วันที่ 26 เมษายน 2024

“นิพนธ์”ย้ำภัยใกล้ตัว”อุบัติเหตุท้องถนน” รัฐ-เอกชนจับมือรวมพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย

People Unity News : “นิพนธ์”ย้ำภัยใกล้ตัว”อุบัติเหตุท้องถนน” ยกสถิติติดอันดับ 9 ของโลก “ทีดีอาร์ไอ” ชี้เจ็บ-ตายสูญเสียตกปีละกว่า 5 แสนล้าน รัฐ-เอกชนจับมือรวมพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย กระตุกสังคมไทยลดความสูญเสีย

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2 ) เป็นประธานเปิดโครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.)จับมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย บมจ.ธนชาตประกันภัย ร่วมขับเคลื่อนการแก้ปัญหาและลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด

นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลกได้จัดให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก มีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนปีละประมาณ 22,491 ราย คิดเป็น 32.7 คนต่อประชากร 1 แสนคนเฉลี่ยแล้ว มีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุชั่วโมงละ 3 คน ซึ่งถือว่าเกิดค่าเฉลี่ยของโลกถึง 2 เท่า อุบัติเหตุทางถนนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ประสบภัยเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความสูญเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยโดยรวมอย่างมหาศาล ขณะที่สถาบันวิจัยทีดีอาร์ไอ ได้คำนวณมูลค่าความสูญเสียจากการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุจราจร เกิดความสูญเสียที่คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 5 แสนล้านบาทต่อปี

เห็นได้ชัดว่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นประเด็นใหญ่ของประเทศไทย ที่ผ่านมาการป้องกันและรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญเสมอมา โดยกำหนดให้เป็นวาระสำคัญแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไข ซึ่งได้ให้นโยบายในการสร้างความเข้มแข็งการจัดการอุบัติเหตุทางถนนระดับพื้นที่ เพื่อช่วยผลักดันนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพของ “ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนท้องถิ่น” ให้เป็นกลไกหลักในการสร้างการมีส่วนร่วมและขับเคลื่อนการลดอุบัติเหตุทางถนนในชุมชนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เชื่อมโยงกลไกการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน ทุกระดับอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการพัฒนาระบบกฎหมายและกระบวนการในการบังคับใช้กฎหมาย การเฝ้าระวังและลดปัจจัยเสี่ยงทางกายภาพ การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่

“นอกจากภาครัฐจะให้ความสำคัญแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มาร่วมป้องกันและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนชาวไทย ซึ่ง โครงการพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย นี้ ถือเป็น 1 ในโครงการที่ภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และท้องถิ่นได้ร่วมมือกันดำเนินการสร้างความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่ ผ่านกลไกของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายอำเภอเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนให้โครงการประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้ การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืนนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังให้พื้นที่ในระดับตำบลสามารถลดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลงได้อย่างน้อย 1 ราย จะทำให้ภาพรวมของประเทศมีสถิติการเสียชีวิตจากการใช้รถใช้ถนนลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายนิพนธ์ กล่าว

“ภท.”ถามหาจรรยาบรรณสื่อเนชั่น โยง “อนุทิน” หลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูล “ชิโน-ไทย”

People Unity News : “ภูมิใจไทย”ถามหาจรรยาบรรณสื่อเนชั่น โยง “อนุทิน” หลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูล “ชิโน-ไทย” ก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอมโยง

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการนำเสนอข่าวกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลข้าราชการ และผู้บริหารบริษัท ชิโน-ไทย ติดสินบนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า ขอให้สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมา ตามจรรยาบรรณ

“หลังมีรายการของเนชั่นทีวีพยายามบิดเบือนสร้างความเสียหายให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยพยายามเชื่อมโยงให้นายอนุทินเกี่ยวข้องกับผู้บริหารของบริษัทซิโน-ไทย ซึ่งความเป็นจริงนายอนุทินพ้นจากการเป็นผู้บริหารบริษัทชิโน-ไทย 15 ปีแล้ว และปัจจุบันเป็นเพียงผู้ถือหุ้นที่มีจำนวนหุ้นน้อยนิด ยืนยันว่ากรณีนี้เป็นเรื่องของบริษัท ชิโน-ไทยที่ไม่เกี่ยวข้องกับนายอนุทิน แต่รายการของเนชั่นทีวีกลับนำเสนอภาพให้ประชาชนเข้าใจผิด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดคดีอาญา และเชื่อว่านายอนุทินคงดำเนินคดีกับเนชั่นทีวี” รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวถึงกรณีที่อภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 13 พ.ย.) ที่ระบุถึงเนชั่นทีวี ว่า ทางเนชั่นทีวีจะกล่าวว่าตนอย่างไรก็ได้ แต่อย่าเผลอหมิ่นตน ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการห้องทางคดีเช่นกัน

“หญิงหน่อย”อุบ”เพื่อไทย”ส่งคนเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น

People Unity News : “หญิงหน่อย” ยัน “เพื่อไทย” รักษาที่นั่งเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น เตรียมส่ง อดีตส.ส.มีประสบการณ์ลงชิง แนะกกต.จับตาตั้งแต่เริ่มหาเสียง หวั่นอำนาจรัฐ-เงินแทรกแซง แม้เลือกเพียงเขตเดียว ขณะที่ “บิ๊กป้อม”ยันพปชร.ส่งคนแข่งอย่างแน่นอน

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมส่งผู้สมัคร ส.ส.ภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ให้นายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีตส.ส.ขอนแก่น ของพรรคเพื่อไทย พ้นสมาชิกภาพจากความเป็นส.ส. โดยระบุว่า ขณะนี้หัวหน้าพรรคได้แต่งตั้ง คณะกรรมการสรรหา ตัวบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งจะได้ข้อสรุปภายในสองวันนี้ จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อคัดเลือกรอบสุดท้ายยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง รักษาเก้าอี้แน่นอนเพราะเป็นพื้นที่เดิม อีกทั้งจ.ขอนแก่น และภาคอีสาน คือบ้านของพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยมีภาระและหน้าที่ต่อประชาชนให้อยู่ดีกินดี ให้กับคนอีสานและพี่น้องประชาชนก็ฝากความหวังไว้กับพรรคเพื่อไทย

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า คนที่จะมาลงเลือกตั้งจะเป็นอดีตส.ส. ของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีหลายคน และถือว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและเข้าใจปัญหาของประชาชน รวมถึง ทุกคนทำงานในพื้นทีอย่างเข้มแข็ง

“พรรคเพื่อไทย จะไม่ปล่อยให้พื้นที่เขต 7 เป็นของพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่ที่คาดหวังส.ส.ในเขตนี้ และไม่หนักใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งได้เตรียมการเพื่อสื่อสารให้คนขอนแก่นรับรู้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐ กิจปากท้อง”

ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยยังเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.จับตาการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะเชื่อว่าจะมีบางฝ่ายใช้อำนาจรัฐ เข้ามาเอาเปรียบการเลือกตั้ง ดังนั้นกกต.จึงต้องเข้ามาดูแลตั้งแต่ต้น เพราะหากเป็นการแข่งขันที่ทัดเทียมเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย จะสะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง
ซึ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้เหมือนการเลือกตั้งใหญ่ที่มีการใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินเข้ามาช่วย

“บิ๊กป้อม”ยันพปชร.ส่งคนแข่งอย่างแน่นอน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางพรรคพลังประชารัฐจะมีการส่งตัวแทนลงเลือกตั้งแน่นอน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้

กกต.คาดจัดเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น แทน”นวัธ”22 ธ.ค.62

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารประชาสัมพันธ์ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ของนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส. เขต 7 จ.ขอนแก่น สิ้นสุดลง ซึ่ง กกต. ต้องจัดการเลือกตั้ง ส.ส. แทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน สำนักงาน กกต. ขอแจ้งข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการดำเนินการก่อนที่จะประกาศพระราชกฤษฎีกาให้เลือกตั้ง ว่า การกำหนดวันเลือกตั้งและกำหนดวันรับสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อมีประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งภายใน 5 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับ กกต. กำหนดวันเลือกตั้งและกำหนดวันรับสมัครรับเลือกตั้ง โดยเริ่มรับสมัครไม่เกิน 25 วัน นับแต่วันที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งมีผลใช้บังคับ

และวันรับสมัครไม่น้อยกว่า 5 วันการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งและการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ประสงค์จะส่งผู้สมัคร ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในจังหวัดนั้น การสรรหาผู้สมัครให้พรรคการเมืองสรรหาจากสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ที่ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่เกิน 1,500,000 บาท ต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อสำนักงาน กกต. จังหวัด ภายใน 90 วัน นับจากวันเลือกตั้ง ส่วนการหาเสียงเลือกตั้งให้ทำได้ตั้งแต่วันที่ตำแหน่งว่างลง จนถึงวันก่อนวันเลือกตั้งตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 68 (2)ทั้งนี้ จากที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 27 ธันวาคมนี้ คาดว่า กกต. จะกำหนดให้วันที่ 22 ธันวาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส. เขต 7 ขอนแก่น และจะเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2562

“จุรินทร์”สั่งแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมระหว่างเพศ 3 ข้อ

People Unity News : “จุรินทร์”สั่งแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมระหว่างเพศ 3 ข้อ เลิกเลือกปฏิบัติ เปลี่ยนหลักคิด และขจัดความรุนแรง เร่งเยียวยา-ชดเชย ผู้ถูกกระทำ

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ครั้งที่ 2/2562 วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ โดยใช้เวลาตลอดครึ่งวันเช้า รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมมีมติ คือ เห็นชอบแผนปฏิบัติการและการใช้งบประมาณของกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมกันระหว่างเพศประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 7.3 ล้านบาท ประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ การชดเชย เยียวชา และบรรเทาผู้เสียหายจากการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ วงเงิน 1,854,000 บาท และการสนับสนุนความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ และการสร้างความตระหนักรู้ วงเงิน 5,446,000 บาท จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตามที่ได้หารือ

และเห็นชอบการทำแผนงานให้สอดคล้องกับประเด็นสำคัญ 3 ประเด็นของการส่งเสริมความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ คือ การเลือกปฏิบัติ การเปลี่ยนหลักคิด และการขจัดความรุนแรงเนื่องจากความแตกต่างทางเพศ และนำมาเสนอครั้งหน้า นอกจากนั้นยังมีข้อสั่งการ ข้อสั่งการ ของนายจุรินทร์ ว่า ให้จัดทำแผนงานและโครงการที่สอดคล้องกับประเด็นสำคัญ 3 ประเด็นของการส่งเสริมความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ คือ การเลือกปฏิบัติ การเปลี่ยนหลักคิด และการขจัดความรุนแรงเนื่องจากความแตกต่างทางเพศ ภายในสองอาทิตย์ และนำมาขอความเห็นชอบครั้งหน้า วันที่ 11 ธค 15.30 น. ห้อง 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

รายงานข่าวแจ้งว่า นายจุรินทร์ให้ความสำคัญกับสิทธิและความเท่าเทียมและมีความใส่ใจเป็นพิเศษนอกจากนั้นยังเน้นเรื่องวิธีการขั้นตอนที่จะสามารถปฎิบัติรองรับการขจัดความรุนแรงที่อาจจะเกิดจากความแตกต่างทางเพศและให้มีกระบวนการคู่ขนานอย่างเสรีในการจัดเสวนาสัมมนาแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นภาคสังคม คู่ขนานกับการทำหน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้

“ธนาธร” 1 ใน 100 ดาวรุ่งแห่งปี ของนิตยสาร”TIME”

People Unity News : “ธนาธร” 1 ใน 100 ดาวรุ่งแห่งปี ของนิตยสาร”TIME” ผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ประสบความสำเร็จในการ “ปลุกไฟ” ในใจของเยาวชนคนรุ่นใหม่

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิตยสาร TIME แคมเปญใหม่ภายใต้ชื่อ “TIME 100 Next” คือ “100 บุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกสำหรับ TIME” ในจำนวน 100 คนนึ้มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รวมอยู่ด้วย โดยโดย TIME เขียนอธิบายว่า “…ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทราบดีว่าการคว้าอำนาจคืนมาจากคณะรัฐประหารที่ครองอำนาจในประเทศไทยอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ แต่ท้ายที่สุดแล้ว พรรคอนาคตใหม่ที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นมาก็ได้รับคะแนนเสียงมากถึง 17% ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในปีนี้ ไม่แย่เลยสำหรับพรรคการเมืองที่เพิ่งจะมีอายุครบ 1 ปีไปหมาดๆ อย่างไรก็ตาม ธนาธร จึงรุ่งเรือง กิจ ผู้เป็นเศรษฐีพันล้าน ทายาทยักษ์ใหญ่กิจการชิ้นส่วนรถยนต์ ก็ประสบความสำเร็จในการ “ปลุกไฟ” ในใจของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่แห่กันมาร่วมภารกิจหยุดยั้งวงจรอุบาทว์การรัฐประหารและการการสูญเสียเลือดเนื้อจากการประท้วงบนท้องถนน ซึ่งเป็นชนักติดหลังประเทศไทยมากว่า 80 ปีแล้ว ในความท้าทายอันแสนเข็ญนี้ เหล่านายพลในกองทัพก็ตอบโต้ธนาธรด้วยการฟ้องร้องดำเนินคดีจำนวนมากเพื่อหวังผลทางการเมืองทั้งสิ้น เขายืนยันว่าตนเองยังตั้งมั่นอยู่กับการก่อร่างสร้างความเข้มแข็งแก่การเคลื่อนไหวของเขาในสภา แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้าคดีความมากมายก็ตาม…”

“ตราบใดที่เหล่านายพลยังอยู่ในอำนาจ การต่อสู้ของพวกเราก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป” ดท้ายนายธนาธรกล่าวว่า “Democratization, demilitarization and decentralization is our call.” ; ” กระบวนการนำมาซึ่งประชาธิปไตย การแยกกองทัพออกจากการเอง และการกระจายอำนาจ นี่คือหัวใจของพวกเรา”

TIME 100 Next เป็นแคมเปญใหม่ของนิตยสาร TIME ที่อาจจะดูคล้ายคลึงกับแบบเก่าที่เรียกกันว่า “TIME 100 list of the world’s most influential people” หรือ “100 บุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกสำหรับ TIME” นั่นเอง สิ่งที่แตกต่างกันไปในคราวนี้ คือการโน้มเอียงไปในทางของกระแสความเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาแรงและพลิกโฉมหน้าโลกแบบเดิมที่เราเคยรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของสื่อสังคมออนไลน์ ความเชื่อมั่นในสถาบันดั้งเดิมที่ถดถอยลงเรื่อยๆ หรือแม้แต่ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ใหม่ เหล่านี้ล้วนส่งผลให้ TIME เน้นการคัดเลือกบุคคลที่ฉายแววว่าจะเป็นผู้กุมทิศทางอนาคตของโลกในทางธุรกิจ การบันเทิง กีฬา การเมือง วิทยาศาสตร์ สุขภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย บุคคลทุกคนที่อยู่ใน TIME 100 Next ล้วนมีความใฝ่ฝันอันยิ่งใหญ่และพวกเขาทุกคนก็รู้ดีว่าเขาจะต้องเจออุปสรรคที่ใหญ่ยิ่งอีกมากมาย แต่สิ่งที่เป็นแรงขับให้พวกเขาเดินหน้าต่อไปคือ “ความหวัง” นั่นเอง แต่ละคนพร้อมที่จะเอาชนะความท้าทายและต่อสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่านี้

อย่างไรก็ตาม นายธนาธรไม่ใช่คนไทยเพียงคนเดียวที่ปรากฏในการจัดอันดับของนิตยสาร TIME 100 Next แต่ยังมี”กชกร วรอาคม” ภูมิสถาปัตย์ไทยคนแรกผู้คิดค้นที่กักน้ำได้กว่าล้านแกลลอนและออกแบบสวนกลางเมืองเช่น สวนจุฬา 100 ปี และ “ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า” ศิลปินวง BLACKPINK ซึ่งเป็นวงไอดอลวงแรกที่มียอดวิวบน Youtube กว่า 1000 ล้าน และผู้ติดตามอีก 30 กว่าล้าน ทั้งยังเป็นวงแรกที่ได้แสดงบนเวทีของ Coachella ด้วย

ที่มา : https://time.com/collection/time-100-next-2019/5718836/thanathorn-juangroongruangkit/

“สิระ”เปิดเหตุผล 6 ข้อ “เสรีพิศุทธิ์”ไม่เหมาะประธานกมธ.ป.ป.ช.

People Unity News : “สิระ”เปิดเหตุผล 6 ข้อ “เสรีพิศุทธิ์”ไม่เหมาะประธานกมธ.ป.ป.ช. ยันที่ประชุมมีอำนาจปลดพ้นตำแหน่ง ขณะที่ “นภาพร” เรียกร้อง “สิระ-ปารีณา” หยุดป่วนชี้ยุคสภาฯมาจากการเลือกตั้ง ทุกคนต้องยอมรับการตรวจสอบ

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวช ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปช.) ออกมาระบุว่า ไม่สามารถปลดจากประธานคณะกรรมาธิการได้ว่า คณะกรรมาธิการสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ หากเห็นว่า ประธานมีความไม่เหมาะสมก็สามารถโหวตเปลี่ยนแปลงได้ อยากให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ไปศึกษาข้อบังคับให้ดี

“ขณะนี้ การทำงานของคณะกรรมาธิการมีการ นำประเด็นส่วนตัวมาใช้ในคณะกรรมาธิการ ทำให้ไม่สามารถทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้เต็มที่ ทำให้เสียโอกาส และในการเป็นประธานก็มีความไม่เหมาะสมในหลายประเด็น”นายสิระ กล่าว

นายสิระ กล่าวว่า ความไม่เหมาะสมของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เท่าที่ได้สัมผัสในการเข้าประชุมคณะกรรมาธิการเพียงครั้งเดียว 1.ปกปิดข้อมูล กรณีตัวแทนนายกรัฐมนตรี นำข้อมูลมาชี้แจง กรรมาธิการขอดูข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา แต่ไม่ได้ดู 2.พฤติกรรมไม่เหมาะสม กรณีชี้หน้าคณะกรรมาธิการในที่ประชุม ถามกลับไปว่า ถ้าประธานโดนชี้หน้าบ้างจะรู้สึกอย่างไร 3.ไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้แสดงความคิดเห็นตามอำนาจหน้าที่ 4.แถลงข่าวประจานกรรมาธิการ ในขณะกรรมาธิการไม่อยู่ด้วย
5.ใช้วาจาไม่เหมาะสมกับคณะกรรมาธิการ 6.ไม่ให้เกียรติคณะกรรมาธิการ

“พฤติกรรมที่กล่าวมา สร้างความอึดอัดให้กับคณะกรรมาธิการ แม้จะซีกฝ่ายค้านก็ตาม ส่วนใหญ่จึงเห็นด้วยให้มีการเปลี่ยนแปลงตัวประธาน’ นายสิระ กล่าวและว่า หากตำแหน่งประธานเป็นของพรรคเสรีรวมไทย ก็ส่งคนใหม่มาเป็น แต่หากไม่มีใครก็พร้อมที่จะเป็นเอง”นายสิระ กล่าว

“นภาพร”เรียกร้อง “สิระ-ปารีณา”หยุดป่วนการทำงานของ กมธ.ปปช.

น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา รองเลขาธิการพรรคเสรีรวมไทย เห็นว่า การเสนอให้ปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกจากประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ของนายสิระ เจนจาคะ รวมทั้งการคัดค้านการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาชี้แจงใน กมธ.ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ 2 กมธ.ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เป็นเพียงความพยายามสกัดกั้นการทำหน้าที่ตรวจสอบของ กมธ.เท่านั้น

โดยยืนยันว่า พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เพียงทำหน้าที่ตามมติในที่ประชุม กมธ.และไม่ได้มีปัญหาเป็นการส่วนตัวกับใคร ดังนั้นทั้งนายสิระและ น.ส.ปารีณา ไม่ควรคิดแต่เพียงการเล่นเกมการเมืองเพื่อหวังสกัดกั้นการตรวจสอบผู้นำของพรรคตัวเองเท่านั้น

“ต้องเข้าใจด้วยว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยถูกตรวจสอบจากกลไกองค์กรอิสระ เพราะส่วนใหญ่ถูกแต่งตั้งโดย คสช. แม้จะมี สนช.แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นแค่สภาฝักถั่ว แต่ปัจจุบันมีสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ดังนั้น กระบวนการตรวจสอบจึงมีขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา เพียงแค่ พปชร.ยอมรับว่า กมธ.สามารถตรวจสอบนายกฯได้ ทุกอย่างก็จบ” น.ส.นภาพรกล่าว

น.ส.นภาพร ยังเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับการทำงานของ กมธ. เช่นเดียวกับนายทหารรุ่นน้องอย่าง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่เคยทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมาแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องส่งคนในพรรค พปชร.มาคอยสกัดกั้นการทำงานของ กมธ.เช่นนี้

ส่วนกรณีที่ น.ส.ปารีณาขู่ที่จะนำเรื่องราวในอดีตขึ้นมาตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์นั้น น.ส.นภาพรเห็นว่า ทุกคนต้องยอมรับการตรวจสอบ หากเราตรวจสอบคนอื่นได้ ก็ต้องพร้อมที่จะถูกคนอื่นตรวจสอบกลับเช่นกัน แต่โดยส่วนตัวไม่อยากให้เกิดปัญหาเช่นนี้ เพียงแต่อยากให้ทุกอย่างเดินไปตามระบบที่ถูกต้องเท่านั้นเอง

“เราต้องยอมรับว่า ยุคนี้เป็นยุคประชาธิปไตย มีสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นทุกคนควรยอมรับการตรวจสอบ ไม่ควรเล่นเกมการเมืองแบบนี้ เพราะจะเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยทางอ้อม ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของนักการเมืองทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งกับตัวนายสิระและ น.ส.ปารีณาเอง” น.ส.นภาพรกล่าว

“อนุทิน”ย้ำนโยบายกัญชาต้องเป็นรูปธรรมดันกม.ปลูกได้ 6 ต้น

People Unity News : “อนุทิน”ย้ำนโยบายกัญชามีความสำคัญกับพรรคภูมิใจไทยมาก ต้องเป็นรูปธรรม จ่อส่งข้อมูล สธ.หนุนกฎหมาย 6 ต้น

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ความคืบหน้าของนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย หลังจากมีการยื่นร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ และ ร่าง พ.ร.บ.สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย เข้าสู่การพิจารณาของสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นโยบายกัญชามีความสำคัญกับพรรคภูมิใจไทยมาก ต้องทำให้เห็นความเป็นรูปธรรมมากที่สุด เรียนว่าเป็นคนหนึ่งที่ใช้งานเฟซบุ๊ก ทุกครั้งที่นำเสนอเรื่องอะไรออกไป มักจะมีคนมาถามเรื่องของนโยบายดังกล่าว ตรงนั้นสะท้อนว่า ประชาชนให้ความสนใจกับเรื่องนี้ขนาดไหน และตนไม่เคยลืม เป้าหมายคือให้ประชาชนปลูก เพื่อรักษาตัวเองเป็นหลัก กระนั้น การใช้ต้องเป็นไปอย่างถูกวิธี

ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข ต้องเข้ามาดูแลจัดการก่อน วันนี้องค์การเภสัชกรรมสามารถปลูก และผลิตสารสกัดจากกัญชาได้แล้ว กระจายไปตามโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับเปิดอบรมแพทย์ ให้สามารถจ่ายน้ำมันกัญชาอย่างถูกต้อง สำหรับการแพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้านจำนวนมากได้มาขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง เช่นเดียวกับสูตรยา ซึ่งมีกัญชาเป็นส่วนผสม อาทิ สูตรของ อ.เดชา ก็ได้มาขึ้นทะเบียนแล้วเช่นกัน เพราะกระทรวงสาธารณสุขต้องการให้ทั้งหมอแผนปัจจุบัน และแพทย์แผนไทย ได้ใช้กัญชาในการรักษาโรค และเราพยายามนำกัญชาขึ้นมาบนดิน

บางคนอาจจะมองว่านโยบายกัญชา ยังไม่รวดเร็วทันใจ แต่ขอให้เข้าใจว่าการนำกัญชาขึ้นมาบนดินเป็นเรื่องที่ใหม่มาก ถ้าทำอย่างเร่งร้อน เกรงจะเกิดผลเสียอย่างใหญ่หลวง ยกตัวอย่างว่า หากมีการจำหน่ายสารสกัดจากกัญชา แล้วประชาชนไปซื้อ นำไปใช้ต่างประเทศ ปรากฎว่าถูกจับ เพราะทางนั้นมองว่าเป็นสารเสพติด อาจจะโดนโทษถึงขั้นประหารชีวิต ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะฉะนั้น ทุกอย่างต้องทำอย่างรอบคอบ ต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามในการเดินหน้านโยบายนี้
อันที่จริง ไม่อยากให้เรียกกัญชาว่ากัญชา แต่อยากให้เรียกเป็นสาร THC, CBD ซึ่งเป็นสารสำคัญในพืชชนิดนี้ เพื่อลบภาพยาเสพติดออกไป โดยสรุป กระทรวงสาธารณสุข ผลักดันการใช้กัญชาทางการแพทย์ และเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม ในอนาคต หากสารสกัด CBD, THC ได้รับการยอมรับ เรื่องของกัญชาจะเปิดกว้างยิ่งขึ้น

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เหตุที่ต้องใช้หมอเดินหน้านโยบายเกี่ยวกับกัญชา เพราะหมอมีความน่าเชื่อถืออย่างยิ่งในสังคม แต่ตนไม่ได้บังคับให้ใครมาเดินหน้า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ถ้าคิดว่าไม่ใช่ ก็ไม่ต้องทำ แต่เพราะทางกระทรวงสาธารณสุข เห็นความสำคัญของกัญชา ในฐานะทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรค นโยบายจึงเดินต่อ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าบางส่วนของนโยบายกัญชา อาทิเรื่อง กัญชา 6 ต้น มีความยาก เกี่ยวพันกับความเชื่อ และหลายหน่วยงาน การจะทำให้สำเร็จต้องอาศัยช่องทางรัฐสภา เพื่อแก้กฎหมาย ซึ่งภูมิใจไทยได้ยื่นกฎหมายเข้าสู่สภาแล้ว ทั้งนี้ การยื่นกฎหมายมีใช่มีเพียงเอกสาร แต่กำลังรอข้อมูลสนับสนุนเรื่องคุณประโยชน์ของกัญชา ที่เก็บรวบรวมจากการใช้กัญชาทางการแพทย์กับผู้ป่วยในความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเท่าที่ศึกษารายงานผล พบผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้ การใช้กัญชาทางการแพทย์ ที่ดำเนินการโดยกระทรวงสาธารณสุข เป็นเรื่องที่ทำได้โดยอำนาจของรัฐมนตรีว่าการฯ ดังนั้น จึงเห็นความคืบหน้าชัดเจนกว่าเรื่องอื่นที่ต้องอาศัยการแก้กฎหมายในสภา

“เรื่องกัญชา มันเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานมาก แต่ในฐานะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คิดอยู่เสมอว่า มันต้องทำนโยบายนี้ให้เกิดความเป็นรูปธรรมสูงสุด และถ้าพูดเรื่องแก้กฎหมายในสภา ย่อมต้องใช้เวลา แต่บางเรื่องถ้าต้องผ่านทางนั้นก็ต้องทำ อาทิ เรื่อง 6 ต้น แต่เรื่องไหน มันไปทางอื่นได้ ก็ไปทางนั้น อย่างเช่นเรื่องกัญชาทางการแพทย์ ผมเอาเอกสารของกระทรวงฯมากาง แล้วดูว่าผมจะทำอะไรได้บ้าง ผมมีอำนาจอะไรบ้าง และผมทำตามอำนาจที่มี อาศัยว่ากล้าเซ็น กล้ารับ ก็เห็นความคืบหน้า นโยบายกัญชามีความสำคัญมาก เราต้องใช้ทุกช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายนี้”

“ชวน”สอนส.ส.! สภาฯไม่ใช่ที่ทะเลาะกัน

People Unity News : “ชวน”สอนส.ส.! สภาฯไม่ใช่ที่ทะเลาะกัน เป็นสถานที่ที่เป็นปากเสียงของประชาชน เป็นผู้ออกกฎหมายต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ อย่าให้สภาท้องถิ่นอ้างได้

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายชวนกล่าวถึงการนัดประชุมสภาฯ นัดพิเศษ วันที่ 22 พ.ย. เวลา 09.30 น. ว่า จะพิจารณาญัตติทั่วไป ที่ค้างอยู่ในระเบียบวาระ จำนวน 111 เรื่อง และยังไม่ถูกพิจารณา เพราะมีญัตติด่วนเข้ามา หากไม่ทำเรื่องดังกล่าวจะเหมือนอดีต คือยุบสภา แล้วจะมีเรื่องค้างอยู่จำนวนมาก ทั้งนี้ได้มีการแยกเป็น 11 กลุ่ม อาทิ ญัตติกลุ่มแหล่งน้ำ มี 9 ญัตติ , ญัตติกลุ่มโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภา จำนวน 2 ญัตติ กลุ่มญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาตรวจสอบแนวทางแก้ปัญหาลูกหนี้การเกษตร จำนวน 7 ญัตติ

ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าเตรียมเชิญผู้เสนอญัตติซึ่งจัดกลุ่มดังกล่าวมาหารือว่าหากจะพิจารณาร่วมกัน จะใช้เวลาเท่าไร เช่น 2-3 ชั่วโมง จากนั้นจะให้นำเวลาไปบริหารกันเอง หากผ่าน 3 กลุ่มดังกล่าวได้ก็จะผ่านถึง 20 ญัตติ เป็นวิธีบริหารแนวใหม่ เพื่อให้ก่อนสิ้นสมัยประชุมไม่มีเรื่องค้างพิจารณาจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม จะขอหารือผู้เสนอญัตติ รวมถึงตัวแทนผู้ควบคุมเสียงจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านหารือเป็นการส่วนตัวในสัปดาห์หน้าด้วย ส่วนเรื่องเพื่อทราบจะบรรจุในวาระประชุมครั้งละ 3 เรื่องแทนจากเดิมที่บรรจุ 6-7 เรื่อง หากส.ส.สนใจศึกษาและอภิปรายเรื่องใดขอให้รับเอกสารที่หน่วยงานจัดส่งไปศึกษาล่วงหน้า เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีการบรรจุระเบียบวาระ เพื่อให้การอภิปรายเป็นประโยชน์มากที่สุด

“ผมขอความร่วมมือจากสมาชิก ให้เคารพและปฏิบัติตามข้อบังคับ เพื่อให้สภานิติบัญญัติมีความน่าเชื่อถือ สภาฯ ไม่ใช่ที่เรียกร้องผลประโยชน์ หรือสถานที่ขัดแย้ง เพราะสภาฯ คือสถานที่ที่เป็นปากเสียงของประชาชน สภาฯ ในฐานะผู้ออกกฎหมาย ต้องเป็นตัวอย่างผู้เคารพกฎหมาย อย่าให้สภาท้องถิ่นวิจารณ์ว่า สภาท้องถิ่นทะเลาะกันได้ เพราะสภาผู้แทนฯยังทะเลาะ” นายชวน กล่าวและว่า

พบว่าเงินที่ใช้ในส่วนของ กมธ.ฯ สภาฯ ที่พบว่าได้น้อยกว่า กมธ. ของวุฒิสภา ตนได้ทำหนังสือไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะสภาฯที่มาจากการเลือกตั้งได้งบประมาณที่น้อยกว่า และการจัดงบประมาณที่ไม่สมบูรณ์

“ธิดารัตน์”แนะ”บิ้กตู่”อ่านกูเกิ้ลก่อนพูด”รีดนมวัวให้เด็กดื่มเลย”

People Unity News : “ธิดารัตน์”เห็นต่าง”บิ้กตู่” ยกข้อมูลจากต่างประเทศชี้หากให้เด็กดื่มนมวัวสดๆ เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร แนะอ่านใน Google ก่อนจะพูด

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่พูดแนะนำว่าต่อไปให้รีดนมวัวให้เด็กดื่มเลยนั้น พูดโดยไม่มีความเข้าใจในกระบวนการผลิตนมวัวที่จะต้องมีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย และได้มาตราฐาน ในนมวัวสดที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อหรือความร้อนใดๆ จะมีเชื้อโรคแคมไฟโลแบคเตอร์ ลิสเตอเรีย อีโคไลชนิดที่สร้างสารพิษได้ และเชื้อโรคอื่น ๆ ซึ่งก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้บริโภคนมวัวแบบสดจากเต้า

นางสาวธิดารัตน์กล่าวอีกว่า ตัวอย่างการดื่มนมวัวสดโดยไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรท์ในประเทศนิวซีแลนด์ พบว่าในปี พ.ศ. 2557 มีผู้ติดเชื้อจากการกินนมสดจากเต้า 41 คน ซึ่งมี 9 คน เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี แล้วผู้ป่วย 2 คน มีอาการร้ายแรงถึงขั้นไตวาย ต่อมาในปี พ.ศ. 2558 ก็มีรายงานของผู้ป่วยจากการดื่มนมสดจากเต้าอีก 13 คน ดังนั้น ประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงไทยเองก็ไม่เคยให้ประชาชนบริโภคนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรท์

รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันนมโรงเรียนน่าจะมีเพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่การควบคุมคุณภาพมาตรฐานอย่างเคร่งครัด และรัฐบาลควรใส่ใจทั้งในเรื่องคุณภาพอาหารและนมที่ให้เด็กบริโภคในโรงเรียน รวมถึงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ถูกจุด ทั้งนี้ท่านต้องไปช่วยลดต้นทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวที่ประสบปัญหา อาหารวัวราคาแพงและขาดพื้นที่ปลูกหญ้าเนเปีย รวมทั้งขาดแหล่งน้ำและระบบส่งน้ำเข้าสู่แปลงหญ้าอีกด้วย

“ทางที่ดี ท่านควรศึกษาข้อมูลจากการอ่านบทวิจัยต่างๆใน Google ทั้งในไทยและต่างประเทศ ก็มีเขียนอยู่มากมาย รวมทั้งช่วยจัดสรรงบประมาณส่งเสริมการเลี้ยงโคนมให้ได้มาตรฐาน ป้องกันไม่ให้ผู้ใดโกงและแสวงหาผลประโยชน์ เพื่อดูแลคุณภาพอาหารที่เด็กบริโภคในโรงเรียน ดีกว่าแนะนำโดยไม่มีข้อมูล” นางสาวธิดารัตน์กล่าว

สธ.-ไอโอเอ็มลงนามความร่วมมือแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในกลุ่มประชากรต่างด้าวชายแดน

People Unity News : กระทรวงสาธารณสุข ลงนามความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ครั้งที่ 3 เพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในกลุ่มต่างด้าวในชายแดน ทั้งผู้ย้ายถิ่น และกลุ่มด้อยโอกาสในพื้นที่ประเทศไทย เข้าถึงบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมายปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนางสาวดาน่า เกรเบอร์ ลาเด๊ก (Ms.Dana Graber Ladek)หัวหน้าสำนักงานองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานประเทศไทย(International Organization for Migration : IOM) ร่วมลงนามความร่วมมือสนับสนุนการแก้ปัญหาสาธารณสุขในกลุ่มประชากรต่างด้าวในจังหวัดชายแดน และให้สัมภาษณ์ว่า ได้ลงนามความร่วมมือกับไอโอเอ็มครั้งแรกตั้งแต่พ.ศ. 2552 ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี เริ่ม 14 พฤศจิกายน 2562 – 30 พฤศจิกายน 2565 เป็นกรอบความร่วมมือในการดูแลด้านสุขภาพของผู้ย้ายถิ่นในประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือกระทรวงสาธารณสุขในการพัฒนาความรู้ สร้างความตระหนักรู้ ขีดความสามารถด้านนโยบายและแนวทางการปฏิบัติ รวมทั้งการให้บริการและสนับสนุนการเข้าถึงบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชากรต่างด้าว ครอบคลุมทั้งที่ได้ขึ้นทะเบียนและมิได้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายกำหนด รวมถึงประชาชนที่ด้อยโอกาสในประเทศไทย

นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า การบริการภายใต้โครงการนี้ มุ่งเน้น 6 ด้าน คือ 1.สาธารณสุขมูลฐาน การตรวจและการประเมินสุขภาพ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น 2.การรักษาพยาบาลฉุกเฉินสำหรับผู้ย้ายถิ่นที่อยู่ในภาวะวิกฤติ 3.อนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาวะทางเพศและสุขภาพเด็ก เช่น การวางแผนครอบครัว การมีบุตรอย่างปลอดภัย โภชนาการ การให้ภูมิคุ้มกันเด็ก โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ 4.การป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ โดยเฉพาะโรคประจำถิ่น เช่น โรคไข้เลือดออก มาลาเรีย วัณโรค โรคท้องร่วง และโรคติดต่ออุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ำเช่น ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ 5.อนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลชุมชน และการจัดให้มีแหล่งน้ำที่สะอาดปลอดภัย และ6.การเตรียมความพร้อมรับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น โดยไอโอเอ็มจะเป็นผู้รับผิดชอบด้านบัญชี การเงินการบริหารโครงการ การประเมินโครงการ และการแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

Verified by ExactMetrics