วันที่ 19 พฤษภาคม 2024

“พล.อ.ประวิตร” ชื่นชมผลงาน สคบ. แก้ปัญหาผู้บริโภครอบด้าน

People Unity News : 20 กันยายน 2565 ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และคณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานด้านการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลในการให้บริการประชาชน การดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคกับอาเซียน การคุ้มครองผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์โควิด-19 การบังคับใช้กฎหมาย การปรับปรุงโครงสร้างหนี้และการแก้ไขปัญหาหนี้เช่าซื้อ และการดำเนินการเชิงรุกเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้บริโภค

ทั้งนี้ สคบ. ได้แก้ไขปัญหาให้ผู้บริโภคทั่วประเทศสามารถยุติได้ จำนวน 13,697 เรื่อง ผู้บริโภคได้รับการเยียวยาความเสียหาย เป็นเงินจำนวน 384,338,946.48 บาท การฟ้องคดีแทนผู้บริโภค จำนวน 422 ราย ผู้บริโภคได้รับการเยียวยาความเสียหายเป็นเงินจำนวน 130,931,494.93 บาท การบังคับคดีตามคำพิพากษา โดยตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ประกอบธุรกิจแทนผู้บริโภค จำนวน 1,225 คดี ผู้บริโภคจำนวน 7,067 ราย เปรียบเทียบความผิดผู้ประกอบธุรกิจที่ละเมิดสิทธิผู้บริโภค จำนวน 38 ราย เป็นเงิน 2,760,000 บาท

สคบ.ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน ได้แก่ ระบบร้องทุกข์ออนไลน์ ไกล่เกลี่ยออนไลน์ การจดทะเบียนขายตรงและตลาดแบบตรงออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน OCPB Connect และ Chat Bot “พี่ปกป้อง” ตลอดจนการเชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐ หรือ Big Data เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขี้น รวมทั้งดำเนินงานด้านต่างประเทศ โดยประสานความร่วมมือด้านการคุ้มครองผู้บริโภคกับนานาชาติเรื่องต่างๆ เช่น การพัฒนากลไกการแจ้งและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ การสร้างความตระหนักให้แก่ผู้บริโภคของอาเซียนในการเยียวยาผู้บริโภคข้ามแดน เป็นต้น และจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MoU) จำนวน 2 ฉบับ ระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร และไทย-รัสเซีย เพื่อประสานความร่วมมือด้านการคุ้มครองผู้บริโภค โดย MoU ทั้งสองฉบับอยู่ระหว่างการลงนาม

พล.อ.ประวิตร แสดงความชื่นชมผลการดำเนินงานด้านต่างๆ อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนและสังคมในวงกว้าง โดยขอให้บูรณาการทำงานและร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันป้องกันและแก้ปัญหา อันจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและคุ้มครองสิทธิด้านต่างๆ ให้กับประชาชน ประชาสัมพันธ์ผลงานและสร้างการรับรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ประชาชนได้รับทราบ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อการให้บริการอย่างสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ รวมทั้งขอเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เข้มแข็ง เสียสละ เพื่อประโยชน์แก่ประชาชน 

Advertisement

ไทยอยู่กลุ่มประเทศพัฒนามนุษย์สูงสุด 3 ปีต่อเนื่อง

People Unity News : 11 กันยายน 2565 UNDP เผยไทยอยู่ในกลุ่มประเทศมีการพัฒนามนุษย์สูงสุด 3 ปีต่อเนื่อง ตอกย้ำความสำเร็จนโยบายรัฐบาลเร่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกด้าน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานความช่วยเหลือในด้านการพัฒนาของสหประชาชาติ (UN) ได้เผยแพร่รายงานการพัฒนาของมนุษย์ (Human Development Report) ปี 2021/2022 ซึ่งมีสาระสำคัญระบุถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆ ที่กระทบต่อการพัฒนาของมนุษย์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญกับโรคระบาด ผลจากสงครามที่กระทบต่อราคาน้ำมันและค่าครองชีพ ภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พร้อมกับมีข้อเสนอแนะต่อประเทศต่างๆ ในการกำหนดนโยบายเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาในสถานการณ์ความไม่แน่นอน

พร้อมกันนี้ ในรายงานได้จัดทำดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index: HDI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความสำเร็จโดยเฉลี่ยของแต่ละประเทศในการพัฒนามนุษย์ โดยรายงานระบุถึง HDI ของไทยในปี 2021 อยู่ที่ 0.800 อยู่ในลำดับที่ 66 จาก 191 ประเทศทั่วโลก จัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนามนุษย์ระดับสูงมาก และอยู่ในประเทศกลุ่มนี้ต่อเนื่องมา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2019 หรือ พ.ศ. 2562 เป็นต้นมา

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หากพิจารณาเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนมี 4 ประเทศที่จัดอยู่ในกลุ่มที่มีการพัฒนามนุษย์ระดับสูงมาก ได้แก่ สิงคโปร์ (0.939) บรูไน (0.829) มาเลเซีย (0.803) และไทย (0.800) ประเทศที่มีการพัฒนามนุษย์ระดับสูง มี 2 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย (0.705) เวียดนาม (0.703) และประเทศที่มีการพัฒนามนุษย์ระดับกลาง มี 4 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ (0.699) สปป.ลาว (0.607) และเมียนมา (0.585)

ทั้งนี้ HDI จะวัดความสำเร็จโดยเฉลี่ยของแต่ละประเทศในการพัฒนามนุษย์ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านความรู้ และด้านการครองชีพ แบ่งระดับการพัฒนาเป็น 4 กลุ่ม ซึ่งในปี 2021 ใน 191 ประเทศทั่วโลก จัดอยู่ในแต่ละกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่มีการพัฒนาสูงมาก (ดัชนี 0.800-1.000) จำนวน 66 ประเทศ, พัฒนาสูง (ดัชนี 0.700-0.799) จำนวน 49 ประเทศ, พัฒนาระดับกลาง (ดัชนี 0.550-0.699) จำนวน 44 ประเทศ และ พัฒนาต่ำ (ดัชนี 0.350-0.549) จำนวน 32 ประเทศ

“การที่ประเทศไทยมีผลการพัฒนามนุษย์อยู่ในระดับสูงมากได้ต่อเนื่อง สะท้อนถึงความสำเร็จในการผลักดันนโยบายด้านต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งจะยังคงขับเคลื่อนโดยรับฟังข้อแนะนำขององค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNDP มาปรับใช้ และเดินหน้าตามแผนงานภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนแม่บทฉบับต่างๆ ที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ โดยมีเป้าหมายหลักคือการพัฒนาและยกดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นต่อเนื่อง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

Advertisement

ธอส.เชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรม “GHB Green Together” ลดภาวะโลกร้อน เปลี่ยนพฤติกรรมสู่ไลฟ์สไตล์กรีน

People Unity News : 2 กันยายน 2565 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ชูแคมเปญ “GHB Green Together” ลดภาวะโลกร้อนไปด้วยกัน เปลี่ยนพฤติกรรมสู่ไลฟ์สไตล์กรีน เรียนรู้และลงมือทำอย่างจริงจัง ช่วยลดการเกิดขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งวงจร ตั้งแต่การผลิตจนถึงการบริโภค โดยเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ของแคมเปญที่ Facebook Fanpage “ธนาคารอาคารสงเคราะห์” แนบภาพบอกเล่าไอเดียหรือวิธีการรักษาสิ่งแวดล้อม ตามหลัก 7R พร้อมแชร์โพสต์เป็นสาธารณะ โดยทุก 1 คอมเมนต์ ธนาคารจะบริจาคเงิน 100 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ศิริราชมูลนิธิ

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือสนับสนุนด้านการเงินเพื่อให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” และดำเนินการควบคู่กับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 ธนาคารมีเป้าหมายในการพัฒนาองค์กรให้เป็น Digital Bank และก้าวไปสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Bank) เพื่อมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในการลดภาวะโลกร้อน ที่มีสาเหตุมาจากกระบวนการปฏิบัติงานที่ก่อให้เกิดมลภาวะด้านต่างๆขึ้น ธอส. จึงมีแนวคิดในการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า รวมถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปฏิบัติงานประจำวัน ตลอดจนร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์บริการและกระบวนการทำงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมและสร้างจิตสำนึกแก่ผู้ปฏิบัติงานธนาคาร ลูกค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และประชาชนทั่วไป ให้เห็นความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “GHB Green Together” ตามหลักการ 7R ประกอบด้วย

1.Rethink : คิดให้รอบคอบถี่ถ้วน ก่อนซื้อสินค้าบริโภคหรือสินค้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ

2.Reduce : ลดการใช้ทรัพยากรต่างๆ ที่จะช่วยประหยัดทรัพยากรลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.Reuse : ใช้ซ้ำ หรือการนำของที่ยังใช้ได้กลับมาใช้ซ้ำอีกครั้ง

4.Recycle: การนำสิ่งที่ไม่สามารถใช้ซ้ำได้แล้ว ซึ่งอาจจะฉีกขาด แตกหัก กลับไปเข้ากระบวนการแปรรูปให้เป็นวัตถุดิบ โดยอาจจะใช้วิธีหลอม Recycle เพื่อนำกลับมาผลิตของขึ้นมาใหม่

5.Repair :  ซ่อมแซมสิ่งของที่มีความจำเป็นที่ยังต้องใช้งานให้นานที่สุด

6.Regift : ส่งต่อของที่ไม่ได้ใช้งานแล้วให้ผู้อื่นใช้งานต่อ

7.Refuse : ปฏิเสธสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น บรรจุภัณฑ์ซ้ำซ้อน วัสดุที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

และเพื่อเป็นการส่งเสริมการเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน ธอส.จึงได้เปิดพื้นที่จัดกิจกรรมให้ทุกคนที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อมสามารถร่วมสนุกได้ง่ายๆ เพียงเขียนคอมเมนต์ใต้โพสต์แคมเปญดังกล่าว ใน Facebook Fanpage “ธนาคารอาคารสงเคราะห์” และแนบภาพบอกเล่าไอเดีย หรือวิธีการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างน้อย 1R พร้อมติดแฮชแทก #GHBGREENTOGETHER แชร์โพสต์ และตั้งค่าเป็นสาธารณะ โดยทุก 1 คอมเมนต์ ธนาคารจะบริจาคเงิน 100 บาท ให้ศิริราชมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ต่อไป

ทั้งนี้ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมและร่วมทำบุญในแคมเปญนี้ด้วยกัน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและร่วมสนุกได้ทางเฟซบุ๊ก”ธนาคารอาคารสงเคราะห์” ที่ https://www.facebook.com/ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พฤศจิกายนนี้

Advertisement

“ชัยวุฒิ” ผลักดัน Smart School Bus ล้อมคอกปัญหาเด็กถูกลืมในรถโรงเรียน

People Unity News : 31 สิงหาคม 2565 “ชัยวุฒิ” ผลักดัน Smart School Bus ใช้เทคโนโลยี IoT Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหว-คลื่นความร้อนของเด็กนักเรียนที่อยู่ในรถ ล้อมคอกปัญหาเด็กถูกลืมไว้ในรถโรงเรียน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับข่าว ด.ญ.เขมนิจ หรือน้องจีฮุน ที่ถูกลืมไว้ในรถโรงเรียนและเสียชีวิต และแสดงความเสียใจกับพ่อแม่ ผู้ปกครองด้วย

โดยในบทบาทของผู้บริหารกระทรวงดิจิทัลฯ มีความมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดโครงการพัฒนาระบบ Smart School Bus ซึ่งจะนำเทคโนโลยี IoT Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหวและคลื่นความร้อนของเด็กนักเรียนที่อยู่ในรถ เพื่อทำการแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้ปกครองและครู และแจ้งเตือนไปที่ศูนย์บัญชาการของระบบ

“การนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้กับระบบ Smart School Bus ถ้ามีการลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถ Sensor ซึ่งติดตั้งไว้ที่รถ และสามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตอัตโนมัติ จะมีการทำงาน จะตรวจให้เห็นว่ามีคนลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถ ทำการแจ้งเตือนมือถือของผู้ที่เกี่ยวข้อง และแจ้งเตือนไปที่ศูนย์บัญชาการของระบบ ทำให้เรารู้ว่ามีการลืมเด็กไว้ในรถนักเรียน เพื่อสามารถเข้าไปรีบช่วยเหลือนำเด็กออกจากรถ ก็จะไม่เกิดปัญหานี้ต่อไป” นายชัยวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ทำโครงการนำร่องร่วมกับโรงเรียนรัฐ 300 แห่ง และโรงเรียนเอกชนอีก 50 แห่ง ที่จะนำ Smart School Bus ไปติดตั้งในรถโรงเรียน โรงเรียนละ 10 คัน รวมทั้งสิ้น 3,500 คันทั่วประเทศ ตั้งเป้าหมายผลักดันให้โครงการนี้แล้วเสร็จภายในปีนี้

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เชื่อว่าถ้าโครงการนี้สำเร็จจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ทุกโรงเรียนนำไปใช้ต่อ ในการที่เอาระบบเซ็นเซอร์ IoT ไปติดที่รถโรงเรียน เราจะรู้ว่ามีใครลืมเด็กไว้ในรถโรงเรียนหรือไม่ โดยระบบจะมีการแจ้งเตือน ถ้าระบบนี้สมบูรณ์จะไม่มีเด็กติดในรถอีก

สำหรับเป้าหมายโครงการระยะต่อไป เตรียมประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้นำระบบ Smart School Bus ไปติดในรถโรงเรียนทุกคันทั่วประเทศ ซึ่งถ้าทำสำเร็จจะสามารถรักษาชีวิตลูกหลานของประชาชนให้ปลอดภัย จะไม่มีใครถูกลืม จะไม่มีลูกหลานเสียชีวิตเพราะถูกทิ้งไว้ในรถโรงเรียนอีกต่อไป

Advertisement

ผบ.ทบ.สั่งรีเซต “สนามม้า-มวย” ล้างภาพแหล่งพนัน

People Unity News : 31 สิงหาคม 2565 “ผบ.ทบ.” สั่งรีเซต “สนามม้า-มวย” ล้างภาพแหล่งพนัน ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย-กีฬา “แม่ทัพภาค 2” เผยสนามม้าโคราช อยู่ระหว่างกำหนดเงื่อนไข ก่อนจัดแข่งจริง

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการแข่งขันร่ายรำไหว้ครูมวยไทย และทักษะแม่ไม้มวยไทยกองทัพบก ประจำปี 2565 ที่กรมสวัสดิการทหารบก ร่วมกับศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก (มวยไทยลุมพินี)

ทั้งนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีและให้กำลังใจกับผู้เข้าแข่งขันทุกคน พร้อมทั้งขอบคุณคณะกรรมการที่ร่วมมือกันจัดงานในครั้งนี้ขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ ตนขอแสดงความชื่นชมและยินดีกับกลุ่มการแข่งขันและนักกีฬา ที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขัน ที่มีความทุ่มเท ความพยายาม ความอดทน และความขยันหมั่นเพียร ในการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง จนมีความพร้อมและขีดความสามารถ ส่งผลให้ประสบผลสําเร็จในการแข่งขัน และมีจิตสํานึกที่มีคุณค่ายิ่ง ในการรักษามรดกอันล้ำค่าของชาติไทยไว้เป็นนักมวยไทยร่ายรําไหว้ครูมวยไทย ที่แสดงถึงความกตัญญูรู้คุณ ถือเป็นประเพณีสําคัญของการแสดงความเคารพต่อครูมวญ

สอดคล้องตามนโยบายของกองทัพบกในการเสริมสร้างและพัฒนาขีดความสามารถด้านมวยไทยให้กับกําลังพล ได้อนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า และเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของชาติ โดยอันเกิดจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่สร้างความแข็งแกร่งให้ทั้งร่างกายและจิตใจ

ภายหลังการเป็นประธานพิธีมอบรางวัล พล.อ.ณรงค์พันธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดระเบียบสวัสดิการ ทบ. เรื่องสนามม้าและสนามมวยว่า ทุกอย่างยึดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. 2543 ซึ่งเราได้หารือกับกรมธนารักษ์ อันไหนที่มีความพร้อมก็ให้ดำเนินการ เนื่องจากที่ผ่านมามีการแพร่ระบาดของโควิด ต้องให้เขาจัดระบบกันใหม่

เมื่อถามว่าสนามมวยลุมพินีจะมีการเปิดแข่งขันหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เราไม่เปิดให้มีการพนัน ดังนั้น ต้องตัดเรื่องการพนันออกไป ซึ่งสนามมวยลุมพินีดั้งเดิมนั้น เป็นในรูปแบบศิลปวัฒนธรรมที่อยู่คู่ประเทศไทยมา

เมื่อถามถึงความคืบหน้าสนามม้าโคราช ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า อยู่ในระหว่างการหารือกับภาคเอกชน ซึ่งมีข้อกฎหมายและระเบียบต่างๆอยู่ ทุกอย่างต้องใช้เวลาร่วมกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง

ในขณะที่ พล.ท.สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ภายหลังที่กองทัพบกสนับสนุนกิจกรรมของทางสมาคมกีฬาม้าแข่งในเรื่องการใช้สนามกีฬาทหาร จ.นครราชสีมา จัดแข่งม้ากีฬาชิงแชมป์ประเทศไทย และการจับวิ่งทดสอบลูกม้าใหม่ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างหารือกับภาคเอชนในการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ โดยที่ผ่านมายังไม่มีการจัดแข่งขันใดๆทั้งสิ้น พร้อมเปิดเผยว่าไม่มีการหาสนามแข่งม้าใหม่ทดแทนแล้ว

Advertisement

รัฐบาลปลื้ม CNN Travel ยกให้ไข่เจียวปู ข้าวซอย ไส้กรอกอีสาน ติดรายชื่ออาหารข้างทางยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย

People Unity News : 31 สิงหาคม 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่อาหารข้างทาง (Street foods) ของไทยยังคงสร้างความประทับใจให้คนทั่วโลก หลังจากที่ CNN Travel ได้เผยแพร่รายชื่อ 50 อันดับอาหารข้างทางที่ดีที่สุดในเอเชีย (50 of the best street foods in Asia) โดยมี 3 เมนูอาหารข้างทางของไทยติดรายชื่อดังกล่าว ได้แก่ ไข่เจียวปู ข้าวซอย และไส้กรอกอีสาน พร้อมระบุว่า รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริม Soft Power ของไทยในด้านอาหาร และด้านอื่นๆ สู่เวทีโลก

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า CNN Travel ได้ระบุว่า ไข่เจียวปู เป็นเมนูไข่ที่มีรสชาติดีกว่าเมนูไข่ประเภทอื่น ส่วนผสมของไข่และเนื้อปูทำให้อาหารจานนี้ทั้งกรอบและเนื้อนุ่มฟูน่าทาน โดยหากรับประทานพร้อมซอสพริกจะยิ่งทำให้เมนูนี้อร่อยมากยิ่งขึ้น ส่วนข้าวซอย เป็นอาหารของทางภาคเหนือของไทย มีส่วนผสมของซุปที่มีเครื่องแกงกะหรี่ ผสมกับน้ำกะทิที่เข้มข้น ราดบนเส้นบะหมี่ที่มีน่องไก่หรือเนื้อวัว และโรยด้วยเส้นบะหมี่ทอด สำหรับไส้กรอกอีสาน เป็นอาหารข้างทางที่พบได้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เป็นไส้กรอกหมูปรุงรสผสมข้าวเหนียว กระเทียม นำไปหมักและตากแห้งจนมีรสเปรี้ยว

“ประเทศไทยได้รับความนิยมด้านความหลากหลายของอาหาร ซึ่งเกิดจากความแตกต่าง เรื่องพื้นที่เพาะปลูกทำปศุสัตว์ของท้องถิ่นแต่ละภูมิภาค ทำให้อาหารไทยมีเอกลักษณ์และเป็นที่นิยมมาตลอด ทั้งนี้ รัฐบาลตระหนักถึงข้อได้เปรียบ และได้เดินหน้าผลักดัน ส่งเสริมการขยายผล Soft power ของไทยทั้งในด้านอาหาร และด้านอื่น ๆ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ” นายอนุชา กล่าว

Advertisement

โรคใหม่!! “อนุทิน” สั่งเฝ้าระวังไข้หวัดมะเขือเทศ เตรียมแนวทางคัดกรอง

People Unity News : 27 สิงหาคม 65 รองโฆษกรัฐบาล เผย “อนุทิน” กำชับติดตามสถานการณ์ “ไข้หวัดมะเขือเทศ” แม้ขณะนี้ยังแพร่ระบาดเฉพาะในต่างประเทศ ชี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กอาการไม่รุนแรง และไม่ใช่ไวรัสตัวใหม่แต่อย่างใด

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ประเทศอินเดียได้มีคำเตือนชาวอินเดียให้ระมัดระวังการระบาดของโรคไข้หวัดมะเขือเทศ (Tomato Flu) เนื่องจากได้พบผู้ป่วยเป็นเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ขวบ ในรัฐเกรละ รัฐทมิฬนาฑู รัฐโอริสสา และรัฐหรยาณา ของอินเดีย รวมเกือบ 100 ราย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การระบาดดังกล่าว แม้จะยังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วยในไทย เป็นการป่วยจากไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งไม่ใช่ไวรัสใหม่ และอาการไม่รุนแรง แต่ก็ต้องเฝ้าระวังเนื่องจากขณะนี้ไทยได้เปิดประเทศรับผู้เดินทางจากทั่วโลก รวมถึงประเทศที่มีการระบาดของโรค จึงต้องประเมินสถานการณ์ เตรียมแนวทางการคัดกรองและรักษากรณีพบผู้ป่วย

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเบื้องต้นที่มีขณะนี้สถานการณ์ของโรคไม่น่ากังวล เนื่องจากเป็นการแพร่ระบาดยังอยู่ในวงจำกัด ขณะที่กระบวนการคัดครองและรักษาในประเทศก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันกับการรักษาโรคมือเท้าปากในเด็ก ซึ่งปัจจุบันทั้งชุดตรวจคัดกรอง และยารักษา มีอยู่ในสถานพยาบาลในประเทศทุกระดับ เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดขึ้นเป็นประจำในเด็กเล็ก และมักเกิดขึ้นมากในช่วงฤดูฝน อากาศเย็น และชื้น ดังนั้นในช่วงฤดูฝนนี้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองต้องให้ความระมัดระวังดูแลบุตรหลาน เนื่องจากเชื้อไวรัสซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมือเท้าปาก กระจายได้ง่ายจากการสัมผัส โดยเฉพาะการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด หรือนำสิ่งของไม่สะอาดเข้าปาก

Advertisement

ครม. อนุมัติงบ 12 ลบ. ช่วยเหลือ “ศิลปินอาวุโส” 2,459 คน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด

People Unity News : 21 สิงหาคม 65 ที่ประชุม ครม. (16 ส.ค. 65) อนุมัติโครงการเยียวยาศิลปินผู้มีอายุเกิน 65 ปี ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวน 2,459 คน วงเงิน 12.29 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด -19

ทั้งนี้ กลุ่มศิลปินที่มีอายุเกิน 65 ปี จำนวน 2,459 คน เป็นผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้ในระบบของกระทรวงแรงงาน “กลุ่มแรงงานนอกระบบและไม่เข้าข่ายเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40” ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม เมื่อช่วงเดือน ม.ค. 65 ที่ผ่านมา

ประกอบด้วย ศิลปินที่เกี่ยวกับสถานบันเทิงในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 23 จังหวัด จำนวน 1,140 คน วงเงิน 5.7 ล้านบาท และศิลปินที่เกี่ยวกับสถานบันเทิงที่อยู่นอกพื้นที่ควบคุมสูงสุด 1,319 คน วงเงิน 6.59 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินโครงการฯ 3 เดือน (ส.ค. – ต.ค. 65)

Advertisement

ผู้ป่วยโควิด สิทธิบัตรทอง – ข้าราชการ สามารถพบแพทย์ Telemedicine – ส่งยาฟรีถึงบ้าน ผ่าน 3 แอป

People Unity News : 9 สิงหาคม 2565 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับ 3 ผู้ให้บริการด้านสุขภาพดิจิทัล ดูแลผู้ป่วยโควิดผ่านบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) พร้อมบริการจัดส่งยาถึงบ้าน ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. 65 เป็นต้นไป

*ข้าราชการ (เบิกกรมบัญชีกลาง) ใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 65 เป็นต้นไป

หากตรวจ ATK ได้ผลเป็นบวก สามารถเลือกลงทะเบียนเพื่อพบแพทย์ผ่านออนไลน์ เพื่อซักถาม และจ่ายยาตามอาการ (หากเข้าเกณฑ์จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์หรือยาโมลนูพิราเวียร์ ตามดุลยพินิจของแพทย์) พร้อมจัดส่งถึงบ้านฟรี โดยเลือกแอปฯ อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้

1.แอปพลิเคชัน Clicknic LINE ID : @clicknic หรือ https://forms.gle/hfo2Wr9jdvybn8d57 รับผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ ทั้งกลุ่มสีเขียวและกลุ่ม 608

2.แอปพลิเคชัน MorDee (หมอดี) LINE ID : @mordeeapp หรือ https://form.typeform.com/to/cNKqNz3p รับเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 เฉพาะกลุ่มสีเขียว (ไม่รับกลุ่ม 608) ที่อยู่ในพื้นที่ กทม. – ปริมณฑล 5 จว. (นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร)

3.แอปพลิเคชัน Good Doctor Technology Line ID: @gdtt หรือ https://forms.gle/YKVMKy1p8FRDDBje7 รับเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว (ไม่รับกลุ่ม 608) ที่อยู่ในพื้นที่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ

โดยรอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อยืนยันตัวตนเข้ารับบริการ คัดกรอง ประเมินอาการเบื้องต้น เพื่อจัดส่งยาตามความจำเป็น และเมื่อครบ 48 ชม. เจ้าหน้าที่จะพูดคุยกับผู้ป่วยอีกครั้งเพื่อสอบถามอาการ และแนะนำให้ผู้ป่วยดูแลตัวเองให้ครบ 10 วัน หากในระหว่างนี้ผู้ติดเชื้อมีอาการเพิ่ม ก็จะส่งข้อมูลให้กับ สปสช. เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป

Advertisement

ผู้สูงวัยแห่จองห้องตัวอย่างโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์

People Unity News : 20 กรกฎาคม 65 บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ DAD Asset Development เผยมีผู้สนใจชมห้องตัวอย่างและจองสิทธิเป็นจำนวนมาก หลังเปิดอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา โดย DAD เตรียมปรับเพิ่มห้องขนาด 47.42 และ 49.06 ตารางเมตร หลังจากมีผู้สนใจจองห้องขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก พร้อมเร่งทำสัญญาภายในเดือนกันยายนนี้ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในเดือนพฤศจิกายน 2565

ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (DAD) เปิดเผยว่า ตามที่ DAD ได้เปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ ขนาดพื้นที่ 32 ตารางเมตร และ 46 ตารางเมตร บริเวณประตูทางเข้า 4 ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา มีผู้สนใจเข้าชม และจองสิทธิเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก โดยในขั้นตอนต่อไป DAD จะดำเนินการส่งผู้จองสิทธิตรวจคัดกรองสุขภาพที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี หลังจากนั้นจะทำการจับสลากระบุตำแหน่งห้องพักให้ผู้จองสิทธิที่ผ่านการพิจารณาในเดือนสิงหาคม 2565 พร้อมทั้งเร่งดำเนินการทำสัญญาภายในเดือนกันยายน 2565 โดยจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2567 กรอบวงเงินงบประมาณ 1,345.934 ล้านบาท

ดร.นาฬิกอติภัค กล่าวว่า “หลังจากที่ DAD เปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างก็ได้รับข้อเสนอแนะจำนวนมากว่าห้องขนาดใหญ่มีจำนวนน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถจองห้องขนาดใหญ่ได้ทัน ซึ่งห้องขนาดเล็กก็ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการในการพักอาศัย DAD จึงได้ดำเนินการปรับขนาดห้องเล็ก จำนวน 90 ห้อง เพื่อรวมเป็นห้องขนาดใหญ่ จำนวน 60 ห้อง โดยมีขนาดห้อง 47.42 และ 49.06 ตารางเมตร ทำให้โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ มีห้องพักอาศัยรวมทั้งสิ้น 891 ห้อง”

คุณอรณิชชา  เตชะพูลผล หนึ่งในผู้สนใจ โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ กล่าวว่า “หลังจากที่ได้เข้าชมห้องตัวอย่าง มีความประทับใจในโครงการฯเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นซีเนียร์คอมเพล็กซ์ที่แท้จริงแบบครบวงจร เหมาะสำหรับพักอาศัยในช่วงเกษียณอายุ ซึ่งในปัจจุบันโครงการดีๆ แบบนี้หายาก อีกทั้งชอบในการจัดวางแลนด์สเคปของอาคารต่างๆ ที่มีการปรับแต่งพื้นที่ใช้สอยให้มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีความร่มรื่นและสวยงาม สำหรับพื้นที่ตั้งของโครงการฯ ส่วนตัวมองว่าปัจจุบันประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านคมนาคมเป็นอย่างมาก มีทั้งวงแหวนรอบนอกที่ตัดเข้าในเมือง และถนนต่างๆ สามารถตัดเชื่อมถึงกันได้หมด ที่สำคัญโครงการนี้ใกล้กับสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ เพียง 800 เมตร ทำให้สามารถเดินทางไปพบแพทย์ได้สะดวกมากขึ้น จึงได้ตัดสินใจจองห้องพัก ซึ่งตอนแรกต้องการห้องพักขนาดใหญ่ แต่เต็มหมดแล้ว จึงได้ทำการจองห้องพักขนาดเล็กแทน”

ผู้สนใจโครงการสามารถเข้าชมห้องตัวอย่างได้ วันจันทร์-ศุกร์ (เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 08.30–17.30 น. บริเวณประตูทางเข้า 4 ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ สอบถามข้อมูลได้ที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ โทร. 0 2142 2259, 0 2142 2260 หรือเว็บไซต์ https://www.dadasset.com/

Advertisement

Verified by ExactMetrics