วันที่ 27 กรกฎาคม 2024

ธปท.ออกใช้ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 20 มิถุนายน 2567 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกใช้ธนบัตร 100 บาท เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยจัดทำทั้งสิ้น 10 ล้านฉบับ ประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อขอแลกธนบัตรที่ระลึกนี้ได้ที่ธนาคารตั้งแต่ 23 ก.ค.นี้

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดทำธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตลอดจนให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสแลกธนบัตรไว้เป็นที่ระลึก และมีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดี

ธปท.จัดทำธนบัตรที่ระลึกในชนิดราคา 100 บาท จำนวนทั้งสิ้น 10 ล้านฉบับ โดยธนบัตรได้รับการออกแบบเป็นแนวตั้ง เพื่อให้พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีความโดดเด่น งดงาม มีความพิเศษแตกต่างจากธนบัตรหมุนเวียนทั่วไปซึ่งตัวธนบัตรมีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ ภาพดอกรวงผึ้ง ดอกไม้ประจำพระองค์ ภาพพญานาคแสดงถึงปีนักษัตรปีมะโรง ปีพระบรมราชสมภพ ภาพดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติไทยและได้จัดพิมพ์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง บนวัสดุพอลิเมอร์ เพื่อให้มีความทนทาน รวมทั้งมีลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงอย่างครบถ้วน

ธนบัตรที่ระลึกนี้สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยจ่ายแลกในราคาฉบับละ 100 บาท พร้อมกันนี้ ธปท. ได้จัดทำแผ่นพับสำหรับธนบัตรที่ระลึกดังกล่าว จำนวน 2 ล้านชุด เพื่อจำหน่ายในราคาชุดละ 10 บาท โดยรายได้จากการจำหน่ายแผ่นพับทั้งหมด จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจ สามารถติดต่อขอแลกธนบัตรที่ระลึกนี้ได้ที่ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และที่ศูนย์การเรียนรู้ ธปท. ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป

Advertisment

นายกฯ เปิด “โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 14 มิถุนายน 2567 นายกฯ เปิด “โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” รวมพลังจิตอาสาทุกภาคส่วน ร่วมปลูกป่า บำรุงรักษาต้นไม้

วันนี้ (14 มิ.ย. 67) เวลา 13.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิด “โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” โดยมี พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนเหล่าทัพ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกรัฐมนตรีถวายความเคารพ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายกฯ และผู้เข้าร่วมพิธี รับชมวีดิทัศน์ “โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ต่อจากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานการดำเนินโครงการฯ

โอกาสนี้ นายกฯ กล่าวว่ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเปิดโครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาลจัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยรวมพลังจิตอาสาทุกภาคส่วนในการร่วมกันปลูกป่าและบำรุงรักษาต้นไม้ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ธรรมชาติ คืนอากาศสะอาดให้กับประชาชน โดยตั้งเป้าหมายในการปลูกป่าทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 72 ล้านต้น โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลักในการรับลงทะเบียน จัดหาพันธุ์กล้าไม้ และรวบรวมข้อมูลการปลูกต้นไม้ของทุกหน่วยงาน องค์กร กลุ่มบุคคล เพื่อใช้ประกอบการดูแลรักษาต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เป็น 1 ใน 10 โครงการที่ดำเนินการในนามของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังมีโครงการของภาคส่วนต่าง ๆ ที่ร่วมจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้หน่วยงานทุกภาคส่วนได้ร่วมทำกิจกรรมในวาระสำคัญกับพี่น้องประชาชน จึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและพี่น้องประชาชนร่วมกันแสดงออกถึงพลังแห่งความจงรักภักดี และความสามัคคีของปวงชนชาวไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล รวมทั้งเพื่อร่วมกันสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการพัฒนางานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ให้มีความยั่งยืนสืบไป

ต่อจากนั้น นายกฯ ได้มอบต้นกล้า “ต้นรวงผึ้ง” จำนวน 26 ต้น ให้แก่ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวง ผู้แทนเหล่าทัพและกรุงเทพมหานคร แล้วเยี่ยมชมบูธนิทรรศการฯ พร้อมถ่ายรูปร่วมกับคณะผู้บริหาร

“การจัดทำโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นการฟื้นฟูและรักษาสภาพป่าต้นน้ำ รวมถึงการคืนสภาพโครงสร้างของระบบนิเวศให้กับผืนป่าทั่วประเทศ โดยรวมพลังจิตอาสาของทุกภาคส่วนในการร่วมกันปลูกป่าและบำรุงรักษาต้นไม้ เพื่อคืนธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ อันเป็นการถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

Advertisement

นายกฯติดตามความก้าวหน้า โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โครงการ 10 คลองสวยน้ำใสคนไทยมีสุข

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 13 มิถุนายน 2567 ​นายกฯ ตรวจติดตามความก้าวหน้า โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโครงการ 10 คลองสวยน้ำใสคนไทยมีสุข ชื่นชมการปรับปรุงคลอง ฝาก กทม. ชูไฮไลท์และจัดกิจกรรมเด่น ๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยว

วันนี้ (13 มิถุนายน 2567) เวลา 09.30 น. ณ สวนสาธารณะป้อมมหากาฬ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในโครงการ 10 คลองสวยน้ำใสคนไทยมีสุข “คลองรอบกรุง (คลองโอ่งอ่าง-บางลำพู)” โดยมีนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมลงเรือที่ป้อมมหากาฬ ไปถึงท่าเรือสะพานหัน คลองโอ่งอ่าง นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

ระหว่างลงเรือ นายกฯ รับฟังบรรยายโครงการพัฒนาคลองรอบกรุงตั้งแต่คลองโอ่งอ่างถึงคลองบางลำพู โดยสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร จากนั้น นายกฯ ขึ้นเรือที่บริเวณสะพานหัน คลองโอ่งอ่าง พร้อมกับเยี่ยมชมร้านค้าที่ตั้งอยู่ริมคลองโอ่งอ่าง โดยนายกฯ พอใจกับการพัฒนาโครงการคลองโอ่งอ่าง ทำให้คนในพื้นที่มีอาชีพ และชื่นชมการปรับปรุงคลองโอ่งอ่างว่ามีบรรยากาศที่ดี สวยงาม สะอาดเป็นระเบียบ และน่าท่องเที่ยว พร้อมฝากกรุงเทพมหานครให้ดึงไฮไลท์และกิจกรรมเด่น ๆ มาประชาสัมพันธ์ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว  รวมถึงโปรโมทคลองโอ่งอ่างสู่สายตานักท่องเที่ยวต่างประเทศทั่วโลก ขณะที่ประชาชนในชุมชนได้ขอให้นายกฯ และ กทม. รักษาความสะอาดเป็นระเบียบแบบนี้ตลอดไป

จากนั้น นายกฯ นั่งเรือต่อที่ท่าสะพานหันไปยังท่าเทียบเรือพิพิธภัณฑ์บางลำพู ริมคลองบางลำพู เขตพระนคร พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บางลำพู โดยมีมัคคุเทศก์น้อยนำเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บางลำพู ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้จัดเตรียมและมอบของที่ระลึกเป็นผลิตภัณฑ์ปักชุดโขนชุดละครของชุมชนตรอกเขียนนิวาสน์ – ไก่แจ้ และแผนที่ท่องเที่ยวบางลำพูฉบับพกพาให้นายกฯ  จากนั้น นายกฯ ได้ชม concept ของพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นหน้าต่าง ที่เห็นทัศนียภาพจากป้อมมหากาฬสู่ป้อมพระสุเมรุ และฟังเกร็ดความรู้และเรื่องราวจากมัคคุเทศก์เด็กบางลำพู

เสร็จแล้ว นายกฯ เดินทางไปตรวจติดตามความก้าวหน้าการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคและความก้าวหน้าในการประดับตกแต่งเรือพระที่นั่ง ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานครต่อไป

Advertisement

รัฐบาลเร่งรัดประชาสัมพันธ์ โครงการกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 10 มิถุนายน 2567 คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เร่งรัดความคืบหน้าและขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมเฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดี

วันนี้ (10 มิถุนายน 2567) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ในโครงการกิจกรรมสำคัญของรัฐบาล ที่จัดทำเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติและความผาสุกร่มเย็นของอาณาประชาราษฎร์ รวมทั้งเชิญชวนประชาชนมีส่วนร่วมในโครงการกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโครงการสำคัญ ๑๐ โครงการของรัฐบาล ที่น้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบาย เกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้อยู่ดีมีสุข มีดังนี้

  1. โครงการยกระดับสวนสาธารณะบึงหนองบอน และ Pocket Park 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติฯ
  2. โครงการ ๗๒ ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติฯ
  3. โครงการแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ๗๒ แห่ง เฉลิมพระเกียรติฯ
  4. โครงการ “๑๐ คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข” เฉลิมพระเกียรติฯ
  5. โครงการพัฒนา ๗๒ สายน้ำอย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติฯ
  6. โครงการยกระดับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลชัยพัฒน์ และหน่วยบริการปฐมภูมิ ๗๒ แห่ง เฉลิมพระเกียรติฯ
  7. โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติฯ
  8. โครงการบริจาคโลหิต ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ CC เฉลิมพระเกียรติฯ
  9. โครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ ๗๒,๐๐๐ ชุด เฉลิมพระเกียรติฯ
  10. โครงการ “หลอมรวมใจ มอบน้ำใสให้โรงเรียน” เฉลิมพระเกียรติฯ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี  ให้ความสำคัญกับทุกกิจกรรมและทุกโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ โดยตลอดเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 2567  กำหนดลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าทั้ง ๑๐ โครงการ ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนมาก เมื่อแล้วเสร็จ จะเป็นโครงการที่สร้างความสุขและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน อันเป็นสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระราชประสงค์ให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนสืบไป พร้อมนี้ขอเชิญชวนประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ได้ที่ Website : http://www.phralan.in.th/

Advertisement

ครม. เตรียมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา นายกฯกำชับทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์โครงการเฉลิมพระเกียรติ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 28 พฤษภาคม 2567 นายก ฯ เผย ครม. เตรียมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ 4 ก.ค.นี้ กำชับทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์โครงการเฉลิมพระเกียรติ

วันนี้ (28 พฤษภาคม 2567) เวลา 11.30 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์โครงการเฉลิมพระเกียรติ 72  พรรษา  จำนวน  10 โครงการของรัฐบาลที่ได้แถลงไปแล้วเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รวมทั้งประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน และเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามที่กำหนด โดยตนเองจะลงไปตรวจสอบพื้นที่โครงการด้วยตนเอง และในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ตนเองและ ครม.จะไปปลูกต้นไม้เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ที่โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์เฉลิมพระเกียรติ บนพื้นที่ถนนกำแพงเพชร 6 แนวขนานคลองเปรมประชากรโดยพร้อมเพรียงกัน

Advertisment

รัฐบาลเดินหน้าจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 25 พฤษภาคม 2567 รัฐบาล เดินหน้าจัดโครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินหน้าเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาวิกฤตของสังคม ปัญหาโครงสร้างประชากร เตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

นายคารม กล่าวว่า กรมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.)  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดโครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยการจัดหากายอุปกรณ์ เช่น วีลแชร์ ขาเทียม เท้าเทียม ไม้เท้าต่าง ๆ จำนวน 72,000 ชุด ให้กับคนพิการผ่านกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานข้อมูลคนพิการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวบรามข้อมูลคนพิการ แล้วส่งเรื่องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดก่อนที่จะส่งมายังส่วนกลาง

“จากที่นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ได้ต่อยอดแนวทางตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์แห่งพระราชา และองค์ความรู้ต่าง ๆ นำมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมในแต่ละส่วนราชการ โดยกระทรวง พม. ได้มีแนวคิดที่จะให้นิคมสร้างตนเอง 43 แห่งทั่วประเทศสังกัดกระทรวง พม. โดยจะจำลองบางส่วนของศูนย์ฯ มาใช้เพื่อขยายต่อยอดแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์แห่งพระราชา  เพื่อให้พี่น้องประชาชนเข้าใจอย่างถ่องแท้ และขยายต่อจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป” นายคารม ระบุ

Advertisment

นายกฯ kick off เปิดโครงการ “ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม” ที่นครราชสีมา

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 16 พฤษภาคม 2567 นายกฯ เปิดโครงการร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า วานนี้ (15 พ.ค. 67) เวลา 13.35 น. ณ ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมด้วย

น.ส.เกณิกา กล่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริกและบริเวณพิธี ได้ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดกรวยวางพานพุ่ม และนำกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 วงโยธวาทิตทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้น ได้รับชมวีดิทัศน์ “พระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด อนุรักษ์ทรัพยากรเพื่อแผ่นดินไทย” และการแสดงขับร้องเพลงประสานเสียงชุดชีวิตสัมพันธ์ของผู้ต้องขัง จากทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก เรือนจำกลางคลองไผ่ ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง และทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา รวม 72 คน รวมทั้งรับฟังรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์การจัดโครงการ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

โอกาสนี้ นายกฯ กล่าวเปิดโครงการฯ ว่า ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง รัฐบาลจึงเห็นสมควรดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยมอบหมายให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินมาตรการรักษาความสะอาดในพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ในความรับผิดชอบให้ทั่วถึงและต่อเนื่อง รวมถึงมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำผู้ที่ก้าวพลาด ที่กระทรวงยุติธรรมพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม อาทิ การปลูกป่า การขุดลอกคูคลอง การลอกท่อระบายน้ำ เก็บขยะพื้นที่ชายฝั่งทะเล โดยมุ่งหวังให้กลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์ และผู้ก้าวพลาดที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ได้แสดงพลังในการทำความดี ในลักษณะที่เป็นงานบริการสาธารณะ เพื่อชดเชยความเสียหายที่เคยกระทำ กลับคืนสู่สังคม เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

นายกฯ กล่าวต่อว่า กระทรวงยุติธรรมได้นำพลังของผู้ที่ก้าวพลาด ร่วมทำความดีด้วยการรักษาฟื้นฟูและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งมีกระทรวงมหาดไทยมาสนับสนุนการจัดกิจกรรมภายใต้โครงการร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งวันนี้ถือเป็นการ Kick off โครงการและทำพร้อมกันทั่วประเทศ นอกจากการดำเนินกิจกรรมข้างต้นแล้ว ยังได้มีการต่อยอดโดยจะมีการอบรมให้ความรู้กับผู้ที่ก้าวพลาด ที่กระทรวงยุติธรรมดูแลในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการสร้างเรือนจำหรือหน่วยงานยุติธรรมสีเขียว Green Justice เพิ่มเติม ถือเป็นการสร้าง “สีเขียว” ทั้งทางกายภาพและมิติความคิดและจิตใจ ซึ่งขอชื่นชมมา ณ ที่นี้ และขอให้ดำเนินกิจกรรมนี้ตลอดไป

นายกฯ กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน รวมไปถึงผู้ต้องราชทัณฑ์ ผู้ถูกคุมความประพฤติ เด็กและเยาวชนที่ก้าวพลาดทุกคน ที่เข้าร่วมกิจกรรม ณ สถานที่แห่งนี้และทั่วประเทศ ที่ร่วมใจรวมพลังกันทำกิจกรรมอันมีคุณูปการต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และขอให้การดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้บรรลุผลสำเร็จทุกประการ

จากนั้นนายกฯ เติมสีเขียวทั่วแผ่นดินในแผนที่ประเทศไทยจำลอง พร้อมมอบสัญลักษณ์การขับเคลื่อนโครงการ “ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม” ให้กับปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมกับมอบใบประกาศยกย่องคนต้นแบบที่ผ่านการอบรม โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและบุคคลจิตอาสาอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 10 ราย

ต่อจากนั้น นายกฯ kick off ปล่อยแถวผู้เข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ “ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม” (ผ่านหน้าจอ) พร้อมกันทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น 1) การปล่อยแถวผู้ต้องขัง ผู้ถูกคุมประพฤติ และเด็กสถานพินิจฯ ถือพันธุ์กล้าไม้เตรียมปลูกและขึ้นรถไปยังพื้นที่บริเวณปลูกป่า 100 ไร่ 2) การปล่อยแถวผู้ร่วมกิจกรรม 5 พื้นที่ภูมิภาค (ผ่านหน้าจอ) ได้แก่ ภาคเหนือ จ.น่าน (อุทยานแห่งชาติศรีน่าน) กิจกรรมปลูกต้นไม้เขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร (เรือนจำกลางคลองเปรม) กิจกรรมขุดลอกท่อระบายน้ำทั่วกรุงเทพมหานคร ภาคใต้ จ.สงขลา กิจกรรมพัฒนาแหล่งน้ำ (คลองระบายน้ำ ร.5 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่) 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ปัตตานี (หาดตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง) กิจกรรมรับมอบพันธุ์กล้าไม้ และเก็บขยะชายฝั่ง และภาคตะวันออก จ.ระยอง (เรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว) กิจกรรมอบรมความรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับเรือนจำที่เหลือ 71 จังหวัด ทำพิธีรับมอบพันธุ์กล้าไม้พร้อมกันในวันนี้ (15 พ.ค. 2567) ด้วย ทั้งนี้ นายกฯ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ (ต้นรวงผึ้ง) ก่อนเดินทางกลับ

Advertisement

นายกฯแถลงจัด 10 โครงการสำคัญ เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 9 พฤษภาคม 2567 ทำเนียบรัฐบาล – นายกฯ แถลงรัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 ก.ค.นี้ เลือก 10 โครงการสำคัญพัฒนาคุณภาพชีวิต ปชช.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6  รอบ  28  กรกฎาคม 2567 ว่า ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ  6 รอบ หรือ 72 พรรษาในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ รัฐบาลจึงเห็นสมควรดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติทุกประการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานจะมีทั้งงานพระราชพิธี งานพิธีการ โครงการและกิจกรรม ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดทำโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนเพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้อยู่ดีมีสุข ซึ่งจะมุ่งเน้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด ขณะนี้มีหน่วยงานภาครัฐ เอกชนเสนอโครงการและกิจกรรมเข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลได้เลือกโครงการขนาดใหญ่จากที่เสนอในการประชุมวันนี้ ให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในนามรัฐบาล จำนวน 10 โครงการ โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ รับไปดำเนินการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับโครงการเฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วย โครงการที่ 1 โครงการยกระดับสวนสาธารณะบึงหนองบอน และ Pocket Parks 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบครบวงจร ให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยจะพัฒนาสวนสาธารณะขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ สวนหลวง ร.9 ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ และสวนสาธารณะบึงหนองบอน ให้เป็นสวนสาธารณะระดับมหานครที่มีพื้นที่รวมกันกว่า 1,144 ไร่ โดยจะจัดให้เป็นสถานที่เล่นกีฬา ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ และทำกิจกรรมต่าง ๆ แบบครบวงจร เพียบพร้อมด้วยอาคารสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนภูมิทัศน์ที่สวยงาม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 2 โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  เพื่อเป็นการฟื้นฟูและรักษาสภาพป่าต้นน้ำ รวมถึงการคืนสภาพโครงสร้างของระบบนิเวศให้กับผืนป่าทั่วประเทศ รัฐบาลจึงจัดทำโครงการเพื่อรวมพลังจิตอาสาของทุกภาคส่วนในการร่วมกันปลูกป่า และบำรุงรักษาต้นไม้ เพื่อคืนธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ คืนอากาศสะอาดให้กับประชาชน โดยตั้งเป้าหมายในการปลูกป่าทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 72 ล้านต้น ทั้งนี้ ได้มอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักในการรับลงทะเบียน จัดหาพันธุ์กล้าไม้ และรวบรวมข้อมูลการปลูกต้นไม้ของทุกหน่วยงาน องค์กร หรือกลุ่มบุคคล เพื่อใช้ประกอบในการ

“โครงการที่ 3 โครงการแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปี รวมถึงเพื่อเป็นการขยายผลต่อยอด จากโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากเดิมที่ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 47 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ 25  จังหวัด   รัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงขยายขอบเขตการดำเนินโครงการเพิ่มเติม จำนวน 25  แห่ง รวมเป็น 72  แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะพิจารณาพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำ ไม่มีศักยภาพในการเจาะบ่อน้ำบาดาล จำเป็นต้องทำการเจาะบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ พร้อมกับก่อสร้างระบบประปาบาดาลในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเพื่อช่วยเหลือราษฎรไม่ให้เดือดร้อน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 4 โครงการ “10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการสืบสาน และขยายผลต่อยอดพระบรมราโชบายในการพัฒนาแม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ตลอดจนเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านต่าง ๆ รวมถึงสร้างความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมือง เช่น โครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร และพัฒนาคลองแม่ข่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำโครงการพัฒนาแม่น้ำ คู คลองทั่วประเทศ โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน  ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการตั้งแต่ขุดลอกคู คลอง ปรับภูมิทัศน์ และทัศนียภาพ รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนตลอดสองฝั่งคลอง ได้แก่ การจัดระเบียบที่อยู่อาศัยใหม่ ความสะอาดของทางเดิน และถนน การกำจัดขยะ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และระบบการระบายน้ำ โดยจะดำเนินการนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่น ๆ รวม 10 แห่ง

“โครงการที่ 5  โครงการพัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ด้วยรัฐบาลเล็งเห็นว่า น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภค และบริโภคของประชาชน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการขุดลอกคลองและอ่างเก็บน้ำ จำนวนทั้งสิ้น 72 แห่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเก็บกักน้ำให้สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงและสามารถบริหารจัดการน้ำรวมถึงแก้ปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 6 โครงการยกระดับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลชัยพัฒน์ และหน่วยบริการปฐมภูมิ 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพการให้บริการและการเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุขลดความแออัด ลดระยะในการรอคอยการเข้ารับการบริการของประชาชน รวมถึงมีสถานที่ที่เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน

“รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขยกระดับการขยายบริการทางการแพทย์ และขยายศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีความซ้ำซ้อน และลดการส่งต่อผู้ป่วย โดยจะดำเนินการทั้งสิ้น 72 แห่ง แบ่งเป็น 1. การยกระดับคุณภาพการบริการของโรงพยาบาล 36 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฯ  21 แห่ง โรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 11 แห่ง โรงพยาบาลชัยพัฒน์ 4 แห่ง 2. การยกระดับการเข้าถึงบริการของประชาชน โดยเป็นการจัดสร้างชุดอาคารศูนย์สุขภาพชุมชน 36 แห่ง ทั่วประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 7 โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ช่วยเหลือและให้โอกาสแก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาสรวมถึงผู้พิการหรือทุพพลภาพในการที่จะได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน อันได้แก่ ที่พักอาศัย หรือที่ดินทำกิน สำหรับการประกอบอาชีพเพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมจึงได้เสนอการดำเนินการ 2 กิจกรรม ได้แก่ การจัดหาที่ดินที่เป็นพื้นที่ของเหล่าทัพทั่วประเทศ รวมจำนวน 72,000 ไร่ สำหรับจัดสรรให้กับประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการเป็นที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัย รวมถึงได้รับเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน การปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักอาศัยสำหรับคนพิการ จำนวน 720 หลัง และผู้ด้อยโอกาส จำนวน 720 หลัง

“โครงการที่ 8 โครงการบริจาคโลหิต 10,000,000 CC เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดี และทำประโยชน์ในการช่วยเหลือต่อชีวิตและลมหายใจให้กับผู้อื่น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในการนี้ รัฐบาล จึงได้จัดทำโครงการเพื่อเป็นการรวมพลังจิตอาสาทั่วประเทศจากทุกภาคส่วนในการบริจาคโลหิต โดยมีเป้าหมายในการรับบริจาคครั้งนี้ จำนวน 10 ล้าน CC เพื่อมอบให้แก่สภากาชาดไทยสำหรับใช้เป็นโลหิตสำรองให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 9 โครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย หรือผู้มีแนวโน้มจะเป็นคนพิการที่มีรายได้น้อยที่ประสบความเดือดร้อน เข้าไม่ถึงสิทธิและสวัสดิการ ให้กลับมาใช้ชีวิตประจำวัน เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมได้อย่างเท่าเทียม และดำรงชีวิตด้วยตนเองได้อย่างอิสระ กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ จะจัดหากายอุปกรณ์ และเครื่องช่วยความพิการ สำหรับช่วยเหลือคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกายดังกล่าว ที่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับอุปกรณ์สำหรับช่วยความพิการที่มีความเหมาะสมต่อสภาพความพิการของแต่ละบุคคลทั่วประเทศจำนวน 72,000 ชุด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 10 โครงการ “หลอมรวมใจ มอบน้ำใสสะอาดให้โรงเรียน” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้เด็กนักเรียนได้มีน้ำสะอาดอุปโภคบริโภค รวมถึงส่งเสริมสุขภาวะที่ดี รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการ โดยบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องปรับปรุงคุณภาพน้ำประปาในโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งต้องตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพน้ำทั้งด้านกายภาพ เคมี และแบคทีเรีย ตามวิธีการมาตรฐานที่ได้รับการรับรองเพื่อให้เหมาะกับการอุปโภคและบริโภคต่อไป

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  ผมจะลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการในนามรัฐบาลทั้ง 10 โครงการรวมทั้งโครงการอื่น ๆ ที่เข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติ โดยจะร่วมทำกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน องค์กร มูลนิธิ และภาคเอกชนต่าง ๆ ได้ร่วมกันแสดงถึงพลังแห่งความจงรักภักดี  และความสามัคคีของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งนี้ เพราะโครงการต่าง ๆ จะสำเร็จลงได้ด้วยการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน ภาคเอกชนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนเพื่อให้การดำเนินโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ ให้พี่น้องประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของพวกเราชาวไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

ชวนชม “ดนตรีในสวน เฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.10”

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 26 เมษายน 2567 ทำเนียบ – รมต.พวงเพ็ชร ชวนชม “ดนตรีในสวน เฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.10” ที่สวนรถไฟ 28 เม.ย.นี้

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกวันที่ 28 เมษายน ของทุกเดือน ตลอดปี พ.ศ.2567 คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมดนตรีในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยความร่วมมือของกรมประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร รวมถึงเหล่าศิลปิน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมรับฟังบทเพลงอันไพเราะและทรงคุณค่า เช่น เพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และบทเพลงทั่วไป ในบรรยากาศสวนสวยใจกลางกรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดปีมหามงคล และเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ

โดยในวันที่ 28 เมษายน 2567 กิจกรรมดนตรีในสวน มีกำหนดจัดขึ้น ณ สวนวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ ประชาชนสามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป นอกจากบทเพลงจากวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์แล้ว ยังมีกลุ่มศิลปินนำโดย คุณโฉมฉาย อรุณฉาน และศิลปินรุ่นใหม่ จากการประกวดในรายการเพลงเอกร่วมขับร้องบทเพลงอันไพเราะ เช่น ธัช กิตติธัช แชมป์รายการเพลงเอกซีซัน 1 แบ๊งค์ เฉลิมรัฐ จุลโลบล แชมป์รายการเพลงเอกซีซัน 2 เซม ภานุรุจ พงพิทักษ์กุล แชมป์รายการเพลงเอกซีซัน 3 และ โอ๋ ชุติมา แก้วเนียม ผู้ร่วมประกวดรายการเพลงเอกซีซัน 2

“ในปีมหามงคลนี้ ขอเชิญชวนประชาชนคนไทย ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ โดยเข้าร่วมกิจกรรมที่รัฐบาล ภาคเอกชน และประชาชนทั่วประเทศ พร้อมใจจัดขึ้นตลอดทั้งปี สำหรับการจัดกิจกรรมดนตรี นับเป็น Soft Power สาขาหนึ่ง จาก 11 สาขา ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และเป็นสื่อกลางที่สร้างความสามัคคีกลมเกลียวของคนในชาติ ช่วยส่งเสริมความรัก ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทำให้ประเทศไทยเกิดความสงบสุขภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์“ นางพวงเพ็ชร กล่าว

Advertisement

ชวน “สวดมนต์ทุกเย็นวันจันทร์” ตลอดปีมหามงคล

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 25 มีนาคม 2567 “พวงเพ็ชร” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ชวน “สวดมนต์ทุกเย็นวันจันทร์” ตลอดปีมหามงคล ถวายเป็นพระราชกุศลในหลวง ร.10

พระธรรมวัชรบัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีคณะสงฆ์ คณะผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และประชาชนทั่วไป พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลืองเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

ตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 7/2567 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ได้เห็นชอบให้มีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนาถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลให้กับพระองค์ท่าน และเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน โดยให้ทุกวัดในราชอาณาจักรและวัดไทยในต่างประเทศ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาหลังทำวัตรเย็นทุกวันจันทร์ ตลอดปี 2567 และให้ใช้ฉันท์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เป็นบทสวดในการเจริญพระพุทธมนต์ด้วยทุกครั้ง พร้อมเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมพิธีสวมใส่เสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระองค์ท่าน

ดร.พวงเพ็ชร กล่าวว่า ตลอดปี 2567 ถือเป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทย ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ 6 รอบ รัฐบาลพร้อมด้วยภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการเฉลิมพระชนมพรรษาอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ ซึ่งในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เสนอให้มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน โดยได้รับความเมตตาจากมหาเถรสมาคมให้มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ทุกเย็นวันจันทร์ตลอดทั้งปี จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมกิจกรรมดังกล่าวที่วัดใกล้บ้าน และพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีในสถาบันกษัตริย์

Advertisement

Verified by ExactMetrics