วันที่ 13 พฤษภาคม 2024

ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าประกันน้ำ-ไฟ

People Unity News : คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2563 รับทราบมาตรการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับประชาชน ดังนี้

โฆษณา

“ประยุทธ์” ระบุสนามกีฬา สนามมวย ผับต่างๆ เมื่อถึงเวลาจำเป็นก็อาจต้องปิดทั้งหมด

People Unity News : ประยุทธ์ ย้ำรัฐบาลเตรียมมาตรการรับมือโควิด -19 ระบุยังไม่ถึงขั้นต้องไปกักตุนสินค้า เผยหากสถานการณ์เข้าสู่ระยะที่ 3 จะมีการจัดตั้งโรงพยาบาล เป็นศูนย์เฉพาะกิจในการรักษาพยาบาล ส่วนสนามกีฬา สนามมวย ผับต่างๆ เมื่อถึงเวลาจำเป็นก็อาจต้องปิดทั้งหมด เผยข้อเสนอให้ประชาชนตรวจหาเชื้อฟรี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด มีการเสนอเข้ามาแล้ว โดยจะใช้กฎหมายกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ หรือยูเซ็ป (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP)

เมื่อวานนี้ (15 มีนาคม 2563) เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) เยี่ยมชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าผู้ปฏิบัติงานประจำศูนย์ฯ โดยเดินทักทายพร้อมกล่าวให้กำลังใจ ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ร่วมมือกันก้าวผ่านเหตุการณ์นี้ไปให้ได้ จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังการบรรยายสรุปความคืบหน้าการทำงานของส่วนราชการต่างๆ เพื่อรับฟังข้อเสนอหารือแนวทางปฏิบัติร่วมกันอย่างเหมาะสมต่อไป

ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุป และมอบนโยบายการทำงาน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า ที่เดินทางมาประชุมในวันนี้เพราะมีความห่วงใย ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน วันนี้จึงมานั่งหารือสอบถามหน่วยงานตามมาตรการที่ได้ประกาศออกไปแล้ว ว่า เดินหน้าแค่ไหนอย่างไรและปัญหาอยู่ที่ไหน รวมทั้งทบทวนถึงการทำงานต่างๆ รวมถึงหน้ากากอนามัยได้สั่งการให้รวบรวมข้อมูลจำนวนหน้ากากอนามัยส่วนหนึ่งที่นำเข้าว่ามาจากประเทศใด และให้ตรวจสอบปริมาณที่นำเข้ามา เพื่อดูว่าปริมาณที่นำเข้ามากับปริมาณที่ผลิตในประเทศรวมแล้วมีจำนวนเท่าไหร่ พอเพียงหรือไม่ ขณะเดียวกันก็สั่งเพิ่มมาตรการเกี่ยวกับการผลิตตามสายผลิตของโรงงานต่างๆให้มากขึ้นผ่านมาตรการส่งเสริมต่างๆ โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการหารือกับประเทศผู้ผลิตวัตถุดิบ โดยเฉพาะการประสานกับประเทศจีนเนื่องจากวัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศจีน ส่วนที่สอง คือ กำลังเร่งพัฒนาหน้ากากอนามัยทางเลือกซึ่งสามารถใช้กับบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะบุคคลที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยง หรือในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งต้องร่วมมือกันรณรงค์สร้างความเข้าใจ สร้างจิตสำนึกให้ทุกคนมีความรับผิดชอบ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการเตรียมมาตรการรองรับหากสถานการณ์ที่เข้าสู่ระยะสาม โดยได้มีการพูดคุยว่ากระทรวงการต่างประเทศจะต้องดำเนินการอะไร เตรียมการส่วนใดบ้าง ฝ่ายความมั่นคงต้องพิจารณาดูว่าจะต้องใช้กฎหมายใดเพิ่มเติมเป็นพิเศษ ทั้งนี้ การประกาศบังคับใช้ไม่ยาก สิ่งสำคัญคือ ต้องดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ต้องเตรียมทำอย่างไร ทั้งประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ และสุขภาพ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญทั้งสิ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เข้าใจวันนี้ประชาชนเดือดร้อน อย่างไรก็ตามอยากขอร้องว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะต้องไปกับตุนสินค้า ไม่ต้องกลัว รัฐบาลมีมาตรการเพิ่มเติม เช่น การติดตามตัว การใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ และกำลังพิจารณาดูว่าจะบังคับใช้กับทุกคนได้หรือไม่ เพราะมีประเด็นสิทธิส่วนบุคคล จะต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าตัวเสียก่อน วันนี้ต้องแยกการปฏิบัติในส่วนของคนไทย และชาวต่างประเทศ ทั้งหมดเป็นมาตรการที่เสนอมาโดยคณะแพทย์  นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหาร ก็ฟังหมอเป็นหลัก วันนี้ที่มาร่วมประชุมไม่เพียงเฉพาะแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข แต่มีทั้งแพทย์จากภายนอก แพทย์อาวุโส ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้ ประเทศไทยเผชิญกับโรคระบาดเกิดขึ้นหลายโรคแล้ว วันนี้ทุกฝ่ายได้เข้ามาช่วยกันทั้งหมดแล้ว

นายกรัฐมนตรีกล่าวขอความร่วมมือจากทุกคนต้องฟังเหตุฟังผล รัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกคน คนไทยที่กลับจากต่างประเทศก็มีมาตรการดูแล เช่น นักศึกษาทุนเอเอฟเอส เพราะทุกคนต้องการกลับบ้าน มีมาตรการการคัดกรอง สถานที่ เช่น ศูนย์สัตหีบ ก็ยังมีการใช้งาน ยามจำเป็นต้องเข้าไปใช้ก็ต้องใช้

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงแนวทางการเตรียมโรงพยาบาลรองรับว่า หากสถานการณ์เข้าสู่ระยะที่ 3 จะมีการจัดตั้งโรงพยาบาล เป็นศูนย์เฉพาะกิจในการรักษาพยาบาลโรคไวรัสโคโรนา ขณะนี้มีสถานที่แล้วเป็นโรงพยาบาลที่สร้างใหม่แต่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน มีจำนวนเตียงประมาณ 100 เตียง จะใช้เป็นโรงพยาบาลศูนย์เฉพาะกิจสำหรับโรคโควิด 19 โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นมาตรการรองรับในอนาคต สำหรับอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆรัฐบาลพร้อมสนับสนุนทุกเรื่องที่เป็นความต้องการของหน่วยงานภาครัฐตามมติของคณะกรรมการโรคระบาดแห่งชาติ

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอให้มีการปิดผับและสถานบันเทิงในพื้นที่เสี่ยง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวตอบว่า สำหรับสถานบันเทิงได้มีการหารือแล้ว หากขอความร่วมมือได้ก็จะขอความร่วมมือ กรณีที่มีปัญหาก็ต้องดูว่าพร้อมที่จะปิดตัวเองหรือไม่ เมื่อถึงเวลาจำเป็นก็อาจต้องปิดทั้งหมด แต่เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ทุกมาตรการต้องคำนึงถึงหลายหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬา สนามมวย ผับต่างๆ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังไปหารือกันว่าควรมีมาตรการอย่างไรต้องฟังจากหมอว่าจะควบคุมอย่างไร

นายกรัฐมนตรียังตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงข้อเสนอให้ประชาชนสามารถตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด 19 ฟรี เพื่อเป็นอีกวิธีในการป้องกันการแพร่ระบาดได้ว่า มีการเสนอแล้วโดยจะมีการใช้กฎหมายกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ หรือยูเซ็ป (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP) ที่เริ่มประกาศใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 โดยให้ผู้ป่วยในทุกสิทธิ์การรักษาที่เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต สามารถเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดในที่จุดเกิดเหตุได้ รวมถึงโรงพยาบาลเอกชน ในช่วงเวลา 72 ชั่วโมงแรก ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีบูรณาการภาพรวมทั้งหมดตั้งแต่ต่างประเทศ สนามบิน พื้นที่ควบคุม ภาคปฏิบัติมีการบูรณาการกันแล้ว พร้อมยอมรับว่าสถานการณ์ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาย่อมมีความยุ่งยาก สับสนพอสมควร เนื่องจากต้องดูแลคนจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ มีการเข้าและการออก ยืนยันว่าการบริหารจัดการรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ล่าช้า หลายอย่างต้องอาศัยความเข้าใจเนื่องจากมีคนจำนวนมากในการทำงานร่วมกัน ทุกวันนี้มีคนเข้าประเทศลดลงมากสถิติก็มีอยู่แล้ว เที่ยวบินก็ลดลงจำนวนคนที่เคยเข้ามาวันละ 60,000- 70,000 คน เหลือเพียง 6,000 คน ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาที่ตามมาในอนาคต ต้องมาคิดดูว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป อย่างไรก็ตาม วันนี้สุขภาพถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

โฆษณา

“อนุทิน” เรียกประชุม 3 กระทรวงจับตาสถานการณ์ “โคโรนา” ยันไทยป้องกันการแพร่ระบาดได้

People Unity News : รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน เรียกประชุม 3 กระทรวง “สาธารณสุข-คมนาคม-ท่องเที่ยว” จับตาสถานการณ์ “โคโรนา” ยืนยันไทยยังป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้

เมื่อวานนี้ (26 ม.ค. 2563) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคาร 1 ชั้น 2 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมเชิงปฏิบัติการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศไทย ร่วมกับผู้บริหาร 3 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ก่อนจัดทำมาตรการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในวันอังคารที่ 28 มกราคม 2563 นี้ โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมด้วย

ภายหลังการประชุม รองนายกรัฐมนตรีได้ ขอบคุณหน่วยงานของทั้ง 3 กระทรวง ที่ร่วมบูรณาการแผนป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ช่วยกันสกัดไม่ให้การระบาดของโรคนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น  ทำให้พบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 จากต่างประเทศ ทั้งหมด 8 ราย ( ณ 26 ม ค.63) โดยกลับบ้านแล้ว 5 ราย อีก 3 รายยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่ายังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทย แต่ยังคงเฝ้าระวังนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศจีนหรือประเทศที่สุ่มเสี่ยง หรือสงสัยว่าอาจจะมีอาการป่วย แต่ยังไม่ปรากฏอาการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการตรวจคัดกรองใน 5 สนามบิน ที่บินมาจากเมืองอู่ฮั่นและกวางโจว ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่  ภูเก็ต และกระบี่ นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับแจกคำแนะนำ (health beware card) จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค

รองนายกรัฐมนตรีประกาศยืนยันว่า คณะผู้เชี่ยวชาญการควบคุมโรคระบาด และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญของไทย ดำเนินการ 100% อุปกรณ์ในการตรวจสอบและแสกนก็เพียงพอต่อการรับมือสอดคล้องกรอบการดำเนินการขององค์การอนามัยโลก ทั้งยกระดับการเฝ้าระวัง คัดกรองผู้ป่วยสงสัยฯ จากพื้นที่แพร่ระบาดของโรค ครอบคลุมทั้ง สนามบิน สถานพยาบาลรัฐ/เอกชน และในชุมชน ให้โรงแรมที่พักเป็นจุดเฝ้าระวังด้วย ดังนั้น ความร่วมมือของประชาชน ผู้ประกอบการทัวร์ โรงแรม ที่พัก เป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้การควบคุมป้องกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ในการควบคุมป้องกันขณะนี้ มีประสิทธิภาพเพียงพอและเหมาะสมกับสถานการณ์โดยคำนึกถึงสุขภาพประชาชนในประเทศสำคัญเป็นอันดับแรก ประชาชนสามารถมั่นใจต่อการดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุขและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้เชื่อมั่นในข่าวที่กระทรวงสาธารณสุขเผยแพร่ออกไป โดยกรมควบคุมโรคจะเป็นผู้แถลงข่าวทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง หากจำเป็นก็จะเพิ่มความถี่ในการแถลงข่าว เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับรายงานการดำเนินการทุกอย่าง และมีความห่วงใยประชาชนต่อสถานการณ์นี้ และได้สั่งการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุดโดยไม่ต้องมีการปิดบังใดๆ เพื่อให้ประชาชนได้ปฏิบัติตัวได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง พร้อมทั้งยังทำงานร่วมกับคณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเผยแพร่สู่ประชาชนได้รับทราบ

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยความมั่นใจว่า สถานการณ์จะดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากประชาชน วอนอย่าเชื่อข่าวลือ “เช็คก่อนแชร์” เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง  หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php และ Line@ / เพจ เฟสบุ๊ค : รู้กันทันโรค, เพจเฟสบุ๊ค : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข”

โอกาสนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้กำชับให้คำนึกถึงความปลอดภัยและสุขภาพประชาชนเป็นหลัก ประเด็นเศรษฐกิจเป็นเรื่องรอง สำนักโฆษกจะได้มีการประสานงานและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง โดยเฉพาะข้อมูลในเรื่องการดูแล ป้องกันดูแลตนเองอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความวิตกกังวลให้กับประชาชน

โฆษณา

“บิ๊กตู่” สั่งกองทัพ สนับสนุนควบคุมต้นเหตุปัญหาฝุ่นพิษเร่งด่วน

People Unity News : “บิ๊กตู่” สั่งกองทัพ สนับสนุนเร่งควบคุมต้นเหตุปัญหาฝุ่นพิษเร่งด่วน พร้อมร่วมเสียสละและรับผิดชอบสังคมไปด้วยกัน

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และ รมว.กห. ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพลงพื้นที่ทำงานร่วมกับจิตอาสา สนับสนุนส่วนราชการต่างๆ เร่งแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่วิกฤตเป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะการควบคุมต้นเหตุของปัญหา

โดยให้กองทัพอากาศ นำอากาศยานไร้คนขับตรวจสภาพอากาศ เพื่อวางแผนสนับสนุนการทำฝนหลวงและขยายผลสำรวจจุดความร้อนในพื้นที่ แจ้งเตือนกำลังภาคพื้น เร่งเข้าไปควบคุมไฟป่าและพื้นที่ก่อให้เกิดควัน พร้อมกับให้กำลังทางบกของหน่วยทหารในพื้น ร่วมตรวจสอบและสนับสนุนส่วนราชการต่างๆ กวดขันบังคับใช้กฎหมาย ควบคุมต้นเหตุของปัญหา ทั้งจากการเผาพืชไร่ โรงงาน การก่อสร้างและยานพาหนะควันดำ พร้อมจัดกำลังพลและยานพาหนะ สนับสนุนการชำระล้างถนน ทางเท้าและต้นไม้ริมทาง เพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นระดับต่ำที่มีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง พร้อมกันนี้ให้จัดเจ้าหน้าที่แพทย์สนาม กระจายลงพื้นที่ดูแลสุขภาพเด็กและคนชราและให้คำแนะนำกับประชาชน

ทั้งนี้ นรม.และ รมว.กห.ได้กำชับให้ทุกเหล่าทัพ ขยายผลนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สามารถบรรเทาปัญหา รวมทั้งเร่งตรวจสอบปรับปรุงยานพาหนะในสังกัดและระงับการนำยานพาหนะเข้าพื้นที่วิกฤตหากไม่จำเป็น พร้อมทั้งขอความร่วมมือรณรงค์ให้กำลังพลและครอบครัว รวมทั้งประชาชนในพื้นที่โดยรอบหน่วยทหาร ร่วมเสียสละและรับผิดชอบสังคมไปด้วยกัน ในการลดต้นเหตุกิจการที่ก่อให้เกิดควันและลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัวเข้าพื้นที่วิกฤตเป็นการชั่วคราว โดยให้หน่วยพิจารณาจัดยานพาหนะเป็นส่วนรวม สนับสนุนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

โฆษณา

ได้เวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (ภ.ง.ด.94)

People Unity : กรมสรรพากรประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีเงินได้ที่มีหน้าที่ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (ภ.ง.ด.94) สำหรับปีภาษี 2562 สามารถยื่นแบบพร้อมชำระภาษี ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาได้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.2562 และเพื่อความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา ผู้เสียภาษีสามารถยื่นแบบพร้อมชำระภาษีผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตที่ www.rd.go.th จะได้รับสิทธิขยายเวลาการยื่นแบบถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2562

สำหรับผู้ที่มีหน้าที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.94 คือผู้ที่มีเงินได้ตามมาตรา 40(5) – (8) แห่งประมวลรัษฎากร เช่น เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน เงินได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ (แพทย์ วิศวกร นักบัญชี นักกฎหมาย ฯลฯ) เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระในส่วนสำคัญนอกจากเครื่องมือเงินได้จากการประกอบธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมุ่งทางการค้าหรือหากำไร และการพาณิชย์อื่นๆ รวมทั้งนักแสดงสาธารณะ เป็นต้น

ผู้มีหน้าที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.94 สามารถ Download พร้อมทั้งศึกษาวิธีการกรอกแบบแสดงรายการฯ ได้จากเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th หัวข้อ Download > แบบแสดงรายการภาษี แบบคำร้อง/คำขอต่างๆ > ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือด้วยการ Scan QR Code ที่อยู่ด้านหน้าแบบแสดงรายการฯ นอกจากนี้ กรมสรรพากร มีบริการจัดส่งแบบ ภ.ง.ด.94 ให้แก่ผู้เสียภาษีที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปด้วย

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการยื่นแบบฯ ภ.ง.ด.94 ได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร โทร. 1161 และหากพบเห็นการกระทำใดๆ ที่เป็นการหลีกเลี่ยงภาษี ขอให้แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลต่างๆ ที่ www.rd.go.th > เมนู “แจ้งเบาะแสข้อมูลแหล่งภาษี” เพื่อที่กรมสรรพากรจะได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ข่าว : ได้เวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (ภ.ง.ด.94)

People Unity : post 14 สิงหาคม 2562 เวลา 11.50 น.

ด่วน!สาธารณสุขเตือนประชาชนระวัง 6 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำในพื้นที่ประสบภัยแล้ง

People Unity : กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวัง 6 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำที่พบบ่อยในพื้นที่ประสบภัยแล้ง อาจขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาด ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. แนะนำประชาชนในการป้องกันโรค ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” หากท้องเสีย อาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์

วันนี้ (29 กรกฎาคม 2562) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ประสบภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง ซึ่งสภาพอากาศร้อน แล้ง อาจทำให้เกิดโรคติดต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ ได้ให้กรมควบคุมโรคเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและผลกระทบต่อสุขภาพ และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเฝ้าระวังสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ให้คำแนะนำประชาชนในการป้องกันโรค หากมีอาการท้องเสีย อาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์

ด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้ให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมปฏิบัติงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่รับผิดชอบ หากพบกลุ่มก้อนการระบาดของโรคติดต่อที่สัมพันธ์กับภัยแล้ง ให้ลงพื้นที่ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคทันที สื่อสารความเสี่ยงให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ในการป้องกันตนเองจากการเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อที่มีอาหารและน้ำเป็นสื่อ โดยรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ ร้อน ปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ใช้ช้อนกลางเมื่อกินอาหารร่วมกันหมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินอาหาร และหลังการขับถ่าย หากมีอาการท้องเสีย ดูแลเบื้องต้นโดยการจิบน้ำผสมสารละลายเกลือแร่ (ORS) บ่อยๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ หากอาการไม่ดีขึ้น รับประทานอาหารไม่ได้ กระหายน้ำมากกว่าปกติ หรืออุจจาระเป็นมูกปนเลือด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ทั้งนี้ สำนักระบาดวิทยา รายงานตั้งแต่ต้นปี 2562 พบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหาร 6 โรคสำคัญ ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง 575,112 ราย  โรคอาหารเป็นพิษ 59,360 ราย โรคบิด 432 ราย อหิวาตกโรค 9 ราย ไข้ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย 560 ราย ไวรัสตับอักเสบเอ 224 ราย

ข่าวด่วน : ก.สาธารณสุขเตือนประชาชนระวัง 6 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำในพื้นที่ประสบภัยแล้ง

People Unity : post 29 กรกฎาคม 2562 เวลา 13.30 น.

นายกฯสั่งด่วนกองทัพสนับสนุนเครื่องบิน-กำลังพลทำฝนเทียมเหนือเขื่อนแก้ภัยแล้งด่วน

People Unity : นายกรัฐมนตรีสั่งด่วนกองทัพสนับสนุนอากาศยาน – กำลังพล ทำฝนเทียมเพิ่มน้ำเหนือเขื่อน แก้ปัญหาภัยแล้งเร่งด่วน

วันนี้ (19 กรกฎาคม 2562) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ จึงได้สั่งการด่วนให้ทุกเหล่าทัพสนับสนุนอากาศยานและกำลังพล เพื่อทำฝนเทียมเพิ่มปริมาณน้ำเหนือเขื่อนและร่วมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำกับฝ่ายพลเรือนแบบบูรณาการ โดยมีเป้าหมายบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งปัญหาภัยแล้งเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายจะต้องระดมสรรพกำลังมาช่วยกัน เพราะปีนี้ฝนทิ้งช่วงยาวนานจึงมีปริมาณน้ำน้อยกว่าปกติถึง 40% และประเทศเพื่อนบ้านลดการระบายน้ำลงแม่น้ำโขง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจโดยได้ติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประกาศพื้นที่เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ในหลายจังหวัด พร้อมดำเนินมาตรการต่างๆ เช่น จัดรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำ ปฏิบัติการฝนหลวง ขุดเจาะบ่อบาดาล เพิ่มความจุแหล่งน้ำ เป็นต้น

ข่าวด่วน : นายกฯสั่งด่วนกองทัพสนับสนุนเครื่องบิน-กำลังพลทำฝนเทียมเหนือเขื่อนแก้ภัยแล้งด่วน

People Unity : post 19 กรกฎาคม 2562 เวลา 22.20 น.

ด่วน!กรมบัญชีกลางผลิตบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบ 3 คาดแจกบัตรได้ต้นเดือน ก.ค.นี้

People Unity : กรมบัญชีกลางผลิตบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบ 3 สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนรอบเพิ่มเติมโครงการไทยนิยม ยั่งยืน  คาดแจกบัตรได้ต้นเดือนกรกฎาคม 2562 ผู้มีสิทธิที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการฯให้รีบติดต่อทีมไทยนิยม ยั่งยืน เพื่อตรวจสอบข้อมูลของตนเองให้ถูกต้องก่อนหมดสิทธิ

วันนี้ 25 มิถุนายน 2562 – นางญาณี แสงศรีจันทร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ผลิตบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 มีผู้มีสิทธิที่ผ่านคุณสมบัติ จำนวนทั้งสิ้น 3,140,409 ราย ซึ่งได้ผลิตบัตรสวัสดิการฯแล้วจำนวน 3,121,307 ราย และได้แจกบัตรสวัสดิการฯให้แก่ผู้มีสิทธิซึ่งได้นำไปใช้จ่ายแล้ว จำนวน 3,046,447 ใบ คิดเป็นร้อยละ 97 ต่อบัตรที่ผลิต (ข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2562) ทั้งนี้ หากผู้มีสิทธิท่านใดที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการฯ สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงไปแสดงตน เพื่อรับบัตรได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด /กรุงเทพมหานคร ตามที่อยู่ปัจจุบันที่ได้ลงทะเบียนไว้ โดยจะขอให้ลงลายมือชื่อเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการรับบัตรสวัสดิการฯ ซึ่งผู้มีสิทธิสามารถรับได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2562 หากไม่มารับภายในวันดังกล่าวจะถือว่าสละสิทธิ์ หลังจากที่ผู้มีสิทธิที่มารับบัตรฯเรียบร้อยแล้ว จะเริ่มใช้สิทธิได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว 2 วัน เนื่องจากต้องดำเนินการเปิดสิทธิของบัตร (Activate) เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิแอบอ้างนำเงินในบัตรไปใช้

โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ในการจัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครั้งที่ 3 ประมาณ 19,000 ราย ซึ่งคาดว่า  จะดำเนินการผลิตแล้วเสร็จและแจกบัตรฯได้ภายในต้นเดือนกรกฎาคม 2562 นี้ ประมาณ 12,000 ราย ส่วนที่เหลือ  ยังไม่สามารถผลิตได้เนื่องจากผู้มีสิทธิบางรายมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เช่น ไม่มีรูปภาพ เพราะยังไม่ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด หรือกรณีข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ไม่ตรงกับข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ ดังนั้น ขอให้ผู้มีสิทธิบางรายที่ไม่แน่ใจว่าข้อมูลของตนถูกต้องหรือไม่ ไปติดต่อกับทีมไทยนิยม ยั่งยืน เพื่อดำเนินการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ซึ่งหากพ้นกำหนดระยะเวลาที่ดำเนินการผลิตบัตรในครั้งนี้ อาจทำให้หมดสิทธิในการรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ข่าวด่วน : กรมบัญชีกลางผลิตบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบ 3 คาดแจกบัตรได้ต้นเดือน ก.ค.นี้

People Unity : post 25 มิถุนายน 2562 เวลา 10.20 น.

 

ด่วน!สธ.เผยพบผู้ป่วยไข้เลือดออกกว่าหมื่นคนเป็นเด็กนักเรียน แนะ รร.รีบป้องกันช่วงเปิดเทอม

People Unity : กระทรวงสาธารณสุข เผย 5 เดือนของปี 2562 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้วกว่า 20,000 คน เกินครึ่งเป็นเด็กนักเรียน ขอความร่วมมือผู้ปกครอง ครู กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในบ้านและโรงเรียนเพื่อป้องกันไข้เลือดออกช่วงเปิดเทอมและเข้าสู่ฤดูฝน

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน เกิดฝนตกในหลายพื้นที่ อาจมีน้ำขังในภาชนะที่ถูกทิ้งไว้บริเวณบ้าน โรงเรียน ศาสนสถาน กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่เป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก โดยในปีนี้ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 13 พ.ค. ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ระบุพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเป็นเด็กนักเรียนถึงร้อยละ 52 จากผู้ป่วยทั้งหมด 20,733 คน เสียชีวิต 25 ราย จึงขอเชิญชวนให้ผู้ปกครอง ครู พี่เลี้ยงเด็ก เข้มงวดเรื่องการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เพื่อให้ลูกหลานปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออกต้อนรับเปิดเทอมใหม่ เพราะเด็กนักเรียนมีโอกาสได้รับเชื้อโรคไข้เลือดออกจากยุงลายที่บ้านและโรงเรียน

“ขอให้ทุกบ้าน ทุกโรงเรียนสำรวจจุดเสี่ยงที่เป็นแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงลายที่พบบ่อย เช่น ภาชนะที่ถูกทิ้งรอบๆบ้าน จานรองกระถางต้นไม้ ยางรถยนต์เก่า ที่อาจพบไข่ยุงลายติดอยู่และอยู่ได้นานถึง 1 ปี เมื่อมีน้ำขัง ไข่ยุงจะเติบโตเป็นลูกน้ำยุงลายได้ภายใน 1-2 วัน ส่วนในบ้านพบได้ตามภาชนะรองน้ำทิ้งด้านหลังตู้เย็น แก้วน้ำหิ้งพระ แจกันที่ศาลพระภูมิ  ขอให้ล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำทุกสัปดาห์  ซึ่งหากทุกคนร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย จะช่วยลดจำนวนลูกน้ำยุงลายและโอกาสการเกิดโรคไข้เลือดออกลงได้” นายแพทย์สุขุมกล่าว

นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ วิธีการป้องกันการเกิดไข้เลือดออกที่ดีที่สุด คือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ใช้มาตรการ “3 เก็บ 3 โรค” คือ 1.เก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำและเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันดอกไม้ทุกสัปดาห์  2.เก็บขยะ เศษภาชนะรอบบ้าน ทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำต้องปิดฝามิดชิดป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ซึ่งการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย จะสามารถป้องกันได้ 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิก้า และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย

ข่าวด่วน : ด่วน!สธ.เผยพบผู้ป่วยไข้เลือดออกกว่าหมื่นคนเป็นเด็กนักเรียน แนะ รร.รีบป้องกันช่วงเปิดเทอม

People Unity : post 21 พฤษภาคม 2562 เวลา 10.30 น.

กระทรวงต่างประเทศชี้แจง เหตุผู้แทนไทยไปประชุม Belt and Road Forum ที่จีนจำนวนมาก

People Unity : ด่วน! กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจง ตามที่มีการสอบถามว่า ทำไมคณะผู้แทนไทยไปเข้าร่วมการประชุม Belt and Road Forum ครั้งที่ 2 ที่จีนเป็นจำนวนมาก

วันนี้ (27 เมษายน 2562) อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า การประชุมข้อริเริ่มสายแถบหนึ่งเส้นทาง จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 27 เม.ย.2562 ตั้งแต่การประชุมระดับผู้เชี่ยวชาญ/ระดับสูง จำนวน 12 เวที ในลักษณะเวทีการหารือกลุ่มย่อย (Thematic Forum) ครอบคลุมประเด็นความเชื่อมโยงในทุกมิติ ตั้งแต่ด้านนโยบาย โครงสร้างพื้นฐาน การค้าการลงทุน เทคโนโลยีและนวัตกรรม ดิจิทัล จนถึงด้านการศึกษาและประชาชน โดยมีผู้แทนจาก 150 ประเทศ องค์การระหว่างประเทศ 29 องค์การ และภาควิชาการเอกชนจำนวนมาก ชาวต่างประเทศที่มาเข้าร่วมกว่า 5,000 คน สำหรับประเทศไทย ฝ่ายจีนได้เชิญรัฐมนตรีของไทยเข้าร่วมในเวทีต่างๆด้วย ได้แก่ รมว. กต. (เข้าร่วมเวที ความเชื่อมโยงด้านนโยบาย) รมว. คค. (เข้าร่วมเวทีการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน) รมว. ดศ. (เข้าร่วมเวทีดิจิทัล) เลขาธิการ ป.ป.ช. (เข้าร่วมเวทีเกี่ยวกับการต่อต้านคอรัปชั่น) เลขาธิการ BOI (เข้าร่วมเวทีส่งเสริมการค้าการลงทุน) รวมทั้งผู้แทนหน่วยงานอื่นๆ ที่ได้รับเชิญเข้าร่วม อาทิ เวทีความเชื่อมโยงด้านนวัตกรรม การศึกษาและด้านประชาชน นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนภาคประชาสังคมและภาคเอกชนไทยจำนวนมากได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมด้วย

ในการประชุมระดับผู้นำ นรม. ได้รับเชิญจาก ปธน. สี จิ้นผิง (สปป. จีน) เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำระหว่างวันที่ 26 – 27 เมษายน 2562 ประกอบด้วยการประชุมระดับสูง (High Level) และการประชุมผู้นำโต๊ะกลม (Roundtable) โดยในการประชุมครั้งนี้ มีผู้นำเข้าร่วมทั้งหมด 38 ประเทศ จากทุกทวีป รวมทั้งอาเซียน 10 ประเทศ เพื่อติดตามความคืบหน้าของความร่วมมือและโครงการต่างๆ ภายใต้ข้อริเริ่มฯ และเพื่อหารือถึงทิศทางความร่วมมือในอนาคต

ไทยให้ความสำคัญกับข้อริเริ่มฯ โดยถือเป็นยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา โดยเฉพาะความเชื่อมโยง การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาของไทยที่ไทยผลักดันมาโดยตลอด โดยจีนถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันในทุกระดับ และในการเข้าร่วมครั้งนี้ นอกเหนือจากการแสดงถึงบทบาทของไทยในฐานะสะพานเชื่อมระหว่างภูมิภาครวมถึง BRI แล้ว ยังแสดงถึงบทบาทไทยในฐานะประธานอาเซียนด้วย

ข่าวด่วน : กระทรวงต่างประเทศชี้แจง เหตุผู้แทนไทยไปประชุม Belt and Road Forum ที่จีนจำนวนมาก

People Unity : post 27 เมษายน 2562 เวลา 19.50 น.

Verified by ExactMetrics