วันที่ 22 พฤษภาคม 2024

“สุริยะ” เผยสู้คดีคิงส์เกต เน้นเจรจา มั่นใจไร้ปัญหา

People Unity News : 22 กันยายน 2565 “สุริยะ”​ ยัน ครม.ไม่มีเคาะงบเพิ่มสู้คดีคิงส์เกต เป็นเพียงการขยายกรอบเวลา​ ยอมรับหารือแนวทาง​” วิษณุ” เน้นการเจรจา เตรียมบินออสเตรเลีย​วันพรุ่งนี้ มั่นใจไร้ปัญหา​

นายสุริยะ​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการอนุมัติงบประมาณเพิ่มเพื่อต่อสู้คดีกับบริษัทคิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ในคดีเหมืองทองอัครา โดยชี้แจงว่า​ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่มีการอนุมัติ​งบ​เพิ่มเติม​ ซึ่งเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน​ เป็นเพียงงบประมาณเดิมที่มีการขยายกรอบระยะเวลาการสู้คดี​ เนื่องจากการเจรจายังไม่สิ้นสุด​ จึงขอชี้แจ้งว่า​ ไม่ได้มีการเพิ่มงบในการสู้คดีแต่อย่างใด

ส่วนแนวทางในการสู้คดีนั้น​ นายสุริยะ​ กล่าวว่า ยังคงเหมือนเดิม โดยขณะนี้ยังมั่นใจว่า การเจรจากับบริษัทคิงส์เกตจะเป็นไปด้วยดี และเชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหา พร้อมยอมรับว่า ได้มีการปรึกษากับนายวิษณุ​ เครืองาม​ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย​ โดยได้ให้แนวทางที่เน้นไปที่การเจรจา และในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) ตนจะเดินทางไปที่ประเทศออสเตรเลีย​ เพื่อเจรจาเพิ่มเติม กับผู้บริหารของบริษัทคิงส์เกต​ พร้อมย้ำว่าทิศทางการเจรจาคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นไปด้วยดี

Advertisement

สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย จัดกิจกรรมลอยกระทง แทนคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 28 พฤศจิกายน 2566 วานนี้ (27 พ.ย.66) ซึ่งเป็นวันลอยกระทง นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ร่วมสืบสานประเพณีไทย ด้วยการลอยกระทง ณ อุทยานเบญจสิริ ร่วมกับคณะสื่อมวลชนในประเทศไทย โดยสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลได้เตรียมกระทงรักษ์โลกที่ทำจากขนมปัง รวม 180 กระทง มีทั้งกระทงที่เป็นสีฟ้า-ขาว ซึ่งเป็นสีของธงชาติอิสราเอล จำนวน 165 กระทง และอีก 15 กระทงเป็นสีธงชาติไทย

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ของสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นอกจากจะเป็นการร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามของไทยแล้ว ยังเพื่อเป็นการสร้างความตระหนักร่วมถึงความสำคัญของชีวิตคนไทย และประชาชนสัญชาติต่างๆ ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน ในเหตุการณ์การโจมตีดินแดนอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมาด้วย

เอกอัครราชทูตอิสราเอลเผยว่า ปีนี้ สถานทูตตัดสินใจจัดกิจกรรมลอยกระทงเพื่อรำลึกถึงคนไทยจำนวนหนึ่งซึ่งไม่สามารถร่วมเทศกาลกับครอบครัวได้ ดังนั้นกระทงที่นำมาในวันนี้ จึงเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงตัวประกันชาวอิสราเอลและคนไทย โดยกระทงสีฟ้า-ขาว 165 กระทงแทนจำนวนตัวประกันชาวอิสราเอล ส่วนกระทงสีขาวแดงน้ำเงิน 15 กระทง แทนจำนวนคนไทย ในโอกาสนี้เอกอัครราชทูตอิสราเอลและเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอลทุกคนขอภาวนาให้ผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันได้รับอิสรภาพ กลับสู่อ้อมอกของครอบครัวในเร็ววัน นอกจากนี้ ยังกล่าวว่ากระทงของสถานทูตทำจากขนมปังที่ย่อยสลายได้ ปลากินได้ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

Advertisement

“เศรษฐา” เตรียมคุยนายกฯ กัมพูชา แก้ปัญหาฝุ่น

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 3 กุมภาพันธ์ 2567 นายกฯ ย้ำจะหารือนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ช่วงเยือนไทย 7 ก.พ.นี้ แก้ปัญหาฝุ่น พร้อมสนับสนุนเครื่องมือ ชี้เป็นเพื่อนบ้านกันต้องช่วยเหลือกัน เตรียมสั่งการใน ครม. ใช้มาตรการหนัก ใครฝ่าฝืนเผาถูกลงโทษ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการหารือกับ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถึงความคืบหน้าปัญหาฝุ่น หมอกควัน ว่า เรื่องนี้คุยกันตลอด และช่วงเช้าวันนี้ได้คุยกับ ผู้ช่วยของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งต้องยอมรับว่า กระทรวงเกษตรและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของกัมพูชา ไม่มีอุปกรณ์ ไม่มีปัจจัยที่เทียบเท่าเรา แต่เขาใส่ใจเหมือนกับเรา และในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะเดินทางเยือนไทย จะมีการพูดคุยว่ามีเรื่องใดที่เราต้องช่วยเหลือ ยืนยันว่า ประเทศไทยพร้อมสนับสนุน เพราะหากเราเป็นเพื่อนบ้านกันไม่ช่วยเหลือกัน เราก็เดือดร้อนด้วย เราเป็นเพื่อนบ้านที่ดีมาโดยตลอด ก็ต้องช่วยเหลือกัน

ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าปัญหาฝุ่นมีความรุนแรงมากขึ้นได้สั่งการอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ นี้ จะมีการสั่งการหลายเรื่อง โดยเฉพาะมาตรการ หากใครไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกลงโทษ สินค้าต่างๆ หากพิสูจน์ทราบได้ว่า ผลิตผลออกมามีการเผาเกิดขึ้นก็จะไม่ได้รับมาตรการการช่วยเหลือ

ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ดีใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ แต่ปัญหานี้ ไม่ใช่ปัญหาจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาที่สืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจ บางคนมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น หากไม่เผา ไม้ขีดก้านเดียวมันง่ายต่อการกำจัดซากวัชพืช แต่ให้องค์ความรู้ไปแล้วในสิ่งที่เขาทำไม่ถูก และตนได้ขอความร่วมมือไปยังกองทัพไปเยอะ ในการช่วยลำเลียงซากวัชพืชออกมา โรงงานทำไบโอดีเซล การทำถ่านอัด หรือทำปุ๋ย

Advertisement

ด่วน!! กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์วอนทุกฝ่ายยุติรุนแรง ปกป้องพลเรือน แพทย์

People Unity News : 18 ตุลาคม 2566 กระทรวงการต่างประเทศ – กต. ออกแถลงการณ์เสียใจเหตุโจมตี รพ.ในฉนวนกาซา วอนทุกฝ่ายยุติความรุนแรง โหดร้าย ปกป้องพลเรือน แพทย์ ตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศ ต่อเหตุโจมตีโรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อัล-อาราบี (Al Ahli Arab) ในเขตฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาว่า ประเทศไทย รู้สึกสะเทือนใจ และเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อเหตุการณ์การโจมตีโรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อัล-อาราบี ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ซึ่งส่งผลให้มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก และขอไว้อาลัย แก่ผู้เคราะห์ร้าย และแสดงความเสียใจ กับครอบครัวผู้สูญเสีย

ประเทศไทย ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดำเนินความพยายาม เพื่อยุติวัฏจักรความรุนแรง และความโหดร้ายทั้งปวงโดยทันที ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทย เรียกร้องให้มีการเคารพ และปกป้องพลเรือน โรงพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

Thailand is profoundly shocked and deeply saddened by the attack on Al Ahli Arab Hospital in the North of the Gaza Strip, resulting in heavy loss of life of innocent civilians and casualties. In expressing our condolences to all the victims and their bereaved families, Thailand strongly and urgently appeals to all sides concerned to work towards an immediate cessation to the vicious cycle of violence and hostilities. Moreover, Thailand calls for full respect for the protection of civilians, hospital and medical staff under international humanitarian law.

Advertisement

ไทยพร้อมประสาน-ส่งเสริมความร่วมมือให้เกิดสันติภาพในเมียนมา

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 9 เมษายน 2567 ทำเนียบ – นายกฯ โพสต์หารือฝ่ายความมั่นคง-กต. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ระบุไทยพร้อมประสานและส่งเสริมความร่วมมือให้เกิดสันติภาพในเมียนมาโดยเร็วที่สุด พร้อมตั้งคณะทำงานดูในทุกมิติ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา กับฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ ข้อความว่า

“สถานการณ์ในเมียนมา มีความสำคัญต่อไทยเป็นอย่างมาก การทำงานด้านนโยบายเมียนมา ก็เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพของเมียนมา เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ

การประชุมด่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีชายแดนเมียนมาเช้านี้ คือประเทศไทยพร้อมประสานและส่งเสริมความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมาโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมกับผู้ได้รับผลกระทบ และพร้อมดูแลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทยในด้านต่าง ๆ รวมถึงการค้าชายแดน

และเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จะมีการตั้งคณะทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศรับผิดชอบหลัก โดยมีเลขาธิการสำนักงานความมั่นคงทำงานร่วมด้วย เพื่อสนับสนุนการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งประเด็นการเมือง สังคม และเศรษฐกิจครับ”

Advertisement

“ปานปรีย์” เตือนเมียนมาอย่ารุกล้ำ หลังกระสุนปืนหนักข้ามมาฝั่งไทย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 21 เมษายน 2567 “ปานปรีย์” เตือนเมียนมาอย่ารุกล้ำ หลังกระสุนปืนหนักข้ามมาฝั่งไทย เผย คกก. ติดตามสถานการณ์พรุ่งนี้ (22 เม.ย.) ก่อนนายกฯ บินแม่สอด

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีผู้อพยพหนีภัยสงครามมายังแม่สอดเป็นจำนวนมากว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาข้ามมาฝั่งไทย ก่อนหน้านี้เราเคยมีกรณีผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาข้ามฝั่งมาไทย จำนวน 10,000 คน พอเหตุการณ์สงบ ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาก็ข้ามฝั่งกลับไป

นายปานปรีย์ กล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวก็เช่นเดียวกัน คาดว่า หากเหตุการณ์ในเมียนมาเริ่มสงบ ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาที่ข้ามมาฝั่งไทยก็จะทยอยกลับไป ซึ่งตอนนี้ได้รับรายงานว่า มีผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาข้ามมาฝั่งไทย จำนวน 3,000 คน ซึ่งในจำนวน 3,000 คนนี้ อยู่ในการดูแลของกระทรวงมหาดไทย

ส่วนกรณีที่มีกระสุนปืนหนักตกมายังบริเวณกลางแม่น้ำเมย ใกล้กับฝั่งประเทศไทย จนส่งผลให้เกิดกลุ่มควัน และมีกระสุนปืนจากฝั่งเมียนมายิงเข้ามายังฝั่งไทย กระสุนถูกยิงทะลุหน้าต่างมุ้งลวดบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ทั้งสองกรณีนี้จะมีการตักเตือนทางการเมียนมา หรือป้องกันอย่างไร นายปานปรีย์ ตอบว่า เป็นกระสุนจากฝั่งเมียนมา หลุดมาทางฝั่งไทย แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหาย และไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ และเราได้ทำการเตือนทางฝั่งเมียนมาว่า ให้ระมัดระวัง เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์รุกล้ำข้ามเขตแดน ไม่ว่าจะทางบก หรือทางอากาศ รวมถึงการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ อย่าให้เข้ามาในประเทศไทย รวมถึงห้ามให้ประชาชนไทยได้รับอันตราย

สำหรับความคืบหน้าหลังจากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์เมียนมา มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายปานปรีย์ กล่าวว่า จะประชุมติดตามความคืบหน้า ในวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) ก่อนที่นายกฯ จะบินไป อ.แม่สอด จ.ตาก คงจะได้คำตอบ และข้อสรุปในวันพรุ่งนี้ ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร

เมื่อถามถึงความพร้อมในการเป็น Peace broker นายปานปรีย์ กล่าวว่า เบื้องต้นเราได้เรียกร้องผ่านทางอาเซียน กดดันให้ทางเมียนมากลับสู่ความสงบโดยเร็ว ส่วนเรื่องของการที่ไทยจะเป็นตัวกลางในการเจรจานั้น ตอนนี้กำลังเร่งทำงานกันอยู่ เพราะยังไม่ทราบว่าต้องเจรจาผ่านกลุ่มใด และการสู้รบยังเกิดขึ้นตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็มีการพูดคุยในระดับหนึ่ง

Advertisement

ไทยจับมือกัมพูชาแก้ภัยคุกคามความมั่นคง

People Unity News : 25 พฤศจิกายน 2565 “พล.อ.ประวิตร-พล.อ.เตีย บันห์” พร้อมร่วมแก้ปัญหาชายแดนที่กระทบต่อความมั่นคงไทย-กัมพูชา ทั้งอาชญากรรมข้ามแดน ยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไทยที่ใช้กัมพูชาเป็นฐานหลอกคนไทยด้วยกัน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 15 ก่อนการประชุม พล.อ.ประวิตร ได้หารือกับ พล.อ.เตีย บันห์ โดยทั้งสองฝ่ายได้ย้ำสัมพันธ์และความร่วมมือทางทหารที่ใกล้ชิดแน่นแฟ้นทุกระดับ และเห็นถึงความสำคัญของกลไกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ต่อความมั่นคงชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยจะเพิ่มความร่วมมือกิจกรรมทางทหาร การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติมากขึ้น เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ อาชญกรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงข้ามแดน รวมทั้งร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยไม่นำเงื่อนไขของเขตแดนมาเป็นปัญหาในการปฏิบัติงาน

พล.อ.ประวิตร กล่าวขอบคุณกัมพูชาที่สนับสนุนช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชาที่ถูกหลอกลวง และขอความร่วมมือกัมพูชาช่วยกวาดล้างจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยที่ใช้กัมพูชาเป็นฐานหลอกลวงคนไทยด้วย ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมไทยพร้อมสนับสนุนที่นั่งการศึกษาทางทหารระดับต่างๆ ให้กระทรวงกลาโหมกัมพูชา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นมากขึ้น

จากนั้น พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.เตีย บันห์ เป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 15 โดยเน้นย้ำความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับ อันจะนำมาซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงตลอดแนวชายแดน รับทราบความก้าวหน้าของความร่วมมือด้านต่างๆ เช่น การผ่านแดนและการสัญจรข้ามแดน การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานชายแดน การพัฒนาคุณภาพชีวิต การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม การค้าชายแดน สาธารณสุขและการบรรเทาสาธารณภัย โดยเฉพาะการขับเคลื่อนกลไกการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ไทย-กัมพูชา และการจัดตั้งกลไก RBC ประชุมร่วมระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนทั้งสองประเทศ เพื่อแก้ปัญหาในระดับพื้นที่ ทั้งสองฝ่ายพร้อมสนับสนุนให้หน่วยงานระดับ อำเภอ จังหวัด ร่วมแก้ปัญหายาเสพติด โดยการดำเนินงานหมู่บ้านคู่ขนานสีขาวและหมู่บ้านเข้มแข็งตามแนวชายแดน ร่วมปฏิบัติตามแผนแม่น้ำโขงปลอดภัย เพื่อควบคุมปัญหายาเสพติด ซึ่งความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมดังกล่าว สะท้อนถึงพัฒนาการความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันในการแก้ปัญหาชายแดนที่มีมากขึ้นต่อเนื่อง

Advertisement

“สุทิน” เตรียมคุยปมเรือดำน้ำกับจีน 14-15 พฤษภาคมนี้

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 13 พฤษภาคม 2567 “สุทิน” รมว.กลาโหม เผยเตรียมเคลียร์ประเด็นเรือดำน้ำกับจีน เร็วๆ นี้ ยินดีรับฟังข้อเสนอ “วิโรจน์” เสนอยกเลิกสัญญาปัจจุบัน ย้ำพรรคร่วมฯ แข็งแรงดี

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง การเจรจาประเด็นเรื่องการซื้อเรือดำน้ำกับทางรัฐบาลจีน ว่า จะมีการนัดพูดคุยอีกครั้งในเร็วๆ นี้  โดยเบื้องต้นเคาะวันที่ในการเจรจาเป็นวันที่ 14-15 พฤษภาคมนี้

ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เสนอให้ยกลิกสัญญาซื้อขายเรือดำน้ำฉบับปัจจุบัน และให้กองทัพเรือเสนอคำของบประมาณเข้ามาใหม่ในปี 2569 นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้คณะทำงานได้ปรึกษาหารือถึงเรื่องที่นายวิโรจน์เสนออย่างถี่ถ้วนแล้ว โดยส่งเรื่องไปให้คณะทำงานพิจารณา ตนไม่ได้คิดคนเดียว ซึ่งถ้าใครมีข้อเสนออะไรเข้ามาเรารับฟังหมด พร้อมยืนยันว่าจะมีการพูดคุยกับทางรัฐบาลจีนอีกแน่นอน จบไม่จบคืออีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามว่าสถานการณ์ของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอย่างไรบ้าง นายสุทิน กล่าวว่า ยังแข็งแกร่ง แข็งแรงดี ไม่มีปัญหา สบายมาก

Advertisement

นายกฯ เดินทางเยือนฝรั่งเศส-อิตาลี-ญี่ปุ่น

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 15 พฤษภาคม 2567 ทำเนียบ – นายกฯ เตรียมนำคณะนักธุรกิจไทยร่วมงาน Thailand-France Business Forum พบ ปธน.ฝรั่งเศส -เยือนอิตาลีอย่างเป็นทางการ และร่วมปาฐกถา Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29

นางรัดเกล้า อินทวงศ์  สุวรรณคีรี  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (15 พ.ค.) เวลา 23.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปยังกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชม.  และจะเดินทางถึงกรุงปารีส วันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) เวลา 07.10 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง

การเดินทางในครั้งนี้ เป็นการเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 15 – 16 พฤษภาคม 2567 ณ กรุงปารีส การเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการ และกิจกรรมคู่ขนาน ระหว่างวันที่ 17 – 21 พฤษภาคม 2567 ณ เมืองมิลาน และกรุงโรม และการเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 22 – 24 พฤษภาคม 2567 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในส่วนของการเดินทางเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศสเป็นการเยือนเพื่อนำคณะนักธุรกิจไทยร่วมงาน Thailand – France Business Forum ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการเดินทางเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 เป็นการจัดงานส่งเสริมการค้าระหว่างกันและสนับสนุนให้ภาคเอกชนฝรั่งเศสเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น

ในครั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะพบหารือกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เพื่อติดตามผลความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะในด้านการค้าการลงทุน อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และ soft power ตลอดจนร่วมกันผลักดันประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะการยกระดับความสัมพันธ์ไทย – ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ตามที่ระบุไว้ในแผนการ (Roadmap) การดำเนินความสัมพันธ์ไทย – ฝรั่งเศส ค.ศ. 2022 – 2024

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการ พบหารือกับนางจอร์จา เมโลนี (H.E. Mrs. Giorgia Meloni) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิตาลี เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิตาลี ซึ่งในปี 2567 จะครบรอบ 156 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน    พร้อมขยายความร่วมมือในสาขาที่ไทยและอิตาลีมีศักยภาพร่วมกัน ได้แก่ พลังงานหมุนเวียน การท่องเที่ยวเชิงกีฬา วิทยาศาสตร์การแพทย์และเภสัชกรรม และกลาโหม โดยนายกรัฐมนตรีจะผลักดันประเด็นสำคัญ เช่น การยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทยในเขตเชงเกน และการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย – สหภาพยุโรป ให้สามารถสรุปภายในปี 2568 (ค.ศ. 2025)    รวมถึงประเด็นการรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอลไปทำงานในอิตาลีในอนาคต โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะพบหารือกับนาย Attilio Fontana ผู้ว่าการแคว้นลอมบาร์เดีย ซึ่งเป็นแคว้นที่สำคัญที่สุดด้านเศรษฐกิจของอิตาลีด้วย

การเยือนในครั้งนี้จะเป็นโอกาสพบหารือภาคเอกชนรายใหญ่ระดับโลกของอิตาลี และ นาย Carlo Capasa ประธาน the National Chamber of Italian Fashion โดยจะเชิญชวนภาคเอกชนอิตาลีให้มาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแฟชั่นและ Soft Power การเกษตรและอาหาร ยานยนต์ พลังงาน การเงินและพันธบัตร Sustainability Linked Bonds รวมถึงโครงการแลนด์บริดจ์

จากนั้น นายกรัฐมนตรี จะเดินทางต่อเนื่องไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมและกล่าวปาฐกถาในการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 ซึ่งหัวข้อหลักในปีนี้ คือ Asian Leadership in an Uncertain World พร้อมจะเสนอให้เอเชียมีความร่วมมือสำคัญ ได้แก่ 1) การเชื่อมโยงด้านการค้าการลงทุนเพื่อเปิดโอกาสธุรกิจ 2) เสริมสร้างความยั่งยืนโดยเน้นเศรษฐกิจและพลังงานสีเขียว 3) การร่วมมือเพื่อเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล และ 4) การปรับกระบวนทัศน์ของระบบพหุพาคีใหม่ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของเอเชีย และก้าวข้ามสถานการณ์โลกที่ผันผวน ท้าทาย

Advertisement

“อนุทิน” เตรียมนำคณะร่วมถก World Bio Summit 2022

People Unity News : 23 ตุลาคม 2565 “อนุทิน” เตรียมนำคณะเข้าประชุม World Bio Summit 2022 ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ร่วมผู้แทนกว่า 18 ประเทศถกอนาคตวัคซีนสร้างความสามารถต่อสู้โรคอุบัติใหม่

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 24-27 ต.ค. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะนำคณะซึ่งประกอบด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วยคณะแทนจากกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมการประชุม World Bio Summit 2022 ซึ่งจัดขึ้น ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี

สำหรับการประชุม World Bio Summit 2022 ครั้งนี้เป็นเวทีการหารือใหม่ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยความร่วมมือของสาธารณรัฐเกาหลีกับองค์การอนามัยโลก ซึ่งได้มีการเชิญผู้นำประเทศต่างๆ มากกว่า 18 ประเทศทั้งในอเมริกา ยุโรป เอเชียเเละแอฟริกา รวมถึงผู้แทนบริษัทวัคซีน ผู้แทนองค์กรการกุศลเอกชน และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ เข้าร่วม โดยจะมีการหารือในหัวข้ออนาคตของวัคซีนและชีวอนามัยจากประสบการณ์และบทเรียนที่เรียนรู้จากการระบาดของโรคโควิด19 พร้อมเสนอวิธีการเสริมสร้างความสามารถในการตอบสนองต่อโรคติดเชื้อและโรคอุบัติใหม่ในอนาคต

ในโอกาสนี้ นายอนุทิน จะเป็นผู้แทนประเทศไทยในการปาฐกกาถึงบทเรียนที่ทั่วโลกได้รับโควิด 19 และย้ำถึงจุดยืนของไทยในการร่วมกับนานาประเทศในการพัฒนาด้านสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ระหว่างการเข้าร่วมประชุมที่กรุงโซลครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและคณะ จะเข้าร่วมในพิธี Thailand-IVI Ratification Ceremony ซึ่งประเทศไทยจะให้สัตยาบันสารในการเข้าร่วมเป็นภาคีกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ (IVI) อันจะส่งผลให้ประเทศไทยได้รับโอกาสในการพัฒนาและขยายความร่วมมือด้านวัคซีนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรด้านวัคซีนของไทย

นอกจากนี้ จะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขของไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี ว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือหลายด้านระหว่าง 2 ประเทศ อาทิ ความมั่นคงด้านสุขภาพ การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ระบบสุขภาพ การดูแลสุขภาพดิจิทัล และการส่งเสริมสุขภาพ

Advertisement

Verified by ExactMetrics