วันที่ 26 พฤศจิกายน 2025

กระทรวงดีอี เผย 10 อันดับข่าวปลอมยอดฮิต เตือนอย่าหลงเชื่อ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 20 เมษายน 2568 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “เตรียมรับมือภูเขาไฟระเบิด 5 แห่ง ในประเทศไทย” รองลงมาคือเรื่อง “เลขหลุดสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 เม.ย. 68” โดยขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อาจทำให้เกิดความตื่นตระหนก วิตกกังวล เกิดความสับสนในสังคม

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 834,632 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 474 ข้อความ

สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 455 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 19 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 166 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 51 เรื่อง

ทั้งนี้ กระทรวงดีอี ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย

กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 63 เรื่อง

กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายจำนวน 45 เรื่อง

กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 27 เรื่อง

กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 8 เรื่อง

กลุ่มที่ 5 : กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 23 เรื่อง

นายเวทางค์ กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆ ในสัปดาห์นี้ พบว่าเป็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องของภัยพิบัติ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมส่วนใหญ่ ทำให้เกิดความตื่นตระหนก เข้าใจผิด สับสน และวิตกกังวลได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องโครงการของรัฐบาล และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งมีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

อันดับที่ 1 : เรื่อง  เตรียมรับมือภูเขาไฟระเบิด 5 แห่ง ในประเทศไทย

อันดับที่ 2 : เรื่อง เลขหลุดสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 เม.ย. 68

อันดับที่ 3 : เรื่อง วันที่ 11 เม.ย. 68 อสม. อสส. เตรียมรับเงินเพิ่มคนละ 2,000 บาท

อันดับที่ 4 : เรื่อง  เตือนภัย! เสี่ยงสึนามิ 15, 17 และ 24-25 ก.ค. 68

อันดับที่ 5 : เรื่อง Carthisin เสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกและข้อต่อ บรรเทาความรุนแรงของโรคกระดูก

อันดับที่ 6 : เรื่อง ผลิตภัณฑ์ Paratinol ทำลายปรสิตในร่างกาย ทำความสะอาดเลือด น้ำเหลือง และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ HPV ในมนุษย์

อันดับที่ 7 : เรื่อง อสม. จะถูกยกเลิก เพื่อนำเงินมาสนับสนุนโครงการผู้สูงอายุ

อันดับที่ 8 : เรื่อง Sanderma ช่วยแก้ปัญหาโรคสะเก็ดเงิน ลมพิษ ผื่นคัน โรคผิวหนังต่าง ๆ

อันดับที่ 9 : เรื่อง  ด่วน! รัฐบาลให้เวลา 1 สัปดาห์ ยกเลิกธนบัตร 1,000 บาท

อันดับที่ 10 : เรื่อง ลูกชาวพม่าและเขมร สามารถเรียนหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหารไทยได้

“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวเรื่องของภัยพิบัติ ที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งเป็นทำให้เกิดความตื่นตระหนก เข้าใจผิด ความสับสนในสังคม โดยหากมีการแชร์ส่งต่อกันไปในสังคม มีผลทำให้ประชาชนเกิดความหวั่นวิตก นอกจากนี้ยังมีเรื่องโครงการของรัฐบาล การให้บริการของหน่วยงานรัฐ และข่าวที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่อาจส่งผลกระทบกับประชาชนทั่วประเทศเป็นวงกว้าง” นายเวทางค์ กล่าว

สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “เตรียมรับมือภูเขาไฟระเบิด 5 แห่ง ในประเทศไทย” กระทรวงดีอี โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า ตามที่มีคลิปกล่าวถึงการเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิด ที่จังหวัด ราชบุรี, ขอนแก่น, สุโขทัย, กาฬสินธุ์, บุรีรัมย์ นั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นข่าวปลอม เนื่องจากปัจจุบัน ประเทศไทยไม่มีภูเขาไฟมีพลัง (Active Volcano) ที่จะทำให้เกิดการระเบิดได้ โดยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อและติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางทางการเท่านั้น

ในส่วนข่าวปลอมอันดับ 2 เรื่อง “เลขหลุดสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 เม.ย. 68” กระทรวงดีอี  ได้ประสานงานตรวจสอบร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กระทรวงการคลัง พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า ข่าวที่มีการเผยแพร่นั้นเป็นข่าวปลอม โดยการออกรางวัลของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 ที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกขั้นตอน และไม่มีผู้ใดสามารถทราบผลรางวัลล่วงหน้าได้ หรือกำหนดผลสลากกินแบ่งรัฐบาลล่วงหน้าได้ จึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่ส่งจดหมายหลอกลวงหรือแอบอ้างผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย

อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทันส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เกิดความวิตกกังวล หรืออาจสร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด

สามารถแจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.)

|  Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com

Advertisement

 

เตือนนักดื่ม มีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน เสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 16 เมษายน 2568 รองโฆษกรัฐบาลเตือนนักดื่ม มีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน เสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี แนะทานยา PEP ภายใน 72 ชั่วโมง รับบริการได้ที่ รพ.สังกัด สธ.

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงประชาชน เนื่องจากการจัดงานรื่นเริงในสถานที่ต่างๆ เป็นโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมาก และอาจมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือไม่สวมถุงยางอนามัย และมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ได้ง่าย

นายคารม กล่าวว่า สธ. ได้รายงานสถานการณ์ว่าปัจจุบัน การติดเชื้อ HIV ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าผู้ติดเชื้อ HIV ยังไม่ทราบสถานะติดเชื้อของตนเอง และยังไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา ทำให้คนเหล่านี้ สามารถถ่ายทอดเชื้อไปยังคู่นอนต่อไปได้

ทั้งนี้ ในปี 2568 มีการคาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 8,862 คน โดยการติดเชื้อรายใหม่นั้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 60 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย มีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ จำนวน 10,217 คน และมีผู้ติดเชื้อ HIV สะสมยังคงมีชีวิตอยู่ จำนวน 568,565 คน

นายคารม กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือไม่สวมถุงยางอนามัย ควรปฏิบัติตามที่ สธ. แนะนำ โดยการรับยา PEP Post-Exposure Prophylaxis ซึ่งจะต้องเริ่มรับประทานยาภายใน 72 ชั่วโมง หรือภายใน 3 วัน หลังมีความเสี่ยง และรับประทานติดต่อกันนาน 28 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV ตามคำแนะนำจากแพทย์ เนื่องจากมีรายละเอียดในเรื่องของวิธีการใช้

“ประชาชนสามารถเข้ารับบริการในโรงพยาบาลในสังกัด สธ. รวมทั้งหน่วยบริการภาคประชาสังคม ได้แก่ Mplus เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก โคราช CareMet เชียงใหม่ SWING ชลบุรี RSAT อุบลราชธานี และสงขลา ” นายคารม ระบุ

Advertisement

“สมศักดิ์” จัดของขวัญวันผู้สูงอายุ มอบแพ็กเกจดูแลต่อเนื่อง “ตา-ฟัน-หัวใจ-ลำไส้”

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 13 เมษายน 2568 “สมศักดิ์” เผยของขวัญวันผู้สูงอายุ จัดแพ็กเกจดูแลต่อเนื่อง “ตา-ฟัน-หัวใจ-ลำไส้” แนะลูกหลานเอาใจใส่ ให้คุณค่าผู้อาวุโสของครอบครัว พร้อมอวยพรปีใหม่ไทยให้ประชาชนแข็งแรง ปลอดโรคภัย ไม่ลืมชวนนับคาร์บ เพื่อสุขภาพที่ดี

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ไทย และวันนี้เป็นวันผู้สูงอายุ ตนขออวยพรให้พี่น้องประชาชนมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปลอดโรค ไม่เจ็บป่วย และอยากขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชน เริ่มทำสิ่งดีๆ ด้วยการหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ จะได้ไม่เจ็บป่วย โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนโครงการคนไทยห่างไกลโรค NCDs เชิญชวนให้ทุกคนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยการคำนวณคาร์โบไฮเดรต ที่สามารถบริโภคได้ในแต่ละวัน เพื่อให้เหมาะสมกับร่างกาย จะได้ไม่บริโภคมากเกินไป จนไปทำร้ายร่างกายได้ ดังนั้น ตนอยากขอใช้โอกาสที่พี่น้องประชาชนกลับบ้านอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว ให้ชวนกันนับคาร์บ เพื่อสุขภาพดีกันถ้วนหน้า

“สำหรับผู้สูงอายุก็นับคาร์บได้ อย่างตนเองปีนี้ก็ 70 เป็นผู้สูงอายุแล้วเช่นกัน พยายามดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ คู่ขนานกับการนับคาร์บ ความดันอะไรต่างๆ ก็ดีขึ้น น้ำหนักก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ทำให้เราดูหนุ่มสาวขึ้นด้วย ไม่เป็นภาระลูกหลานพาไปหาหมอ ลดค่าใช้จ่ายครอบครัว” นายสมศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เนื่องในโอกาสสำคัญในวันผู้อายุ ลูกหลานควรจะเอาใจใส่และให้คุณค่ากับผู้อาวุโสของครอบครัว หมั่นดูแลสุขภาพกายใจของพวกท่าน และพยายามให้ผู้สูงอายุ ลด ละ เลิก สิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น บุหรี่ เหล้า และพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ โดยในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขมอบของขวัญในวันผู้สูงอายุจะให้มีการผ่าตัดต้อกระจก 76,000 ดวงตา ปลูกถ่ายกระจกตา 1,500 ดวงตา และคัดกรองสายตาโดยทีม 3 หมอ อีกทั้งจะมอบ “รอยยิ้มใหม่ผู้สูงวัย ปี 2568” ให้ผู้สูงอายุและก่อนวันสูงอายุได้รับการใส่ฟันเทียมทั้งปาก หรือเกือบทั้งปาก จำนวน 45,000 ราย และเร็วๆ นี้กำลังจะมีนโยบายสำคัญในการดูแลประชาชนคนไทยทุกช่วงวัย อาทิ คัดกรองความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ตรวจไขมันในเลือด ส่องกล้องเพื่อคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง มอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุ เป็นต้น ขอให้รอติดตามนโยบายดีๆ ของกระทรวงสาธารณสุข ในการดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชน

Advertisement

เสนอ “พระปรางค์วัดอรุณฯ” เข้าสู่บัญชีศูนย์มรดกโลก

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 8 เมษายน 2568 ครม.เห็นชอบนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “พระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม อัตลักษณ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลก

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “พระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม อัตลักษณ์ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ภายใต้ชื่อ “Phra Prang of Wat Arun Ratchawararam : The Masterpiece of Kung Rattanakosin” เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก

และเห็นชอบให้ประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกลงนามในเอกสารนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “พระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม อัตลักษณ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ภายใต้ชื่อ “Phra Prang of Wat Arun Ratchawararam : The Masterpiece of Krung Rattanakosin” เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ต่อศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส และมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยประสานงานกลางอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาตินำเสนอเอกสารการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “พระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม อัตลักษณ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ภายใต้ชื่อ “Phra Prang of Wat Arun Ratchawararam : The Masterpiece of Krung Rattanakosin” เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลก ต่อศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส

Advertisement

“จิราพร” เผยประชาชนพอใจงานปราบบุหรี่ไฟฟ้ามากที่สุด

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 6 เมษายน 2568 “จิราพร” เผยประชาชนโหวตปราบบุหรี่ไฟฟ้า เป็นผลงานที่พอใจมากที่สุดประจำเดือน มี.ค.68 ย้ำรัฐบาลเดินหน้าปราบต่อ พร้อมเปิดแจ้งเบาะแสผ่านแอปทางรัฐ

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อนโยบายรัฐบาล ประจำเดือนมีนาคม 2568 ของ Line Today ซึ่งมีการสำรวจระหว่างวันที่ 1-24 มีนาคม 2568 พบว่า ประชาชนกว่า 26.69% โหวตให้การปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เป็นอันดับที่ 1 รองลงมาคือ มาตรการลดราคาเบนซิน-ดีเซล 1 บาท ของขวัญวันสงกรานต์ คิดเป็น 21.62% และมาตรการขยายสิทธิบัตรทอง พบหมอออนไลน์-จัดส่งยาถึงบ้าน คิดเป็น 12.13%

นางสาวจิราพร กล่าวว่า การปราบปรามการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า เป็นหนึ่งในข้อสั่งการที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะการป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กและเยาวชน รัฐบาลจึงได้ดำเนินการกวาดล้างอย่างจริงจัง จนสามารถจับกุมได้ 2,236 คดี ยึดของกลางได้จำนวน 1,608,445 ชิ้น มูลค่ารวม 295,686,734 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียงเดือนเศษ ซึ่งถือเป็นยอดการจับกุมและการยึดของกลางที่สูงกว่าตลอดสองปีที่ผ่านมา

“นอกจากการทำงานปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าเชิงรุกของเจ้าหน้าที่แล้ว เรายังได้เปิดให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสร้านค้าที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งรูปแบบร้านค้าออนไลน์ และร้านมีที่ตั้ง ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐอีกด้วย” นางสาวจิราพร กล่าว

Advertisement

 

รางวัล “The People Proud Awards 2025 บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ปี 2568”

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 26 มีนาคม 2568 รางวัล “The People Proud Awards 2025 บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ปี 2568”

เป็นเวลา 12 ปี ที่สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ (https://www.peopleunitynews.com) ก่อตั้ง (เมื่อ พ.ศ.2556) และนำเสนอข่าวสารและข้อมูลทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ ภายใต้จุดยืน “นำเสนอ ข่าวจริง ไม่อิงฝักฝ่าย ไม่ขายดราม่า” ทั้งนี้ ด้วยเล็งเห็นว่า มีแต่การนำเสนอข่าวสารและข้อมูลจริง รอบด้าน เป็นกลาง ไม่มีอคติ ไม่หวือหวาเกินเลยจากเนื้อข่าว ที่จะทำให้สถานการณ์ด้านต่างๆของบ้านเมืองไม่มีความสับสน คลุมเครือ และไม่ถูก “ข่าวลือ” หรือ “ข่าวปลอม” ที่ถูกสร้างขึ้น ชักพาไปสู่สถานการณ์อันไม่พึงประสงค์ เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ความแตกแยกและความขัดแย้งระหว่างคนไทยด้วยกันเอง นอกจากนี้ “ข้อมูลข่าวสารจริง” ยังทำให้ประชาชนพินิจพิเคราะห์ได้ว่า ประเทศชาติของเรากำลังเดินไปในทางไหน และจะมีอนาคตเป็นเช่นไร

ในโอกาสที่ สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ (https://www.peopleunitynews.com) มีอายุครบ 12 ปีในปีนี้ ผมในฐานะผู้ก่อตั้งสำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ ได้หารือร่วมกับคณะที่ปรึกษา และคณะผู้บริหาร ว่า ในโอกาสพิเศษนี้ สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ ควรจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมเชิดชูคนดี และบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ทั้งในหน้าที่การงานที่มีต่อประเทศชาติ ส่วนรวม สังคม และประสบความสำเร็จในการประกอบสัมมาอาชีพ จึงเป็นที่มาของการจัดงานมอบรางวัลให้กับบุคคลที่มีผลงานโดดเด่นในด้านต่างๆ เพื่อให้เป็น “บุคคลต้นแบบ” ที่สังคมภาคภูมิใจ และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุคคลอื่น โดยเฉพาะต่อเด็กเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญรุ่นต่อๆไปของชาติบ้านเมือง ทั้งนี้รางวัลที่จะมอบให้ในครั้งนี้ คือ รางวัล “The People Proud Awards 2025 บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ปี 2568”

โดยในขณะนี้ ผมในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ ร่วมกับคณะกรรมการคัดเลือกฯ ซึ่งประกอบไปด้วยคณะที่ปรึกษา และทีมงานบรรณาธิการ กำลังดำเนินการสรรหาและคัดเลือก “บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ปี 2568” โดยสืบค้นและพิจารณาข้อมูลบุคคลที่มีความโดดเด่นด้านต่างๆ อย่างรอบด้าน นับจากปัจจุบัน ย้อนหลังไป

ทั้งนี้ รางวัล “The People Proud Awards 2025 บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ปี 2568” จะแบ่งเป็น 10 ด้าน ดังนี้

1.บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ด้านการเมือง

2.บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ด้านเศรษฐกิจ

3.บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ด้านธุรกิจ

4.บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ด้านสังคม

5.บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ด้านสร้างสรรค์ความสัมพันธ์ที่ดีกับต่างประเทศ

6.บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ด้านการพัฒนาท้องถิ่น

7.บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ด้านรัฐวิสาหกิจ

8.บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ด้านศาสนา วัฒนธรรม

9.บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ด้านสร้างความสามัคคี ความปรองดอง

10.บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ด้านสื่อสารมวลชน

หมายเหตุ ใน 10 ด้านดังกล่าว มีการแบ่งย่อยเป็นประเภทต่างๆ เพื่อสะท้อนจุดเด่นของบุคคลที่ได้รับรางวัลให้เป็นที่ประจักษ์ที่สุด

ทั้งหมดนี้ เป็นปฐมบท ของการจัดงานมอบรางวัล “The People Proud Awards 2025 บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ปี 2568” โปรดติดตาม การรายงานผลการพิจารณาคัดเลือก ที่จะนำออกเผยแพร่เป็นระยะ รวมทั้งการเตรียมจัดงานพิธีมอบรางวัลแห่งความภาคภูมิใจนี้ ทางสื่อโซเชียลแห่งนี้ และทางเว็บไซต์สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ (https://www.peopleunitynews.com)

ขอแสดงความนับถือ

นายพูลเดช กรรณิการ์

ประธานคณะกรรมการคัดเลือก

รางวัล The People Proud Awards 2025

บุคคลต้นแบบแห่งความสำเร็จและความดี ปี 2568

26 มีนาคม 2568

รัฐบาลห่วง หลังพบข้อมูลวัยรุ่นหญิง มีแนวโน้มสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มกว่าวัยรุ่นชาย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 8 มีนาคม 2568 รัฐบาลห่วงเด็กและเยาวชนไทยมีค่านิยมผิด ๆ หลังพบข้อมูลวัยรุ่นหญิง มีแนวโน้มสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มกว่าวัยรุ่นชาย เดินหน้าปราบปรามเข้มข้น ดำเนินคดีทุกราย

วันนี้ (8 มีนาคม 2568) นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ามูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้รายงานสถานการณ์เด็กและเยาวชนไทย โดยเฉพาะวัยรุ่นหญิงมีแนวโน้มสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่าวัยรุ่นชาย ซึ่งหากปล่อยให้วัยรุ่นหญิงติดบุหรี่ไฟฟ้าจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากกว่าผู้ชาย

“แม้ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 แสดงอัตราการ ‘สูบบุหรี่มวน’ ของหญิงไทยลดลง เหลือ 1.3%  แต่เมื่อเทียบกับการสำรวจระดับประเทศ เมื่อปี 2565 พบว่าวัยรุ่นหญิงอายุ 13 – 15 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้า 15% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าบุหรี่มวน 10 เท่า ในขณะที่ผู้ชายสูบบุหรี่ไฟฟ้า 20.2%  และการสำรวจปีต่อ ๆ มา ในประเทศไทย พบว่า วัยรุ่นหญิงและชายมีอัตราการสูบบุหรี่ที่ใกล้เคียงกัน หากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไป จะส่งผลให้อัตราการสูบบุหรี่โดยภาพรวมทั้งบุหรี่ปกติและบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มผู้หญิงเพิ่มสูงอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน” นายอนุกูล ระบุ

ทั้งนี้ จากข้อมูลยังพบว่าหญิงไทยสูบบุหรี่ทุกรูปแบบ จะมีแนวโน้มเลิกได้ยากกว่าผู้ชาย และที่น่าเป็นห่วงคือ ผลของการเสพติดจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพทุกระบบระยะยาวด้วย ซึ่งเป็นผลจากความแตกต่างของฮอร์โมนเพศหญิงกับชาย จึงมีโอกาสเป็นโรคร้ายที่ระบบอวัยวะอื่นที่มากกว่าผู้ชายด้วย หากเป็นผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ จะทำให้สารพิษทั้งนิโคติน ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และสารอื่น ๆ ถูกส่งผ่านระบบทางเดินหายใจของมารดาเข้าไปสู่รก ซึ่งสารพิษเหล่านี้จะทำให้มีการแปรปรวนภายในมดลูก และก่อผลร้ายหลายประการ เช่น การแท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด (ซึ่งทำให้ทารกเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเนื่องจากการทำงานของระบบอวัยวะต่าง ๆ ยังไม่สมบูรณ์พอ) เป็นต้น

“การระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนไทยในปัจจุบัน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งปราบปราม เน้นย้ำให้ดำเนินตามกฎหมายให้ถึงที่สุดไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือรายใหญ่จะต้องจับดำเนินการตามกฎหมายให้หมด ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสงค์จะเลิกสูบบุหรี่ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ https://www.thailandquitline.or.th/site/  หรือ โทร. สายด่วน 1600” นายอนุกูล กล่าว

Advertisement

นายกฯขอให้องค์พระอัลเลาะห์อำนวยพรอันประเสริฐแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 28 กุมภาพันธ์ 2568 นายกรัฐมนตรีส่งความปรารถนาดีขอให้องค์พระอัลเลาะห์อำนวยพรอันประเสริฐแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศ

วันนี้  (28 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 19.50 น.  ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล  นางสาวแพทองธาร   ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี กล่าวเนื่องในโอกาสต้อนรับเดือนรอมฎอน ประจำปี พ.ศ. 2568 (ฮ.ศ.1446)   โดยมีใจความว่า

“ในโอกาสอันเป็นมงคลของเดือนรอมฎอน ปีฮิจเราะห์ศักราช 1446 นายกรัฐมนตรีได้ส่งความปรารถนาดีและขอให้องค์พระอัลเลาะห์อำนวยพรอันประเสริฐแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศและชาวไทยมุสลิมที่พำนักในต่างประเทศทุกคน”

รอมฎอนเป็นเดือนความเมตตา ความอดทน และการขัดเกลาจิตใจ เป็นช่วงเวลาที่ชาวมุสลิมทั่วโลกมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนาอิสลามและถือศีลอด เพื่อชำระร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ ยึดมั่นในคุณงามความดี มีความเสียสละและแบ่งปัน รวมทั้งได้น้อมจิตที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธา รำลึกถึงพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่พระอัลเลาะห์ได้ประทานให้แก่พี่น้องชาวมุสลิม

“ในวาระมงคลแห่งเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1446 นายกรัฐมนตรีขอพรอันประเสริฐแห่งองค์พระอภิบาลโปรดประทานความเมตตา ความสุขกาย สุขใจแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกท่าน ให้สามารถปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ ในเดือนรอมฎอนได้ตามเจตจำนง และขอให้ดุอาห์ของทุกท่านบรรลุความปรารถนาทุกประการ ขอความสันติสุข ความสวัสดี จงประสบแก่ทุกท่าน”

Advertisement

เปิดงาน ‘มหกรรมไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค’ ประเดิมแก้ปัญหาแบบกลุ่ม ช่วยแก้ปัญหาเร็วขึ้นสามเท่า

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 27 กุมภาพันธ์ 2568 ‘รมต.จิราพร’ เปิดงาน ‘มหกรรมไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค’ ประเดิมแก้ปัญหาแบบกลุ่ม คาดช่วยแก้ปัญหาเร็วขึ้นสามเท่า

วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 09.45 น. นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและพัฒนากระบวนการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในทุกมิติ เพื่อให้ผู้บริโภคที่ถูกละเมิดสิทธิได้รับความช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ

นางสาวจิราพร กล่าวถึงความสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภคว่า “ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งผู้บริโภคต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างเท่าเทียมกันการคุ้มครองดังกล่าว ไม่เพียงแต่เป็นสิทธิพื้นฐาน แต่ยังเป็นมาตรฐานที่ทุกคนควรได้รับเพื่อสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งปัญหาหลักที่พบส่วนใหญ่มีมายัง สคบ. ได้แก่ กรณีการขายสินค้าหรือการให้บริการที่ไม่เป็นไปตามที่ตกลง ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขเรื่องร้องทุกข์ให้รวดเร็วขึ้น“

“การจัดกิจกรรมนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการส่งเสริมการไกล่เกลี่ยมิติใหม่ ในรูปแบบการไกล่เกลี่ยแบบกลุ่ม ซึ่งเป็นการแก้ไขข้อพิพาทกลุ่มที่มีประเด็นร้องทุกข์ในลักษณะเดียวกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหามากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนการช่วยเหลือผู้บริโภคได้มากขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อเทียบการดำเนินงานในลักษณะการไกล่เกลี่ยรายกรณี ที่ปัจจุบัน สคบ. มีการแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคเฉลี่ยเดือนละ 250 เรื่อง แต่เมื่อเริ่มกิจกรรมการไกล่เกลี่ยเป็นกลุ่ม และมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้บริโภคได้เป็นจำนวนมากขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งจะช่วยยกระดับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นางสาวจิราพร กล่าว

ทั้งนี้ กิจกรรม “มหกรรมไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค” จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยนำกระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยแบบกลุ่มมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้การแก้ไขปัญหามีความรวดเร็วขึ้น เมื่อเทียบกับการดำเนินการแบบรายกรณี โดยจะช่วยลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจ โดย สคบ. จะดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับกระบวนการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคและส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจในอนาคต

นอกจากนี้ สคบ. ยังได้ใช้ระบบ “OCPB Mediate” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มไกล่เกลี่ยออนไลน์ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถยื่นเรื่องร้องทุกข์ และขอความช่วยเหลือได้ทุกที่ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของ สคบ. ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสะดวกสบายอีกด้วย

Advertisement

นายกฯสั่งเด็ดขาด ภายใน 30 วัน ปราบ “บุหรี่ไฟฟ้า” ในเยาวชนและสถานศึกษาต้องเห็นผล

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 26 กุมภาพันธ์ 2568 นายกรัฐมนตรีสั่งเด็ดขาด ภายใน 30 วัน ปราบ “บุหรี่ไฟฟ้า” ในเยาวชนและสถานศึกษาต้องเห็นผลเป็นรูปธรรม สั่งซีลผู้นำเข้าทุกจุด จับกุมผู้ขายอย่างจริงจัง สั่งฟันหากพบ ตำรวจ-ข้าราชการ เอี่ยวมีโทษทั้งวินัยและอาญา

วันนี้ (26 ก.พ. 68) ณ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือการปราบบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะในเยาวชน-พื้นที่ใกล้โรงเรียน ร่วมกับพล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้เป็นหลัก โดยนายกรัฐมนตรีได้หารือถึงมาตรการคุมเข้มและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน กำชับให้ทุกฝ่ายดูแลอย่างเข้มงวด พื้นที่ใกล้โรงเรียน-สถานศึกษาต้องไม่มีการขายให้เยาวชน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโทษของบุหรี่ไฟฟ้าและข้อกฎหมายให้กับประชาชนได้เข้าใจอย่างถูกต้อง โดยเริ่มต้นที่การจัดการกับผู้นำเข้า seal ทุกจุด และจับกุมผู้ขายอย่างจริงจัง ตั้งเป้าหมายภายใน 30 วัน ร่วมกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และกรมศุลกากรในการปราบปรามอย่างเด็ดขาด

“สำหรับการปราบปรามนี้เป็นการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน ถือเป็นหน้าที่ร่วมกันของทุกคนในสังคม ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากทุกคน ทุกภาคส่วน ให้ช่วยดูแลเยาวชนในสังคม หากพบเห็นการขายให้แก่เด็ก และเยาวชน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไป” นายกรัฐมนตรีกล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics