วันที่ 17 พฤษภาคม 2024

“พิพัฒน์”พัฒนาสำนักวัดเขาอ้อพัทลุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวว่าน-สมุนไพรใต้

People Unity News : รมว.พิพัฒน์ ลงพื้นที่สำนักวัดเขาอ้อ จ.พัทลุง เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์กลางการศึกษาเชิงอนุรักษ์ว่านและพืชสมุนไพรในพื้นที่ภาคใต้

วันที่ 31 ตุลาคม​ 2562​ นายพิพัฒน์​ รัช​กิจ​ประการ​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงการ​ท่องเที่ยว​และ​กีฬา​ เป็น​ประธาน​เปิดการประชุมหารือเรื่อง กำหนดยุทธศาสตร์ สำนักวัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์กลางการศึกษาเชิงอนุรักษ์ว่านและพืชสมุนไพรในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีนายคณนาถ หมื่นหนู โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คณะ​ผู้บริหาร​ฯ​ นางสาวศรอนงค์ สงสมพันธ์ นายอำเภอควนขนุน นายสุกษม อามระดิษ เลขานุการสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย นายเอกระพีร์ สุขกุลพิพัฒน์ รองประธานชมรมอนุรักษ์ว่านและพืชสมุนไพรวัดเขาอ้อ นายอนั้นต์ มณีประสิทธิ์ กำนันตำบลมะกอกเหนือและประธานกรรมการวัดเขาอ้อ ให้การต้อนรับ นำชม และรายงานความคืบหน้าของโครงการ ณ วัดเขาอ้อ ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

โดยที่ประชุม​ได้จัดทำข้อเสนอต่อรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงการ​ท่องเที่ยว​และ​กีฬา​ ดังนี้

1.โครงการมหกรรมการท่องเที่ยวเมือง​สมุนไพรไสยเวทย์ 560 ปี สำนักเขาอ้อ ส่งเสริมสนับสนุนจุดเด่นวัดเขาอ้อ ด้านอนุรักษ์พืชสมุนไพร การใช้สมุนไพรเพื่อไสยเวช เพิ่มช่องทางการเพิ่มมูลค่าสมุนไพร รวมถึงเรื่องเล่าตำนานความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นจุดขายวัดเขาอ้อ ที่มีคุณค่า และสร้างกระแสนิยมให้กับนักท่องเที่ยว

2.โครงการพัฒนาโครงสร้างสำคัญบริเวณวัดเขาอ้อ สนับสนุนการพัฒนาปรับภูมิทัศน์ โครงสร้างสำคัญบริเวณวัดเขาอ้อ ตามความเรียกร้องของนักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวก มองเห็นภูมิทัศน์ที่ชัดเจน เช่น โครงการก่อสร้างบันไดคอนกรีตขึ้นจุดชมวิวยอดเขาอ้อ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณรอบวัดเขาอ้อ โครงการก่อสร้างอาคารบริการนักท่องเที่ยว จำหน่ายผลิต​ภัณฑ์ชุมชนและบริการสมุนไพรเพื่อสุขภาพ พร้อมอุปกรณ์แปรรูปสมุนไพร โครงการคลินิกแพทย์แผนไทยวัดเขาอ้อ โครงการศูนย์เรียนรู้แปลงสมุนไพรพร้อมดูแล

3.โครงการพัทลุงเมืองสมุนไพร ส่งเสริมจังหวัดพัทลุงและวัดเขาอ้อให้มีจุดเด่นในการอนุรักษ์พืชสมุนไพร​ และการใช้สมุนไพรเพื่อบำบัดรักษา

รมว.พิพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้มาลงพื้นที่ ณ วัดเขาอ้อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เพื่อประชุมหารือการส่งเสริมมหกรรมการท่องเที่ยวเมืองสมุนไพรไสยเวทย์ 910 ปี สำนักเขาอ้อ ซึ่งเป็นจุดเด่นของวัด อาทิ ด้านการอนุรักษ์พืชสมุนไพร การใช้สมุนไพร นับเป็นการเพิ่มช่องทางการเพิ่มมูลค่าสมุนไพร รวมถึงสามารถเล่าขานตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของวัดให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับทราบ ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตร เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันต่อไป

 

“อนุทิน”นำ สธ.จับมือก.ดิจิทัลนำร่องใช้ Big Data พัฒนาระบบบัตรทอง

People Unity News : สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ลงนามใน “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การพัฒนาการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)” พัฒนาระบบบัตรทอง

วันที่ 31 ตุลาคม 2556 ที่โรงแรมเซนทรา บาย เซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุนภาพแห่งชาติ (สปสช.) ลงนามใน “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมเป็นพยานในพิธี เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) สนับสนุนการให้บริการด้านสุขภาพ มี ดร.ปิยนุช วุฒิสอน เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนพ. ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นผู้ลงนาม

นายอนุทิน กล่าวว่า พิธีลงนามในวันนี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของความร่วมมือกันในการพัฒนาการใช้ประโยชน์ข้อมูลด้านสุขภาพระดับประเทศโดยใช้เทคโนโลยี Big Data ซึ่งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นหน่วยงานที่มีข้อมูลปริมาณมากและซับซ้อน การนำเทคโนโลยี Big data เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูลให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนและทันเวลา ทั้งนี้ขอฝากถึงผู้บริหารที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำกับดูแลติดตามความก้าวหน้าเนื้อหาสาระที่บรรจุในระบบให้เสร็จสิ้นตามกำหนดและตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับทั้งสถาบันเชี่ยวชาญโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไปโรงพยาบาลชุมชนได้พัฒนาเป็น Smart Hospital โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารและอำนวยความสะดวกในการจัดบริการประชาชน เช่น การจองคิวออนไลน์ระบบนัดหมาย แจ้งเตือนการฉีดวัคซีน ค้นหาเวชระเบียนออนไลน์ด้วยบัตรประชาชน การบันทึกข้อมูลผู้ป่วยใช้ข้อมูลเดียวกันทั้งโรงพยาบาลและคลินิกหมอครอบครัว รวมทั้งระบบการรักษาทางไกล (Tele Medicine)

“ระบบสาธารณสุขไทยอยู่ในลำดับ 6 ของโรค พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สปสช.มีอายุเกือบ 20 ปี จากการรักษาโรคทั่วไป ปัจจุบัน รักษากระทั่งโรคหายาก เท่ากับดูแลผู้ป่วยทุกโรค คนไทยมีจำนวนมาก ทุกคนล้วนต้องการบริการด้านสุขภาพที่สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เป็นความจำเป็น ต้องขอบคุณกระทรวงดิจิตัลที่เข้ามาช่วยเหลือ ในอนาคตข้อมูลด้านสุขภาพ ต้องเชื่อมต่อกันทุกสถานพยาบาล การให้บริการจะเร็วขึ้น เมื่อผู้ป่วยไปหาหมอ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม แพทย์จะรู้ว่าประชาชนแต่ละคนมีอาการอย่างไร รับยาอะไรอยู่ แพ้ยาอะไรบ้าง การเชื่อมโยงข้อมูลจะไม่หยุดที่เรื่องสุขภาพ แต่จะเริ่มต้นใช้กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาด้วย”

ด้านนายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้จะเป็นการผลักดันนโยบายการพัฒนาการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างยั่งยืน เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีความตื่นตัวเรื่อง Big Data อย่างกว้างขวางองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเริ่มปรับตัวและเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคของการวิเคราะห์และใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อประกอบการตัดสินใจ

“อธิบดี พช.”ลงพื้นที่ติดตามโครงการ”หมู่บ้านคนรักษ์ช้าง”

People Unity News : “อธิบดี พช.”ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ติดตามโครงการ”หมู่บ้านคนรักษ์ช้าง” หวังลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2562 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนในพี้นที่ โอกาสนี้ได้ร่วมพบปะผู้นำชุมชน และชาวบ้านเพื่อสอบถามข้อมูลและรับทราบผลกระทบจากช้างกับชาวบ้าน ณ พื้นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลทรายขาว จังหวัดจันทบุรี ทั้งนี้ปัญหาระหว่างคนกับช้างในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีมีมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ข้าวโพด และพืชอื่นๆ ที่เป็นอาหารช้าง โดยช้างจะออกจากป่ามากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเกิดความเสียหายมูลค่าหลายล้านบาท

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ตามคำสั่งคณะกรรมการดำเนินงานการจัดการปัญหาเพื่อการร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนและช้าง โดยมีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นประธานคณะกรรมการฯ กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานที่มีบุคลากรทำงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนในหมู่บ้าน ตำบล ได้ร่วมเป็นคณะทำงานในการจัดการปัญหาคนกับช้างเพื่อให้เกิดความสมดุล และอยู่ร่วมกันอย่างไม่มีปัญหา เช่น ปลูกพืชที่ช้างไม่กิน การปลูกต้นไม้เป็นแนวกันช้าง เพื่อป้องกันช้างเข้ามาทำลายพืชผักสวนครัวของชาวบ้าน โดยมอบหมายให้พัฒนาการจังหวัด และทีมงาน พช. ร่วมดำเนินการในพื้นที่ ด้วยการจัดกิจกรรมรณรงค์ และแนะนำชาวบ้านทำอาชีพเสริมนอกจากการปลูกพืช ผัก ผลไม้ เพื่อเป็นรายได้เสริมอีกช่องทางหนึ่ง เช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผลไม้ การจักสาน และอาชีพอื่นๆ ที่สามารใช้วัสดุในพื้นที่ โดยเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป

อธิบดี พช.กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ “หมู่บ้านคนรักษ์ช้าง” มุ่งหวังที่จะป้องกัน แก้ไขปัญหาช้างป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 183 หมู่บ้าน ในพื้นที่ 5 จังหวัดป่ารอยต่อภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดระยอง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี และจังหวัดสระแก้ว เพื่อตอบสนองการขับเคลื่อนภารกิจตามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือโครงการฟื้นฟูแหล่งอาหารช้างป่าพื้นที่ป่าตะวันออก โดยการสร้างองค์ความรู้เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนและช้างในระดับหมู่บ้าน ท่านจะได้เข้าใจพฤติกรรมของช้าง การปฏิบัติต่อช้าง การลดปัญหาความขัดแย้งกับช้าง ซึ่งผู้นำหมู่บ้านที่ประสบปัญหาจากช้างป่า จะได้นำองค์ความรู้นั้นไปขยายผลต่อในระดับหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาตามที่คณะทำงานพัฒนาชุมชนมุ่งหวังให้ชาวบ้านในพื้นที่รู้จักช้าง เข้าใจช้าง รักษ์ช้าง และสามารถอยู่ร่วมกันกับช้างได้อย่างสมดุลโดยแท้จริง

“อนุทิน”ระดมความเห็นร่างกฎกระทรวง”ปลูกกัญชง”ครัวเรือนละ 1 ไร่

People Unity News : “อนุทิน”รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ชวน ปชช.ระดมความเห็นร่างกฎกระทรวง “ปลูกกัญชง” ครัวเรือนละ 1 ไร่

วันที่ 31 ต.ค.2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก “อนุทิน ชาญวีรกูล” ระบุว่า มาช่วยกันร่างกฎกระทรวง ปลูกกัญชง ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน เพื่อปากท้องประชาชน ก่อนออกกฎหมายใดๆ ต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน

เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน อย.กำลังจัดทำร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย กัญชง (ซึ่งก็คือพืชสายพันธุ์เดียวกับ กัญชา แต่มีสารสำคัญ คือ CBD สูง THC ต่ำ และมีความต้องการใช้สูงมาก ในทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และ เครื่องสำอาง)

สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง ฉบับนี้ ก็คือ ประชาชน และ เอกชน สามารถขออนุญาตปลูกกัญชง ได้ โดยไม่ต้องร่วมกับหน่วยงานของรัฐ และ ประชาชนสามารถปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากเส้นใย ตามประเพณี วัฒนธรรม ตามวิถีชีวิต และใช้ในครอบครัวได้ ครัวเรือนละ ไม่เกิน 1 ไร่ นี่เป็นร่างกฎกระทรวงที่ดำเนินการตามแนวนโยบาย ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน

เป้าหมายของร่างกฎกระทรวง ฉบับนี้ คือ การทำให้กัญชง หรือ กัญชาที่มีสารสำคัญ CBD สูง และ THC ต่ำ เป็นพืชเศรษฐกิจ ตัวใหม่ สำหรับเกษตรกร แต่เนื่องจากขณะนี้ กัญชง ซึ่งก็คือกัญชาสายพันธุ์หนึ่ง ยังเป็นพืชที่ถูกกำหนดให้อยู่ในพรบ.ยาเสพติด จึงยังต้องมีการปฏิบัติตามกฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด มีหลายขั้นตอนต้องทำ และ ทำได้ ดีกว่าไม่มีโอกาสได้ทำ ครับ

ทั้งนี้ ในตอนท้าย นายอนุทินได้เชิญชวนประชาชนและผู้สนใจ ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายดังกล่าว ดังนี้

“เรียน หน่วยงาน/ผู้เกี่ยวข้อง/ผู้สนใจ

อย.ได้จัดทำ (ร่าง) กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. ….
และได้เปิดรับฟังความคิดเห็นทางเว็บไซต์

.http://www.fda.moph.go.th/…/SitePag…/ViewPublicHearing.aspx…

หากมีประเด็นหรือข้อคิดเห็น ทุกท่านสามารถเข้าไปให้ความคิดเห็นได้ โดยหมดเขตรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562

ขอขอบคุณทุกท่าน”

“เทวัญ”ร่วมแถลง! สอบธรรมศึกษาวิถีพุทธปี2562 กว่า 2 ล้านคนเข้าร่วม

People Unity News : “เทวัญ”ร่วมแถลง! “90 ปีสอบธรรมศึกษา สร้างสังคมอุดมปัญญาวิถีพุทธ” ปี2562 กว่า 2 ล้านคนร่วมสอบ

เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2562 ที่อาคารหอสมุดพระพุทธศาสนามหาสิรินาถ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) พุทธมณฑล จ.นครปฐม มหาเถรสมาคม(มส.) โดยสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง และรัฐบาล โดยพศ. ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดน่าน แถลงข่าวโครงการเปิดสอบธรรมศึกษาประจำปีการศึกษา2562 “90ปี สอบธรรมศึกษา สร้างสังคมอุดมปัญญาวิถีพุทธ”

ในการนี้มีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ กรรมการ มส. ในฐานะแม่กองธรรมสนามหลวง นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณรงค์ ทรงอารมณ์ รอง ผอ. รักษาราชการแทน ผอ.พศ. ทั้งนี้มีพระเทพเวที,รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) และรักษาการเจ้าคณะภาค 6 พร้อมผู้แทนคณะสงฆ์จังหวัดน่านร่วมเวทีด้วย

นายเทวัญ กล่าวว่า รัฐบาลได้มอบให้ พศ. ร่วมกับคณะสงฆ์ โดยสำนักงานแม่กองธรรมฯ จัดโครงการเปิดสอบธรรมศึกษา ประจำปีการศึกษา 2562 เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้เยาวชน ข้าราชการ และประชาชน ได้ดำรงชีวิตและประกอบหน้าที่การงาน โดยยึดหลักคุณธรรมและศีลธรรม ซึ่งคือ หลักธรรมาภิบาล และได้ศึกษาเรียนรู้หลักวิชาการพุทธศาสนาในฐานะเป็นพุทธศาสนิกชน เพื่อจะได้น้อมนำหลักธรรมที่ได้ศึกษาแล้วนั้นไปพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

ด้านนายณรงค์ กล่าวว่า การเปิดสอบธรรมศึกษา มีขึ้นครั้งแรก เมื่อปี 2472 ซึ่งการจัดสอบธรรมศึกษาในปี 2562 ได้เข้าสู่ปีที่ 90 แล้ว ซึ่งจะมีการจัดพิธีเปิดสอบในสนามสอบกลาง ในวันที่ 29 พ.ย. ที่วิทยาลัยสงฆ์นครน่าน อ.ภูเพียง จ.น่าน พร้อมกันกับสนามสอบธรรมศึกษาจำนวนกว่า 6,000 แห่ง ทั่วประเทศ โดยมีผู้สมัครสอบธรรมศึกษารวมกว่า 2 ล้านคน

Cr.เพจPrayoon Chothivaro

กรมควบคุมโรคเตือนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ระวังเป็นพิเศษ

People Unity News : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่มีสมรรถนะสูง ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ โดยผู้ขับขี่ต้องมีทักษะในการบังคับทั้งความเร็วและความแรงของรถ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น พร้อมแนะ 7 วิธีปฏิบัติในการขับขี่ให้ปลอดภัย

เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2562 นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า อุบัติเหตุจากการจราจรทางถนน เป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยและในอีกหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดจากรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ จากรายงานของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค พบว่า สถานการณ์รถจักรยานยนต์ขนาด 250 ซีซีขึ้นไป (บิ๊กไบค์) มีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยในปี 2561 มีรถจดทะเบียนใหม่ จำนวน 63,086 คัน เพิ่มจากปี 2560 ถึง 23% และพบว่ารถจักรยานยนต์ที่มีขนาด 250 ซีซีขึ้นไป มีแนวโน้มเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นเกือบ 2 เท่า (ข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก) โดยในปี 2557 มีผู้เสียชีวิต 145 ราย และปี 2559 ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 285 ราย

อย่างไรก็ตาม การขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ซึ่งมีสมรรถนะสูง ผู้ขับขี่ต้องมีทักษะสูงตามไปด้วย และต้องผ่านการฝึกการขับขี่เฉพาะ เพื่อให้เกิดทักษะและประสบการณ์ในการบังคับรถที่มีทั้งความเร็วและความแรง และเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ ที่สำคัญต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ สำหรับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารสาธารณะ รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ขอให้ระมัดระวังอุบัติเหตุ เคารพกฎจราจร เป็นการป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ผู้โดยสาร รวมถึงความปลอดภัยของเพื่อนร่วมทางด้วย

นายแพทย์อัษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า ขอแนะนำผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ด้วย 7 วิธีปฏิบัติในการขับขี่ให้ปลอดภัย ดังนี้ 1.เรียนรู้และฝึกทักษะในการขับขี่ ซึ่งทักษะการขับขี่ขั้นพื้นฐานเป็นประโยชน์อย่างมากในการขับขี่ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนขับบิ๊กไบค์ 2.ศึกษาอุปกรณ์ในการขับขี่ เพื่อช่วยในการปกป้องร่างกายหากเกิดอุบัติเหตุ 3.เตรียมรถให้พร้อม ตรวจเช็คสัญญาณไฟ รวมถึงสภาพยางรถ 4.ศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ในการขับขี่ในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย 5.สังเกตและคาดการณ์ล่วงหน้า เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น อาจบีบแตรส่งสัญญาณเตือน หรือหยุดรถเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย 6.ไม่ควรขับแซงหรือเปลี่ยนช่องทางการจราจรอย่างกะทันหัน หากต้องการเปลี่ยนช่องการจราจร ให้สัญญาณไฟเลี้ยวล่วงหน้าในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร และ 7.หากทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง ไม่ดี ควรจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย รอจนกว่าทัศนวิสัยจะดีขึ้น จึงค่อยขับรถต่อไป หากพบเห็นอุบัติเหตุควรรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

“อนุทิน”ชื่นชม “อสม.-อสต.” ตากดูแลสุขภาพประชาชนแนวชายแดน

People Unity News : “อนุทิน”รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พบปะ อสม.และอสต. จังหวัดตาก มอบนโยบายให้ อสม.กว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ รวมพลังสร้างให้คนในประเทศแข็งแรง ส่งเสริมให้รักษ์สุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารถูกสุขลักษณะ

เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2562 ที่ จ.ตาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ เยี่ยมติดตามการดำเนินงานสาธารณสุขพื้นที่ชายแดนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินี ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด และให้สัมภาษณ์ว่า อสม.เป็นกำลังสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นแก่ประชาชน สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันโรค ลดการเจ็บป่วย ด้วยเป้าหมายเดียวกัน คือช่วยให้ประชาชนสุขภาพดี โดย อสม.ทุกคนจะได้รับการพัฒนาศักยภาพให้เป็นหมอประจำบ้าน ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สหวิชาชีพ และทีมหมอครอบครัว

“ขอแรง อสม. 1 ล้านกว่าคนทั่วประเทศ รวมพลังสร้างให้คนในประเทศแข็งแรง ส่งเสริมให้รักษ์สุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารถูกสุขลักษณะ จะช่วยลดการเจ็บป่วย ลดภาระงานเจ้าหน้าที่ ปัญหาสาธารณสุขของประเทศจะคลี่คลายลงได้” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวต่อว่า จ.ตาก เป็นพื้นที่ชายแดน ได้จัดการอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) เพิ่มเติมขึ้น เพื่อเป็นเครือข่ายดำเนินการร่วมกันในพื้นที่ จับคู่ทำงานกับ อสม. แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารสุขภาพและป้องกันโรคติดต่อตามแนวชายแดน ปัจจุบันมี อสต. 661 คน และมี อสม. 12,790 คน ทั้งหมดได้รับการอบรมเป็นผู้บริบาลผู้ป่วยในหมู่บ้าน (Care Giver) การอบรมช่วยพื้นคืนชีพ การอบรมการปฐมพยาบาล การอบรม อสม.นักจัดการ 4.0 และ อสม.หมอประจำบ้าน

สำหรับสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินีแห่งนี้ เป็นสถานบริการสาธารณสุขที่ให้บริการประชาชนด้วยความสง่างามและสมพระเกียรติ ทั้งด้านสถานที่และการให้บริการที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามหลักวิชาการตามบริบทของพื้นที่ สนองงานในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 เผยแพร่พระเกียรติคุณและกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติ ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งราชการ ท้องถิ่น เอกชน ประชาชนที่ได้ช่วยกันดูแลประชาชนในพื้นที่ 7,396 คน

“อนุทิน”เปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์รพ.แม่สอดเน้นรักษา 5 กลุ่มโรค

People Unity News : “อนุทิน”รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ โรงพยาบาลแม่สอด โดยเป็น 1 ใน 32 โรงพยาบาลที่เปิดให้บริการในระยะที่ 2 เน้นรักษาใน 5 กลุ่มโรค คือ ลมชักดื้อยา คลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด ภาวะปวดประสาท ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ปลอกประสาทอักเสบ/เสื่อมแข็ง และผู้ป่วยระยะประคับประคอง มะเร็งระยะสุดท้าย

เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2562 ที่ จ.ตาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์โรงพยาบาลแม่สอด และให้สัมภาษณ์ว่า คลินิกกัญชาทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลแม่สอดแห่งนี้ เป็น 1 ใน 32 โรงพยาบาลที่ได้เปิดบริการเพิ่มในระยะที่ 2 เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชา เข้าถึงกัญชาเพื่อการรักษาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรม ด้วยระบบการบริหารจัดการที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง โดยได้รับสารสกัดน้ำมันกัญชาจากโรงพยาบาลอภัยภูเบศรแล้ว 200 ขวด

การเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ จะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้สารสกัดจากกัญชารักษาโรคภายใต้การดูแลของแพทย์ เภสัชกร พยาบาลที่ผ่านการอบรม และเป็นการเก็บข้อมูลผลการรักษาเพื่อนำมาวิเคราะห์วิจัย พัฒนายกระดับการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งจะเป็นนวตกรรมที่เกิดประโยชน์กับวงการแพทย์ต่อไป
สำหรับคลินิกกัญชาทางการแพทย์ โรงพยาบาลแม่สอด เปิดบริการรักษาผู้ป่วยใน 5 กลุ่มโรคหลัก คือ

โรคลมชักดื้อยา คลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด อาการปวดที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ปลอกประสาทอักเสบ/เสื่อมแข็ง และผู้ป่วยระยะประคับประคอง มะเร็งระยะสุดท้าย ภายใต้การดูแลบุคลากรที่ผ่านการอบรมคือ แพทย์ 1 คน เภสัชกร 3 คน พยาบาลวิชาชีพ 3 คน และแพทย์แผนไทย 2 คน เปิดให้บริการทุกวันพฤหัส สัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของเดือน เวลา 8.30 – 12.00 น. คาดว่าจะให้บริการประชาชนได้วันละ 30 ราย โดยมีอายุรแพทย์ประสาทวิทยา จิตแพทย์ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน แพทย์นิติเวชและห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ร่วมให้การดูแลและให้คำปรึกษา

ทั้งนี้ จังหวัดตากเป็น 1 ในจังหวัดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันตก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้มีแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ เพื่อรองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการเคลื่อนย้ายประชากรของแรงงานต่างชาติ รวมทั้งโรคติดต่อตามแนวชายแดน ซึ่งโรงพยาบาลแม่สอดเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายรับส่งต่อผู้ป่วยจากสถานพยาบาลภาครัฐและองค์กรเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์ (Non-government Organizations : NGO) ในพื้นที่ชายแดน รวมทั้งรับส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเมียวดีที่มีความประสงค์จะมารักษาต่อ โดยการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายชายแดน การจัดบริการเชิงรุกอย่างเป็นมิตรในโรงพยาบาลชุมชน และข้ามประเทศ การพัฒนาระบบข้อมูลสาธารณสุขต่างชาติ และการพัฒนาความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนภายในและนอกประเทศ

ฮือฮา!วัตถุมงคลงานทอดกฐินวัดช้างบ้านนานครนายก แจก”ช้อนเงิน ช้อนทอง มหามงคลรุ่น 1″

People Unity News : ฮือฮา!…วัตถุมงคลงานทอดกฐินวัดช้าง อ.บ้านนา จ.นครนายก แจก “ช้อนเงิน ช้อนทอง มหามงคล รุ่น 1” เป็นที่ระลึกแก่ ญาติโยม ผู้เป็นเจ้าภาพกฐิน วันที่ 3 พฤศจิกายน 2562

งานบุญทอดกฐินสามัคคี วัดช้าง ในวันที่ 3 พ.ย.2562 นี้ พระครูโสภณนาคกิจ หรือ พระอาจารย์เดช อายุวฑฺฒโก เจ้าคณะอำเภอบ้านนา เจ้าอาวาสวัดช้าง ได้เมตตาจัดสร้างวัตถุชัยมงคล ช้อนเงิน ช้อนทอง มหามงคล รุ่น 1 ทั้งก่อนที่จะได้ร่วมบุญกับทางวัดพระอาจารย์เดชก็จะทำการปลุกเสกวัตถุชัยมงคลตามวาระฤกษ์มงคลของท่านให้ดีที่สุดที่ได้ดำเนินการจัดสร้าง เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้เพิ่มพูนร่วมบุญกฐิน เพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างเสนาสนะภายในวัดให้แล้วเสร็จสืบต่อไป มาร่วมบุญอนุโมทนาบุญกฐินกับทางวัด

สำหรับการจัดสร้างวัดถุมงคลนี้ โบร่ำโบราณเชื่อกันว่าใช้สำหรับ ตัก ตวง เพิ่มพูนทรัพย์สิน เงินทอง นำพาเป็นโภคทรัพย์หนุนนำสิ่งมงคลต่างๆ เข้าบ้านเรือน ตามความเชื่อโบราณท่านว่า หากบ้านไหนมีช้อนเงิน ช้อนทองอยู่ในบ้านจะทำให้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านนั้นพบเจอแต่ความเจริญรุ่งเรือง ในทุกๆ ด้าน เพราะช้อนเงินช้อนทองคู่นี้จะสามารถตักเงิน ตักทอง เข้าบ้าน

หากแม้นเป็นงานมงคลสมรสของคู่บ่าวสาว หลาย ๆ คู่ ก่อนที่จะจัดงานมงคลระหว่างกัน ก็มักจะมองหาสิ่งที่มีความประทับใจและมีนัยยะความหมายดี ๆ และเหมาะสม เป็นเครื่องหมายสำหรับผู้มาร่วมงานแสดงความยินดีให้กับผู้เป็นเจ้าของงาน และมอบให้เป็นสิ่งตอบแทนกลับไปเป็นที่ระลึกในงานมงคลอีกด้วย

จำนวนการจัดสร้างไม่มากนัก ประกอบด้วย เนื้อเงิน 59 ชิ้น เนื้อขาวซิลเวอร์พลัส 1,000 ชิ้น เนื้อเหลืองทองทิพย์ 1,000 ชิ้น เนื้อแดงสัมฤทธิ์ 1,000 ชิ้น ในงานบุญทอดกฐินสามัคคีวัดช้าง

ในวาระอันเป็นมงคลนี้หลวงพ่อท่านได้เมตตาจัดสร้างวัตถุชัยมงคล ช้อนเงิน ช้อนทอง มหามงคล รุ่น ๑ ก่อนที่จะได้ร่วมบุญกับทางวัดหลวงพ่อท่านก็จะทำการปลุกเสกวัตถุชัยมงคลตามวาระฤกษ์มงคลของท่านให้ดีที่สุดที่ได้ดำเนินการจัดสร้าง เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้เพิ่มพูนร่วมบุญกฐิน เพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างเสนาสนะภายในวัดให้แล้วเสร็จสืบต่อไป

ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบุญทอดกฐิน กลับวัดบ้านนา ได้ที่ Page https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2859568004053253&id=100000002455353

“แพนเค้ก​ เขมนิจ​”พร้อมครอบครัวทำบุญทอดกฐินที่วัดไทยเมืองลียง​ฝรั่งเศส

People Unity News : “แพนเค้ก​ เขมนิจ​”พร้อมครอบครัวทำบุญทอดกฐินที่วัดไทยเมืองลียง​ฝรั่งเศส สมเด็จพระมหาธีราจารย์เป็นประธาน

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณกรรมการฝ่ายสาธารณะสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพมหานคร ได้เดินทางไปเป็นประธานในการทอดกฐินสามัคคี​ ณ​ วัดนวมินทรราชูทิศ​ เมืองลียง​ ประเทศฝรั่งเศส ในโอกาสนี้มี”แพนเค้ก​ เขมนิจ​ เขมนิจ​ จามิกรณ์” นางนวลอนงค์​ จามิกรณ์​ พร้อมครอบครัวและคณะ​ ได้เดินทางไปร่วมทำบุญด้วย

Cr.เพจ Watnawamin Lyon

Verified by ExactMetrics