วันที่ 19 กันยายน 2025

ปลดประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ

People Unity News : 4 ตุลาคม 2566 วอชิงตัน – นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกันถูกสภาลงมติปลดออกจากตำแหน่งแล้ว นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ

การลงมติปลดนายแมคคาร์ธีมีขึ้นหลังจากที่นายแมทธิว เกตซ์ ส.ส.รีพับลิกันจากรัฐฟลอริดา ยื่นญัตติต่อสภาโดยให้เหตุผลว่า นายแมคคาร์ธีสูญเสียการสนับสนุนจากพรรคให้ทำหน้าที่แล้ว โดยในการลงมติครั้งนี้มีเสียงสนับสนุนให้ปลดนายแมคคาร์ธี 216 ต่อ 210 เสียง เป็นเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.เดโมแครต 208 เสียงและ ส.ส.รีพับลิกัน 8 เสียง

สาเหตุของความขัดแย้งภายในพรรครีพับลิกันมาจากความไม่พอใจนายแมคคาร์ธีซึ่งยอมอ่อนข้อให้พรรคเดโมแครตโดยเฉพาะการผ่านกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้สหรัฐรอดจากการปิดหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลกลางหรือกัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) ไปอย่างฉิวเฉียด

Advertisement

ศาลสหรัฐตัดสิน “ทรัมป์” มีความผิดคดีจ่ายเงินปิดปาก แต่ไม่ต้องรับโทษ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 12 มกราคม 2568 วอชิงตัน วานนี้ (11 ม.ค.) – ศาลในนครนิวยอร์ก ของสหรัฐไม่ได้กำหนดบทลงโทษใด ๆ ต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ถูกคณะลูกขุนวินิจฉัยก่อนหน้านี้ว่า เขามีความผิดในคดีจ่ายเงินปิดปาก ซึ่งเป็นคำตัดสินก่อนหน้าที่เขาจะเข้าพิธีสาบานตนกลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในวันที่ 20 มกราคมนี้

ผู้พิพากษาฮวน เมอร์ชาน ตัดสินให้ปล่อยตัวนายทรัมป์ วัย 78 ปีอย่างไม่มีเงื่อนไขแม้ว่าเขาจะถูกระบุว่ามีความผิดในข้อกล่าวหาที่ว่า ปลอมแปลงเอกสารบันทึกทางธุรกิจเพื่อปกปิดการจ่ายเงินเพื่อปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่มิให้แฉเรื่องราวการมีความสัมพันธ์ชู้สาวก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016

อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ได้รับโทษใด ๆ แต่ไม่ได้ลบล้างคำวินิจฉัยของคณะลูกขุนที่ว่าเขามีความผิดจริงได้

ผู้พิพากษาเมอร์ชาน กล่าวว่า ที่เขาตัดสินไม่ลงโทษจำคุก ปรับ หรือ รอลงอาญา นายทรัมป์ ก็เพราะว่า รัฐธรรมนูญปกป้องประธานาธิบดีมิให้ถูกดำเนินคดีอาญา ในระหว่างการพิจารณาของศาลเมื่อวานนี้ นายทรัมป์กล่าวย้ำหลายครั้งว่า เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ได้กระทำความผิดใด ๆ  และประกาศจะอุทธรณ์คำตัดสินที่ว่าเขากระทำบความผิด ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ นายทรัมป์ จะเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่กล่าวสาบานตนโดยมีประวัติก่อคดีอาญาติดตัว

สำหรับคดีเรื่องเงินปิดปากนี้เกี่ยวข้องกับกรณีการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจเพื่อปกปิดเรื่องที่ นายทรัมป์ เคยให้เงินนายไมเคิล โคเฮน อดีตทนายส่วนตัว จำนวน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อไปจ่ายปิดปาก สตอร์มมี แดเนียลส์ ดาราหนังผู้ใหญ่ ไม่ให้เธอออกมาแฉสัมพันธ์ชู้สาวในช่วงก่อนศึกเลือกตั้งปี 2016

Advertisement

 

สีจิ้นผิงเตรียมเข้าร่วมประชุม G20 ในอินโดฯ และ APEC ในไทย

People Unity News : 12 พฤศจิกายน 2565 เมื่อวันศุกร์ (11 พ.ย.) ฮว่าชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงข่าวว่า สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะเดินทางเยือนเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 14-17 พ.ย. ตามคำเชิญของโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย

ต่อจากนั้นประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะเดินทางเยือนกรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Meeting หรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก) และเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 17-19 พ.ย. ตามคำเชิญของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย

อนึ่ง ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะเข้าร่วมการหารือระดับทวิภาคีกับเหล่าผู้นำประเทศต่างๆ ได้แก่ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มากี ซาล ประธานาธิบดีเซเนกัล และอัลแบร์โต เฟอร์นันเดซ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ระหว่างการเดินทางข้างต้นด้วย

Advertisement

โพลชี้ อเมริกันชนหนุน ‘คว่ำบาตรรัสเซีย’ น้อยลง หลังกระทบเศรษฐกิจ

People Unity News : 1 มิถุนายน 2565 ผลสำรวจจากสำนักข่าวเอพี-ศูนย์วิจัยกิจการสาธารณะนอร์ก เมื่อไม่นานนี้ เปิดเผยว่าชาวอเมริกันที่สนับสนุนการลงโทษรัสเซีย กรณีความขัดแย้งกับยูเครน มีจำนวนน้อยลง หากการลงโทษดังกล่าวกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ผลสำรวจชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับการให้ความสำคัญต่อการคว่ำบาตร โดยปัจจุบันผู้ใหญ่สหรัฐฯ ร้อยละ 45 กล่าวว่าความสำคัญอันดับแรกของประเทศควรเป็นการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ขณะร้อยละ 51 ระบุว่าการคว่ำบาตรควรจำกัดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ เทียบกับเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งผู้เข้าร่วมสำรวจร้อยละ 55 กล่าวว่าการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดควรเป็นความสำคัญอันดับแรกของประเทศ

รายงานระบุว่าความคิดเห็นที่เปลี่ยนแปลงไปสะท้อนว่าราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นกำลังกระทบต่อหลายครัวเรือนในสหรัฐฯ หลังการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ได้สร้างความตึงเครียดด้านการเงินแก่ประชาชนหลายล้านคน

Advertisement

 

“ปูติน” ให้แวกเนอร์สาบานสวามิภักดิ์

People Unity News : 27 สิงหาคม 2566 รัสเซีย – “ปูติน” ออกกฎหมายกำหนดให้นักรบรับจ้างกลุ่มแวกเนอร์ และนักรบอาสากลุ่มอื่นๆ ลงชื่อในเอกสารสาบานตนจะภักดีต่อรัสเซีย

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ออกกฎหมายกำหนดให้นักรบรับจ้างกลุ่มแวกเนอร์และนักรบอาสากลุ่มอื่นๆ ต้องลงชื่อในเอกสารประกาศสาบานตนว่าจะภักดีต่อรัสเซีย และจะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และผู้นำระดับสูง กฎหมายดังกล่าวมีออกมาไม่กี่วันหลังเกิดเหตุเครื่องบินเล็กตกนอกกรุงมอสโกซึ่งมีชื่อของนายเยฟกินี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ อยู่ในกลุ่มผู้อยู่บนเครื่อง 10 คน ซึ่งเสียชีวิตทั้งหมด แม้ทางการรัสเซียยังไม่ยืนยันการเสียชีวิตของพริโกซินเป็นทางการ แต่รัสเซียปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังและไม่ได้สั่งลอบสังหารนายพริโกซินตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต

Advertisement

รัสเซียอ้างประสบความสำเร็จในการประชุมสุดยอดจี 20

People Unity News : 11 กันยายน 2566 นิวเดลี – นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียอ้างชัยชนะทางการทูตด้วยการประกาศว่า ประสบความสำเร็จในการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 (G20) ที่กรุงนิวเดลีของอินเดีย

นายลาฟรอฟกล่าวหลังจากการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วันปิดฉากลงว่า รัสเซียสามารถขัดขวางโลกตะวันตกที่พยายามทำให้วาระการประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องยูเครน แต่เนื้อหาปฏิญญาการประชุมไม่ได้พูดถึงรัสเซียเลย ประธานจี 20 คืออินเดียสามารถรวบรวมเสียงของจี 20 จากซีกโลกใต้ได้อย่างแท้จริง บ่งบอกว่าพันธมิตรของรัสเซียอย่างบราซิล แอฟริกาใต้ อินเดียและจีนได้แสดงบทบาทในการประชุมนี้

ผู้นำจี 20 แสดงความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเรื่องรัสเซียทำสงครามในยูเครน และกล่าวถึงปัญหาที่เกิดจากสงคราม แต่ไม่ได้ประณามรัสเซียในปฏิญญาที่ตกลงเนื้อหากันในวันที่ 9 กันยายน ขณะที่กระทรวงต่างประเทศยูเครนประณามปฏิญญานี้ว่า ไม่มีสิ่งใดน่าภาคภูมิใจ แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวเผยว่า สหรัฐพอใจกับผลการประชุม

จี 20 ประกอบด้วย 7 ชาติในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) (อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่นและสหรัฐ) และประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างอาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้และทูร์เคียหรือตุรกี โดยในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ไม่มีประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเข้าร่วม

Advertisement

นายกฯ แพทองธาร ให้ทูตฯ ประเมินสถานการณ์ภัยสงคราม หากต้องเตรียมพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 ตุลาคม 2567 นายกฯ แพทองธาร ให้ทูตฯ ประเมินสถานการณ์ภัยสงคราม หากต้องเตรียมพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล ขอให้เตรียมพร้อมตลอดเวลา ส่วนพื้นที่สู้รบให้ย้ายออกจากพื้นที่ทันที

วันที่ 2 ตุลาคม 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงคนไทยในอิสราเอล จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และเพื่อหลีกเลี่ยงจากผลกระทบเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้กระทรวงต่างประเทศและสถานทูตของไทยที่อยู่ใกล้ที่สุด จำเป็นต้องให้ข้อมูลกับคนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หากพบว่าอยู่ในระดับที่เสี่ยงเกินไป ก็ขอให้รีบแจ้งให้คนไทยออกจากพื้นที่ในทันที พร้อมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนว่า เมื่อช่วงกลางคืนของวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567 ว่ากองทัพอิสราเอล (IDF) ได้ประกาศให้พื้นที่เมืองเมตูลา (Metula) มิซกาฟ อัม (Misgav Am) และ คฟาร์ กิลอาดี (Kfar Giladi) บริเวณทางตอนเหนือของอิสราเอล ติดพื้นที่ชายแดนเลบานอน ให้เป็นเขตปิดทางทหาร (closed military zone) โดยเป็นเขตห้ามทำงานและอาศัย โดยแจ้งว่า หากมีคนไทยยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ก็ขอให้ย้ายออกจากพื้นที่ทันที และเช้านี้ก็ยังเฝ้า ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา

ทั้งนี้คนไทย สามารถขอรับความช่วยเหลือเพื่อย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว ได้ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โดยสามารถติดต่อได้ตามช่องทาง หมายเลขโทรศัพท์ ฝ่ายกงสุล +972 546368150, +972 503673195 ฝ่ายแรงงาน + 972 9-954-8431, +972 54-469-3476 และไอดีไลน์ 0544693476

“นายกรัฐมนตรีห่วงใยคนไทยที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ให้สถานเอกอัครราชทูตตัดสินใจประกาศเตือน ในแต่ละระดับความสำคัญ และให้เตรียมความพร้อมอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยทันที หากสถานการณ์มีโอกาสจะไปถึงขั้นวิกฤต”

นายจิรายุ กล่าวอีกว่าหากคนไทยต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ตามช่องทางการติดต่อข้างต้น เพื่อเข้าทำการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกต่อไป

Advertisement

กษัตริย์มาเลเซียแต่งตั้ง “อันวาร์ อิบราฮิม” เป็นนายกฯ คนใหม่

People Unity News : 24 พฤศจิกายน 2565 กัวลาลัมเปอร์ สมเด็จพระราชาธิบดีอัล-สุลต่าน อับดุลลาห์ แห่งมาเลเซีย ทรงแต่งตั้ง นายอันวาร์ อิบราฮิม หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซียในวันนี้ โดยนายอันวาร์เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำมาเลเซียในเวลา 17.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น

สำนักพระราชวังมาเลเซียระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า กษัตริย์มาเลเซียทรงแต่งตั้งนายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน ที่เป็นฝ่ายค้านและประกอบด้วยคนหลายเชื้อชาติ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของมาเลเซีย หลังจากที่พระองค์ได้ทรงหารือร่วมกับเจ้าผู้ครองรัฐในมาเลเซียทั้งหมด 9 รัฐ โดยนายอันวาร์เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำมาเลเซียในเวลา 17.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวจะทำให้นายอันวาร์ วัย 75 ปี ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกหลังลงเล่นการเมืองมายาวนานถึง 30 ปี และเผชิญกับจุดพลิกผันในเส้นทางการเมืองนับตั้งแต่ที่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีไปจนถึงตกเป็นนักโทษจากความผิดจากพฤติกรรมร่วมเพศทางทวารหนักและกลายเป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้านมาเป็นเวลานาน และถือเป็นการสิ้นสุดสถานการณ์ที่ไม่มีพรรคใดได้คะแนนเสียงที่ชัดเจน หรือที่เรียกกันว่า สภาแขวน นับตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันเสาร์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายอันวาร์เคยถูกขัดขวางไม่ให้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียหลายครั้งหลายครา แม้ว่าเขาอยู่ในจุดรุ่งโรจน์บนเส้นทางการเมืองในตอนนั้น เช่น เมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 และเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการในปี 2561 อย่างไรก็ดี นายอันวาร์เคยถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาเกือบ 10 ปีในความผิดจากพฤติกรรมร่วมเพศทางทวารหนักและทุจริตทางการเมือง ซึ่งเขาอ้างว่าถูกใส่ร้ายโดยมีแรงจูงใจเพื่อมุ่งเป้าทำลายอาชีพนักการเมือง

Advertisement

แฉ “ทรัมป์” ออกรอบตีกอล์ฟตามปกติ หลังสั่งยิงจรวดมิสไซล์ถล่มซีเรีย

People unity news online : 10 เมษายน 2560 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกรอบตีกอล์ฟในวันอาทิตย์เป็นวันที่สองติดต่อกัน ที่สนามกอล์ฟของตนเองในรัฐฟลอริด้า หลังจากเพิ่งเสร็จสิ้นการพบหารือกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และคำสั่งให้ยิงจรวดมิสไซล์โจมตีซีเรียเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวต่างปิดปากเงียบเกี่ยวกับกิจกรรมของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการออกรอบตีกอล์ฟสองครั้งที่สนามกอล์ฟ Trump International Golf Club และการสนทนาทางโทรศัพท์ราว 45 นาทีกับนายกฯญี่ปุ่น ชินโซ่ อาเบะ

นายกฯอาเบะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนและประธานาธิบดีทรัมป์ ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับเกาหลีเหนือและซีเรีย หลังจากที่เรือรบของสหรัฐฯได้ยิงจรวดมิสไซล์หลายสิบลูกถล่มฐานทัพอากาศของซีเรียเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าเป็นฐานทัพที่ซีเรียใช้โจมตีด้วยอาวุธเคมีใส่บริเวณที่กลุ่มแข็งข้อต่อต้านครอบครองอยู่ เป็นผลให้มีประชาชนบริสุทธิ์ รวมทั้งเด็กๆ เสียชีวิตจำนวนมาก นายกฯอาเบะ ยังกล่าวด้วยว่า “ตนและประธานาธิบดีทรัมป์ ต่างเห็นพ้องกันถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เพื่อต้านทานภัยคุกคามจากจรวดขีปนาวุธและการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ”

ทางด้านทำเนียบขาวได้มีแถลงการณ์ออกมาในวันอาทิตย์ว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้กล่าวขอบคุณนายกฯอาเบะ ที่สนับสนุนการโจมตีของสหรัฐฯใส่ซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และผู้นำทั้งสองคนยังได้เห็นพ้องกันในการขยายความร่วมมือในหลายเรื่อง รวมทั้งการตอบโต้ภัยคุกคามจากกรุงเปียงยาง”

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ Washington Post รายงานว่า ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม โดนัลด์ ทรัมป์ ออกรอบตีกอล์ฟแล้วในอัตราความถี่หนึ่งครั้งทุกๆ 5.3 วัน เมื่อเทียบกับอดีตประธานาธิบดีโอบาม่าที่ออกรอบเฉลี่ยทุก 8.8 วัน

โดยก่อนหน้านี้ในช่วงหาเสียง โดนัลด์ ทรัมป์ คือผู้ที่กล่าวโจมตีโอบาม่าหลายครั้งว่า มัวแต่เล่นกอล์ฟโดยไม่สนใจเหตุบ้านการณ์เมือง

ถึงกระนั้น ระหว่างการออกรอบตีกอล์ฟในวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้โพสต์ข้อความออกมาจากในสนามกอล์ฟ ลงในบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัว แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ระเบิดที่โบสถ์สองแห่งในอียิปต์ ซึ่งกลุ่มรัฐอิสลามออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบ

ปธน.สหรัฐฯยังได้ทวีตแสดงความมั่นใจว่า ประธานาธิบดี เอล-ซิสซี่ ของอียิปต์ จะสามารถรับมือเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน (ข่าวจากเว็บไซต์ voathai.com)

People unity news online : post 10 เมษายน 2560 เวลา 23.53 น.

 

รัสเซียชี้กำลังถูกกดดันให้เผชิญหน้า “นาโต้”

People unity news online :  เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียชี้กำลังถูกกดดันให้เผชิญหน้ากับนาโต้

“รัสเซียกำลังถูกกดดันให้ต้องเผชิญหน้ากับกับนาโต้ เมื่อมองตามตรรกะด้านความขัดแย้งทางทหาร” กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

“ความสัมพันธ์แบบ ‘สร้างสรรค์’ ระหว่างรัสเซียกับนาโต้จะเป็นไปในรูปแบบใด เมื่อสหรัฐฯและกลุ่มพันธมิตรยังคงใช้รูปแบบความสัมพันธ์เดิมๆ และหมกมุ่นอยู่กับการสร้างสถานภาพทางการทหารของตนในพื้นที่ชายแดนที่ติดกับเรา ด้วยเหตุผลที่ว่าจะต้อง ‘ควบคุมรัสเซีย’?” คำแถลงการณ์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการประชุมสภารัสเซีย-นาโต้ ระดับเอกอัครราชทูตครั้งล่าสุดที่จัดขึ้นในกรุงบรัสเซลส์

พร้อมกล่าวว่า นาโต้ยังไม่พร้อมที่จะกลับมาร่วมมือกับรัสเซียในการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยในภูมิภาคและทั่วโลกอย่างเป็นรูปธรรม และได้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะการเป็นพันธมิตรอย่างจริงจังเพื่อรับประกันการรักษาความปลอดภัยในยุโรปให้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ได้กล่าวแสดงความกังวลอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในภาคตะวันออกของยูเครน ในการแถลงข่าวหลังการประชุมโดยกล่าวว่า “การสู้รบในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนได้มาถึงระดับที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์” (ข่าวจากสำนักข่าว China Xinhua News)

People unity news online : post 3 เมษายน 2560 เวลา 21.23 น.

Verified by ExactMetrics