วันที่ 9 พฤษภาคม 2025

รัฐบาลจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุ 26,469 วัน เท่ารัชกาลที่ 1

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 19 ธันวาคม 2567 รัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พร้อมเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ แสดงพลังแห่งความจงรักภักดี และความสามัคคีของคนไทย

วานนี้ (18 ธ.ค.67) เวลา 13.30 น.  ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธี สมมงคลพระชนมายุ เท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่1 ครั้งที่ 1/2567 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี  นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองอธิบดีกรมราชเลขานุการในพระองค์ และนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและเลขานุการ เข้าร่วมด้วย

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมฯ ว่า ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 26,469 วัน โดยในวันที่ 14 มกราคม 2568 เป็นวันสมมงคลเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง รัฐบาลจึงเห็นความสำคัญในการดำเนินงานการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติทุกประการ ซึ่งการจัดงานจะมีทั้งงานพระราชพิธี งานพิธีการ โครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาแนวทางการดำเนินงานและจะได้มีการนำเสนอต่อคณะกรรมการทราบและพิจารณาในวันนี้ต่อไป โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณพลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้เกียรติเข้าร่วมประชุมในวันนี้ ทั้งนี้ หากมีข้อแนะนำประการใดขอได้นำเสนอรายละเอียด

สำหรับที่ประชุมได้มีการรับทราบและเห็นชอบในประเด็นสำคัญ ดังนี้

1) รับทราบคําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอํานวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  โดยมีประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา เป็นที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีทุกท่าน เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้อง เป็นกรรมการ ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการและเลขานุการ

2) รับทราบการจัดพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รวมทั้งการจัดทําตราสัญลักษณ์พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี ได้ขอกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมดําเนินการออกแบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พร้อมความหมาย ซึ่งเมื่อดําเนินการออกแบบตราสัญลักษณ์ฯ เรียบร้อยแล้ว สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีจะได้มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อมีหนังสือเรียนราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตและพระบรมราชวินิจฉัยเลือกแบบตราสัญลักษณ์ และหากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ที่มีความประสงค์ขอใช้ตราสัญลักษณ์เพื่อประดับหรือประดิษฐานบนสิ่งของใด ๆ ก็ตาม ให้แจ้งความประสงค์ไปยังสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการจัดพิธีการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พร้อมเห็นชอบชื่อการจัดงานพระราชพิธีเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ดังนี้ ชื่อการจัดงานภาษาไทย “การจัดงานพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” และชื่อการจัดงานภาษาอังกฤษ “ The Auspicious Occasion of His Majesty King Maha Vajiralongkorn Phra Vajiraklaochaoyuhua Attaining the Same Age as His Majesty King Buddha Yodfa Chulalok the Great (Rama I)” โดยมีกิจกรรมสำคัญ เช่น การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทําบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล  การจัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งทั้งสองกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และต่างประเทศ

รวมทั้ง ที่ประชุมเห็นชอบการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยการจัดกิจกรรมในนามรัฐบาล ประกอบด้วย (1) การจัดพิธีสืบพระชะตาหลวง ณ สวนสราญรมย์ และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ระหว่างวันที่ 13 – 20 มกราคม 2568) ซึ่งเป็นประเพณีมงคลของชาวล้านนา ประกอบด้วยกิจกรรม 5 กิจกรรม ได้แก่ พิธีฮอมบุญถวายเจ้าเหนือหัว พิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ การสาธิตภูมิปัญญาในการจัดเตรียมเครื่องประกอบพิธีกรรม การแสดงศิลปวัฒนธรรมและการละเล่นต่าง ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของงานพิธี การจัดสาธิตกาดมั่วหรือตลาดพื้นบ้านล้านนา (2) การบูรณปฏิสังขรณ์วัดสังกัสรัตนคีรีจังหวัดอุทัยธานี (3) การจัดแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ในวันที่ 14 มกราคม 2568 ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (4) การจัดทําเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (5) การจัดพิธีทางศาสนาและกิจกรรมถวายพระราชกุศล ณ ศาสนสถานอันเป็นพระบรมราชานุสรณ์หรือเกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดสระเกศวัดราชบุรณะวัดระฆังโฆสิตาราม วัดคูหาสวรรค์วัดราชสิทธาราม วัดกาญจนสิงหาสน์วัดราชาธิวาส วัดโมลีโลกยาราม วัดยานนาวา วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์วัดอรุณราชวราราม วัดสุทัศนเทพวราราม วัดชนะสงคราม และวัดสุวรรณดาราราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร (6) การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล (7) การจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยเป็นไม้มงคล หายาก ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ได้แก่  ต้นตะเคียนทอง ต้นพิกุล ต้นอินจัน พร้อมทั้งการจัดกิจกรรมจิตอาสาบําเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลของหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย

“รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เพื่อแสดงถึงพลังแห่งความจงรักภักดี และความสามัคคีของคนไทยทั้งประเทศ” นายคารม กล่าว

Advertisement

คกก.คณะคู่สมรสฯ ร่วมกิจกรรมจิตอาสา ถวายเป็นพระราชกุศล

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 5 ธันวาคม 2567 คณะกรรมการคณะคู่สมรสร่วมกิจกรรม “ปลูกบ้านให้นก สร้างบ้านให้ปลา ทำศาลาให้ปู” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

วานนี้ (4 ธ.ค.) ที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปู เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี และวัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ คณะกรรมการคณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี ร่วมกิจกรรมจิตอาสา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และวันพ่อแห่งชาติ โดยมีผู้บริหารส่วนราชการกองทัพบก จ.สมุทรปราการ และประชาชนจิตอาสา เข้าร่วมกิจกรรม

โอกาสนี้ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการคณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี พร้อมประชาชนจิตอาสา ร่วมกิจกรรม “ปลูกบ้านให้นก สร้างบ้านให้ปลา ทำศาลาให้ปู” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคลายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และวันพ่อแห่งชาติ โดยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรสนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการคณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี ได้ปลูกต้นโพทะเล ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำ จ.สมุทรปราการ และปล่อยปูทะเล เพื่อร่วมส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้วย

Advertisement

นายกฯ เชิญชวนคนไทยร่วมงานกาชาดประจำปี 2567 “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” 11 – 22 ธ.ค 67

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 3 ธันวาคม 2567 นายกฯ เชิญชวนคนไทยร่วมงานกาชาดประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” ระหว่างวันที่ 11 – 22 ธ.ค. 67

วันนี้ (3 ธันวาคม 2567) เวลา 09.30 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย รองประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2567 คณะผู้บริหาร และทีมศิลปะคาบเชือกหัวโขนครูจอม เข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์งานกาชาดประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” เนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภก สภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมด้วย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรับฟังการนำเสนอการประชาสัมพันธ์ งานกาชาดประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 องค์พระบรมราชูปถัมภก สภากาชาดไทย เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณ และพระราชกรณียกิจ ขององค์พระบรมราชูปถัมภก สภากาชาดไทย องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย และองค์อุปนายิกาผู้อํานวยการสภากาชาดไทย รวมถึงเผยแพร่ภารกิจของสภากาชาดไทยและสร้างการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา มูลนิธิสมาคม สโมสร ผู้มีอุปการคุณ และประชาชนทั่วไป และเพื่อหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย ในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัยแก่ประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัยพิบัติ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมสนับสนุนผ่านการซื้อสลากกาชาด และร่วมถ่ายรูปกับคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2567 พร้อมโปรโมตเสื้อกาชาด ซึ่งมีลวดลายเฉพาะ สามารถซื้อได้ในงานกาชาดประจำปี 2567 เท่านั้น

“เชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านมาท่องเที่ยวร่วมงานกาชาดประจำปี 2567 วันที่ 11 – 22 ธันวาคม 2567 ณ สวนลุมพินี โดยภายในงานมีกิจกรรมดี ๆ จากทางสภากาชาดไทย และหน่วยงานต่าง ๆ  พร้อมทั้งเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมทำบุญ ผ่านการซื้อสลากกาชาด โดยสามารถซื้อได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์” นายกรัฐมนตรี กล่าวเชิญชวน

Advertisement

นายกฯ ร่วมกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติในหลวง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 พฤศจิกายน 2567 นายกฯ ร่วมกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เชิญชวนคนไทยออกกำลังกาย เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต เพื่อสุขภาพที่ดีและมีสมองที่ดีอย่างยั่งยืน

วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2567) เวลา 17.30 น. ณ สนามลู่ปั่นเจริญสุขมงคลจิต จังหวัดสมุทรปราการ  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567   จัดโดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช ศิริราชมูลนิธิ และภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนกว่า 40 หน่วยงาน  โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม   นางสาวศุภมาส อิศรภักดี  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  รวมถึง นายศุภมิตร  ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ  ศ.ดร.นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช  รศ.ยงชัย นิละนนท์  ประธานศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช  ผู้บริหารโรงพยาบาลศิริราช  ภาคีเครือข่ายผู้สนับสนุนโครงการ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน  เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาร่วมกิจกรรมออกกำลังกายเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  นับเป็นวาระมหามงคลที่ปวงชนชาวไทยทุกคนจะได้พร้อมใจแสดงออกถึงความจงรักภักดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ซึ่งท่านทรงให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมสุขภาพพลานามัยที่ดีให้แก่ปวงพสกนิกร  ทั้งยังทรงเป็นแบบอย่างในการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ด้วยการออกกำลังกาย

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่มีโครงการดีๆ อย่างนี้ในการสร้างการรับรู้แก่ประชาชน สร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายของตนเอง  โดยเฉพาะการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง  ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะอัมพฤกษ์อัมพาต  แต่ยังทำให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี  คุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขในการดำเนินชีวิต  ทั้งนี้ นายกฯ หวังให้การออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนไทยทุกคนเพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีและมีสมองที่ดีอย่างยั่งยืน

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีปล่อยตัวผู้ร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน 23 กิโลเมตร  โดยการกด AirHorn

“กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่ทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในการรักษาสุขภาพและการออกกําลังกาย ตลอดจนจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้โรคหลอดเลือดสมอง ภายใต้หัวข้อ “คนไทยสมองดี” หรือ “Healthy Thais, Healthy Brains” และรณรงค์เชิญชวนคนไทยให้หันมาออกกําลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงอันจะเป็นการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ในอีกทางหนึ่ง โดยมีผู้ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมจากทั่วประเทศจำนวน 1,651,597 คน ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของการจัดกิจกรรม” นายจิรายุ กล่าว

Advertisement

 

รัฐบาล ขอบคุณประชาชนและทุกภาคส่วน ร่วมใจเฉลิมพระเกียรติขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 28 ตุลาคม 2567 รัฐบาล ขอขอบคุณประชาชนและทุกภาคส่วน ร่วมใจเฉลิมพระเกียรติในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ที่พร้อมใจกันไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในการแสดงความจงรักภักดีและชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้านางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณทุกส่วนราชการ ทหาร พลเรือนที่มีส่วนร่วมในการจัดพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้สำเร็จเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างาม สมพระเกียรติ นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมจิตอาสา ที่คอยดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาร่วมชื่นชมพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงค์ ในการเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ได้เป็นที่ประจักษ์ เห็นถึงความจงรักภักดี ความรัก ความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน รวมถึงความสามัคคีของทุกภาคส่วนในการจัดงานในครั้งนี้ “สำหรับงานพระราชพิธีฯ ครั้งนี้ ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างได้ชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ โดยตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงความวิจิตรงดงามของริ้วขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ได้สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมของไทยทื่สืบทอดมายาวนาน รวมถึงศิลปกรรมไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ในหลากหลายสาขา ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ” นายจิรายุ กล่าว

Advertisement

 

“ในหลวง-พระราชินี” ทรงจัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กในพื้นที่อุทกภัย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 25 กันยายน 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ลงถุงพระราชทานสำหรับเด็ก ด้วยทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กทารกแรกเกิดจนถึง 2 ขวบ เพื่อพระราชทานเป็นพิเศษ

วานนี้ (24 กันยายน 2567) เวลา 18.27 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรง Screen “ถุงพระราชทานสำหรับเด็ก” และทรงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ลงถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน 1,000 ถุง เพื่อมอบแก่เด็กในพื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กทารกแรกเกิดและเด็กเล็ก ที่อยู่ในสถานการณ์อุทกภัยร้ายแรง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็ก ตลอดจนจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กบรรจุลงในถุงพระราชทาน อาทิ ตุ๊กตาผ้าห่ม เป้อุ้มเด็ก นมผง อาหารเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สำลี ฟองน้ำเช็ดตัว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ซักล้างสำหรับเด็ก โดยจัดพระราชทานสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด ถึงอายุ 2 ขวบ เพิ่มเติมจากถุงพระราชทานทั่วไป

ทั้งนี้ ได้มีพระราชกระแสทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัย ตลอดจนมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจแก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ทำให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในการให้ทุกคนมีจิตอาสา พร้อมที่จะเสียสละ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนสามารถทำให้สถานการณ์รุนแรงคลี่คลายลงได้ตามลำดับ โดยในวันที่ 30 กันยายนนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน 3,271 ถุง ไปพระราชทานแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และนายอำเภอที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ณ หอประชุมเทศบาลตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

Advertisement

ซ้อมย่อยครั้งที่ 5 จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 4 กันยายน 2567 ราชนาวิกสภา วานนี้ (3 ก.ย.) – กองทัพเรือจัดการซ้อมย่อย ครั้งที่ 5 ในการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

พลเรือโท วิจิตร ตันประภา รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานกำลังพล ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี (ประธาน คตร.) ได้ตรวจการเตรียมความพร้อม ณ จุดรวมพลบริเวณใต้สะพานพระราม 8 ในโอกาสนี้ หัวหน้าหน่วยรับเรือของกำลังพลฝีพายเรือแต่ละลำ ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ได้ร่วมรับประทานอาหารและพบปะพูดคุยกับผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัดของตน ณ จุดรวมพล ใต้สะพานพระราม 8 รวมถึงบริเวณจุดรวมพลอื่นๆ ทั้งที่ อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ และ กองเรือเล็ก กรมขนส่งทหารเรือ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจก่อนการฝึกซ้อม พร้อมทั้งร่วมชมการฝึกซ้อมย่อย ครั้งที่ 5 บริเวณอาคารราชนาวิกสภา

สำหรับการจัดขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ ใช้เรือพระราชพิธีจำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ ความยาว 1,280 เมตร กว้าง 90 เมตร โดยใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธี จำนวนทั้งสิ้น 2,399 นาย ซึ่งการฝึกซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีเป็นการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ โดยการฝึกซ้อมเป็นขบวน จะเริ่มทำการซ้อมย่อยเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 10 ครั้ง ดังนี้

วันที่ 1 ,8 ,15 ,22 สิงหาคม วันที่ 3 ,12 ,19 ,26 กันยายน วันที่ 3 และ 10 ตุลาคม โดยในครั้งนี้เป็นการซ้อมย่อยครั้งที่ 5 และการซ้อมใหญ่ จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 15 และ 22 ตุลาคม โดยพระราชพิธีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2567

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับชม การฝึกซ้อมได้ตลอดเส้นทางที่ขบวนเรือแล่นผ่านโดยพื้นที่สาธารณะที่สามารถรับชมได้อย่างใกล้ชิด มีดังนี้ ฝั่งธน บริเวณใต้สะพานพระราม 8 ด้านพระบรมราชานุเสาวรีย์รัชกาลที่ 8 บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ข้างโรงพยาบาลศิริราช ท่าน้ำวัดระฆังโฆษิตาราม และวัดอรุณราชวราราม ฝั่งพระนคร ที่สวนสันติชัยปราการ ข้างป้อมพระสุเมรุ ท่ามหาราช และท่าช้าง ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ที่เรือพระราชพิธีเริ่ม เคลื่อนขบวนบริเวณสะพาน พระราม 8 จนเสร็จพิธีที่วัดอรุณราชวราราม

Advertisement

มท. เปิดตัวบทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์  : 17 สิงหาคม 2567 กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกับ โกไข่ ศิลปินจิตอาสา เปิดตัวบทเพลง “THE LIGHT OF LOVE” บทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พระผู้ทรงเป็นหลักชัยและศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งนับตั้งแต่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติ พระองค์เปรียบประดุจแสงแห่งความรัก ผู้ทรงทศพิธราชธรรม ที่ฟูมฟักทะนุถนอมประชาชนคนไทย ยังผลให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ด้วยทรงมีพระราชปณิธานอันมุ่งมั่นแน่วแน่ ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานทั้งปวงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เคียงคู่พระบารมี เสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ ยังประโยชน์สุขให้กับประชาชนคนไทย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จึงได้ร่วมกับศิลปินจิตอาสา คือ ดร. จุมพล ทองตัน (โกไข่) ประพันธ์บทเพลง “THE LIGHT OF LOVE – บทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ซึ่งมีเนื้อหาบทเพลงที่สะท้อนความรักของประชาชนคนไทย ที่พร้อมเพรียงในการถวายหัวใจแห่งความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการปฏิบัติบูชา สืบสานงานตามพระราชดำริ ทั้งงานจิตอาสา และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นหลักชัย ผู้ทรงเปรียบประดุจแสงแห่งความรักที่ส่องสว่างให้ประชาชนคนไทยได้มีสิ่งที่ดีงามของชีวิต

สำหรับเนื้อเพลง “THE LIGHT OF LOVE” มีคำร้อง ดังนี้

A

When the sky is gray

It seems too hard to see

Soon, the dawn will shine bright The golden light will be back again

B

It’s the light of our love

That’s ready to be found

All the crowd will shout from their hearts

C

We’ll preserve all the things And contribute all your guides

Your vision will be in our lives

In our great beloved

King Vachiralongkorn.

D

The love of all Thai people

Together with our beloved queen

Forever we’ll be good

We’ll change all the wrong to be right.

We’ll apply the idea

Of life long living to our plan

Oh, in this motherland

We all will forever be on your side

(Repeat B / C / D)

E

With heart and unity

Volunteer society will be rise

Your light of love’s shining bright My life will be serving you forever

Forever

Forever

“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ ได้ร่วมรับฟัง และร่วมแชร์บทเพลงแสงแห่งรัก ผ่านทางเว็บไซต์ https://youtu.be/o4e_bJbqUJk?si=Kov1Oyn_MFj2t5h_ เพื่อร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และ เผยแผ่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ขจรขจาย ด้วยความจงรักภักดี โดยพร้อมเพียงกัน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย

Advertisement

นายกฯลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 12 สิงหาคม 2567 นายกรัฐมนตรีลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2567

วันนี้ (12 สิงหาคม 2567) เวลา 08.15 น. ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง   นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2567 พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีและภริยา และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรี  รองนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง   จากนั้น นายกรัฐมนตรีลงนามถวายพระพร รองนายกรัฐมนตรีและภริยาถวายความเคารพพระฉายาลักษณ์ฯ เสร็จพิธี

Advertisement

รัฐบาลเชิญชวน ปชช. ชมความงดงามของสะพานภูมิพล-ทัศนียภาพ ม.เจ้าพระยายามค่ำคืน เฉลิมพระเกียรติ พระพันปีหลวง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 9 สิงหาคม 2567 รัฐบาลร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2567 เชิญชวน ปชช. ร่วมชมความงดงามของสะพานภูมิพล และทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน

วันนี้ (9 สิงหาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กระทรวงคมนาคมร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2567 เปิดไฟประดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ สะพานภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 กรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ จังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 9 – 13 สิงหาคม 2567 เวลา 19.00 – 22.00 น. โดยในวันที่ 12 สิงหาคม 2567 จะเปิดไฟประดับสะพานตั้งแต่เวลา 19.00 – 24.00 น. เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระผู้ทรงเป็น “แม่ของแผ่นดิน” ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย รัฐบาลขอเชิญประชาชนร่วมชมความงดงามของสะพาน และทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน อันเป็นการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

นายคารม กล่าวว่า นอกจากนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ  ในวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2567 (วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และวันแม่แห่งชาติ) เวลา 00.01 – 24.00 น. รวม 3 สายทาง ได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) 20 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) 31 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน – ปากเกร็ด) 10 ด่าน โดยเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่ปรากฏในสัญญาสัมปทานฉบับแก้ไขใหม่ระหว่าง กทพ. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในวันหยุดและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน รวมทั้งช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษได้อีกด้วย

Advertisement

Verified by ExactMetrics