วันที่ 4 พฤษภาคม 2024

รถไฟฟ้า-ท่าอากาศยาน พร้อมบริการช่วงปีใหม่

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 ธันวาคม 2566 ทำเนียบ – “คารม” เผยช่วงปีใหม่ บีทีเอสขยายเวลาให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว-สีทอง 31 ธ.ค. 66 ถึงเวลา 02.00 น. ท่าอากาศยานฯ จัดให้จอดรถฟรี 4 วัน ตั้งแต่ 29 ธ.ค. 66 – 1 ม.ค. 67

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เนื่องในโอกาสเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทางเฉลิมฉลองเทศกาล  บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)ร่วมกับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ขยายเวลาให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกสถานี  ทั้งสายสุขุมวิทและสายสีลม รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีทอง ในคืนวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2566 ถึงเวลา 02.00 น. ของวันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2567 โดยรถไฟฟ้าบีทีเอสขบวนสุดท้ายจะออกจากสถานีต้นทาง เวลา 02.00 น. และขบวนสุดท้ายที่จะออกจากสถานีสยามไปยังทุกสถานี เวลา 02.24 น.

สำหรับตารางเวลารถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายของแต่ละสถานีสามารถตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชัน The SKYTRAINs  หรือห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี และสำหรับลานจอดรถสถานีหมอชิต จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการที่เดินทางไปร่วมกิจกรรม สังสรรค์ หรือชมแสงสีในคืนแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้

นายคารม ยังกล่าวว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กระทรวงคมนาคม ได้มอบของขวัญปีใหม่ 2567 ด้วยการยกเว้นอัตราค่าบริการจอดรถยนต์ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูเก็ต

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เตรียมพื้นที่จอดรถยนต์บริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาวโซน C ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2567 สามารถจอดรถยนต์ได้ 718 คัน โดยมีรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ – ส่ง ผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อไปยังอาคารต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง จัดเตรียมพื้นที่จอดรถบริเวณระหว่างอาคารคลังสินค้า 2 และอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ตั้งแต่เวลา 00.01 น.วันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึงเวลา 23.59 น.วันที่ 1 มกราคม 2567 สามารถจอดรถยนต์ได้ 250 คัน โดยมีรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ – ส่งผู้โดยสารระหว่างที่จอดรถยนต์กับอาคารผู้โดยสารทุก ๆ 15 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง

และท่าอากาศยานภูเก็ต เตรียมพื้นที่จอดรถบริเวณหน้าอาคารสำนักงาน ทภก. ตั้งแต่เวลา 01.00 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2567 “ช่วงเทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยงาน พร้อมทำหน้าที่ส่งความสุขให้ประชาชนทุก ๆ คน เดินทางปลอดภัย และสะดวกสบาย ก้าวเข้าสู่ปี 2567 ไปด้วยรอยยิ้มและความสุข” นายคารม กล่าว

Advertisement

รมว.แรงงานยันปรับค่าแรงแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 26 ธันวาคม 2566 ทำเนียบรัฐบาล – “พิพัฒน์” เผยประชุมคกก.ไตรภาคีชุดใหญ่ 17 ม.ค. 67 ตั้งอนุกก. ศึกษาค่าจ้างขั้นต่ำรายเทศบาล-รายอาชีพ เป็นของขวัญปีใหม่ไทย ลั่น ทั้งจังหวัดขึ้นค่าแรงไม่เท่ากัน

นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า วันนี้ได้นำเรื่องค่าแรงขั้นต่ำให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบอีกครั้ง ซึ่งมติคณะกรรมการไตรภาคียังคงยืนยันเหมือนเดิม ซึ่งที่ประชุมครม.รับทราบเรียบร้อย และแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบว่าในวันที่ 17 มกราคม 2567 คณะกรรมการไตรภาคีจะประชุมอีกครั้ง เพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไตรภาคี ซึ่งจะลงไปศึกษาให้ลึกถึงระดับจังหวัด อำเภอ ตำบลและเทศบาล หากประกาศเป็นรายจังหวัดจะสะท้อนภาพที่เป็นจริงมากกว่า อย่างกรณีประกาศค่าแรงขั้นต่ำทางจังหวัดในเทศบาลมีสภาวะเศรษฐกิจที่ดี แต่เมื่อออกจากอำเภอเมืองก็จะเข้าสู่สังคมชนบท ซึ่งเศรษฐกิจคงจะไม่ดีเหมือนกับที่เห็นในตัวอำเภอเมือง

“จะให้คณะอนุกรรมการไตรภาคีขอข้อมูลจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒน์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเป็นองค์ประกอบการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งซึ่งจะสามารถประชุมแล้วเสร็จ และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่ภายในเดือนมีนาคม เพื่อจะประกาศให้เป็นของขวัญวันปีใหม่ไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะสะท้อนภาพสาขาอาชีพใดที่ไหนที่สามารถปรับค่าแรงขั้นต่ำให้ได้สูงกว่าปัจจุบัน ซึ่งการหารือระหว่างสภาพัฒน์ กับที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการคณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่จะไม่เอาปี 2563 และ 2564 มาเป็นตัวคำนวณแน่นอน เพราะเมื่อคำนวณอย่างไรก็จะกลับไปที่เดิม เหมือนที่ประกาศ จึงจะขอเอาข้อมูล ปี 2565 เป็นเกณฑ์และข้อมูลดิบในปี 2566 เป็นตัวชี้วัดอีกแนวทางหนึ่งประกอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า  ส่วนประเด็นข้อกฎหมายไม่ขัดข้อง แต่คณะกรรมการไทยภาคีชุดใหญ่ไม่สามารถก้าวข้ามคณะกรรมการไตรภาคีจังหวัดที่นำเสนอขึ้นมาในการประชุมวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะยืนยันเหมือนเดิม แต่เมื่อตั้งคณะอนุกรรมการมาศึกษาใหม่จะต้องลงไปหารือถึงได้จังหวัดด้วย โดยสรุปว่าภายในจังหวัดจะขึ้นค่าแรงไม่เท่ากัน

Advertisement

กรมวิทย์ฯ อัปเดตสายพันธุ์โควิด-19 ในไทย เผยอาการจริงสายพันธุ์ XBB.1.16* “อาร์คตูรุส”

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 16 ธันวาคม 2566 กรมวิทย์ฯ อัปเดตสายพันธุ์โควิด-19 ในไทย พบ XBB.1.9.2* มีสัดส่วนมากที่สุด 24.5% ส่วนกรณีมีการแชร์และส่งต่อข้อมูลในโซเชียลมีเดีย ว่า เตรียมพร้อมรับมือโควิด-19 ระลอกใหม่ XBB.1.16* “อาร์คตูรุส” ไม่เป็นความจริง

นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 และสายพันธุ์ที่เฝ้าติดตามในประเทศไทย ว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการ ติดตามการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 2 ธันวาคม 2566 จากการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อก่อโรคโควิด 19 จำนวน 253 ราย พบสายพันธุ์ XBB.1.9.2* มีสัดส่วนมากที่สุด คิดเป็น 24.5% ถัดมาคือ EG.5* , XBB.1.16* และ XBB.2.3 โดยพบสัดส่วน 23.3%, 17.80% และ 11.90% ตามลำดับ

สถานการณ์โดยรวมของประเทศไทยในปัจจุบัน พบว่า สัดส่วนของสายพันธุ์ EG.5* และ XBB.1.92* มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่สัดส่วนของสายพันธุ์ XBB.1.16* กับ XBB.2.3* มีแนวโน้มลดลง เมื่อเทียบกับช่วงสองเดือนก่อนหน้า

นายแพทย์ยงยศ กล่าวต่อว่า กรณีมีการแชร์และส่งต่อข้อมูลในโซเชียลมีเดีย ว่า เตรียมพร้อมรับมือโควิด 19 ระลอกใหม่สายพันธุ์ XBB.1.16* “อาร์คตูรุส” อาการใหม่ ไม่มีไข้ ตาแดง มีผื่นขึ้น หรือน้ำมูกไหล นั้น จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลสายพันธุ์ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระหว่างเดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายน 2566 พบเป็น สายพันธุ์ XBB.1.16* จำนวน 83 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 16.4 จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อมูลลักษณะอาการทางคลินิกจากประวัติที่ผู้ติดเชื้อ SARS-CoV-2 สายพันธุ์ XBB.1.16* พบว่า ส่วนใหญ่กว่า ร้อยละ 90 มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก เสมหะ ปวดเมื่อย บางรายประมาณร้อยละ 10 มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อย/หอบ ร่วมด้วย ไม่พบลักษณะอาการตาแดง มีผื่นขึ้น หรือน้ำมูกไหล

“สำหรับช่วงนี้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนๆ เล็กน้อย เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่จะพบผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น ซึ่งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ยังคงเป็นมาตรการการป้องกันที่ได้ผลดี ทั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดำเนินการเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยโควิด 19 ทั่วประเทศ มาตรวจสายพันธุ์ เพื่อเฝ้าระวัง การเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ต่อไป และขอให้ความมั่นใจว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเครือข่าย ยังคงเฝ้าระวังติดตาม การกลายพันธุ์ของเชื้อ SARS-CoV-2 อย่างต่อเนื่อง และเผยแพร่บนฐานข้อมูลสากล GISAID อย่างสม่ำเสมอ” นายแพทย์ยงยศ กล่าว

Advertisement

อากาศเย็นแผ่ปกคลุมประเทศไทยอีกระลอก อีสานอุณหภูมิลด 1–3 องศาฯ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 16 ธันวาคม 2566 กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุมอีกระลอก ภาคอีสานเตรียมรับลมหนาว อุณหภูมิลดลง 1–3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (16 ธ.ค. 66) หลังจากนั้นจะแผ่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย

ฝุ่นละอองในระยะนี้ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง และมีการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดี

Advertisement

ก.ศึกษาฯ เริ่มใช้นโยบาย “ลดการบ้าน เพิ่มการเรียนรู้” มุ่งเน้นลดภาระ สร้างความสุข ปี 67

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 11 ธันวาคม 2566 “คารม” เผย ศธ.เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา “ลดการบ้าน เพิ่มการเรียนรู้” มุ่งเน้นลดภาระ สร้างความสุข

วันนี้ (11 ธ.ค.66) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  รัฐบาลมุ่งให้นักเรียน เรียนหนังสืออย่างมีความสุข และให้ความสำคัญต่อคุณภาพของครูและเด็กนักเรียนทั้งประเทศ และที่สำคัญที่สุด รัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่เป็นรากฐานสำคัญของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสังคมไทย รวมไปถึงการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของนักเรียนทุกคน

นายคารม กล่าวว่า พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ประกาศนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 – 2568  มุ่งหวังให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาในทุกมิติ โดยเน้นให้ผู้เรียน “เรียนดี มีความสุข” ใช้หลักการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาจากทุกภาคตามคำกล่าว “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” และกำหนดแนวทางให้หน่วยงานในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการนำไปใช้ในการขับเคลื่อนนโยบาย คือ ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษาและลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง

นายคารม กล่าวว่า เพื่อขับเคลื่อนนโยบายลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา และลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง ตามนโยบายของรัฐบาลและเจตนารมย์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดทำแนวทาง “การลดการบ้าน เพิ่มการเรียนรู้” สำหรับครูผู้สอนใช้เป็นแนวทางในการมอบหมายการบ้านแก่ผู้เรียนให้มีความเหมาะสม และใช้การบ้านเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการเรียนรู้และประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อีกทางหนึ่ง โดยได้แจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตเน้นย้ำให้สถานศึกษาในกำกับ ดำเนินการให้การมอบหมายการบ้านแก่นักเรียนเป็นไปอย่างเหมาะสม เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนอย่างสูงสุด มุ่งหวังให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ให้การบ้านเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการเรียนรู้และเป็นเครื่องมือประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน

Advertisement

ยูเนสโก ประกาศให้ “สงกรานต์ไทย” เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม รัฐบาลจัดฉลองพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) ที่ลานคนเมือง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 6 ธันวาคม 2566 เมื่อเวลา 15.00 น. ยูเนสโก ประกาศรับรอง “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นประเพณีปีใหม่ไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เรียบร้อยแล้ว

รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม จัดงานใหญ่ฉลองสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ (Songkran in Thailand, Traditional Thai New Year Festival) ในโอกาสที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO จะได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” ประเพณีปีใหม่ไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 18 ในวันที่ 6 ธันวาคม 2566 (เวลาประเทศไทยประมาณ 15.00 น.) ณ เมืองคาเซเน สาธารณรัฐบอตสวานา

นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ในวาระที่น่ายินดียิ่งของประชาชนชาวไทยนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ส่งเสริมและดำเนินงานปกป้องคุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ จึงได้กำหนดจัดงานฉลองสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก (UNESCO) ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่จะเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไทยและต่างชาติได้รับรู้อย่างกว้างขวาง และเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ “สงกรานต์” มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้เกิดการสงวนรักษา อนุรักษ์ สืบสาน ปกป้อง คุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของประเทศ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจร่วมกันให้กับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย ก่อให้เกิดการเรียนรู้และยอมรับในระบบสังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของแต่ละชนชาติ

โดยในวันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2566 เวลา 18.00 น. กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กำหนดจัดงาน ฉลองสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ (Songkran in Thailand, Traditional Thai New Year Festival) ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และวัดสุทัศนเทพวราราม จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทย ร่วมแสดงความยินดีในวาระสำคัญยิ่งของประเทศไทย ในโอกาสนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ทูตานุทูต ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานครและจังหวัด 76 จังหวัด พร้อมภาคีร่วมงาน ภายในงานจะมีพิธีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ สรงน้ำพระสงฆ์ 9 รูป และขบวนแห่ฉลองสงกรานต์ ประกอบด้วย ขบวนมหาสงกรานต์จตุรทิศแผ่นดินไทย ขบวนอันเชิญพระพุทธสิหิงค์ ขบวนตำนานนางสงกรานต์ ทั้ง 7 วัน นำโดย “แอนโทเนีย โพซิ้ว” รองอับดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 จะสวมชุด “นางมโหธรเทวี” (นางสงกรานต์ ประจำปี 2567) ตามด้วยขบวนเริงรื่นชื่นสงกรานต์ 4 ภาค ขบวนแตรวงกลองยาว และยังมีการแสดงดนตรีโดยวงสุนทราภรณ์ ในเวลา 19.00 ณ ลานคนเมือง กทม. อีกด้วย

จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนไทย ชาวต่างชาติ ได้ร่วมแสดงความยินดี และมีส่วนร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอดมรดกภูมิปัญญาประเพณีสงกรานต์ อันทรงคุณค่าของไทย ให้เกิดการสืบทอดอย่างยั่งยืน และใช้เป็นพลัง Soft power ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นภาคเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศต่อไป

Advertisement

เตือนโรคไอกรน ระบาดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้ระวังเด็กเล็ก

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 ธันวาคม 2566 รัฐบาลห่วงใยสุขภาพประชาชนโดยเฉพาะเด็ก เตือนโรคไอกรน ระบาด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไอกรน ในประเทศไทย มีจำนวนผู้ติดเชื้อโรคไอกรนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ จำนวนมาก มีผู้ป่วยยืนยันมากกว่า 100 ราย ซึ่งผู้ป่วยทุกรายเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนมาก่อน และรายงานข้อมูลยืนยันว่า มีเด็กอายุเพียง 18 วัน เสียชีวิตจากการติดเชื้อไอกรนแล้ว จำนวน 1 ราย

นายคารม กล่าวว่า ไอกรนเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายจากการไอ จาม รดกันโดยตรงผู้สัมผัสโรคที่ไม่มีภูมิคุ้มกันจะติดเชื้อและเกิดโรคเกือบทุกราย โรคนี้พบได้บ่อยในเด็ก ส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากผู้ใหญ่ในครอบครัวซึ่งมีการติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ (carrier) หรือมีอาการไม่มาก โรคไอกรนเป็นได้กับทารกตั้งแต่เดือนแรก ทั้งนี้ เนื่องจากภูมิคุ้มกันจากแม่ผ่านมายังลูกไม่ได้หรือได้น้อยมากในเด็กเล็กอาการจะรุนแรงมากและมีอัตราตายสูง ส่วนใหญ่ของผู้ที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิต เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และเป็นเด็กที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน โดยทั่วไปแล้ว โรคนี้เป็นได้ทุกอายุถ้าไม่มีภูมิคุ้มกัน แต่ในวัยหนุ่มสาว หรือผู้ใหญ่อาจไม่มีอาการหรือไม่มีอาการแบบไอกรน ส่วนใหญ่จึงไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไอกรน

“รัฐบาลห่วงใยปัญหาความปลอดภัยในชีวิต และสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผลกระทบจากโรคต่อเด็ก แนะนำให้ประชาชนการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคไอกรน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การฉีดวัคซีน แต่ถ้ามีการติดเชื้อแล้วก็ต้องรักษาตามอาการ เพราะเป็นโรคที่รักษาได้ แต่จะต้องไปพบแพทย์ให้ทันเวลา เพื่อรับการวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็วป้องกันเชื้อลงปอด“ นายคารม กล่าว

Advertisement

ทางการอิสราเอลเผย ตัวประกันคนไทยยังเหลืออีก 8 คน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 ธันวาคม 2566 อิสราเอล – อิสราเอล เผยยอดตัวประกันล่าสุดที่กลุ่มฮามาสคุมตัวอยู่เหลือ 137 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 8 คน

โฆษกรัฐบาลอิสราเอล แถลงวานนี้ว่า ตัวประกันที่อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของกลุ่มฮามาสยังเหลืออยู่ 137 คน เป็นผู้ชาย 117 คน และผู้หญิง 20 คน แบ่งเป็นตัวประกัน ชาวอิสราเอล 126 คน และชาวต่างชาติ 11 คน ในจำนวนนี้ เป็นคนไทย 8 คน เนปาล 1 คน แทนซาเนีย 1 คน และชาวเม็กซิโกเชื้อสายฝรั่งเศส 1 คน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายตั้งแต่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยยังไม่ทราบชะตากรรมอีก 7 คน

การเปิดเผยยอดตัวประกันมีขึ้นหลังข้อตกลงหยุดยิง 7 วัน ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. โดยไม่มีการต่ออายุเพิ่มอีก และยังเกิดการสู้รบกันรอบใหม่ของทั้งสองฝ่ายในฉนวนกาซา

Advertisement

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นองคมนตรี

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 พฤศจิกายน 2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นองคมนตรี

เว็บไซค์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ เรื่อง แต่งตั้งองคมนตรี

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งองคมนตรีตามประกาศ ลงวันที่ 21 ตุลาคม พุทธศักราช 2565 แล้วนั้น

บัดนี้ ทรงพระราชดำริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งองคมนตรีเพิ่มขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 11 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น องคมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน

Advertisement

“พวงเพ็ชร” สั่ง สคบ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษจับตาการซื้อขายสินค้า-บริการ ช่วงเทศกาล

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 พฤศจิกายน 2566 ทำเนียบ – “พวงเพ็ชร” สั่ง สคบ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ จับตาสินค้า-บริการ ถูกและดีอาจไม่มีจริง เหตุประชาชนจับจ่ายสูงช่วงเทศกาลปีใหม่อาจตกเป็นเหยื่อเพิ่ม

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 8/2566 ที่ประชุมได้รายงานผลการรับเรื่องร้องทุกข์และช่วยเหลือประชาชน โดยพบว่าตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา (พ.ค.-ต.ค.66) มีการร้องทุกข์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการทั้งสิ้น 3,239 เรื่อง โดยเรื่องที่ประชาชนร้องทุกข์มากที่สุด คือ การซื้อขายสินค้าออนไลน์ จำนวน 967 เรื่อง รองลงมาคือกรณีการจองตั๋วสายการบิน/โรงแรม/บัตรชมการแสดง จำนวน 413 เรื่อง และการเช่าซื้อรถยนต์ จำนวน 335 เรื่อง

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า การซื้อขายออนไลน์เป็นดาบสองคมที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน แต่อีกด้านหนึ่งยังเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการหลอกลวง สร้างความเสียหายแก่ผู้บริโภคในวงกว้าง จึงต้องมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นต้น เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง จึงขอให้ สคบ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ เพื่อดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคในคดีที่ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเร่งรัดให้ดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็ว

“เราต้องมีการปรับโครงสร้างการช่วยเหลือผู้บริโภคครั้งใหญ่ เพื่อให้ สคบ.กระจายอำนาจให้ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ดำเนินการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของพี่น้องประชาชน และเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันท่วงที และให้ความรู้ที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้ถูกมิจฉาชีพหลอก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ประชาชนมีการบริโภคสินค้าและบริการจำนวนมาก เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน การจองห้องพัก การจองทัวร์ท่องเที่ยว การซื้อกระเช้าของขวัญ และการซื้อสินค้าออนไลน์ จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลของสินค้าและบริการอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการนั้น อย่าหลงเชื่อเพราะของถูกอาจไม่มีจริง ทั้งนี้ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการ ผู้บริโภคสามารถโทรหาสายด่วน สคบ. 1166 ได้ทันที”

Advertisement

Verified by ExactMetrics