วันที่ 3 พฤษภาคม 2024

“จุรินทร์”ยันพาณิชย์หนุน SME ให้ทันสมัยเป็นรากฐานสังคม

People Unity : “จุรินทร์” สั่งจัดรับฟังความเห็นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบบัญชีเพื่อขยายอำนาจทีเอ ย้ำบริษัท CSR ที่ถูกต้องทำเพื่อสังคมมากกว่าบริษัทอื่น เน้นก.พาณิชย์ส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจ SME ให้ทันสมัยเป็นรากฐานสังคม

เมื่อเวลา 10.00 น.-11.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ของสมาคมผู้สอบบัญชีภาษีอากรแห่งประเทศไทย ณ รร.ริชมอนด์ ถนนรัตนาธิเบศ จ.นนทบุรี

นายจุรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญในการพัฒนาและผลักดันเศรษฐกิจการค้าของประเทศ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจ SME ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มีความแข็งแกร่งโดยปรับเปลี่ยนจากผู้ประกอบการ SME ดั้งเดิม (Tradition SME)ไปสู่ผู้ประกอบการที่เน้นนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น (Smart Enterprise ) ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจเกิดความตระหนัก และมีจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจในการจัดทำบัญชี และการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง รวมถึงลดต้นทุนการประกอบการ และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันผมจึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญในการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพธุรกิจ SME ของประเทศไทยให้สอดรับกับยุคดิจิตอลเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง

การประกอบธุรกิจเพื่อสังคม CSR นั้นต้องแตกต่างจากธุรกิจ ปกติ แต่ต้องทำเพื่อสังคมเข้มข้นเป็นรูปธรรมกว่า เพราะได้รับสิทธิพิเศษมากกว่านิติบุคคลธรรมดาทั่วไป ดังนั้นต้องนำสิทธิพิเศษนั้นไปแลกกับการทำเพื่อสังคม ตอนนี้มีประกาศที่ลงนามไปทั้งหมด 4 ฉบับประกาศในราช 1.ประกาศเรื่องกำกับดูแลกิจการที่ดีลงนามเองเมื่อ 14 กย.2562 2.ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม เรื่องกำหนดรายการอื่นเพื่อสังคม 3.ประกาศเรื่องระยะเวลาดำเนินการแระกอบธุรกิจเพื้อสังคม 24 กย2562 4.ประกาศเรื่องเงื่อนไขการนำกำไรไปใช้เพื่อสังคมต้องเป็นไปตามเงื่อนไข พรบ.วิสาหกิจเพื่อสังคม มาตรา 5

นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องการจดทะเบียนออนไลน์ สามารถดำเนินการได้แล้ว เรื่องต่อมากรณีบริษัทจำกัดคนเดียวเป็นเรื่องตรากฎหมายอยู่ระหว่างกฤษฎีการอกลับมาครมและเข้่สภาฯต่อไป เช่นกันกับบริษัท 2 คนจำกัดและ 3 คนจำกัด อย่างไรก็ตามประเทศไทยก็ไปทีละขยัก ส่วนเรื่องการขอหนังสือรับรองหรือนำส่งงบการเงินด้วยระบบอิเลคทรอนิคสามารถดำเนินการได้แล้ว 10 ธนาคาร และนำส่งงบการเงินประจำปีทาวอิเลคทรอนิคได้ โดยเมื่อปี 2561 สามารคใช้ได้ถึง ร้อยละ 91 และขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กำลังพัฒนาเรื่องการยืนยันตัวตนผ่านทางออนไลน์

” ส่วนเรื่องขอเพิ่มอำนาจทีเอ ( Tax Auditor) หรือผู้ตรวจสอบบัญชี ให้สามารถตรวจสอบรับรองบัญชีมากกว่าเดิมนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีนโยบายขณะนี้เพราะมีทั้งบวกและลบแต่สิ่งที่มีนโยบาย คือ ต้องให้ทุกฝ่ายต้องมีความเห็นสอดคล้องกันเสียก่อน ดังนั้นจึงควรจัดเวทีรับฟังความเห็นทุกสมาคม ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ตกผลึกว่าสุดท้ายควรเป็นอย่างไร เมื่อสรุปความเห็นแล้วจึงค่อยดำเนินการ ” นายจุรินทร์ กล่าว

ด้าน ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย นายกสมาคมผู้สอบบัญชีภาษีอากรแห่งประเทศไทยว่า การประชุมใหญ่สามัญสมาชิกในวันนี้ถือเป็นการครบรอบ 12 ปี ของการก่อตั้งสมาคมซึ่งมีสมาชิกจำนวนมากกว่า 1600 ท่าน ประกอบด้วยผู้สอบบัญชีภาษีอากร นักบัญชีผู้ประกอบการ และกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรจาก 4 สมาคมซึ่งถือเป็นการรวมตัวกันเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและยกระดับวิชาชีพด้านบัญชี ซึ่งมีทั้งผู้ทำบัญชี ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และผู้สอบบัญชีภาษีอากร เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญที่ร่วมช่วยกันส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจ SME

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯขอบคุณกก.วัตถุอันตราย”แบน 3 สารพิษ”

People Unity : องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอบคุณคณะกรรมการวัตถุอันตรายและรัฐมนตรีทั้ง 3 กระทรวง ที่มีมติแบน 3 สารพิษ ชื่นชมการปฎิบัติหน้าที่โดยมิเพิกเฉยต่อสุขภาพ ชีวิต หวังเห็นความร่วมมือจัดการปัญหาการใช้สารพิษในการเกษตรอย่างเหมาะสม และ ยั่งยืน อย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ACT ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 เรื่องขอขอบคุณคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีมติยกเลิกการใช้พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตเพื่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และคนไทยทุกคน โดยในแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการประชุมและได้ลงมติอย่างเปิดเผยให้มีการยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีอันตราย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตนั้น องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ขอขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างดำรงไว้ซึ่งจริยธรรมและมนุษยธรรม มิเพิกเฉยต่อสุขภาพ ชีวิต ทั้งในส่วนของเกษตรกรผู้รับผลกระทบโดยตรงและผู้บริโภคผู้ได้รับผลกระทบในภายหลัง และที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง คือ การดำเนินการให้มีการลงมติอย่างเปิดเผย ตามที่องค์กรฯ และหลายภาคส่วนเรียกร้อง ช่วยสร้างความมั่นใจในเรื่องความโปร่งใสในการพิจารณา

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอขอบคุณไปยังท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (คุณอนุทิน ชาญวีรกูล) รวมทั้งรัฐมนตรี (คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน) และรัฐมนตรีช่วย (คุณมนัญญา ไทยเศรษฐ์) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ซึ่งได้แสดงจุดยืนชัดเจน ให้ยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีดังกล่าว และร่วมรณรงค์ผลักดันจนทำให้มีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย จนนำมาซึ่งการลงมติดังกล่าวในที่สุด

“องค์กรฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การมีมติยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งความร่วมมือกันในการจัดการปัญหาการใช้สารพิษในการเกษตรอย่างเหมาะสม ยั่งยืน และเป็นจุดเริ่มต้นแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดต่อทั้งชีวิตของ’เกษตรกรผู้ใช้ ระบบนิเวศทางธรรมชาติและชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง โดยทางองค์กรฯและเครือข่าย พร้อมจะทำหน้าที่ในการสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้ปฎิบัติงานอย่างซื่อตรงต่อหน้าที่และความรับผิดชอบ เพื่อยังประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนคนไทยในทุกระดับ”

“ธนาธร”อภิปรายงบฯปี63นอกสภาฯ ลุยต่อช่วย”ไพรัฏฐโชติก์”หาเสียงนครปฐม

People Unity : “ธนาธร”ลุยต่อลงพื้นที่ช่วย “ไพรัฏฐโชติก์” เลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐม เขต 5 ขอพี่น้องสามพรานเป็นแรงบันดาลใจให้เขตเลือกตั้งซ่อมอื่นทั่วประเทศ พร้อมอธิปรายงบฯปี 2563 นอกสภาฯ

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2562 ที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่ช่วย นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม เขต 5 ของพรรคอนาคตใหม่ หาเสียงสำหรับการเลือกตั้งซ่อมที่จะมาถึงในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ โดยในช่วงเช้านายธนาธร ลงพื้นที่ในตลาดสมภพพลาซ่า เดิแจกใบปลิวพร้อมแนะนำผู้สมัครให้กับพ่อค้าแม่ขายตามแผงเรียงกันไปทั้งตลาด บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น​ พ่อค้าแม่ขายในตลาดต่างให้กำลังใจและหยิบโทรศัพท์​มือถือขึ้นมามาเซลฟี่กับนายธนาธรอย่างเป็นกันเอง

นายธนาธร กล่าวว่า หากพรรคในฝ่ายประชาธิปไตยชนะในเขตเลือกตั้งซ่อมทั้งหมด อาจจะทำให้เปลี่ยสมการ เปลี่ยนสมดุล​ทางการเมืองได้ เขต 5 จ.นครปฐม จึงเปรียบเหมือนเป็นโดมิโน​ตัวแรก ถ้าที่นี่แสดงให้เห็นได้ ถ้าประชาชนไม่ให้การสนับสนุน​รัฐบาล​ชุดนี้ ก็อาจจะเกิดโดมิโน ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง​รัฐบาล​ โดยไม่ใช้ความรุนแรงผ่านกลไลรัฐสภา​ ตนอยากให้พี่น้องชาวสามพราน เป็นกำลังใจ และเป็นแรงบันดาลใจ​ ให้กับเขตเลือกตั้งซ่อมอื่นทั่วประเทศ

ทั้งนี้นายธนาธร ยังได้กล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ​รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า เราเห็นช่องว่างในสิ่งที่รัฐบาลพูดและรัฐบาลทำ งบประมาณ​ฉบับ​นี้ไม่สามารถแก้ปัญหา​ความเหลื่อมล้ำได้ งบประมาณฉบับ​นี้ไม่สามารถแก้ปัญหา รัฐราชการรวมศูนย์​อยู่ที่กรุงเทพฯได้ งบประมาณฉบับนี้ไม่มีการลงทุนที่เพียงพอ สำหรับชีวิตความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ดังนั้นถ้าประชาชนติดตามการอภิปรายของ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ นอกจากจะวิจารณ์​การใช้งบประมาณที่ไม่เหมาะสมและไม่มีประสิทธิภาพ​แล้ว เรายังเสนอทางออก และให้ข้อคิดเห็นไปอีกด้วย ว่าถ้าเป็นอนาคตใหม่จะจัดสรรงบประมาณอย่างไร เพราะพรรคอนาคตใหม่ต้องการจะสร้างการเมืองที่สร้างสรรค์​

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายธนาธร ลงพื้นที่ตลาดสมภพเรียบร้อยแล้ว ได้ขึ้นรถแห่ เพื่อใช้เครื่องกระจายเสียง จากตลาดสมภพไปยังซอยโรมัน โดยระหว่างที่นายธนาธร ขึ้นรถแห่เพื่อหาเสียงช่วยนายไพรัฏฐโชติก์ ประชาชนสองข้างทางได้โบกไม้โบกมือให้การต้อนรับด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มตลอดสองข้างทาง

ทั้งนี้พรรคอนาคตใหม่ จะมีการปราศรัย​ใหญ่ก่อนการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 สามพราน จ.นครปฐม​ในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.)​ ที่ตลาดธันยา ตั้งแต่เวลา17.00 น. เป็นต้นไป

“อนาคตใหม่” ตั้ง กก.สอบ “กวินนาถ” สั่งงดร่วมกิจกรรมภายในของพรรค

People Unity :”อนาคตใหม่” ตั้ง กก.สอบ “กวินนาถ” สั่งงดร่วมกิจกรรมภายในของพรรค จนกว่าจะมีมติ พร้อมขอโทษ-รับเรื่อง ปชช.ที่ไม่พอใจ “ปิยบุตร” ยันไม่มีความความขัดแย้ง ส.ส.เขต-ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

วันที่ 21 ต.ค.2562 ที่พรรคอนาคตใหม่ ตึกไทยซัมมิททาวเวอร์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พร้อม ส.ส.อนาคตใหม่ แบบแบ่งเขตจำนวนมากร่วมแถลงข่าวจากกรณีที่กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7 ได้ลงมติสวนมติพรรค 2 ครั้งในรอบ 3 วันในการประชุมสภาเมื่อวันที่ 17-19 ตุลาคม ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ร่วมตอบคำถามจากกรณีที่มีข่าวลือความขัดแย้งระหว่าง ส.ส.แบบแบ่งเขต และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในประเด็นที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.แบบเขตน้อยใจ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้น โดย นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคการเมืองโดยหลักแล้ว คือที่รวมตัวของสมาชิกที่มีความเห็น ความคิดและอุดมการณ์ในทิศทางเดียวกัน แล้วรวมตัวกันเข้ามาเพื่อจะต่อสู้ในทางการเมือง เข้าไปมีอำนาจรัฐ เพื่อผลักดันความคิด อุดมการณ์ของพรรคให้สำเร็จ นี่คือการเกิดขึ้นของพรรคการเมือง ดังนั้น แนวทางและอุดมการณ์ของพรรคคือสิ่งที่สำคัญ หากเราปล่อยให้ ส.ส. ลงมติอย่างอิสระ อย่างนี้ก็ไม่รู้จะมีพรรคการเมืองไปเพื่ออะไร และอย่างนี้ ส.ส.จะสังกัดพรรคการเมืองไปเพื่ออะไร

“ถามว่าจะหาจุดสมดุลระหว่างมติของพรรค ซึ่งดำเนินการตามแนวทางอุดมการณ์ของพรรคการเมือง กับ ความเป็นอิสระของ ส.ส. ในการลงมติอย่างไร ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ ใช้ที่ประชุม ส.ส. ทุกๆวันอังคารในช่วงบ่ายเพื่อปรึกษาหารือ หลายเรื่องมีการถกเถียง อภิปรายกันในที่ประชุม เรื่องไหนที่เห็นคล้อยตามกันก็หามติได้โดยง่าย แต่เรื่องไหนที่มีข้อถกเถียงในเรื่องสำคัญๆ ก็เปิดโอกาสให้ ส.ส. ของพรรค ได้อภิปรายอย่างเต็มที่ หลายครั้งที่หัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรคกลายเป็นเสียงข้างน้อยในที่ประชุม อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วก็จะเปิดให้ลงมติต่อเรื่องนั้นๆ ภายในที่ประชุม ซึ่งก็จะถือเอาตามเสียงข้างมาก ขณะเดียวกันเสียงข้างน้อยก็จะปฏิบัติตามเสียงข้างมาก โดยเคารพเสียงข้างน้อยตรงที่ทุกฝ่ายมีโอกาสได้อภิปรายถกเถียงแลกเปลี่ยนกันอย่างเต็มที่” นายปิยบุตร กล่าว

เปิด ส.ส.-สมาชิกวิจารณ์หัวหน้า-กก.บห.พรรคได้

นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า ก่อนมีการเปิดประชุมสภา พรรคอนาคตใหม่ได้จัดสัมมนา เพื่อเปิดโอกาสให้ ส.ส. ของพรรค ได้วิจารณ์หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคได้อย่างเต็มที่ เพื่อถอดบทเรียนการทำงานในสภาที่ผ่านมา เราเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่ เป็นหนึ่งในไม่กี่พรรคในประเทศนี้ ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรค และ ส.ส.ของพรรค สามารถวิจารณ์หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค แบบที่เราได้จัดขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของการลงมติที่ประชุม ส.ส.ของพรรคนั้น พรรคอนาคตใหม่เข้าใจดีว่าเรื่องบางเรื่อง ส.ส.บางท่านอาจมีข้อจำกัด ที่ไม่สามารถลงตามมติของพรรคไม่ได้จริงๆ ยกตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งมีการลงมติว่าจะสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญว่าด้วยความหลากหลายทางเพศ แต่ก็มี ส.ส.ของพรรค ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม ก็มีข้อจำกัด ลุกขึ้นยืนในที่ประชุม ส.ส. ชี้แจงแสดงเหตุผลของการลงมติงดออกเสียง ซึ่งในกรณีแบบนี้ก็ถือว่าสามารถเป็นข้อยกเว้นได้เช่นเดียวกัน นี่คือกระบวนการในการทำงานเพื่อแสวงหามติที่ประชุมของ ส.ส. จนกลายเป็นมติพรรค เพื่อให้ ส.ส. นำไปลงมติในสภาผู้แทนราษฏรต่อไป

ตั้ง กก.สอบ “กวินนาถ” – สั่งงดร่วมกิจกรรมภายใน

นายปิยบุตร กล่าวว่า กรณีของคุณ กวินนาถ ซึ่งลงมติสวนทางกับพรรค 2 ครั้งติดต่อกันภายใน 3 วัน ตามข้อบังคับพรรคอนาคตใหม่แล้ว ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดวินัย ดังนั้น คณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรค จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง หลังจากนั้นจะส่งเรื่องมาให้คณะกรรมการบริหารพรรค มีคำวินิจฉัยหรือลงโทษต่อไป อย่างไรก็ตาม เกิดกระแสจากสมาชิกพรรคและผู้ที่ลงคะแนนให้กับพรรคอนาคตใหม่ ทั้งจังหวัดอื่นๆและเขต 7 ชลบุรี ได้ร้องเรียนและแสดงถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก อยากจะให้พรรครีบดำเนินการในเรื่องนี้ ดังนั้น ในระหว่างรอการสอบสวนขอเท็จจริงของคุณกวินนาถ พรรคจึงจำเป็นต้องสั่งห้ามให้คุณกวินนาถ ตาคีย์ ดำเนินกิจกรรมใดๆ กับพรรคอนาคตใหม่ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา จากคณะกรรมการบริหารพรรค

“ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนของพรรคอนาคตใหม่ และเพื่อนส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทุกคน จำเป็นจะต้องขอโทษไปยังพี่น้องประชาชนในเขต 7 จังหวัดชลบุรี ที่ลงคะแนนเสียงให้คุณกวินนาถ ตาคีย์ ให้เป็น ส.ส. ด้วยความหวังว่าคุณกวินนาถ ตาคีย์ จะเข้ามาเป็นส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ แล้วจะมาร่วมกันผลักดันอุดมการณ์ของพรรค จะมาร่วมการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล คสช. จะมาร่วมกันสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงกลับคืนมา ผมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่ ส.ส.ของเรานั้น ได้ลงมติ สวนมติของพรรคไปถึง 2 ครั้งติดต่อกัน” นายปิยบุตร กล่าว

ยันไม่มีความความขัดแย้ง ส.ส.เขต-ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า จากกรณีข่าวลือความขัดแย้งระหว่าง ส.ส.เขตและส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นผลโดยตรงจากการออกแบบระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มักจะเชื่อกันไปว่า ส.ส.เขต ลงไปเก็บคะแนนให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นักวิชาการหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า เป็นจุดอ่อนของระบบการเลือกตั้งที่ออกแบบมา ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า ทั้ง ส.ส.เขตและส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทำงานด้วยกันเป็นอย่างดี สมัครสมานสามัคคี เรามีการสร้างกระบวนการภายในพรรค เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยกระชับความสัมพันธ์ ร่วมกันทำงานให้สอดคล้องตามอุดมการณ์ของพรรค เราเชื่อว่าจากข่าวลือที่ออกไปนั้น มาจากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ดี ให้ข่าวออกไปว่าในพรรคอนาคตใหม่นั้นมีรอยร้าวระหว่าง ส.ส.เขตและส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แต่ในส่วนการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐม เขต 5 อ.สามพราน ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการร่วมใจกันของส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่พรรคการเมือง ที่ ส.ส.ทุกคนพร้อมใจกันไปช่วยกันหาเสียง ในเขตเลือกตั้งเขตเดียว นี่คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่าส.ส.ทุกคนทำงานกันอย่างสามัคคี

ระบบของพรรคออกแบบถ่วงดุล ส.ส.-ทีมจว.-สมาชิก

นายปิยบุตร กล่าวว่า อยากเรียนสื่อมวลชนผ่านไปยังพี่น้องประชาชนว่า เวลามองมาที่พรรคอนาคตใหม่ ถ้าท่านมองจากมิติการเมืองแบบเดิม ท่านก็จะได้ผลลัพธ์แบบเดิม แต่ถ้าท่านมองจากมิติการเมืองแบบใหม่ ท่านก็จะได้ผลลัพธ์แบบใหม่ มิติการเมืองแบบใหม่คือ เราฝันกันมานานไม่ใช่หรือ ว่าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ควรจะต้องมีลักษณะเป็นพรรคของมวลชน พรรคของสมาชิก พรรคของคนทุกๆคน พรรคการเมืองจะต้องไม่ใช่เป็นเพียงที่สังกัด ของคนที่มาลง ส.ส. แต่ควรจะเป็นพรรคการเมืองของมวลชน ที่เห็นพ้องต้องกันในอุดมการณ์เดียวกัน และต่อสู้ร่วมกันเพื่อให้ดำเนินการผลักดันตามอุดมการณ์นั้น นี่คือสิ่งที่เราฝันว่าอยากมีพรรคการเมืองแบบนี้ แน่นอนว่าเรายังทำได้ไม่เต็มร้อย เพราะทุกๆอย่างมีขั้นตอนของมัน แต่นี่คือจุดประสงค์ จุดหมาย ของเรา ที่เราตั้งใจจะทำพรรคอนาคตใหม่ให้เป็นลักษณะแบบนี้ให้ได้

“ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่จึงไม่ได้เป็นบ้านที่คนอยากเป็น ส.ส.มาสังกัดเพื่อลงสมัคร พรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่พรรคที่คนเห็นว่ากระแสพรรคกำลังดีเลยของอาศัยชื่อของพรรคเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่พรรคนี้คือที่รวมตัวกันของคนที่คิดแบบเดียวกัน มีอุดมการณ์ มีแนวทางแบบเดียวกัน และจะต่อสู้ร่วมกัน ผมยืนยันว่า ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งพรรคอนาคตใหม่มา หัวหน้าพรรคได้เปิดโอกาสให้สมาชิกและส.ส. พูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่เสมอ ดังนั้น จากข่าวที่ออกไปว่า หัวหน้าพรรคเป็นเผด็จการรวบอำนาจ ไม่เป็นความจริง ในทางกลับกันถ้าหัวหน้าพรรคเป็นเผด็จการรวบอำนาจจริง จะไม่มีกระแสออกไปแบบนี้ แต่เป็นเพราะเรายอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และมาปรับความเข้าใจกัน ไม่เห็นด้วยเรื่องใดก็มาพูดคุยกัน นี่คือกระบวนการการทำงานขอพรรคอนาคตใหม่” ปิยบุตร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงาน ทั้งนี้ในตอนท้ายการแถลงข่าว นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.เขต 1 จ.ขอนแก่น ซึ่งมีรายชื่อตามข่าวว่าน้อยใจคิดจะออกไปตั้งพรรคใหม่ได้ยืนยันว่าเป็นเพียงข่าวลือ และไม่ได้มีความขัดแย้ง หรือน้อยใจ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแต่อย่างใด พร้อมที่จะทำงานกับพรรคต่อไปจนกว่าประเทศจะมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

“บิ๊กตู่”ยันรัฐบาลตั้งใจแก้น้ำท่วมแต่งบฯไม่เพียงพอ

People Unity : “บิ๊กตู่”ยันรัฐบาลตั้งใจแก้ไขปัญหาบริหารจัดการน้ำ แต่ไม่สามารถแก้ไขทีเดียวได้ทั้งหมด เพราะงบฯไม่เพียงพอ ต้องคำนึงถึงที่ดิน ปชช.ยันรัฐไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

วันที่ 18 ต.ค.2562 หลังจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า การจัดสรรงบประมาณโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับน้ำและการพัฒนาลุ่มน้ำ ไม่เหมาะสม เพราะจัดสรรงบประมาณแบบรัฐรวมศูนย์ราชการเป็นใหญ่ ทั้งนี้พบการจัดสรรงบประมาณที่เน้นการเยียวยามากกว่าเตรียมพร้อม หรือรักษามากกว่าการป้องกันวิกฤต ทั้งนี้ในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับน้ำควรนำตัวอย่างจากต่างประเทศมาพิจารณา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ กบช. ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า มีการบูรณาการหลายหน่วยงานและทำงานในรูปแบบคณะกรรมการเพื่อบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศ ซึ่งการแก้ไขปัญหาจะมองด้านใดด้านหนึ่งว่าอุทกภัยหรือภัยแล้งอย่างเดียวไม่ได้ แม้จะมีปริมาณน้ำฝนเพียงพอ แต่ปัญหาคือการบริหารจัดการกักเก็บน้ำอย่างไรไม่ให้น้ำท่วม และมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีแนวทางการบริหารจัดการน้ำว่า ต้องไม่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ซึ่งในกรณีจำเป็นเร่งด่วนก็ต้องใช้งบฯกลางแก้ไขทั้งสิ้น แต่สมาชิกหลายคนกลับพยายามอภิปรายเสนอตัดงบฯกลาง แต่ปัญหาคือไม่มีทางแก้ไขได้ 100 % เนื่องจากยังมีปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ของประชาชน ทั้งการพัฒนาระบบชลประทานการจัดทำบ่อกักเก็บน้ำ รวมถึงการระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออกและตะวันตก เนื่องจากมีอุปสรรคเกี่ยวกับพื้นที่ของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องคำนึงถึงด้วยเช่นกัน รวมถึงการแก้ไขปัญหาไม่สามารถทำได้ทีเดียวทั้งหมด เพราะงบประมาณไม่เพียงพอ

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้งเกษตรกร พยายามแก้ไขปัญหา แต่ต้องคำนึงถึงขั้นตอนที่ซับซ้อนด้วย จะเอาแต่หลักวิชาการอย่างเดียวมาแก้ปัญหาคงไม่ได้ ต้องเอาพฤติกรรมและความเป็นคนไทยมาพิจารณา เพื่อแก้ปัญหาแบบบูรณาการ รวมถึงขอให้ ส.ส.ไปพูดคุยกับประชาชนและหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย หากสามารถดำเนินการได้ รัฐบาลก็มีงบประมาณแก้ปัญหาให้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ และมีเป้าหมายว่าจะทำอย่างไรให้มีพื้นที่ชลประทานมากขึ้นและน้ำจะไม่ท่วม

“อนค.” เดือดโต้ “สิระ”! ฉุนเปรียบ “ธนาธร” เป็นไส้เดือน

People Unity : “อนค.” เดือดโต้ “สิระ”! ฉุนเปรียบ “ธนาธร” เป็นไส้เดือน เหตุนั่ง กมธ.งบฯ63 แนะทำหน้าที่ให้สมกับกินภาษีของประชาชน

วันที่ 28 ต.ค.2562 นายคารม​ พลพรกลาง​ ส.ส.บัญชื่อรายชื่อพรรคอนาคตใหม่​ ตั้งคำถามไปยังนาย​สิระ​ เจนจาคะ​ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่เดินหน้าเรียกร้องให้นายธนาธร​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี2563 ว่า “ผมถามไปยังคุณ​สิระว่าในเมื่อประธานสภาฯ ออกมาให้แนวทางเกี่ยวกับการเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการของคุณธนาธรแล้ว​ คุณสิระยังไม่หยุดเรียกร้องให้คุณธนาธรลาออก​ แล้วแบบนี้คุณสิระจะใช้แนวทางใดในการยึดปฏิบัติ

ส่วนกรณีที่เป็นห่วงว่าจะสิ้นเปลืองภาษีประชาชนที่ต้องนำมาจ่ายเบี้ยประชุมให้คุณธนาธรนั้น​ ประเด็นนี้ผมเป็นคนอ่านยังรู้สึกอาย​ แล้วคุณสิระเป็นคนพูดไม่รู้สึกละอายเลยหรือ​ ประชาชน​และสังคม​ทราบนี้ว่าใครที่อยู่ในตำแหน่งส.ส.แล้วเปลืองภาษี​ ประชาชนจ่ายภาษีให้นักการเมืองไร้ศักยภาพมาตลอด 5 ปี​หากคุณสิระตระหนักประเด็นนี้จริงผมแนะนำให้ไปทำงานที่เป็นชิ้นเป็นอันจะดีกว่า​

อีกประเด็นที่อยากถามคือ​ คุณสิระว่ากลัวคุณธนาธรทำงานได้เต็มศักยภาพหรือกลัวคุณธนาธรเป็นอุปสรรคในการอนุมัติงบประมาณแผ่นดินที่ไม่สมเหตุสมผลกันแน่​

สุดท้ายผมเรียกร้องให้คุณสิระสำนึกในภาษีประชาชนอย่างที่ปากพูดและหยุดพฤติกรรมที่ไร้วุฒิภาวะแบบนี้​เสียที ที่ผ่านมาประชาชนคงเห็นผลงานความกร่างกันดีแล้ว  ควรจบประเด็นนี้ได้แล้ว​ และหากกลัวว่าการทำหน้าที่คุณธนาธรจะเปลืองภาษีประชาชน​ คุณสิระลาออกเลยครับรับรองคุ้มค่าภาษีประชาชนและกอบกู้ภาพลักษณ์นักการเมืองได้มากขึ้นอีกด้วย”

ก่อนหน้านี้นายสิระ ได้แสดงความเห็นว่า วันนี้สถานะของนายธนาธรไม่ต่างจากไส้เดือนที่มี 2 เพศ ซึ่งถ้านายธนาธนยังอยากเรียกตัวเองว่ามนุษย์ มีเกรียติและศักดิ์ศรี ก็ควรจะยุติปัญหาที่ตนเองได้ อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นตัวถ่วงในการพัฒนาประเทศ จะเอาอย่างไรเลือกเอาสักทางหนึ่ง หากยังยืนยันที่จะเป็นกรรมาธิการก็ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.ไป

นายสิระ กล่าวต่อว่า หากตนอยู่ในสถานะเดียวกับนายธนาธร ที่เป็นถึงหัวหน้าพรรค ตนจะยอมเสียสละลาออกจากกรรมาธิการและเปิดโอกาสให้ ส.ส.ที่มีคุณภาพในพรรคอนาคตใหม่ได้ทำงานแทน เรื่องนี้มองได้ 2 ข้อ 1.คือในพรรคของนายธนาธรไม่มีผู้ที่ทีความรู้ความสามารถอีกแล้ว หรือ 2 นายธนาธรกำลังเอาเก้าอี้กรรมาธิการไปเล่นเกมการเมือง

โฆษกพรรคเพื่อชาติค้านติด “GPS”รถส่วนบุคคล

People Unity : โฆษกพรรคเพื่อชาติค้านติด “GPS”รถส่วนบุคคล ชี้รัฐบาลไม่มีความเคารพประชาชนผู้จ่ายภาษีเงินเดือน ต้องการเพียงควบคุมพร้อมเพิ่มภาระและส่อแสวงหาผลประโยชน์

เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2562 นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติชี้ว่า รัฐบาลนี้เสนอโครงการใดๆ ไม่มีความเคารพประชาชนผู้จ่ายภาษีเงินเดือนให้ ต้องการเพียงอยากรู้ความเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมประชาชน โดยไม่คำนึงถึงว่าจะเพิ่มภาระให้ประชาชนหรือไม่ แต่ละโครงการที่เสนอเพื่อโยนหินถามทาง มีพื้นฐานวิธีคิดมาจากการสอดส่องความคลื่อนไหวของประชาชนเพื่อรักษาอำนาจรัฐบาล และอาจมีแนวโน้มที่จะแสวงหาผลประโยชน์เข้าผู้เสนอและผู้ดำเนินการโครงการ โดยเบียดบังประชาชนเป็นการฉ้อราษฎร์แฝงรูปแบบหนึ่ง โครงการล่าสุดในการเสนอจะบังคับติด GPS รถส่วนบุคคลเพื่อลดอุบัติเหตุ ซึ่งรถตู้สาธารณะบังคับติดทุกคันอยู่แล้วอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในรถตู้ก็ยังมีอยู่ ตนคิดว่าเบื้องลึกการนำเสนอไม่น่าจะใช่วัตถุประสงค์การลดอุบัติเหตุ การลดอุบัติเหตุเป็นวัตถุประสงค์รองที่ถูกนำมาเป็นวัตถุประสงค์สร้างภาพ วัตถุประสงค์หลักน่าจะมาจากรายได้ผูกพันที่รถทุกคันต้องจ่ายเดือนละ 300 บาท ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าผู้ที่รับสัมปทานจากรัฐบาลจะมีค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำร้อยละ 10 ให้ผู้ดำเนินการโครงการ กรณีนี้รถหนึ่งคัน หนึ่งเดือนจะมีประโยชน์ถึงผู้ดำเนินการโครงการ 30 บาทต่อคันต่อเดือน โดยปริมาณรถที่จดทะเบียนตามกฏหมายสะสมถึงสิ้นปี 2561 มีจำนวน ประมาณ 30 ล้านคัน ในทุกเดือนจะมีประโยชน์ถึงผู้ดำเนินการโครงการคร่าวๆ 900 ล้านบาท อีกทั้งการติดตั้งระบบครั้งแรก ผู้ดำเนินโครงการก็จะได้รับผลประโยชน์จากรถคันละ 300 บาท ประมาณการคร่าวๆ ก็มีรายได้ 9,000 ล้านบาท และยังมีประโยชน์แฝงเพื่อรักษาอำนาจรัฐบาลที่คอยติดตามผู้ที่มีความคิดเห็นต่างซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนอีกด้วย

“อยากฝากถึงคณะรัฐบาลรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีช่วยคิดถึงประชาชนให้มากๆ ก่อนที่จะเสนอโครงการอะไรหรือทวงบุญคุณจากประชาชน เพราะตอนนี้ประชาชนอยู่ในยุคค่าใช้จ่ายสูงรายได้ต่ำ ชักหน้าไม่ถึงหลังอย่าคิดเพิ่มหรือผลักภาระให้ประชาชน ในขณะที่ชอบอ้างว่าอาสามาทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน แต่กลับเสนอโครงการเบียดบังประชาชนแบบฉ้อราษฎร์แฝง อีกทั้งละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่การลงทะเบียนไวไฟร้านกาแฟ มายังโครงการบังคับติด GPS รถยนต์ มีแต่เพิ่มภาระประชาชนและทำให้เศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้นอีก” โฆษกพรรคเพื่อชาติกล่าว

“วิษณุ”ชี้ช่อง”ธนาธร”นั่ง กมธ.งบฯ 63 แล้ว!

People Unity : “วิษณุ”ชี้ช่องแล้ว! ยก”วราเทพ” ยัน”ธนาธร”นั่ง กมธ.งบฯ63 โควต้าคนนอกได้ ประธานสภาจะต้องชี้ขาดหากชี้ขาดไปแล้วไม่เป็นที่ยุติก็ไปช่องอื่น

เมื่อวันที่ 24 ต.ค.62 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการถกเถียงคุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ร่วมเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.เป็นการชั่วคราว ว่า จะไม่ตอบตรงๆ ในเรื่องนี้ แต่การเป็นกมธ.วิสามัญคือคณะบุคคลที่ตั้งโดยสภาให้ไปทำหน้าที่แทน จึงเป็นคนของสภา และตามข้อบังคับของสภา กมธ.วิสามัญต่างจากกมธ.สามัญที่ต้องเป็นส.ส.เท่านั้น แต่กมธ.วิสามัญเป็นได้ทั้งบุคคลภายนอกและส.ส. เช่น นายวราเทพ รัตนากร กมธ.วิสามัญในโควต้าคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่สภาจะแต่งตั้งมอบหมายสภาต้องไปว่ากันเอง

ทั้งนี้ประธานสภาจะต้องชี้ขาด หากชี้ขาดไปแล้วไม่เป็นที่ยุติ จะไปกระบวนการอื่นก็สุดแล้วแต่ แม้ทุกเรื่องจะไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญเพราะไม่สามารถจบในขั้นต้นได้ แต่ไม่อยากไปย้ำมัน เพราะจะถูกมองว่าไปศาลอีก เรื่องนี้ตนอยู่ในซีกรัฐบาล คงไม่สามารถออกความเห็นได้จะเป็นการเสียมารยาท

นายวิษณุ กล่าวว่า ในอดีตเคยมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว มีผู้ถูกสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่ แล้วมาเป็นกมธ.วิสามัญ รวมถึงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องมารยาท เพราะในอดีตเคยมีบางพรรคโควต้าเต็ม แล้วไปฝากโควต้ากับพรรคอื่น ดังนั้น อย่าเอาการตั้งบุคคลภายนอกมาเทียบ เพราะข้อบังคับกมธ.วิสามัญ ประกอบด้วยผู้ที่ได้เป็น และไม่ได้เป็นสมาชิกสภาก็ต้องให้ชัดว่าคนที่มาเป็นคืออะไร แต่นายธนาธรหากเข้าในโควต้าคนนอกก็เป็นได้ เหมือนนายวราเทพ และอีกหลายคน ส่วนคนที่เป็นส.ส.ก็ชัดว่าเป็นคนใน กรณีนี้คนจึงสงสัยว่าคนนอกหรือคนใน หากให้ตนตอบกลางๆ ก็ไม่ต้องไปสงสัย เมื่อสภาเป็นคนตั้ง จะเป็นคนนอกหรือคนในได้ จึงไม่มีเหตุที่ให้สงสัย ปัญหาอยู่ที่คนสงสัยที่ต้องไปหาทางออกโดยกลไกสภา

เมื่อถามว่า การอธิบายเช่นนี้ แสดงว่านายธนาธรเป็นได้ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ตอบ ที่ตนอธิบายคือหลักการ ซึ่งคนนอกหรือคนใน ในกมธ.วิสามัญไม่มีอะไรแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องเบี้ยประชุม สิทธิการโหวตในกมธ.วิสามัญก็เท่ากัน แต่เมื่อเข้าสู่วาระ 2 และวาระ 3 ในสภา กมธ.วิสามัญไม่สามารถโหวตได้ไม่ว่าจะเป็นส.ส.หรือไม่เป็นส.ส.ก็ตาม

เมื่อถามว่า มีการมองว่าพรรคอนาคตใหม่ รู้อยู่แล้วเรื่องนี้จะเป็นปัญหา แต่ยังเสนอชื่อนายธนาธร เพื่อให้เป็นประเด็นทางสังคม นายวิษณุ กล่าวว่า เช่นเดียวกับคนที่ค้านก็ต้องการให้เป็นประเด็นทางสังคมเหมือนกัน

“อนุทิน”ชี้มติแบน 3 สารพิษได้เห็นขรก.-นักวิชาการมีคุณธรรม

People Unity : “อนุทิน”ชี้มติแบน 3 สารพิษเป็นผลงานทุกคน ได้เห็นข้าราชการ นักวิชาการที่มีคุณธรรมทำเพื่อสุภาพ-ชีวิต ของปชช.

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบนสารพิษ 3 ตัวว่า สิ่งที่ดีใจคือ เรายังเห็นว่า ประเทศไทยเรายังมีข้าราชการ นักวิชาการที่มีคุณธรรม มีสำนึกต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้างราชที่ลงมติแบนสารพิษทั้ง 3 ชนิด จากทุกกรม ทุกกระทรวง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง

แต่เป็นภารกิจของรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงสาธารณสุขซึ่งต้องมีความรับผิดชอบต่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งเรื่องแบนสารพิษนี้ไม่ได้อยู่ในนโยบายตอนหาเสียงด้วยซ้ำ แต่เป็นภารกิจที่ต้องทำ และภาคภูมิใจที่อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเลขาธิการอย. พร้อใจกันโหวตอย่างเปิดเผย นำนโยบายของกระทรวงไปทำให้บรรลุความสำเร็จ ทั้งนี้ เป็นไปตามขั้นตอน ใครทำอะไรได้ก็ทำ เรามีหน้าที่แบน เราก็แบนอย่างสุดหัวใจ ใครจะค้านก็ไปค้าน ผลจะเป็นอย่างไรเราได้ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่แล้ว เรื่องนี้เป็นความเป็นความตายของพี่น้องประชาชน เป็นเรื่องสุขภาพ ชีวิต ใครไม่เคยโดนก็ไม่รู้หรอก อย่างไรก็ตาม ครม.ไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพราะตนเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่ละกระทรวงจะต้องไปหามาตรการเยียวยา

เมื่อถามถึงแนวทางในการคุ้มครอง เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแบนสารพิษครั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า จขะอนุญาตให้ใช้สารพิษที่มีมติแบนไปนี้ถึงวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ส่วนเรื่องเยียวยา เช่น การหาสารทดแทน เป็นเรื่องของกระทรวงไหนมีหน้าที่อย่างไร ทั้งนี้ วันนี้ถือเป็นผลงานร่วมกันของทุกคน แต่สำหรับตนไม่ได้ถือเป็นผลงาน แต่ถือเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่อยู่ในคณะกรรมการ วันนี้ดี เปิดเผยกันมแล้ว ก็ขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เฟซบุ๊ค “Anutin Charnvirakul” ของนายอนุทิน ขึ้นภาพขณะนำผู้บริหารในกระทรวงสาธรณสุขออกกำลังกาย พร้อมข้อความว่า
เชียร์ลีดเดอร์ของกระทรวงสาธารณสุข

มติที่ประชุม มีผู้เข้าประชุม 26 ท่าน
1. พาราควอท
-แบน 21 จำกัดการใช้ 5
2. ครอร์ไพริฟอส
-แบน 22 จำกัดการใช้ 4
3.ไกลโฟเซต
-แบน 19 จำกัดการใช้ 7

ขอกราบขอบพระคุณและน้อมคารวะต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายเฉพาะผู้ที่ลงมติแบนการใช้สารพิษด้วยจิตสำนึกที่รักและห่วงใยในคุณภาพชีวิตและสุขภาพของพี่น้องประชาชน ประวัติศาสตร์จะจารึกวีรกรรมที่ท่านทำเพื่อแผ่นดินเกิดในวันนี้เยี่ยงวีรบุรุษของชาติ ขอแสดงความยินดีกับคนไทยทุกคนที่ประเทศของเรายังมีข้าราชการและนักวิชาการที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรมและจริยธรรมหลงเหลืออยู่ในบ้านของเรา
โดยมีคอมเม้นท์ให้กำลังใจเป้นจำนวนมาก อาทิ

“ความเห็นต่างไม่เปนไร ไม่ว่ากันครับ…แต่ก็ถือว่าที่ประชุมเสียงข้างมากลงมติแบน…ก็ต้องขอบคุณท่านอนุทิน ชาญวีรกูล และชาวคณะทุกท่าน และท่านมนัญญา ไทยเศรษฐ์ และท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน ด้วยครับ”

“ข้่าราชการทุกคน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาลชุดนี้ และเป็นการทำงานร่วมกันของทุกพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆครับ”

“สมเจตนาประสงค์เป็นคุณูประการกับประชาชนชาวไทยและประเทศชาติ ขอขอบคุณอย่างสูงต่อทุกท่านทื่ได้ผลักดันเรื่องนื้ให้เกิดเป็นความสำเร็จตามเป็าหมายชัดเจนถึงโทษภัยร้ายแรงของสารเคมีดังกล่าวครับ”

“ธนกร”วอนฝ่ายค้านใช้เวทีสภาฯสร้างสรรค์ไม่ใช่หลอกด่ารบ.รายวัน

People Unity : “ธนกร”มั่นใจรัฐบาลรับมือฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ วอนใช้เวทีสภาฯ อย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่หลอกด่ารัฐบาลรายวัน เพราะประชาชนจับตาดูอยู่

วันที่ 27 ต.ค.2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลช่วงกลางเดือนธันวาคมว่า เป็นสิทธิของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่สามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะชี้แจงฝ่ายค้านในทุกเรื่อง แต่รัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้ไม่นาน ตนยังนึกไม่ออกว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องอะไร เพราะที่ผ่านมารัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชลอตัวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าโลก ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต นอกจากนี้ รัฐบาลยังต้องคอยไปชี้แจงฝ่ายค้านในสภาฯ เป็นระยะๆ ทั้งกรณีการกล่าวคำถวายสัตย์ และร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 ถึง 3 วัน ทั้งๆ ที่ควรจะเอาเวลาเหล่านี้ไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ จึงนึกไม่ออกจริงๆ ว่าฝ่ายค้านจะเอาเรื่องอะไรมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ

นายธนกร กล่าวอีกว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 รัฐบาลก็สามารถชี้แจงได้หมด ดังนั้นิหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจตนมั่นใจว่ารัฐบาลสามารถชี้แจงได้ วันนี้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป ก้าวเข้าสู่โลกข้อมูลข่าวสาร การอภิปรายต่างๆ พี่น้องประชาชนจับตาดูอยู่ หากการอภิปรายไม่สร้างสรรค์ ไม่มีสาระสำคัญ หรือมุ่งอภิปรายโจมตีรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ส่วนตัวแล้วอยากจะให้ฝ่ายค้านให้เวลาในการทำงานให้กับบ้านเมืองก่อนจะดีกว่าหรือไม่ เมื่อมีข้อมูลที่พรรคร่วมฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลทำงานบกพร่อง หรือไม่ชอบมาพากล ก็ค่อยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันนี้พี่น้องประชาชนอยากเห็นรัฐบาลใช้เวลาในการทำงานอย่างเต็มที่ คงไม่อยากเห็นการใช้วาทกรรมหรือสงครามน้ำลายโจมตีกันไปมา เพราะประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

Verified by ExactMetrics