วันที่ 13 พฤษภาคม 2025

“ไทยคม5″ระส่ำ! “เศรษฐพงค์” จี้ยึดคืนคลื่น 3.5 GHzในสภาฯหลังหมดสัมปทาน

People Unity News : “ไทยคม5” ระส่ำ! “เศรษฐพงค์” จี้ยึดคืนคลื่น 3.5 GHz หลังหมดสัมปทาน ลั่น 5Gไทย ต้องทัดเทียมมาตรฐานโลก วอน “ดีอีเอส-กสทช.” เปิดประมูลคลื่น 3.5GHz เพื่อคนไทยได้ใช้ 5G เต็มคุณภาพ ระบุ เป็นประโยชน์ต่อระบบการแพทย์-ศก.ดิจิทัล สอดคล้องนโยบายรัฐ เตือนทำ “พีพีพี” ดาวเทียมไทยคม 5 ต้องรอบคอบ เปิดกว้าง โปร่งใส

เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2562 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นวาระการหารือ โดย พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิจไทย ขอหารือต่อที่ประชุมว่า วันนี้ตนมีเรื่องหารือที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเทคโนโลยีด้านสาธารณสุข ซึ่งเรื่องดังกล่าวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข มีความเป็นห่วงและติดตามอย่างใกล้ชิด ก่อนอื่นต้องขอของคุณนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส และทาง กสทช. ที่มีความตั้งใจและร่วมมือกัน เพื่อจัดประมูลคลื่นความถี่สำหรับ 5G ในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งจะสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการแพทย์ การสาธารณสุข ที่จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในอนาคตอันใกล้ แต่ประเด็นสำคัญที่ตนจะเน้นย้ำคือเรื่องคลื่นความถี่สำหรับ 5G โดยในปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีทิศทางหันไปใช้คลื่นความถี่ย่าน 3.5GHz ที่เป็นมาตรฐานสากลโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU ได้กำหนดไว้เช่นกัน และจะมีการผลิตอุปกรณ์หลักๆ มากมายบนย่าน 3.5GHz ดังกล่าวมากกว่าในย่านความถี่อื่นๆ

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า แต่ในแผนการประมูลคลื่นความถี่ที่จะเกิดขึ้นในต้นปีหน้าที่ กสทช. ได้ประกาศออกมานั้น ไม่ได้มีคลื่นความถี่ในย่าน 3.5GHz เลย จึงถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างมาก เนื่องจากถึงแม้ว่าจะสามารถนำคลื่นความถี่อื่นมาใช้ทำ 5G ได้ แต่อุปกรณ์ต่างๆ ที่ทั่วโลกผลิตมาอย่างแพร่หลายไม่ได้อยู่บนคลื่นความถี่เหล่านี้เป็นหลัก การใช้คลื่นความถี่ย่าน 2600 และ 700MHz ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนผู้ให้บริการ 5G ที่ยังมีไม่แพร่หลายนัก หากประเทศไทยใช้คลื่นความถี่ที่ไม่ได้รับความนิยม จะก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องอุปกรณ์ปลายทาง คือโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ 5G อื่นๆ ที่ไม่มีในท้องตลาด ส่งผลให้ประชาชนต้องใช้อุปกรณ์ที่จะมีราคาสูง

“ดังนั้นผมเห็นว่าควรเร่งการจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 3.5GHz ซึ่งในปัจจุบันคือย่านความถี่ Extended C-Band ที่ใช้ในดาวเทียมไทยคม 5 ในการให้บริการทีวีดาวเทียมเป็นส่วนใหญ่ และปัจจุบันนี้กำลังได้รับความนิยมลดน้อยลง จึงทำให้หลายประเทศก็ได้มีการเรียกคืนความถี่ย่าน 3.5GHz นี้จากดาวเทียมและนำมาจัดสรรเป็นความถี่สำหรับเทคโนโลยี 5G ที่มีประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า ประเทศไทยไม่ควรให้ความหวัง 5G บนคลื่นความถี่อื่น ที่ไม่ใช่ 3.5GHz ที่ถือว่าเป็นความถี่หลักของ 5G ดังนั้น กระทรวงดีอีเอส และ กสทช. ควรเร่งนำคลื่น 3.5GHz มาร่วมประมูลด้วย เพื่อให้ 5G ไทยเทียบเท่ามาตรฐานโลก สามารถรองรับอุปกรณ์จากทั่วโลกที่มีราคาถูกลงอย่างรวดเร็วจนสามารถสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลตามนโยบายของรัฐบาลได้” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า สำหรับดาวเทียมไทยคม 5 กำลังจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2564 ได้ใช้ความถี่ย่าน 3.5GHz ซึ่งถูกนำมาใช้ในการให้บริการทีวีดาวเทียมเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันนี้กำลังได้รับความนิยมลดน้อยลง ตัวอย่างเช่น ในหลายประเทศก็ได้มีการเรียกคืนความถี่ย่าน 3.5GHz นี้จากดาวเทียมและนำมาจัดสรรเป็นความถี่สำหรับเทคโนโลยี 5G แล้ว ดังนั้นประเทศไทยจึงควรพิจารณาหาแนวทางในการวางแผนการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 3.5GHz เพื่อนำมาจัดสรรให้กับ 5G เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ตนจึงขอฝากท่านประธาน ไปยังผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงดีอีเอส, กสทช. และคณะกรรมการ 5G แห่งชาติ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ช่วยพิจารณาประเด็นดังกล่าว และกรุณาแจ้งแนวทางการดำเนินงานให้ทางรัฐสภาทราบในโอกาสต่อไป

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เมื่อดาวเทียมไทยคม5 หมดสัญญาสัมปทานในปี 2564 แล้ว จะต้องมีการดำเนินการตาม พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) ซึ่งกระทรวงดีอีเอส และทาง กสทช. จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและมีนโยบายที่เปิดกว้างและดำเนินการอย่างโปร่งใส เพื่อให้ประชาชนและประเทศชาติได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ในส่วนสถานีภาคพื้นดิน (Ground Station) ที่ถูกสร้างในช่วงเวลาสัมปทาน ทั้งที่ตั้งไว้ในประเทศและต่างประเทศ เมื่อมีการเปลี่ยนผ่านจากระบบสัมปทานไปยังระบบใบอนุญาต จะทำให้ทรัพย์สินทั้งหมด ต้องถูกส่งมอบให้กับกระทรวงดีอีเอส เพื่อนำไปบริหารจัดการต่อ ซึ่งในส่วนนี้ทางกระทรวงดีอีเอส จะนำมาเป็นทรัพย์สินของรัฐในการเจรจา พีพีพี ด้วยหรือไม่ ตรงนี้ทางกระทรวง ดีอีเอส กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการดำเนินการอย่างรอบคอบ โปร่งใส เพื่อผลประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน

ส.ส.ประชาชาติวอน! ใช้สันติวิธีแก้ปัญหาชายแดนใต้

People Unity News : “ซูการ์โน-กมลศักดิ์” ส.ส.พรรคประชาชาติเสียใจ เหตุกราดยิงชุดรักษาหมู่บ้านยะลา แนะต้องยึดแนวทางสันติวิธีแก้ปัญหา และเพิ่มบทบาทผู้แทนประชาชนเจรจาแก้ปัญหา ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์แสดงความเสียใจพร้อมเรียกร้องรัฐบาลเร่งหาคนร้าย

เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2562 ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ ตัวแทน ส.ส.พรรคประชาชาติ ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งมีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่จุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่บ้านทางลุ่ม หมู่ที่ 5 ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา เมื่อคืนวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย

นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยกล่าวว่ารู้สึกตกใจที่ได้ทราบข่าวนี้ ซึ่งวันนี้ติดภารกิจประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐสภา หลังเสร็จสิ้นการประชุมจะรีบลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงที่จะแก้ปัญหาเพื่อยุติความรุนแรง ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยต่อการใช้ความรุนแรง แต่เห็นด้วยการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธีด้วยการเปิดโต๊ะเจรจา เชื่อว่านี่คือวิธีการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ดีที่สุด เพราะปัญหาภาคใต้มีการใช้กำลังพลและงบประมาณจำนวนมากมาตลอด 15 ปี แต่ไม่เคยมีการเปิดโต๊ะเจรจากันอย่างสันติวิธีโดยตัวแทนประชาชนที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนและทุกภาคส่วน ซึ่งนี่เป็นเรื่องสำคัญ หลังเสร็จสิ้นการประชุมสภาฯวันนี้ จะรีบลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตและครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บทันที แม้ว่าพื้นที่เกิดเหตุจะอยู่ในเขตเลือกตั้งอื่น แต่ในฐานะ ส.ส.ยะลา ชาวยะลาทุกคนคือประชาชนที่เราต้องดูแล

ด้านนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ และเลขานุการกรรมาธิการการยุติธรรม กฎหมาย และสิทธิมนุษยชน ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และกล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงการแก้ปัญหาหลายๆอย่าง สำคัญที่สุดในตอนนี้คือรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องรีบหาทางช่วยแหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บในขั้นต้น เราต้องรีบสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการกระทำของฝ่ายใดก็ตาม นโยบายของพรรคประชาชาติเรามุ่งเน้นใช้วิธีการสันติภาพในการแก้ปัญหา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าแม้ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจะลดลงแต่ การก่อเหตุแต่ละครั้งเปลี่ยนรูปแบบวิธีการที่รุนแรงมากขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์แสดงความเสียใจพร้อมเรียกร้องรัฐบาลเร่งหาคนร้าย

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มป้อมยาม จุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ประจำหมู่บ้านทุ่งสะเดา และชุดคุ้มครองตำบลลำพะยา หมู่ที่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เบื้องต้นได้รับเเจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 ราย และบาดเจ็บอีก 4 ราย ว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งการก่อเหตุครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุกาณร์ที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เกิดเหตุความไม่สงบพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

อย่างไรก็ดีคุณหญิงสุดารัตน์ เห็นว่าการดูแลของฝ่ายความมั่นคง ต้องยกระดับให้ทั่วถึงเพื่อสร้างความความปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่ พร้อมเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุ สอดคล้องไปกับการใช้ยุทธวิธีการเจรจาเพื่อหาทางออก โดยน้อมนำพระราชดำรัส ‘เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา’ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแนวทางในการเดินหน้าสร้างสันติสุข

ทั้งนี้คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ชี้ให้เห็นว่าแม้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการเพิ่มงบประมาณความมั่นคงสูงขึ้นทุกปี แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่ายังไม่สามารถตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาได้ จึงอยากเสนอให้จัดสรรงบประมาณอย่างโปร่งใส โดยเฉพาะเรื่องงบลับซึ่งอาจทำให้สังคมเคลือบแคลงใจ อีกทั้งในส่วนกระบวนการยุติธรรม ต้องป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาและได้รับความเป็นธรรมทุกฝ่าย เพราะถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในพื้นที่

“บิ๊กตู่”ยันไม่ให้”สม รังสี”ใช้ไทยเป็นทางผ่านเข้ากัมพูชา

People Unity News : “บิ๊กตู่”ยันไม่ให้”สม รังสี”ใช้ไทยเป็นทางผ่านเข้ากัมพูชา ต้องยึดมติอาเซียนที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกิจการภายในของประเทศอื่น

เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ทำจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีขอเดินทางเข้าไทยเพื่อเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาจะอนุญาตหรือไม่ว่า รัฐบาลได้ส่งหนังสือยืนยันไปแล้ว ไม่อนุญาตให้บุคคลที่ทำผิดกฎหมายใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ซึ่งไทยปฏิบัติตามมติอาเซียนที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกิจการภายในของประเทศอื่นและไม่ยอมให้ผู้ต่อต้านรัฐบาลใช้พื้นที่ประเทศไทยเคลื่อนไหว ซึ่งไม่ต้องทำหนังสือแจ้ง นายสม รังสี เพราะเป็นการพูดคุยระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลเท่านั้น

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ว่า ตนไม่ทราบการขอร้องของนายสม รังสี เพราะอยู่ในระหว่างติดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และไม่เห็นตั๋วเที่ยวบิน การบินไทยตามที่ปรากฏเป็นข่าว

ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ขอความร่วมมือในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ไม่ให้ทีมงานของนายสม รังสี เข้าประเทศนั้น นายดอน ยืนยันว่า ไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาพูดคุยในที่ประชุม ส่วนจะมีนอกรอบหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะการประชุมนอกรอบเป็นเรื่องของแต่ละประเทศ

“บิ๊กตู่”หวั่นส่งผลเจรจา! ขอสื่ออย่าขยายความถล่มยะลาดับ 15 ราย

People Unity News : “บิ๊กตู่”กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังจุดเสี่ยงชายแดนใต้ย้ำห่วงครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ขอสื่ออย่าขยายความหวั่นส่งผลเจรจา

เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จ.ยะลา ว่า ได้รับข้อมูลเบื้องต้นและการรายงานมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมาและวันเดียวกันนี้ได้กำชับในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยขอให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนระมัดระวังให้มากที่สุด เพราะบางจุดตรวจอยู่ห่างจากพื้นที่เมืองพอสมควร จึงอาจเป็นจุดอ่อนหรือจุดที่มีความเสี่ยง จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ตนเป็นห่วงครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งหมดรวมถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จึงได้สั่งการให้ทางศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ย้ำว่าเรามีมาตรการอยู่แล้ว แต่เมื่อใดก็ตามที่มีจุดอ่อนในการอยู่ร่วมกันหรือการตั้งฐานปฏิบัติการทุกคนก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันในเรื่องการแสวงหาความร่วมมือในการแก้ปัญหาไฟใต้นั้น กก็ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปเรียบร้อยแล้วในหลายเรื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียก็ยินดีที่จะร่วมมือกันในหลายๆด้าน ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก นอกจากนี้ที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเปลี่ยนเป้าโจมตีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารมาเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) และตำบลแทนนั้น มองว่าอะไรที่เป็นจุดอ่อนหรือจุดที่มีความเสียงสูง คิดว่าจุดเหล่านั้นก็มีความไม่ปลอดภัยทั้งสิ้น ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการเพิ่มมาตรการในการป้องกันตนเองได้อย่างไร โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งวันนี้ก็ได้มีการประชุมในส่วนของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)ซึ่งจะมีการประชุมในรายละเอียดว่าจะปรับมาตรการอะไรและอย่างไร รวมถึงการวางกำลังเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสม

“ต้องยอมรับว่าในบางจุด บางพื้นที่ เจ้าหน้าที่มีความเสี่ยงค่อนข้างมากเนื่องจากต้องดูแลประชาชนในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ห่างไกล จุดไหนเป็นจุดอ่อนก็พยายามจะใช้การกดดันในตรงนี้มาเพื่อให้เป็นผลต่อการเจรจาด้วย ซึ่งผมไม่ต้องการให้สื่อไปขยายความในเรื่องเหล่านี้เพราะจะเป็นผลเสียต่อการทำงานของเรา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าการพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาไฟใต้จะเริ่มโดยเร็วได้เมื่อไหร่ อีกทั้งเราได้มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะในการเจรจาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว อีกทั้งหลังมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะผู้เจรจาก็ได้มีการพูดคุยโดยเดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ประเทศมาเลเซียแล้ว สำหรับรูปแบบในการเจรจาก็ต้องมีการปรับภายในของเรา โดยมีการพูดคุยกันโดยตรงกับผู้ที่มีบทบาทในเรื่องของการใช้ความรุนแรง ซึ่งคาดว่าจะมีการพูดคุยกันในต่างประเทศ

“สิระ”จ่อชงทบทวนมติเชิญ”บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”แจงกมธ.”เสรีพิศุทธ์”

People Unity News : “สิระ”ยันมีคุณสมบัติครบนั่งกมธ.ปราบทุจริตจ่อทบทวนมติเชิญ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” แจงกมธ.พร้อมแนะ “เสรีพิศุทธ์” หาเวลาไปหาหมอบ้าง ขณะที่ประธาน กมธ.ป.ป.ช. เตรียมเชิญ”ประวิตร”เข้าชี้แจงรอบ 3 หลังส่งหนังสือชี้แจงอ้างติดประชุมครม. ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหมบอกลาประชุมครม.เหตุทำภารกิจสำคัญ

เมื่อเวลา 11.45น. วันที่ 6 พ.ย.2562 ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีจะเข้าไปดำรงแหน่งกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร  แทนส.ส.พลังประชารัฐที่ลาออกจากกมธ.ว่า ได้ยื่นลาออกจากกมธ.แก้ปัญหาหนี้สินแห่งชาติแล้ว เพื่อจะเข้าเป็นกมธ.ปราบทุจริตฯ ซึ่งในวันที่ 6 พ.ย.2562 พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อตนและน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ให้ที่ประชุมสภาฯรับรองการไปทำหน้าที่เป็นกมธ.ปราบทุจริตฯ คาดว่าตนและน.ส.ปารีณาจะไปร่วมประชุมกมธ.ได้ในวันที่ 13 พ.ย.นี้ การที่ส.ส.พลังประชารัฐ 2คนคือ นายพยม พรมเพชร ส.ส.สงขลา และนายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชานี ลาออกจากกมธ.ปราบทุจริตฯ เพราะกลัวติดคุก เนื่องจากมติต่างๆของกมธ.ถูกนักกฎหมายหลายคนท้วงติงว่า เป็นมติที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ดังนั้นตนจะเข้าไปทำหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศ ยืนยันว่า ตนและน.ส.ปารีณามีคุณสมบัติเหมาะสม เพราะเคยทำงานด้านตรวจสอบทุจริตมาก่อน

นายสิระกล่าวว่า สิ่งที่ตนจะเข้าไปเสนอต่อที่ประชุม กมธ.ปราบทุจริตฯคือ การทบทวนมติต่างๆของกมธ.อาทิ การเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงต่อกมธ.และกรณีการรื้อคดีนาฬิกายืมเพื่อนของพล.อ.ประวิตรว่า อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกมธ.หรือไม่ ยืนยันว่า เป็นการเข้ามาทำหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศ ไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง เชื่อว่าการประชุมกมธ.จะเป็นไปด้วยความราบรื่น  ขอฝากไปยังพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรว่า อายุเยอะแล้ว หากมีเวลาควรไปโรงพยาบาลตรวจสอบสุขภาพจิตและสุขภาพกายบ้าง รู้สึกเป็นห่วง จึงขอให้ไปเช็กสภาพร่างกายดูบ้าง

“ปารีณา” เตรียมพร้อมเข้าเป็น กมธ.ป.ป.ช.

นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ จะมีการเสนอชื่อตนเองและนายสิระ เข้าเป็นกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร แทนที่นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา และนายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคพลังประชารัฐ ที่แสดงความจำนงขอลาออกจากคณะกรรมาธิการฯ

นางสาวปารีณา ระบุถึงการทำหน้าที่ว่า ตั้งใจเข้าไปตรวจสอบว่าคณะกรรมาธิการฯ ใช้อำนาจเกินขอบเขตไปบ้างหรือไม่ เนื่องจากมี ส.ส.สมัยแรกจำนวนหนึ่งอ่อนต่อโลก ใช้อำนาจเกินขอบเขตหน้าที่ และอยากให้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธานกรรมาธิการฯ เรียนรู้ว่าการใช้อำนาจกรรมาธิการต่างจากการใช้อำนาจตำรวจ เพราะที่ผ่านมามีหลายครั้งใช้อำนาจเกินขอบเขต สุ่มเสี่ยงกระทำผิดกฎหมาย จึงอยากให้วางตัวให้เกียรติคนอื่น พูดจาให้นุ่มนวลลง พร้อมยืนยันว่า การเปลี่ยนตัวครั้งนี้ ไม่ได้เป็นยุทธศาสตร์หรือการสั่งการจากประธานยุทธศาสตร์พรรค แต่เป็นการหารือกันระหว่าง ส.ส.ด้วยกันเอง เพราะ ส.ส. 2 คนที่ลาออกกังวลว่าการลงมติต่างๆ อาจจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย

นางสาวปารีณา ยังระบุว่า อยากจะไปทำหน้าที่ตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดซื้อรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจ Tiger ซึ่งจัดซื้อสมัยที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยย้ำว่าไม่ได้เป็นการโต้ตอบทางการเมือง แต่ตรวจสอบเพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และจะขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล ส่วนที่ถูกวิจารณ์ว่า จะเป็นหนึ่งในคนที่มีบทบาทของกรรมาธิการชุดนี้ นางสาวปวีณาบอกว่าทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์แต่ขอให้ดูการทำหน้าที่ ติดตามตอนต่อไป

“เสรีพิศุทธิ์” เตรียมเชิญ”ประวิตร”เข้าชี้แจงรอบ 3

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า ได้เลื่อนวาระการแถลงข้อเท็จจริงของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับกรณีการเสนอร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน ในวันนี้ออกไปก่อนหลังนายประสาน หวังรัตนปราณี กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีของพล.อ.ประวิตร ได้ส่งหนังสือคำชี้แจงต่อกรรมาธิการแทน เนื่องจากพล.อ.ประวิตร ติดภารกิจประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ไม่สามารถเดินทางมาชี้แจงด้วยตัวเองได้

“ก่อนหน้านี้มีหนังสือมาถึงแล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 พิจารณารับฟังเหตุผลได้…ส่วนจะมีการเชิญเมื่อใดอีกนั้น ขอหารือภายในกรรมาธิการก่อน และขอบคุณทางไปยังพล.อ.ประวิตรที่ทำหนังสือชี้แจงดังกล่าวมา ทำให้เห็นว่าเป็นการให้เกียรติต่อสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าการทำหน้าที่ไม่มีนัยยะการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ต่างคนต่างทำหน้าที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน”

ส่วนกรณีที่มีคณะกรรมาธิการบางคนลาออกด้วยเหตุผลว่าไม่สามารถทำงานร่วมได้ เนื่องจากรับเรื่องจนล้น และมุ่งประเด็นการเมืองนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้รับเรื่องร้องเรียนมาแล้ว 135 เรื่อง รวมถึงการรับเรื่องวันนี้ เพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยย้ำว่ามุ่งปฏิบัติหน้าที่เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อน

ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตรได้ลาประชุม ครม. เพื่อทำภารกิจสำคัญ ส่วนจะเกี่ยวข้องเรื่องอะไรนั้น ตนไม่ทราบ แต่ไม่ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

“อนุทิน”โวภท.ส่งคนชำนาญมากบารมีร่วมแก้รธน. ไม่สนปชป.ส่ง”มาร์ค” นั่งประธาน

People Unity News : “อนุทิน”โวภท.ส่งคนชำนาญมากบารมีร่วมแก้รธน. ไม่สนปชป.ส่ง”มาร์ค” นั่งประธาน พร้อมโยนวิปรัฐบาลวางแนวทางแก้รัฐธรรมนูญ

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยอยู่ในระหว่างพิจารณาว่าจะส่งใครเข้าไปร่วมคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยกันภายในพรรค และได้เห็นวาระแล้วว่าต้องตั้งคณะกรรมาธิการฯ เพียงแต่ว่าอยู่ในระหว่างการคิดว่าจะเลือกใครที่เหมาะสมเข้าไป ซึ่งถือว่ายังไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะพรรคภูมิใจไทย มี 51 คนก็ต้องดูดีๆ ว่าจะส่งใคร ที่จะต้องมีความชำนาญ และมีบารมีมากเพียงพอที่จะไปพูดคุยได้

เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอนุทิน กล่าวว่า ขอดูในส่วนของพรรคภูมิใจไทยก่อน ส่วนพรรคอื่นค่อยพิจารณาทีหลัง อย่างไรก็ตาม พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องหารือร่วมกันและต้องให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ส่วนคนที่จะมานั่งในตำแหน่งนี้ควรจะเป็นคนของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ใครก็ได้ที่เหมาะสม ทำแล้ว ประเทศชาติได้ประโยชน์ ซึ่งตนเน้นในเรื่องนี้ และการทำงานของพรรคภูมิใจไทย เราตัดเรื่องเกมการเมืองออกไป เราเข้ามาทำงาน เพื่อต้องการทำประโยชน์ให้กับประชาชนและบ้านเมือง

เมื่อถามย้ำว่านายอภิสิทธิ์เหมาะสมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนเหมาะสมหมด หากมีความตั้งใจที่จะทำให้กับบ้านเมือง อย่าทำอะไร เพื่อตัวเองหรือเพิ่มอำนาจให้กับตัวเอง จากความรู้สึกที่ถูกรัฐธรรมนูญปี 2560 ลดอำนาจ ซึ่งรัฐธรรมนูญแล้วเป็นของสูงสุดของกฎหมายมีพระปรมาภิไธยอยู่ทำอะไรก็ต้องนึกถึงข้อนี้

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อเปิดทางตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากประชาชนเลือกตั้งเข้ามานั้น ตนไม่ได้คิดเรื่องนี้ และประเด็นดังกล่าวไม่ได้อยู่ในนโยบายการหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย แต่ถ้าดูแล้วมีประโยชน์มากกว่า เราก็พร้อมที่จะสนับสนุน ไม่มีปัญหาอะไร เพราะรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ได้มีอะไรที่เป็นปัญหาในการทำงานของพรรคภูมิใจไทย ส่วนที่ถูกกระแสโซเชียลโจมตีจุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคภูมิใจไทยนั้น เรื่องดังกล่าวมีทั้งโจมตี และชื่นชม อย่าไปคิดมากเดี๋ยวสมองแตก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี นายอนุทิน พร้อมด้วย นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์สมบัติ แทนประเสริฐสุข ประธานคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค และพันตำรวจตรีหญิงสุรีย์วัลย์ ไทยประยูร นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ให้การต้อนรับ Mr. Fayaz King, UNICEF Deputy Executive Director และ Mr. Thomas Davin, UNICEF Representative to Thailand

เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเข้ารับตำแหน่งใหม่ และขอหารือในประเด็นความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพเด็กและวัยรุ่น การป้องกันการระบาดของโรค (ที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน) และกรอบการทำงานตามกฎหมายเพื่อส่งเสริมโภชนาการที่ดีขึ้นสำหรับเด็ก ณ ห้องนารี ๒ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล

ภูมิใจไทยยนวิปรัฐบาลวางแนวทางแก้รัฐธรรมนูญ

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีการเสนอญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่หากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ก็ต้องขึ้นอยู่กับทางวิปรัฐบาลว่าจะมีแนวทางการทำงานอย่างไร เพราะพรรคภูมิใจไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่ต้องมีการทำงานร่วมกัน และ
เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมติของวิปรัฐบาลเช่นกัน

ไม่สะดวกติดประชุมครม.! “บิ๊กตู่” ยันส่งหนังสือแจ้ง กมธ.”เสรีพิศุทธ์”แทน

People Unity News : ไม่สะดวกติดประชุมครม.! “บิ๊กตู่” ยันส่งหนังสือแจ้ง กมธ.”เสรีพิศุทธ์”แทน ส่วน “บิ๊กป้อม” แจ้งลาประชุมทำภารกิจสำคัญ

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการเข้าชี้แจงการเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธานว่า วันนี้ไม่สามารถเดินทางไปชี้แจงได้เนื่องจากติดภารกิจประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยได้ทำหนังสือชี้แจงไปแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองรายกรัฐมนตรี มีภารกิจสำคัญเป็นเหตุให้ต้องลาการประชุมครม.ในวันนี้ว่า พล.อ.ประวิตร ได้แจ้งและได้คุยกันแล้ว

ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีเดียวกันว่า “ท่านได้ลาประชุม ครม. เพื่อทำภารกิจสำคัญ ส่วนจะเกี่ยวข้องเรื่องอะไรนั้น ตนไม่ทราบ แต่ไม่ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายบุกใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มป้อม ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านทางลุ่ม หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 14 นาย”

ไม่ต้องกู้IMF! “บิ๊กตู่”โวสถานะการเงินไทยแกร่ง เป็นเจ้าหนี้ได้แล้ว

People Unity News : ไม่ต้องกู้IMF!”บิ๊กตู่” โวสถานะการเงินไทยแกร่ง ประเทศเป็นเจ้าหนี้ได้แล้ว วาดฝันขึ้นเบอร์1โลก “Doing Business”

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณัรัฐมนตรี(ครม.) นายนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อรายงานผลการจัดอันดับความยาก – ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business 2020)

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า เรื่องการประกอบธุรกิจเราต้องเร่งดำเนินการ เพราะโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว เช่น การขอเอกสารกันไปมาหลายๆ เที่ยวในการขอใบประกอบการ บางอันสามารถขอผ่านออนไลน์ได้ บางอันจบได้ที่ศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส ซึ่งเป็นศูนย์แรกที่ทุกคนจะมารับทราบข้อมูลว่าต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะจบที่เดียว บางอย่างต้องไปหลายหน่วยงาน และขณะนี้กำลังปรับปรุงทุกอย่าง ตนขอบคุณทุกคนที่ทำให้ประเทศไทยได้อันดับต้นๆ ของโลก อะไรที่มันขึ้นดีทั้งนั้น อะไรที่ไม่ดีก็แก้กันไป แต่ถ้ามีปัญหาแล้วพูดกันอยู่เรื่อย สิ่งดีๆ ก็ไม่ได้พูด คนก็ไม่เข้าใจ กลายเป็นว่ารัฐบาลไม่ทำอะไร เราต้องช่วยกันแบบนี้เข้าใจหรือไม่ เขาเหนื่อยกันแทบตาย

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับคณะที่มาอีกว่า “ทำให้ขึ้นอันดับหนึ่งของโลกเลยแล้วกัน”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การที่ผู้บริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟมาเยือนประเทศไทยนั้นได้ชื่นชมมาตรการทางการเงินหลายอย่างเดินมาถูกทางแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานะทางการเงินของเราก็แข็งแรง และอาจจะแข็งแกร่งมากในเอเชีย ซึ่งยังต้องหาวิธีการอื่นๆ ควบคู่กันอีกด้วย

“ไอเอ็มเอฟเป็นเพื่อนเรา เราเป็นสมาชิก ไม่ได้หมายความว่าเราจ้องจะกู้ ไม่ใช่ เราเป็นประเทศผู้ให้แล้ว และเราก็เป็นเจ้าหนี้แล้ว เพราะฉะนั้น สัดส่วนการถือครองหุ้นหรือสัดส่วนงบประมาณที่เรามีอยู่ในไอเอ็มเอฟก็มากพอสมควร เราก็สามารถเป็นเจ้าหนี้ได้แล้ว เป็นประเทศผู้ให้แล้ว แทนที่จะเป็นประเทศผู้รับอย่างเดียว น่าภูมิใจนะ อยากให้สื่อทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ด้วย มันเป็นรายละเอียดปลีกย่อยเยอะแยะไปหมด ไม่ใช่สั่งวันเดียวแล้วทำพรุ่งนี้เสร็จ มันไม่ได้สักอัน และอย่างเรื่องนี้ถ้าไม่ทำกันมายาวๆ มันไม่เกิดหรอก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“บิ๊กตู่”หนุน”วราวุธ”ร่วมเชิญชวนใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก

People Unity News : “บิ๊กตู่”หนุน”วราวุธ”ร่วมเชิญชวนใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก “รมว.ทส.”เชิญชวนคนไทยลอยกระทง 1 ครอบครัว 1 กระทง ใช้วัสดุย่อยสลายตามธรรมชาติ ลดปัญหาขยะทางน้ำ

เวลา 08.30 น.วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่บริเวณด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการรณรงค์และประชาสัมพันธ์กิจกรรม ทำความดีด้วยหัวใจ ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก ภายใต้การนำของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะ

ทั้งนี้เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกิดความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน แนะนำแนวทางและวิธีการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมรณรงค์การลดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายยากก่อให้เกิดปัญหาขยะมูลฝอยและการจัดการขยะ โดยร่วมดำเนินงานกับเครือข่ายภาคธุรกิจเอกชน ทั้งห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ งดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้วกับลูกค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป

พลเอกประยุทธ์กล่าวขอบคุณภาคธุรกิจเอกชนและทุกหน่วยงาน ที่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมย้ำให้ทุกคนตระหนักและคำนึงถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน รณรงค์ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้เพื่อลดผลกระทบ สร้างความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกล่าวเชิญชวนให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจ เป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติพร้อมกับรัฐบาลในทุกมิติทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ต้องหมั่นฝึกฝน เรียนรู้ พัฒนาศักยภาพในทุกด้าน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศต่อไปข้างหน้า

พร้ิอมกันนี้นายวราวุธ ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความสะอาดแม่น้ำลำคลอง ช่วงเทศกาลลอยกระทงในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ว่า จุดมุ่งหมายของการลอยกระทง เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยขอขมาแม่น้ำลำคลองที่ให้ชีวิต ดังนั้นอย่าทำบาปก่อนทำบุญ จึงอยากฝากไปยังคนไทยที่จะร่วมกิจกรรมลอยกระทงอยากให้ลอยกระทง 1 ครบครัว 1 กระทง เพื่อลดปัญหาขยะในแม่น้ำลำคลอง รวมถึงลดภาระของเจ้าหน้าที่ที่จะมาเก็บเศษกระทงในวันต่อไปด้วย อย่างไรก็ตาม ขออย่าใช้โฟมหรือวัสดุที่ย่อยสลายตามธรรมชาติไม่ได้ จึงอยากให้มาช่วยกันรักษาแม่น้ำลำคลอง

“อนุสรณ์”ถาม”บิ๊กตู่”รู้เรื่องหรือไม่ IMF แนะใช้ศก.พอเพียงเป็นฐานปฏิรูปประเทศ

People Unity News : “อนุสรณ์”ถาม”บิ๊กตู่”รู้เรื่องหรือไม่ IMF แนะใช้ศก.พอเพียงเป็นฐานปฏิรูปประเทศ จี้ตอบ”ชิมช้อปใช้”กระุตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร

วันที่ 6 พ.ย.2562 ตามที่เมื่อเวลา 8.00 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2562ที่ผ่านมา ที่ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นางคริสตาลินา กอร์เกียวา (Mrs. Kristalina Georgieva) กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (Managing Director, International Monetary Fund: IMF) เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้

โดยนางคริสตาลินา ระบุว่า “ก่อนเดินทางมาประเทศไทย เพิ่งได้อ่านหนังสือและได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และคิดว่าเป็นหลักปรัชญาที่ทางไอเอ็มเอฟจะนำไปเผยแพร่ให้ทั่วโลกได้รับรู้ เพราะสอดคล้องกับหลักการของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ต้องการให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน” พร้อมแนะขอให้ประเทศไทยใช้เป็นฐานในการปฏิรูปประเทศนั้น

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ฟังไอเอ็มเอฟรู้เรื่อง ทำความเข้าใจได้ถูกต้องหรือไม่ อย่ามโนหลอกตัวเอง ติดเพียงแค่เปลือกว่า บรรยากาศการพบปะชื่นมื่น คำเตือนสำคัญของไอเอ็มเอฟ ระบุ ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ทั้งจากภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน หนี้ภาคครัวเรือนในระดับสูง การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ความเหลื่อมล้ำและความจำเป็นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่นโยบายการแจกเงินนั้นต้องใช้อย่างระมัดระวัง และต้องช่วยเพิ่มผลิตภาพของประเทศ ไม่ใช่การหว่านเงินอย่างเดียว ต้องมีกลไกรองรับและให้เงินเข้ากระเป๋าประชาชนด้วย พล.อ.ประยุทธ์ มีคำตอบหรือยังว่า มาตรการแจกเงิน ชิมช้อปใช้เฟส 1 และชิมช้อปใช้เฟส 2 กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงใด จะเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้ เป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ว่าจะมีเงินหมุนไปกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 หมื่นล้านบาท ยังห่างไกลความเป็นจริงอยู่มาก นอกจากไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่รัฐบาลต้องการ ยังส่งเสริมให้ประชาชนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น ซึ่งย้อนแย้งกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ ประชาชนออมเงินเพื่อความมั่นคงในระยะยาว เลิกได้แล้ว การโหนโพลที่ตัวเองได้ประโยชน์ แต่โพลที่เข้าเนื้อตัวเองเสียหาย เงียบกริบกันทั้งรัฐบาล

“พอจะถูกตัด GSP บอกว่าเศรษฐกิจไทยโตเร็วเกินไป แต่อีก 2 วัน กลับมาพูดใหม่ว่า เศรษฐกิจไทยโตช้า จึงตั้งคำถามว่า พลเอกประยุทธ์ รู้และเข้าใจภาวะที่แท้จริงของเศรษฐกิจไทยในระดับใด เลยอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า พลเอกประยุทธ์ ฟังคำเตือน ไอเอ็มเอฟ รู้เรื่องหรือไม่ และจะปฏิรูปเศรษฐกิจไทยอย่างไร” นายอนุสรณ์ กล่าว

Verified by ExactMetrics