วันที่ 15 พฤษภาคม 2024

“AI กับพุทธธรรม” วิจัยสุดทันสมัย! คณาจารย์ “ม.สงฆ์ มมร”ทำ

People Unity :  “AI กับพุทธธรรม” วิจัยสุดทันสมัย! คณาจารย์ “ม.สงฆ์ มมร”ทำ “อุทิส ศิริวรรณ”เผย “พระพุทธเจ้าเป็นนักทรัพยากรมนุษย์ที่ทันสมัย”

วันที่ 20 ต.ค.2562 ศ.ดร.อุทิส ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพุทธศาสนา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว” Uthit Siriwan” ความว่า “ประเด็นวิจัยทันสมัย AI กับพุทธธรรม? โดยคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร) ตลอดสัปดาห์ผมใช้เวลาค่อนข้างมากค้นคว้าและอ่าน “งานวิจัยทันสมัย” AI เป็นต้น เพื่อตอบ “ประเด็น” ที่คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธร สมุทรสาคร ทั้ง 3 ท่าน ช่วยกันทำวิจัย

งานวิจัยชุดโครงการนี้น่าสนใจ เพราะประเด็นวิจัยที่ตั้งขึ้นยกตัวอย่าง “ทฤษฎี 3 สมดุล (สมดุลผลิต สมดุลบริโภค สมดุลผลประโยชน์) ที่ส่งเสริมให้เกิดการสนับสนุนกันระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค” ข้อคำถามคือ “การสร้างและใช้งานหุ่นยนต์ของผู้ผลิตย่อมมีจุดมุ่งหมายอย่างเดียว คือ สนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพของผู้บริโภค” ประเด็นที่ผมต้องตอบคือ ท่านเห็นด้วย หรือมีข้อโต้แย้ง หรือมีข้อสนับสนุนต่อประเด็นเหล่านี้หรือไม่อย่างไร

ยกตัวอย่างคำถามวิจัย เป็นต้นว่า… 1) ในแผนประเทศไทย 4.0 ที่ยึดโยงอยู่กับระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมที่เห็นว่าแรงงานมนุษย์เป็นต้นทุนในการผลิตอย่างหนึ่ง การบริหารจัดการกิจการให้ได้กำไรมากที่สุดวิธีการหนึ่ง ก็คือ การลดต้นทุนการผลิตและบริหารจัดการ การจ้างงานมนุษย์ก็อยู่ในขอบเขตนี้ด้วย 2) เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ยิ่งก้าวหน้ามากขึ้นเท่าใด ก็จะทำให้ผู้ประกอบการใช้หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ แทนแรงงานมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น รออีกสัก 1 ปี คงได้คำตอบจาก “ผู้ทรงคุณวุฒิ” ที่หลากหลายวงการ ผมเองก็มี “ประเด็น” ที่จะอภิปราย….

ผมคิดอะไร? คิดว่าโลกในยุคเปลี่ยนผ่านพุทธศาสนาใช้ “ตอบ” โจทย์วิจัยประเด็นปัญหาชาวโลกในยุคดิจิทัลได้เพราะจะว่าไปแล้ว “พระพุทธเจ้า” เน้นให้ใช้แรงงานคนน้อย แต่ทำแล้วได้ผลงานมากอยู่แล้ว ยกตัวอย่างให้พระจาริกไปรูปเดียว และให้ใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า โดยเฉพาะเพื่อ “ประโยชน์” “เกื้อกูล” และ “ความสุข” บอกตรง ผมว่า “พระพุทธเจ้า” เป็น “นักทรัพยากรมนุษย์” ที่ทันสมัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.ดร.อุทิส ศิริวรรณได้ติดตามพัฒนาการของเทคโนโลยีขึ้นสูงและแสดงความเห็นที่สัมพันธ์กับพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นให้คณะสงฆ์เห็นความสำคัญ อย่างเช่นได้นำเสนอล่าสุดเรื่อง “การศึกษา’อุทิส ศิริวรรณ’นักวิชาการด้านพุทธศาสนา แนะใช้ ‘AI-IoT’ต่อยอดบาลีพุทธศาสตร์ศึกษาระดับป.เอก https://www.banmuang.co.th/news/education/163540)

“อนุทิน” ตีกัน! “กมธ.วิสามัญ” พิจารณางบฯปี63 อย่าเห็นแก่พวกพ้องตัวเอง

People Unity : “ภท.”ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมผ่านวาระแรกงบฯปี 63 “เศรษฐพงค์” เผย “อนุทิน” กำชับ “รมต.-ส.ส.” อยู่ฟังอภิปรายตลอด พร้อมให้อภิปรายเพื่อแก้ปัญหาให้ปชช. ระบุ พิจารณาวาระ2-3 ต้องรอบคอบ ทำงบเพื่อปชช. ไม่ใช่เพื่อพวกพ้องตัวเอง

วันที่ 20 ต.ค.2562 พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี การอภิปรายถือว่าราบรื่น การปะท้วงน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ โดยในส่วนของพรรคภูมิใจไทยต้องขอขอบคุณ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันทำให้การพิจารณาผ่านวาระแรกไปได้ด้วยดี ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้กำชับให้รัฐมนตรีและส.ส.ทุกคน ติดตามการประชุม และอภิปราย ชี้แจง อย่างใกล้ชิด โดยให้อภิปรายอยู่บนพื้นฐานเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เน้นอภิปรายเพื่อถ่ายทอดปัญหาของประชาชน มากกว่าการโจมตีกันทางการเมือง ซึ่งการอภิปรายก็เป็นตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้ประเทศชาติบ้านเมืองพัฒนาต่อไปได้

“การผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรก และก้าวสำคัญในการที่รัฐบาลจะได้มีงบประมาณ เพื่อนำมาดูแลประชาชน นำมาเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป เพราะงบประมาณถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ และที่สำคัญหลังจากนี้ คือการพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ที่จะต้องมีการปรับเพิ่มหรือลดงบประมาณในบางหน่วยงาน โดยขอให้ยึดหลักเพื่อประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ ประโยชน์เพื่อประชาชน เพื่อบ้านเมือง มากกว่าเพื่อพวกพ้อง ดังนั้นการพิจารณาจะต้องทำอย่างรอบคอบที่สุด” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการชี้แจงของรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยนั้น สามารถชี้แจงที่มารวมถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากงบประมาณครั้งนี้ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา โดยเฉพาะนายอนุทิน รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ที่ชี้แจงได้อย่างมีเหตุผล และพร้อมรับฟังการอภิปรายและจดบันทึกคำแนะนำทุกอย่างเพื่อนำไปหาแนวทางแก้ไข เพราะท่านเห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพประชาชนมาเป็นลำดับแรก ที่สำคัญพรรคภูมิใจไทยเข้ามาทำงานเป็นรัฐบาลก็เพื่อต้องการให้ประเทศไทยมีความก้าวหน้า ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ให้คนไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

“เทวัญ”แจงงบฯปี63! หนุน พศ. ลดยกเหตุจำนวนพระเณรลดลง

People Unity : “เทวัญ”แจงงบฯปี63! หนุน พศ. ลดยกเหตุจำนวนพระเณรลดลง ยันยังส่งเสริมให้พระอยู่ดูแลปลูกป่าเช่นเดิม ส่วนงบฯสนันสนุนม.สงฆ์ พศ.ไม่ได้ดูแล

วันที่ 19 ต.ค.2562 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 ในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอภิปรายนายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ที่ระบุลดลงว่า สาเหตุที่ลดมีอยู่หลายปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากการลดลงของพระภิกษุ และสามเณร เนื่องจากปัจจุบันนี้เยาวชนได้หันไปเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมากขึ้น ส่วนงบประมาณสนับสนุนมหาวิทยาลัยสงฆ์นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับ พศ. ประกอบกับปัจจุบันนี้มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งสามารถบริหารจัดการตัวเองได้

“ขณะที่ข้อกังวลเรื่องจะทุบวัดและไล่พระออกจากป่านั้นก็ไม่เป็นความจริง ต่อไปนี้รัฐบาลจะสนับสนุนให้พระเป็นประหนึ่งเจ้าหน้าที่คอยดูแลป่าส่งเสริมการปลูกป่า ดังนั้นรัฐบาลนี้จึงให้การสนับสนุนพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจง

ให้ความสำคัญสภาฯ! “บิ๊กแดง”บินกลับด่วนเข้าแจงกมธ.มั่นคง ปมบรรยายพิเศษ

People Unity : ให้ความสำคัญสภาฯ! “บิ๊กแดง”บินกลับด่วนเข้าแจงกมธ.มั่นคง ปมบรรยายพิเศษ “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง”

วันที่ 21 ต.ค.2562 พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยพลเอกสุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เดินทางเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการกิจการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพลโทพงศกร รอดชมภู เป็นประธาน หลังเสร็จสิ้นภารกิจ ตรวจชายแดนไทย-เมียนมา ที่จังหวัดกาญจนบุรี หลังคณะกรรมธิการฯ มีมติ ให้เชิญผู้บัญชาการทหารบกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายหลังเปิดเวทีบรรยายเรื่อง “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา

พลเอกอภิรัชต์ กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญกับคณะกรรมาธิการฯชุดนี้ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการส่งหนังสือเชิญตนผ่านทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทางรัฐมนตรีญก็ได้พิจารณาและให้กองทัพบกจัดตามความเหมาะสม ซึ่งในวันนี้เมื่อช่วงเช้าตนได้มีภารกิจตรวจเยี่ยมหน่วยทหารชายแดนไทย-เมียนมา และมอบนโยบาย ที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยตามกำหนดการจะเสร็จในช่วงบ่าย แต่ตนได้ยกเลิกภารกิจบางส่วนเพื่อบินกลับมา และได้เปลี่ยนเสื้อผ้าในรถยนต์ ทั้งนี้ยืนยันว่า พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้ความร่วมมือต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลเอกอภิรัชต์ได้มอบหมายให้พลเอกสุนัยเข้าชี้แจงแทน เนื่องจากติดภารกิจ ตรวจชายแดนไทย-เมียนมา ที่จังหวัดกาญจนบุรีในช่วงเช้า แต่พลโทพงศกรไม่อนุญาตให้พลเอกสุนัยชี้แจงเนื่องจากเห็นว่า การบรรยายดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้บัญชาการทหารบก จึงจำเป็นต้องให้ผู้บัญชาการทหารบก มาชี้แจง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับกรรมาธิการฯ ด้วยตัวเอง พร้อมยืนยันว่า การเชิญผู้บัญชาการทหารบกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนี้ไม่ใช่การแทรกแซงการทำงาน แต่เป็นการแลกเปลี่ยนความเห็น และหากกรรมาธิการมีข้อสังเกตสำคัญ ก็จะเสนอให้ผู้บัญชาการทหารบก ไปพิจารณา ซึ่งจะดำเนินการหรือไม่ก็ได้

โดยการชี้แจงของพลเอกอภิรัชต์ต่อที่ประชุมกรรมาธิการฯ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกรรมาธิการนั้น เป็นการหารือแบบลับ ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก”Wassana Nanuamได้โพสต์ข้อความโดยสรุปว่า” “บิ๊กแดง” ไม่ว่าง! บินตรวจชายแดน ส่ง”บิ๊กนัย” ผู้ช่วยผบ.ทบ.รบพิเศษ ไปพบกรรมาธิการ ความมั่นคงฯ แทน ทบ.ส่งหนังสือ ย้ำ ขอให้เกียรติ ผู้แทน ทบ. ด้วยกองทัพบก ได้ส่งหนังสือ ถึงคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรว่า ตามที่ มีหนังสือถึงรมว.กลาโหมเพื่อเชิญ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่องความมั่นคงนั้น นับเป็นเรื่องที่ดีและถือเป็นการเพิ่มความเข้าใจ ระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคง กับคณะกรรมาธิการ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ทิซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงของชาติ…………………….”

“เพื่อไทย”จึ้รัฐเร่งเจรจาสหรัฐฯก่อนถูกตัด GSP

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

People Unity News : “เพื่อไทย”จึ้รัฐเร่งเจรจาสหรัฐฯก่อนถูกตัด GSP แนะเตรียมหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการส่งออกที่จะได้รับผลกระทบด้านภาษี

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ที่พรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายศราวุธ เพชรพนมพร รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวกรณีที่สหรัฐฯ เตรียมระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรที่ประเทศพัฒนาแล้วให้กับประเทศกำลังพัฒนาและ ด้อยพัฒนา หรือ GSP กับประเทศไทย

นายศราวุธ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า คณะกรรมาธิการการต่างประเทศฯ จะนำเรื่องที่ไทยจะถูกสหรัฐตัดสิทธิ GSP หารือว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร ซึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่าการที่ไทยถูกตัดสิทธิ เพราะโตเร็วเกินไป มีการพัฒนาสูงนั้น เห็นว่าไม่น่าจะใช่เหตุผลที่ถูกต้อง เพราะหากมองตามข้อเท็จจริง จะพบว่าประเทศที่จะได้รับสิทธิ GSP จะต้องมีรายได้ต่อหัวไม่เกิน 12,476 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี ซึ่งไทยมีรายได้ต่อหัวของคนไทยอยู่ที่ 7,000 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี รวมถึงต้องพิจารณาว่าประเทศไทยแก้ไขปัญหาเรื่องแรงงานได้ตรงตามมาตรฐานสากลแล้วหรือไม่ ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ยังเหลืออีก 6 เดือนก่อนที่จะถูกตัดสิทธิ รัฐบาลต้องเดินหน้าเจรจากับสหรัฐฯ เพราะหลายประเทศที่ถูกตัดสิทธิ GSP ก็เดินหน้าเจรจาสำเร็จมาหลายประเทศแล้ว ขณะเดียวกันรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการส่งออกที่จะได้รับผลกระทบด้านภาษี ทั้งนี้คณะกรรมาธิการการต่างประเทศฯ จะเชิญกรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ มาหารือเพื่อหามาตรการเยียวยากลุ่มผู้ประกอบการที่จะได้รับผลกระทบครั้งนี้

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า รัฐบาลควรให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชน และควรหาทางเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อขอคืนสิทธิ GSP เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหลายประเทศก็เคยเจรจากับสหรัฐฯ จนได้รับสิทธิคืน ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลไม่ควรตีกิน และเป็นสิทธิอันชอบธรรมของนายกรัฐมนตรีที่จะให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นว่าประเทศไทยไม่มีความจำเป็นต้องถูกตัดสิทธิ GSP รัฐบาลไม่ควรปัดความรับผิดชอบ เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบกับประชาชนและผู้ประกอบการ

“สนธิรัตน์”พบชาวเเม่เเจ่ม ลุยโรงงานไฟฟ้าชุมชน

People Unity : “สนธิรัตน์”พบชาวเเม่เเจ่ม ลุยโรงงานไฟฟ้าชุมชน สร้างรายได้ประหยัดพลังงาน สั่งคน”พปชร.”เกาะติดพื้นที่

วันที่ 23 ต.ค.2562 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานเเละเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงพื้นที่อ.เเม่เเจ่ม จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน,นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย เลขานุการรมว.พลังงาน,นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงพลังงาน,รองผู้ว่าฯจ.เชียงใหม่ (นายคมสัน สุวรรณอัมพา),นายนรพล ตันติมนตรี ข้าราชการประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เเละอดีตส.ส.เชียงใหม่ เพื่อรับฟังปัญหาประชาชนเเละเพื่อสำรวจศักยภาพความพร้อมการสร้างวิสาหกิจชุมชนรวมทั้งโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยมีประชาขนให้การต้อนรับกว่า 800 คน

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ตนมาติดตามเเละรับฟังประชาชนเรื่องโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่จะช่วยประชาชนให้มีรายได้เพิ่มจากวัตถุดิบทางการเกษตรที่เหลือใช้เเละสร้างความเข้มเเข็งด้านพลังงานไฟฟ้าให้ชุมชนเเละประเทศ

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ตนยังได้พบอดีตผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชารัฐในจ.เชียงใหม่ เช่น นายนรพล โดยตนย้ำไปว่าขอเป็นกำลังใจให้เเม้จะไม่ได้รับการเลือกตั้งเเละขอบคุณที่ยังช่วยงานพรรคในพื้นที่โดยสะท้อนปัญหาต่างๆที่รับฟังจากประชาชนเเละส่งมาให้พรรคนำไปหาเเนวทางช่วยประชาชน ตรงนี้เป็นสิ่งที่ดีเเละตนจะกำชับส.ส.รวมทั้งอดีตผู้สมัครส.ส.รวมทั้งสมาชิกพรรคในทุกพื้นที่ว่าภารจกิจของพรรคคือดูเเลประชาขน ต้องอาสาช่วยสังคม เมื่อรับฟังสิ่งที่ประชาชนต้องการเเล้วให้เเจ้งมาที่พรรคหรือตนก็ได้ จะได้เร่งเเก้ไข

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า หากส.ส.เเละผู้สมัครส.ส.ไม่ทิ้งประชาขน เเละยังติดตามภารกิจในพื้นที่ เชื่อว่าในครั้งหน้าประชาชนจะพิจารณาคนของพรรคพลังประชารัฐให้ไปทำหน้าที่ตัวเเทนประชาชนเพิ่มขึ้น ตรงนี้รวมทั้งการเมืองระดับท้องถิ่นด้วยเเม้จะยังไม่ทราบช่วงเวลาที่เเน่นอนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด เเต่สมาชิกพรรคที่สนใจทำงานการเมืองในระดับนี้ต้องทำงานต่อเนื่อง โดยพรรคจะเลือกคนที่ประชาชนในพื้นที่ต้องการลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นตัวเเทนพรรคไปทำงานในพื้นที่นั้นๆเพื่อสานงานของพรรคเเละรัฐบาลในการพัฒนาประเทศต่อไป

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ส่วนตัวนั้นเชื่อว่าความเคลื่อนไหวทางการเมืองจากนี้ไปนั้นจะเดินหน้าในทางที่ดี เพราะตอนนี้สภาผู้เเทนราษฎรกำลังเตรียมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 วงเงิน3.2ล้านล้านบาทในชั้นกมธ.วิสามัญ ตรงนี้มีความสำคัญกับการพัฒนาประเทศ เพราะโครงการต่างๆที่รัฐบาลจะดำเนินการต้องอาศัยร่างกฎหมายฉบับนี้ ตนเชื่อว่ากมธ.วิสามัญจะพิจารณาความจำเป็นของร่างกฎหมายฉบับนี้อย่างรอบคอบเเละไม่ชิงไหวชิงพริบเล่นการเมืองในเวทีนี้

กรมควบคุมโรคเผยกรุงเทพฯผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุดรอบสัปดาห์

People Unity : กรมควบคุมโรคเผยแพร่”พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์” กรุงเทพฯผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด

วันที่ 26 ต.ค.2562 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย จากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2562) พบผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน 737,464 ราย และเสียชีวิต 13,291 ราย ส่วนจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ รองลงมาคือชลบุรี นครราชสีมา เชียงใหม่ และสมุทรปราการ ตามลำดับ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ นอกจากตัวผู้ขับขี่และยานพาหนะแล้ว ยังมีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมด้วย เช่น ฝนตก ถนนลื่น ทัศนวิสัยไม่ดี

อธิบดีกรมควบคุมโรคระบุอีกว่า การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสจะพบอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ประชาชนมักเดินทางท่องเที่ยวตามภูเขาสูง โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ซึ่งในช่วงเช้าอาจมีหมอกลงจัด ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงได้ ประกอบกับในบางพื้นที่ยังมีฝนตก อาจทำให้ถนนลื่น เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ใช้หลักการป้องกันการบาดเจ็บ ตามหลัก 3ม. 2ข. 1ร. ได้แก่ 3ม. (เมาไม่ขับ สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ปลอดภัย) 2ข. (คาดเข็มขัดนิรภัย พกใบขับขี่ติดตัวเสมอ) และ 1ร. (ขับขี่ไม่เร็ว) หากผู้ขับขี่รู้สึกเกิดความอ่อนล้า อย่าฝืนขับ ควรพักงีบหลับอย่างน้อย 15 นาที และหลีกเลี่ยงการโดยสารบนกระบะท้าย กรณีมีความจำเป็นต้องโดยสารให้มีหลังคาปกปิด และมีที่นั่งสองแถวที่มั่นคงแข็งแรง ไม่นั่งห้อยโหนหรือยืนกระบะท้าย ตรวจสอบสมรรถนะรถและสภาพความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ขับขี่รถยนต์ตามกฎจราจร และเว้นระยะห่างขณะขับตามรถคันหน้าให้มากกว่าปกติเป็น 2 เท่า โดยเฉพาะช่วงฝนตกหรือหมอกลงจัด เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้

“จุรินทร์”รุกสร้าง”สนามบินพังงา”รองรับท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน

People Unity : “จุรินทร์”รุกสร้าง”สนามบินพังงา” ระดมทุกฝ่ายเร่งงานรองรับท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน

วันที่ 25 ต.ค.2562 เวลา 14.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางตรวจราชการ ราชการจังหวัดภูเก็ตและพังงา ได้ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 6 ของรองนายกรัฐมนตรี ภาคใต้ฝั่งอันดามันซึ่งเป็นเขตตรวจราชการในอำนาจรับผิดชอบ ประกอบด้วย ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล เวลา 14.30 น.นายจุรินทร์ เป็นประธานการประชุมกำกับติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ในวาระการก่อสร้างสนามบินพังงงา โดยภายหลังการประชุม

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรีให้ทำหน้าที่เป็นประธานรับผิดชอบ วันนี้ได้เดินทางมากับ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะ ประเด็นสำคัญก็คือ การติดตามการคืบหน้าการก่อสร้างสนามบินพังงา ซึ่งสถานการณ์ผู้โดยสารและการท่องเที่ยวในเขตอันดามัน ปัจจุบันนี้สนามบินหลัก ที่ต้องรองรับผู้โดยสารจำนวนมากที่สุดก็คือสนามบินภูเก็ต ปรากฏว่าในสถานการณ์ปัจจุบันหลังจากที่ได้มีการขยายทุกอย่างแล้วนาทีนี้ ศักยภาพของสนามบินภูเก็ตสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 12 ล้านคน แต่ข้อเท็จจริงขณะนี้มีผู้โดยสารรวมกันแล้ว 18 ล้านคนซึ่งเกินศักยภาพที่จะรองรับได้ไป 5.5 ล้านคน

นายจุรินทร์ กล่าวว่า จึงเป็นที่มาที่จำเป็นต้องมีสนามบินอีกแห่งในเขตอันดามันที่มารองรับนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารที่ล้นจากสนามบินภูเก็ต โครงการสนามบินจังหวัดพังงาซึ่งเกิดขึ้น ซึ่งได้มีการศึกษาเบื้องต้นเตรียมการที่จะก่อสร้างสนามบิน จะรองรับผู้โดยสารเที่ยวรวมกันที่ 25 ล้านคนซึ่งผลจากการหารือร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่า 1.มีความจำเป็นในการสร้างสนามบินเพื่อร่วมกันทำงานเพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทุกวันในฝั่งอันดามันรวมทั้งนักท่องเที่ยว 2.ที่ประชุมมีมติรัฐมนตรีช่วยคมนาคมประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหาข้อสรุปว่าจากดำเนินการเพื่อให้สนามบินพังงามีความคืบหน้าต่อไปภายใต้การดำเนินการของหน่วยงานในส่วนของกระทรวงคมนาคมหน่วยใดระหว่างกรมการท่าอากาศยาน กับ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) 3.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาติดตามเรื่องนี้โดยใกล้ชิดต่อไป และ 4.ให้ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีติดตาม รายงานการตรวจราชการ นี้

ภารกิจตรวจราชการในครั้งนี้ นายจุรินทร์เดินทาง ภายหลังเสร็จจากภารกิจช่วงเช้า คือ การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่ 2/2562 นายจุรินทร์ และคณะประกอบด้วย นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเรวัต อารีรอบ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตส.ส.ภูเก็ต นายเจือ ราชสีห์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีตส.ส.ภูเก็ต นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา ร่วมกับ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าฯภูเก็ต นายจำเริญ ทิพยพงศ์ธาดา ผู้ว่าฯพังงา เรืออากาศตรี ธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต นางชัชชิดา อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลนุทธ์องค์กร และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ประชุม หารือ และลงพื้นที่เป้าหมายเพื่อตรวจสอบพิกัดพื้นที่การสร้างสนามบินพังงา สำหรับรองรับประชาชนชาวพังงา และการท่องเที่ยงฝั่งทะเลอันดามัน โดยการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่นั้น มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการก่อสร้างสนามบินประมาณกว่า 7,300 ไร่ จากการสำรวจพบว่าพื้นที่ภายในจังหวัดภูเก็ตไม่มีพื้นที่ว่างเพียงพอและไม่มีสภาพภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมจึงพิจารณาหาพื้นที่จับหวัดพังงา

ส.ส.-ส.ว.แห่รับ! “ธรรมนัส”ลุยหาแหล่งน้ำ แก้หนี้เกษตรกร มอบส.ป.ก.” พิจิตร-ขอนแก่น”

People Unity : “ธรรมนัส”ลุยแก้ปัญหาแหล่งน้ำขาดแคลน หนี้สินเกษตรกร จ.พิจิตร ก่อนมอบ ส.ป.ก. 4-01 จ.ขอนแก่น ลั่นเดินหน้ายึดคืนที่ดินแปลงใหญ่จากนายทุนทำผิดวัตถุประสงค์ เพื่อแจกให้เกษตรกรไร้ที่ทำกิน

วันที่ 25 ตุลาคม 2562 เวลา 09.30 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะทำงาน ลงพื้นที่ตรวจราชการและพบปะประชาชนจังหวัดพิจิตร โดยมีนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมส่วนราชการในสังกัด และ ส.ส. ส.ว. ในพื้นที่ ให้การต้อนรับ ณ บริเวณห้องประชุมแฮปปี้พลาซ่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร โอกาสนี้ ร.อ.ธรรมนัส ได้เป็นประธานพิธีมอบสินเชื่อการแก้ไขหนี้นอกระบบ และพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการตลาดน้ำ การผลิตข้าวพันธุ์ กข 79 ระหว่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชุมชนผู้ผลิต 15 ชุมชน และบริษัท ทีบีเอสไรซ์มิลล์ จำกัด

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวช่วงหนึ่งว่า ชาวจังหวัดพิจิตร โชคดีที่มีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)และ และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รวม 5 คน ซึ่งหลังการเลือกตั้งทุกคนก็พร้อมร่วมกันทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งการลงพื้นที่ของตนในวันนี้ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตลอดจน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้มารับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตกรร ทั้งปัญหาหนี้สิน และปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาแหล่งน้ำ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ จังหวัดพิจิตร อาจจะเป็นพื้นที่หนึ่ง ที่จะเป็นเป้าหมายในการประชุม ครม.สัญจรในเร็ว ๆ นี้

จากนั้น เวลาประมาณ 14.20 น. ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะทำงาน ได้เดินทางไปที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นประธานพิธีมอบหนังสืออนุญาตการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แก่เกษตรกร จำนวน 150 ราย พร้อมมอบปัจจัยการผลิต เมล็ดพันธุ์ปอเทือง และสระน้ำในไร่นา ณ วัดสะอาดหนองไห ตำบลหนองแปน อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ก่อนจะมอบปัจจัยการผลิต ทั้งเมล็ดพันธุ์ปอเทือง สารเร่ง พด.1 และพด.2 รวมทั้งสระน้ำในไร่นาให้แก่เกษตรกร 119 ราย ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล ตำบลโนนทอง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น โดยนายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมนายเอกราช ช่างเหลา สส. ในพื้นที่และตัวแทนส่วนราชการในสังกัด หน่วยราชการส่วนท้องถิ่น และและประชาชนในพื้นที่คอยให้การต้อนรับ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงผลการลงพื้นที่ตรวจราชการในวันนี้ ว่า ในส่วนของจังหวัดพิจิตร ได้พบว่า ปัญหาหลักคือ ปัญหาแหล่งน้ำขาดแคลน ซึ่งต้นน้ำน่านกับต้นน้ำยม เวลานี้มีปัญหาตั้งแต่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร จนถึงจังหวัดพิจิตร ซึ่งต้องรีบบริหารจัดการแบ่งน้ำให้เกษตรกรให้ทั่วถึง ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดพิจิตร ต้องรีบจัดการเรื่องน้ำใต้ดิน โดยเจาะบ่อบาดาล ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เข้าไปช่วย เช่นเดียวกับจังหวัดขอนแก่น ที่พบว่าลำน้ำชี มีปริมาณน้ำเหลือน้อย ทั้งที่เพิ่งเกิดเหตุอุทกภัยผ่านมาไม่กี่วัน ต้องแก้โดยสร้างประตูกักน้ำ ในลำน้ำชี จึงต้องปะสานไปทางสำนักจัดการบริหารน้ำแห่งชาติ ขอให้กรมชลประทาน บรรจุแผนให้เร่งดำเนินการเร็วที่สุด นอกจากนี้ คือปัญหาที่ทำกิน ที่วันนี้ได้มามอบ หนังสืออนุญาตการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) และที่อยู่อาศัย แก่เกษตรกร 2 อำเภอ คือ มัญจาคีรี และ หนองเรือ ส่วนอื่นๆ ทางกรมพัฒนาที่ดิน ยังได้มามอบเมล็ดพันธุ์พืช ปุ๋ยสด ปอเทือง การช่วยปรับคุณภาพดิน ส่วนนอกเขตชลประทาน ก็มามอบแหล่งน้ำขนาดเล็ก ให้เกษตรกรหลายราย ด้วย ร.อ.ธรรมนัส ยังย้ำว่า มีนโยบายเรื่องการมอบ ส.ป.ก. 4-01 แก่เกษตรกร ไร้ที่ทำกิน โดยกำชับให้ ส.ป.ก.มอบสิทธิทำกินให้เกษตรกรจริงๆ โดยเฉพาะที่ดินแปลงใหญ่ที่กลุ่มนายทุนนำไปประกอบธุรกิจที่ผิดระเบียบผิดวัตถุประสงค์ จำเป็นต้องยึดคืน เพื่อนำมามอบให้เกษตรกรที่ไร้ที่ทำกิน จริงๆ ต่อไป

“ธนกร”เตือน”เสรีพิศุทธ์”อย่าลุแก่อำนาจเรียก”บิ๊กตู่”แจงกมธ.

People Unity : “ธนกร”ออกโรงเตือน”เสรีพิศุทธ์”อย่าลุแก่อำนาจมุ่งทำลาย”บิ๊กตู่” แนะกมธ.ยึดกรอบกม. ไม่ใช่พุ่งเป้าโจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างเดียว ชม”จิรายุ-ไชยา”

วันที่ 26 ตุลาคม 2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนฯ เตรียมใช้อำนาจเรียกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงกรณียื่นร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 ไม่ถูกต้องเนื่องจากรัฐบาลถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบว่า ทางกรรมาธิการฯไม่น่าจะมีอำนาจที่จะเรียกตรวจสอบเรื่องนี้เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยจบแล้ว ด้วยความเคารพผู้อาวุโสอย่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อยากจะให้ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ อย่าใช้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการฯมุ่งทำลายล้างทางการเมืองเพียงอย่างเดียว อย่าลุแก่อำนาจ ท่านเป็นนายตำรวจเก่าน่าจะทราบกฏหมายดีว่า การเป็นกรรมาธิการฯมีหน้าที่ในการตรวจสอบการทุจริต ประพฤติมิชอบต่างๆ ไม่ใช่มาตรวจสอบปมถวายสัตย์ฯของท่านนายกรัฐมนตรีซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริต

นายธนกร กล่าวว่า ทางที่ดีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ต้องทำหน้าที่แทนประชาชนในการตรวจสอบการทุจริตไม่ใช่มาตะบี้ตะบันมุ่งโจมตีพล.อ.ประยุทธ์เพียงอย่างเดียว เสียชื่อวีรบุรุษนาแกหมด ขอให้ประชาชนจดจำความดีในอดีตดีกว่า ในวัยเด็กตนเคยชื่มชมพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่มาตอนหลังรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนฯมีบทบาทหน้าที่ตามกฏหมายชัดเจน อย่าใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง ขอให้ดูการทำงานของคณะกรรมาธิการฯส่วนใหญ่ทำงานได้ดีเข้าใจบทบาทหน้าที่ ตรวจสอบตรงไปตรงมา ไม่ได้มุ่งเน้นทำลายฝ่ายการเมืองตรงข้าม เช่น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนฯ หรือนายไชยา พรหมมา ประธานคณะกรรมาธิการศึกษา การจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนฯต่างทำหน้าที่ได้ดี

“เสรีพิศุทธ์” ขู่ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” หากไม่แจงกมธ.อาจเจอคุก

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไลฟ์สดผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า กรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่ตนเองเป็นประธาน ทำหนังสือให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงกรณีถวายสัตย์ไม่ถูกต้องครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 61 นั้น เป็นไปตามมติของที่ประชุมเพื่อต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร มาแถลงข้อเท็จจริง และแสดงความคิดเห็นเรื่องการนำร่างพ.ร.บ.งบฯปี 63 มาเสนอต่อที่ประชุมสภาฯได้อย่างไร ซึ่งไม่เกี่ยวกับปัญหาการถวายสัตย์ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมากล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยตนได้เซ็นหนังสือเพื่อเชิญให้มาชี้แจงในวันที่ 30 ต.ค.นี้

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ดังนั้น นายวิษณุ ออกมาระบุว่าทั้งสองคนมีสิทธิที่จะมาหรือไม่มา หรือ ส่งตัวแทนมาชี้แจงก็ได้นั้น ตนอยากจะบอกว่า กมธ.ไม่ได้เชิญผู้แทน ระบุชื่อตัวตนชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร จะส่งนายหมูนายหมามาตอบแทนได้อย่างไร แต่หากพล.อ.ประยุทธ์ติดราชการเพราะมีภารกิจมาก สามารถแจ้งมาเพื่อขอเลื่อนได้ แต่ถ้าไม่ตอบเลย ตนก็จะมีหนังสือเชิญครั้งที่สอง โดยจะให้โอกาสแค่สองครั้งเท่านั้น ถ้าไม่มีอีก ครั้งต่อไปตนจะทำเป็นหนังสือคำสั่งของประธานกมธ. เพื่อเรียกบุคคลนั้น หรือ เรียกเอกสาร ให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการ ตามมาตรา 8 ของพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราฏษรและวุฒิสภา ถ้าฝ่าฝืนไม่มาตามคำสั่งเรียกดังกล่าวถือว่ามีความผิดตามมาตรา 13ต้องระวางโทษไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ หรือพล.อ.ประวิตร ไม่มาเอง ถือว่าเข้าทางตน จะได้สรุปข้างเดียวไปเลย ว่าการเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ต่อสภาฯ ไม่ชอบด้วยกฏหมาย และขัดรัฐธรรมนูญ และส่งฟ้องไปเลย ดังนั้นก็ไปตัดสินใจเอาเองว่าจะมาหรือไม่มา

Verified by ExactMetrics