วันที่ 28 เมษายน 2024

ส.ป.ก. ท้าชนกรมอุทยานฯ ออกแถลงการณ์ยันแนวเขตพิพาทเขาใหญ่ อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน อ้างทำตามมติ ครม. ลั่นจะปกป้องสิทธิเกษตรกร

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 มีนาคม 2567 เลขาธิการ ส.ป.ก. ยันแนวเขตพื้นที่พิพาทบริเวณบ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินแน่นอน โดย ส.ป.ก. ได้รับมอบพื้นที่มาตามกระบวนการจำแนกป่า จากนั้นมี พ.ร.ก.กำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2534 หาก ครม. มีนโนบายให้ ส.ป.ก. ส่งมอบพื้นที่พิพาทไปอยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานฯ จะต้องปรับปรุงกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า ส.ป.ก. ออกแถลงการณ์เรื่อง กรณีพิพาทระหว่างแนวเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมากับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพื่อยืนยันว่า พื้นที่พิพาทบริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินอย่างแน่นอน โดยไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แต่อย่างใด

ในแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ได้ปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้เข้ารื้อถอนหมุดหลักฐานซึ่งเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมบริเวณดังกล่าว อันอาจก่อให้เกิดเป็นประเด็นพิพาทในระหว่างส่วนราชการด้วยกันนั้น

ส.ป.ก. ยืนยันว่า ที่ดินในบริเวณพิพาทเป็นที่ดินที่ ส.ป.ก. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เพื่อใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามมาตรา 26 (3) และมาตรา 36 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 และพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนินและอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2534

ทั้งนี้กรมแผนที่ทหารได้ตรวจสอบข้อมูล Field book ซึ่งเป็นการบันทึกการรังวัดขอบเขตของกรมอุทยานฯ เอง ตามมาตรฐานแผนที่และการรังวัดสากลแล้ว ยืนยันว่า พื้นที่ข้อพิพาทไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

สำหรับพื้นที่บริเวณดังกล่าว ส.ป.ก. ได้รับมาจากการนำที่ดินที่จำแนกออกจากป่าเขาใหญ่เฉพาะพื้นที่ที่อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติและเขตป่าสงวน (พื้นที่อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตามพระราชกฤษฎีกาที่ประกาศในราชกิจจานุบกษา เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505) เนื้อที่ประมาณ 33,896 ไร่ ตามที่คณะรัฐนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2530 มอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาที่ดินครั้งที่ 6/2527 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2527 ที่มีกรมป่าไม้ (ผู้รับผิดชอบงานอุทยานแห่งชาติในขณะนั้น) และ ส.ป.ก. ร่วมเป็นกรรมการ โดยได้สำรวจจนเป็นที่ยุติแล้วว่า พื้นที่ที่ส่งมอบให้ ส.ป.ก. ข้างต้นมีสภาพการใช้ประโยชน์โดยการประกอบเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ประมาณ 86.25 %

ดังนั้น ส.ป.ก. จึงมีอำนาจหน้าที่นำที่ดินเนื้อที่ประมาณ 33,896 ไร่ที่ได้รับมอบซึ่งที่ดินบริเวณพิพาทรวมอยู่ในส่วนนี้ด้วย มาจัดให้แก่เกษตรกรตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 โดยไม่มีประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการทับซ้อนของแผนที่แสดงแนวเขตในบริเวณพื้นที่พิพาทระหว่าง ส.ป.ก. กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

หากคณะรัฐมนตรีมีนโยบายให้ปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐตามโครงการ One Map เพื่อให้ที่ดินที่ ส.ป.ก. ได้รับมาในบริเวณพิพาทไปอยู่ในแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับปรุงกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ รวมถึงช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้สุจริตซึ่งเสียสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจากผลกระทบดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนจากการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ 10 ข้อ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติต่อไป

เลขาธิการ ส.ป.ก. ระบุว่า ได้กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยยึดมั่นในหลักการว่า หากปรากฎข้อเท็จจริงใดๆ ว่า มีเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. รังวัดจัดที่ดินในพื้นที่ที่ยังมีสภาพป่า ย่อมเป็นกรณีที่ไม่ชอบด้วยระเบียบและข้อตกลงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบ โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตลอดจนย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายด้วยแล้ว หากพบว่า เจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. ผู้ใดได้กระทำความผิดหรือจัดที่ดินโตยฝ่าฝืนเจตนารมณ์แห่งกฎหมายหรือกระทำการใดๆ ที่ไม่ถูกต้องอันก่อให้เกิดความเสียหายกับการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ส.ป.ก. จะดำเนินการตามกฎหมายทั้งทางวินัย ทางแพ่ง และทางอาญาให้ถึงที่สุด ในทางกลับกัน หากตรวจสอบแล้วพบว่า ส.ป.ก. จัดที่ดินที่ชอบด้วยระเบียบและกฎหมาย ก็เป็นกรณีสมควรที่เกษตรกรจะต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิกฎหมายและมีความชอบธรรมในการถือครองที่ดินของ ส.ป.ก. ต่อไป โดยไม่ควรที่จะมีหน่วยงานใดก็ตามรบกวนหรือรอนสิทธิของประชาชนเหล่านี้

พร้อมกันนี้ยืนยันว่า ส.ป.ก. จะยืนหยัดในการปฏิบัติหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรมให้เป็นไปตามเจตนารมณ์แห่งกฎหมายทุกประการและจะตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. ที่ปฏิบัติหน้าที่มิชอบเพื่อพิสูจน์ทราบ หากพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป

Advertisement

อย่าเชื่อ! เฟคนิวส์ ข่าวลือ พายุเนสาท จ่อเคลื่อนเข้าไทย 12 ต.ค.นี้

People Unity News : 7 ตุลาคม 2565 จากกรณีการแชร์ภาพและข้อความต่อๆกันในโลกออนไลน์ ระบุว่าพายุลูกถัดไปจะก่อตัวในวันที่ 12 ต.ค.นี้ คาดว่าน่าจะใช้ชื่อว่า “เนสาท” ซึ่งจะกระทบทุกภาคของประเทศ โดยภาคอีสานจะได้รับผลกระทบหนักสุด

กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และไม่ได้มีที่มาจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา หากมีแนวโน้มว่าจะเกิดสภาพอากาศร้ายแรง หรือมีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก หรือทะเลจีนใต้ และมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย จะประกาศเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน

พร้อมคาดการณ์ว่าช่วงวันที่ 9 -12 ต.ค. 65 มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้มีฝนตกหนัก กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นได้

จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอากาศเย็นดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตัวของพายุ หรือหากมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุ อาจจะอ่อนกำลังลงและสลายตัวก่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม โอกาสที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยและมีผลกระทบนั้นมีน้อยมาก

Advertisement

รองโฆษกรัฐบาล ย้ำ สำนักทะเบียนทั่วประเทศ เปิดบริการช่วงหยุดยาว

People Unity News : 30 กรกฎาคม 2566 รองโฆษกรัฐบาล ย้ำ วันหยุดยาว ถึง 2 ส.ค. ใช้บริการด้านทะเบียน และบัตรประจำตัวได้ ณ สำนักทะเบียนทั่วประเทศ ตั้งแต่ 08.30 – 16.30 น.

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ได้เห็นชอบให้วันที่ 31 ก.ค. เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมในห้วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.66 วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ทำให้ในช่วงวันที่ 28 ก.ค. – 2 ส.ค.นี้ เป็นวันหยุดราชการต่อเนื่อง รวม 6 วัน เพื่ออำนวยการความสะดวกให้กับประชาชน กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ในฐานะสำนักทะเบียนกลาง ได้เปิดระบบปฏิบัติการให้บริการประชาชนทางด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน ในช่วงวันดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. เพื่อให้การบริการด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนในการติดต่อขอรับบริการด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนในช่วงวันหยุดราชการต่อเนื่อง

นางสาวรัชดา กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยคาดการณ์ว่าในช่วงวันหยุดราชการต่อเนื่องนี้ จะมีพี่น้องประชาชนมีความจำเป็นต้องเข้ารับบริการจากหน่วยงานบริการของกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนหน่วยงานราชการของแต่ละจังหวัด จึงขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอ เป็นผู้นำข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการส่วนภูมิภาคที่มีหน้าที่ด้านการบริการพี่น้องประชาชน ให้ยึดมั่นในอุดมการณ์การบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน โดยร่วมกันวางแผนการเปิดให้บริการติดต่อราชการเป็นพิเศษในช่วงวันหยุดยาว ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งสำนักทะเบียนอำเภอ สำนักทะเบียนท้องถิ่น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนที่ต้องเข้ารับบริการในวันหยุดราชการ ตลอดจนเน้นย้ำ ให้ผู้บริหารระดับสูง หัวหน้าหน่วยงาน ทั้งสำนักงานปลัดกระทรวง กรม และจังหวัด ได้จัดให้มีคณะทำงานทั้งระดับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดูแลประจำสถานที่ราชการและสำนักงานนอกเหนือจากการจัดเวรยามประจำตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนตลอดช่วงวันหยุดยาวนี้

“ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบว่า ช่วงวันหยุดยาว ถึง 2 ส.ค. นี้ สำนักบริหารการทะเบียนทั่วประเทศ ทั้งสำนักทะเบียนอำเภอ สำนักทะเบียนท้องถิ่น เปิดให้การบริการด้านทะเบียน และบัตรประจำตัวประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในเวลา 08.30 – 16.30 น. ไม่มีวันหยุด ขอประชาชนอย่าเป็นกังวัล สะดวกพื้นที่ไหนสามารถใช้บริการในพื้นที่นั้นๆได้” นางสาวรัชดา กล่าว

Advertisement

เตรียมตั้ง “กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์” เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน

People Unity News : โฆษก ตร. แจงตั้ง “ตำรวจไซเบอร์” เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน

23 เมษายน 2563 พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกระแสข่าวกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมา เพื่อรับผิดชอบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีครอบคลุมทั่วประเทศ ว่า จากสภาพปัญหาการขยายตัวของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศในโลกยุคดิจิทัล ทำให้คดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศมีปริมาณเพิ่มขึ้น ทั้งคดีที่ส่งผลต่อความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง และคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงได้มีนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อปกป้องประชาชน เยาวชน สังคมและประเทศชาติให้มีความปลอดภัย พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  จึงได้มอบหมายให้ สำนักงานกำลังพล ไปทำการศึกษาและพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง กองบัญชาการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ตลอดจนมีวิธีการปฏิบัติงานเพื่อให้สามารถบริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พลตำรวจโท ปิยะ กล่าวว่า ปัจจุบันคดีอาชญากรรมจำนวนมากกระทำผ่านเครือข่ายทางอินเตอร์เน็ต เช่น การฉ้อโกงหลอกขายสินค้าออนไลน์ , การหลอกให้โอนเงิน ,  Fake News , Roman Scam , การเข้าถึง โจมตีหรือทำลายข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อเรียกค่าไถ่ เป็นต้น  ซึ่งคดีเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความซับซ้อน การสืบสวนสอบสวนจำเป็นต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน การเก็บพยานหลักฐาน การตรวจพิสูจน์ การวิเคราะห์แนวโน้มอาชญากรรม รวมถึงการพัฒนาระบบและบริหารจัดการองค์ความรู้ จำเป็นจะต้องมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตลอดจนสามารถร่วมปฏิบัติหรือสนับสนุนการปฏิบัติของหน่วยงานอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. ในปัจจุบัน มีขีดจำกัดในด้านกำลังพล ไม่สามารถรองรับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มจำนวนคดีที่เกิดขึ้นสูงขึ้นในอนาคตได้

“ปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานต่างๆ ที่มีภารกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง กองบัญชาการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยจะพิจารณาถึงขีดความสามารถในการอำนวยความยุติธรรมและการให้บริการประชาชนเป็นหลัก ขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนอีกครั้งว่า ไม่ได้ดำเนินการเพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นของประชาชนแต่อย่างใด แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมุ่งมั่นทุ่มเทและพัฒนาขีดความสามารถ เพื่อพิทักษ์ปกป้อง ประชาชน เยาวชน สังคม และประเทศชาติ ให้ปลอดภัยจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ รวมถึงเป็นหลักประกันความยุติธรรมในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่มีมาตรฐานสากล” พลตำรวจโท ปิยะ กล่าว

โฆษณา

กรมทางหลวงเผย 8 เส้นทางอันตราย ทางตรงยาว เสี่ยง “หลับใน” มากที่สุด

People unity news online : กรมทางหลวงเผย 8 สายทางที่ผู้ขับขี่มีโอกาสหลับในมากที่สุด เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมแนะนำให้แวะพักที่จุดบริการกรมทางหลวง

นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ทล. เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวก ปลอดภัย เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ภายใต้นโยบาย One Transport รวมทั้งมอบให้สำนักทางหลวงและแขวงทางหลวงในพื้นที่ติดตั้งป้ายเตือน “ง่วงหยุดพัก” และจุดบริการประชาชนเพิ่มเติมในจุดที่เกิดอุบัติเหตุบนสายทางที่เกิดจากการหลับในของผู้ขับขี่มีสาเหตุเกิดจากความเหนื่อยล้า ประกอบกับเป็นทางตรงระยะยาว จากสถิติของสำนักอำนวยความปลอดภัย ทล. พบว่า ทางหลวงที่ผู้ขับขี่หลับในและเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 8 สายทาง ดังนี้

– ทางหลวงหมายเลข 1 ตอนพาน – สันทรายหลวง ระหว่าง กม. ที่ 916 – 922 ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.เชียงราย

– ทางหลวงหมายเลข 323 ตอนแยกปากกิเลน – น้ำตกไทรโยคใหญ่ ระหว่าง กม. ที่ 110 – 115 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี

– ทางหลวงหมายเลข 1 ตอนวังม่วง – แม่เชียงรายบน ระหว่าง กม. ที่ 535 – 540 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.ตาก

– ทางหลวงหมายเลข 4 ตอนน้ำรอด – พ่อตาหินช้าง ระหว่าง กม. ที่ 415 – 425 ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.ชุมพร

– ทางหลวงหมายเลข 224 ตอนพะโค – หนองสนวน ระหว่าง กม. ที่ 90 – 95 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา

– ทางหลวงหมายเลข 402 ตอนหมากปรก – เมืองภูเก็ต ระหว่าง กม. ที่ 30 – 35 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต

– ทางหลวงหมายเลข 4 ตอนปากท่อ – สระพัง ระหว่าง กม. ที่ 123 – 133 ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม

– ทางหลวงหมายเลข 35 ตอนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน – นาโคก ระหว่าง กม. ที่ 40 – 45 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

ทั้งนี้ ทล. ได้ติดตั้งป้ายเตือน “ง่วงหยุดพัก” ในจุดที่เหมาะสม เพื่อเตือนให้ผู้ใช้ทางที่ผ่านพื้นที่ดังกล่าวทราบว่า จุดดังกล่าวเป็นทางตรงระยะยาว มีโอกาสหลับในสูง และเป็นจุดที่ใกล้จะถึงจุดหมายของผู้ขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่ฝืนตัวเอง จึงขอให้หยุดพักเพื่อผ่อนคลาย โดยแนะนำให้หยุดพักที่จุดบริการ ทล. ซึ่งตั้งอยู่บนสายทางทุก 2 ชั่วโมง เนื่องจากมีความพร้อมในการรองรับทั้งที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องดื่ม และข้อแนะนำต่างๆ ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารแต่พอดี หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงฯ “ขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย” หากมีปัญหาเกี่ยวกับการเดินทางสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรี 24 ชั่วโมง)

People unity news online : post 16 เมษายน 2561 เวลา 08.19 น.

ทั่วไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กทม.ฝนฟ้าคะนอง 60%

People Unity News : 26 มิถุนายน 2566 กรมอุตุฯ เผยไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-ตะวันออก และมีฝนตกหนักมากในภาคอีสาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออก โดยมีฝนตกหนักมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศรายภาค

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี นครปฐม และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส

Advertisement

ตร.ล้างประวัติอาชญากรกว่า 9.3 ล้านคน จากกว่า 13 ล้านคน คืนชีวิตให้ประชาชน

People Unity News : 16 พฤศจิกายน 2566 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดโครงการ “ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน” คืนความเป็นธรรมให้ประชาชน ได้แล้ว 9.3 ล้านคน จากกว่า 13 ล้านคน

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงเปิดโครงการ “ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน” พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ประชาชนแก้ไขปัญหาในการคัดกรอง เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากที่เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีอาญา แต่ศาลพิพากษายกฟ้อง พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง จะยังมีประวัติอาชญากรรมอยู่ในฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร ทำให้ถูกตัดสิทธิ ไม่ได้รับพิจารณาเข้าทำงาน ขาดโอกาสหางาน กลับไปใช้ชีวิต ทำให้ขาดรายได้ และอาจทำให้ต้องก่ออาชญากรรม

จากข้อมูลที่ผ่านมา ตรวจสอบพบว่ามีรายการที่ยังไม่เคยมีการรายงานผลคดีถึงที่สุดในฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร จำนวนกว่า 13 ล้านรายการ ทำให้สามารถคืนสิทธิ์ให้กับประชาชน ได้ 9.3 ล้านคน จาก 13,051,234 คน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ประวัติบุคคลให้สอดคล้องรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 29 วรรค 2 ว่า หากไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การถอนประวัติข้อมูล ของกองทะเบียนประวัติอาชญากรใน 9 ประเด็น คือ คดีมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง, ยกฟ้อง, มีกฎหมายยกเลิกความผิดนั้น เช่น ใบกระท่อม กัญชา, ผู้เสพยาเสพติดที่ผ่านการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่มีผลเป็นที่น่าพอใจ, ผู้ที่ได้รับการนิรโทษกรรม, มีกฎหมายล้างมลทิน, ได้รับการอภัยโทษ, ไม่มีการกระทำความผิดซ้ำภายใน 20 ปี, ผู้ต้องหาเป็นเด็ก หรือเยาวชน, มีคำพิพากษาใหม่ว่ามิใช่ผู้กระทำความผิด และคดีขาดอายุความ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยถึงโครงการ “ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน” ช่วยคืนความเป็นธรรมให้ประชาชน ได้แล้ว 9.3 ล้านคน จากกว่า 13 ล้านคน ในช่วงปีที่ผ่านมามองว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการจะไม่เสียสิทธิ์ เช่น โทษเมาแล้วขับ จะไม่ใช่อาชญากร แต่ในส่วนของบริษัทเอกชน แต่ละบริษัทมีหลักเกณฑ์ มาตรฐานในการรับคนทำงานไม่เหมือนกัน แต่ยอมรับว่าโครงการดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ 100% แต่จะพยายามแก้ปัญหาให้คนได้รับสิทธิมากที่สุดในการกลับไปใช้ในชีวิตในสังคม

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดให้ประชาชนตรวจสอบคุณสมบัติได้เองว่าเป็นผู้ที่อยู่ในโครงการลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชนหรือไม่ ผ่านเว็บไชต์ www.crd-check.com หากมีชื่ออยู่ในโครงการ แสดงว่าประวัติอาชญากรรมของท่านถูกคัดแยกและถอนประวัติเรียบร้อยแล้ว

Advertisement

ประยุทธ์ เห็นด้วยรีไซเคิลรถยนต์เก่าอายุ 20 ปีขึ้นไปทุกประเภท เผยทั่วประเทศมีกว่า 5 ล้านคัน

People Unity News :  ประยุทธ์ สนับสนุนการรีไซเคิลรถยนต์เก่าหวังลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 และลดต้นทุน และลดการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ

วันนี้ (4 เมษายน 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบการดำเนินการสนับสนุนการรีไซเคิลซากรถทั่วประเทศ ตามมาตรการรองรับขยะจากซากรถยนต์เก่าที่หมดอายุการใช้งานในประเทศ อีกทั้งช่วยลดปริมาณการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ และช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5

จากสถิติประเทศไทยมีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี ทุกประเภท รวมทั้งสิ้น 5,033,307 คัน ซึ่งหากไม่ได้รีไซเคิลให้ถูกต้องเหมาะสม ในอีก 20 ปีข้างหน้า รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี จะเพิ่มเป็น 16 ล้านคัน รถยนต์เก่าเหล่านี้หากนำมาใช้งาน และขาดการบำรุงรักษาตามมาตรฐานจะเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหาฝุ่น PM 2.5 ประกอบกับ การรีไซเคิลที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ จะสามารถนำทรัพยากรจากการแยกซากรถมาหมุนเวียนให้กลายเป็นชิ้นส่วนที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม ซึ่งจะลดปริมาณการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ ซึ่งในรถยนต์หนึ่งคันมีสัดส่วนเหล็กมากถึง 69%

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) โครงการสาธิตสำหรับการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนที่คำนึงถึงการอนุรักษ์พลังงานเพื่อการรีไซเคิลทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมสำหรับซากยานพาหนะที่หมดอายุใช้งานในประเทศไทย (ELV Project: End-of-life Vehicles in Thailand) ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ องค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (NEDO: New Energy and Industrial Technology Development) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า จะเป็นโอกาสสร้างศักยภาพ และการแข่งขันให้ไทย โดยไทยจะเป็นต้นแบบการรีไซเคิลทั้งในประเทศ และในภูมิภาคเอเชีย ต่อไปในอนาคต ด้วยวิสัยทัศน์ และการดำเนินนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการแก้ไขปัญหาในภาพรวม ซึ่งในการแก้ไขแต่ละปัญหานั้น สามารถสร้างโอกาส สร้างลู่ทางพัฒนาประเทศร่วมกันไปด้วย นายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการการทำงานหาแนวทางการทำงานร่วมกันเพื่อให้ธุรกิจเกี่ยวกับการรีไซเคิลรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งานขยายตัว ซึ่งนอกจากจะสร้างงานสร้างอาชีพ เกิดโอกาสการเติบโตของประชาชน ยังสามารถแก้ปัญหาลดขยะซากรถ นำรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งานมาหมุนเวียนให้กลายเป็นชิ้นส่วนที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม และสามารถต่อยอดแนวความคิดให้ไทยเป็นต้นแบบเกิดระบบจัดการซากรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนายกฯขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมหาแนวคิดต่อยอดทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Advertisement

ประยุทธ์ สั่งติดตามโควิดสายพันธุ์ใหม่ “Omicron” ตั้งแต่ 1 ธ.ค. ห้าม 8 ประเทศเสี่ยงเข้าไทย

People Unity News : รัฐบาลเร่งติดตามโควิดสายพันธุ์ใหม่ “Omicron” ตั้งแต่ 1 ธ.ค. เป็นต้นไป ไม่อนุญาตให้ 8 ประเทศเสี่ยงเข้าไทย

27 พ.ย.64 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกรัฐมนตรีรับทราบรายงานกรณีองค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 “Omicron” ที่พบในแอฟริกาใต้เป็นสายพันธุ์ที่อาจแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น จึงมอบหมายให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมวางมาตรการเฝ้าระวังที่เข้มงวด

ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศไม่อนุญาต 8 ประเทศที่พบสายพันธุ์ B 1.1.529 รวมถึงประเทศเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64 เป็นต้นไป

Advertising

ประยุทธ์ สั่งเร่งแก้กฎหมายฟอกเงินเอาผิด “บัญชีม้า” สกัดเส้นทางโอนเงินมิจฉาชีพออนไลน์

People Unity News : ประยุทธ์ สั่งเร่งแก้กฎหมายฟอกเงินเอาผิดเครือข่ายบัญชีม้า สกัดเส้นทางโอนเงินแก๊งค์มิจฉาชีพ

10 มี.ค. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับรายงานจาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ ว่า ขณะนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน ซึ่งได้กำหนดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีม้าหรือบัญชีทางผ่านเพื่อรับโอนเงินระหว่างเหยื่อและมิจฉาชีพ จะต้องมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน มีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ ซึ่งหากสามารถแก้ไขปัญหาบัญชีม้าได้จะสกัดเส้นทางการรับและโอนเงินในขบวนการของมิจฉาชีพ

พล.อ.ประยุทธ์  ได้มีข้อสั่งการให้เร่งรัดกระบวนการแก้ไขกฎหมายให้ได้มีผลบังคับโดยเร็ว เพื่อให้เป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามการกระทำผิด เนื่องจากขณะนี้อาชญากรรมทางออนไลน์เกิดขึ้นในหลายรูปแบบ นอกจากคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินแล้วยังมีรูปแบบอื่นๆ ซึ่งหากแก้ไขปัญหาบัญชีม้าได้ จะลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากอาชญากรรมเหล่านี้ได้มาก

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับว่านอกจากเพิ่มประสิทธิภาพของกฎหมายแล้ว หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องเร่งให้ความรู้กับประชาชนว่าการรับจ้างเปิดบัญชีม้า รวมถึงพฤติการณ์ใดๆ ที่เป็นการเข้าไปสนับสนุนเพื่อให้มีบัญชีม้านั้นเป็นความผิดตามกฎหมาย เพื่อประชาชนจะได้ไม่ทำความผิดหรือระมัดระวังตัวไม่ให้ถูกหลอกลวงให้กระทำผิด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพของกฎหมาย ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ได้ประสานการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ อาทิ ดีอีเอสได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการอายัดโดยเฉพาะ การจัดตั้งทีมเฉพาะกิจสายตรวจไซเบอร์ ประสานงานระหว่างประเทศในการขอข้อมูล IP Address และข้อมูลผู้กระทำความผิด รวมทั้งการพิจารณาจัดทำบันทึกความร่วมมือร่วมประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย อยู่ระหว่างการวางแนวทางการแจ้งเตือนประชาชนก่อนโอนเงินและมาตรการแก้ปัญหาบัญชีม้า ให้พนักงานสาขาที่รับเปิดบัญชีระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการหลอกให้เปิดบัญชีเงินฝากเพื่อเป็นบัญชีม้ามีจำนวนมากขึ้น  รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการส่งข้อมูลเพื่อแจ้งอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางออนไลน์

Advertising

Verified by ExactMetrics