่นด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง เที่ยงตรง ตามหลักนิติธรรมและคุณธรรม ให้งานของชาติดำเนินก้าวหน้าไปโดยไม่ติดขัด และบังเกิดประโยชน์อันพึงประสงค์สมบูรณ์ บริบูรณ์

ขออำนวยพรให้การดำเนินงานของรัฐสภาเป็นไปโดยเรียบร้อย สัมฤทธิ์ผลผล เป็นความผาสุกสวัสดิ์ และความวัฒนาถาวรแก่อาณาประชาราษฎร์และชาติบ้านเมือง ทั้งขอให้ทุกคนที่ประชุมร่วมกันอยู่ ณ ที่นี้ ประสบความสุขความเจริญทุกเมื่อทั่วหน้ากัน”

ใต้ร่มพระบารมี : พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปิดประชุมรัฐสภา พุทธศักราช ๒๕๖๒

People Unity : post 24 พฤษภาคม 2562 เวลา 23.30 น.

ธ.ออมสินมอบ 100 ล้านบาท สร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.สมเด็จพระยุพราช

People Unity : ธนาคารออมสิน ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข และมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยธนาคารออมสินสนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จำนวน 10 แห่ง รวมเป็นเงิน 100 ล้านบาท

เมื่อวานนี้ (15 พฤษภาคม 2562) ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย ประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช พร้อมด้วย นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมแถลงข่าวในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เพื่อจัดสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จำนวน 10 แห่ง กระจายอยู่ในอำเภอห่างไกลในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ

ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย ประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช กล่าวว่า มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการจัดสร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชในท้องที่ทุรกันดารหรือห่างไกลจากเขตเมือง พร้อมทั้งจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือเวชภัณฑ์ เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาล โดยมอบให้เป็นโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ยังส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรของโรงพยาบาล ทั้งในด้านการบริหาร บริการสาธารณสุข และวิชาการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานและเป็นตัวอย่างแก่โรงพยาบาลชุมชนและสถานพยาบาลอื่นๆ ทั้งนี้ที่ผ่านมาธนาคารออมสินได้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ “พัฒนาเวชกรรมฟื้นฟูและงานห้องปฏิบัติการพยาธิวิทยาคลินิก” จำนวน 84 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อรถพยาบาล พัฒนางานเวชกรรมฟื้นฟู และงานชันสูตรสาธารณสุข ทำให้ประชาชนที่เจ็บป่วยในถิ่นทุรกันดารได้ประโยชน์อย่างมาก ส่วนในครั้งนี้ธนาคารได้จัดสรรงบประมาณอีกจำนวน 100 ล้านบาท ในโครงการจัดสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ซึ่งมูลนิธิฯจะสนับสนุนการดำเนินงานทั้งของธนาคารออมสิน และกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพื่อรองรับการก่อสร้างอาคาร 10 แห่ง ซึ่งเป็นอาคารที่ทันสมัย การออกแบบอาคารใช้หลักประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนการจัดกิจกรรมและนิทรรศการต่างๆ จะเป็นแหล่งให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรภายในองค์กรและประชาชนโดยรอบ นอกจากนี้มูลนิธิจะขอพระราชทานนามอาคารต่อไป

ด้าน ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ธนาคารออมสิน ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้จัดทำ “โครงการจัดสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช” เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยธนาคารได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างอาคารจำนวน 10 แห่งทั่วประเทศ แห่งละ 10 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 100 ล้านบาท เพื่อขยายการบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขแบบครบวงจรให้แก่พระสงฆ์ นักบวชทุกศาสนา ผู้สูงอายุและผู้พิการ อีกทั้งยังเป็นศูนย์การเรียนรู้สุขภาวะสำหรับผู้ป่วย ประชาชนทั่วไป และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท ซึ่งภายในศูนย์การเรียนรู้มีการจัดแสดงทั้งนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียน ได้แก่ นิทรรศการแสดงความสำคัญของพระมหากษัตริย์ไทยต่อการสาธารณสุขของประเทศ และวิวัฒนาการของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เป็นต้น

ทั้งนี้ “โครงการจัดสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช” เป็น 1 ใน 6 โครงการที่ธนาคารออมสินจัดทำขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ซึ่งคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สำนักนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณารับบรรจุเข้าเป็นโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และจะปรากฏในจดหมายเหตุพระราชพิธีบรมราชาภิเษกด้วย

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาธนาคารออมสินมีบทบาทสำคัญในการจัดสร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตั้งแต่ในระยะแรกเริ่ม โดยเป็นสถาบันการเงินเพียงแห่งเดียวที่ช่วยระดมเงินทุนจากประชาชน ซึ่ง นายธานินทร์ กรัยวิเชียร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้เชิญชวนให้ประชาชนร่วมบริจาคทรัพย์ เพื่อจัดสร้างโรงพยาบาลในถิ่นทุรกันดาร นอกจากนี้ธนาคารยังได้สนับสนุนโครงการต่างๆของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เพื่อให้ประชาชนในถิ่นทุรกันดารมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อาทิ การจัดซื้อรถพยาบาล พัฒนางานเวชกรรมฟื้นฟู และงานชันสูตรสาธารณสุข ตามโครงการ “พัฒนาเวชกรรมฟื้นฟูและงานห้องปฏิบัติการพยาธิวิทยาคลินิก” เป็นเงิน 84 ล้านบาท, การจัดกิจกรรมด้านการออม ในโครงการ “ออมขวัญ ปันสุข” ด้วยการมอบขวัญถุงพระราชทานให้เด็กที่เกิดใหม่ ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ทั้ง 21 แห่ง ในเดือนกรกฎาคมของทุกปี โดยการเปิดบัญชีเงินฝากให้เป็นทุนประเดิม บัญชีละ 1,000 บาท และธนาคารออมสินร่วมสมทบบัญชีละ 500 บาท ซึ่งหลังจากดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 5,900 บัญชี รวมเป็นเงินที่ธนาคารสมทบ 2.95 ล้านบาท นอกจากนี้ธนาคารยังได้ร่วมโครงการ “เด็กน้อยรอยต่อ 2 แผ่นดิน” โดยสนับสนุนเงินทุนประเดิมให้กับเด็กทุกคนที่เกิดในช่วงรอยต่อ 2 แผ่นดิน ระหว่างวันที่ 13 – 14 ตุลาคม 2559 คนละ 1,099 บาท มีจำนวนทั้งสิ้น 1,409 ราย เป็นเงินรวมกว่า 1.54 ล้านบาท

ขณะที่ นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญในการพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั้ง 21 แห่ง มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในถิ่นทุรกันดารได้รับบริการทางด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ สำหรับการสนับสนุนของธนาคารออมสินในการจัดสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มคุณภาพการให้บริการประชาชนให้สามารถเข้าถึงบริการที่สะดวก รวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และลดความแออัดในโรงพยาบาล ส่วนสถานที่ในการก่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช กระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาสถานที่และระยะเวลาในการก่อสร้าง แบ่งเป็น 3 ปี (2562-2564) ดังนี้ ในปี 2562 ดำเนินการ 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จ.หนองคาย, โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว จ.สระแก้ว, โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ จ.เชียงราย และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จ.แพร่ ส่วนในปี 2563 จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์, โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง จ.ราชบุรี และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม จ.นครพนม และในปี 2564 อีกจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา จ.ยะลา, โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จ.อุบลราชธานี และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน จ.สกลนคร

ใต้ร่มพระบารมี : ธ.ออมสินมอบ 100 ล้านบาท สร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.สมเด็จพระยุพราช

People Unity : post 16 พฤษภาคม 2562 เวลา 11.30 น.

รัฐบาลจัดมหรสพสมโภชพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 7 วัน 7 คืน 22-28 พ.ค.ที่ท้องสนามหลวง

People Unity : รัฐบาลจัดมหรสพสมโภช เนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 22 – 28 พ.ค. ณ ท้องสนามหลวง 22 พ.ค. ถ่ายทอดสดพิธีเปิดให้ชมทั่วประเทศ และชมพร้อมกัน 170 ประเทศทั่วโลก จัดแสดงโขน-การแสดงพื้นบ้าน 4 ภาค-นานาชาติ-มหกรรมลูกทุ่งไทย การแสดงแสง สี เสียง-ม่านน้ำ-ไฟประดับนับหมื่นดวง แสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณปกหล้า-ละครเพลงในสวนฝันฯ

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2562 ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ) เป็นประธานแถลงข่าวการจัดมหรสพสมโภช เนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ร่วมกับ นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายวีระ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการจัดมหรสพสมโภช เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ภายใต้คณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมจัดมหรสพสมโภช เนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร ร่วมจัดมหรสพสมโภชขึ้นวันที่ 22 – 28 พ.ค.2562  รวมเวลา 7 วัน  ณ ท้องสนามหลวง และ ณ สถานที่จัดงานส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย โดยวันที่ 18 พ.ค.62 เวลา 18.00 น. ซ้อมการแสดงโขน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และวันที่ 21 พ.ค.2562 เวลา 07.29 น. มีพิธีบวงสรวงการจัดมหรสพสมโภช โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธี ณ ท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ (พระบรมมหาราชวัง) หลังจากนั้นเวลา 18.00 น. ซ้อมการแสดงในพิธีเปิดและซ้อมใหญ่การแสดงโขนเสมือนจริง ณ เวทีกลางท้องสนามหลวง โดยเปิดให้สื่อมวลชนเข้าชม

นายวีระ กล่าวอีกว่า สำหรับพิธีเปิดงานจัดขึ้นในวันที่ 22 พ.ค. เวลา 18.30 น. พร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีการแสดงชุดต่างๆ เช่น รำถวายพระพร “อาศิรวาททวยราษฎร์น้อมจอมราชัน” การแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ ชุด “พระบารมีมิ่งฟ้ารามาวตาร” จำนวน 3 ตอน ได้แก่ ตอน “สถลมาศเฉลิมราชจักรี” โดยมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง ตอน “เล่ห์อสุรีเมืองลงกา” โดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และตอน “บรมราชาภิเษกพระราม” โดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ โดยถ่ายทอดสดพิธีเปิดผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 9  MCOT HD สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(NBT) และสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม (TGN) 170 ประเทศทั่วโลก

ทั้งนี้ เวทีการจัดการแสดงในมหรสพสมโภช แบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย เวทีกลาง ณ ท้องสนามหลวง แสดงตั้งแต่เวลา 18.30–21.30 น. ตลอด 7 วัน  มีการแสดงที่น่าสนใจ อาทิ โขน ชุด  “พระบารมีมิ่งฟ้ารามาวตาร” การละเล่นของหลวงมหาดุริยางค์สากลรวมใจภักดิ์ ชุด “ทศมราชันขวัญหล้า” (ดนตรีสากล) มหาดุริยางค์ไทยแห่งรัตนโกสินทร์ (ดนตรีไทย) มหกรรม “ลูกทุ่งไทยเทิดไท้องค์ราชา” การแสดงละครเพลงในสวนฝัน “ผสานใจภักดิ์ ถวายองค์ราชัน” รับบทโดย สินจัย เปล่งพานิช และมีโป๊ป – ธนวรรธน์ วรรณธนะภูติ  เบลล่า – ราณี แคมเปน  และเบิร์ด – ธงไชย แมคอินไตย์ ร่วมแสดงและขับร้องเพลง กำกับการแสดงโดย สุประวัติ ปัทมสูต ศิลปินแห่งชาติ และวันที่ 27 พ.ค.2562 มีการแสดง “นาฏศิลป์ร่วมสมัยรวมใจภักดิ์” มหกรรมการแสดงนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ โดยมี 10 ประเทศ เข้าร่วม ได้แก่ อินโดนีเซีย เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย  สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ อินเดียและจีน และวันที่ 28 พ.ค.2562 มีขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะจาก 4 ภูมิภาค  มหกรรมกลองมิ่งมงคลและการแสดงพื้นบ้าน 4 ภาค เฉลิมพระเกียรติ

นอกจากนี้ ตลอด 7 วัน ช่วงเวลา 21.30 – 23.00 น. มีการจัดแสดงแสง สี เสียง ม่านน้ำ ไฟประดับ ชุด “แสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณปกหล้า” โดยประดับไฟแอลอีดีสีต่างๆ นับหมื่นดวง ในรูปแบบของสวนดอกไม้และต้นไม้บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร และนำเสนอเรื่องราวความงดงามของเจ้าพระยา สายน้ำแห่งชีวิต และพระมหากรุณาธิคุณที่แผ่ไพศาลไปยังพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศให้มีความสงบสุข ร่มเย็น เป็นฉัตรแก้วของปวงประชา ผ่านเทคนิคม่านน้ำและน้ำพุความยาวกว่า 40 เมตร รวมทั้ง มีกิจกรรมตลาดวัฒนธรรม สาธิตการทำอาหารและขนมไทย

ส่วนที่ 2 เวทีย่อย มี 2 เวที ได้แก่ เวทีฝั่งศาลฎีกา และเวทีฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เริ่มแสดงในเวลา 17.30 -18.30 น. มีการแสดง เช่น หุ่นละครเล็ก โจหลุยส์,โขนสด,กระตั้วแทงเสือ,มหกรรมเพลงพื้นบ้าน ประกอบด้วย ลำตัด เพลงฉ่อย อีแซว เพลงทรงเครื่อง,ละครชาตรี,โขนโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตรโขนมูลนิธิคึกฤทธิ์,โขนโรงเรียนอำนวยวิทย์,หนังใหญ่วัดขนอน,หนังตะลุง (ภาคใต้),หุ่นสายเสมา

ขณะที่ในส่วนภูมิภาค วธ.โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จัดมหรสพสมโภช พร้อมกันทั่วประเทศ วันที่ 22 พ.ค. เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป ณ พื้นที่จัดงานทุกจังหวัด ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียด สายด่วนวัฒนธรรม โทร.1765 และ www.m-culture.go.th

ใต้ร่มพระบารมี : รัฐบาลจัดมหรสพสมโภชพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 7 วัน 7 คืน 22-28 พ.ค.ที่ท้องสนามหลวง

People Unity : post 14 พฤษภาคม 2562 เวลา 11.30 น.

“บิ๊กตู่” ปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทาน ต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10 ต้นปฐมฤกษ์ ที่ทำเนียบ

People Unity : พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562

วันนี้ (17 เมษายน 2562) เวลา 08.30 น. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ บริเวณสนามหญ้าหน้า  ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานวโรกาสให้นายกรัฐมนตรีนำผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เข้ารับพระราชทานต้นไม้มงคล เพื่อเชิญไปปลูกเป็นปฐมฤกษ์ บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้โครงการ “1 จังหวัด 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 โดยแต่ละจังหวัดรวมทั้งกรุงเทพมหานคร จะเลือกถนนที่มีความสำคัญหรือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด เพื่อดำเนินการปลูกต้นไม้ ให้ร่มรื่นสวยงามตลอดสองข้างทาง ปรับภูมิทัศน์ถนนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงามและปลอดภัย ทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ

พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวรายงานใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานต้นรวงผึ้ง อันเป็นต้นไม้มงคลประจำรัชกาล อีกทั้งต้นไม้ยังเป็นสัญญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ และแผ่กิ่งก้านสาขาให้ความร่มเย็นเฉกเช่นเดียวกับพระบารมีแผ่ไพศาลแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะทรงปกปักษ์รักษาอาณาประชาราษฎร์ ให้ได้รับความผาสุกร่มเย็นทั่วกัน”

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานปลูกต้นรวงผึ้ง ปฐมฤกษ์ ณ บริเวณสนามหญ้าด้านหน้า ตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีป้ายประกอบข้อความว่า  ต้นรวงผึ้ง ต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่นายกรัฐมนตรี ในโครงการ “1 จังหวัด 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ปลูกโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วันพุธที่ 17 เมษายน 2562

ใต้ร่มพระบารมี : “บิ๊กตู่” ปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทาน ต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10 ต้นปฐมฤกษ์ ที่ทำเนียบ

People Unity : post 17 เมษายน 2562 เวลา 11.30 น.

Verified by ExactMetrics