วันที่ 19 เมษายน 2024

ธ.ออมสินจัดทำบทเพลงสรรเสริญพระบารมีชุด “ทศมกษัตรา ราชจักรีวงศ์” ฉายในโรงภาพยนตร์

People unity news online : ธนาคารออมสิน ร่วมกับ บมจ.เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น แถลงข่าวโครงการเผยแพร่ภาพยนตร์ประกอบบทเพลงสรรเสริญพระบารมีชุด “ทศมกษัตรา ราชจักรีวงศ์” ร้อยเรียงภาพพระราชกรณียกิจ และพระปรีชาสามารถในด้านต่างๆ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มาร้อยเข้ากับบทเพลงที่เปี่ยมด้วยศรัทธา แด่พระมหากษัตริย์ผู้เป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในการเดินตามแบบอย่างด้านการมีพระวินัย โดยเฉพาะพระวินัยแห่งการออม ผ่านเสียงร้องที่มีความไพเราะจากศิลปินคุณภาพ “บอย – อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี” (บอย พีซเมคเกอร์) โดยภาพยนตร์ประกอบบทเพลงสรรเสริญพระบารมีจะจัดฉายในโรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป พร้อมทั้งได้มีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติตั้งแต่วันที่ 5 – 15 ตุลาคม 2561 เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และแสดงถึงพระอัจฉริยภาพและความมีพระวินัยที่ก่อให้เกิดพระปรีชาสามารถด้านการทหารและการบิน ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า “ธนาคารออมสินถือกำเนิดโดยพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงเล็งเห็นถึงคุณค่าแห่งการออม และมีพระราชประสงค์ที่จะฝึกฝนให้ราษฎรรู้จักเก็บออมทรัพย์อย่างถูกวิธี ซึ่งธนาคารออมสินได้ยืนหยัดในการทำหน้าที่นี้ตลอดมา โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ ในการนี้จึงขอน้อมนำพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นแบบอย่างในด้านวินัย ความอดทนมานะ กล้าหาญ จนก่อให้เกิดพระปรีชาความสามารถในด้านต่างๆ อาทิ ด้านการทหาร แด่พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในด้านการมีพระวินัย โดยเฉพาะพระวินัยแห่งการออม และพระวินัยแห่งการฝึกความอดทนให้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การสรรเสริญ มาร้อยเข้ากับบทเพลงที่เปี่ยมด้วยศรัทธา ผ่านการขับร้องจากศิลปินคุณภาพของประเทศ “บอย – อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี” ด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ แสดงถึงความรู้สึกจงรักภักดีแทนพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระองค์ท่านได้อย่างซาบซึ้ง ผสมผสานเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบและสมพระเกียรติ”

ด้าน นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ ถือเป็นขนบธรรมเนียมสำคัญที่ได้ปฏิบัติกันมายาวนานและต่อเนื่อง ในการถวายความเคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ก่อนที่จะมีการเริ่มฉายภาพยนตร์หรือการแสดงใดๆ ซึ่งโรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ รู้สึกเป็นเกียรติในฐานะที่เป็นสื่อกลางช่องทางหนึ่งที่ได้มีโอกาสสื่อสารให้คนรุ่นใหม่ได้รับทราบถึงพระราชกรณียกิจและพระปรีชาสามารถในด้านต่างๆ ที่ทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทย พร้อมทั้งแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในครั้งนี้ บริษัทฯ ร่วมกับ ธนาคารออมสิน จัดทำภาพยนตร์ประกอบบทเพลงสรรเสริญพระบารมี ชุด “ทศมกษัตรา ราชจักรีวงศ์” เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร กษัตริย์ผู้ทรงเป็นแบบอย่างในด้านวินัย ความอดทนมานะ กล้าหาญ จนก่อให้เกิดพระปรีชาสามารถที่ควรค่าแก่การเก็บออมไว้ มาร้อยเข้ากับบทเพลงที่เปี่ยมด้วยศรัทธา ผ่านการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในการฉาย หรือเทคนิคต่างๆ เพื่อทำให้การถ่ายทอดเพลงสรรเสริญพระบารมีออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด รวมทั้งให้ความรู้สึกตราตรึงใจและสมพระเกียรติ โดยเริ่มจัดฉายให้รับชมกันตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในพระอัจฉริยภาพและความมีพระวินัยที่ก่อให้เกิดพระปรีชาสามารถด้านการทหาร ซึ่งจะจัดแสดงให้ประชาชนได้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 5 – 15 ตุลาคม 2561 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์”

ทั้งนี้ ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยร่วมถวายความจงรักภักดีผ่านบทเพลงสรรเสริญพระบารมีชุด “ทศมกษัตรา ราชจักรีวงศ์” ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ณ โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ทุกสาขา ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมฟรี ตั้งแต่วันที่ 5 – 15 ตุลาคม 2561 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

People unity news online : post 8 ตุลาคม 2561 เวลา 13.20 น.

ประยุทธ์เดินหน้า “โครงการแก้มลิง” ตามพระราโชบาย ร.10 สืบสานโครงการพระราชดำริ ร.9

People Unity News : โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯเดินหน้า “โครงการแก้มลิง” ตามพระราโชบายในหลวงรัชกาลที่ 10 สืบสาน รักษาและต่อยอด โครงการพระราชดำริในหลวงรัชกาล 9 ช่วยบรรเทาวิกฤตน้ำท่วม

9 ตุลาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญในการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนโดยเฉพาะโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำ รัฐบาลได้เร่งดำเนินการโครงการแก้มลิงทั่วประเทศในพื้นที่ 65 จังหวัด รวม 914 รายการ ปริมาตรน้ำกักเก็บ 606.93  ล้าน ลบ.ม. วงเงิน 23,060.7182 ล้านบาท ด้วยการน้อมนำพระราโชบายพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการทรงงานเพื่อจะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดย “โครงการแก้มลิง” หนึ่งในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริไว้ในการแก้ปัญหาอุทกภัย ปัญหาน้ำท่วมขังในประเทศไทย รัฐบาลนำมาเป็นนโยบายการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง ได้แก่ พื้นที่ 12 ทุ่ง ในภาคกลางตอนล่าง และ ทุ่งบางระกำ จ.พิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแก้มลิงขนาดใหญ่ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม/ชะลอน้ำหลาก ได้ถึง 1.41 ล้านไร่ และสามารถรองรับน้ำได้ถึง 1,704 ล้าน ลบ.ม.

นายธนกร กล่าวว่า ล่าสุดการลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยของนายกรัฐมนตรี เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ยังได้ติดตามการเตรียมพื้นที่รับน้ำแก้มลิงบริเวณแม่น้ำยมฝั่งซ้าย เพื่อบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยด้วย โครงการแก้มลิงไม่เพียงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมขัง แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งได้ด้วย อีกทั้งสามารถปล่อยน้ำในการผลักดันไม่ให้น้ำเค็มจากทะเลไหลเข้าสู่แม่น้ำลำคลองและพื้นที่การเกษตร และน้ำจืดที่เก็บกักไว้ในแก้มลิง ประชาชนสามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการอุปโภคบริโภค ทำให้คนไทยมีน้ำกินน้ำใช้ได้ตลอดทั้งปี

Advertising

นายกฯยินดีสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ประสบความสำเร็จพัฒนายาชีววัตถุรักษามะเร็งเต้านม

People unity news online : นายกรัฐมนตรียินดีกรณีสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ประสบความสำเร็จในการพัฒนายาชีววัตถุ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบำบัดรักษาโรคมะเร็งเต้านม

วันนี้ (3 กรกฎาคม 2561) เวลา 15.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล  พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ประสบความสำเร็จในการพัฒนายาชีววัตถุ ซึ่งเป็น Monoclonal antibody ชนิดแรก ที่มีบทบาทสำคัญในการบำบัดรักษาโรคมะเร็งเต้านมได้ ว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่มีการค้นคว้าวิจัยจนประสบความสำเร็จ และถือว่าเป็นนวัตกรรมชิ้นแรกที่ดำเนินการโดยนักวิจัยในประเทศไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยไม่ต้องอาศัยการซื้อหรือการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมะเร็งบางชนิดมีโอกาสได้รับการรักษาโดยมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลง

People unity news online : post 3 กรกฎาคม 2561เวลา 20.20 น.

ในหลวงพระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยเพิ่มอีก 1 คัน เพื่อตรวจหาเชื้อโควิดเชิงรุกในชุมชน

People Unity News : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยเพิ่มเติมแก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด 19 เชิงรุก ในชุมชน และพื้นที่ระบาด นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้

วันนี้ (20 สิงหาคม 2564) ที่ กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มอบหมายให้นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้แทนรับพระราชทาน รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มอีก 1 คัน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อกระทรวงสาธารณสุขและประชาชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงห่วงใยและติดตามสถานการณ์โรคโควิด 19 อย่างใกล้ชิด ซึ่งรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยที่ได้พระราชทานในวันนี้ มูลนิธิไทยพึ่งไทย (สมพล – เรณู เกยุราพันธุ์) และสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย – จีน น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564

นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า นับตั้งแต่เริ่มเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทาน รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยให้แก่กระทรวงสาธารณสุขแล้ว จำนวน 36 คัน รถต่อพ่วงชีวนิรภัย จำนวน 6 คัน และรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ จำนวน 5 คัน สำหรับใช้เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ในการให้บริการเก็บตัวอย่างโรคโควิด 19 แก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเฝ้าระวัง และค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก โดยผู้เข้ารับการตรวจไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังโรงพยาบาล ทั้งนี้ ปัจจุบันรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย รถต่อพ่วงชีวนิรภัย และรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ พระราชทาน ยังคงให้บริการประชาชนในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ เช่น โรงเรียน วัด และชุมชนแออัด

Advertising

นายกฯ ลั่นความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 12 กุมภาพันธ์ 2567 นายกฯ ลั่นความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด ไม่ควรมีใครให้ท้ายหรือมีขบวนการอยู่ข้างหลัง ย้ำฝ่ายมั่นคงดูแลไม่ให้เกิดปะทะ ใช้ความรุนแรงทำร้ายกัน  ชี้เห็นต่างได้ แต่ควรใช้เวทีสภาฯ –วิชาการพูดคุย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่เรียกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหารือเกี่ยวกับการรับอารักขาขบวนเสด็จ ว่า เรียกมาเพื่อย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ  เป็นเรื่องที่เราต้องให้การดูแลบุคคลสำคัญ และกำชับให้สำนักข่าวกรองดูแลเรื่องนี้ให้ดีๆ เพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะกันขึ้น อยากให้อยู่ด้วยกันด้วยความสามัคคี หากเห็นต่างควรใช้เวทีที่เหมาะสม เช่น สภาฯ หรือเวทีวิชาการ พูดคุยกัน

เมื่อถามว่าตอนนี้มีหลายฝ่ายรวมถึงกองทัพออกมาแสดงพลังเพื่อปกป้องสถาบัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาทำกันปกติอยู่แล้ว ทุกฝ่ายรวมถึงกองทัพก็รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรายงานเรื่องการดำเนินคดีอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ได้กลั่นแกล้ง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ขอวิงวอนเรื่องการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วย และทุกสถาบันไม่ว่าจะเป็นกองทัพหรือตำรวจอยากเห็นความสมัครสมานสามัคคี

“แน่นอนว่าเรื่องความเห็นต่าง มีอยู่ในสังคมอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยและใช้เวทีที่ปลอดภัย ไม่คุกคามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อยากจะอ้อนวอนและวิงวอนให้ทุกฝ่ายเห็นถึงจุดนี้ ตอนนี้ประเทศเดินหน้าไปได้ด้วยดี ความวุ่นวายไม่มีมานานแล้ว ไม่อยากให้มีประเด็นที่ทำให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น เป็นเรื่องของฝ่ายความรักษาความปลอดภัยและฝ่ายความมั่นคงที่ต้องดูแล” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า กังวลจะเป็นเหตุลุกลามบานปลายหรือไม่ เพราะล่าสุดปะทะกันและขู่ทำร้ายกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้สองฝ่ายลดทอนเรื่องการใช้กำลังหรือการใช้ Hate Speech ลงไป อยากให้ใช้เวทีสาธารณะดี ๆ ทั้งสภาฯ เวทีวิชาการพูดคุยกัน เพื่อให้ปลอดภัยกันทั้งสองฝ่าย เชื่อว่าทุกฝ่ายอยากเห็นประเทศชาติมีความปรองดองสมัครสมานสามัคคีกัน เป็นบรรยากาศที่พูดคุยกันได้ คิดว่าทุกฝ่ายให้ความสำคัญเรื่องนี้ และตนก็ได้เน้นย้ำกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเรื่องนี้ด้วย ต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบกระทั่งกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญ

ส่วนที่พรรคก้าวไกลมองเรื่องนี้เป็นความคิดเห็นทางการเมืองที่ควรได้รับการนิรโทษกรรม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่เคยมองไปไกลขนาดนั้น มองว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่ต้องดูแลบุคคลสำคัญของประเทศให้ดีที่สุด ไม่ให้ถูกคุกคามหรือใช้กำลัง ไม่อยากให้เอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของการเมืองด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เราต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

เมื่อถามว่ากลุ่มเยาวชนที่ออกมาทำกิจกรรมยังพูดเรื่องของขบวนเสด็จ จึงทำให้เกิดการปะทะกัน ควรจะหยุดพฤติกรรมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการพูดคุยควรมีเวทีที่เหมาะสม เรามีตัวแทนของพี่น้องประชาชนอยู่แล้วในรัฐสภา ควรจะใช้เวทีสภาจะดีกว่าหรือไม่ เพราะเป็นเวทีที่ปลอดภัย และถูกต้องตามครรลองคลองธรรมในระบบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ทุกฝ่ายทุกพรรคและคนที่เรารักก็ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว

“ทุกฝ่ายก็มีตัวแทนอยู่แล้วในรัฐสภา ควรจะใช้เวทีนี้เป็นเวทีพูดคุย ถ้าใช้เวทีอื่น เป็นพื้นที่สาธารณะที่มีคนเยอะ อาจจะกระทบกระทั่งกัน ผมไม่เห็นด้วย เพราะความจริงแล้วมันก็มีคนเดือดร้อน ผมไม่อยากให้เกิดบรรยากาศเหมือนวันที่ 10 ก.พ.ที่เกิดปะทะกลางห้าง เพราะมันไปสู่สายตาของชาวโลก ทุกประเทศก็มีการค้มครอบผู้นำ เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญสูงสุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องนี้มีผู้ใหญ่ให้ท้าย อยากจะขอความร่วมมืออย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่ที่ไหนให้ท้าย แต่ถ้าจะให้พูด ไม่ควรมีใครให้ท้ายไม่ควรมีขบวนการอยู่ข้างหลัง เพราะขบวนเสด็จ ท่านเองก็มีภารกิจ พระองค์ท่านมีภารกิจตลอดเวลา

“พระองค์ท่านทรงงานหนักทุกพระองค์ เพราะฉะนั้นในการเดินทางของทุกพระองค์เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญสูงสุด และฝ่ายที่เห็นต่าง อย่างที่ผมบอกผมใช้คำไปหลายหนแล้ว ให้ใช้เวทีที่ปลอดภัย เรามีสภาฯ เรามีนักวิชาการ เราก็ต้องพูดคุยในเวทีที่ถูกต้อง ไม่อยากให้เป็นเวทีที่ใช้คำว่าท้าทาย เช่น ตามศูนย์การค้าต่าง ๆ ไม่เหมาะสม เพราะผมเชื่อว่ามันไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ถูกต้อง สถานที่ชอปปิ้งต่าง ๆ ก็มีคนที่เขาไปพักผ่อน แล้วเห็นบรรยากาศแบบนั้น อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยว ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่หวังดีต่อประเทศชาติ ไม่อยากให้เกิดบรรยากาศ​นี้แน่นอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2567

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 9 มกราคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2567

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท สำหรับลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็กแห่งชาติปี 2567 ดังนี้

“ความสุขความสบายทั้งหลายนั้น เกิดขึ้นได้ด้วยการทำงานและทำความดี เด็กทุกคนจึงต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียน และฝึกฝนอบรมตนให้เต็มที่ จะได้สามารถประกอบอาชีพการงาน และปฏิบัติบำเพ็ญความดี เพื่อสร้างสรรค์ความสุขความเจริญทั้งของตนเองและส่วนรวมได้ในอนาคต”

พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

วันที่ 3 มกราคม พุทธศักราช 2567

รัฐบาลจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา-วันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา 22-28 ก.ค.

People unity news online : รัฐบาลจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 10 – วันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา 22 – 28 ก.ค.นี้ จัด 11 ริ้วขบวน “พระบรมธาตุ พุทธศิลป์ แผ่นดินพระทรงธรรม” อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสมัยทวารวดี – รัตนโกสินทร์ให้พุทธศาสนิกชนกราบสักการะ ณ สนามหลวง

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 ที่กระทรวงวัฒนธรรม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 28 กรกฎาคม 2561 ว่า รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และองค์กรศาสนา เป็นต้น ดำเนินการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร  28 กรกฎาคม 2561 ซึ่งจะจัดงานนี้ขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 28 กรกฎาคม 2561 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาในประเทศไทยที่ยาวนานถึง 1,400 ปี และเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชของไทยทุกพระองค์ ตลอดจนเทิดทูนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นพุทธมามกะและทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก และทรงปกครองประเทศและดูแลพสกนิกรชาวไทยด้วยหลักทศพิธราชธรรม

กิจกรรมหลักที่จะจัดขึ้นใช้ชื่อว่า “พระบรมธาตุ พุทธศิลป์ แผ่นดินพระทรงธรรม” โดยมีริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุ พุทธศิลป์ แผ่นดินพระทรงธรรม ตั้งแต่สมัยทวารวดีถึงรัตนโกสินทร์ ประกอบด้วย 11 ริ้วขบวน ได้แก่ 1.ธรรมจักรยาตรา เป็นรถขบวนอัญเชิญธงธรรมจักร ธงฉัพพรรณรังสี และรถขบวนจำลองวงล้อธรรมจักร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา 2. เทียนพรรษาเสริมศาสน์ ขบวนจำลองแห่เทียนพรรษาที่แกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม เป็นประเพณีตั้งแต่โบราณกาลในวันเข้าพรรษา 3. บรมนาถทวารวดี เป็นรถขบวนจำลองโบราณสถานวัดคูบัว จ.ราชบุรี พระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบาทศิลปะแบบทวารวดี ใบเสมาที่บอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ 4. เสริมศรีโคตรบูร เป็นรถขบวนจำลองพระธาตุพนม จ.นครพนม หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย 5. เจิดจำรูญศรีวิชัย เป็นรถขบวนจำลองเจดีย์พระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พระพุทธรูปปางมารวิชัยนาคปรก แบบศิลปะศีวิชัย 6. ไตรภพลพบุรี เป็นรถขบวนจำลองพระปรางค์สามยอด จ.ลพบุรี และพระพุทธรูปทรงเครื่องปางนาคปรก 7. ธรรมวิถีล้านนา เป็นรถขบวนจำลองพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง และประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์  จ.เชียงใหม่ 8. เชิดบูชาสุโขทัย เป็นรถขบวนจำลองเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ วัดมหาธาตุ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และประดิษฐานพระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก 9. เกษมสมัยอยุธยา เป็นรถขบวนจำลองเจดีย์พระศรีสรรเพชญ์ พระพุทธรูปทรงเครื่อง วัดหน้าพระเมรุ จ.พระนครศรีอยุธยา 10.ธรรมารัตนโกสินทร์ เป็นรถขบวนจำลองพระศรีศากยะทศพลญาณจากพุทธมณฑล พระศรีรัตนเจดีย์ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ 11. แผ่นดินศาสนูปถัมภก โดยริ้วขบวนจะมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสำคัญทั้งหมด 5 ยุค ได้แก่ ทวารวดี ล้านนา สุโขทัย อยุธยาและรัตนโกสินทร์ ซึ่งขบวนเฉลิมพระเกียรติฯมีข้าราชการ ศิลปินดารา ทหารกองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ ตำรวจและพสกนิกร เข้าร่วมขบวน โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีปล่อยริ้วขบวน ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2561

ทั้งนี้ แต่ละริ้วขบวนมีการแสดงฟ้อนรำและระบำของแต่ละยุคที่ได้รับการฟื้นฟูขึ้น โดยริ้วขบวนจะเคลื่อนจากบริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ผ่านถนนราชดำเนินไปยังท้องสนามหลวง เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแต่ละยุคไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการบูชาและเวียนเทียนเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และชมนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุแต่ละยุค ตั้งแต่วันที่ 23-28 กรกฎาคม 2561 เวลา 08.00-20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ดังนั้น จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมงานดังกล่าว และขอความร่วมมือแต่งกายด้วยชุดสีขาว พร้อมตั้งโต๊ะหมู่บูชาเพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ขณะที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่านจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ถึงมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 เวลา 17.00 น.

นายวีระ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้  มีกิจกรรมทางศาสนา ได้แก่ พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระบรมธาตุเจดีย์หรือพระพุทธรูปสำคัญของแต่ละจังหวัด วันที่ 15-28 กรกฎาคม 2561 ณ ส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด พิธีเจริญพระพุทธมนต์หล่อเทียนพรรษา 10 ต้น วันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และพิธีปล่อยขบวนรถแห่เทียนพรรษา 10 ต้น วันที่ 25 กรกฎาคม 2561 เพื่อนำไปถวายยังพระอารามหลวง 10 วัด ได้แก่ 1. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 2. วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม 3. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม 4. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 5. วัดบุรณศิริมาตยาราม 6. วัดบวรนิเวศวิหาร 7. วัดสุทัศนเทพวราราม  8. วัดชนะสงคราม 9. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ 10. วัดปรินายก รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม อาทิ ประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ ตอบปัญหาธรรมะ การสวดสาธิตโอ้เอ้วิหารราย การแสดงธรรม ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น วันที่ 23-27 กรกฎาคม 2561 ณ ท้องสนามหลวง และกิจกรรมธรรมะสู่คนทั้งมวลโดยปฏิบัติธรรม รักษาศีล เจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล วันที่ 22-28 กรกฎาคม 2561 ณ วัดในส่วนภูมิภาค 30 จังหวัด รวมทั้งมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ วันที่ 23 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.09 น. ณ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม และพิธีสวดมหามงคล 5 ศาสนาถวายพระพร ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 เวลา 07.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล อีกทั้งจัดงานอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาอาเซียนใน 16 จังหวัดตามแนวชายแดนของไทยที่มีพื้นที่ติดกับกลุ่มประเทศอาเซียน

ขณะเดียวกันมีกิจกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรม อาทิ วันที่ 24 กรกฎาคม 2561 คอนเสิร์ตชุมนุมนักร้องประสานเสียงนานาชาติ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วันที่ 24-26 กรกฎาคม 2561 การแสดงเฉลิมพระเกียรติ “ใต้ร่มพระมหากรุณา มหาวชิราลงกรณ” ณ โรงละครแห่งชาติ โดยวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 การแสดงรำถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร “พัทธวิสัย” มหกรรมกลอง การละเล่นของหลวง “ระเบง” และการแสดงโขน ชุดน้อมพลีกาย ถวายภักดี วันที่ 25 กรกฎาคม การแสดงรำถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร “พัทธวิสัย” การบรรเลง-ขับร้องดนตรีสากล การแสดงบัลเล่ต์มโนราห์ การละเล่นของหลวง “โมงครุ่ม กุลาตีไม้” และการแสดงโขน ชุดศึกวิรุญจำบัง และวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 การแสดงหุ่นละครเล็กเฉลิมพระเกียรติฯ วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 การแสดงดนตรีไทยเฉลิมพระเกียรติฯ ณ เวทีกลางแจ้ง และหอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ Thai PBS จะบันทึกเทปการแสดงดนตรีไทยเฉลิมพระเกียรติ ฯในวันดังกล่าว และจะนำไปออกอากาศในวันที่ 4 สิงหาคม 2561 เวลา 12.05-16.00 น. นอกจากนี้ วันที่ 25 กรกฎาคม 2561 มีกิจกรรมเสวนาวิชาการหัวข้อ “ใต้ร่มพระมหากรุณา มหาวชิราลงกรณ” ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป อีกทั้งจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน และส่วนภูมิภาคจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่ จ.อุบลราชธานี อุดรธานี ชลบุรี สงขลาและเชียงใหม่

รวมถึงกิจกรรมจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ โดยจิตอาสาวัฒนธรรมร่วมทำความดีด้วยหัวใจและการทำความสะอาดโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์และศาสนสถานทั่วประเทศ และชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทั่วประเทศบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ถวายเป็นพระราชกุศล อีกทั้ง วธ.ได้จัดทำและเผยแพร่สารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ บทเพลงเฉลิมพระเกียรติฯ และภาพยนตร์ข่าวพระราชกรณียกิจที่สำคัญในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทั้งนี้ มีพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลและขับร้องเพลง “สดุดีจอมราชา” ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนวัฒนธรรม โทร.1765

People unity news online : post 19 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.10 น.

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี แล้ว

People Unity News : 2 กันยายน 2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2566 แล้ว นั้น

บัดนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรองนายกรัฐมนตรี

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายสุทิน คลังแสง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อีกตำแหน่งหนึ่ง

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายไชยา พรหมา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายอนุชา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นางมนพร เจริญศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นายชลน่าน ศรีแก้ว เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

Advertisement

“หมอชลน่าน” สุดปิติเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ในหลวงพระราชทานกำลังใจ ทรงชมนายกฯ เป็นคนเก่ง

People Unity News : 5 กันยายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล – รมว.สธ.สุดปิติเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ในหลวงพระราชทานกำลังใจ ทรงชมนายกฯ เป็นคนเก่ง พร้อมสานต่องานเดิมที่ดีอยู่แล้ว ยึดประชาชนเป็นหลักทำงาน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้า ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ว่า ครั้งนี้เป็นการเข้าถวายสัตย์เป็นครั้งที่ 2 ของตน ต้องเรียนด้วยความเคารพว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปฏิสันถารที่ทำให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจอย่างมาก ทรงมีพระราชกระแสตรัสให้กำลังใจ หลังจากถวายสัตย์เสร็จสิ้นพระองค์ได้เดินเข้ามาหานายกรัฐมนตรีด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้ม และพูดให้กำลังใจท่านนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าท่านนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ได้ดี พระองค์ท่านยังทรงชมนายกรัฐมนตรีว่าเชื่อมั่นว่าเป็นคนเก่งอยู่แล้ว และทรงมีพระสรวล เราเองก็มีความปิติ ตามที่เราได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประเทศชาติและบ้านเมือง และปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกประการ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแนวทางการเข้าปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข ว่า มั่นใจในการทำงาน เพราะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบนโยบายชัดเจนว่าเราคือรัฐบาลของประชาชน เราคำนึงถึงประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ดังนั้น กลไกในการบริหารราชการแผ่นดินของกระทรวงสาธารณสุข อะไรที่ยึดโยงกับประชาชนดีอยู่แล้วเราก็ทำต่อไป อะไรที่ต้องปรับเปลี่ยน เพื่อตอบสนองของประชาชนได้ดีขึ้นก็ต้องดำเนินการ เข็มจึงมุ่งอยู่ที่ประชาชน ทั้งสุขภาวะร่างกายจิตใจ รวมถึงสติปัญญา

“ส่วนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุขร่วมมือถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะกระทรวงสาธารณสุขมีความเกี่ยวข้องกับทุกกระทรวง โดยเฉพาะในช่วงแรกที่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของกระทรวงเพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล เราตั้งใจมุ่งมั่นที่จะใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ รวมถึงต้องวางโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไอที จึงต้องอาศัยความร่วมมือของทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง” นพ.ชลน่าน กล่าว

Advertisement

รัฐบาลเตรียมจัดงานสมพระเกียรติ ฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระสังฆราช 

People Unity News : 27 เมษายน 2566 “ธนกร” เผยรัฐบาลเตรียมจัดงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปริณายก 26 มิถุนายนนี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ การจัดงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จัดประชุมคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  โดยมีกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐ และสื่อมวลชน ร่วมกันพิจารณาและดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การจัดงานพระราชพิธี รัฐพิธี ศาสนพิธี งานพิธี โครงการและกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการตามพระดำริ และเชิญชวนประชาชนร่วมฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

นายธนกร กล่าวว่า จะมีการถ่ายทอดสดการเสด็จพระราชดำเนินไปในงานบำเพ็ญพระกุศลฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2566 เวลา 17.00 น. ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และเครือข่าย TGN 170 ประเทศทั่วโลก และทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ

“ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทางที่มี เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน ซึ่งผมในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ได้วางแผนและเตรียมความพร้อมแล้ว นอกจากนี้ ยังได้จัดทำช่องทางให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ  ได้ที่เว็บไซต์ :  https://www.prd.go.th/th/page/item/index/id/85 โดยลิงค์เข้าไปที่เว็บไซต์ กรมประชาสัมพันธ์ :  www.prd.go.th และ Facebook 96 พรรษาสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่น่าเชื่อถือมาให้ประชาชนรับรู้ และเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก” นายธนกร กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics