วันที่ 3 กรกฎาคม 2025

กมธ.งบฯ63 เตรียมถกปม”ธนาธร”ไทยโดนตัดสิทธิ์ GSP

People Unity : “วิรัช”เผยกมธ.งบฯ63 เตรียมถกประเด็นสถานะ “ธนาธร” เย็นนี้ เตรียมคุยปัญหาตัดสิทธิ์ GSP กับกระทรวงพาณิชย์

วันที่ 28 ต.ค.2562 นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 กล่าวถึงการประชุมวันนี้ว่า เป็นการพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนอกจากการพิจารณาเกี่ยวกับงบประมาณแล้ว ก็จะมีการสอบถามกรณีประเทศสหรัฐอเมริกาตัดสิทธิพิเศษทางภาษี หรือ GSP ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์โดยตรง

สำหรับสถานะของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการ ที่ศาลสั่งไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. นายวิรัชกล่าวว่า ถ้าดูเบื้องต้น นายธนาธรสามารถลงชื่อและร่วมออกความเห็นในที่ประชุมได้ ส่วนบทบาทอื่นๆ ต้องรอความชัดเจน โดยหลังจากการพิจารณางบประมาณกระทรวงพาณิชย์แล้ว ในช่วงเย็น นายอุตตม สาวนายน ประธานกรรมาธิการฯ ก็จะเดินทางมาเป็นประธานที่ประชุมเพื่อหารือเรื่องนี้ร่วมกัน และเป็นหน้าที่ของประธานกรรมาธิการที่จะทำหนังสือหารือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร หากต้องการให้มีการวินิจฉัยสถานะของนายธนาธร แต่ไม่สามารถตอบแทนนายอุตตมได้ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะต้องมีการหารือกันในที่ประชุม

นายวิรัช เปิดเผยด้วยว่า นอกจากการพิจารณาเกี่ยวกับงบประมาณของกระทรวงพาณิชย์แล้ว กรรมาธิการยังต้องมีการหารือกันถึงกรอบเวลาการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด พิจารณาไม่น้อยกว่า 280 ชั่วโมง โดยสิ้นสุดภายในวันที่ 27 ธันวาคมนี้

“ธนาธร”ไม่หวั่น! สมาชิก “อนค.” เตรียมลาออก ทำใจมีเข้าออกเป็นสัจธรรม

People Unity : “ธนาธร-ปิยบุตร” พบพนักงานอัยการคดีวิจารณ์พลังดูด -ดูหมิ่นศาล ขอสังคมติดตามด้วยใจเป็นธรรม 20 กว่าคดี “อนาคตใหม่” เพราะผิด กม.จริง หรือขัดใจผู้มีอำนาจ? ไม่หวั่นสมาชิกพรรคเตรียมลาออกเป็นสัจธรรมมีเข้าออก

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม เวลา 09.00น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานอัยการ เพื่อฟังคำสั่งในคดีที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จากกรณีจัดรายการผ่านเฟซบุคไลฟ์วิจารณ์พลังดูดของรัฐบาล คสช. ซึ่งคดีดังกล่าวพนักงานอัยการได้มีคำสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาทำความเห็นกลับมา ว่าจะยืนยันฟ้องต่อหรือไม่ หากยืนยันสั่งฟ้องตามสำนวน ก็จะต้องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาต่อไป พร้อมกันนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ก็ได้เดินทางมาพบพนักงานอัยการเช่นเดียวกัน ในคดีที่กองบังคับการปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ปอท.) ได้ยื่นฟ้องนายปิยบุตรในข้อหาดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ จากกรณีแถลงข่าววิจารณ์การยุบพรรคไทยรักษาชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพบพนักงานอัยการ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หัวหน้าทีมทนายความของทั้งสองคน ระบุว่า จากการพบพนักงานอัยการวันนี้ ในส่วนคดีของนายธนาธร ล่าสุดปรากฏว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงไม่ทำความเห็นกลับมา โดยพนักงานอัยการจะนัดนายธนาธรมาพบอีกครั้งในวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ซึ่งหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเห็นด้วยกับอัยการก็จบ หากมีความเห็นยืนยันสั่งฟ้อง ก็จะเป็นการพิจารณาของพนักงานอัยการต่อไป ส่วนคดีของนายปิยบุตรนั้น วันนี้เป็นวันที่ ปอท.ต้องนำส่งตัวให้สำนักงานอัยการสูงสุด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเห็นฟ้องเพียงข้อหาดูหมิ่นศาล ตาม ป.อาญา มาตรา 198 แต่ไม่ฟ้องในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งพนักงานอัยการจะขอนัดเพื่อฟังคำสั่งในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 โดยในคดีนี้ ทางทีมทนายความจะยื่นร้องขอความเป็นธรรมในการสอบพยานเพิ่มเติม เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่ได้มีการสอบพยานเพิ่มเติมในส่วนของผู้ถูกร้องตามที่ได้ขอไปตั้งแต่ต้น

ด้าน ปิยบุตร กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน ตนอยากเรียนให้ทราบว่าคดีต่างๆ ที่พรรคอนาคตใหม่โดนฟ้องรวมๆ 20 กว่าเรื่องในขณะนี้ ทุกคนคงวิเคราะห์กันได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ทั้งๆที่เรายังไม่ได้มีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินเลย แต่กลับมีความคิดความเชื่อเต็มไปหมดว่าจะถูกยุบพรรค ตัดสิทธิ จำคุก ฯลฯ ทำให้ตนต้องขอถามกลับไปตรงๆ ว่าทุกคนรู้สึกว่าพรรคอนาคตใหม่ทำผิดกฎหมายจริงๆ หรือ หรือว่าเพียงเพราะมีแนวทางที่ผู้มีอำนาจไม่สบายใจจึงต้องโดนกระทำเช่นนี้ อย่างในกรณีหุ้นสื่อที่นายธนาธรโดนอยู่ในตอนนี้ ท้ายที่สุดแล้วรัฐธรรมนูญมาตรานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมิต้องการให้ ส.ส.หรือรัฐมนตรีมีอิทธิพลในการครอบงำสื่อ นี่คือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้น ต้องดูว่ากิจการที่ถือหุ้นนั้นเป็นสื่อหรือไม่ และการถือหุ้นนั้นมีมากน้อยเพียงใดถึงขั้นมีอิทธิพลครอบงำสื่อ แต่ บริษัท วี-ลัค มีเดีย ไม่ได้เป็นสื่อมวลชน เป็นเพียงบริษัทที่รับจ้างผลิตรูปเล่ม ไม่ได้กำหนดเนื้อหา และก็ปิดกิจการเรียบร้อย และนายธนาธรก็ได้โอนหุ้นไปหมดตั้งแต่ 8 มกราคม แต่นายธนาธรกลับถูกเล่นงานตามมาตรานี้ เมื่อเปรียบเทียบกับกรณี ส.ส.คนหนึ่ง ไม่ได้ถือหุ้นสื่อเลย แต่มีคู่สมรสถือหุ้นสื่อ เป็นเจ้าของสื่อโดยตรง มีอิทธิพลครอบงำสื่อ นำสื่อมาใช้เป็นเครื่องมือโจมตีฝ่ายตรงข้าม แต่ ส.ส.คนนี้กลับไม่โดนอะไรเลย ตกลงแล้วรัฐธรรมนูญมาตรานี้ ต้องการจัดการนักการเมืองที่ครอบงำสื่อจริงๆหรือกลายเป็นเครื่องมือที่ใช้กลั่นแกล้งกันแน่

“หรืออย่างคดีของตน หลักฐานที่ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ใช้ในการร้องทุกข์กล่าวโทษก็อ่อนมาก ถอดเทปมาแบบผิดๆถูกๆ ไม่ตรงกับที่ตนพูด ตนสอนกฎหมายมา วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญมาทั้งชีวิตไม่เคยโดนคดีอะไรเลย แต่พอมาเป็นนักการเมืองกลับโดนคดีทันที” นายปิยบุตร กล่าว

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีอดีตผู้สมัครของพรรคจะรวมตัวกันลาออกกว่า 50 คน ซึ่ง นายธนาธร กล่าวว่า เป็นสิทธิของแต่ละคน ไม่มีผลกระทบอะไรกับพรรค พรรคอนาคตใหม่มีสมาชิกกว่า 60,000 คน เรายืนยันจะก้าวไปข้างหน้าโดยที่ให้สมาชิกมีบทบาทและมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น ส่วนตนไม่มีความกังวลใจอะไร ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ตนขอยืนยันว่าการสร้างพรรคที่ทำมาเพียง 1 ปีครึ่ง แน่นอนว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ เราจะนำประสบการณ์และความผิดพลาดมาเรียนรู้สร้างสรรค์พรรคให้ดีขึ้น

“การลาออกของสมาชิกพรรคเป็นกระบวนการปกติ มีคนเข้า มีคนออก ยอมรับว่าแน่นอนการเลือกผู้สมัคร ส.ส.ที่ผ่านมามีเวลาสั้นมาก มีเวลาเพียง 2 เดือนในการคัดสรรผู้สมัคร จึงทำให้เราไม่สามารถคัดกรองคนที่มีอุดมการณ์ได้ 100% สถานการณ์และเวลาจะพิสูจน์คน ดังนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกพรรคการเมืองย่อมเป็นแบบนี้ มีคนเดินเข้าก็มีคนเดินออก ทุกวันนี้คนจำนวนมากอยากเข้ามาเป็นสมาชิก อยากเข้ามาร่วมทำงานกับพรรค กรณีนี้จึงไม่ใช่ปัญหาอะไร จึงขอให้ทุกคนตัดสินด้วยใจเป็นธรรม คำถามที่ตนอยากถามกับสังคมอย่างตรงไปตรงมา การเข้ามาทำงานการเมืองในระบบ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ เป็นสิ่งที่ผิดบาปมากขนาดนั้นเลยหรือ” นายธนาธร กล่าว

“อภิสิทธิ์”เข้าวัด”ม.สงฆ์ มจร”! บรรยาย “สติสำคัญต่อภาวะผู้นำอย่างไรในโลกยุคดิจิทัล”

People Unity : “อภิสิทธิ์”เข้าวัด”ม.สงฆ์ มจร”! บรรยาย “สติสำคัญต่อภาวะผู้นำอย่างไรในโลกยุคดิจิทัล” ที่วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ (IBSC) พร้อมชมห้องกงล้อชีวิตพระพรหมบัณฑิต

วันที่ 28 ต.ค.2562 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้บรรยายเรื่องสติสำคัญต่อภาวะเป็นผู้นำอย่างไรในโลกยุคดิจิทัล ภาษาอังกฤษ ที่ I Mind วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ (IBSC) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,รศ.ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร. และรศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป มจร ให้กับต้อนรับ พร้อมชมห้องกงล้อชีวิตพระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมคม เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส อดีตอธิการบดี

“อนค.” เดือดโต้ “สิระ”! ฉุนเปรียบ “ธนาธร” เป็นไส้เดือน

People Unity : “อนค.” เดือดโต้ “สิระ”! ฉุนเปรียบ “ธนาธร” เป็นไส้เดือน เหตุนั่ง กมธ.งบฯ63 แนะทำหน้าที่ให้สมกับกินภาษีของประชาชน

วันที่ 28 ต.ค.2562 นายคารม​ พลพรกลาง​ ส.ส.บัญชื่อรายชื่อพรรคอนาคตใหม่​ ตั้งคำถามไปยังนาย​สิระ​ เจนจาคะ​ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่เดินหน้าเรียกร้องให้นายธนาธร​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี2563 ว่า “ผมถามไปยังคุณ​สิระว่าในเมื่อประธานสภาฯ ออกมาให้แนวทางเกี่ยวกับการเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการของคุณธนาธรแล้ว​ คุณสิระยังไม่หยุดเรียกร้องให้คุณธนาธรลาออก​ แล้วแบบนี้คุณสิระจะใช้แนวทางใดในการยึดปฏิบัติ

ส่วนกรณีที่เป็นห่วงว่าจะสิ้นเปลืองภาษีประชาชนที่ต้องนำมาจ่ายเบี้ยประชุมให้คุณธนาธรนั้น​ ประเด็นนี้ผมเป็นคนอ่านยังรู้สึกอาย​ แล้วคุณสิระเป็นคนพูดไม่รู้สึกละอายเลยหรือ​ ประชาชน​และสังคม​ทราบนี้ว่าใครที่อยู่ในตำแหน่งส.ส.แล้วเปลืองภาษี​ ประชาชนจ่ายภาษีให้นักการเมืองไร้ศักยภาพมาตลอด 5 ปี​หากคุณสิระตระหนักประเด็นนี้จริงผมแนะนำให้ไปทำงานที่เป็นชิ้นเป็นอันจะดีกว่า​

อีกประเด็นที่อยากถามคือ​ คุณสิระว่ากลัวคุณธนาธรทำงานได้เต็มศักยภาพหรือกลัวคุณธนาธรเป็นอุปสรรคในการอนุมัติงบประมาณแผ่นดินที่ไม่สมเหตุสมผลกันแน่​

สุดท้ายผมเรียกร้องให้คุณสิระสำนึกในภาษีประชาชนอย่างที่ปากพูดและหยุดพฤติกรรมที่ไร้วุฒิภาวะแบบนี้​เสียที ที่ผ่านมาประชาชนคงเห็นผลงานความกร่างกันดีแล้ว  ควรจบประเด็นนี้ได้แล้ว​ และหากกลัวว่าการทำหน้าที่คุณธนาธรจะเปลืองภาษีประชาชน​ คุณสิระลาออกเลยครับรับรองคุ้มค่าภาษีประชาชนและกอบกู้ภาพลักษณ์นักการเมืองได้มากขึ้นอีกด้วย”

ก่อนหน้านี้นายสิระ ได้แสดงความเห็นว่า วันนี้สถานะของนายธนาธรไม่ต่างจากไส้เดือนที่มี 2 เพศ ซึ่งถ้านายธนาธนยังอยากเรียกตัวเองว่ามนุษย์ มีเกรียติและศักดิ์ศรี ก็ควรจะยุติปัญหาที่ตนเองได้ อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นตัวถ่วงในการพัฒนาประเทศ จะเอาอย่างไรเลือกเอาสักทางหนึ่ง หากยังยืนยันที่จะเป็นกรรมาธิการก็ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.ไป

นายสิระ กล่าวต่อว่า หากตนอยู่ในสถานะเดียวกับนายธนาธร ที่เป็นถึงหัวหน้าพรรค ตนจะยอมเสียสละลาออกจากกรรมาธิการและเปิดโอกาสให้ ส.ส.ที่มีคุณภาพในพรรคอนาคตใหม่ได้ทำงานแทน เรื่องนี้มองได้ 2 ข้อ 1.คือในพรรคของนายธนาธรไม่มีผู้ที่ทีความรู้ความสามารถอีกแล้ว หรือ 2 นายธนาธรกำลังเอาเก้าอี้กรรมาธิการไปเล่นเกมการเมือง

“สิระ”ไล่”ธนาธร”พ้นเก้าอี้กมธ.งบฯ63 อย่าทำตัวเป็น”ไส้เดือน”

People Unity : “สิระ”ไล่”ธนาธร”พ้นเก้าอี้กมธ.งบฯ63 แนะเลือกสักทางจะเป็น ส.ส.หรือ กมธ.อย่าทำตัวเป็น “ไส้เดือน” หยุดถ่วงความเจริญของประเทศ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 28 ต.ค.2562 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่เสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเป็นหนึ่งใน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ในสัดส่วนของพรรคอนาคตใหม่ว่า ตนขอเรียกร้องให้นายธนาธรลาออกจากการเป็นกรรมาธิการชุดนี้ เนื่องจากว่าหากธนาธรยังปฎิบัติหน้าที่อยู่ แต่ก็ไม่สามารถลงมติในฐานะกรรมาธิการได้ นายธนาธรควรที่จะพิจารณาตัวเองว่า ยังมีเกรียติและศักดิ์ศรีหรือไม่ในการนั่งเก้าอี้กรรมาธิการ ตนมองว่านอกจากจะไม่ได้ประโยชน์แล้ว ยังสิ้นเปลืองภาษีของประชาชนที่ต้องนำมาจ่ายค่าเบี้ยประชุมกรรมาธิการให้กับนานธนาธรอีกด้วย

“วันนี้สถานะของนายธนาธรไม่ต่างจากไส้เดือนที่มี 2 เพศ ซึ่งถ้านายธนาธนยังอยากเรียกตัวเองว่ามนุษย์ มีเกรียติและศักดิ์ศรี ก็ควรจะยุติปัญหาที่ตนเองได้ อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นตัวถ่วงในการพัฒนาประเทศ จะเอาอย่างไรเลือกเอาสักทางหนึ่ง หากยังยืนยันที่จะเป็นกรรมาธิการก็ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.ไป”นายสิระ กล่าว

นายสิระ กล่าวต่อว่า หากตนอยู่ในสถานะเดียวกับนายธนาธร ที่เป็นถึงหัวหน้าพรรค ตนจะยอมเสียสละลาออกจากกรรมาธิการและเปิดโอกาสให้ ส.ส.ที่มีคุณภาพในพรรคอนาคตใหม่ได้ทำงานแทน เรื่องนี้มองได้ 2 ข้อ 1.คือในพรรคของนายธนาธรไม่มีผู้ที่ทีความรู้ความสามารถอีกแล้ว หรือ 2 นายธนาธรกำลังเอาเก้าอี้กรรมาธิการไปเล่นเกมการเมือง

“ส่วนตัวตนไม่ได้มีปัญหากับนายธนาธรหรือพรรคอนาคตใหม่ แต่ระยะเวลาที่กรรมาธิการชุดนี้จะต้องทำงานอีก 150 จะเกิดเป็นปัญหาในอนาคตจากนายธนาธร จนทำให้เศรษฐกิจของประเทศชะงักจากการที่ พรบ.งบประมาณไม่ผ่านการอนุมัติจากสภาฯหรือไม่”นายสิระ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ “ไส้เดือน” นั้นได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีคุณประโยชน์ต่อพืชและสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชนั้นมูลไส้เดือนนับได้ว่าเป็นอาหารชั้นยอดของพืชมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หลายร้อยชนิด ทำให้พืชเจริญงอกงามพร้อมกับเป็นปรับสมดุลของดิน ส่วนสัตว์นั้นไส้เดือนนับเป็นอาหารอันโอชะไม่ว่าจะเป็นนก ไก่ คางคก หนู เป็นต้น อีกทั้งยังทำหน้าที่ในการกำจัดขยะเปรียบเหมือนเป็นโรงงานปุ๋ย คนที่ไม่เป็นประโยชน์ของไส้เดือนจึงได้หันไปใช้สารเคมี ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีและยากำจัดวัชพืช

“ชวลิต”แนะผู้ว่าฯกลุ่มจังหวัดภาคกลางมีวิสัยทัศน์ผลิตผักปลอดภัยแทนนำเข้าจีน

People Unity : “ชวลิต”เสนอผู้ว่าฯกลุ่มจังหวัดภาคกลางแสดงวิสัยทัศน์ผลิตผักปลอดภัยทดแทนการนำเข้าจากจีน

วันที่ 27 ต.ค.2562 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นหลังจากเรียกร้องให้รัฐบาลติดตั้งห้องแล็บสำหรับสุ่มตรวจผัก ผลไม้ ที่นำเข้าจากจีนผ่านด่านเชียงของ จ.เชียงราย โดยไทยนำเข้าผักจากจีนผ่านด่านเชียงของ มีมูลค่าถึงปีละกว่า 3,000 ล้านบาทนั้น ตนเห็นว่า ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมแท้ ๆ แต่กลับนำเข้าผักจากจีน ส่งผลให้เงินตราออกนอกประเทศไปอย่างไม่ควรจะเป็น

ช่วงนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กมธ.วิสามัญงบประมาณ 25863 จึงขอฝากข้อสังเกตไปยังอนุกรรมาธิการจังหวัดและท้องถิ่นที่กำลังจะตั้งขึ้น ควรเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคกลางและเกษตรจังหวัด มาแสดงวิสัยทัศน์ในการผลิตผักปลอดภัยป้อนตลาดสี่มุมเมืองเพื่อขอรับงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด สนับสนุนเกษตรกรต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดควรได้มีโอกาสแสดงวิสัยทัศน์วางแผนหารายได้เข้าจังหวัดของตนเองผ่านการพิจารณาของ กมธ.วิ.งบประมาณ ซึ่งผมมั่นใจว่าผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถทำได้แม้ว่าในชั้นนี้ อาจจะปรับงบประมาณไม่ทันในปีนี้ แต่ปีหน้าน่าจะวางแผนได้ทัน ซึ่งก็เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะพิจารณางบประมาณ ปี 2564 แล้ว

“ผมเสียดายเงินปีละกว่า3,000 ล้านบาท ที่จะออกไปยังต่างประเทศ ทั้ง ๆ ที่เราเป็นประเทศเกษตรกรรมแท้ ๆ น่าจะวางแผนผลิตผักปลอดภัยป้อนผู้บริโภคภายในประเทศเองได้ และถ้าสามารถควบคุมการผลิตให้ถึงขั้นตรวจสอบย้อนกลับไปยังแปลงผักได้ ก็จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ใคร ๆ ก็ต้องการบริโภคผักปลอดภัย ส่วนคำถามที่ว่า เมื่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายแบนสารพิษอันตราย 3 ตัวไปแล้ว ควรจะมีทางเลือกอะไรทดแทนหรือเยียวยาเกษตรกรอย่างไร นั้น กมธ.ติดตามความเห็นของรัฐบาลอยู่ ขณะเดียวกัน กมธ.ก็ทำงานคู่ขนาน ทั้งไปศึกษา ดูงานยังพื้นที่ที่ทำโครงการเกษตรอินทรีย์แปลงใหญ่ประสบความสำเร็จ ทั้งเชิญอาจารย์ นักวิชาการหลายมหาวิทยาลัยที่มีองค์ความรู้เกษตรอินทรีย์ เครื่องจักรกลการเกษตร มาให้ความรู้แก่ กมธ.ที่สภา ฯ

นอกจากนี้ กมธ.ยินดีรับข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่มีความเห็นร่วมกันในการพัฒนาด้านการเกษตรให้ปลอดภัยทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค ทั้งหมดทั้งมวลนั้น กมธ. กำลังรวบรวมจัดทำเป็นรายงานของ กมธ.เพื่อรายงานต่อสภา ฯ เป็นข้อเสนอแนะ ข้อสังเกตของสภา ฯ แจ้งไปยังรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ กมธ.มีเวลาทำงานถึงวันที่ 12 พ.ย.62 นี้ ครบเวลา 60 วัน ตามที่สภา ฯ มอบหมาย ซึ่งคาดว่างานจะสำเร็จตามภารกิจที่ได้รับมาอย่างทันการณ์

“ธรรมนัส”เป็นปธ.ทอดกฐินพะเยาสามัคคี บอกรอขายข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทต่อตัน

People Unity : “ธรรมนัส”เป็นปธ.ทอดกฐินพะเยาสามัคคี ขอรอฟังเสียงนกหวีดขายข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทต่อตัน ตามโครงการพะเยาโมเดล

วันที่ 27 ต.ค.2562 ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีทอดกฐินสามัคคี ที่วัดปัวใหม่ ต. ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยมีอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กรมฝนหลวง สำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยตัวแทนราชการส่วนท้องถิ่น ร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง โดยมีประชาชนในพื้นที่มาร่วมในงานทอดกฐินสามัคคีเป็นจำนวนมาก โดยยอดทำบุญกฐินมีจำนวนทั้งสิ้น 4, 200, 870 บาท( สี่ล้านสองแสนแปดร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน )

ร.อ.ธรรมนัส ยังได้ร่วมในประเพณีทำบุญสลากภัตที่วัดทุ่งกิ่ว อ.เมือง จ.พะเยา และได้กล่าวกับประชาชนที่มาร่วมงานว่า ช่วงที่ยังไม่ได้เป็น ส.ส. ตนได้หาเสียงกับพี่น้องชาวพะเยาว่า ในฐานะที่ตนเป็นลูกชาวนา มีเป้าหมายพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ชาวนาพะเยามีรายได้มากขึ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตนในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แถลงข่าวโครงการพะเยาโมเดล โดยเบื้องต้นได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการซื้อขายข้าวหอมมะลิ ระหว่างสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่จังหวัดพะเยา กับ บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด ภายใต้พะเยาโมเดล โดยให้ ซีพี รับซื้อข้าวหอมมะลิ ความชื้น 15 % ได้ในราคาที่ 18,000 บาทต่อตัน จำนวน 40,000 ตัน จากชาวนาในจังหวัดพะเยา ซึ่งสูงกว่าราคาประกันข้าวหอมมะลิของรัฐบาล 3,000 บาทต่อตัน หรือราคาสูงกว่าต้นทุนการผลิต 5,000-6,000 บาทต่อตัน

นอกจากนี้ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด มีกำหนดจัดงาน “วันเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิโลก” ณ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา และในเร็ว ๆ นี้ จังหวัดพะเยาเตรียมจัดงานเจรจาซื้อขายข้าวหอมมะลิระหว่างคู่ค้าเอกชนรายอื่น ๆ ดังนั้น ตนขอให้พี่น้องชาวพะเยา รอฟังเสียงนกหวีดเพื่อประกาศวันรับซื้อข้าวหอมมะลิ ในราคาดังกล่าว ระหว่างนี้ขอให้รอหลังเก็บเกี่ยวอย่าเพิ่งนำไปขาย อย่าให้พ่อค้าคนกลางเอาเปรียบอีก

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวว่า พะเยาโมเดล ยังจะขยายโครงการไปยังพืชอื่น อาทิ ยางพารา ลำใย ลิ้นจี่ ข้าวโพด มันสำปะหลัง เลี้ยงสัตว์ ไข่ไก่ เป็นต้น โดยเฉพาะราคายางพาราจะมีเป้าหมายร่วมเอกชนรับซื้อที่ราคา 65 บาทต่อกิโลกรัมด้วย เมื่อทำสำเร็จจะนำเป็นตัวอย่างขยายไปจังหวัดอื่นต่อไป

สุดอลังการ!กุนซือ”บิ๊กป้อม”เปิดงาน มหกรรมอาหารนานาชาติสารคาม

People Unity : สุดอลังการ!กุนซือ”บิ๊กป้อม”เปิดงาน มหกรรมอาหารนานาชาติสารคาม ขณะลงพื้นที่ภาคอีสานติดตามผลการช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลด เผย”ประวิตร”ยันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากควบคู่กันไป

เมื่อ 27 ต.ค.2562 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ (พล.อ.ประวิตร) ลงพื้นที่ติดตามนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ในการช่วยเหลือฟื้นฟู หลังน้ำลดพื้นที่ภาคอีสาน ได้แก่ จ.มหาสารคาม จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด

ทั้งนี้ผู้แทนประชาชนของจังหวัดดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วม ตั้งแต่เริ่มน้ำท่วม กระทั่งการฟื้นฟู ได้แสดงความขอบคุณรัฐบาล ที่มีความห่วงใย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาดูแลช่วยเหลือ มีทั้งการมอบสิ่งของจำเป็น เงินชดเชย การซ่อมแซม การซ่อมแซมบ้านพักอาศัย โดยเฉพาะการแก้ปัญหาดินทราย ที่มากับกระแสน้ำเข้าไปในพื้นที่ทำนาเป็นบริเวณกว้าง ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยทหารในพื้นที่และ เจ้าหน้าที่รัฐจากส่วนกลางมาให้การสนับสนุนจนสามารถกลับมาใช้พื้นที่สำหรับการปลูกข้าวและพืชไร่ได้ตามปกติซึ่งชาวบ้านมีความพอใจในการช่วยเหลือที่รัฐบาลมอบให้เป็นอย่างมากเป็นการสะท้อนความจริงใจและทำตามที่รัฐบาลเคยพูดไว้เสมอว่าจะไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง

หลังจากนั้นนายประสานได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานพิธีไหว้เจ้าแสดงงิ้วและมหกรรมอาหารนานาชาติ ประจำปี 2562 ณ บริเวณ หอนาฬิกา จังหวัดมหาสารคาม

นายประสานได้กล่าวเปิดงานพร้อมย้ำว่าพล.อ.ประวิตรได้แสดงความขอบคุณประชาชนและจังหวัดมหาสารคามตลอดจนองค์กรส่วนท้องถิ่น รวมถึงภาคเอกชนไทย-จีน จิตอาสา ที่ร่วมกันจัดงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วยดี

“พล.อ.ประวิตรในฐานะประธานคณะกรรมการมรดกโลกได้ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นมาโดยตลอดและพร้อมให้การสนับสนุนทุกกิจกรรมผ่านทางกระทรวงวัฒนธรรมเพราะถือว่าอารยธรรมท้องถิ่นได้มีการสืบทอดผ่านวัฒนธรรมอันดีงาม และตกทอดสู่คนรุ่นหลังได้ชื่นชมพร้อมทั้งหวังที่จะธำรงรักษาไว้ให้คงอยู่ต่อไปและหวังว่าการจัดงานประเพณีครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาคุณภาพชีวิต การค้า การลงทุน และการเพิ่มรายได้ประชาชนตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล” นายประสาน กล่าว

“อุตตม” ยัน “ชิมช้อปใช้” เกิดประโยชน์ทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่ 13 ล้านคน

People Unity : “อุตตม” ยัน “ชิมช้อปใช้” ประโยชน์เกิดขึ้นกับคนไทยทั้งประเทศไม่ใช่แค่ 13 ล้านคน

วันที่ 27 ต.ค.2562 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยผ่านเฟซบุ๊กถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า มีหลายคำถามเกิดขึ้นมากมายกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 โดยเฉพาะมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงเริ่มต้นในระยะที่ 2 เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย การท่องเที่ยวในระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง

ผมขอกล่าวถึงการดำเนินมาตรการนี้ของรัฐบาล ว่า ประโยชน์จากมาตรการระยสั้นนี้ มีจุดประสงค์ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี ผ่านการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ของชุมชนจังหวัดต่างๆ ด้วยการท่องเที่ยว การซื้อสินค้าและบริการ ผ่านผู้ได้รับสิทธิ์จำนวน 13 ล้านคน

โดยจากคาดการณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เม็ดเงินที่อัดฉีดลงไปจำนวน 1.3 หมื่นล้านบาท จะก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินประมาณ 5-6 เท่าในระบบเศรษฐกิจ ผ่านร้านค้า ผู้ประกอบการรายย่อย วิสาหกิจชุมชน โฮมสเตย์ จำนวนกว่า 1.7 แสนราย ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่ คาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนลงสู่ระบบเศรษฐกิจฐานราก 2-3 หมื่นล้านบาท

ภาพของการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบ เริ่มต้นจาก ผู้มีสิทธิ์ 13 ล้านคน ใช้สิทธิ์ในร้านค้าประเภท “ชิมช้อปใช้” ซึ่งก็คือ ร้านอาหาร OTOP ร้านค้าชุมชน วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการายย่อย ที่พัก โฮมสเตย์ รวมทั้งสิทธิ์จาก Cash back 15-20% ในกระเป๋า 2

เม็ดเงินนี้จะพุ่งเป้าตรงไปสู่ชุมชน ซึ่งเป็นหัวใจของเศรษฐกิจฐานราก ผ่านภาคแรงงาน ภาคบริการ ภาคการผลิต ซึ่งได้แก่ ชาวบ้าน เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ที่จะจับจ่ายใช้สอยในครัวเรือนผ่าน สินค้าอุปโภค บริโภค ไปสู่ภาคการผลิต ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เม็ดเงินจากโรงงานจะกระจายไปยัง แรงงานและครอบครัว ก่อนที่จะหมุนกลับไปที่ ร้านค้า ร้านอาหารในชุมชนอีกครั้ง เป็นเช่นนี้ประมาณ 5-6 รอบการหมุนเวียน หรือมากกว่านั้น

ก่อนที่เม็ดเงินจากระบบการหมุนเวียนจะกลับมายังภาครัฐผ่านระบบภาษี ซึ่งถือเป็นงบประมาณส่วนหนึ่งของรัฐ ที่จะใช้ในการกำหนดนโยบายและโครงการเพื่อการพัฒนาประเทศ และคุณภาพชีวิตของประชาชน

ดังนั้น มาตรการ “ชิมช้อปใช้” จึงไม่ใช่การแจกเงินเพื่อให้ผู้มีสิทธิ์จำนวนเพียงแค่ 13 ล้านคนได้รับประโยชน์เพียงเท่านั้น แต่หมายถึงการเชื่อมโยงภาคเศรษฐกิจฐานรากทั้งประเทศ ร่วมกับโครงการต่างๆของรัฐบาลต่อจากนี้ที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึงในทุกกลุ่มและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งประเทศ ด้วยการใช้จ่ายเงินงบประมาณทุกบาทอย่างคุ้มค่าที่สุด

โฆษณา

“หม่อมเต่า”แจงยัน! ไทยคุ้มครองสิทธิแรงงาน ตามหลักมาตรฐานสากล

People Unity : “หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล”รมว.แรงงาน เผยกรณีสหรัฐฯตัดจีเอสพีไทย ยืนยันกระทรวงแรงงานและหน่วยงานเกี่ยวข้องบูรณาการคุ้มครองแรงงานยึดหลักสากลมาตลอด ทั้งการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดระดับความสำเร็จมากเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานโดยปรับสถานะเป็นเทียร์ 2 การคุ้มครองแรงงานในกิจการประมงและได้ปลดใบเหลืองไอยูยู

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2562 หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับ นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงานถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาจะตัดสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรสินค้า (จีเอสพี) ของไทยในอีก 6 เดือน โดยอ้างว่าประเทศไทยไม่สามารถแก้ปัญหาแรงงานให้เป็นไปตามหลักสากลได้นั้น ณ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดย รมว.แรงงาน ได้กล่าวถึงผลการดำเนินการคุ้มครองแรงงานของกระทรวงแรงงานเพื่อให้เป็นไปและสอดคล้องตามหลักมาตรฐานสากลว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการดูแลคุ้มครองแรงงานทุกคน เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์และความปลอดภัยในการทำงาน รวมทั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคเท่าเทียมกัน โดยทุกภาคส่วนได้บูรณาการการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากผลการดำเนินงาน ทำให้ประเทศไทยอยู่ในระดับความสำเร็จมาก (Significant Advancement) ของสถานการณ์การขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด ในปี 2560 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ยังได้ปรับสถานการณ์ปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทยจาก Tier 2 Watch List มาเป็นระดับ Tier 2 และสหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศปลดใบเหลืองไอยูยู ในส่วนของการรับรองอนุสัญญาฯต่อไอแอลโอ กระทรวงแรงงานได้ให้สัตยาบันพิธีสารส่วนเสริมปี ค.ศ.2014 ส่วนเสริมอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 29 ว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ.1930 และแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อบังคับใช้กฎหมาย การช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากแรงงานบังคับ และกำหนดบทลงโทษเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงานหรือบริการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งการยื่นจดทะเบียนให้สัตยาบันอนุสัญญาไอแอลโอ ฉบับที่ 188 ว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานภาคประมง ค.ศ.2007 ต่อไอแอลโอ เพื่อคุ้มครองแรงงานประมงให้ได้รับสิทธิด้านสุขภาพ ประกันสังคม และความปลอดภัยในการทำงาน โดยจะมีผลบังคับใช่ในวันที่ 18 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ขณะเดียวกันยังได้พิจารณาให้สัตยาบันอนุสัญญาฯ ฉบับที่ 87 และ 98 เกี่ยวกับการรวมตัวตั้งเป็นสหภาพแรงงานและเจรจาต่อรอง ซึ่งขณะนี้กำลังปรับปรุงกฎหมายเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและกฤษฎีกา รวมทั้งรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เพื่อให้การดูแลคุ้มครองแรงงานทุกคนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องตามหลักมาตรฐานสากลต่อไป

โฆษณา

Verified by ExactMetrics