วันที่ 10 พฤษภาคม 2024

“ธนาธร”ร่วมรณรงค์เลิก”เกณฑ์ทหาร”กรุงเก่า “นศ.- ปชช.”ขานรับ “ปฏิรูปกองทัพ”ให้ทันสมัย

People Unity News : “อนาคตใหม่” บุก “อยุธยา” รณรงค์ยกเลิก “เกณฑ์ทหาร” “ธนาธร” ปลุกเดินหน้าต่อแม้ไม่ได้เข้าสภา ลั่นทำงานอย่างแข็งขันให้ ปชช.เห็นถึงความตั้งใจ

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายธีรัจชัย พันธุมาศ และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยทีมงานพรรคอนาคตใหม่ สาขาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางรณรงค์ยกเลิกการณ์เกณฑ์ทหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่อยู่ใน ร่าง พ.ร.บ.รับราชการทหาร ที่พรรคอนาคตใหม่ได้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมงานครบรอบ 1 ปี พรรคอนาคตใหม่ สาขาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 11.30 น. นายธีรัจชัย นำทีมงานพรรคอนาคตใหม่รณรงค์ยกเลิกเกณฑ์ทหาร บริเวณตลาดภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา โดยในระหว่างการเดินรณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหารในช่วงสายนี้ มีประชาชนที่เดินตลาดให้ความสนใจและมีการตอบรับเป็นอย่างดี ประชาชนส่วนใหญ่ที่ร่วมพูดคุยในระหว่างการเดินรณรงค์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็นด้วยกับนโยบบายนี้ เพราะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของพลทหาร

“ธนาธร” ปลุกเดินทางต่อ-แม้ไม่ได้เข้าสภา

เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานพรรคอนาคตใหม่ สาขาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธนาธร ร่วมงานครบรอบ 1 ปีสำนักงานพรรค กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคอนาคตใหม่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางไปสู่สังคมที่คนทุกคนเท่าเทียมกัน สู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตย ดังนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสภาหรือนอกสภาคนทุกคนล้วนมีบทบาท ผู้ที่เป็น ส.ส. ก็ทำหน้าที่ไปในสภา ในฐานะตัวแทนของประชาชน ส่วนตนหรือผู้ที่อยู่นอกสภา ก็ยังช่วยกันรณรงค์ ช่วยกันสร้างพรรคการเมืองให้เข้มแข็งได้ ทุกคนมีคุณค่าในการเดินทางเท่ากัน

“ปากกาอยู่ที่เขา ไม่ได้อยู่ที่เรา แต่สิ่งที่เรามีคือการรณรงค์และเดินหน้าพูดคุยกับมวลชน ให้ประชาชนเข้าใจถึงความตั้งใจที่เรามี ถึงความปรารถนาดีที่พวกเรามีต่อประชาชน ที่เราเชื่อว่าประชาธิปไตยไม่ใช่ทางเลือกของประเทศ แต่เป็นทางออกทางเดียวที่เหลืออยู่ ก่อนที่ระเบิดเวลาของรัฐธรรมนูญ 2560 จะระเบิดขึ้น ก่อนที่ความตึงเครียดทางสังคมจะระเบิดเกิดขึ้นเป็นความรุนแรง” ธนาธร กล่าว

นศ.- ปชช.ขานรับ “ปฏิรูปกองทัพ” ให้ทันสมัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากกิจกรรมครบรอบ 1 ปีสำนักงานพรรคอนาคตใหม่สาขาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว ยังเป็นการรำลึกถึงนายทนงศักดิ์ วันอยู่ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา เขต 4 ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุก่อนวัยอันควร โดยนายธนาธร ขอให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม ยืนสงบนิ่งเพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่นายทนงศักดิ์

ช่วงเย็นนายธนาธรและทีมงานได้ร่วมรณรงค์ต่อที่บริเวณตลาดแกรนด์ไนท์พลาซ่า เดินพบปะประชาชนรณรงค์ยกเลิกเกณฑ์ทหาร โดยนักศึกษา ประชาชนในพื้นที่ให้การต้องรับเป็นอย่างดีเป็นอย่างดี โดยนายธนาธรเป็นผู้แจกเอกสารพร้อมอธิบายเนื้อหาสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ด้วยตนเอง โดยขอให้สังคมร่วมกันขับเคลื่อนเรื่องนี้ จนไปสู่การผ่านร่างในสภาฯ เพื่อให้ระบบการเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นการสมัครใจ และเป็นส่วนหนึ่งในการปฎิรูปกองทัพให้มีความทันสมัย และมีความเป็นมืออาชีพ

CEO”เซ็นทรัล-โตชิบา”ชี้ยุคดิจิตัลภาคการค้าต้องปรับตัวและคิดนอกกรอบ

People Unity News : ทีมเศรษฐกิจ ปชป. จัดเสวนา “การบริหารจัดการยุคดิจิทัล ทำได้ไว ทำได้จริง ทำอย่างไร” ได้กูรูตัวจริง “ทศ จิราธิวัฒน์ ” CEOกลุ่มเซ็นทรัล และ”กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” จากโตชิบา เห็นตรงกันชี้ดิจิตัลสำคัญ ภาคการค้าต้องปรับตัวและคิดนอกกรอบ

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ จัดกิจกรรมเสวนา “การบริหารจัดการยุคดิจิทัล ทำได้ไว ทำได้จริง ทำอย่างไร?” โดยได้รับเกียรติจากนายทศ จิราธิวัฒน์ CEO กลุ่มเซ็นทรัล และนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทวงท่องเที่ยวกีฬา มาร่วมแบ่งปันความรู้ มุมมอง ด้วยแนวคิดนอกกรอบ UN-Frame ณ หอศิลป์ฯ กรุงเทพ ชั้น 1 ห้องอเนกประสงค์ โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก โดยนายปริญญ์ รับหน้าที่เป็นผู้นําการสนทนาอย่างเป็นกันเอง

นายทศ กล่าวว่า โลกมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะองค์กรใหญ่อย่างกลุ่มเซ็นทรัลถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ซึ่งต้องคิดและวางแผนกันว่าจะต้องปรับตัวอย่างไร โดยเฉพาะ ห้างสรรพสินค้าเมื่อถึงจุดหนึ่งที่เริ่มอิ่มตัว จึงต้องปรับโมเดลธุรกิจเกิดเป็น เซ็นทรัล รีเทล หรือ CRC การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นธุรกิจต้องปรับตัวและต้องคิดใหม่ทำใหม่ เปลี่ยนจากการตั้งรับเป็นการทำงานเชิงรุก โดยในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลได้มีการปรับองค์กรใหม่หมด มีทีมงานที่ทำงานด้านเทคโนโลยีโดยตรงถึง 600 กว่าคน เพราะเทคโนโลยีจะเป็นตัวขับเคลื่อนในภาคธุรกิจแทบทั้งหมด

นายทศ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับตัวเลขในการดำเนินธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ผ่านออนไลน์ในปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท และตั้งเป้าเติบโตในปี 2563 อยู่ที่ 20,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2 เท่าของปีนี้ ปัจจุบันธุรกิจออนไลน์ของประเทศไทยคิดเป็น 2-4% จากมูลค่าธุรกิจโดยรวมทั้งหมด ซึ่งในอนาคตจะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ Cyber Trade กลายเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงมาก และมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย

ทางด้านการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ของโลก ปัจจุบันนี้อันดับ 1 คือ อเมซอน อันดับ 2 คือ อาลีบาบา และอันดับ 3 คือ เจดี ดอทดอม (JD.com) บริษัทค้าปลีกออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ดังนั้น การประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการ ระหว่าง บริษัท เซ็นทรัล กรุ๊ป จำกัด กับ เจดี ดอทคอม ก็เพื่อรองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอีคอมเมิร์ซ ด้วยการการันตีแบรนด์สินค้าของแท้ส่งตรงถึงผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ พร้อมระบบโลจิสติกส์ครบวงจร กลุ่มเซ็นทรัลยังได้ลงทุนใน Grab เพื่อพาสินค้าไปใกล้ตัวประชาชนให้สะดวกขึ้น!

จากการทำงานเชิงรุกของตลาดออนไลน์ภายในประเทศ วันนี้กลุ่มเซ็นทรัลได้ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะที่เวียดนาม ที่กลุ่มเซ็นทรัลถือเป็นผู้ลงทุนต่างชาติอันดับ 1 ที่ไปลงทุนในขณะนี้ ปัจจุบันเวียดนามมีความเจริญขึ้นเป็นอย่างมาก เป็นประเทศที่น่าสนใจ เนื่องจากตลาดในเวียดนามยังคงขยายตัวได้อีกมาก ดังนั้นจึงเป็นจังหวะและโอกาสการลงทุนของนักธุรกิจไทยในการที่จะไปทำธุรกิจที่นั่นให้เติบโตขึ้น

นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า หลังจากการทำงานการเมืองอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ตอนนี้ดิฉันได้กลับไปเป็นกรรมการที่บริษัทโตชิบา ซึ่งทำให้เราต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว เพราะตลาดเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากเพียงแค่ระยะเวลาไม่กี่ปีมานี้ ยุคของดิจิตอลซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างมากในปัจจุบัน ในส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อก่อนเราแข่งกับโมเดิร์นเทรด แต่ตอนนี้ต้องมาแข่งขันกันในออนไลน์ เราคงจะต้องไปเน้นไปเรื่องของนวัตกรรม ดีไซน์ เพื่อสร้างจุดเด่นและความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความดึงดูดใจให้กับผู้ซื้อ เราต้องหาจุดขายให้ตัวเอง เพราะคุณไม่สามารถแข่งขันเพียงแค่เรื่องราคาอย่างเดียว

นางกอบกาญจน์ ยังกล่าวต่อว่าวิกฤติกับปัญหาคือเรื่องปรกติ ดังนั้นต้องสร้างมูลค่าในตัวเองมากขึ้น ต้องทำงานหนัก และเป็นการทำงานหนักแบบมีทิศทาง ไม่มีอะไรสู้ความขยันได้ การเรียนรู้ เข้าใจ และนำมาปรับใช้ ผสมผสานกับการใช้ “ใจ”ในการขับเคลื่อนองค์กรและสังคมเป็นสิ่งสำคัญมากในยุคใหม่นี้

นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญที่น่าสนใจอีกหนึ่งท่านขึ้นพูดในงานเสวนาอย่าง นายสมศักดิ์ บุญคำ หนึ่งในทีมเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ วิศวกรหนุ่มจากร้อยเอ็ดที่มีหัวใจต้องการพัฒนาสร้างโมเดลการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน โดยแนวคิดที่นำไปสู่การปฏิบัติจริงคือสร้างรูปแบบการท่องเที่ยวโดยให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการออกแบบทริปนำเที่ยวเองภายในแต่ละชุมชน เป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิต ซึ่งเป็นนิยามของกิจการธุรกิจท่องเที่ยวแนวใหม่ ภายใต้ชื่อ Local Alike

“แม้ผมอายุเพียงแค่ 30 ปีเศษ แต่เลือกที่จะมาทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพราะมองว่าการท่องเที่ยวเป็นโอกาสหนึ่งของเมืองไทย รายได้แต่ละปีมีมหาศาล จีดีพีอยู่อันดับ 3 ของประเทศ การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนกำลังเป็นกระแสโลก เราจำเป็นต้องเปลี่ยนความคิดจากแนวเดิม ๆ คือ ปล่อยให้นายทุนเข้ามาลงทุนแบบไร้ทิศทาง แต่ผลสุดท้ายที่ได้คือผลกำไรก้อนโตที่เข้ากระเป๋านายทุนเหล่านั้น แล้วประเทศชาติได้อะไร ประชาชนคนไทยได้อะไร คนไทยจึงต้องลุกขึ้นมาช่วยกัน ชุมชนต้องทำเอง และผมเชื่อว่าคนไทยมีศักยภาพที่จะทำได้” นายสมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้นางกอบกาญจน์ ได้กล่าวเสริมในช่วงท้ายว่าจากประสบการณ์ตรงที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวมา พบว่านักท่องเที่ยวจีนมีเงินต้องการมาเที่ยวแบบ Traveler หรือนักค้นพบ ไม่ใช่มาแบบ Tourist หรือ มาท่องเที่ยวแบบคนส่วนใหญ่ที่มา ดังนั้น ประเทศไทยจึงยังเป็นยุทธศาสตร์ที่น่าสนใจในด้านการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวจีน

“นิพนธ์”ชูกระบี่ต้นแบบรักษาความปลอดภัยทางทะเล

People Unity News : “นิพนธ์”ลงพื้นที่ท่องเที่ยวมอบนโยบายเตรียมความพร้อมการช่วยเหลืออุบัติภัยทางทะเล ทางถนนและช่วงไฮซีซันแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านอุบัติภัยทางทะเล เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 เวลา 16.30 น. นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปมอบนโยบายให้กับหน่วยงาน และอาสาสมัครด้านการช่วยเหลืออุบัติภัยทางทะเล ทางถนน และช่วงไฮซีซัน ของจังหวัดกระบี่ ณ บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ โดยมี พันตำรวจโท หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หน่วยอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเข้าร่วมรับมอบนโยบาย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่กล่าวรายงานถึงการเตรียมความพร้อม ด้านการป้องกันและช่วยเหลือด้านอุบัติภัยทางทะเล

นายนิพนธ์ กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และมอบนโยบายมนการที่จะให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิยัติงานมีความพร้อม นั่นคือการอบรมให้ความรู้ ดูแลและแก้ไข ทั้งในเรื่องของวินัย และภัยสาธารณะต่างๆ โดยเฉพาะเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับคนที่มาเที่ยวกระบี่ ไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างชาติ และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอีกทางหนึ่ง ผู้ปฏิบัติงานทุกคนจึงต้องมีความพร้อมอยู่เสมอ ในการที่จะดูแล และคอยข่วยเหลือนักท่องเที่ยว

ต่อจากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชมการสาธิตการซ้อม ให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเล ในกรณีเกิดอุบัติภัยทางทะเล บริเวณหน้าหาดที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ ตำบลอ่าวนาง จังหวัดกระบี่

“ธณิกานต์” ร่วมเครือข่าย Trash Lucky ดันโมเดล บริหารจัดการขยะ

People Unity News : “ธณิกานต์” ส.ส.กทม. เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคพลังประชารัฐ ร่วมเครือข่าย Trash Lucky ดันโมเดล บริหารจัดการขยะ

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมเครือข่ายจัดการขยะ Trash Lucky ผุดไอเดียในการสร้างแรงบันดาลใจ ให้ทุกคนได้ร่วมกันรีไซเคิลขยะได้ง่ายและสนุกขึ้น โดยการนำขยะรีไซเคิล ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำพลาสติก และ กระป๋องอะลูมิเนียม มาแลกเป็นตั๋วลุ้นรางวัล ซึ่งในแต่ละเดือนมีรางวัลใหญ่เป็นทองคำและบัตรกำนัลเงินสดมูลค่ารวมมากกว่า 10,000 บาทต่อเดือน

น.ส.ธณิกานต์ กล่าวว่า โครงการนี้เป้าหมายหลัก เพื่อให้เกิดสังคมปลอดขยะ โดยเฉพาะให้เกิดการนำขยะจากครัวเรือนเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ 100% ดังนั้นส่วนสำคัญจึงอยู่ที่การให้ความรู้ในการแยกขยะ เช่น วัสดุอะไรที่ย่อยสลายยาก และควรหลีกเลี่ยง พลาสติกมีกี่ประเภท เวลาแยกให้ทำความสะอาดและเอาฉลากออกเพราะเป็นพลาสติกคนละประเภท เป็นต้น โดยทีมงาน Trash Lucky จะลงพื้นที่เข้าให้ความรู้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการแยกขยะรีไซเคิล นำสู่การร่วมกิจกรรมส่งขยะลุ้นทอง และปลูกจิตสำนึกในการลดการสร้างขยะ เพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน UNSDGs ด้านสิ่งแวดล้อม

โดยชุมชนในเขตดุสิต ที่นำร่องเข้าร่วมโครงการแลกขยะลุ้นทองแล้ว คือ ชุมชนตรอกต้นโพธิ์ ชุมชนแฟลตสิริสาสน์ ชุมชนองค์กรทอผ้า และเตรียมขยายไปยังชุมชนอื่นๆต่อไป

“วีระ”โชว์หลักฐาน “ปารีณา” รุกป่า จ่อโดนปมฟอกเงินเพิ่ม

People Unity News : “วีระ สมความคิด” เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น โชว์หลักฐาน “ปารีณา” รุกป่า จ่อโดนปมฟอกเงินเพิ่ม

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) ได้เดินทางนำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ แก่ ร.ต.อ.กัมปนาท เจริญศรี รอง สว. (สอบสวน) สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี หลังได้ทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี รวมกว่า 1,700 ไร่

นายวีระ กล่าวว่า จากข้อมูลทราบว่าฟาร์มของ น.ส.ปารีณา มีการขออนุญาตประกอบกิจการทำฟาร์มเลี้ยงไก่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 แล้วต้องต่ออายุทุก ๆ 3 ปี ส่วน นายทวี ไกรคุปต์ ให้ข้อมูลกับทางรัฐสภาว่า ครอบครัวได้ครอบครองที่ดินแปลงนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 และข้อมูลที่มีการนำมาเปิดเผยคือข้อมูลจากปี 2553 -2556 ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นชัดว่า มีการเข้าบุกรุกครอบครองเพื่อทำกิจการ ทำประโยชน์ในที่ป่าสงวนแห่งชาติ ในเอกสารที่นำมาวันนี้ มีรายละเอียดหลักฐานทั้งหมด

นอกจากนี้ยังมีหลักฐานของ ป.ป.ช. เป็นเอกสารเกี่ยวกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ตั้งแต่ลำดับที่ 19 เป็นต้นไป หมู่ 6 ต.รางบัวทั้งหมดเลย เป็นที่ดินจำนวน 1,700 ไร่ ที่มีมูลค่าเป็นเงิน 200,000 บาท ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ระหว่างราคาที่ดินกับมูลค่าจำนวนเงิน ซึ่งคงต้องเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนที่จะเป็นผู้ดำเนินการสืบสวนเรื่องนี้ต่อ

เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีเกี่ยวข้องกับกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเสร็จแล้ว และจะรวบรวมเอกสาร ยื่นต่อ ปปง. เป็นไปตามกฎหมาย ตามระเบียบสำนักนายก เพราะเข้ามูลฐานความผิดที่ 15 ของกฎหมายฟอกเงิน เกี่ยวกับการบุกรุกครองครองที่ดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติ ต้องไปตรวจสอบร่วมกันระหว่างพนักงานสอบสวน กับ ปปง. ต้องประสานงานกัน อาจจะต้องนำไปสู่การยึดทรัพย์ต่อไป

“ศรีสุวรรณ”ร้องเลขาฯสภาฯเอาผิด”อนาคตใหม่”ขีดเขียนประตูกระจกรัฐสภา

People Unity News :  “ศรีสุวรรณ” ร้องเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เอาผิด “ธนาธร” และพวก เขียนกระจกหน้าห้องรับรอง ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ในสภา ชี้ทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ เรื่องขอเรียกร้องให้เลขาธิการสภาฯ เอาผิดพลพรรคอนาคตใหม่ ที่ “มือบอน” ขีดเขียนประตูกระจกรัฐสภา ทำให้ทรัพย์สินของราชการเสียหาย

โดยระบุว่า ตามที่ปรากฏภาพข่าวในสื่อโซเชียลเป็นการทั่วไป กรณีที่พลพรรคอนาคตใหม่ต่างไปช่วยกันขีดเขียนข้อความหลากหลายความคิดเห็นในเชิงการให้กำลังใจนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพความเป็นส.ส. เนื่องจากฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ม.98 (3) ประกอบ ม.101(6) กรณีมีการถือครองหุ้นสื่อมวลชนของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ในขณะที่ไปสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. เมื่อวันที่ 6 ก.พ.62 ด้วยคะแนนเสียง 7 : 2 ณ บริเวณประตูกระจกทางเข้าห้องพักของส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ในอาคารรัฐสภานั้น

การกระทำดังกล่าวอาจถือได้ว่าเป็นการเจตนาที่จะทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา ม.360 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้นยังอาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.12 ของ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาทอีกด้วย

“ประตูกระจกดังกล่าวถือเป็นเป็นส่วนหนึ่งของรัฐสภา ซึ่งเป็นอาคารสถานที่ราชการมีเลขาธิการสภาฯเป็นผู้ควบคุม ดูแล ตามที่กฎหมายบัญญัติ ดังนั้นเมื่อมีสมาชิกพรรคหรือ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเยี่ยงนั้น จะทำเพิกเฉยไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ เพราะกรณีที่เกิดขึ้นปรากฏเผยแพร่กันมากมายในสื่อโซเชียลมีเดียเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากของสาธารณะชนถึงความไม่เหมาะสมของพฤติการณ์ดังกล่าว และถือว่าเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงขอเรียกร้องให้เลขาธิการสภาฯปฏิบัติหน้าที่ในการเอาผิดผู้ที่กระทำการฝ่าฝืนดังกล่าวเสียโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีต่อสังคมต่อไป” นายศรีสุวรรณ ระบุ

“ถวิล”โพสต์เตือน”เสรีพิศุทธ์” ระวังหลุดเก้าอี้เหมือน”ยิงลักษณ์”

People Unity News :  “ถวิล”โพสต์เตือน”เสรีพิศุทธ์” ยกบทเรียน”ยิงลักษณ์”หลุดเก้าอี้นายกฯเทียบ”มติโดเรมอน”

วันที่ 23 พ.ย.2562 นายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) โพสต์โพสต์บุ๊กส่วนตัวความว่า มติโดเรม่อน สองสามวันมานี้ มีเรื่องเกิดขึ้นในกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีการเอาเรื่องที่ยังไม่เกิด มาทำเป็นมติ และหนังสือลงนามแจ้งล่วงหน้าเป็นตุเป็นตะ เหมือนว่าเกิดขึ้นแล้ว …. ใช่ครับผมกำลังพูดถึงหนังสือ ที่ประธานกรรมาธิการคณะนี้ ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาประธาน แล้วมีผู้นำออกมาแสดงตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย 62 โดยหนังสืออ้างมติเห็นชอบของที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ วันที่ 20 พ.ย 62 ซึ่งยังมาไม่ถึง

เรื่องนี้ แปลกดี และเป็นข่าวเกรียวกราว. ผู้ที่เกี่ยวก็ออกมาให้ข้อมูล. ตลอดจนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางแล้ว แม้จะรู้สึกแหม่งๆ แต่ผมก็ขอเว้นไม่พูดถึงนะครับ แต่อยากจะพูดเรื่องคล้ายๆกันนี้ ที่เคยเกิดขึ้นกับผมมาแล้ว ซึ่งซับซ้อน และต่อยอดยิ่งกว่านี้… โดยเรื่องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญมาเล่าให้ฟัง ประกอบกรณีที่เกิดขึ้น ครับ

เรื่องนี้ ต้องย้อนไปถึงปี 2554 เมื่อเดือนกันยายน ปีนั้น ที่ผมถูกย้ายโดยไม่เป็นธรรม. และผมไปฟ้องศาลปกครอง จนชนะได้ตำแหน่งคืน และต่อมาท่านสมาชิกวุฒิสภาหลายท่านในขณะนั้น ได้ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย จนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีผู้ย้ายผม ต้องพ้นตำแหน่ง พร้อมรัฐมนตรีทั้งคณะที่มีมติ เรื่องทราบทั่วกันแล้ว

ในเอกสารประกอบการย้ายผมครั้งนั้น. เริ่มจากเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2554 เลขาธิการนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ทำหนังสือ 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งมีไปถึงรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ หน่วยงานต้นสังกัดผม อีกฉบับมีไปถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หน่วยที่จะรับโอน แม้จะรีบเร่งทำกันในวันอาทิตย์ แต่ก็เป็นไปตามวิธีการที่ราชการปฏิบัติกันอยู่ครับ แต่ที่ประหลาดจนผมต้องนำมาเล่าวันนี้อีกครั้ง ก็เพราะหนังสือที่ลงวันที่ 4 กันยายน วันเดียวกันนี้ ที่มีไปถึงรองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเห็นชอบไม่ขัดข้องให้โอนผมไปนั้น ดันไปแจ้งว่ารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นชอบพร้อมรับโอน

ทั้งๆที่ต่อมาปรากฏว่ารัฐมนตรี เพิ่งลงนามเห็นชอบเอาวันที่ 5 กันยายน รุ่งขึ้นอีกวัน ซึ่งในขั้นการพิจารณาของศาลปกครองนั้น เห็นว่าเรื่องนี้เป็นการปกปิด ข้อเท็จจริง หรือให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ เพื่อประกอบการพิจารณา ไปยังรองนายกฯ ด้วยซ้ำ

หนังสือฉบับที่มีถึงรองนายกรัฐมนตรี ที่อ้างอิงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นฉบับนี้ ไปปรากฎอีกครั้ง เมื่อท่านสมาชิกวฺฒิสภาไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยสถานภาพความเป็นนายกรัฐมนตรี ของนางสาวยิ่งลักษณ์ฯ ดังที่ผมกล่าวแล้ว ในชั้นนั้น ผมไปเป็นพยาน และมีการใช้หนังสือฉบับนี้อีก แต่ที่แปลกก็คือวันที่เคยลงไว้เดิม 4 กันยายน กลายเป็นวันที่ 5 กันยายน เสียแล้ว

ในการไต่สวนวันนั้น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่ง ให้ผมดูสำเนาหนังสือ 2 ฉบับ ทั้งสองฉบับเป็นหนังสือสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีถึงรองนายกรัฐมนตรีเหมือนกัน เลขที่หนังสือเดียวกัน เนื้อหาและข้อความในหนังสือก็ตรงกันหมดทุกอย่าง แต่ทั้ง 2 ฉบับ ลงวันที่ไม่ตรงกัน ฉบับที่ผมนำส่งศาลนั้นลงวันที่ 4 กันยายน 2554 ส่วนฉบับที่ศาลรัฐธรรมนูญ เรียกจากนายกรัฐมนตรีนั้น ลงวันที่ 5 กันยายน 2554

ผมได้เรียนท่านไปว่า เมือหนังสือทั้งสองฉบับ ออกมาจากที่เดียวกัน เลขที่ตรงกัน และข้อความเหมือนกัน เเต่ลงวันที่ต่างกันเช่นนั้น แสดงว่าต้องมีฉบับหนึ่งปลอม หรือถูกแก้ไข ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าฉบับใดปลอมฉบับใดจริง แต่ฉบับที่ผมนำส่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น ผมได้รับมาตั้งแต่หลังมืคำ

สั่งโอนย้ายผม เมื่อเดือนกันยายน 2554 ซึ่งผมก็ได้ใช้หนังสือฉบับลงวันที่ 4 กันยายน 2554 นี้ ส่งให้ กพค.และศาลปกครองเป็นพยานเอกสารมาตลอด

ข้อสังเกตเรื่งนี้ก็คือ ถ้าหนังสือลงวันที่ 5 กันยายน ตามฉบับที่เรียกจากนายกรัฐมนตรีภายหลัง. ข้อความในหนังสือที่อ้างว่ารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี. เห็นชอบ( 5 กันยายน ) ก็จะสอดคล้อง ต้องกันพอดี แต่ถ้าเป็นวันที่ 4 กันยายน ตามที่ผมใช้ส่งให้ทั้ง กพค. ศาลปกครอง มาแต่ต้น จนถึงศาลรัฐธรรมนูญ ข้อความที่อ้างว่ารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นขอบ ก็เป็นเท็จ เพราะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเพิ่งมาเกษียนเห็นชอบ 5 กันยายน

เรื่องการปลอมแปลงแก้ไข และใช้เอกสารปลอมในคดีผมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญท่านให้บันทึกไว้นะครับ ที่มาเล่าให้ฟังนี่ ก็อยากจะบอกว่า การกระทำแบบสะเพร่า น่าหัวเราะนี้ มันเคยมีมาแล้วและเคยมีถึงขั้นพยายามไปแก้ไขกลบเกลื่อนภายหลัง แต่วิสัยคนทำผิด คิดไม่ซื่อ มันก็ทิ้งร่องรอยให้ผู้คนจับได้เสมอ เหมือนกรณีคดีผมไงครับ

“สนธิรัตน์”ปลื้มประชาชนชูยืนหนึ่งมือบริหาร

People Unity News :  “สนธิรัตน์”ปลื้มประชาชนชูยืนหนึ่งมือบริหาร มั่นใจ “พปชร.”พร้อมรับมือเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงผลการสำรวจความคิดเห็นซุปเปอร์โพลที่ยกให้เป็นนักบริหารและเชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ ว่า ขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความเชื่อมั่นตนในการร่วมรัฐบาลพลังประชารัฐบริหารประเทศ โดยในส่วนของกระทรวงพลังงานก็จะยังมีแผนการยกระดับความมั่นคงทางพลังงานตามแนวนโยบาย พลังงานเพื่อทุกคน (energy for all) ต่อไป ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในการบริหารการะทรวงพลังงานยุคตนนั้น ได้ให้ความสำคัญกับภาคประชาชนยิ่งกว่ารัฐบาลที่ผ่านๆมา มีการเปิดเวทีรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน โดยมุ่งให้เกิดการแก้ปัญหาและผลักดันให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงพลังงานอย่างเป็นธรรมมากที่สุด โดยการประชุมคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม ครั้งที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานในฐานะเจ้าภาพก็รับฟังเสียงสะท้อนข้อเสนอหลายข้อจากภาคประชาชน เพื่อนำมาพิจารณาศึกษารายละเอียดและประเมินความเป็นไปได้ต่อไป

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานก็ยังคำนึงถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมด้วย เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคม ด้วยการผลักดัน B10 ให้เป็นน้ำมันเกรดมาตรฐาน โดยในปี 2563 ที่จะเริ่มรณรงค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงาน ด้วยการปรับให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันดีเซล B10 แทน B7 ซึ่งนอกจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมลดสาเหตุหนึ่งของค่าฝุ่น pm 2.5 แล้ว ยังสามารถแก้ปัญหาเชิงบูรณาการ สามารถดูดซับน้ำปาล์มในตลาดที่คงค้างออกมาได้หลักล้านตันต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้ราคาปาล์มให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดอยู่ที่ 4.30 บาทต่อกิโลกรัม และจะสูงขึ้นอีก ส่วนของขวัญปีใหม่จากกระทรวงพลังงานนั้น ยังไม่ขอเปิดเผย แต่ยืนยันว่า จะถือเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ สร้างความสุขให้คนไทยช่วงเทศกาลอย่างแน่นอน

ส่วนความพร้อมต่อการเลือกตั้งซ่อม เขต 7 จ.ขอนแก่น ช่วงปลายปี นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า มีความพร้อมและมั่นใจเป็นอย่างสูงว่า นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีตผู้สมัครส.ส. จะได้รับชัยชนะ เนื่องจากคะแนนเสียง ห่างกับผู้ได้รับเลือกตั้งส.ส. เพียง 3,000 คะแนน เท่านั้น โดยยืนยันว่า พปชร. ไม่ได้มีการใช้กลไกรัฐในการสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบ ตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานส.ส.พปชร.ให้สัมภาษณ์อย่างแน่นอน ซึ่งตลอด 6 เดือน ที่ผ่านมารัฐบาลมีผลงานที่จับต้องได้ จึงเชื่อว่า ชาวจังหวัดขอนแก่นจะเลือกพปชร. ทำให้ได้ส.ส.เพิ่มอีก 1 คน ส่งผลให้รัฐบาลมีเสียงเพิ่มขึ้นเป็น 256 เสียง มีเสถียรภาพในการบริหารประเทศมากยิ่งขึ้

“เพื่อไทยพลัส”แพร่คลิปความคิดคนรุ่นใหม่ชี้ต้องแก้รัฐธรรมนูญ

People Unity News : “เพื่อไทยพลัส”แพร่คลิปสะท้อนความคิดคนรุ่นใหม่ ชี้ปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้คือรัฐธรรมนูญ เศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำ

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 พรรคเพื่อไทย เผยแพร่คลิปรายการ “เพื่อไทยพลัส : เพื่อไทยยุคใหม่ แข็งแกร่งกว่าเดิม” EP.2 หลังลงพื้นที่จัดกิจกรรมโฟกัสกรุ๊ป ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งเป็นการสะท้อนความคิดเห็นว่าคนรุ่นใหม่อยากเห็นอะไรในบ้านเมืองของเรา

โดย นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาธิการกลุ่มเพื่อไทยพลัส กล่าวสรุปกิจกรรมว่า พรรคการเมืองที่คนรุ่นใหม่อยากเห็นมากที่สุดคือพรรคการเมืองที่ทำเพื่อประชาชน พูดจริงทำจริง และปกป้องประชาธิปไตย และนักการเมืองที่พวกเขาอยากเห็นคือต้องมีความซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีวิสัยทัศน์ และรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น และปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองที่ได้พบเจอในปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่เห็นตรงกันว่าต้องนำมาแก้ไข คือ ปัญหาความไม่เป็นประชาธิปไตยของบ้านเมือง ซึ่งต้องเร่งแก้รัฐธรรมนูญ แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมให้หมดไปโดยเร็วที่สุด

นายตรีรัตน์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ภายในงานยังมีการสำรวจความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยผลสำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมถึงเรื่องภาพลักษณ์พรรคเพื่อไทยและบุคลากรของพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 26 มองพรรคเพื่อไทยและบุคลากรมีภาพลักษณ์ที่ดีมาก และร้อยละ 31 มองว่าดี ซึ่งเมื่อจบกิจกรรมแล้วร้อยละ 54 มองภาพลักษณ์พรรคเพื่อไทยและบุคลากรพรรคเพื่อไทยอยู่ในระดับที่ดีมาก และเรายังมีการสำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ถึงการมองภาพรวมทางเศรษฐกิจอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าสภาพเศรษฐกิจแย่ลงถึงร้อยละ 37 และสำรวจทางด้านการศึกษา น้องๆนักศึกษาร้อยละ 18 รู้สึกเฉยๆ กับหลักสูตรการศึกษาในปัจจุบันว่าจะตอบโจทย์นักศึกษาที่เรียนจบแล้วมีงานทำหรือไม่

ทั้งนี้ นายตรีรัตน์ ได้เชิญชวนติดตามรายการ “เพื่อไทยพลัส : เพื่อไทยยุคใหม่ แข็งแกร่งกว่าเดิม” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. ในทุกช่องทางโซเชียลมีเดียพรรคเพื่อไทย

“สิระ”ชง”คนขับรถบรรทุกสิบล้อ”อ้างโดนยัดยาเข้ากมธ.กมธ.ป.ป.ช.

People Unity News : “คนขับรถบรรทุกสิบล้อ”โร่ขอความเป็นธรรมจาก “สิระ” หลังอ้างโดนยัดยา ด้าน “สิระ” ลั่นต้องหาคำตอบให้สังคม เตรียมนำคดีเสนอที่ประชุม กมธ.ป.ป.ช.หาคนผิด

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.เวลา 10.00 น. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้พบกับนายโสภณ วงษ์สวัสดิ์ คนขับรถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจค้นภายในรถบรรทุกสิบล้อ ก่อนถูกกล่าวหาว่ามียาบ้าไว้ในครอบครอง 1 เม็ด โดยนายโสภณได้มาร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อตนจากคดีที่เกิดขึ้น โดยในวันอังคารที่ 26 พ.ย.เวลา 13.00 น.ตนจะเดินทางไปที่ สภ.สามร้อยยอด เพื่อติดตามข้อเท็จจริง และขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่

“เรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่านายโสภณได้กระทำความผิดจริงหรือไม่ แต่ในฐานะที่ตนเป็นผู้แทนของประชาชน และมีหน้าที่ในกรรมาธิการ ป.ป.ช.จะเพิกเฉยต่อเรื่องที่ประชาชนเดือดร้อนไม่ได้ เพราะนายโสภณก็ถือเป็นประชาชนคนหนึ่ง หากถูกเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่ามียาบ้าไว้ในครอบครอง ทั้งๆที่ไม่ได้กระทำความผิดก็เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมต่อนายโสภณ”นายสิระ กล่าว

นายสิระ กล่าวต่อว่า ตนจะนำคดีของนายโสภณ เสนอต่อที่ประชุมกรรมาธิการ เพื่อให้พิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อหาคำตอบให้กับสังคม ทั้งนี้ตนยินดีที่จะรับฟังความจากทั้ง 2 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นตัวของนายโสภณเอง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ หากฝ่ายใดมีข้อมูลก็สามารถแจ้งมาที่ตนได้ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำอย่างที่นายโสภณกล่าวหา ก็ต้องพิสูจน์ความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดจริงก็ต้องดำเนินคดีทางกฎหมายเช่นกัน

ด้านนายโสภณ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเฟซบุ๊ก “สานฝันพ่อ ส.แท่นทองขนส่ง โอเคนะ” ได้นัดรวมตัวกลุ่มคนขับสิบล้อ หน้าสถานีตำรวจสามร้อยยอด เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ในวันอังคารที่ 26 พ.ย. นี้ว่า ตนต้องขอขอบคุณเพื่อน ๆ ร่วมอาชีพทุกคนที่จะมาเป็นกำลังใจให้ และตนจะสู้คดีจนถึงที่สุด เนื่องจากตนไม่ได้กระทำความผิด และการต่อสู้ในครั้งนี้จะเป็นกรณีตัวอย่างที่กลุ่มคนขับสิบล้อจะได้ไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้อีก

Verified by ExactMetrics