วันที่ 17 พฤษภาคม 2024

เตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ แอบอ้างหน่วยงานรัฐให้ทำธุรกรรมผ่านมือถือ

People Unity News : 12 สิงหาคม 2566 กทม. 12 ส.ค.-รองโฆษก รบ. เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ แอบอ้างหน่วยงานรัฐหลอกลวงให้ทำธุรกรรมผ่านมือถือ กรมที่ดินออกประกาศย้ำไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ติดต่อเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แจงหน้าที่ดังกล่าวเป็นของท้องถิ่น แนะติดตั้งแอปฯ จาก App Store หรือ Play Store เท่านั้น

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงเกิดกรณีมิจฉาชีพอ้างหน่วยงานรัฐติดต่อประชาชนและหลอกหลวงให้ทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือก่อนใช้โปรแกรมเข้าควบคุมเครื่องแล้วโอนเงินออกจากบัญชีผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร และมีผู้เสียหายหลายราย โดยส่วนใหญ่ที่ยังมีการแอบอ้างก็คือ หน่วยงานที่ต้องให้บริการใกล้ชิดกับประชาชน อาทิ กรมที่ดิน กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตำรวจ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง ไปรษณีย์ สถาบันการเงิน

รัฐบาลขอย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อผู้ที่ติดต่อผ่านช่องต่างๆ โดยง่าย แม้ผู้ติดต่อจะสามารถแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลหรือธุรกรรมที่ประชาชนเคยติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ได้ถูกต้องแม่นยำก็ตาม โดยปัจจุบันหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ติดต่อไปยังประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะหากเป็นการติดต่อมาแล้วให้ทำธุรกรรมผ่านมือถือ เช่น กดลิงค์ สแกนคิวอาร์โค้ด ติดตั้งแอปพลิเคชัน สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน อย่าลงมือทำธุรกรรมทันทีให้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อน หากมีกรณีข้อสงสัยให้ประชาชนเป็นฝ่ายติดต่อกลับไปยังหน่วยงานนั้นโดยตรง เช่น ผ่านเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงาน หรือไปติดต่อสอบถาม ณ สำนักงานหน่วยงานนั้นๆ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ส.ค.66 กรมที่ดินได้ออกประกาศเรื่อง เตือนภัยกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินหลอกลวงผู้เสียหาย ระบุถึงรูปแบบที่มิจฉาชีพแอบอ้างกรมที่ดินในขณะนี้ มีทั้งการทำหนังสือราชการปลอม ทำเว็บไซต์ปลอม และโทรศัพท์ติดต่อประชาชนโดยอ้างเนื้อหาเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แล้วหลอกให้เพิ่มเพื่อนผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์เพื่อส่งลิงค์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม เมื่อเหยื่อหลงเชื่อติดตั้งแอปฯ คนร้ายจะรีโมตมาควบคุมเครื่องระหว่างนั้นโทรศัพท์จะขึ้นข้อความ “ระหว่างทำการตรวจสอบห้ามใช้งานมือถือ” ซึ่งคนร้ายจะใช้ช่วงเวลานี้ ดำเนินการโอนเงินออกจากบัญชีผู้เสียหาย

ทั้งนี้ กรมที่ดินไม่มีอำนาจหน้าที่ในการประเมินหรือจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่หน้าที่ดังกล่าวเป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล) หากประชาชนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้ติดต่อกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยตรง

“กรมที่ดินได้เน้นย้ำว่าไม่มีแนวทางปฏิบัติในการมอบหมายเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินให้ติดต่อสอบถามหรือแนะนำให้ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินและห้องชุดให้มาปรับปรุงข้อมูลเพื่อใช้ในการประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแต่อย่างใด ดังนั้นหากมีผู้แอบอ้างว่าติดต่อจากเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หากประชาชนต้องการใช้บริการหน่วยงานต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันนั้น ขอให้ดาวน์โหลดผ่าน App Store หรือ Play Store เท่านั้น ไม่ดาวน์โหลดจากช่องทางอื่นหรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่บุคคลไม่รู้จักส่งมาให้โดยเด็ดขาด ไม่ทำการสแกนใบหน้า หรือยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก ไม่กดลิงค์จาก SMS แปลกปลอม เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่ควรตั้งรหัสเข้าเครื่องที่ซ้ำกับรหัสเข้า Mobile Banking

ทั้งนี้ เมื่อมีผู้ติดต่อมาทางโซเชียลมีเดียโดยแอบอ้างหน่วยงานต่างๆ ให้สังเกตที่ชื่อแอคเคาน์จะต้องมีโล่สีเขียว หรือน้ำเงินเข้มเท่านั้น เพื่อยืนยันตัวตนจริง โดยหากมีข้อสงสัยเรื่องใดขอให้ติดต่อกลับไปยังหน่วยงานนั้นด้วยตนเอง

Advertisement

ทั่วไทยอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศเย็นตอนเช้า

People Unity News : 22 พฤศจิกายน 2566 กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ กับมีหมอกตอนเช้า โดยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้ง และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่าง (ฝั่งตะวันออก) ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศรายภาค

ภาคเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ตอนบนของภาค : อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาค : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

Advertisement

ทั่วไทยฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง กทม.ตก 70%

People Unity News : 30 ตุลาคม 2566 กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ได้แผ่ปกคลุมถึงบริเวณประเทศเวียดนามและลาวตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันนี้ ขณะที่มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากลมกระโชกแรง ฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศรายภาค

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณ จ.ชัยภูมิ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ จ.ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และชลบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

Advertisement

รัฐบาลเตือน ดื่มคลายหนาว อันตรายถึงเสียชีวิต

People Unity News : 2 มกราคม 66 รัฐบาลห่วงใย เตือนอีกครั้ง ดื่มคลายหนาว อันตรายถึงเสียชีวิต แนะดูแลสุขภาพช่วงอากาศหนาวเย็น

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน ในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงอากาศหนาวเย็น ตามความเชื่อที่ว่าการดื่มเหล้า เบียร์ ในช่วงอากาศหนาว จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้ ซึ่งสวนทางกับหลักวิชาการแพทย์ ที่พบว่าอันตรายจากการดื่มสุราช่วงฤดูหนาว มีตั้งแต่หมดสติ ภาวะหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิต เพราะเมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย หลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังจะเกิดการขยายตัวเพื่อเป็นการระบายความร้อนในร่างกาย อุณหภูมิจึงลดต่ำลงมากกว่าปกติ ยิ่งถ้าหากเมาแล้วหลับ ไม่ได้สวมเสื้อผ้าที่อบอุ่น สัมผัสกับอากาศเย็นเป็นเวลานาน อาจทำให้มีโอกาสช็อกและเสียชีวิตสูง

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ยังคงแจ้งเตือนมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทย หลายพื้นที่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีลมแรง ประจวบกับขณะนี้เป็นช่วงของการฉลองเทศกาลปีใหม่ ซึ่งแต่ละปีมักพบผู้เสียชีวิตจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง เพราะการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงอากาศหนาวเย็น มีความเสี่ยงจะเกิดสภาวะ “ไฮโปเทอร์เมีย (Hypothermia)” หรือ ภาวะตัวเย็น โดยร่างกายเกิดการสูญเสียความร้อนอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถสร้างและเก็บความร้อนได้ อาจส่งผลให้ช็อกและเสียชีวิตได้ในที่สุด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง สำหรับการป้องกันภาวะอากาศหนาว สามารถทำได้โดยดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำอุ่นเพื่อช่วยปรับสมดุลร่างกาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอกระตุ้นให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นภายใน ไม่ควรอาบน้ำอุ่นบ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวแห้งเสีย เตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อมและทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือผ้าห่ม โดยเฉพาะเสื้อผ้ามือสองให้แช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือต้ม เพื่อป้องกันโรคผิวหนัง งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในช่วงภาวะอากาศหนาว เนื่องจากเป็นปัจจัยเสริมสำคัญทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตในช่วงอากาศหนาวได้

Advertisement

นายกฯ ยินดี “ขอนแก่น” เป็นอันดับ 1 จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวคุ้มค่าที่สุด

People Unity News : 15 เมษายน 2566 โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ยินดี Agoda จัดอันดับ “จ.ขอนแก่น” เป็นอันดับ 1 จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ช่วงเดือนเมษายน 2566 พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่จังหวัดขอนแก่น ติดอันดับ 1 จากทั้งหมด 10 แหล่งจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ช่วงเดือนเมษายน 2566 (10 Most Affordable Destinations in Asia Pacific 2023) จาก Agoda แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ตอกย้ำความนิยมในแหล่งท่องเที่ยวของไทย พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เว็บไซต์ Travel Daily News ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ด้านการท่องเที่ยวทั่วโลก ได้เผยแพร่รายงานการจัดอันดับดังกล่าว ซึ่งให้ข้อมูลโดย Agoda (https://www.traveldailynews.asia/statistics-trends/khon-kaen-is-the-most-affordable-tourist-destination-in-thailand-says-agoda/) ระบุว่า Agoda ได้วิเคราะห์ราคาเฉลี่ยห้องพักของแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้มค่า ราคาย่อมเยาที่สุดในช่วงเดือนเมษายน 2566 ซึ่งจังหวัดขอนแก่น ได้รับอันดับ 1 จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีราคาห้องพักคุ้มค่าที่สุดในเดือนเมษายน 2566 นี้ ด้วยราคาเฉลี่ยคืนละ 1,030 บาท นอกจากนี้เมื่อเทียบราคาเฉลี่ยห้องพักในประเทศไทยรองจากขอนแก่น 4 อำเภอ/จังหวัด ที่ราคาคุ้มค่าเช่นกัน ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา อุดรธานี และหาดใหญ่ ตามลำดับ

นอกจากนี้ยังระบุว่าจังหวัดขอนแก่นเป็นอีกหนึ่งสถานที่จัดเทศกาลสงกรานต์ (วันปีใหม่ไทย) ได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน 2566 นี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมบึงแก่นนครและเตรียมพร้อมกับการเล่นสาดน้ำอย่างสนุกสนานในช่วงเทศกาลที่ถือได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดงานหนึ่งของเอเชีย อีกทั้งจังหวัดขอนแก่นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น Hidden gems อีกหลายแห่งที่น่าสนใจ โดยจังหวัดขอนแก่นได้รับสมญานามว่าเป็นดินแดนไดโนเสาร์ของประเทศไทย แต่ยังมีความเป็นเมืองที่ทันสมัย เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟที่อยู่ในกระแสนิยมมากมาย รวมทั้งมีทะเลสาบประจำเมืองที่สามารถจัดงานเทศกาลได้ตลอดทั้งปี มีตลาดโต้รุ่งต้นตาล ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารหลากหลาย

โฆษกรัฐบาลระบุว่า จังหวัดขอนแก่นถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สามารถนำผลตอบรับดังกล่าวไปเป็นแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล เพื่อยกระดับประเพณีพื้นเมืองของไทยให้เป็นที่รู้จัก กระตุ้นการท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ 10 จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ช่วงเดือนเมษายน 2566 มีการจัดลำดับดังนี้ 1.ขอนแก่น ประเทศไทย 2.Sibu มาเลเซีย 3.Surakarta อินโดนีเซีย 4.Puri อินเดีย 5.Bacolod ฟิลิปปินส์ 6.Ninh Binh เวียดนาม 7.Chiba ญี่ปุ่น 8.Gwangju เกาหลีใต้ 9.หมู่เกาะ Kinmen ไต้หวัน และ 10.Brisbane ออสเตรเลีย

“นายกรัฐมนตรียินดีกับผลการจัดอันดับที่ถือว่าย้ำว่าไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก ซึ่งไทยยังคงเสน่ห์ และความนิยมในหลายๆ ด้านได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนศักยภาพของไทยในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการเป็นเจ้าภาพที่ดี รวมทั้งด้วยวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ สามารถเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวได้อย่างหลากหลาย” นายอนุชา กล่าว

Advertisement

อุตุฯเตือนไทยตอนบน รับมือ “พายุฤดูร้อน”

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 3 มีนาคม 2567 กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน รับมือ “พายุฤดูร้อน” ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันตก และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูงเนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และมีการระบายอากาศที่ไม่ดี

Advertisement

นายกฯขอทุกพื้นที่ “งดการเผาทุกกรณี” 89 วัน ลด PM 2.5

People Unity News : 15 กุมภาพันธ์ 2566 โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าอย่างใกล้ชิด ห่วง PM2.5 พุ่งสูง กระทบสุขภาพประชาชน ขอความร่วมมือทุกพื้นที่งดเผาทุกกรณี

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าอย่างต่อเนื่อง ห่วงกังวลค่า PM2.5 พุ่งสูง กระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยสถานการณ์ไฟป่าในหลายพื้นที่มีความรุนแรง ทั้งจากภาวะความแห้งแล้งจัด รวมถึงการลักลอบเข้าป่าและจุดไฟเผาป่า เพื่อแสวงผลประโยชน์จากป่า โดยไม่คำนึงถึงภาพรวม และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้หมอกควันจากไฟป่าลอยปกคลุม ค่า PM2.5 เพิ่มสูงขึ้นเกินมาตรฐาน กระทบต่อสุขภาพประชาชน

“นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือแนวทางการป้องกันและรับมือสถานการณ์ไฟป่าของแต่ละหน่วยงาน เพื่อการถอดบทเรียนปัญหาไฟป่า ป้องกันการลุกลาม สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ พื้นที่การเกษตร บ้านเรือนประชาชน อีกทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มขึ้นในอากาศ ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ใช้ทุกมาตรการเพื่อลดจำนวนการเกิดไฟป่า และขอความร่วมมือทุกพื้นที่ “งดการเผาทุกกรณี” 89 วัน ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2566 หากฝ่าฝืนมีโทษ พร้อมได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างความเข้าใจ และขอความร่วมมือประชาชน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งทำให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มขึ้นในอากาศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือ เฝ้าระวัง และจัดการสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ พร้อมแจ้งเตือน และขอความร่วมมือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ขอให้พร้อมปรับแผน และมาตรการให้เข้มงวดขึ้นอย่างทันท่วงที

Advertisement

อนามัยโลกและสหรัฐ จับตาสายพันธุ์ใหม่โควิด-19

People Unity News : 18 สิงหาคม 2566 เจนีวา – องค์การอนามัยโลกและเจ้าหน้าที่ของสหรัฐกล่าววันนี้ว่า กำลังเฝ้าติดตามและจับตามอง บีเอ.2.86 ที่เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่ทราบผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นของสายพันธุ์ดังกล่าว

องค์การอนามัยโลกกล่าวในเอกสารที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีว่า ได้จัดให้โควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าจับตามอง เนื่องจากเมื่อกลายพันธุ์แล้วมีจำนวนหนามเพิ่มมากขึ้นมากกว่า 30 หนาม และจนถึงขณะนี้สามารถตรวจพบเฃื้อไวรัสกลายพันธุ์นี้ได้ในอิสราเอล เดนมาร์กและสหรัฐ

ขณะเดียวกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ ซีดีซี ของสหรัฐ ก็ยืนยันว่า กำลังเฝ้าจับตามองสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์นี้อย่างใกล้ชิด WHO กล่าวด้วยว่า จนขณะนี้ยังไม่ทราบผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นของสายพันธุ์บีเอ.2.86 และกำลังประเมินด้วยความระมัดระวัง

ขณะนี้ WHO กำลังเฝ้าติดตามไวรัสโรคโควิด-19 ที่กลายพันธุ์อยู่ 10 สายพันธุ์

Advertisement

ข่าวดี สหรัฐฯเตรียมส่งคืนโบราณวัตถุ “โกลเด้นบอย” ให้ไทย พ.ค.นี้

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 4 กุมภาพันธ์ 2567 “เสริมศักดิ์” เผยความคืบหน้าส่งคืนสมบัติชาติ “โกลเด้นบอย” โบราณวัตถุล้ำค่า กลับคืนประเทศไทย พ.ค.นี้

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการส่งคืนโบราณวัตถุ “โกลเด้นบอย” โบราณวัตถุล้ำค่า จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน สหรัฐอเมริกา กลับคืนสู่ประเทศไทยว่า ได้มอบหมายให้กรมศิลปากร ประสานรายละเอียดขั้นตอนในการส่งคืน ทราบว่าทางอเมริกาจะส่งโบราณวัตถุดังกล่าวผ่านสถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก โดยจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมด และจะเชิญผู้เชี่ยวชาญจากประเทศไทยเยือนพิพิธภัณฑ์เพื่อร่วมในพิธีรับมอบด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางพิพิธภัณฑ์กำลังจัดทำรายละเอียดในการส่งคืนโบราณวัตถุดังกล่าว เพื่อให้ฝ่ายไทยพิจารณา หากแล้วเสร็จจะมีพิธีรับมอบต่อไป ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย จะได้จัดพิธีรับมอบอีกครั้ง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในเดือนพฤษภาคม 2567 จากนั้นจะนำโบราณวัตถุจัดแสดงให้ประชาชนชาวไทยได้ชื่นชม

นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ โฆษกกระทรวงวัฒนธรรม (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยด้วยว่า สำหรับโบราณวัตถุที่จะได้รับกลับคืนครั้งนี้ ประกอบด้วย ประติมากรรมพระศิวะ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นรูปพระศิวะสวมเครื่องทรงแบบบุคคลชั้นสูง ถือเป็นโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยม ซึ่งพบไม่มากนัก ประติมากรรมนี้สูงถึง 129 เซนติเมตร มีเทคนิคการสร้างแบบพิเศษคือ หล่อด้วยสำริดและกะไหล่ทอง ส่วนประติมากรรมสตรี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 เช่นกัน สูง 43 เซนติเมตร อยู่ในท่านั่งชันเข่าและยกมือไหว้เหนือศีรษะ แต่งกายแบบบุคคลชั้นสูง หล่อด้วยสำริดมีร่องรอยการประดับด้วยโลหะเงินและทอง

ทั้งนี้ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ได้กล่าวถึงนโยบายการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศ กลับคืนสู่ประเทศไทยว่า เป็นภารกิจที่สำคัญ ที่มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สำหรับโบราณวัตถุที่กำลังดำเนินการเร่งติดตามในปัจจุบัน ได้แก่ โบราณวัตถุจากเมืองโบราณศรีเทพที่อยู่ในขั้นตอนการประสานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) กรุงเทพฯ โดยจะดำเนินการตามช่องทางทางการทูต และเป็นไปด้วยความร่วมมือด้วยมิตรภาพอันดีของสองประเทศ

Advertisement

หนาวยะเยือก! “ดอยอินทนนท์” เหลือ 3 องศาฯ เกิดน้ำค้างแข็ง

People Unity News : 10 พฤศจิกายน 2565 อินทนนท์หนาวยะเยือก อุณหภูมิลดเหลือ 3 องศาเซลเซียส ต่ำสุดตั้งแต่เริ่มเข้าหนาวและเกิดน้ำค้างแข็งเป็นครั้งที่ 3 ของหน้าหนาวปีนี้

เช้าวันนี้ น้ำค้างที่เกาะตามใบไม้และยอดหญ้า บริเวณยอดดอยอินทนนท์ และริมข้างทางหลักกิโลเมตรที่ 43-44 กลายเป็นน้ำค้างแข็งหรือเหมยขาบจนขาวโพลน หลังอุณหภูมิบนดอยอินทนนท์ลดต่ำเหลือเพียง 3 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำสุดตั้งแต่เข้าสู่ช่วงหน้าหนาวของปีนี้ และเป็นการเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งครั้งที่ 3 ในช่วงหน้าหนาวปีนี้ โดย 2 ครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 และ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปสัมผัสความหนาวเย็นบนดอยอินทนนท์อย่างมาก และไม่พลาดที่จะเก็บภาพความสวยงามของน้ำค้างแข็งหรือเหมยขาบไว้เป็นที่ระลึก พร้อมชมทัศนียภาพที่สวยงามในหน้าหนาวบนดอยอินทนนท์ โดยเมื่อวานนี้ (9 พ.ย.65) มีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นดอยอินทนนท์ กว่า 2,700 คน

Advertisement

Verified by ExactMetrics