วันที่ 6 พฤษภาคม 2024

ค่าไฟแพง มิจฉาชีพหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ทิพย์

People Unity News : 29 เมษายน 2566 รัฐบาลเตือนระวังมิจฉาชีพ หลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ทิพย์ พบระบาดช่วงหน้าร้อน แม้แนวโน้มการแจ้งความคดีออนไลน์ลดลงหลังกฎหมายเข้มงวดขึ้น แต่ตำรวจยังพบการหลอกลวงหลายรูปแบบ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากรัฐบาล ได้บังคับพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.66 ได้ปราบปรามอย่างเข้มงวด โดยศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งว่า สถิติการแจ้งความคดีออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มี.ค. 65 -24 เม.ย.66 มีคดีออนไลน์ 244,734 คดี นับว่ามีแนวโน้ม ลดลงจาก 27,000 คดีต่อเดือนในเดือน ธ.ค.65 ลดลงเป็น 24,000 คดีในเดือนมกราคม 21,000 คดีกุมภาพันธ์ และ 20,000 คดีในเดือน มี.ค.66 ตามลำดับ

แม้ข้อมูลรายเดือน เห็นแนวโน้มคดีออนไลน์ลดลง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังพบการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งการขายสินค้าและบริการทางออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ หลอกให้ทำธุรกรรมต่างๆ จึงขอย้ำเตือนประชาชนให้ยังคงระมัดระวังตนเอง ดูแลสอดส่องคนในครอบครัวไม่หลงเชื่อบุคคลแปลกหน้าที่ติดต่อมาทุกช่องทาง โดยเฉพาะหากมีกรณีที่เกี่ยวข้องกับการให้ทำธุรกรรม ให้โอนเงิน ชำระเงินค่าสินค้าและบริการ ให้ตั้งข้อสงสัยก่อนว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ และให้ตรวจสอบโดยละเอียดก่อนทำธุรกรรม

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า มิจฉาชีพได้มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่ใช้ในการหลอกลวงไปตามสถานการณ์ ล่าสุดกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งเตือน ในช่วงประชาชน สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า หลอกลวงขายแผงโซล่าเซลล์ โดยใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มต่างๆ ที่มีการซื้อขายโซล่าเซลล์และอุปกรณ์ติดตั้งแล้วโพสต์ขายสินค้าในราคาถูกกว่าท้องตลาด ด้วยภาพที่คัดลอกมาจากช่องทาง มีการซื้อขายจริง และมีการเร่งรัดให้รีบตัดสินใจว่าสินค้าใกล้จะหมด ซึ่งปรากฏว่ามีผู้หลงเชื่อแล้วโอนเงินให้ แต่ไม่ได้รับสินค้าจำนวนมาก

โดย บช.สอท. ได้มีข้อแนะนำจุดสังเกตเพื่อการซื้อสินค้า/บริการออนไลน์ที่ปลอดภัยว่า ให้หลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ไม่มีหน้าร้าน ควรติดต่อซื้อจากบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ ระวังการซื้อสินค้าราคาถูกกว่าปกติของท้องตลาด ตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียของผู้ประกาศขายสินค้า มีความเคลื่อนไหวหรือไม่ ประวัติเป็นอย่างไร

ตรวจสอบความมีอยู่จริงของสินค้า โดยขอดูภาพหลายๆ มุมนอกจากภาพที่ประกาศขาย สอบถามรายละเอียดสินค้าที่เกี่ยวข้อง ผลิตจากที่ใด เงื่อนไขการรับประกัน วิธีการใช้งาน ตรวจสอบการรีวิวสินค้า และต้องระวังการรีวิวปลอม เป็นผู้รีวิวจริงหรือหรือบัญชีอวตาร และก่อนโอนชำระเงินค่าสินค้า ให้ตรวจสอบประวัติของร้าน และชื่อหมายเลขบัญชีธนาคารที่รับโอนเงิน ว่ามีประวัติไม่ดีหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์ Google, https://www.blacklistseller.com หรือ https://www.chaladohn.com เป็นต้น

Advertisement

 

อุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนตกหนัก ระวังน้ำป่าไหลหลาก

People Unity News : 17 กันยายน 2566 กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและตกหนักบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

Advertisement

นายกฯขอบคุณทุกภาคส่วน ทำให้เชียงใหม่ ได้รับคัดเลือก “เมืองเทศกาลโลก”

People Unity News : วันนี้ (4 กันยายน 2565) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือกันจนทำให้ จ.เชียงใหม่ ได้รับเลือกจากสมาคมเทศกาลและกิจกรรมระหว่างประเทศ (International Festivals & Events Association : IFEA) เป็น “เมืองเทศกาลโลก” (World Festival and Event City) ประจำปี 2022 โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)  ร่วมกับกับสมาคมวิศิษฏ์ล้านนาเพื่ออุตสาหกรรมไมซ์และการท่องเที่ยว (Visit Lanna) เป็นผู้ส่งจังหวัดเชียงใหม่เข้าประกวดชิงรางวัลครั้งนี้

รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งส่งเสริมการบูรณาการระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้อง สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ และเครือข่ายภาคเอกชนและประชาชน  เพื่อชูจุดแข็งของประเทศด้าน Soft Power ทั้งงานเทศกาลของประเทศที่มีความโดดเด่นเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อาหาร วัฒนธรรม ความงามตามธรรมชาติ และด้านสุขภาพ (wellness)  ซึ่งจากความร่วมมือของทุกหน่วยงานทำให้ เชียงใหม่ได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองเทศกาลโลก โดย IFEA คัดเลือกจากเมืองที่มีงานเทศกาลโดดเด่น มีการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆอย่างใกล้ชิด และเหมาะสมที่จะเป็นต้นแบบในการใช้งานเทศกาลสร้างเศรษฐกิจ การมีส่วนร่วมในพื้นที่ และการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ นอกจากจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ยังมีอีก 4 เมืองที่ได้รับรางวัลได้แก่ Jinju-South Korea,  McAllen- USA, Penghu County- Taiwan และ Philadelphia- USA

ภายใต้ความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมล้านนา ซึ่งเป็น Soft Power ที่โดดเด่นของภาคเหนือ รัฐบาลได้กำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ หรือ  Northern Economic Corridor: NEC – Creative LANNA ครอบคลุม จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และลำปาง เพื่อพัฒนาเป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน เป็นแหล่งผลิตสินค้า และบริการที่ต่อยอดจากฐานวัฒนธรรมล้านนา จากการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าเพิ่มตามแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ต่อยอดให้เกิดผลิตภัณฑ์ บริการ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ยิ่งไปกว่านั้น จังหวัดในภาคเหนือยังสามารถเชื่อมโยงเข้ากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ สปป.ลาว และจีนตอนใต้ ผ่านระบบโครงข่ายเส้นทางคมนาคม รถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง รวมทั้งเส้นทางแม่น้ำโขงออกไปมณฑลยูนนาน ทำให้มีโอกาสทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้นอีกด้วย

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกด้านต้องมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน สอดคล้องกับศักยภาพและการยอมรับของคนในพื้นที่ รางวัล “เมืองเทศกาลโลก” ที่ จ.เชียงใหม่ได้รับ ถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน ซึ่งในระยะต่อไป รัฐบาลได้กำหนดโครงการระเบียงเศรษฐกิจ ที่จะสร้าง “พื้นที่เศรษฐกิจ” ใหม่ๆ กระจายไปทั้ง 4 ภาคของประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาในทุกภูมิภาค ต่อยอดของดี ที่มีเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ ขับเคลื่อน Soft Power ให้เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติ สร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศอย่างยั่งยืน

Advertisement

ห่วงเยาวชนไทยเสี่ยงติดเชื้อฝีดาษลิง หลังพบเพิ่ม 16 ราย

People Unity News : 3 กันยายน 2566 กรมควบคุมโรค ห่วงเยาวชนไทยเสี่ยงติดเชื้อฝีดาษวานร หลังพบเดือน ส.ค. ติดเพิ่ม 16 ราย แนะงดมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยหรือกับคนแปลกหน้า ป้องกันติดเชื้อฝีดาษวานร

กรมควบคุมโรค เผยสถานการณ์ระบาดโรคฝีดาษวานรในประเทศไทยยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มพบผู้ป่วยในกลุ่มเยาวชน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่ไม่ทราบประวัติ หรือมีคู่นอนมากกว่า 1 คน แนะหากสงสัยมีประวัติเสี่ยง ให้รีบเข้ารับการตรวจรักษาและแจ้งข้อมูลความเสี่ยงแก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อประกอบการวินิจฉัยโรค โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี

วันนี้ (3 กันยายน 2566) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดของโรคฝีดาษวานรในประเทศไทย ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 มีรายงานผู้ป่วยรวม 316 ราย (เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง) เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมากถึง 271 ราย (ร้อยละ 85.8) และมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 143 ราย (ร้อยละ 45.3) มีสัญชาติไทย 277 ราย ชาวต่างชาติ 36 ราย ไม่ระบุ 3 ราย ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (198 ราย) ชลบุรี (22 ราย) นนทบุรี (17 ราย) และสมุทรปราการ (12 ราย) ผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุ 30-39 ปี จำนวน 152 ราย รองลงมา อายุ 20-29 ปี จำนวน 85 ราย กลุ่มเยาวชน อายุ 15-24 ปี จำนวน 28 ราย ซึ่งกลุ่มเยาวชนมีความเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ 4 เดือนย้อนหลัง พบการระบาดอย่างต่อเนื่อง ในเดือนพฤษภาคม 2566 ได้รับรายงานผู้ป่วย 22 ราย, มิถุนายน 48 ราย, กรกฎาคม 80 ราย และเดือนสิงหาคมได้รับรายงานเพิ่มอีก 145 ราย เกือบทั้งหมดเป็นคนไทย และรับเชื้อภายในประเทศ ในจำนวนนี้มีรายงานพบผู้ป่วยฝีดาษวานรเสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการรุนแรงและติดเชื้อฉวยโอกาสแทรกซ้อน

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนยา Tecovirimat (ชื่อการค้า TPOXX) จากองค์การอนามัยโลกให้นำมาใช้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxvirus เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยยืนยันที่มีอาการมากและแพทย์รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า ระยะแรกของการแพร่เชื้อฝีดาษวานรในประเทศไทย กลุ่มเสี่ยงเป็นชายวัยทำงาน แต่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เริ่มพบเยาวชนติดเชื้อฝีดาษวานรเพิ่มมากถึง 16 ราย โดยมีรายงานจากทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค กองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และหน่วยงานในพื้นที่ สอบสวนผู้ป่วยยืนยันฝีดาษวานร รายหนึ่งเป็นนักเรียนชาย อายุ 16 ปี เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2566 ด้วยอาการตุ่มน้ำใสขึ้นตามร่างกาย ร่วมกับอวัยวะเพศบวมอักเสบ ตรวจพบเชื้อฝีดาษวานร ประวัติเสี่ยง ผู้ป่วยมีเพศสัมพันธ์กับหลายคน ดำเนินการติดตามอาการของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้าน จนครบ 21 วัน นับตั้งแต่วันสัมผัสผู้ป่วยวันสุดท้าย ยังไม่พบผู้ป่วยในครัวเรือน

ดังนั้น ขอย้ำเตือนเยาวชนเเละกลุ่มชายรักชายให้งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น ไม่สัมผัสใกล้ชิดเนื้อเเนบเนื้อ หรือกอดจูบกับผู้ที่ไม่รู้จัก เวลานี้สถานการณ์ผู้ป่วยในไทยเริ่มแพร่ระบาดจากกลุ่มวัยทำงาน วัยรุ่น ไปสู่กลุ่มที่อายุน้อยลง ได้แก่ เยาวชนวัยเรียนเเล้ว ขอให้ตระหนักว่า เยาวชนต้องป้องกันตัวอย่างมีความรู้ความเข้าใจ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดโรค โดยสังเกตรอยโรค อาการเเสดง เเละสังเกตดูผิวหนังตามร่างกายของคู่นอน ว่ามีผื่นแบนหรือนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนองเเละตกสะเก็ด มักพบตามอวัยวะเพศ รอบทวารหนัก แขน ขา หรือฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลำตัว ศีรษะ ก่อนหน้าจะเกิดอาการมักมีไข้ร่วมกับอาการอื่น เช่น ต่อมน้ำเหลืองบวมโต เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง

หากสงสัยติดเชื้อฝีดาษวานร ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา พร้อมกับแยกตัวออกจากสมาชิกในครอบครัว ที่พัก หรือสถานที่ทำงาน ไม่รับประทาน ดื่มน้ำด้วยภาชนะร่วมกับผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ช่วงป่วย การรักษาความสะอาด ทำความสะอาดเสื้อผ้า เครื่องนอน เครื่องใช้แยก ใช้สุขาแยก หรือ ทำความสะอาดด้วยการเช็ดน้ำยาทำลายเชื้อกลุ่มสารซักฟอก เช่น ไฮโปคลอไรต์ น้ำสบู่ เป็นต้น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

Advertisement

MEA ห่วงใย เตือนระวังอัคคีภัย แนะนำใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัยพร้อมเข้าสู่ฤดูร้อน

People Unity News : 5 มีนาคม 2566 ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ วันที่ 3 มีนาคม 2566 ประเทศไทยจะสิ้นสุดฤดูหนาวและเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ในวันที่ 5 มีนาคม 2566 โดยในตอนกลางวันพื้นที่ส่วนใหญ่บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนโดยทั่วไปอย่างต่อเนื่อง อุณหภูมิสูงสุดตั้งแต่ 35 องศาเซลเซียลขึ้นไป ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้หรือลมฝ่ายใต้พัดปกคลุมแทน ซึ่งเป็นการเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย และคาดว่าฤดูร้อนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2566

นายคมกริช สาคริก ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญกับความมั่นคง ปลอดภัย ของระบบไฟฟ้า พร้อมใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กับความห่วงใยคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงขอแนะนำให้ประชาชนหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น สายไฟฟ้าจะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ฉนวนไม่แตกกรอบ เปลี่ยนสี แผงเมนสวิตช์ จะต้องอยู่ในที่สภาพสมบูรณ์ ใต้แผงเมนสวิตช์ต้องปราศจากวัสดุที่สามารถเป็นเชื้อเพลิงได้ เช่น ผ้า กระดาษ น้ำมัน เป็นต้น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ต้องทำงานอย่างเป็นปกติ ควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของสายไฟฟ้า ฉนวนของอุปกรณ์ เต้าเสียบไม่ชำรุด แตกร้าวและไม่ควรเสียบใช้งานเป็นระยะเวลานาน ต้องตรวจสอบความปลอดภัยหากชำรุดเสี่ยงเกิดอัคคีภัยได้ รวมไปถึงหากต้องออกไปนอกบ้าน หรือเข้านอน ควรปิดสวิตช์ถอดปลั๊กให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร และยังเป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง สำหรับบ้านหรือสำนักงานที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในช่วงดังกล่าวควรปิดเมนเซอร์กิตเบรกเกอร์ เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าของ MEA ชำรุด หรืออยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ MEA ได้ทุกเขต หรือที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 รวมถึงสามารถแจ้งผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ได้แก่ MEA Smart Life Application ดาวน์โหลดฟรี คลิก https://onelink.to/measmartlife หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line: MEA Connect (@MEAthailand), Twitter: @mea_news รวมถึง MEA Call Center โทร 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement

นายกฯ แสดงความอาลัย “อาศิส” จุฬาราชมนตรี ถึงแก่อนิจกรรม

People Unity News : 22 ตุลาคม 2566 นายกรัฐมนตรี แสดงความอาลัย “อาศิส พิทักษ์คุมพล” จุฬาราชมนตรี ถึงแก่อนิจกรรม

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความอาลัยต่อการถึงแก่อนิจกรรมของนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เมื่อเวลา 10.32 น. วันนี้ (22 ตุลาคม 2566)

ทั้งนี้ สำนักจุฬาราชมนตรี ได้โพสต์ผ่านเพจสำนักจุฬาราชมนตรี ว่า ประกาศสำนักจุฬาราชมนตรี เรื่อง การถึงแก่อนิจกรรมของจุฬาราชมนตรี انا لله وانا اليه راجعون “แท้จริงเราเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์และเราต้องกลับไปสู่พระองค์”

ตามที่ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้เข้ารับการรักษาอาการป่วยเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น

สำนักจุฬาราชมนตรี ขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 แห่งราชอาณาจักรไทย ได้กลับสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ (ถึงแก่อนิจกรรม) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2566 เวลา 10.32 น. และจะจัดพิธีละหมาดญะนาซะห์ (ละหมาดขอพร) ในวันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. ณ มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา เลขที่ 352 ถนนลพบุรีราเมศวร์ ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

Advertisement

เตือนผู้ประกอบการนำแรงงาน 4 สัญชาติต่อใบอนุญาตทำงานภายใน 13 ก.พ.นี้ ย้ำไม่ผ่อนผัน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 10 กุมภาพันธ์ 2567 ทำเนียบ – “คารม” ย้ำเตือนผู้ประกอบการนำแรงงาน 4 สัญชาติ ตามมติ ครม. 5 ก.ค. 65 ที่ใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุ ภายในวันที่ 13 ก.พ. 67 เร่งต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ที่เว็บไซต์ e-workpermit.doe.go.th ก่อนใบอนุญาตทำงานสิ้นอายุ

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 เห็นชอบให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 แล้ว อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานต่อไปได้ ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 หรือวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ตามแต่ละกรณีนั้น สำหรับแรงงานต่างด้าวที่ใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 หากประสงค์จะทำงานต่อไปถึง 13 กุมภาพันธ์ 68 สามารถทำได้ โดยต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ที่เว็บไซต์ e-workpermit.doe.go.th พร้อมเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอ (บต. 50 อ. 5) และชำระค่าธรรมเนียมค่ายื่นคำขอ ฉบับละ 100 บาท และค่าธรรมเนียมต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ฉบับละ 900 บาท ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567

หลังจากดำเนินการครบถ้วนแล้ว ให้ยื่นหลักฐานการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรฯ (Visa) ไม่น้อยกว่าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 และหลักฐานการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน หรือการทำประกันสุขภาพกับกระทรวงสาธารณสุข แล้วแต่กรณี ต่อกรมการจัดหางาน

กรมการจัดหางาน ยืนยันว่าไม่มีการขยายระยะเวลา หากต้องการให้แรงงานทำงานต่อไปถึงวันที่ 13 ก.พ. 2568 ให้เร่งดำเนินการยื่นเอกสารต่ออายุใบอนุญาตภายในกำหนด มิฉะนั้นการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานจะเป็นอันสิ้นสุดแรงงานต่างด้าวต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางและหากประสงค์จะกลับเข้ามาทำงาน ในประเทศไทย ต้องดำเนินการตามกระบวนการนำเข้า MOU

ทั้งนี้ หากติดปัญหาไม่สามารถดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเองได้ สามารถติดต่อขอรับบริการจากเจ้าหน้าที่ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 ในท้องที่ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานที่ทำงานของคนต่างด้าว หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

Advertisement

เตือนนำถุงยางอนามัยที่รัฐแจกฟรี ขายต่อออนไลน์ ผิด กม.

People Unity News : 6 พฤศจิกายน 2566 ทำเนียบฯ – “คารม” เตือนผู้ที่นำถุงยางอนามัยที่ได้รับแจกฟรีมาขายต่อออนไลน์ ให้รีบหยุดการกระทำ มิเช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แนะประชาชนลงทะเบียนขอรับฟรีผ่านแอป “เป๋าตัง”

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พบว่ามีผู้นำถุงยางอนามัยที่ สปสช. แจกฟรี ไปขายบนแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการนำสิ่งของที่รัฐแจกฟรีให้แก่ประชาชนมาแสวงผลประโยชน์โดยมิชอบและมีความผิดตามกฎหมาย จึงขอเตือนให้หยุดการกระทำดังกล่าว

นายคารม กล่าวว่า การแจกถุงยางอนามัย เป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ที่ สปสช. จัดให้แก่ชายไทยทุกสิทธิ ควบคู่ไปกับการแจกยาคุมกำเนิดและยาคุมฉุกเฉินแก่สตรีวัยเจริญพันธุ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ซึ่งทั้งถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิด สปสช. แจกให้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ดังนั้น การฉวยโอกาสนำถุงยางอนามัยที่ได้รับฟรีมาขายต่อ จึงเป็นการกระทำที่ผิดวัตถุประสงค์ เอาเปรียบเบียดบังเอาสิ่งของที่ได้มาจากภาษีส่วนรวมมาหาผลประโยชน์โดยมิชอบ

“ขอเตือนว่าเป็นเรื่องที่ไม่คุ้ม ท่านอาจจะขายของได้เพียงหลักสิบหลักร้อยบาท แต่เมื่อถูกฟ้องร้องขึ้นมาอาจจะเสียทั้งเงินและอาจถึงขั้นติดคุกด้วย ในส่วนของประชาชนผู้ที่ต้องการใช้ถุงยางอนามัย สามารถขอรับถุงยางอนามัยได้ฟรี โดยลงทะเบียนใช้สิทธิในเมนู “กระเป๋าสุขภาพ” ในแอปฯ เป๋าตัง แล้วเลือกหน่วยบริการในระบบบัตรทอง เพื่อไปรับถุงยางอนามัยได้ ทั้งคลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรม ร้านยา หน่วยบริการปฐมภูมิ คลินิกการพยาบาล รพ.สต. หรือในกรณีที่ไม่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถนำบัตรประชาชนมาลงทะเบียนเพื่อรับยาคุมกำเนิด ณ หน่วยบริการในระบบบัตรทองได้เช่นกัน โดยสามารถรับได้ครั้งละ 10 ชิ้นต่อคน/สัปดาห์ และไม่เกิน 52 ครั้งต่อคนต่อปี” นายคารม กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics