วันที่ 7 พฤษภาคม 2024

“ประยุทธ์” สั่งเฝ้าระวังไข้หวัดนก สายพันธุ์ H3N8 ป้องกันแพร่ระบาดในประเทศ

People Unity News : 2 พฤษภาคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H3N8 อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม และป้องกันโรคไข้หวัดนกเข้าสู่ประเทศไทย หลังจากมีการพบผู้ป่วยไข้หวัดนก H3N8 ในประเทศจีน

ด้านคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ประเมินเบื้องต้นว่า เชื้อดังกล่าวมีการแพร่เชื้อสู่มนุษย์ในระดับต่ำ และความเสี่ยงของการแพร่ระบาดยังคงอยู่ในวงแคบ นอกจากนี้ประเทศไทยไม่พบรายงานการเกิดโรคไข้หวัดนกมาแล้วเป็นระยะเวลา 14 ปี ขณะที่กรมปศุสัตว์เตรียมแผนรับมือระดับกรมและจังหวัด เฝ้าระวังโรคสัตว์ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด สุ่มเก็บตัวอย่างสัตว์ปีกในพื้นที่เสี่ยงอย่างพื้นที่ชายแดนพื้นที่นกอพยพและวางไข่ นอกจากนี้ ยังคงเข้มงวดการเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ปีกภายในประเทศ และชะลอการนำเข้าสัตว์ซากสัตว์ปีกจากประเทศที่เกิดโรคไข้หวัดนก เป็นต้น

จึงขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลมีมาตรการป้องกันโรคไข้หวัดนกอย่างเข้มงวดและพร้อมดูแลคนไทยให้ปลอดภัย และขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก ร่วมกันประเมินสัตว์ปีกอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีความเสี่ยงหรือผิดปกติ ขอให้งดนำไปขาย แจก หรือนำไปประกอบอาหาร พร้อมขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบและดำเนินมาตรการควบคุมโรค

Advertisement

สธ.เผยสถานการณ์ติดเชื้อโควิดลดลง แต่ภาคอีสานยังติดสูง ย้ำฉีดวัคซีนลดความรุนแรงได้

People Unity News : กระทรวงสาธารณสุข เผย สถานการณ์โควิด 19 แนวโน้มลดลง แต่บางจังหวัดในภาคอีสานยังพบการติดเชื้อสูง ย้ำ “โอมิครอน” หากไม่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นอาจอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ต้องเร่งนำผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีนพร้อมแจงสาเหตุการแยกผู้เสียชีวิตจากโควิดจริงกับผู้เสียชีวิตจากโรคร่วมและพบโควิด เพราะมีมาตรการที่จะลดการตายจากการดูแลรักษาที่ต่างกัน จะช่วยให้วางมาตรการการรักษาในอนาคตได้

วันนี้ (2 พฤษภาคม 2565) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่า วันนี้ประเทศไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อ 9,331 ราย ลดลงจากหลายสัปดาห์ก่อนที่มีผู้ติดเชื้อวันละประมาณ 2 หมื่นราย ผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนรับการรักษาของ สปสช. ทั้งแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักที่บ้าน (OPSI) และระบบรักษาที่บ้าน (HI) ซึ่งสัปดาห์ล่าสุดมี 498,578 ราย ลดลงจากเดิม 6-7 แสนราย สะท้อนว่าสถานการณ์ลดลงจริง ส่วนผู้เสียชีวิตมี 84 ราย ส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น เป็นผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า การรายงานผู้เสียชีวิตมีการปรับรายงานแยกระหว่างกลุ่มติดเชื้อโควิด ปอดอักเสบและเสียชีวิต กับกลุ่มที่มีโรคเรื้อรังและตรวจพบโควิด เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การติดเชื้อและเสียชีวิตที่เกิดขึ้นจริงซึ่งทั้งสองกลุ่มมีมาตรการที่จะลดการตายจากการดูแลรักษาที่ต่างกัน จะช่วยให้วางมาตรการการรักษาในอนาคตได้ ทั้งนี้ สายพันธุ์โอมิครอนส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรืออาการไม่มาก แต่หากไม่ฉีดวัคซีน ยังมีโอกาสป่วยหนักรุนแรงและทำให้เสียชีวิตสูง โดยการฉีดเข็มกระตุ้นจะลดการเสียชีวิตได้ถึง 31 เท่า ดังนั้น ต้องช่วยกันนำผู้สูงอายุไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งปัจจุบันฉีดได้เพียง 41.5% ขณะที่ความครอบคลุมที่จะช่วยลดการป่วยหนักเป็นวงกว้างได้ คือ 60% ขึ้นไป ส่วนเด็กอายุ 5-11 ปี ขอให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปฉีดก่อนเปิดเทอมเช่นกัน

“สถานการณ์การติดเชื้อ ป่วยหนักและเสียชีวิต ยังเป็นไปตามคาดการณ์ ส่วนผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจจะลดลงตามผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยปอดอักเสบหรือไม่ ยังต้องติดตามอีก 2-4 สัปดาห์ ขณะนี้จึงยังคงแจ้งเตือนภัยระดับ 4 ทั่วประเทศ ขอให้หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มและสถานที่เสี่ยง เพราะบางจังหวัดยังพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคอีสานส่วน 40 กว่าจังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยลดลง และมีแนวโน้มคงตัว ได้ให้จัดทำแผนปฏิบัติการเตรียมพร้อมเข้าสู่ระยะโรคประจำถิ่น เพื่อมั่นใจว่าหากมีเชื้อกลายพันธุ์ที่ระบาดง่ายรุนแรงมากขึ้นจะสามารถรับมือได้ โดยต้องมีวัคซีนและแพทย์เพียงพอให้การดูแลรักษาป้องกันได้ตามมาตรฐาน” นพ.จักรรัฐกล่าว

Advertisement

สุดปัง! QS World University Rankings 2022 ประกาศมหาวิทยาลัยไทย ติดอันดับโลก 122 สาขา

People Unity News : 22 เมษายน 2565 นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เผย Quacquarelli Symonds (QS) หรือ  QS World University Rankings ซึ่งเป็นองค์กรการให้ข้อมูลในด้านการศึกษาและการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ประกาศการจัดอันดับสาขาวิชาที่ติดอันดับโลก เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 65 ปรากฏว่า มหาวิทยาลัยของประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับในสาขาวิชาที่ติดอันดับโลก ถึง 122 สาขาวิชา เพิ่มขึ้นจากปี 64 ที่ได้ 96 สาขา อีก 26 สาขา ที่สำคัญมีสาขาวิชาที่สามารถขึ้นไปติดถึงอันดับ 47 ของโลกหรือ TOP 50 ของโลกได้ คือ สาขาด้านศิลปะการแสดง (Performing Arts) ของมหาวิทยาลัยมหิดล

มหาวิทยาลัยไทยที่มีสาขาวิชาที่ติดอันดับ TOP 100 ของโลก ได้แก่

💡จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ติดอันดับใน 4 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาด้านศิลปะการแสดง สาขาวิชาด้านวิศวกรรมปิโตรเลียม สาขาวิชาด้านพัฒนศึกษา และสาขาวิชาด้านนโยบายสังคมและการบริหาร

💡สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังติดอันดับด้านวิศวกรรมปิโตรเลียม

💡มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ติดอันดับใน สาขาวิชาด้านเกษตรศาสตร์และป่าไม้

💡มหาวิทยาลัยมหิดล ติดอันดับในสาขาด้านวิชาเภสัชกรรมและเภสัชวิทยา

สาขาวิชาที่ติดอันดับโลกในแต่ละสถาบันอุดมศึกษาของประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มขี้น เช่น จุฬาฯ ในปี 63 และ 64 ติดอันดับ 30 สาขาวิชา ขยับขึ้น 35 สาขาวิชาในปี 65 ,ม.มหิดล ปี 63 ติดอันดับ 14 สาขาวิชา ปี 64 ติดอันดับ 16 สาขาวิชา และปี 2565 ติดอันดับ 20 สาขาวิชา ,ม.เชียงใหม่ ปี 64 ติดอันดับ 9 สาขาวิชาและปี 65 ติดอันดับ 13 สาขาวิชา ,ม.ธรรมศาสตร์ ปี 64 ติดอันดับ 5 สาขาวิชา แต่ปี 65 ขยับขึ้นมาเป็น 13 สาขาวิชา เป็นต้น

Advertisement

ศบค.กำหนดพื้นที่สีเหลือง 65 จว. สีฟ้า 12 จว. ยกเลิก Test & Go – RT-PCR (ผู้รับวัคซีนครบ) เริ่ม 1 พ.ค.

People Unity News : 22 เมษายน 2565 ที่ประชุม ศบค. (22 เม.ย. 65) เห็นชอบการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ (โซนสี) ทั่วประเทศ เหลือเพียงพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 65 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 12 จังหวัด โดยเพิ่ม จ.สงขลา และระยอง พร้อมปรับมาตรการบริโภคเครืองดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารที่ผ่าน SHA+/ Thai Stop COVID 2 Plus/ มาตรการ COVID Free Setting ได้ไม่เกิน 24.00 น. และมาตรการทำงานที่บ้าน (Work from home) ให้เป็นไปตามความเหมาะสม

สำหรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร จะมีการยกเลิกระบบ Test and Go แต่ยังคงต้องลงทะเบียนผ่าน Thailand Pass โดยผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ไม่ต้องตรวจ RT-PCR เมื่อเดินทางมาถึง (แนะตรวจ ATK ระหว่างพำนักในไทย) ส่วนผู้ไม่ได้รับวัคซีน/รับวัคซีนไม่ครบ ให้ยื่นผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทางถึงประเทศไทย หรือกักตัวตามระบบ AQ โดยตรวจ RT-PCR วันที่ 4 – 5 เริ่ม 1 พ.ค. 65 เป็นต้นไป

Advertisement

เกาหลีใต้เตรียมยกเลิกกฎคุมโควิดเกือบทั้งหมดสัปดาห์หน้า

People Unity News : เกาหลีใต้เล็งยกเลิกกฎคุมโควิดเกือบทั้งหมดในสัปดาห์หน้า และจะทบทวนการยกเลิกกฎการใส่หน้ากากในที่กลางแจ้งภายในสองสัปดาห์นี้ โดยจะพิจารณาจากสถานการณ์ไวรัส

17 เม.ย. 65 เมื่อวันศุกร์ เกาหลีใต้ระบุว่าจะยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เกือบทั้งหมดในสัปดาห์หน้าเนื่องจากการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนทุเลาลง แม้รัฐบาลจะยังคงกำหนดให้ประชาชนสวมหน้ากากต่อไป ตามรายงานของรอยเตอร์

นายกรัฐมนตรี คิม บู-คยุม ของเกาหลีใต้ ระบุว่า จะมีการยกเลิกเคอร์ฟิวที่เคยกำหนดให้ร้านอาหารและสถานประกอบธุรกิจต่างๆ ต้องปิดภายในเที่ยงคืน เช่นเดียวกับการยกเลิกการรรวมกลุ่มกันเป็นการส่วนตัวไม่เกิน 10 คน

นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้จะอนุญาตให้มีการเดินขบวนรวมถึงการจัดงานที่มีผู้เข้าร่วมตั้งแต่ 300 ขึ้นไป และจะยกเลิกการกำหนดให้ศาสนสถานรับผู้คนได้ไม่เกิน 70 เปอร์เซ็นต์ของความจุทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม นายกฯ เกาหลีใต้ระบุต่อว่า เกาหลีใต้จะยังคงกำหนดให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากภายในอาคารต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากการสวมหน้ากากเป็นวิธีสำคัญต่อการป้องกันโรคโควิด-19 และจะทบทวนการยกเลิกกฎการใส่หน้ากากในที่กลางแจ้งภายในสองสัปดาห์นี้ โดยจะพิจารณาจากสถานการณ์ไวรัส

ควอน ดึก-ชอล รัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้ ระบุว่า ทางรัฐบาลจะยกเลิกมาตรการกักตัวของผู้ป่วยโรคโควิด-19 เป็นเวลาเจ็ดวัน โดยจะเริ่มยกเลิกตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม

ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในเกาหลีใต้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้วหลังจากมียอดผู้ติดเชื้อกว่า 620,000 คนเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม โดยเมื่อวันศุกร์ มียอดผู้ติดเชื้อลดลงต่ำกว่า 130,000 คน

เกาหลีใต้ใช้มาตรการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงเพื่อจำกัดยอดผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยหนัก ในขณะเดียวกันก็ลดความเข้มข้นของมาตรการสืบสัมผัสผู้ติดเชื้อและการควบคุมการแพร่ระบาดลง

ข้อมูลจากหน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีระบุว่า เกือบ 87 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเกาหลีใต้ 52 ล้านคน ฉีดวัคซีนครบแล้ว และมี 64 เปอร์เซ็นต์ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์แล้ว โดยเมื่อวันพุธ รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศแผนให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มสองได้

ที่มา: รอยเตอร์

Advertisement

อุบัติเหตุสงกรานต์ 5 วัน เกิดเหตุ 1,478 ครั้ง บาดเจ็บ 1,452 คน ตาย 204 ราย

People Unity News : ศปถ. สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ สะสม 5 วัน เกิดเหตุ 1,478 ครั้ง บาดเจ็บ 1,452 คน เสียชีวิต 204 ราย

16 เม.ย. 65 นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการ ศปถ. แถลงสรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เม.ย.65 ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 277 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 263 คน ผู้เสียชีวิต 44 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดยังคงเป็น ขับรถเร็วเกินกำหนด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์

ภาพรวมสถิติอุบัติเหตุสะสม 5 วัน ตั้งแต่ 11 – 15 เม.ย.65 เกิดอุบัติเหตุรวม 1,478 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,452 คน ผู้เสียชีวิต 204 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต รวม 12 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นครพนม บึงกาฬ ปราจีนบุรี ปัตตานี ยะลา ระนอง ลำพูน สมุทรสงคราม สิงห์บุรี หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ

นายบุญธรรม กล่าวว่า วันนี้ (16 เม.ย.65) ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้าสู่ กทม.และจังหวัดเขตเศรษฐกิจ ทำให้มีปริมาณรถหนาแน่น ศปถ. ได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการเดินทาง ควบคู่กับมาตรการป้องกันโควิด – 19 อย่างเข้มข้น จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเส้นทางสายหลัก สายรอง ทางเลี่ยง ทางลัด ทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง พร้อมคุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เปิดช่องทางพิเศษ เร่งระบายรถ ปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ พร้อมเตือนให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ เนื่องจากประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อน ระหว่างวันนี้ – 18 เม.ย.65 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และ กทม. อาจทำให้สภาพถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน

Advertisement

อุตุฯ เตือน 16-18 เม.ย.นี้ ทั่วไทยรับมือ “พายุฤดูร้อน”

People Unity News : 15 เมษายน 2565 ในช่วงวันที่ 16-18 เมษายน 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มได้รับผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ฃไม่แข็งแรง และขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางสัญจรผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองซึ่งอาจเกิดอันตรายจากลมกระโชกแรงและฟ้าผ่าได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement

WHO เผยยอดป่วยโควิด-19 ทั่วโลก ทะลุ 500 ล้านรายแล้ว ทวีปยุโรปและอเมริกาป่วย-ตายสูงสุด

People Unity News : 15 เมษายน 2565 องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่าจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ได้รับการยืนยันผลพุ่งสูงเกิน 500 ล้านรายแล้ว

จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลทั่วโลกอยู่ที่ 500,186,525 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยเสียชีวิต 6,190,349 ราย เมื่อนับถึง 18.36 น. ตามเวลามาตรฐานสากล

สหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลและผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลกด้วยผู้ป่วยสะสมมากกว่า 79.71 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 979,321 ราย ซึ่งต่างคิดเป็นเกือบร้อยละ 16 ของทั้งโลก

รองลงมาคืออินเดียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมสูงเกิน 43 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 521,737 ราย และบราซิลมีผู้ป่วยสะสมสูงเกิน 30 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 661,493 ราย

ปัจจุบันภูมิภาคยุโรปและอเมริกา มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลสูงเกิน 209 ล้านราย และ 151 ล้านราย รวมถึงผู้ป่วยเสียชีวิต 1,964,786 ราย และ 2,711,779 ราย

ภูมิภาคข้างต้นทั้งสองมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลสะสมรวมกันคิดเป็นกว่าร้อยละ 72 ของผู้ป่วยยืนยันผลทั่วโลก และมีผู้ป่วยเสียชีวิตรวมกันคิดเป็นกว่าร้อยละ 75 ของผู้ป่วยเสียชีวิตทั่วโลก

ทั้งนี้ องค์การฯ เตือนว่าโรคโควิด-19 ยังคงเป็นเหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ แม้จำนวนผู้ป่วยใหม่และผู้ป่วยเสียชีวิตรายสัปดาห์ลดลงต่อเนื่อง จึงแนะนำประเทศต่างๆ เตรียมพร้อมรับมืออย่างรวดเร็ว

Advertisement

คปภ.จับมือภาคธุรกิจ มอบ “ประกันภัย 10 บาท” ฟรี!!! เป็นของขวัญให้คนไทยเทศกาลสงกรานต์

People Unity News11 เมษายน 2565 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย “กรมธรรม์ประกันภัยสงกรานต์สุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2565” เพื่อมอบเป็นของขวัญวันปีใหม่ไทยให้กับคนไทยทั่วประเทศ โดยจ่ายเบี้ยประกันภัยเพียง 10 บาท ให้ความคุ้มครองหลักๆ คือ ความคุ้มครองที่ 1 กรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกายและ/หรืออุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะได้รับความคุ้มครอง 100,000 บาท ความคุ้มครองที่ 2 กรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกายและ/หรืออุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะได้รับความคุ้มครอง 50,000 บาท ความคุ้มครองที่ 3 ค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย (ยกเว้นกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยภายใน 15 วันแรก นับจากวันเริ่มต้นระยะเวลาประกันภัย) จะได้รับความคุ้มครอง 5,000 บาท ความคุ้มครองที่ 4 ค่าชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน กรณีได้รับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ (สูงสุดไม่เกิน 30 วัน) จะได้รับความคุ้มครอง 200 บาทต่อวัน ความคุ้มครองที่ 5 ค่าชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในห้อง ICU กรณีได้รับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ (ผลประโยชน์รวมความคุ้มครองที่ 4 ไม่เกิน 30 วัน) จะได้รับความคุ้มครอง 400 บาทต่อวัน

สำหรับเงื่อนไขการรับประกันภัยที่สำคัญ คือ ผู้ทำประกันภัยต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยแต่ละราย มีสิทธิได้รับกรมธรรม์ประกันภัยจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 1 กรมธรรม์ต่อผู้ประกอบการ 1 ราย เท่านั้น โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นผู้ถือกรมธรรม์ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยให้กับคนไทยทั่วประเทศ และเนื่องจากประกันภัย 10 บาทดังกล่าวเป็นกรมธรรม์กลุ่มที่ประชาชนไม่ต้องจ่ายเงินซื้อกรมธรรม์ โดยสามารถรับสิทธิฟรีจากการไปใช้บริการตามเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการซึ่งเข้าร่วมโครงการกำหนด ได้แก่ ธนาคารออมสิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด บริษัท โลตัสส์ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AIS) บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด Café Amazon บริษัท เคาน์เตอร์ เซอร์วิส จำกัด บริษัท แรบบิท อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด และบริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด

หากบุคคลทั่วไปต้องการซื้อโดยตรงสามารถรวมตัวเป็นกลุ่มซื้อจากบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้แก่  บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เจมาร์ท ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท สหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอไอเอ จำกัด ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2565

“เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ สำนักงาน คปภ. ขอส่งความสุขวันปีใหม่ไทยมาให้ทุกท่านและขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว ขับขี่รถด้วยความไม่ประมาท ผู้ที่ใช้รถยนต์อย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัย เมาไม่ขับ เตรียมสภาพร่างกาย และตรวจสภาพรถให้พร้อม ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญควรตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด และควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่นๆด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยเยียวยาความสูญเสียต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ด้วยความไม่ประมาท อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกันภัยสามารถสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วง 7 วันอันตราย คือระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2565 ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ Add Line Official @oicconnect ” เลขาธิการ คปภ. กล่าว

Advertisement

ศกพ.ประกาศแจ้งเตือน PM2.5 มีค่าเกินมาตรฐาน งดกิจกรรมกลางแจ้ง 9 – 11 เมษายน

People Unity News : ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) รายงานคุณภาพอากาศวันที่ 9 เมษายน 2565 สรุปสถานการณ์ PM2.5 พบเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ สรุปได้ดังนี้

  • ภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 43 – 114 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดได้ 43 – 94 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคกลางและตะวันตก ตรวจวัดได้ 49 – 78 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคตะวันออก ตรวจวัดได้ 43 – 54 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคใต้ ตรวจวัดได้ 10 – 17 มคก./ลบ.ม.
  • กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ตรวจวัดได้ 38 – 105 มคก./ลบ.ม.

โดยการเพิ่มสูงขึ้นนี้มีสาเหตุจากแหล่งกำเนิดในพื้นที่ รวมถึงพบจุดความร้อนที่กระจายตัวอยู่ทั้งในประเทศและประเทศอนุภูมิภาคแม่โขง ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา ประกอบกับสภาพอุตุนิยมวิทยาไม่เอื้อต่อการระบายของฝุ่นในพื้นที่ สภาพอากาศที่นิ่ง ลมอ่อน

ศกพ. คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 พบว่าในช่วงวันที่ 9 – 11 เมษายน 2565 ควรมีการเฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากสภาพอุตุนิยมวิทยาไม่เอื้อต่อการระบายของฝุ่นในพื้นที่ ประกอบกับสภาพอากาศที่นิ่ง การยกตัวของมวลอากาศต่ำ หากจุดความร้อนมีจำนวนมากอาจส่งผลให้สถานการณ์ฝุ่นละอองสูงขึ้น ทั้งนี้หลังวันที่ 11 เมษายน 2565 สถานการณ์ฝุ่นละอองจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศนิ่งลดลงรวมถึงการยกตัวของมวลอากาศสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามต้องดำเนินการควบคุมจุดความร้อนทั้งภายในและภายนอกประเทศควบคู่ไปด้วยกัน

ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 9 – 11 เมษายน 2565 ศกพ. ขอให้พี่น้องประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด งดกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และหากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ โดยท่านสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK

Advertisement

Verified by ExactMetrics