วันที่ 5 พฤษภาคม 2025

ยูเนสโก ประกาศให้ “สงกรานต์ไทย” เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม รัฐบาลจัดฉลองพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) ที่ลานคนเมือง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 6 ธันวาคม 2566 เมื่อเวลา 15.00 น. ยูเนสโก ประกาศรับรอง “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นประเพณีปีใหม่ไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เรียบร้อยแล้ว

รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม จัดงานใหญ่ฉลองสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ (Songkran in Thailand, Traditional Thai New Year Festival) ในโอกาสที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO จะได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” ประเพณีปีใหม่ไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 18 ในวันที่ 6 ธันวาคม 2566 (เวลาประเทศไทยประมาณ 15.00 น.) ณ เมืองคาเซเน สาธารณรัฐบอตสวานา

นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ในวาระที่น่ายินดียิ่งของประชาชนชาวไทยนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ส่งเสริมและดำเนินงานปกป้องคุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ จึงได้กำหนดจัดงานฉลองสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก (UNESCO) ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่จะเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไทยและต่างชาติได้รับรู้อย่างกว้างขวาง และเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ “สงกรานต์” มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้เกิดการสงวนรักษา อนุรักษ์ สืบสาน ปกป้อง คุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของประเทศ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจร่วมกันให้กับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย ก่อให้เกิดการเรียนรู้และยอมรับในระบบสังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของแต่ละชนชาติ

โดยในวันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2566 เวลา 18.00 น. กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กำหนดจัดงาน ฉลองสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ (Songkran in Thailand, Traditional Thai New Year Festival) ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และวัดสุทัศนเทพวราราม จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทย ร่วมแสดงความยินดีในวาระสำคัญยิ่งของประเทศไทย ในโอกาสนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ทูตานุทูต ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานครและจังหวัด 76 จังหวัด พร้อมภาคีร่วมงาน ภายในงานจะมีพิธีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ สรงน้ำพระสงฆ์ 9 รูป และขบวนแห่ฉลองสงกรานต์ ประกอบด้วย ขบวนมหาสงกรานต์จตุรทิศแผ่นดินไทย ขบวนอันเชิญพระพุทธสิหิงค์ ขบวนตำนานนางสงกรานต์ ทั้ง 7 วัน นำโดย “แอนโทเนีย โพซิ้ว” รองอับดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 จะสวมชุด “นางมโหธรเทวี” (นางสงกรานต์ ประจำปี 2567) ตามด้วยขบวนเริงรื่นชื่นสงกรานต์ 4 ภาค ขบวนแตรวงกลองยาว และยังมีการแสดงดนตรีโดยวงสุนทราภรณ์ ในเวลา 19.00 ณ ลานคนเมือง กทม. อีกด้วย

จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนไทย ชาวต่างชาติ ได้ร่วมแสดงความยินดี และมีส่วนร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอดมรดกภูมิปัญญาประเพณีสงกรานต์ อันทรงคุณค่าของไทย ให้เกิดการสืบทอดอย่างยั่งยืน และใช้เป็นพลัง Soft power ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นภาคเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศต่อไป

Advertisement

เตือนโรคไอกรน ระบาดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้ระวังเด็กเล็ก

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 ธันวาคม 2566 รัฐบาลห่วงใยสุขภาพประชาชนโดยเฉพาะเด็ก เตือนโรคไอกรน ระบาด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไอกรน ในประเทศไทย มีจำนวนผู้ติดเชื้อโรคไอกรนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ จำนวนมาก มีผู้ป่วยยืนยันมากกว่า 100 ราย ซึ่งผู้ป่วยทุกรายเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนมาก่อน และรายงานข้อมูลยืนยันว่า มีเด็กอายุเพียง 18 วัน เสียชีวิตจากการติดเชื้อไอกรนแล้ว จำนวน 1 ราย

นายคารม กล่าวว่า ไอกรนเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายจากการไอ จาม รดกันโดยตรงผู้สัมผัสโรคที่ไม่มีภูมิคุ้มกันจะติดเชื้อและเกิดโรคเกือบทุกราย โรคนี้พบได้บ่อยในเด็ก ส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากผู้ใหญ่ในครอบครัวซึ่งมีการติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ (carrier) หรือมีอาการไม่มาก โรคไอกรนเป็นได้กับทารกตั้งแต่เดือนแรก ทั้งนี้ เนื่องจากภูมิคุ้มกันจากแม่ผ่านมายังลูกไม่ได้หรือได้น้อยมากในเด็กเล็กอาการจะรุนแรงมากและมีอัตราตายสูง ส่วนใหญ่ของผู้ที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิต เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และเป็นเด็กที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน โดยทั่วไปแล้ว โรคนี้เป็นได้ทุกอายุถ้าไม่มีภูมิคุ้มกัน แต่ในวัยหนุ่มสาว หรือผู้ใหญ่อาจไม่มีอาการหรือไม่มีอาการแบบไอกรน ส่วนใหญ่จึงไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไอกรน

“รัฐบาลห่วงใยปัญหาความปลอดภัยในชีวิต และสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผลกระทบจากโรคต่อเด็ก แนะนำให้ประชาชนการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคไอกรน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การฉีดวัคซีน แต่ถ้ามีการติดเชื้อแล้วก็ต้องรักษาตามอาการ เพราะเป็นโรคที่รักษาได้ แต่จะต้องไปพบแพทย์ให้ทันเวลา เพื่อรับการวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็วป้องกันเชื้อลงปอด“ นายคารม กล่าว

Advertisement

ทางการอิสราเอลเผย ตัวประกันคนไทยยังเหลืออีก 8 คน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 ธันวาคม 2566 อิสราเอล – อิสราเอล เผยยอดตัวประกันล่าสุดที่กลุ่มฮามาสคุมตัวอยู่เหลือ 137 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 8 คน

โฆษกรัฐบาลอิสราเอล แถลงวานนี้ว่า ตัวประกันที่อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของกลุ่มฮามาสยังเหลืออยู่ 137 คน เป็นผู้ชาย 117 คน และผู้หญิง 20 คน แบ่งเป็นตัวประกัน ชาวอิสราเอล 126 คน และชาวต่างชาติ 11 คน ในจำนวนนี้ เป็นคนไทย 8 คน เนปาล 1 คน แทนซาเนีย 1 คน และชาวเม็กซิโกเชื้อสายฝรั่งเศส 1 คน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายตั้งแต่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยยังไม่ทราบชะตากรรมอีก 7 คน

การเปิดเผยยอดตัวประกันมีขึ้นหลังข้อตกลงหยุดยิง 7 วัน ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. โดยไม่มีการต่ออายุเพิ่มอีก และยังเกิดการสู้รบกันรอบใหม่ของทั้งสองฝ่ายในฉนวนกาซา

Advertisement

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นองคมนตรี

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 พฤศจิกายน 2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นองคมนตรี

เว็บไซค์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ เรื่อง แต่งตั้งองคมนตรี

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งองคมนตรีตามประกาศ ลงวันที่ 21 ตุลาคม พุทธศักราช 2565 แล้วนั้น

บัดนี้ ทรงพระราชดำริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งองคมนตรีเพิ่มขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 11 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น องคมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน

Advertisement

“พวงเพ็ชร” สั่ง สคบ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษจับตาการซื้อขายสินค้า-บริการ ช่วงเทศกาล

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 พฤศจิกายน 2566 ทำเนียบ – “พวงเพ็ชร” สั่ง สคบ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ จับตาสินค้า-บริการ ถูกและดีอาจไม่มีจริง เหตุประชาชนจับจ่ายสูงช่วงเทศกาลปีใหม่อาจตกเป็นเหยื่อเพิ่ม

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 8/2566 ที่ประชุมได้รายงานผลการรับเรื่องร้องทุกข์และช่วยเหลือประชาชน โดยพบว่าตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา (พ.ค.-ต.ค.66) มีการร้องทุกข์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการทั้งสิ้น 3,239 เรื่อง โดยเรื่องที่ประชาชนร้องทุกข์มากที่สุด คือ การซื้อขายสินค้าออนไลน์ จำนวน 967 เรื่อง รองลงมาคือกรณีการจองตั๋วสายการบิน/โรงแรม/บัตรชมการแสดง จำนวน 413 เรื่อง และการเช่าซื้อรถยนต์ จำนวน 335 เรื่อง

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า การซื้อขายออนไลน์เป็นดาบสองคมที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน แต่อีกด้านหนึ่งยังเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการหลอกลวง สร้างความเสียหายแก่ผู้บริโภคในวงกว้าง จึงต้องมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นต้น เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง จึงขอให้ สคบ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ เพื่อดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคในคดีที่ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเร่งรัดให้ดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็ว

“เราต้องมีการปรับโครงสร้างการช่วยเหลือผู้บริโภคครั้งใหญ่ เพื่อให้ สคบ.กระจายอำนาจให้ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ดำเนินการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของพี่น้องประชาชน และเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันท่วงที และให้ความรู้ที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้ถูกมิจฉาชีพหลอก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ประชาชนมีการบริโภคสินค้าและบริการจำนวนมาก เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน การจองห้องพัก การจองทัวร์ท่องเที่ยว การซื้อกระเช้าของขวัญ และการซื้อสินค้าออนไลน์ จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลของสินค้าและบริการอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการนั้น อย่าหลงเชื่อเพราะของถูกอาจไม่มีจริง ทั้งนี้ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการ ผู้บริโภคสามารถโทรหาสายด่วน สคบ. 1166 ได้ทันที”

Advertisement

ฮามาสปล่อยตัวประกันคนไทยเพิ่มอีก 3 คน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 27 พฤศจิกายน 2566 กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันกลุ่มที่ 3 ที่ลักพาตัวมาจากอิสราเอล จำนวน 17 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 3 คน แลกเปลี่ยนกับนักโทษชาวปาเลสไตน์

กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันกลุ่มที่ 3 ที่ลักพาตัวมาจากอิสราเอล จำนวน 17 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 3 คน แลกเปลี่ยนกับนักโทษชาวปาเลสไตน์

เมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของข้อตกลงพักรบในฉนวนกาซา ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ทั้งสองฝ่ายยังคงปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงด้วยการปล่อยตัวประกันและนักโทษตามที่ตกลงกันไว้ โดยกองทัพอิสราเอลแถลงว่ากลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกันชุดที่ 3 รวม 17 คน แบ่งเป็นชาวอิสราเอล 13 คน รวมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งบางคนในนี้เป็นบุคคลสองสัญชาติ นอกจากนี้ยังปล่อยตัวแรงงานชาวไทยอีก 3 คน และชาวรัสเซีย 1 คน

ต่อมาสื่ออิสราเอลรายงานว่า ตัวประกันชาวรัสเซียถือสัญชาติอิสราเอลด้วย จึงทำให้มีตัวประกันชาวอิสราเอลได้รับการปล่อยตัวชุดที่ 3 จำนวน 14 คน ขณะที่ฝ่ายอิสราเอลปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์จากเรือนจำเพิ่ม 39 คน

กลุ่มฮามาส แถลงด้วยว่า ตัวประกันกลุ่มหลังที่ได้รับการปล่อยตัวคือแรงงานไทย 3 คน และอีกคนเป็นคนสองสัญชาติ อิสราเอล-รัสเซียนั้น ได้รับการปล่อยตัวนอกเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิงกับอิสราเอล ซึ่งก่อนหน้านี้ข่าวระบุว่าอิหร่านและตุรกีช่วยเจรจาช่วยเหลือปล่อยตัวประกันคนไทย ขณะที่คนสองสัญชาติ อิสราเอล-รัสเซีย ได้รับการปล่อยตัวตามความพยายามประสานช่วยเหลือของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย

ส่วนการพักรบสองวันแรก เมื่อวันที่ 24 และ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลแล้วรวม 26 คน แรงงานไทย 14 คน และฟิลิปปินส์ 1 คน ส่วนอิสราเอลปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์จากเรือนจำรวมแล้ว 78 คน

มีรายงานว่า กลุ่มฮามาสแถลงต้องการให้มีการขยายข้อตกลงพักรบชั่วคราวกับอิสราเอล หลังจากข้อตกลงปัจจุบันที่มีกำหนด 4 วัน จะสิ้นสุดลงในวันนี้ (27 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อพยายามเพิ่มจำนวนตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัว แหล่งข่าวบอกว่าฮามาสอยากขยายข้อตกลงพักรบออกไป 2-4 วัน และจะปล่อยตัวประกันเพิ่มอีก 20-40 คน หรือวันละ 10 คน

ในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล บอกว่าถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะมีตัวประกันได้รับอิสรภาพเพิ่ม โดยเฉพาะตัวประกันเด็กที่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ถูกฮามาสจับไป อย่างไรก็ดี หากผ่านพ้นข้อตกลงพักรบ 4 วัน และไม่มีการขยายเพิ่ม กองทัพอิสราเอลจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบในฉนวนกาซาต่อไปทันที เพื่อจุดมุ่งหมายสูงสุด คือการกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก

Advertisement

เผย “วาซาบิ” มีประสิทธิภาพช่วยความจำของผู้สูงวัย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 26 พฤศจิกายน 2566 โตเกียว – การวิจัยล่าสุดในญี่ปุ่นพบว่า วาซาบิ สมุนไพรพื้นบ้านของญี่ปุ่นและเครื่องปรุงรสยอดนิยมของอาหารประเภทซูชิ หรือ ข้าวปั้นญี่ปุ่น อาจจะมีประโยชน์ในการเพิ่มความสามารถเรื่องความจำและความสามารถในกระบวนการคิดของผู้สูงอายุ

สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า การวิจัยที่ดำเนินการร่วมกันระหว่างบริษัท คินจิรูชิ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยโทโฮคุ มุ่งเน้นในเรื่องชนิดของน้ำมันมัสตาร์ดที่เรียกว่า “เฮกซาราเฟน” (hexaraphane) ที่พบเป็นจำนวนเล็กน้อยในรากและเหง้าของวาซาบิ การวิจัยได้เข้าไปดูว่า เฮกซาราเฟน ซึ่งทราบมาก่อนหน้านี้ว่ามีผลในการต้านอนุมูลอิสระ และมีผลเรื่องต้านการอักเสบในร่างกาย มีผลทางบวกในด้านกระบวนการคิดของผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปหรือไม่

ในการทดสอบ นักวิจัยได้แบ่งผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีที่มีอายุ 60-80 ปี จำนวน 72 คน ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกรับประทาน เฮกซาราเฟน เป็นเสริมอาหารวันละ 0.8 มิลลิกรัม หรือ เทียบเท่ากับเหง้าวาซาบิ 5 กรัม เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งรับประทานยาหลอก ผลการทดสอบเรื่องกระบวนการคิดแสดงให้เห็นว่า กลุ่มที่รับประทานเฮกซาราเฟนเสริมอาหาร มีความทรงจำเป็นส่วน ๆ และความทรงจำในการทำงานปรับปรุงดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับเฮกซาราเฟน การปรับปรุงด้านกระบวนการคิดมีหลักฐานชัดเจนในด้านของความสามารถในการกระบวนการสนทนาแบบสั้น ๆ การคิดเลขแบบง่าย ๆ และจับคู่ชื่อกับใบหน้า

ผลการศึกษานี้ตีพิมพ์เผยแพร่ในวันที่ 30 ตุลาคม ในวารสาร “นูเทรียนส์” (Nutrients) ของยุโรปฉบับออนไลน์

เคนจิรูชิ กล่าวว่า ทางบริษัทฯ กำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการนำการค้นพบนี้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านความจำ

Advertisement

ก.ต่างประเทศ เผย ฮามาสปล่อยตัวประกันคนไทยกลุ่มแรก 10 คนแล้ว คาดเหลืออีก 20 คน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 25 พฤศจิกายน 2566 ก.ต่างประเทศ ยืนยันคนไทยกลุ่มแรกที่ฮามาสปล่อยตัว มีทั้งหมด 10 คน ในจำนวนนี้มี 4 คนที่ทางการอิสราเอลไม่เคยแจ้งมาก่อน ทั้งหมดอยู่โรงพยาบาล แพทย์อิสราเอลดูแลเต็มที่

ก.ต่างประเทศ แจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปล่อยตัวประกันชาวไทยชุดแรกว่า วานนี้ (24 พ.ย.66) อุปทูตและเจ้าหน้าที่ สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางไปเยี่ยมกลุ่มคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวที่ รพ. Shamir Medical Center และยืนยันว่ามีกลุ่มคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวทั้งสิ้นจำนวน 10 ราย (ไม่ใช่ 12 รายตามที่เป็นข่าวแต่แรก) โดยมีรายชื่อ ดังนี้

1) นางสาวณัฐฐาวรี มูลกัน

2) นายสันติ บุญพร้อม

3) นายบุญถม พันธ์ฆ้อง

4) นายมงคล ผจวบบุญ

5) นายวิทูรย์ ภูมี

6) นายวิชัย กาละปัตย์

7) นายบัญชา กองมณี

8) นายบุดดี แสงบุญ

9) นายอุทัย ทุ่นศรี

10) นายอุทัย แสงนวล

โดยระหว่างการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ สอท. ได้ให้ความช่วยเหลือด้านการแปลภาษา การดูแลขั้นพื้นฐาน และทยอยแจ้งญาติที่ประเทศไทยแล้ว ในเบื้องต้นจะอยู่โรงพยาบาลเป็นเวลา 48 ชม. ซึ่งแพทย์อิสราเอลจะดูแลอย่างเต็มที่ โดยจะจัดคณะทางการแพทย์ 6 ชุด ดูแลผู้ได้รับการปล่อยตัวทั้ง 10 คน และโรงพยาบาลจะจัดนักจิตวิทยาที่พูดภาษาไทยเพื่อให้ได้พูดคุย ทั้งนี้ทุกคนจะได้รับสิทธิประโยชน์ในฐานะเหยื่อของการก่อการร้าย ตามกฎหมายอิสราเอล ด้านรัฐบาลไทยจะดำเนินการในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อรับพี่น้องคนไทยทั้ง 10 คน กลับสู่ประเทศไทยและครอบครัวต่อไป

จากรายชื่อคนไทยกลุ่มแรกที่ได้รับการปล่อยตัวทั้ง 10 รายดังกล่าว มี 4 รายที่ทางการอิสราเอลไม่เคยแจ้งยืนยันมาก่อน ทำให้ขณะนี้ ยังคาดว่ามีผู้ถูกควบคุมตัวชาวไทยอีก 20 ราย จากจำนวนเดิม 26 รายที่เคยได้รับการยืนยันจากฝ่ายอิสราเอลแล้ว และรัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยกลุ่มนี้ต่อไป

รัฐบาลไทยขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและที่ทางการไทยได้ขอความช่วยเหลือสนับสนุน อาทิ รัฐบาลกาตาร์ อิสราเอล อียิปต์ อิหร่าน มาเลเซีย และ ICRC รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจาทุกฝ่ายอีกครั้ง ที่ได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการผลักดันการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยจนได้รับการปล่อยตัวชุดแรก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตัวประกันที่เหลือทั้งหมดจะได้รับการดูแลและปล่อยตัวอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด

Advertisement

นายกฯ โพสต์ข่าวดี ตัวประกันคนไทย 12 คน ถูกฮามาสปล่อยตัวออกมาแล้ว

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 24 พฤศจิกายน 2566 ด่วน!! นายกฯ โพสต์ข่าวดี ตัวประกันคนไทย 12 คน ถูกฮามาสปล่อยตัวออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ทูตฯ กำลังไปรับ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า ได้รับการยืนยันจากฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงต่างประเทศ ว่ามีตัวประกันชาวไทย 12 คน ได้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่สถานทูตกำลังไปรับตัว อีก 1 ชั่วโมง น่าจะทราบชื่อและรายละเอียดต่างๆ ครับ กรุณาคอยติดตาม

Advertisement

“อรุณ บุญชม” ได้รับเลือกเป็นจุฬาราชมนตรีคนที่ 19

People Unity News : 22 พฤศจิกายน 2566 กรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ มีมติเลือก “อรุณ บุญชม” เป็นจุฬาราชมนตรีคนที่ 19 ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น

ที่อาคารหอประชุมศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ เขตหนองจอก กรุงเทพฯ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมสรรหาและให้ความเห็นชอบผู้ที่จะดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรี ด้วยนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีคนที่ 18 ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 66

โดยกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทุกจังหวัดได้ร่วมประชุมหารือและเสนอรายชื่อ มีผู้ได้รับการเสนอชื่อ 3 ท่าน ประกอบด้วย หมายเลข 1 นายประสาน ศรีเจริญ รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี หมายเลข 2 นายอรุณ บุญชม ประธานกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร หมายเลข 3 นายวิสุทธิ์ บินล่าเต๊ะ อิหม่ามประจำมัสยิดบ้านเหนือ จังหวัดสงขลา

ผลการเห็นชอบในที่ประชุมได้เลือกนายอรุณ ด้วยคะแนน 471 คะแนน ส่วนนายประสาน ได้ 129 คะแนน และนายวิสุทธิ์ ได้ 115 คะแนน

หลังจากนี้ กระทรวงมหาดไทยจะได้นำเสนอชื่อนายอรุณ ต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นจุฬาราชมนตรีคนที่ 19 ต่อไป

Advertisement

Verified by ExactMetrics