วันที่ 11 พฤษภาคม 2024

นายกฯ ลั่นความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 12 กุมภาพันธ์ 2567 นายกฯ ลั่นความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด ไม่ควรมีใครให้ท้ายหรือมีขบวนการอยู่ข้างหลัง ย้ำฝ่ายมั่นคงดูแลไม่ให้เกิดปะทะ ใช้ความรุนแรงทำร้ายกัน  ชี้เห็นต่างได้ แต่ควรใช้เวทีสภาฯ –วิชาการพูดคุย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่เรียกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหารือเกี่ยวกับการรับอารักขาขบวนเสด็จ ว่า เรียกมาเพื่อย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ  เป็นเรื่องที่เราต้องให้การดูแลบุคคลสำคัญ และกำชับให้สำนักข่าวกรองดูแลเรื่องนี้ให้ดีๆ เพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะกันขึ้น อยากให้อยู่ด้วยกันด้วยความสามัคคี หากเห็นต่างควรใช้เวทีที่เหมาะสม เช่น สภาฯ หรือเวทีวิชาการ พูดคุยกัน

เมื่อถามว่าตอนนี้มีหลายฝ่ายรวมถึงกองทัพออกมาแสดงพลังเพื่อปกป้องสถาบัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาทำกันปกติอยู่แล้ว ทุกฝ่ายรวมถึงกองทัพก็รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรายงานเรื่องการดำเนินคดีอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ได้กลั่นแกล้ง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ขอวิงวอนเรื่องการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วย และทุกสถาบันไม่ว่าจะเป็นกองทัพหรือตำรวจอยากเห็นความสมัครสมานสามัคคี

“แน่นอนว่าเรื่องความเห็นต่าง มีอยู่ในสังคมอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยและใช้เวทีที่ปลอดภัย ไม่คุกคามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อยากจะอ้อนวอนและวิงวอนให้ทุกฝ่ายเห็นถึงจุดนี้ ตอนนี้ประเทศเดินหน้าไปได้ด้วยดี ความวุ่นวายไม่มีมานานแล้ว ไม่อยากให้มีประเด็นที่ทำให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น เป็นเรื่องของฝ่ายความรักษาความปลอดภัยและฝ่ายความมั่นคงที่ต้องดูแล” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า กังวลจะเป็นเหตุลุกลามบานปลายหรือไม่ เพราะล่าสุดปะทะกันและขู่ทำร้ายกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้สองฝ่ายลดทอนเรื่องการใช้กำลังหรือการใช้ Hate Speech ลงไป อยากให้ใช้เวทีสาธารณะดี ๆ ทั้งสภาฯ เวทีวิชาการพูดคุยกัน เพื่อให้ปลอดภัยกันทั้งสองฝ่าย เชื่อว่าทุกฝ่ายอยากเห็นประเทศชาติมีความปรองดองสมัครสมานสามัคคีกัน เป็นบรรยากาศที่พูดคุยกันได้ คิดว่าทุกฝ่ายให้ความสำคัญเรื่องนี้ และตนก็ได้เน้นย้ำกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเรื่องนี้ด้วย ต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบกระทั่งกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญ

ส่วนที่พรรคก้าวไกลมองเรื่องนี้เป็นความคิดเห็นทางการเมืองที่ควรได้รับการนิรโทษกรรม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่เคยมองไปไกลขนาดนั้น มองว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่ต้องดูแลบุคคลสำคัญของประเทศให้ดีที่สุด ไม่ให้ถูกคุกคามหรือใช้กำลัง ไม่อยากให้เอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของการเมืองด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เราต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

เมื่อถามว่ากลุ่มเยาวชนที่ออกมาทำกิจกรรมยังพูดเรื่องของขบวนเสด็จ จึงทำให้เกิดการปะทะกัน ควรจะหยุดพฤติกรรมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการพูดคุยควรมีเวทีที่เหมาะสม เรามีตัวแทนของพี่น้องประชาชนอยู่แล้วในรัฐสภา ควรจะใช้เวทีสภาจะดีกว่าหรือไม่ เพราะเป็นเวทีที่ปลอดภัย และถูกต้องตามครรลองคลองธรรมในระบบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ทุกฝ่ายทุกพรรคและคนที่เรารักก็ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว

“ทุกฝ่ายก็มีตัวแทนอยู่แล้วในรัฐสภา ควรจะใช้เวทีนี้เป็นเวทีพูดคุย ถ้าใช้เวทีอื่น เป็นพื้นที่สาธารณะที่มีคนเยอะ อาจจะกระทบกระทั่งกัน ผมไม่เห็นด้วย เพราะความจริงแล้วมันก็มีคนเดือดร้อน ผมไม่อยากให้เกิดบรรยากาศเหมือนวันที่ 10 ก.พ.ที่เกิดปะทะกลางห้าง เพราะมันไปสู่สายตาของชาวโลก ทุกประเทศก็มีการค้มครอบผู้นำ เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญสูงสุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องนี้มีผู้ใหญ่ให้ท้าย อยากจะขอความร่วมมืออย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่ที่ไหนให้ท้าย แต่ถ้าจะให้พูด ไม่ควรมีใครให้ท้ายไม่ควรมีขบวนการอยู่ข้างหลัง เพราะขบวนเสด็จ ท่านเองก็มีภารกิจ พระองค์ท่านมีภารกิจตลอดเวลา

“พระองค์ท่านทรงงานหนักทุกพระองค์ เพราะฉะนั้นในการเดินทางของทุกพระองค์เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญสูงสุด และฝ่ายที่เห็นต่าง อย่างที่ผมบอกผมใช้คำไปหลายหนแล้ว ให้ใช้เวทีที่ปลอดภัย เรามีสภาฯ เรามีนักวิชาการ เราก็ต้องพูดคุยในเวทีที่ถูกต้อง ไม่อยากให้เป็นเวทีที่ใช้คำว่าท้าทาย เช่น ตามศูนย์การค้าต่าง ๆ ไม่เหมาะสม เพราะผมเชื่อว่ามันไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ถูกต้อง สถานที่ชอปปิ้งต่าง ๆ ก็มีคนที่เขาไปพักผ่อน แล้วเห็นบรรยากาศแบบนั้น อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยว ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่หวังดีต่อประเทศชาติ ไม่อยากให้เกิดบรรยากาศ​นี้แน่นอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

มท.ขอความร่วมมือแต่งผ้าไทยสีเหลืองทุกวันจันทร์

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 18 กุมภาพันธ์ 2567 “มหาดไทย” แจ้งผู้ว่าฯ – อธิบดี – รัฐวิสาหกิจ มท. ขอความร่วมมือข้าราชการ-บุคลากรในสังกัด และ อปท. ทั่วประเทศ ร่วมแต่งกายเสื้อผ้าไทยสีเหลืองทุกวันจันทร์ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2567 เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอขอความร่วมมือให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐขอความร่วมมือให้บุคลากรของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 แทนการแต่งกายปกติในทุกวันจันทร์ที่เป็นวันทำการ รวมทั้งในวันหรือในโอกาสอื่นที่เหมาะสม โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป พร้อมทั้งขอความร่วมมือและเชิญชวนให้องค์กร หน่วยงาน ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนทุกภาคส่วนร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีด้วยการแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้เหมาะสม ถูกต้อง โดยพร้อมเพรียงกันด้วย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งมั่นในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ด้วยการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานทั้งปวงของพระบาทสมเด็จพระบรมธชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังผลทำให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ได้มีความอยู่ดีกินดี ดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเองได้อย่างมีความสุข มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง ส่งผลให้ประเทศชาติมีความมั่นคง ประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน

“เพื่อเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กระทรวงมหาดไทยจึงแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด อธิบดี และหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ขอความร่วมมือบุคลากรในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และแจ้งไปยังทุกอำเภอและทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขอความร่วมมือบุคลากร แต่งกายเสื้อผ้าไทยสีเหลืองประดับเข็มที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 หรือประดับตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยหากไม่มีเข็มที่ระลึกพระราชพิธีฯ หรือตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าไทยสีเหลืองแทนการแต่งกายปกติ ในทุกวันจันทร์ที่เป็นวันทำการ รวมทั้งในวันหรือในโอกาสอื่นที่เหมาะสม และสำหรับการแต่งกายเครื่องแบบกากีคอพับ ให้แต่งกายในทุกวันอังคารที่เป็นวันทำการ นอกจากนี้ให้เชิญชวนองค์กร หน่วยงานภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนทุกภาคส่วนร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีด้วยการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าไทยสีเหลือง หรือเสื้อสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้เหมาะสม ถูกต้อง โดยพร้อมเพรียงกัน”

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ด้วยการร่วมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าไทยสีเหลือง หรือเสื้อเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งนี้ หน่วยงานที่มีความประสงค์ขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ เพื่อประดิษฐานในสิ่งของใด ๆ ก็ตาม สามารถแจ้งขออนุญาตไปที่สำนักแผนงานและกิจการพิเศษ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โทร. 0-2283-4789-91, 0-2283-4775 ในวันและเวลาราชการ

Advertisement

นายกฯ มอบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

People Unity News : 25 กรกฎาคม 65 วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้หน่วยงานราชการ – สื่อมวลชนนำไปประดับ ณ ที่ต่างๆอย่างเหมาะสม พร้อมร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยน์ของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชน

นายกฯ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมต่างๆ ขอให้ดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราชสักการะ ตกแต่งสถานที่ประดับพระฉายาลักษณ์ ประดับธงชาติคู่กับธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 พร้อมประดับผ้าระบายสีฟ้าร่วมกับผ้าระบายสีขาว ตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน ตลอดจนจัดทำคำถวายพระพรชัยมงคลเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของหน่วยงาน และจัดการลงนามถวายพระพรชัยมงคลภายในหน่วยงานหรือทางเว็บไซต์

Advertisement

ครบรอบ ๑๒ ปี โครงการกำลังใจในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา

People unity news online : ครบรอบ ๑๒ ปี โครงการกำลังใจในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเปิดศูนย์การเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรดอยฮาง ณ เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง จ.เชียงราย

เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑ เวลา ๑๔.๕๕ น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จถึงเรือนจำชั่วคราวดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อทรงเป็นองค์ประธานในงานครบรอบ ๑๒ ปี โครงการกำลังใจในพระดำริฯ โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นางอัญชลี พัฒนสาร รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ นายกำจัด พ่วงสวัสดิ์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่ปรึกษาโครงการกำลังใจในพระดำริฯ และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ เฝ้ารับเสด็จ

นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กราบทูลรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมครบรอบ ๑๒ ปี ความตอนหนึ่งว่า “การดำเนินโครงการกำลังใจฯ ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน นอกจากการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ผู้ต้องขังระหว่างอยู่ในเรือนจำแล้ว พระเจ้าหลานเธอฯ ยังได้นำเรื่องของการพัฒนาจิตใจโดยใช้หลักธรรมในแนวทางต่างๆ เข้ามาพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังเพื่อสร้างความมั่นคงทางใจให้ผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน รวมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและแนวทางการพัฒนาทางเลือกมาปรับใช้กับผู้ต้องขังซึ่งทำให้ผู้ต้องขังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับเรือนจำชั่วคราวดอยฮางแห่งนี้ ได้ทรงประทานคำแนะนำให้จัดกิจกรรมเพื่อเปิดพื้นที่เรือนจำให้สังคม ชุมชน ทั้งในจังหวัดเชียงรายและในประเทศไทยทราบว่าในพื้นที่เรือนจำสามารถจัดกิจกรรมได้มากมาย โดยใช้ประโยชน์จากผู้ต้องขังที่ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤตินิสัยแล้ว และในอีกด้านหนึ่งก็ทำให้ผู้ต้องขังรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าที่ได้เข้ามาทำประโยชน์ให้กับบุคคลต่างๆ ที่เข้ามาดูงาน เข้ามาใช้บริการ ณ เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง”

ในลำดับต่อมา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประทานรางวัลเรือนจำดีเด่นที่ได้มีการดำเนินงานโครงการกำลังใจในมิติต่างๆ ๖ ด้าน คือ งานแม่และเด็ก  การช่วยเหลือให้ความรู้ทางกฎหมาย การฝึกอบรมวิชาชีพ การเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย นวัตกรรม และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จากนั้น ประทานของที่ระลึกให้ผู้สนับสนุนโครงการกำลังใจในพระดำริฯ

จากนั้นเสด็จไปทรงเปิดป้ายศูนย์การเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรดอยฮาง และทอดพระเนตรนิทรรศการผลงานโครงการกำลังใจในพระดำริฯ ที่มีผลการดำเนินงานมากว่า ๑๒ ปี แล้ว มีผลงานเด่น อาทิ “งานพัฒนาคุณภาพชีวิต” ได้แก่ สุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต การพัฒนาสภาพแวดล้อม “การสร้างอนาคตที่ยั่งยืน” ได้แก่ การสร้างทักษะอาชีพ การสร้างผลิตภัณฑ์ การให้ความรู้ด้านกฎหมายและด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง “งานวิจัยและงานวิชาการ” ได้แก่ ผลงานวิจัยภายใต้โครงการกำลังใจ จำนวน ๕๙ เรื่อง ผลงานแปลหนังสือ จำนวน ๓๔ เรื่อง และคู่มือ ๑๖ เรื่อง “งานด้านกองทุนกำลังใจ” “การพัฒนาด้านกฎหมายเพื่อความยั่งยืน” “การหาแนวร่วมเพื่อสนับสนุนโครงการกำลังใจฯ และสร้างการยอมรับ” “การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการกำลังใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ”

พร้อมกันนี้ทรงเปิดแปลงการรดน้ำแปลงผักเกษตรอินทรีย์ด้วยระบบ Application ทรงปลูกต้นรวงผึ้ง จำนวน ๑ ต้น และเสด็จไปยังตลาดนัดกาดหมั้ว คัวศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม และโซน Rice สาระ ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทอดความรู้เรื่องข้าว ตั้งแต่พันธุ์ข้าว เมล็ดข้าว การแปรรูป และวัสดุเหลือใช้จากข้าว การสาธิตการทำหุ่นฟาง เป็นต้น นอกจากนี้ที่เรือนจำชั่วคราวดอยฮางได้มีบ้านตัวอย่างเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน ๓ หลัง หลังที่ ๑ “ปรับปรุงบำรุงดิน” หลังที่ ๒ “จุลินทรีย์สุขภาพพืช” หลังที่ ๓ สมุนไพรไล่แมลง โดยมีผู้ต้องขังที่ได้รับการอบรมความรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเฝ้ารับเสด็จด้วย

ในเวลาต่อมาเสด็จไปยังโซน Herb ทรงตัดแถบแพรเปิดโซน Herb และทอดพระเนตรนิทรรศการ โซน Herb ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกทักษะผู้ต้องขัง มีการสาธิตนวดตอกเส้น การนวดย่ำไฟ จากนั้นเสด็จไปยังบ้านต้นไม้ บริเวณร้านกาแฟ ทอดพระเนตรการแสดงการต้อนรับของบาริสต้าผู้ต้องขังร้านกาแฟ Inspire By Princess ซึ่งได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนที่มาเยี่ยมชม ณ เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง ในปัจจุบันมีสถานที่ที่สวยงามร่มรื่น มีจุดชมวิวบ้านต้นไม้บรรยากาศดี มีเครื่องดื่มนับสิบเมนู และขนม เบเกอรี่ ให้บริการทุกวันอีกด้วย

และในวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๖.๐๐ น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จไปยังบริเวณกิจกรรมการวิ่งเทรล ในโอกาสครบรอบ ๑๒ ปี โครงการกำลังใจ (Run for Better Life Doi Hang Cross Country Trail) ที่มีการแข่งขันวิ่ง ระยะทาง ๑๐ กิโลเมตร  ๕ กิโลเมตร และ ๓ กิโลเมตร โดยมี พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ตลอดจนผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

สำหรับกิจกรรมในงานครบรอบ ๑๒ ปี โครงการกำลังใจในพระดำริฯ จะมีการแสดงนิทรรศการผลงานโครงการกำลังใจฯ และกาดหมั้ว คัวศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม ตั้งแต่วันที่ ๑๔ – ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๑  ณ เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย

People unity news online : post 17 ธันวาคม 2561 เวลา 12.24 น.

ประชาชนหลั่งไหลเข้าถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9

People Unity News : 14 ตุลาคม 2565 ประชาชนหลั่งไหลเข้าถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ประดิษฐานอย่างงามสง่า บริเวณอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ หรือสนามม้านางเลิ้งเก่า

บรรยากาศบริเวณอุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร หลังจากเมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

จากนั้นสำนักพระราชวัง ประกาศแจ้งถึงพี่น้องประชาชนที่มีความประสงค์จะเข้าถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สามารถเข้าถวายสักการะได้ในระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคม เวลา 08.00- 19.00 น. ก่อนที่จะปิดเพื่อปรับภูมิทัศน์ของอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้เสร็จสมบูรณ์ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา แม้อากาศจะร้อนไม่เป็นอุปสรรค พี่น้องประชาชนจากทั่วทุกสารทิศทยอยเดินทางเข้ามาในอุทยานฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลือง และใช้โอกาสช่วงวันหยุดยาว เดินทางกันมาพร้อมครอบครัว มาร่วมถวายสักการะและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ผู้ที่เข้ามาจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการดอกกุหลาบสีเหลืองให้ทุกคนสำหรับถวายสักการะ ส่วนใครที่เหนื่อยหรือร้อนจะมีเต็นท์พร้อมพัดลมไอน้ำ รวมถึงมีวงดนตรีขับกล่อมบรรเลงบทเพลง ระหว่างนั่งพักเอาแรงก่อนเดินทางกลับ มีเจ้าหน้าที่จิตอาสาคอยให้บริการบอกเส้นทาง วิธีการสักการะและคอยบริการถ่ายรูปให้ตลอดทั้งวัน

สำหรับอุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทางสำนักพระราชวัง เปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนที่มีความประสงค์จะเข้าถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ เข้าถวายสักการะได้ในระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น. ก่อนจะปิดเพื่อปรับภูมิทัศน์ของอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้สมพระเกียรติ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนต่อไป โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะได้จัดสถานที่จอดรถบริเวณถนนศรีอยุธยา ไว้ให้ประชาชนที่จะเดินทางมาถวายสักการะ ตามวันเวลาดังกล่าว โดยขอให้แต่งกายสุภาพ

Advertisement

ชุมชนเขตพระนคร-ทบ.จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ วันฉัตรมงคล

People Unity News : 4 พฤษภาคม 2566 กองทัพบก ร่วมกับชุมชนเขตพระนคร จัดกิจกรรม “ชุมชนเขตพระนคร และกองทัพบก ร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี 2566” ณ วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง (บางขุนพรหม)

วันนี้ (4 พ.ค.66) เวลา 08.00 น. กองทัพบก โดยสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ร่วมกับชุมชนเขตพระนคร จัดกิจกรรม “ชุมชนเขตพระนคร และกองทัพบก ร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี 2566” โดยมี พันเอก ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ รองเลขานุการกองทัพบก เป็นผู้แทนกองทัพบก นำกำลังพล พร้อมด้วยภาคเอกชน ส่วนราชการ และประชาชนในเขตพระนคร ร่วมกิจกรรม ณ วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง (บางขุนพรหม)

ภายในงาน ประกอบด้วย พิธีห่มผ้าหลวงพ่อโต และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันฉัตรมงคล ตรงกับวันที่ 4 พฤษภาคม ของทุกปี สืบเนื่องจากวันคล้ายวันบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชวงศ์จักรี เริ่มมีครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามธรรมเนียมเดิม ในเดือน 6 (ตรงกับเดือนพฤษภาคม) กองทัพบก ร่วมด้วยชุมชนเขตพระนคร จึงจัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ตลอดจนให้ประชาชนทุกภาคส่วน โดยเฉพาะชุมชนรอบกองบัญชาการกองทัพบก ได้มีส่วนร่วมกับกองทัพบกในการจัดกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนกับทหาร ก่อให้เกิดความเชื่อมั่น ศรัทธา และร่วมมือสนับสนุนภารกิจของกองทัพบก ในอันที่จะพิทักษ์ไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน

Advertisement

ธ.ออมสินจัดทำบทเพลงสรรเสริญพระบารมีชุด “ทศมกษัตรา ราชจักรีวงศ์” ฉายในโรงภาพยนตร์

People unity news online : ธนาคารออมสิน ร่วมกับ บมจ.เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น แถลงข่าวโครงการเผยแพร่ภาพยนตร์ประกอบบทเพลงสรรเสริญพระบารมีชุด “ทศมกษัตรา ราชจักรีวงศ์” ร้อยเรียงภาพพระราชกรณียกิจ และพระปรีชาสามารถในด้านต่างๆ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มาร้อยเข้ากับบทเพลงที่เปี่ยมด้วยศรัทธา แด่พระมหากษัตริย์ผู้เป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในการเดินตามแบบอย่างด้านการมีพระวินัย โดยเฉพาะพระวินัยแห่งการออม ผ่านเสียงร้องที่มีความไพเราะจากศิลปินคุณภาพ “บอย – อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี” (บอย พีซเมคเกอร์) โดยภาพยนตร์ประกอบบทเพลงสรรเสริญพระบารมีจะจัดฉายในโรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป พร้อมทั้งได้มีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติตั้งแต่วันที่ 5 – 15 ตุลาคม 2561 เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และแสดงถึงพระอัจฉริยภาพและความมีพระวินัยที่ก่อให้เกิดพระปรีชาสามารถด้านการทหารและการบิน ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า “ธนาคารออมสินถือกำเนิดโดยพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงเล็งเห็นถึงคุณค่าแห่งการออม และมีพระราชประสงค์ที่จะฝึกฝนให้ราษฎรรู้จักเก็บออมทรัพย์อย่างถูกวิธี ซึ่งธนาคารออมสินได้ยืนหยัดในการทำหน้าที่นี้ตลอดมา โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ ในการนี้จึงขอน้อมนำพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นแบบอย่างในด้านวินัย ความอดทนมานะ กล้าหาญ จนก่อให้เกิดพระปรีชาความสามารถในด้านต่างๆ อาทิ ด้านการทหาร แด่พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในด้านการมีพระวินัย โดยเฉพาะพระวินัยแห่งการออม และพระวินัยแห่งการฝึกความอดทนให้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การสรรเสริญ มาร้อยเข้ากับบทเพลงที่เปี่ยมด้วยศรัทธา ผ่านการขับร้องจากศิลปินคุณภาพของประเทศ “บอย – อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี” ด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ แสดงถึงความรู้สึกจงรักภักดีแทนพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระองค์ท่านได้อย่างซาบซึ้ง ผสมผสานเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบและสมพระเกียรติ”

ด้าน นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ ถือเป็นขนบธรรมเนียมสำคัญที่ได้ปฏิบัติกันมายาวนานและต่อเนื่อง ในการถวายความเคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ก่อนที่จะมีการเริ่มฉายภาพยนตร์หรือการแสดงใดๆ ซึ่งโรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ รู้สึกเป็นเกียรติในฐานะที่เป็นสื่อกลางช่องทางหนึ่งที่ได้มีโอกาสสื่อสารให้คนรุ่นใหม่ได้รับทราบถึงพระราชกรณียกิจและพระปรีชาสามารถในด้านต่างๆ ที่ทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทย พร้อมทั้งแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในครั้งนี้ บริษัทฯ ร่วมกับ ธนาคารออมสิน จัดทำภาพยนตร์ประกอบบทเพลงสรรเสริญพระบารมี ชุด “ทศมกษัตรา ราชจักรีวงศ์” เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร กษัตริย์ผู้ทรงเป็นแบบอย่างในด้านวินัย ความอดทนมานะ กล้าหาญ จนก่อให้เกิดพระปรีชาสามารถที่ควรค่าแก่การเก็บออมไว้ มาร้อยเข้ากับบทเพลงที่เปี่ยมด้วยศรัทธา ผ่านการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในการฉาย หรือเทคนิคต่างๆ เพื่อทำให้การถ่ายทอดเพลงสรรเสริญพระบารมีออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด รวมทั้งให้ความรู้สึกตราตรึงใจและสมพระเกียรติ โดยเริ่มจัดฉายให้รับชมกันตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในพระอัจฉริยภาพและความมีพระวินัยที่ก่อให้เกิดพระปรีชาสามารถด้านการทหาร ซึ่งจะจัดแสดงให้ประชาชนได้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 5 – 15 ตุลาคม 2561 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์”

ทั้งนี้ ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยร่วมถวายความจงรักภักดีผ่านบทเพลงสรรเสริญพระบารมีชุด “ทศมกษัตรา ราชจักรีวงศ์” ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ณ โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ทุกสาขา ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมฟรี ตั้งแต่วันที่ 5 – 15 ตุลาคม 2561 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

People unity news online : post 8 ตุลาคม 2561 เวลา 13.20 น.

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี แล้ว

People Unity News : 2 กันยายน 2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2566 แล้ว นั้น

บัดนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรองนายกรัฐมนตรี

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายสุทิน คลังแสง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อีกตำแหน่งหนึ่ง

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายไชยา พรหมา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายอนุชา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นางมนพร เจริญศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นายชลน่าน ศรีแก้ว เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

Advertisement

“บิ๊กตู่” นำ ครม.ทำกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติในหลวง

People unity news online : นายกรัฐมนตรี พร้อม ครม. นำหน่วยงานภาครัฐ ภาคีเครือข่ายและประชาชน ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

วันนี้ (26 กรกฎาคม 2561) เวลา 09.10 น. ณ บริเวณถนนครปฐม ด้านคลองเปรมประชากร ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี  ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนภาคีเครือข่ายภาคเอกชน นักศึกษา และประชาชนผู้มีจิตอาสา ร่วมกันทำกิจกรรม “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อแสดงน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการร่วมกันปฏิบัติการจิตอาสา เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานกิจกรรม “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ว่า การปฏิบัติการจิตอาสาเป็นกิจกรรมที่ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติในหลายๆด้าน ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเข้มแข็ง หลอมรวมดวงใจของทุกคนให้เป็นพลังหนึ่งเดียวกัน และผนึกกำลังสร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ กลายเป็นพลังแห่งความรัก ความสามัคคีที่ยิ่งใหญ่ของคนในประเทศ ซึ่งทุกภาคส่วนได้มาร่วมกันทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่สังคม ด้วยพลังของจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งรัฐบาลได้น้อมนำโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” มาสืบสาน ขยายผลออกไปในวงกว้างในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมไปถึงกลุ่มคนไทยในต่างประเทศด้วย เพื่อให้ประชาชนผู้มีจิตอาสาทุกคนได้ร่วมกันเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2561 โดยได้จัดให้มีกิจกรรมจิตอาสานี้อีกหลายๆกิจกรรม โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2561

พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการจัดการผังเมืองของรัฐบาลในขณะนี้ว่า เพื่อให้ประชาชนเกิดความรับผิดชอบขยะของตนเอง ซึ่งต้องแก้ปัญหาร่วมกัน และต้องรู้วิธีจัดการขยะว่านำไปจัดการอย่างไร เช่น นำไปทำปุ๋ย ผลิตไฟฟ้า หรือเป็นพลังงาน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ พร้อมกล่าวย้ำว่ารัฐบาลดำเนินการต่างๆ ไม่ได้เอื้อต่อประโยชน์แก่บุคคลหรือหน่วยงานใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นเรื่องที่จำเป็นและต้องแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วนและทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการจัดการขยะ คือ ร่วมกันคัดแยกขยะก่อนทิ้งลงถัง เพื่อจะลดภาระให้แก่เจ้าหน้าที่ที่จัดเก็บ พร้อมกล่าวกับประชาชนจิตอาสาที่มาร่วมกิจกรรมว่าให้เรียนรู้และทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลแก้ไขข้อกฎหมายด้านต่างๆ ซึ่งรัฐบาลมีการประเมินทั้งแผนระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเป็นการติดตามผลการดำเนินงานซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีและภริยา ได้ปลูกต้นรวงผึ้ง ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณด้านข้างศาลพระภูมิ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมภริยา และคณะรัฐมนตรี ได้ปลูกต้นทองอุไร บริเวณถนนนครปฐมด้านติดคลองเปรมประชากร ก่อนนำคณะรัฐมนตรี จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ทำกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ ได้แก่  การฉีดน้ำล้างทำความสะอาดบริเวณถนนครปฐม ด้านคลองเปรมประชากร ทำเนียบรัฐบาล ทาสีรั้วบริเวณสะพานอรทัยและแนวขอบริมทางเดินเท้า ชมการสาธิตเรือลอกตะกอนและเครื่องกลเติมอากาศใต้น้ำ รวมทั้งเยี่ยมชมให้กำลังใจจิตอาสา บริเวณจุดบริการอาหารแก่จิตอาสาเชิงสะพานอรทัย และบริเวณถนนพระรามที่ 5 จนถึงบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ พร้อมชมการขุดลอกคลองบริเวณริมกำแพงโรงเรียนราชวินิต นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบอาหารเป็นห่อข้าวเหนียวไก่และน้ำดื่มให้แก่ผู้มาร่วมปฏิบัติการจิตอาสาครั้งนี้ด้วย

People unity news online : post 26 กรกฎาคม 2561 เวลา 12.50 น.

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จไปติดตามงานโครงการกำลังใจฯ จ.เชียงราย

People unity news online : เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 เวลา 12.15 น. พระเจ้าหลานเธอ  พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จไปทรงติดตามการดำเนินงานตามโครงการกำลังใจฯ ณ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

ทรงเยี่ยม นายวีรภาพ กันแก้ว คนต้นแบบโครงการกำลังใจฯ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวกำลังใจ โดยมี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เฝ้ารับเสด็จ

ต่อจากนั้น เวลา 13.30 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเชิญพระประธานประจำลานปฏิบัติธรรมขึ้นประดิษฐานบนแท่น และพิธีเบิกเนตรพระพุทธรูปที่ผู้เข้าร่วมโครงการกำลังใจฯ สร้างถวาย ณ สำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี สาขาวัดป่าซางงาม จังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้ โครงการพุทธอุทยานในเขตสำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี ถือเป็นความสำเร็จของโครงการกำลังใจฯ ที่เป็นต้นแบบของศูนย์รวมด้านจิตใจโดยใช้พระพุทธศาสนาเป็นแกนหลัก โดยผู้เข้าร่วมโครงการกำลังใจฯ ในรุ่นแรก จำนวน 1 ราย ได้นำแนวทางตามโครงการกำลังใจฯในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การปลูกป่า และพัฒนาป่าไม้ให้เป็นสถานที่สำหรับการศึกษาธรรมชาติ ซึ่งกรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ประชาชนกับวัดป่าซางงาม ภายใต้สำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี ฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสบกกฝั่งขวา บ้านป่าซางงาม อำเภอดอยหลวง จังหวัดเชียงราย จำนวน 9 ไร่ 96 ตารางวา

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วม “โครงการปั้นดินให้เป็นบุญ” จากเรือนจำกลางบางขวาง ได้ปั้นพระพุทธรูปเพื่อนำมาประดิษฐาน ณ ลานธรรมของสำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี นับเป็นการเชื่อมโยงบุคคลที่อยู่ภายในเรือนจำกับภายนอกเรือนจำด้วย “ธรรมะ” ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งที่โครงการกำลังใจฯ ได้นำมาเพื่อการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่เคยก้าวพลาด

People unity news online : post 9 พฤษภาคม 2560 เวลา 14.53 น.

Verified by ExactMetrics