วันที่ 12 กรกฎาคม 2025

“ทรัมป์” กล่าวหา “ไบเดน” เป็นภัยต่อประชาธิปไตย ด้าน “ไบเดน” กล่าวหา “ทรัมป์” คบแต่เผด็จการ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 10 มีนาคม 2567 จอร์เจีย – โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวหาโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันว่า เป็นภัยต่อประชาธิปไตย

ทรัมป์ วัย 77 ปี กล่าวในการหาเสียงที่รัฐจอร์เจียเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เมื่อไม่กี่คืนก่อนทุกคนได้ฟังการปราศรัยแถลงผลงานและนโยบายประจำต่อรัฐสภาหรือสเตทออฟเดอะยูเนียน (State of the Union) ของไบเดนที่เต็มไปด้วยความโกรธเกลียด ไบเดนเป็นภัยต่อประชาธิปไตยจากการที่นำรัฐบาล สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ และกระทรวงยุติธรรมมาใช้เป็นอาวุธ เป็นคนที่ไร้ความสามารถอย่างสิ้นเชิง ปราศรัยสุนทรพจน์ที่ทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและสุดโต่งอย่างที่ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใดทำมาก่อน

ทรัมป์อ้างด้วยว่า ประธานาธิบดี ไบเดน วัย 81 ปี เพิ่งกล่าวขอโทษทางโทรทัศน์ในเรื่องที่เรียกฆาตกรที่ฆ่านักศึกษาพยาบาลวัย 22 ปี ในรัฐจอร์เจียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า เป็นผู้ลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และคิดว่าควรเรียกว่าผู้ลอบเข้าเมืองไร้เอกสาร ทรัมป์กล่าวว่า ไบเดนควรขอโทษที่ไปขอโทษฆาตกรมากกว่า

รัฐจอร์เจียมีคดีอาญาค้างคาเรื่องฟ้องร้องทรัมป์บ่อนทำลายการเลือกตั้งปี 2563 เป็นรัฐสมรภูมิ (Battleground State หรือ Swing State) ที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตมีโอกาสชนะเท่ากัน โดยในการเลือกตั้งปี 2563 ไบเดนคว้าชัยชนะในรัฐนี้ ทำให้ทรัมป์กล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี คาดว่าทรัมป์จะได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งที่รัฐจอร์เจีย ซึ่งจะมีขึ้นในวันอังคารนี้ พร้อมกับรัฐฮาวาย มิสซิสซิปปีและวอชิงตัน

ขณะที่ทางด้าน ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐหาเสียงกล่าวหาโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีว่า คบหาแต่ผู้นำเผด็จการ

ประธานาธิบดีไบเดน วัย 81 ปี ขึ้นเวทีหาเสียงที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ คืนเดียวกับที่ทรัมป์ขึ้นเวทีหาเสียงที่เมืองโรมในรัฐเดียวกัน ไบเดนกล่าวว่า ทรัมป์เพิ่งเลี้ยงต้อนรับนายกรัฐมนตรีวิกตอร์ ออร์บานของฮังการีที่ไม่เชื่อในระบอบประชาธิปไตย และยกย่องผู้นำฮังการีว่าเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม ทรัมป์พยายามเอาใจบรรดาเผด็จการและอันธพาลเบ็ดเสร็จจากทั่วโลก เช่น บอกว่าคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเขียนจดหมายที่สละสลวยมาให้ เรียกประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนว่าเป็นกษัตริย์ บอกให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียทำอะไรก็ได้กับพันธมิตรของสหรัฐ

แต่ในระหว่างที่ไบเดนกำลังพูดอยู่นั้น มีชายคนหนึ่งในกลุ่มผู้ฟังตะโกนขึ้นหาว่าไบเดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพาตัวออกไป จากนั้นไบเดนได้หาเสียงต่อว่า เสรีภาพของสหรัฐขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ทรัมป์และกลุ่มเมกาในพรรครีพับลิกัน (MAGA เป็นคำขวัญหาเสียงที่ย่อมาจากคำว่า Make America Great Again) กำลังหาทางช่วงชิงเสรีภาพไป เขาเชื่อในชาวอเมริกันทุกคน และเชื่อว่าไม่มีสิ่งใดเกินความสามารถเมื่อร่วมใจกัน ขอให้ทุกคนออกไปลงคะแนนเลือกตั้ง

Advertisement

จีนตอบโต้ ‘นาซา’ กล่าวหาโครงการอวกาศจีนเป็นโครงการ “ทางทหาร”

People Unity News : เมื่อไม่นานนี้ จ้าวลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุว่าจีนคัดค้านคำกล่าวอันไร้ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่องค์การนาซา (NASA) เกี่ยวกับโครงการอวกาศของจีน หลังจากมีรายงานว่า บิล เนลสัน ผู้อำนวยการองค์การฯ อ้างว่าโครงการอวกาศของจีนนั้นเป็นโครงการอวกาศ “ทางทหาร”

จ้าวระบุว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่องค์การฯ เพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงและใส่ร้ายจีน โดยเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯบางส่วนกล่าวร้ายป้ายสีการดำเนินงานด้านอวกาศอันเป็นปกติและสมเหตุสมผลของประเทศอื่นๆอย่างต่อเนื่อง และจีนคัดค้านคำพูดที่ไม่มีความรับผิดชอบดังกล่าวอย่างเด็ดขาด

จ้าวระบุว่าเนลสัน ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานการบินและอวกาศของสหรัฐฯ ควรตระหนักถึงประวัติศาสตร์อันดำมืดของโครงการอวกาศสหรัฐฯ บทบาทเชิงลบของสหรัฐฯในการสร้างขยะอวกาศ ปลุกปั่นการแข่งขันสะสมอาวุธในอวกาศ และบ่อนทำลายเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ระดับโลก รวมถึงก่อให้เกิดภัยคุกคามขนาดใหญ่ต่อการใช้ทรัพยากรในอวกาศอย่างสันติ

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯนิยามว่าอวกาศนั้นเป็นอาณาเขตการต่อสู้อย่างเปิดเผย เร่งรัดการจัดตั้งกองกำลังอวกาศ พัฒนาและปรับใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ในอวกาศอย่างอุกอาจ และต่อต้านการเจรจาเอกสารทางกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมอวกาศมาเนิ่นนาน ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือทางทหารในอวกาศกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง

จ้าวระบุว่าสหรัฐฯได้สร้างอุปสรรคขัดขวางความร่วมมือด้านอวกาศ คว่ำบาตรหน่วยงานอวกาศของประเทศอื่นๆโดยพลการ และออกกฎหมายจำกัดความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านอวกาศกับจีน สวนทางกับจีนที่สนับสนุนการใช้ทรัพยากรในอวกาศอย่างสันติ ต่อต้านการแข่งขันสะสมอาวุธในอวกาศ และกระตุ้นการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันในอวกาศ

นอกจากนั้นจ้าวย้ำว่าการสำรวจอวกาศของจีนมุ่งตอบสนองความต้องการอันชอบด้วยกฎหมายด้านเศรษฐกิจ สังคม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความมั่นคงของประเทศ โดยการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของจีนนั้นประสบความสำเร็จด้วยตนเอง ซึ่งสิทธิและความสำเร็จของอุตสาหกรรมนี้มิควรถูกเคลือบแคลงสงสัยหรือถูกใส่ร้ายได้

“เรากระตุ้นเตือนเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แบกรับความรับผิดชอบของการเป็นประเทศขนาดใหญ่อย่างจริงจัง ทบทวนและแก้ไขคำพูด รวมถึงการกระทำเชิงลบในอวกาศของฝ่ายสหรัฐฯ และมีส่วนสนับสนุนการปกป้องสันติภาพและความมั่นคงในอวกาศที่ยั่งยืน” จ้าวกล่าว

Advertisement

สรุปผลประชุม COP26 ไม่เกิดข้อตกลงใหญ่ ผู้นำประเทศยากจนกล่าวหาประเทศร่ำรวยเบี้ยวเงิน

People Unity News : สรุปผลประชุมสุดยอด COP26 ไม่เกิดข้อตกลงใหญ่ แต่บรรลุผลข้อตกลงย่อยลดก๊าซมีเทน-ยกเลิกตัดไม้

4 พ.ย.64 บรรดาผู้นำประเทศในแอฟริกาที่เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก หรือ COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ กล่าววิพากษ์วิจารณ์ประเทศร่ำรวยว่าล้มเหลวในการปฏิบัติตามคำสัญญาที่ว่าจะมอบเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยประเทศยากจนรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ประเทศยากจนที่ส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกาคือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากที่สุด ในขณะที่ประเทศรายได้สูงซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่ม G-20 มีปริมาณการปล่อยก๊าซที่เป็นสาเหตุของปรากฏการณ์เรือนกระจกรวมกันคิดเป็น 80% ของปริมาณทั่วโลก

เมื่อสองปีที่แล้ว ประเทศร่ำรวยให้สัญญาว่าจะมอบเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีให้แก่ประเทศยากจนเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก แต่เป้าหมายในคำสัญญาดังกล่าวถูกเลื่อนไปเป็นปี ค.ศ. 2023 ในการประชุม COP26 ครั้งนี้

ประธานาธิบดีกาน่า นานา อัดโด ดังกวา อะคูโฟ-อัดโด กล่าวต่อที่ประชุม COP26 ในวันอังคาร แสดงความขุ่นเคืองและผิดหวังที่ประเทศพัฒนาแล้วเหล่านั้นผิดคำสัญญา

ในการประชุมครั้งนี้ ผู้นำประเทศกว่า 100 คนตกลงกันว่าจะยุติการตัดไม้ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยมีการให้เงินอุดหนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนรวมเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์ และมีการลงนามในคำสัญญาร่วมระหว่างสหรัฐฯ – สหภาพยุโรป ว่าด้วยการลดก๊าซมีเทนทั่วโลกลง 30% ภายในปี ค.ศ. 2030

อย่างไรก็ตาม จีนและรัสเซียซึ่งเป็นสองประเทศที่ปล่อยก๊าซมีเทนมากที่สุดในโลก มิได้ร่วมลงนามในคำสัญญาฉบับดังกล่าว ทำให้เกิดคำถามถึงประสิทธิผลที่แท้จริงของการประชุม COP26 ครั้งนี้ว่าจะช่วยนำไปสู่การควบคุมภาวะโลกร้อนได้จริงหรือไม่

เมื่อวันอังคาร นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน กล่าวแสดงความมั่นใจต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการประชุม ขณะที่บรรดาผู้จัดงานแสดงความหวังว่า แม้จะไม่เกิดข้อตกลงในเรื่องใหญ่ๆเกี่ยวกับการลดก๊าซที่เป็นสาเหตุของปรากฏการณ์เรือนกระจก แต่การประชุมครั้งนี้ก็ทำให้เกิดข้อตกลงย่อยๆ ที่มุ่งเป้าไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น การลดก๊าซมีเทน การยกเลิกการตัดไม้ทำลายป่า และการช่วยเหลือประเทศหมู่เกาะที่เปราะบางต่างๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ การประชุมสุดยอด COP26 ของบรรดาผู้นำประเทศต่างๆได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่คณะทำงานของแต่ละประเทศจะยังคงร่วมหารือในวาระอื่นๆต่อไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้

ที่มา VOA

Advertising

“ปูติน” ลั่นพร้อมทำสงครามนิวเคลียร์

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 13 มีนาคม 2567 มอสโก – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเผยว่า รัสเซียยังคงอยู่ในภาวะพร้อมรบ และพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะทำสงครามนิวเคลียร์ แต่ขณะนี้ยังไม่มีสิ่งใดเร่งให้ต้องทำสงครามนิวเคลียร์

ประธานาธิบดีปูตินให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์รอสซียา-วัน (Rossiya-1) และสำนักข่าวเรีย (RIA) ตอบคำถามเรื่องรัสเซียพร้อมทำสงครามนิวเคลียร์จริงหรือไม่ว่า เมื่อมองจากมุมมองด้านเทคนิคทางทหาร แน่นอนว่ารัสเซียพร้อมทำสงครามนิวเคลียร์ เขาเชื่อว่า สหรัฐตระหนักดีว่าหากเคลื่อนกำลังพลอเมริกันเข้ามาในดินแดนรัสเซียหรือยูเครน รัสเซียจะถือว่าเป็นการแทรกแซง และในสหรัฐเองก็มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องความสัมพันธ์รัสเซีย-สหรัฐและเรื่องการอดกลั้นเชิงยุทธศาสตร์จำนวนมากพอสมควร ดังนั้นเขาจึงยังไม่เห็นว่ามีสิ่งใดเร่งให้ต้องมีการเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์ แต่รัสเซียก็พร้อมเสมอ

ประธานาธิบดีปูตินย้ำว่า รัสเซียมีหลักการกำหนดการใช้อาวุธนิวเคลียร์อยู่แล้ว หากสหรัฐทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ รัสเซียอาจทำตาม อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้รัสเซียยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสงครามยูเครนที่เปิดฉากมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565

Advertisement

เฟสบุ๊ค เตรียมเปิดตัวระบบใหม่ควบคุมการใช้งานที่มากเกินไปของกลุ่มเด็กและวัยรุ่น

People Unity News : 14 ตุลาคม 2564 เฟสบุ๊ค เตรียมเปิดตัวระบบใหม่สำหรับแพลตฟอร์มต่างๆของตน ที่มีจุดประสงค์ในการควบคุมการใช้งานที่มากเกินไป เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อสุขภาพและสภาพความเป็นอยู่ในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น

หลังจากประกาศเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่าบริษัทตัดสินใจระงับโครงการอินสตาแกรมสำหรับเด็กไว้ก่อน เฟสบุ๊ค เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวระบบควบคุมใหม่ๆ ให้เป็นทางเลือกสำหรับบรรดาผู้ปกครองที่จะใช้ในการควบคุมการใช้ทั้ง เฟสบุ๊ค และอินสตาแกรม ในกลุ่มบุตรหลานของตน

นิค เคล็กก์ รองประธานเฟสบุ๊ค ด้านกิจการต่างประเทศ แย้มความถึงระบบควบคุมใหม่นี้แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ระหว่างออกเดินสายให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNN และ ABC ของสหรัฐฯ มาตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับระบบอัลกอริทึมของเฟสบุ๊ค และข้อกล่าวหาที่ว่า ระบบดังกล่าวมีบทบาทในการเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ ให้กับประชาชนก่อนเกิดเหตุการณ์จลาจลที่อาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 6 มกราคม

เคล็กก์ บอกกับ CNN ว่า ทางบริษัทให้ความสำคัญต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆมาโดยตลอด แต่ต้องยอมรับว่า บริษัทไม่ได้มีอำนาจวิเศษใดๆ ที่จะทำให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบได้ โดยสิ่งที่ทำได้คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งหลายให้มีความปลอดภัยและให้ผู้ใช้งานรู้สนุกเพลิดเพลินมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ผู้บริหารเฟสบุ๊ครายนี้เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนเม็ดเงินถึง 13,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพื่อทำให้แพลตฟอร์มต่างๆของตนมีความปลอดภัย ทั้งยังจ้างพนักงานถึง 40,000 คนเพื่อคอยดูและตรวจสอบงานด้านนี้

การออกเดินสายให้สัมภาษณ์ของเฟสบุ๊คครั้งล่าสุดนี้มีขึ้น หลังอดีตลูกจ้างบริษัทผู้พัฒนาและให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ชั้นนำแห่งนี้ กล่าวหาว่า เฟสบุ๊ค มุ่งเน้นแต่กำไรมากกว่าความปลอดภัยของผู้ใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆของตน ระหว่างการขึ้นให้ข้อมูลต่อวุฒิสภาสหรัฐฯในประเด็นดังกล่าวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

จอช โกลิน ผู้อำนวยการของ Fairplay ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิทธิของเด็ก ให้ความเห็นว่า ระบบควบคุมใหม่ๆที่ เฟสบุ๊ค มีแผนจะเปิดตัวนั้นไม่น่าจะมีประสิทธิภาพดังหวัง เพราะเด็กๆสมัยนี้ต่างสร้างบัญชีใช้งานที่เป็นความลับไม่ให้ผู้ปกครองทราบอยู่แล้ว ซึ่งหมายความว่า ผู้ใหญ่จะไม่มีโอกาสได้ใช้งานระบบใหม่ๆที่ว่านี้ได้ตามจุดประสงค์

Advertising

นายกฯ แพทองธาร ให้ทูตฯ ประเมินสถานการณ์ภัยสงคราม หากต้องเตรียมพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 ตุลาคม 2567 นายกฯ แพทองธาร ให้ทูตฯ ประเมินสถานการณ์ภัยสงคราม หากต้องเตรียมพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล ขอให้เตรียมพร้อมตลอดเวลา ส่วนพื้นที่สู้รบให้ย้ายออกจากพื้นที่ทันที

วันที่ 2 ตุลาคม 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงคนไทยในอิสราเอล จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และเพื่อหลีกเลี่ยงจากผลกระทบเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้กระทรวงต่างประเทศและสถานทูตของไทยที่อยู่ใกล้ที่สุด จำเป็นต้องให้ข้อมูลกับคนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หากพบว่าอยู่ในระดับที่เสี่ยงเกินไป ก็ขอให้รีบแจ้งให้คนไทยออกจากพื้นที่ในทันที พร้อมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนว่า เมื่อช่วงกลางคืนของวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567 ว่ากองทัพอิสราเอล (IDF) ได้ประกาศให้พื้นที่เมืองเมตูลา (Metula) มิซกาฟ อัม (Misgav Am) และ คฟาร์ กิลอาดี (Kfar Giladi) บริเวณทางตอนเหนือของอิสราเอล ติดพื้นที่ชายแดนเลบานอน ให้เป็นเขตปิดทางทหาร (closed military zone) โดยเป็นเขตห้ามทำงานและอาศัย โดยแจ้งว่า หากมีคนไทยยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ก็ขอให้ย้ายออกจากพื้นที่ทันที และเช้านี้ก็ยังเฝ้า ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา

ทั้งนี้คนไทย สามารถขอรับความช่วยเหลือเพื่อย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว ได้ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โดยสามารถติดต่อได้ตามช่องทาง หมายเลขโทรศัพท์ ฝ่ายกงสุล +972 546368150, +972 503673195 ฝ่ายแรงงาน + 972 9-954-8431, +972 54-469-3476 และไอดีไลน์ 0544693476

“นายกรัฐมนตรีห่วงใยคนไทยที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ให้สถานเอกอัครราชทูตตัดสินใจประกาศเตือน ในแต่ละระดับความสำคัญ และให้เตรียมความพร้อมอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยทันที หากสถานการณ์มีโอกาสจะไปถึงขั้นวิกฤต”

นายจิรายุ กล่าวอีกว่าหากคนไทยต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ตามช่องทางการติดต่อข้างต้น เพื่อเข้าทำการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกต่อไป

Advertisement

รัสเซียอ้างประสบความสำเร็จในการประชุมสุดยอดจี 20

People Unity News : 11 กันยายน 2566 นิวเดลี – นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียอ้างชัยชนะทางการทูตด้วยการประกาศว่า ประสบความสำเร็จในการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 (G20) ที่กรุงนิวเดลีของอินเดีย

นายลาฟรอฟกล่าวหลังจากการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วันปิดฉากลงว่า รัสเซียสามารถขัดขวางโลกตะวันตกที่พยายามทำให้วาระการประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องยูเครน แต่เนื้อหาปฏิญญาการประชุมไม่ได้พูดถึงรัสเซียเลย ประธานจี 20 คืออินเดียสามารถรวบรวมเสียงของจี 20 จากซีกโลกใต้ได้อย่างแท้จริง บ่งบอกว่าพันธมิตรของรัสเซียอย่างบราซิล แอฟริกาใต้ อินเดียและจีนได้แสดงบทบาทในการประชุมนี้

ผู้นำจี 20 แสดงความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเรื่องรัสเซียทำสงครามในยูเครน และกล่าวถึงปัญหาที่เกิดจากสงคราม แต่ไม่ได้ประณามรัสเซียในปฏิญญาที่ตกลงเนื้อหากันในวันที่ 9 กันยายน ขณะที่กระทรวงต่างประเทศยูเครนประณามปฏิญญานี้ว่า ไม่มีสิ่งใดน่าภาคภูมิใจ แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวเผยว่า สหรัฐพอใจกับผลการประชุม

จี 20 ประกอบด้วย 7 ชาติในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) (อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่นและสหรัฐ) และประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างอาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้และทูร์เคียหรือตุรกี โดยในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ไม่มีประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเข้าร่วม

Advertisement

“ปูติน” เตือนจะโจมตีเป้าหมายใหม่ ถ้าตะวันตกให้จรวดพิสัยไกลแก่ยูเครน

ไฮไลท์การเมือง : 6 มิถุนายน 2565 ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เตือนว่า รัสเซียจะโจมตีเป้าหมายใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยโจมตีมาก่อน หากชาติตะวันตกจัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลขึ้นให้แก่ยูเครน

สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์รอสสิยา-1 ของทางการที่ออกอากาศเมื่อวันเสาร์ว่า หากชาติตะวันตกเริ่มจัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลขึ้นให้แก่ยูเครน รัสเซียจะโจมตีเป้าหมายใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยโจมตีมาก่อน แต่ไม่ได้ระบุเป้าหมายดังกล่าวอย่างชัดเจน และว่าการที่สหรัฐและบางประเทศจะจัดส่งเครื่องยิงจรวดล้ำสมัยให้แก่ยูเครนจะไม่ทำให้การสู้รบในสมรภูมิเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นฐาน เพราะเป็นเพียงการชดเชยเครื่องยิงที่ยูเครนสูญเสียไป และยืดเวลาการสู้รบออกไปเท่านั้น

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประกาศเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า สหรัฐจะจัดส่งเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรที่มีความแม่นยำสูงให้แก่ยูเครน ตามที่ยูเครนรับปากว่าจะไม่นำไปใช้โจมตีเป้าหมายในดินแดนรัสเซีย ก่อนหน้านี้ยูเครนแจ้งว่า ต้องการเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรอย่างเอ็ม 270 (M270) และเอ็ม 142 (M142) สำหรับโจมตีกำลังพลและคลังแสงที่อยู่ท้ายขบวนกองกำลังรัสเซีย

Advertisement

เกาหลีเหนือประกาศส่งอาวุธและกำลังพลไปประชิดเกาหลีใต้

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 23 พฤศจิกายน 2566 โซล – เกาหลีเหนือเผยจะส่งอาวุธใหม่ ๆ และกำลังพลที่แข็งแกร่งขึ้นไปยังชายแดนด้านติดกับเกาหลีใต้ ขณะที่เกาหลีใต้เผยว่า เกาหลีเหนือได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซียทำให้ส่งดาวเทียมจารกรรมทางทหารเข้าสู่วงโคจรได้สำเร็จ

สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือเผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือว่า การที่เกาหลีใต้ระงับข้อตกลงทางทหารบางส่วนที่ทำไว้กับเกาหลีเหนือเมื่อ 5 ปีก่อน และจะติดตั้งอุปกรณ์ตรวจตราและสอดแนมบริเวณชายแดนโดยทันที ถือเป็นการกระทำที่ไร้ความยั้งคิด ดังนั้นเกาหลีเหนือจะระงับข้อตกลงดังกล่าวทั้งหมดโดยจะไม่ปฏิบัติตามอีกต่อไป และจะเสริมความมั่นคงชายแดนโดยทันที ด้วยการเพิ่มกำลังพลทรงอานุภาพมากขึ้นและยุทโธปกรณ์ประเภทใหม่ ๆ ตามเส้นแบ่งเขตแดนทางทหารที่แบ่ง 2 เกาหลี

ด้านสำนักข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ชี้แจงต่อสมาชิกรัฐสภาว่า การปล่อยดาวเทียมมันลียง-อิล (Malligyong-1) ของเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนประสบความสำเร็จ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า ดาวเทียมทำงานได้จริง ตามที่เกาหลีเหนืออ้างว่า ดาวเทียมได้ส่งภาพถ่ายฐานทัพสหรัฐบนเกาะกวม หน่วยข่าวกรองระบุว่า หลังจากที่นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางไปพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียในเดือนกันยายน เกาหลีเหนือได้ส่งพิมพ์เขียวและข้อมูลการปล่อยดาวเทียม 2 ครั้งแรกที่ล้มเหลวไปในเดือนพฤษภาคมและสิงหาคมไปให้รัสเซีย จากนั้นรัสเซียได้วิเคราะห์และส่งคำแนะนำกลับไปให้เกาหลีเหนือ ทำให้เกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมจารกรรมสำเร็จ

Advertisement

กษัตริย์มาเลเซียแต่งตั้ง “อันวาร์ อิบราฮิม” เป็นนายกฯ คนใหม่

People Unity News : 24 พฤศจิกายน 2565 กัวลาลัมเปอร์ สมเด็จพระราชาธิบดีอัล-สุลต่าน อับดุลลาห์ แห่งมาเลเซีย ทรงแต่งตั้ง นายอันวาร์ อิบราฮิม หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซียในวันนี้ โดยนายอันวาร์เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำมาเลเซียในเวลา 17.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น

สำนักพระราชวังมาเลเซียระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า กษัตริย์มาเลเซียทรงแต่งตั้งนายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน ที่เป็นฝ่ายค้านและประกอบด้วยคนหลายเชื้อชาติ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของมาเลเซีย หลังจากที่พระองค์ได้ทรงหารือร่วมกับเจ้าผู้ครองรัฐในมาเลเซียทั้งหมด 9 รัฐ โดยนายอันวาร์เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำมาเลเซียในเวลา 17.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวจะทำให้นายอันวาร์ วัย 75 ปี ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกหลังลงเล่นการเมืองมายาวนานถึง 30 ปี และเผชิญกับจุดพลิกผันในเส้นทางการเมืองนับตั้งแต่ที่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีไปจนถึงตกเป็นนักโทษจากความผิดจากพฤติกรรมร่วมเพศทางทวารหนักและกลายเป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้านมาเป็นเวลานาน และถือเป็นการสิ้นสุดสถานการณ์ที่ไม่มีพรรคใดได้คะแนนเสียงที่ชัดเจน หรือที่เรียกกันว่า สภาแขวน นับตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันเสาร์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายอันวาร์เคยถูกขัดขวางไม่ให้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียหลายครั้งหลายครา แม้ว่าเขาอยู่ในจุดรุ่งโรจน์บนเส้นทางการเมืองในตอนนั้น เช่น เมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 และเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการในปี 2561 อย่างไรก็ดี นายอันวาร์เคยถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาเกือบ 10 ปีในความผิดจากพฤติกรรมร่วมเพศทางทวารหนักและทุจริตทางการเมือง ซึ่งเขาอ้างว่าถูกใส่ร้ายโดยมีแรงจูงใจเพื่อมุ่งเป้าทำลายอาชีพนักการเมือง

Advertisement

Verified by ExactMetrics