วันที่ 28 เมษายน 2024

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้องคมนตรีติดตามโครงการฯอ่างเก็บน้ำยางชุม

People unity news online : สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชกระแสให้ติดตาม ขับเคลื่อน เร่งรัด รวมทั้งแก้ไขปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดต่อประชาชน

วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2560) เวลา 16.30 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคกลาง พร้อมคณะอนุกรรมการฯ ได้เดินทางไปยังโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำยางชุม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการฯ โดยมี นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยผู้แทนจากกรมชลประทานบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ และสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี พร้อมกับเยี่ยมชมอ่างเก็บน้ำ

โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำยางชุมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานพระราชดำริไว้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2546 สรุปความว่า ให้พิจารณาหาทางเพิ่มปริมาณเก็บกักของอ่างเก็บน้ำยางชุมฯ ต่อมาในปี 2547-2548 กรมชลประทานจึงได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำยางชุม โดยปรับปรุงเขื่อนดินเพื่อเพิ่มความสูงของตัวเขื่อนและเพิ่มความจุของน้ำจาก 32.00 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 41.10 ล้านลูกบาศก์เมตร ปรับปรุงอาคารระบายน้ำล้น ปรับปรุงอาคารท่อระบายน้ำปากคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ก่อสร้างอาคารท่อระบายน้ำลงลำน้ำเดิม และติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อน

ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำยางชุมฯ สามารถส่งน้ำให้พื้นที่รับประโยชน์เพิ่มขึ้นจากเดิม 15,300 ไร่ เป็น 20,300 ไร่ ส่งผลให้ราษฎรได้ใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตรโดยปลูกพืช เช่น สับปะรด มะม่วง มะพร้าว อ้อย พืชผักต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ผลักดันน้ำเค็มในช่วงฤดูแล้งเพื่อรักษาคุณภาพน้ำและสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าโดยรอบ นอกจากประโยชน์ที่เกิดขึ้นโดยตรงแล้วอ่างเก็บน้ำย่างชุมฯยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดให้กับราษฎรได้มีแหล่งอาหารโปรตีนไว้บริโภค รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกแห่งของจังหวัดทำให้ราษฎรมีรายได้จากการทำประมงและจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกด้วย

จากการติดตามการดำเนินงานโครงการฯของคณะองคมนตรีในครั้งนี้ ได้สร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการดำเนินงานโครงการฯ ให้บังเกิดความมั่นคง ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อสนองพระราชปณิธานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ให้บังเกิดประโยชน์สูงสุดกับราษฎรต่อไป (NNT)

People unity news online : post 14 พฤศจิกายน 2560 เวลา 22.50 น.

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เลื่อนวันสุดท้ายการเข้ากราบพระบรมศพ เป็นวันที่ 5 ต.ค.60

People unity news online : สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เลื่อนกำหนดวันสุดท้ายของการกราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จากเดิมวันที่ 30 กันยายน 2560 ออกไป เป็นถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของคืนวันที่ 5 ตุลาคม 2560

People unity news online : post 27 กันยายน 2560 เวลา 00.30 น.

ร.10 พระราชทานวีดีทัศน์แนวพระราชดำริ ร.9 และสมเด็จพระราชินีนาถ ให้รัฐบาลนำไปสานต่อ

People unity news online : สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานวีดีทัศน์รวมแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9

วันนี้ (15 สิงหาคม 2560) เวลา 13.50 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานวีดีทัศน์ จำนวน 4 แผ่น ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสานต่อ รักษา และต่อยอดแนวทางพระราชดำริและโครงการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ ป่า และเรื่องต่างๆ ที่เป็นแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงทำไว้ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับมาแล้วให้รวบรวมและนำไปเผยแพร่ เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติ รวมถึงเพื่อให้รัฐบาลและทุกภาคส่วนนำไปใช้ประโยชน์ในการสานต่อและต่อยอดสิ่งที่ทั้ง 2 พระองค์ทำไว้  ขณะเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนำแนวทางดังกล่าวมาใช้ในการทรงงานต่อไป เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงอย่างยั่งยืนตลอดไป ส่วนรัฐบาลจะนำมาประยุกต์ใช้ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้นำวีดีทัศน์ชุดดังกล่าวมาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยใช้ชื่อชุด “สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา” หน้าปกเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปกด้านในมีพระราชปรารภของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความว่า พระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรามีมากหลายด้วยพระบารมี และพระเมตตา ได้ทรงพระราชทานแนวความคิด พระราชดำริ และข้อปฏิบัติในการพัฒนาความเจริญและความสุขให้แก่ประเทศชาติและประชาชนมาหลายด้านหลายสิ่ง หากจะได้ศึกษาและน้อมนำพระราชดำริต่างๆนี้ มาปฏิบัติให้ถูกต้องเหมาะสมและพอเพียงต่อสถานการณ์ และก็เชื่อแน่ว่าจะแก้ปัญหา และทำให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ประเทศชาติ และตนเอง ซึ่งจะนำพามาสู่ความสุขและความเจริญกับทุกๆคน ตามพระราชปณิธานของล้นเกล้าล้นกระหม่อมตลอดไป หวังว่าวีดีทัศน์ชุดนี้จะเป็นประโยชน์ และนำความสุข ความเจริญมาสู่ผู้ชมในทุกประการ ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยด้วย

สำหรับวีดีทัศน์มีจำนวน 4 แผ่น แบ่งเป็น 4 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 น้ำคือชีวิตแผ่นดิน ตอนที่ 2 พิทักษ์ป่า พัฒนาสินสายน้ำ ตอนที่ 3 พืชพรรณ ปลูกชีวิตมั่นคง และตอนที่ 4 เศรษฐกิจพอเพียงนำทางชีวิต

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้ทุกคนติดตามและเข้าใจถึงพระเจตนารมณ์ที่พระองค์ทรงมอบหมายมา โดยจะให้กรมประชาสัมพันธ์นำวีดีทัศน์ดังกล่าวไปเผยแพร่ทางโทรทัศน์ในเวลา 18.00 น. นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งอีกหลายเรื่อง อาทิ การทำให้คนไทยปลูกข้าวให้ได้ในพื้นที่ที่มีดินเปรี้ยว ซึ่งรัฐบาลต้องไปพิจารณาด้วยว่าหากการปลูกข้าวอย่างเดียวไม่ได้ทำให้ประชาชนมีรายได้เพียงพอ ก็ต้องนำไปสู่การทำตามแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฏีใหม่ 3:3:3:1 ปลูกพืชชนิดอื่นด้วย หรือถ้าปลูกพืชชนิดใดได้ดีก็นำไปปลูกพืชแปลงใหญ่ ส่วนพื้นที่ใดปลูกพืชชนิดใดได้ผลผลิตน้อย ก็ให้นำพื้นที่นั้นไปทำปศุสัตว์บ้าง เพราะทิศทางน้ำในปัจจุบันเปลี่ยนไปมากพอสมควร และไม่ควรเกิดการขัดแย้งกันอีก

“พระองค์ทรงรับสั่งว่าสามารถประยุกต์ได้ หลักเศรษฐกิจพอเพียงมีคนอยู่หลายประเภทด้วยกัน มีทั้งพอเพียง รวยก็มี ไม่พอเพียงก็มี ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ในคนทุกระดับ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เมื่อวาน (7 สิงหาคม) ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งเป็นการถวายรายงานการทำงานของรัฐบาลตามห้วงระยะเวลา โดยได้ถวายงานในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่ง สรุปได้ดังนี้

1.ทรงห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมทั้งภาคเหลือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงรับสั่งให้รัฐบาลช่วยเหลือตามมาตรการต่างๆอย่างรวดเร็ว และทั่วถึง ลดภาระความซ้ำซ้อน สิ่งใดที่สถาบันจะช่วยได้ ก็จะทรงพระราชทานความช่วยเหลือมาให้ อย่างที่ทรงพระราชทานอยู่ปัจจุบันนี้ พร้อมทรงรับสั่งให้แก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเป็นพื้นที่ๆไป ถ้าไม่สามารถแก้ไขในภาพรวมได้ โดยนายกรัฐมนตรีได้ทูลถวายถึงโครงการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำภาพรวมของรัฐบาลว่า ติดปัญหาอยู่ที่ประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียเรื่องที่ดิน และในพื้นที่ส่วนบุคคล โดยไม่สามารถทำได้ ซึ่งจะมีการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ต่อไป

2.ทรงรับสั่งขอให้ทำให้ประเทศชาติและประชาชนมีความสุข ทั้งการช่วยเหลือ การบรรเทา การจัดระเบียบ การสร้างวินัย การสร้างอุดมการณ์ ขอให้ทำในทุกมาตรการอย่างต่อเนื่อง

3.ให้ช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทยแต่โบราณกาลที่เป็นส่วนที่ดีงาม เป็นอัตลักษณ์ของไทย ให้คนมาท่องเที่ยว มาชื่นชม ขอให้รักษาไว้ให้ได้

4.เรื่องภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น ภัยคุกคามรูปในแบบเก่า การรักษาอธิปไตย วันนี้น้อยลง ก็มีแต่การรักษาทรัพยากรบนแผ่นดินและบนพื้นน้ำที่เป็นอาณาของประเทศไทย ที่จำเป็นต้องมีกำลังไว้รักษา และภัยคุกคามรูปแบบใหม่ต้องเตรียมมาตรการรองรับให้ดี ให้เป็นสากล

5.ทรงให้เร่งดูแลระบบการศึกษา ซึ่งปัจจุบันได้มีการปฏิรูปการศึกษา เร่งกระบวนการเรียนรู้ ให้คนไทยมีความรู้ สามารถประกอบอาชีพมั่นคง มีความเข้มแข็ง มีหลักคิดที่ถูกต้องในทุกๆเรื่อง จะได้ลดความขัดแย้ง

6.ทรงขอให้ช่วยกันส่งเสริมกลุ่มงานจิตอาสา ซึ่งตนได้สั่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงมหาดไทย จัดตั้งอาสาสมัครในการดูแลพื้นที่ และความมั่นคง ในลักษณะจิตอาสา หรือทำกิจกรรมสาธารณะ

7.การดูแลประชาชน ให้ความเป็นธรรม กระบวนการยุติธรรมทุกอย่างให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ มีหลักฐานที่ชัดเจน ให้ประชาชนเชื่อมั่นไว้วางใจในกระบวนการยุติธรรมให้ได้

8.ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทรงขอให้ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง เป็นแม่แบบให้กับประชาชนให้เคารพศรัทธาเชื่อมั่นในการทำงานเพื่อให้เกิดความร่วมมือ ลดผลกระทบระหว่างกันให้ได้ในการบังคับใช้กฎหมาย

9.ทรงเสียพระทัยในการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยรับสั่งว่าขอให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจ ขยายสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงทำไว้มากมายให้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป ขอให้สำนึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมขอให้นำทุกอย่างที่ทั้งสองพระองค์ได้ทรงริเริ่มนำไปขับเคลื่อน ส่วนพระองค์จะสนับสนุนส่งเสริมรัฐบาลในการทำเพื่อประชาชน

ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และโชคดีที่ประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถต่อไป ขอให้คนไทยทุกคนช่วยกันรักษา ให้ใช้การสูญเสียในครั้งนี้ เปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปในสิ่งที่ดีกว่าเดิม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านต่อไป

ร.10 พระราชทานวีดีทัศน์แนวพระราชดำริ ร.9 และสมเด็จพระราชินีนาถ ให้รัฐบาลนำไปสานต่อ

People unity news online : post 15 สิงหาคม 2560 เวลา 22.00 น.

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทาน 9 แนวทางให้รัฐบาลยึดเป็นหลักปฏิบัติ

People unity news online : เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 เวลา 13.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เมื่อวาน (7 สิงหาคม) ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งเป็นการถวายรายงานการทำงานของรัฐบาลตามห้วงระยะเวลา โดยได้ถวายงานในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่ง สรุปได้ดังนี้

1.ทรงห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมทั้งภาคเหลือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงรับสั่งให้รัฐบาลช่วยเหลือตามมาตรการต่างๆอย่างรวดเร็ว และทั่วถึง ลดภาระความซ้ำซ้อน สิ่งใดที่สถาบันจะช่วยได้ ก็จะทรงพระราชทานความช่วยเหลือมาให้ อย่างที่ทรงพระราชทานอยู่ปัจจุบันนี้ พร้อมทรงรับสั่งให้แก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเป็นพื้นที่ๆไป ถ้าไม่สามารถแก้ไขในภาพรวมได้ โดยนายกรัฐมนตรีได้ทูลถวายถึงโครงการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำภาพรวมของรัฐบาลว่า ติดปัญหาอยู่ที่ประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียเรื่องที่ดิน และในพื้นที่ส่วนบุคคล โดยไม่สามารถทำได้ ซึ่งจะมีการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ต่อไป

2.ทรงรับสั่งขอให้ทำให้ประเทศชาติและประชาชนมีความสุข ทั้งการช่วยเหลือ การบรรเทา การจัดระเบียบ การสร้างวินัย การสร้างอุดมการณ์ ขอให้ทำในทุกมาตรการอย่างต่อเนื่อง

3.ให้ช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทยแต่โบราณกาลที่เป็นส่วนที่ดีงาม เป็นอัตลักษณ์ของไทย ให้คนมาท่องเที่ยว มาชื่นชม ขอให้รักษาไว้ให้ได้

4.เรื่องภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น ภัยคุกคามรูปในแบบเก่า การรักษาอธิปไตย วันนี้น้อยลง ก็มีแต่การรักษาทรัพยากรบนแผ่นดินและบนพื้นน้ำที่เป็นอาณาของประเทศไทย ที่จำเป็นต้องมีกำลังไว้รักษา และภัยคุกคามรูปแบบใหม่ต้องเตรียมมาตรการรองรับให้ดี ให้เป็นสากล

5.ทรงให้เร่งดูแลระบบการศึกษา ซึ่งปัจจุบันได้มีการปฏิรูปการศึกษา เร่งกระบวนการเรียนรู้ ให้คนไทยมีความรู้ สามารถประกอบอาชีพมั่นคง มีความเข้มแข็ง มีหลักคิดที่ถูกต้องในทุกๆเรื่อง จะได้ลดความขัดแย้ง

6.ทรงขอให้ช่วยกันส่งเสริมกลุ่มงานจิตอาสา ซึ่งตนได้สั่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงมหาดไทย จัดตั้งอาสาสมัครในการดูแลพื้นที่ และความมั่นคง ในลักษณะจิตอาสา หรือทำกิจกรรมสาธารณะ

7.การดูแลประชาชน ให้ความเป็นธรรม กระบวนการยุติธรรมทุกอย่างให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ มีหลักฐานที่ชัดเจน ให้ประชาชนเชื่อมั่นไว้วางใจในกระบวนการยุติธรรมให้ได้

8.ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทรงขอให้ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง เป็นแม่แบบให้กับประชาชนให้เคารพศรัทธาเชื่อมั่นในการทำงานเพื่อให้เกิดความร่วมมือ ลดผลกระทบระหว่างกันให้ได้ในการบังคับใช้กฎหมาย

9.ทรงเสียพระทัยในการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยรับสั่งว่าขอให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจ ขยายสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงทำไว้มากมายให้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป ขอให้สำนึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมขอให้นำทุกอย่างที่ทั้งสองพระองค์ได้ทรงริเริ่มนำไปขับเคลื่อน ส่วนพระองค์จะสนับสนุนส่งเสริมรัฐบาลในการทำเพื่อประชาชน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และโชคดีที่ประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถต่อไป ขอให้คนไทยทุกคนช่วยกันรักษา ให้ใช้การสูญเสียในครั้งนี้ เปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปในสิ่งที่ดีกว่าเดิม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านต่อไป

People unity news online : post 9 สิงหาคม 2560 เวลา 17.00 น.

พระมหากษัตริย์นักการทหาร จอมทัพไทย

People unity news online : สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระมหากษัตริย์นักการทหาร จอมทัพไทย ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระมหากษัตริย์นักการทหาร จอมทัพไทย

People unity news online : post 28 กรกฎาคม 2560 เวลา 08.49 น.

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จไปติดตามงานโครงการกำลังใจฯ จ.เชียงราย

People unity news online : เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 เวลา 12.15 น. พระเจ้าหลานเธอ  พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จไปทรงติดตามการดำเนินงานตามโครงการกำลังใจฯ ณ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

ทรงเยี่ยม นายวีรภาพ กันแก้ว คนต้นแบบโครงการกำลังใจฯ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวกำลังใจ โดยมี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เฝ้ารับเสด็จ

ต่อจากนั้น เวลา 13.30 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเชิญพระประธานประจำลานปฏิบัติธรรมขึ้นประดิษฐานบนแท่น และพิธีเบิกเนตรพระพุทธรูปที่ผู้เข้าร่วมโครงการกำลังใจฯ สร้างถวาย ณ สำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี สาขาวัดป่าซางงาม จังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้ โครงการพุทธอุทยานในเขตสำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี ถือเป็นความสำเร็จของโครงการกำลังใจฯ ที่เป็นต้นแบบของศูนย์รวมด้านจิตใจโดยใช้พระพุทธศาสนาเป็นแกนหลัก โดยผู้เข้าร่วมโครงการกำลังใจฯ ในรุ่นแรก จำนวน 1 ราย ได้นำแนวทางตามโครงการกำลังใจฯในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การปลูกป่า และพัฒนาป่าไม้ให้เป็นสถานที่สำหรับการศึกษาธรรมชาติ ซึ่งกรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ประชาชนกับวัดป่าซางงาม ภายใต้สำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี ฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสบกกฝั่งขวา บ้านป่าซางงาม อำเภอดอยหลวง จังหวัดเชียงราย จำนวน 9 ไร่ 96 ตารางวา

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วม “โครงการปั้นดินให้เป็นบุญ” จากเรือนจำกลางบางขวาง ได้ปั้นพระพุทธรูปเพื่อนำมาประดิษฐาน ณ ลานธรรมของสำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี นับเป็นการเชื่อมโยงบุคคลที่อยู่ภายในเรือนจำกับภายนอกเรือนจำด้วย “ธรรมะ” ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งที่โครงการกำลังใจฯ ได้นำมาเพื่อการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่เคยก้าวพลาด

People unity news online : post 9 พฤษภาคม 2560 เวลา 14.53 น.

ไปชม! งาน “ใต้ร่มพระบารมี 235 ปีกรุงรัตนโกสินทร์” กิจกรรมมากมายตลอดเดือน เม.ย.นี้

People unity news online :  เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมวัฒนธรรม “ใต้ร่มพระบารมี 235 ปี  กรุงรัตนโกสินทร์” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์ โดยมี ดร.ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นายปรารพ เหล่าวานิช เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และผู้แทนหน่วยงานต่างๆเข้าร่วม

นายวีระ กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมจัดงาน 235 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ และกิจกรรมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ และกรุงเทพมหานคร เป็นต้น เพื่อจัดงานดังกล่าวขึ้นภายใต้ชื่องานมหกรรมวัฒนธรรม “ใต้ร่มพระบารมี 235 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์ เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ และเพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรีที่ได้ทรงนำพาประเทศชาติเป็นปึกแผ่น และเจริญรุ่งเรืองมาครบรอบ 235 ปี รวมทั้งเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ร่วมรำลึก เรียนรู้ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งงานครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 30 เม.ย.2560 ระหว่างเวลา 10.00 – 22.00 น. และจะมีพิธีเปิดงานในวันที่ 5 เม.ย.นี้ที่โรงละครแห่งชาติ หลังจากนั้นจะมีพิธีเปิดนิทรรศการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งนิทรรศการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 30 เม.ย.ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และเปิดกิจกรรมเยี่ยมยลพิพิธภัณฑ์ (Night Museum) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 25 เม.ย.ที่โรงละครแห่งชาติด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยพิธีสำคัญ คือ พิธีบวงสรวงและพิธีสักการะบูรพกษัตริย์ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร รวมทั้งมีพิธีสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร โดยทั้ง 3 พิธีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 20 เม.ย. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และตักบาตรพระสงฆ์ 236 รูปที่ลานคนเมืองในวันที่ 21 เม.ย. หลังจากนั้นจะมีพิธีศาสนา 5 ศาสนา มหามงคล ในวันที่ 22 เม.ย.ที่โรงละครแห่งชาติ

ขณะเดียวกันยังได้จัดนิทรรศการจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ 1 – 30 เม.ย.ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป นิทรรศการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต้นไม้ปณิธานความดี และรถศูนย์ข้อมูลดนตรี ระหว่างวันที่ 5 – 30 เม.ย.ที่โรงละครแห่งชาติ (โรงเล็ก) รวมทั้งการเสวนาทางวิชาการ อาทิ ภาพเก่าเล่าขานตำนานรัตนโกสินทร์และ 235 ปี รัตนโกสินทร์คีตการ : ดุริยางค์ราชสำนัก มรดกไทยมรดกโลก ระหว่างวันที่ 22 – 25 เม.ย.ที่โรงละครวังหน้า

รวมถึงจัดกิจกรรม “สวดพระพุทธมนต์ 10 วัด สืบสิริ 10 รัชกาล” ระหว่างวันที่ 6 – 24 เม.ย. อาทิ   วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก  วัดวชิรธรรมสาธิต เป็นต้น รวมทั้งกิจกรรม “ไหว้พระเสริมสิริมงคล” ระหว่างวันที่ 21 – 25 เม.ย.ที่วัดรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร วัดบวรนิเวศวิหาร วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดราชนัดดารามวรวิหาร วัดสุทัศนเทพวรราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (ขสมก.) จัดรถโดยสารปรับอากาศให้บริการรถรับ – ส่ง ประชาชน 10 จุดใน 10 วัด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ติดต่อสอบถามโทร. 02 422 8812

นายวีระ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังได้จัดงานมหกรรมการแสดงทางวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 20 – 25 เม.ย. มีการแสดงทางวัฒนธรรมที่โรงละครแห่งชาติ การแสดงวัฒนธรรมไทย 4 ภาคที่ลานคนเมือง การแสดงมหกรรมวิทยาลัยนาฏศิลป์ทั่วประเทศที่สวนสันติชัยปราการ และจัดมหกรรมวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 2 โดยมีงานมหกรรมการแสดงหุ่นร่วมสมัยไทย-อาเซียน ที่โรงละครแห่งชาติ (โรงใหญ่) ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และสวนสันติชัยปราการ บางลำพู โดยจะเชิญทูตานุทูตจากประเทศต่างๆในอาเซียนเข้าร่วม ขณะเดียวกันได้จัดการแสดงนาฏยศาลาหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ โดยแสดงเรื่อง “พระมหาชนก” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ 20 – 21 เม.ย. รวมถึงมีนิทรรศการและการแสดงหุ่นร่วมสมัยไทยและอาเซียน ระหว่างวันที่ 20 – 30 เม.ย. ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จัดขึ้นที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนินอีกด้วย

รวมทั้งมีกิจกรรมเยี่ยมยลพิพิธภัณฑ์ ระหว่างวันที่ 20 – 25 เม.ย. โดยเชิญชวนเด็ก เยาวชน และประชาชนเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มิวเซียมสยาม นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ พิพิธบางลำพูและวังจักรพงษ์ โดยนักเรียน นักศึกษาและประชาชนสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อจะได้เรียนรู้และซึมซับด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของชาติ

นอกจากนี้ มีกิจกรรมการประกวดภาพถ่าย หัวข้อ “ใต้ร่มพระบารมี 235 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” จัดระหว่างวันที่ 2 – 30 เม.ย. ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน และการจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมทั้งของดีบ้านฉัน 76 จังหวัด และของดีรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ระหว่างวันที่ 20 – 25 เม.ย.ที่ลานคนเมือง และสวนสันติชัยปราการ และจัดงาน “สัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย” ระหว่างวันที่ 2 – 8 เม.ย.ที่โรงละครแห่งชาติ และงาน “เทศกาลวันสงกรานต์” ระหว่างวันที่ 13 – 17 เม.ย.นี้ ที่ลานคนเมือง สยามพารากอน วัดปทุมวนารามราชวรวิหารและสยามสแควร์ด้วย ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม โทร.1765

People unity news online : post 3 เมษายน 2560 เวลา 10.33 น.

 

ธ.ออมสินจัดงานครบรอบ 104 ปี 1 เมษายน 2560 สนองพระมหากรุณาธิคุณ ส่งเสริมการออมของประชาชน

People unity news online : นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า วันที่ 1 เมษายนของทุกปี ถือเป็นวันมงคลยิ่งของธนาคารออมสิน ด้วยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้พระราชทานพระราชทรัพย์จัดตั้ง “คลังออมสิน” ขึ้นเมื่อปี 2450 ด้วยทรงเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ของการออมทรัพย์ และให้ประชาชนมีสถานที่เก็บรักษาทรัพย์สินเงินทองให้ปลอดภัยจากโจรผู้ร้าย ก่อนที่จะทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตประกาศใช้พระราชบัญญัติคลังออมสิน เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2456 ความแข็งแกร่งและมั่นคงของคลังออมสิน ซึ่งใช้เวลาก่อร่างสร้างตัวในช่วงเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนาน จนได้รับพระราชทานการจัดตั้งเป็น “ธนาคารออมสิน” เมื่อปี พ.ศ.2489 จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ และสถาบันเพื่อการออมแห่งนี้ได้ดำเนินการมาจนมีวาระครบรอบ 104 ปีแล้ว นับว่าเป็นวาระมงคลยิ่งของธนาคารที่ก่อตั้งโดยพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีอายุมากกว่า 1 ศตวรรษแล้ว

ดังนั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงความเป็นสถาบันเพื่อการออมมาอย่างยาวนาน 104 ปี อีกทั้งยังเป็นการขอบคุณลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่ให้ความไว้วางใจในการฝากทรัพย์กับธนาคารออมสิน ธนาคารฯจึงได้เปิดให้บริการรับฝากเงินเป็นกรณีพิเศษในวันคล้ายวันสถาปนาธนาคารออมสิน วันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2560 ระหว่างเวลา 8.30 – 12.00 น. ได้แก่ สำนักพหลโยธิน (สำนักงานใหญ่) สำนักราชดำเนิน ธนาคารออมสินสาขา และหน่วยให้บริการที่เปิดทำการ 5 วันต่อสัปดาห์ พร้อมกับจัดกิจกรรมพิเศษ ด้วยการแจก “กระปุกเรือออมสิน” เป็นที่ระลึก 1 ใบ ต่อ 1 บัญชี (ของมีจำนวนจำกัด) เพื่อเป็นการส่งเสริมการออมทรัพย์ให้แก่ผู้เปิดบัญชีเงินฝากใหม่หรือฝากเงินประเภทใดก็ได้ ซึ่งต้องฝากด้วยตัวเองไม่ต่ำกว่าบัญชีละ 500 บาท โดยสามารถฝากต่างสาขาได้ แต่กรณีบัญชีเพื่อผู้เยาว์ ผู้มาฝากเงินจะเป็นผู้ฝากหรือผู้เยาว์ก็ได้

นอกจากนี้ ยังมีอีกกิจกรรมที่ธนาคารออมสินมอบให้มาช้านาน แต่ประชาชนทั่วไปอาจจะยังไม่ทราบมากนัก คือ ธนาคารออมสินมอบเงินทุนประเดิม (เงินขวัญถุง) ให้แก่เด็กแรกเกิดในวันออมสิน ในวันที่ 1 เมษายน ของทุกปี เพื่อเป็นการสร้างนิสัยการออมให้แก่เด็กจำนวน 500 บาทต่อราย และพิเศษสำหรับเด็กแรกเกิดที่บิดามารดาตั้งชื่อว่า “ออมสิน” ธนาคารฯมอบให้เป็น 5,000 บาท เพียงนำสูติบัตรของเด็กพร้อมด้วยทะเบียนบ้านที่มีชื่อบิดา-มารดา มาแสดงที่สาขาธนาคารออมสินใกล้บ้าน ธนาคารฯจะนำเงินทุนประเดิมฝากเข้าบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกเพื่อประโยชน์ของผู้เยาว์ และจะเก็บเงินทุนประเดิมนี้ไว้จนกว่าผู้เยาว์จะบรรลุนิติภาวะ โดยขอรับทุนประเดิมนี้ได้ไม่เกินเดือนธันวาคม 2560

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารออมสิน Call Center โทร.1115.

People unity news online : post 24 มีนาคม 2560 เวลา 00.01 น.

Verified by ExactMetrics