วันที่ 5 พฤศจิกายน 2025

นายกฯ ย้ำรัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ปกป้องอธิปไตย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 20 มิถุนายน 2568 นายกฯ ขอบคุณกองทัพและทุกคน ย้ำรัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการปกป้องรักษาอธิปไตยของเรา

ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบถุงยังชีพเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ตัวแทนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ซึ่งเป็นราษฎรอาสาสมัครในพื้นที่ที่ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่กำหนดในการดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบของประชาชนในพื้นที่

โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับ ชรบ.ต่อการปฏิบัติหน้าที่ดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้รับมอบดอกกุหลาบสีแดงจากส่วนราชการ และประชาชนที่มาให้การต้อนรับเพื่อให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ในการทำงานเพื่อประเทศชาติและเพื่อประชาชน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการมรกต ตำบลโดมประดิษฐ์ เพื่อพบปะกำลังพลกองกำลังสุรนารีและมอบสิ่งของบำรุงขวัญ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ความมั่นคง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่มาพบปะทหารทุกนายในวันนี้ ตั้งใจมาให้กำลังใจทหารที่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ด้วยความกล้าหาญ ด้วยความอดทน อดกลั้นต่อสิ่งที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน ขอชื่นชมในความเสียสละ ที่ต้องห่างไกลบ้าน ห่างไกลครอบครัว และสิ่งสำคัญต้องขอขอบคุณ แม่ทัพภาคที่ 2 รวมถึงผู้บังคับบัญชา ทหารทุกนาย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทำหน้าที่ปกป้องประชาชน ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องอธิปไตยอย่างแน่วแน่ ด้วยความมุ่งมั่น อย่างต่อเนื่อง

“ขอให้คำมั่นว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ ทุกคนคือคนไทย แผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย จะต้องช่วยกันรักษา ทหารเปรียบเสมือนรั้วของชาติ รัฐบาลต้องการให้รั้วของชาติมีสุขภาพดี ทั้งแรงกาย และแรงใจ มีความสุขในการทำหน้าที่ อะไรที่ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุน รัฐบาลยินดีและพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ในนามรัฐบาลขอขอบคุณ และขอส่งกำลังใจให้ทหารทุกนาย พร้อมทั้งขอนำกำลังใจจากประชาชนทุกคนมามอบให้ในวันนี้” นางสาวแพทองธาร กล่าว

Advertisement

ครม.เห็นชอบกรอบแนวทางสร้างสังคมสงบสุขเคารพความต่าง

People Unity News : 27 กันยายน 2565 ครม.เห็นชอบ แนวทางเสริมสร้างการอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายทางสังคม เพื่อสร้างสังคมที่สงบสุข ประชาชนอยู่ร่วมกันโดยเคารพความแตกต่างหลากหลายและสิทธิพื้นฐานของมนุษย์

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม. ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแนวทางเสริมสร้างการอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายทางสังคม ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานในการสร้างสังคมที่สงบสุข ประชาชนอยู่ร่วมกันโดยเคารพความแตกต่างหลากหลาย และสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ ยึดถือหลักความอดทนอดกลั้น ยึดมั่น ในแนวทางสายกลาง และปราศจากความรุนแรงทุกรูปแบบ รวมถึงร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์และจัดการความขัดแย้งโดยสันติวิธี ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ชุมชนมีความปลอดภัยและมีความมั่นคง ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การต่อต้านการก่อการร้ายระดับโลกของสหประชาชาติ แผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันและรับมือกับอุบัติการณ์ของการบ่มเพาะแนวคิดหัวรุนแรงและแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรงแห่งภูมิภาคอาเซียน และนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติปี 2562 – 2565 ของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติปี 2561 – 2580 ในประเด็นด้านเสริมสร้างความมั่นคง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า แนวทางเสริมสร้างการอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายทางสังคมมีแนวทางการดำเนินการที่บูรณาการครบทุกมิติ ประกอบด้วย 3 มาตรการหลัก คือ

1.การป้องกัน (Prevention) มุ่งเฝ้าระวังความขัดแย้งและการกลั่นแกล้งกันทางออนไลน์ สร้างภูมิคุ้มกันภัยทางไซเบอร์และการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย ส่งเสริมการใช้สื่ออย่างเหมาะสมและรู้เท่าทัน  เช่น มีระบบป้องกันการรังแกกันในโรงเรียน Application Buddy ให้เด็กสามารถเรียนรู้เรื่องอารมณ์ตนเอง การจัดการอารมณ์ตนเอง การจัดการสถานการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการกลั่นแกล้งรังแกกัน

2.การยับยั้ง (Deterring/Restraint) มุ่งลดปัจจัยและขจัดเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การมีแนวคิดที่นิยมความรุนแรง  ส่งเสริมการใช้การสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ และ

3.การฟื้นฟูเยียวยา (Rehabilitation) ที่จะเป็นกระบวนการนำผู้ที่มีแนวคิดที่นิยมความรุนแรงหรือสุดโต่งกลับสู่ทางสายกลางและสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างสงบสุข โดยสร้างมาตรฐานในการดูแลกลุ่มเสี่ยง “กลไกการขับเคลื่อนจะเน้นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนในสังคม เป้าหมายเพื่อให้มีการบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาชน ดังนั้นจึงมีคณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วยสภาความมั่นคงแห่งชาติที่จะขับเคลื่อนระดับนโยบาย หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจรับผิดชอบในระดับปฏิบัติ สำหรับการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินการนั้น ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม องค์กรศาสนา องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์การระหว่างประเทศ จะเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือกันดำเนินงานอย่างจริงจัง เพื่อให้สังคมไทยมีความเข้มแข็งเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นการสร้างสังคมไทยให้เข้มแข็งเพื่อให้ประเทศชาติมีความมั่นคงต่อไป

Advertisement

เผยเกณฑ์ทหารปีนี้ยอดสมัครใจกว่า 3.5 หมื่นคน

People Unity News : 24 เมษายน 2566 รองโฆษก ทบ.เผยเกณฑ์ทหารปีนี้ ยอดสมัครกว่า 3 หมื่นคน สูงกว่าทุกปี ผบ.ทบ.กำชับหน่วยเตรียมพร้อมรับน้องเล็กของกองทัพ พร้อมมีมาตรการป้องกันโควิด-ฮีทสโตรก

พล.ต.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) เพื่อติดตามการปฏิบัติงานประจำสัปดาห์ ของกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจเลือกทหารกองประจำการ ซึ่งดำเนินการได้อย่างเรียบร้อยตามนโยบายของกองทัพที่ปรับและพัฒนาระบบการตรวจเลือก อาทิ การจัดคณะกรรมการตรวจเลือกประจำพื้นที่ ผลสำเร็จของการมีผู้สมัครเป็นทหารมากกว่าทุกปี เป็นจำนวนถึง 35,617 คน โดยในส่วนของกองทัพบกมีผู้สมัครสูงเกือบ 40% ซึ่งกองทัพบกจะนำข้อมูลผลการตรวจเลือก ข้อจำกัดในการตรวจเลือกปีนี้ไปพัฒนาต่อไป สำหรับการฝึกทหารใหม่ผลัด 1 / 66 จะรายงานตัววันที่ 15 พฤษภาคม นี้

“ผู้บัญชาการทหารบกกำชับให้ทุกหน่วยฝึกเตรียมความพร้อมในการดูแลทหารใหม่ตามแนวทางที่กองทัพบกได้กำหนดไว้ โดยเฉพาะในปีนี้ต้องให้ความสำคัญกับสถานการณ์ที่เป็นความท้าทาย ได้แก่ การกลับมาแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และการเจ็บป่วยจากความร้อน (Heat Stroke) จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในปีนี้ โดยผู้ฝึกและผู้บังคับหน่วยต้องศึกษาข้อมูล เตรียมการป้องกันผลกระทบหรืออันตรายในการฝึกทหารจะถึงนี้ทุกมาตรการ และปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์” รองโฆษกกองทัพบก กล่าว

พล.ต.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนในช่วงนี้ ผู้บัญชาการทหารบกกำชับหน่วยทหารให้มีมาตรการดูแลป้องกันความเจ็บป่วยจากอากาศร้อนและการเกิดอัคคีภัย โดยเฉพาะการดูแลระบบไฟฟ้า คลังยุทโธปกรณ์ พื้นที่ที่อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อเพลิง การปฏิบัติงานของกำลังพลที่ต้องสอดคล้องกับสภาพอากาศ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่าง ๆ ด้วย

Advertisement

“มายด์ ภัสราวลี” ยันชุมนุมปี 63 เป็นคดีการเมือง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 14 มีนาคม 2567 รัฐสภา – “มายด์ ภัสราวลี” พร้อมทนายเข้าชี้แจง กมธ.นิรโทษกรรม ยันชุมนุมปี 63 เป็นคดีการเมือง ขอรวม ม.112 เชื่อเป็นก้าวแรกคลี่คลายขัดแย้ง

น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ อดีตผู้ชุมนุมกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก และน.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กลุ่มโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมโดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นประธานประชุม เพื่อให้ความคิดเห็น และชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดความขัดแย้งทางการเมืองว่ามีเป้าหมาย มีมูลเหตุทางการเมืองอย่างไร เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ

น.ส.พูนสุข กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557-2562 มีผู้ที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหาร 2,400 คน หลังจากยกเลิกศาลทหาร ก็มีผู้ที่ถูกดำเนินศาลยุติธรรมอีกกว่า 100 คน ตั้งแต่กรกฎาคม ปี 2563-ปัจจุบัน มีคนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง 1,957 คน และตัวเลขเพิ่มขึ้น แม้จะไม่มีการชุมนุม ส่วนใหญ่เกิดจากการโพสต์ข้อความในช่องทางออนไลน์ และเข้าข่ายกระทำความผิดมาตรา 112 ซึ่งการประชุมร่วมกับกมธ.นิรโทษกรรมจะพูดถึงที่มา และความสำคัญของเหตุผลที่ต้องมีมาตรา 112 และพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

ด้านน.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสดีและมีความสำคัญมากที่จะได้ชี้แจงว่าการชุมนุมที่เกิดในปี 2563 มีเหตุจูงใจเกี่ยวกับการเมืองไทย ทั้งยังเป็นประเด็นที่คนในสังคมถกเถียงกันอยู่ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าจำนวนของคดีมาตรา 112 เป็นหนึ่งในสาเหตุความขัดแย้งที่ถูกสะสม แล้วอาจจะก่อตัวเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงกว่านี้ในอนาคตได้ หากนิรโทษกรรมคดีอื่น ๆ ได้แต่แยกมาตรา 112 ออกจะพูดได้อย่างไรว่า ได้คืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพทั้งหมดแล้วจริง ๆ

“พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรา 12 จะต้องถูกรวมใน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะการนิรโทษกรรมจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องรวมมาตรา 112 ไปด้วย เพื่อให้การคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมือง โดยเริ่มตั้งแต่จุดเริ่มต้นของปัญหา” น.ส.ภัสราวลี กล่าว

Advertisement

นายกฯชวนคนไทยร่วมทำความดีแบบไทยนิยม

People unity news online : นายกฯ ชวนคนไทยร่วมทำความดีแบบไทยนิยม เรียนรู้จากอดีต นำพาบ้านเมืองให้ก้าวหน้า พร้อมย้ำรัฐเคารพสิทธิเสรีภาพภายใต้กฎหมาย วอนสังคมประคับประคองการเปลี่ยนผ่านประเทศให้ราบรื่น

11 กุมภาพันธ์ 2561 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชวนคนไทยรวมพลังขับเคลื่อนการกระทำความดีแบบไทยนิยม โดยย้ำว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงสำคัญของบ้านเมืองที่จะก้าวพ้นจากความขัดแย้งในอดีต ด้วยการเรียนรู้ความผิดพลาดจากบทเรียนที่ผ่านมา และช่วยกันนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญก้าวหน้าเพื่อลูกหลานของเรา

“แนวทางสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เกิดความยั่งยืน ทุกคนจะต้องมีความรักสามัคคี ไม่ทอดทิ้งกัน สร้างชุมชนให้เข้มแข็งอยู่ดีมีสุข อย่างพอเพียง รู้สิทธิหน้าที่ของตนเอง รู้กลไกของราชการ รู้รักประชาธิปไตย รู้เท่าทันเทคโนโลยี ร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาเสพติด โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันตามหลักประชารัฐ”

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเข้าใจดีว่า พี่น้องประชาชนคาดหวังต่อรัฐบาลอย่างไร โดยเฉพาะการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน การแก้ไขปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจฐานราก การจัดระเบียบบ้านเมืองใหม่ การปฏิรูปหน่วยราชการที่เอาเปรียบประชาชน การปราบปรามยาเสพติด และเตรียมการเลือกตั้งเพื่อนำไปสู่การเมืองที่ดีขึ้น จึงขอให้เชื่อมั่นว่าการปฏิบัติงานทุกอย่างนั้น เป็นไปเพื่อตอบสนองความคาดหวังของประชาชน ลบรอยแผลที่บอบช้ำของประเทศ และฟื้นฟูเยียวยาให้สังคมเกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนในระยะยาว”

สำหรับการแสดงออกซึ่งสิทธิและเสรีภาพนั้น รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นความคิดและการกระทำ โดยขอให้คำนึงถึงขอบเขตของกฎหมาย ไม่สร้างความเดือดร้อน หรือก่อให้เกิดความขัดแย้ง ดังนั้น การทำกิจกรรมต่างๆของประชาชนทุกกลุ่มจึงควรพิจารณาด้วยหลักเหตุและผล ใคร่ครวญถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้บุคคลบางกลุ่มฉวยโอกาสนำไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง มุ่งสร้างความวุ่นวายขึ้นในประเทศ

นายกฯยังขอให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจที่เหมาะสมในการบังคับใช้กฎหมายด้วยความระมัดระวัง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง พร้อมทั้งขอให้สังคมช่วยกันประคับประคองการเปลี่ยนผ่านประเทศไปให้ได้อย่างราบรื่น

People unity news online : post 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 10.30 น.

นายกฯ เผยคุย ผบ.ทบ. ใกล้ชิด เรื่องสถานการณ์ใต้ เตรียมลงพื้นที่พร้อมนายกฯ มาเลเซีย 3 ส.ค.นี้

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 3 กรกฎาคม 2567 นายกฯ เผยคุย ผบ.ทบ. อย่างใกล้ชิด เรื่องสถานการณ์ใต้ เตรียมลงพื้นที่พร้อมนายกฯ มาเลเซีย 3 ส.ค.นี้

วันนี้ (3 กรกฎาคม 2567) เวลา 15.30 น. ณ อาคารรื่นฤดี สำนักงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)  เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. (วาระพิเศษ) และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถึงกรณีสถานการณ์ชายแดนใต้ ที่เกิดเหตุคาร์บอมในแฟลตตำรวจ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ได้หารือกับผู้บัญชาการทหารบก และมีความเป็นห่วงเรื่องนี้หรือไม่

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดกับผู้บัญชาการทหารบก และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้นายกฯ มีกำหนดลงพื้นที่ชายแดนใต้พร้อมนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซียแต่ถูกเลื่อนไปนั้น นายกฯ กล่าวว่า เข้าใจว่าวันที่ 3 สิงหาคมนี้ จะลงพื้นที่ไปพร้อมกัน ซึ่งหากมีความจำเป็นตนก็จะลงพื้นที่ไปก่อน คิวที่สามารถลงพื้นที่ไปพร้อมกันได้ก็คือวันที่ 3 สิงหาคม 2567 นี้

Advertisment

รัฐบาล-กทม.พร้อมทำงานร่วมกันเพื่อ ปชช.

People Unity News : 17 มิถุนายน 2565 นายกฯ จับมือ “ชัชชาติ” ถ่ายรูปหลังแถลง ศบค. ย้ำพร้อมทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่เพื่อประชาชน ประเทศต้องเดินหน้าไปด้วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ร่วมแถลงข่าวภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพื่ออนุมัติการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในส่วนของผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงแล้ว และเป็นโอกาสอันดีที่ได้พบปะกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและนายกเมืองพัทยา ซึ่งได้พูดคุยและยืนยันจะทำงานร่วมกันทุกเรื่อง ได้รู้จักกันดีทุกคนอยู่แล้ว ยืนยันไม่มีปัญหาในการทำงาน และช่วยกันทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั่วประเทศ วันนี้เชิญนายกเมืองพัทยามาเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว ส่วนผู้ว่าฯ กทม.ต้องเข้าร่วมการประชุมตามวาระปกติอยู่แล้ว ทุกฝ่ายเข้าใจกันดี ไม่มีปัญหา เพราะวันนี้ประเทศต้องเดินหน้าไปด้วยกัน

นายชัชชาติ กล่าวว่า พร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ ต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้ว มติ ศบค.ผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่สะท้อนว่าสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง และพร้อมร่วมทำงานกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายปรเมศวร์ กล่าวว่า จากการประชุมได้รับทราบถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตอย่างดีที่สุด ซึ่งในส่วนของเมืองพัทยา ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยว การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จะนำเสนอผ่าน ศบค.ต่อไป

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เชิญนายชัชชาติและนายปรเมศวร์กลับขึ้นไปบนตึกไทยคู่ฟ้า และนำเดินชมภายในตึกภักดีบดินทร์และบริเวณโดยรอบ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยว พร้อมชักชวนทุกคนร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน สนิทกัน พี่น้องกันทั้งนั้น จำได้ว่าเจอกันมานานแล้ว พร้อมชมนายชัชชาติว่า พอมาเจออีกทีแต่งเครื่องแบบดูหล่อ จากนั้นได้ถ่ายรูปร่วมกันบริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกรัฐมนตรีจับมือนายชัชชาติและนายปรเมศวร์ระหว่างถ่ายรูปด้วย

Advertisement

รมว.กลาโหม รับเสียใจคดีตากใบ ย้ำให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม บูรณาการทุกภาคส่วน ลดความรุนแรงในพื้นที่

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 4 ตุลาคม 2567 รองนรม./รมว.กห.เสียใจกับคดีตากใบพร้อมย้ำให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและบูรณาการทุกภาคส่วน ลดความรุนแรงในพื้นที่

พลตรี ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 67 ช่วงเที่ยงที่ผ่านมาว่า ตามที่มีกระทู้ถามสดจากนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ได้ตั้งกระทู้ถาม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนรม./รมว.กห. ถึงการดำเนินคดีกับผู้ทีเกี่ยวข้องเหตุการณ์ตากใบซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.67นั้น ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว รองนรม./รมว.กห. ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าท่านเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและจากการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวมีรายละเอียด ที่ต้องพิจารณาหลากหลายมิติทั้งการลำเลียงคนและการจัดระเบียบผู้ชุมนุม ซึ่งไม่ได้มีเจตนาจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อความสูญเสีย จากสถานการณ์ในขณะนั้นมีความสับสนอลหม่านต่อการปฏิบัติเพราะมีผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมาก หากไม่มีการแยกย้ายอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตทรัพย์สินผู้ชุมนุมในภาพรวมมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้มีการเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียโดยผู้เสียชีวิตได้รับเงินจำนวน 7 ล้านบาทเศษและผู้ได้รับบาดเจ็บจะได้รับเงินลดหลั่นกันลงไป ซึ่งได้ดำเนินการแล้วในรัฐบาลของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีต นรม./ รมว.กห.

ต่อเรื่องดังกล่าวการดำเนินการเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดที่ยังหาตัวไม่พบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการ ในส่วนของผู้ถูกกล่าวหาที่ยังไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ก็จะต้องนำตัวเข้ามาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมต่อไป

สำหรับกรณีเหตุการณ์ตากใบ ที่ผ่านได้มีการถอดบทเรียนและนำมาปรับใช้เป็นวิธีการปฏิบัติไม่ใช่อารมณ์ในการแก้ไข ควรใช้บทเรียนในการสร้างสรรค์แก้ไขปัญหา ต้องใช้สติไม่ใช้อารมณ์ มาทำลายกันด้วยอารมณ์ที่รุนแรง ควรนำบทเรียนมาปรับวิธีการทำงานให้กับพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินกับประชาชนในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา (อ.จะนะ อ.นาทวี อ.เทพา และอ.สะบ้าย้อย) ทั้งการปรับวิธีคิดและวิธีการต่าง ๆ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก และการสนับสนุนให้ลดความรุนแรงที่เกิดขึ้นด้วยการเจรจาอย่างสันติวิธี

ที่ผ่านมา อาจมีบางกลุ่มได้นำประเด็นดังกล่าวมาสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งมากกว่าที่จะช่วย กันแก้ไข เพื่อสร้างความแตกแยกและโจมตีรัฐบาลจนทำให้ประชาชนในพื้นที่สับสนจากความเป็นจริง โดยที่ผ่านมารัฐบาลพยายามปรับวิธีการนำไปสู่สันติสุข อย่างไรก็ตามยังคงมีปัญหาที่เกิดขึ้นอันเกิดจากความหลากหลายมิติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ปัจจุบันในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนใต้ และ 4 อำเภอของสงคราม (อ.จะนะ อ.นาทวี อ.เทพา และ อ.สะบ้าย้อย) พยายามลดความรุนแรงจะการก่อเหตุ โดยมีการบูรณาการการทำงานของทุกส่วนราชการทั้ง กอ.รมน., ศอ.บต. , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและหน่วยงานราชการในพื้นที่ร่วมกันหาทางออกและทำงานอย่างประสานสอดคล้อง โดยจะนำบทเรียนจากเหตุการณ์ตากใบมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สร้างสันติสุขให้กลับมา และทำให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวและเขตเศรษฐกิจในการสร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ดีขึ้นตามลำดับ

Advertisement

 

นายกฯ ส่งความรัก ความระลึกถึง ความปรารถนาดียังพี่น้องชาวไทยมุสลิม

People Unity News : 20 เมษายน 2566 นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1444 ส่งความรัก ความระลึกถึง ความปรารถนาดียังพี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมจิตใจอันบริสุทธิ์ที่บริบูรณ์ไปด้วยศรัทธา ในการทำคุณงามความดีถวายแด่เอกองค์พระผู้อภิบาล

วันที่ 20 เมษายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวคำปราศรัยผ่านบันทึกวีดิทัศน์เนื่องในโอกาสวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮิจเราะห์ศักราช 1444 ส่งความรัก ความระลึกถึง และความปรารถนาดีมายังพี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกคนทั้งที่พำนักอยู่ในประเทศและต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันอีฎิ้ลฟิตรินี้นับวาระแห่งการเฉลิมฉลองวันสิ้นสุดการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ถือเป็นการข้ามผ่านการทดสอบศรัทธาตามหลักศาสนกิจโดยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมถึงจิตใจอันบริสุทธิ์ ที่บริบูรณ์ไปด้วยศรัทธาในการทำคุณงามความดีถวายแด่เอกองค์พระผู้อภิบาล ด้วยความมุ่งมั่น เสียสละ และอดทนของพี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกคน อีกทั้งยังแสดงถึงความสัมพันธ์ และความเอื้ออาทรต่อกันในหมู่ครอบครัว มิตรสหาย อันเป็นวิถีปฏิบัติที่งดงามและเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างแท้จริง

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอสันติสุขจงประสบแด่ทุกคน และขอพรอันประเสริฐจากเอกองค์พระผู้อภิบาล ได้โปรดประทานความเมตตา ความสุขสวัสดี พร้อมทั้งกำลังกาย กำลังใจ และจิตวิญญาณที่เข้มแข็งในการปฏิบัติตนเป็นสัตบุรุษที่เพียบพร้อมด้วยศรัทธาและคุณงามความดี เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติบ้านเมืองสืบต่อไป

Advertisement

นายกฯ ฝากบทพระราชนิพนธ์ “ไร้รักไร้ผล” ให้สื่อคิด

People Unity News : 5 เมษายน 2566 นายกฯ กวักมือเรียกสื่อ ยกบทพระราชนิพนธ์ ร.6 “ไร้รักไร้ผล” ฝากให้ช่วยคิด อย่าให้เกิดวิกฤติทำชาติเสียหาย ปัดตอบ ส่งสัญญาณ หลังเลือกตั้งวุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กวักมือเรียกผู้สื่อข่าว เพื่อให้มาสัมภาษณ์ว่า วันนี้ (5 เม.ย.) เป็นวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ครบ 136 ปี ซึ่งอยู่คู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนาน ด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงก่อตั้งมา เราในฐานะเป็นลูกเป็นหลาน ก็ต้องช่วยกันรักษาธำรงไว้ ความเข้มแข็งเกียรติยศเกียรติศักดิ์ของกองทัพเหล่าทัพ และของกระทรวงกลาโหม ต้องรักบ้านรักเมืองให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นบ่อเกิดของความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เคยพูดแล้วว่า หากบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย มีปัญหามาก ๆ จะทำให้โอกาสหลาย ๆ อย่างหายไปทันที ในมุมมองของต่างประเทศ

“บทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 “ไร้รักไร้ผล” จำได้ไหม จำไม่ได้กันหมดแล้ว ให้ลองไปเปิดฟังดูก็แล้วกัน “อันชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล หากชาติย่อยยับและอับจน ประชาชนจะสุขอยู่ได้อย่างไร” ไปคิดดู ฝากทุกคนด้วย ฝากประชาชนทุกคนช่วยกันคิดด้วยก็แล้วกัน ทำให้บ้านเมืองเราสงบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น เพื่อเราจะก้าวเข้าสู่เวทีโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรีและสง่างาม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มุมมองต่าง ๆ ของหลายประเทศ ขอให้ติดตามพัฒนาการด้านความมั่นคงของทุกประเทศด้วย โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน หากบ้านเมืองเราสงบเรียบร้อย เราก็จะสามารถใช้ศักยภาพที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ทุกมิติ ทั้งความมั่นคง สิ่งแวดล้อม สังคม สุขภาพ ช่วยกันก็แล้วกัน ขอให้ช่วยกันนำพาบ้านเมืองไปสู่ความปลอดภัยสันติสุข อย่าให้เกิดวิกฤตการณ์อะไรต่าง ๆ ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายก็แล้วกัน ในช่วงนี้และช่วงต่อ ๆ ไป

เมื่อถามย้ำว่า มองว่าจะมีสัญญาณถึงความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ไปคิดเอาเอง

ส่วนสัญญาณความวุ่นวายเกิดมาจากพรรคขั้วตรงข้ามรัฐบาลใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่เกี่ยว ๆ หลาย ๆ อย่างรู้อยู่แล้ว ถามแบบไม่รู้เรื่องได้อย่างไร บ้านเมืองมันจะสงบได้ด้วยอะไรล่ะ

เมื่อย้ำว่า บางเรื่องพูดไม่ได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุเพียงสั้น ๆ ว่า ไปคิดเอาเอง

Advertisement

Verified by ExactMetrics