วันที่ 12 กรกฎาคม 2025

ศปช.เตือน 59 จังหวัด เตรียมรับมือพายุฤดูร้อนตั้งแต่บัดนี้ถึง 1 พ.ค.

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 28 เมษายน 2568 ศปช.เตือน 59 จังหวัด เตรียมรับพายุฤดูร้อนคาดการณ์วันนี้ถึง 1 พ.ค. สั่ง ปภ. เตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือทันทีหากเกิดสถานการณ์

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิยา ได้ประกาศแจ้งเตือนพายุฤดูร้อน ฉบับที่ 7 ในช่วงวันที่ 27 เมษายน – 1 พฤษภาคม ซึ่งอาจมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมทั้งอาจเกิดฟ้าผ่าได้ในบางจุด

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์พื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนดังกล่าว ทั้งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวม 59 จังหวัด ดังนี้

ภาคเหนือ (15 จังหวัด) ได้แก่  จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.ตาก จ.แพร่ จ.น่าน จ.พะเยา จ.เชียงราย จ.แม่ฮ่องสอน จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (17 จังหวัด) ได้แก่ จ.เลย จ.หนองบัวลำภู จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี จ.สกลนคร จ.นครพนม จ.ชัยภูมิ จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี

ภาคกลาง  (17 จังหวัด) ได้แก่ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.ลพบุรี จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สุพรรณบุรี จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ และ กรุงเทพฯ

ภาคตะวันออก (8 จังหวัด) ได้แก่ จ.นครนายก จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด

ภาคใต้ (2 จังหวัด) ได้แก่ จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์

“ขณะนี้ ศปช. ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยง พร้อมเข้าเผชิญเหตุให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทันทีที่เกิดสถานการณ์”

“ขอให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ 59 จังหวัดดังกล่าว ติดตามสภาพอากาศ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายจิรายุ กล่าว

Advertisement

ยูเนสโกยกย่อง 3 มรดกไทย เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกปี 2568

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 26 เมษายน 2568 ยูเนสโกยกย่อง 3 มรดกไทย “สมุดไทยคำหลวง – พระเจ้าช้างเผือก – เอกสารอาเซียน” เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกปี 2568 ตอกย้ำบทบาทสำคัญของชาติไทยในประวัติศาสตร์โลก

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข่าวดีจากกรมศิลปากรว่า องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้เอกสารสำคัญของประเทศไทย 3 รายการ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกความทรงจำแห่งโลก” (Memory of the World) ประจำปี 2568 จำนวน 74 รายการ ซึ่งมีเอกสารจากประเทศไทยได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกความทรงจำแห่งโลก 3 รายการ ได้แก่

รายการที่ 1 เอกสารสมุดไทย นันโทปนันทสูตรคำหลวง (The Manuscript of Nanthopananthasut Kamlaung) เอกสารโบราณล้ำค่าของไทย เป็นวรรณคดีทางพระพุทธศาสนาที่เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐสุริยวงศ์ (เจ้าฟ้ากุ้ง) ทรงพระนิพนธ์ขึ้นเมื่อปี 2279 ซึ่งเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร

รายการที่ 2 ภาพยนตร์เรื่อง พระเจ้าช้างเผือก และเอกสารจดหมายเหตุที่เกี่ยวข้อง (The King of the White Elephant and the archival documents) ภาพยนตร์เก็บรักษาไว้ที่หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และเอกสารจดหมายเหตุที่เกี่ยวข้องเก็บรักษาไว้ที่สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

รายการที่ 3 เอกสารการก่อตั้งประชาคมอาเซียน (The Birth of the Association of Southeast Asia Nations (ASEAN) (Archives about the Formation ASEAN, 1967 – 1976) เก็บรักษาไว้ที่หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ซึ่งประเทศไทยเสนอขึ้นทะเบียนร่วมกับประเทศอินโดนีเซีย ประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์

ปัจจุบันประเทศไทย มีเอกสารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกแล้ว 9 รายการ ได้แก่ จารึกวัดโพธิ์ ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง เอกสารจดหมายเหตุ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิรูปการปกครองของสยาม พุทธศักราช 2411 – 2453 ฟิล์มกระจกและภาพต้นฉบับ ชุดหอพระสมุดวชิรญาณ บันทึกการประชุมของคณะกรรมการสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ และคัมภีร์ใบลาน เรื่องตำนานอุรังคธาตุ

“การประกาศมรดกความทรงจำแห่งโลกในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญทางวรรณกรรม พุทธศาสนา และศิลปวัฒนธรรมของชาติไทย ที่มีคุณูปการต่อมนุษยชาติอย่างแท้จริง สมควรที่จะช่วยกันอนุรักษ์และสืบทอดให้คงอยู่สืบไป ผู้ที่สนใจสามารถดูรายการเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลกของประเทศไทยได้ที่ https://www.nat.go.th/mow/th-th ” นางสาวศศิกานต์ กล่าว

Advertisement

แนะผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ยื่นคำร้องภายใน 30 วัน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 7 เมษายน 2568 รัฐบาล เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว เปิดขั้นตอนรับเงินเยียวยาครบวงจร-ซ่อมบ้าน เสริมทุนอาชีพ มอบเงินปลอบขวัญ ยื่นคำร้องภายใน 30 วัน

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า รัฐบาลระดมทุกสรรพกำลังในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวอย่างเต็มที่ โดยภารกิจค้นหา ให้ความช่วยเหลือยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการเยียวยาและสนับสนุนการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยอย่างเร่งด่วน โดยทาง กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้กำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือ พร้อมเปิดเงื่อนไขและขั้นตอนในการขอรับเงินช่วยเหลือครอบคลุมในหลายด้าน อาทิ ค่าซ่อมแซมที่พักอาศัย เงินปลอบขวัญ และเงินทุนสำหรับการประกอบอาชีพ เพื่อฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของผู้ประสบภัยโดยเร็ว

การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหว เป็นไปตามการประเมินของคณะกรรมการระดับเขตพื้นที่ ซึ่งเป็นหน่วยดำเนินการสำรวจและประเมินความเสียหาย ดังนี้

1)ค่าวัสดุซ่อมแซมที่อยู่อาศัยประจำ จ่ายตามจริงหลังละไม่เกิน 49,500 บาท

2)ค่าที่พักอาศัยชั่วคราว หรือ ค่าเช่าบ้าน จ่ายเฉพาะอาคารที่ กทม.ประกาศระงับการใช้ และไม่ได้เข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงที่ กทม. จัดสรร เป็นเงินค่าเช่าบ้านเดือนละ 3,000 บาท ไม่เกิน 2 เดือน เป็นเงินไม่เกิน 6,000 บาท

3)ค่าจัดงานศพผู้เสียชีวิตรายละ 29,700 บาท และกรณีผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัว หรือผู้หารายได้หลักของครอบครัว ได้เพิ่มครอบครัวละไม่เกิน 29,700 บาท

4)ค่าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ (ตามใบรับรองแพทย์) กรณีบาดเจ็บสาหัส ช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นเงิน 4,000 บาท ส่วนกรณีบาดเจ็บถึงขั้นพิการ ช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นเงิน 13,300 บาท

5)เงินปลอบขวัญ (ตามใบรับรองแพทย์) กรณีรับบาดเจ็บจากเหตุสาธารณภัยรายละ 2,300 บาท

6)เงินทุนประกอบอาชีพ ครอบครัวละไม่เกิน 11,400 บาท

ส่วนผู้ประสบภัยที่ได้รับความเสียหายสามารถดาวน์โหลดแบบคำร้อง ได้ที่เว็บไซต์สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ภายใน 30 วันนับแต่วันเกิดเหตุ หรือเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) และยื่นเอกสารคำร้อง พร้อมหลักฐานที่ฝ่ายปกครองของสำนักงานเขต ประกอบด้วย แบบสอบข้อเท็จจริงผู้ประสบภัย สำเนาบัตรประชาชน หรือพาสปอร์ต (กรณีไม่มีสัญชาติไทย) สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาโฉนดที่ดิน (ต้องระบุชื่อเจ้าบ้าน/เจ้าของบ้าน) หรือ แบบคำรับรอง (แทนโฉนดที่ดิน) สำเนาใบ อช.2 (กรณีคอนโด) สำเนาบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ หนังสือรับรองผู้ประสบภัยและบัญชีความเสียหาย (แบบ บ.ส.3) บันทึก ป.ค.14 (ใช้กรณีเอกสารไม่ครบถ้วน) เอกสารประกอบการขอรับความช่วยเหลือค่าวัสดุซ่อมแซมที่พักอาศัยฯ และรูปถ่ายความเสียหายที่เกิดขึ้น

“รัฐบาลขอแสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และเดินหน้าให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง โดยไม่ละทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกขั้นตอนจะดำเนินไปด้วยความใส่ใจ โปร่งใส และเท่าเทียม เพื่อให้ทุกครอบครัวสามารถฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง รัฐบาลจะอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกย่างก้าวของการฟื้นฟูและก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” นางสาวศศิกานต์ กล่าว

Advertisement

ธปท.ขอความร่วมมือสถาบันการเงิน และ non-bank ช่วยลูกหนี้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ลดจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต-เพิ่มวงเงินสินเชื่อ-ให้วงเงินฉุกเฉิน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 30 มีนาคม 2568 ธปท. ขอความร่วมมือสถาบันการเงิน และ non-bank ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว ลดจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต-เพิ่มวงเงินสินเชื่อ-ให้วงเงินฉุกเฉิน ไม่เกิน 12 เดือน

29 มีนาคม 2568 นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนในวงกว้าง

ธปท. จึงขอความร่วมมือสถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่มิใช่สถาบันการเงิน ในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวดังกล่าวตามความเหมาะสมโดยเร่งด่วน โดยมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

1.สินเชื่อบัตรเครดิต สามารถพิจารณาปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบให้ต่ำกว่าอัตราที่ ธปท. กำหนดได้ เป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่พื้นที่นั้น ๆ ถูกประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย

2.สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล สามารถพิจารณาเงื่อนไขวงเงินชั่วคราวกรณีฉุกเฉินให้เกินกว่าอัตราที่ ธปท. กำหนดได้ เพื่อให้ลูกหนี้มีแหล่งเงินทุนฉุกเฉินเพียงพอสำหรับการฟื้นฟูความเสียหายอันเนื่องมาจากปัญหาสาธารณภัย โดยให้อนุมัติวงเงินดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่พื้นที่นั้น ๆ ถูกประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย

3.สินเชื่อทุกประเภท สามารถพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและสภาพคล่องแก่ลูกหนี้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อได้ รวมถึงการปรับเงื่อนไข เช่น ลดหรือยกเว้นดอกเบี้ยค่าธรรมเนียม ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยให้อนุมัติวงเงินดังกล่าวโดยเร็ว ไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่พื้นที่นั้น ๆ ถูกประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย

ทั้งนี้ ระหว่างการให้ความช่วยเหลือ ธปท. จะผ่อนปรนหลักเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้ ให้คงการจัดชั้นเดิมเช่นเดียวกับก่อนประสบสาธารณภัยด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมและทันท่วงที ธปท. ขอส่งกำลังใจให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวผ่านพ้นความยากลำบากนี้ไปได้

Advertisement

ภาคเหนืออากาศร้อนจัด-ฝนฟ้าคะนอง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 13 มีนาคม 2568 กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ มีอากาศร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในภาคเหนือ โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้ : การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส

Advertisement

เหนือ-อีสาน-กลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 3 มีนาคม 2568 กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบน อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อยในระยะนี้

สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง

พยากรณ์อากาศรายภาค วันที่ 3 มี.ค.68

กทม.-ปริมณฑล : อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคเหนือ : อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 16-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง : อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : เมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) : อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

Advertisement

สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น เตือนความปลอดภัยพลเมือง หลังไทยส่งอุยกูร์กลับจีน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 1 มีนาคม 2568 สถานทูตสหรัฐฯ และญี่ปุ่นประกาศไปยังพลเมือง ให้ระมัดระวังภัยก่อการร้ายในไทย หลังมีการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังจีนเมื่อพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยอ้างอิงเหตุวินาศกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อปีสิบปีที่แล้ว

สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เผยแพร่คำประกาศในวันศุกร์ในหน้าเว็บไซต์ แนะนำให้พลเมืองอเมริกันระมัดระวังการอยู่ในที่ชุมนุมชนที่นักท่องเที่ยวชอบไป ให้ทบทวนแผนการเรื่องความปลอดภัย และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

สถานทูตญี่ปุ่นส่งอีเมลเตือนพลเมืองในประเด็นเดียวกัน ให้ชาวญี่ปุ่นในไทยติดตามข้อมูลข่าวสารด้านความปลอดภัยจากสื่อท้องถิ่นและเว็บไซต์ Tabi-Reji ของรัฐบาลญี่ปุ่น ให้ระมัดระวังพื้นที่ที่อาจเป็นเป้าหมายการก่อการร้าย เช่น ศูนย์การค้า ศาสนสถาน ระบบขนส่งสาธารณะ

ในอีเมลที่ทางการญี่ปุ่นส่งให้กับพลเมืองระบุว่า “นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงการประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับประเทศไทย” ตามการรายงานของรอยเตอร์

คำประกาศจากทั้งสองสถานทูตมีขึ้นหลังรัฐบาลไทยส่งตัวชาวอุยกูร์จำนวน 40 คนกลับไปยังประเทศจีนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยคนกลุ่มนี้หลบหนีจากจีน ก่อนจะถูกจับกุมตัวและถูกคุมขังในสถานกักกันของไทยเป็นเวลากว่า 10 ปี

การตัดสินใจของรัฐบาลไทยมีขึ้นราว 10 ปี หลังการส่งชาวอุยกูร์กลับจีนครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกรกฎาคม 2558 ภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำนวน 109 คน ซึ่งตามมาด้วยเหตุวางระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ในเดือนถัดมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย บาดเจ็บ 125 ราย

ในปีเดียวกัน ตำรวจจับกุมชาวอุยกูร์สองคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ร่วมกันวางระเบิด โดยปัจจุบันทั้งสองยังคงถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่

สถานทูตสหรัฐฯ กล่าวถึงเหตุระเบิดศาลพระพรหมว่าเกิดขึ้นในจุดที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก

กระทรวงการต่างประเทศไทยไม่ได้ตอบรับคำขอความเห็นของรอยเตอร์เกี่ยวกับการแจ้งเตือนดังกล่าว

การส่งชาวอุยกูร์ในสัปดาห์นี้นำมาซึ่งคำประณามและความกังวลจากสหรัฐฯ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ รวมถึงสหราชอาณาจักร แม้ว่าตัวแทนรัฐบาลไทยระบุว่า การส่งตัวกลับเป็นไปโดยสมัครใจ และรัฐบาลปักกิ่งยืนยันที่จะดูแลชาวอุยกูร์เหล่านั้นอย่างดี

ที่ผ่านมามีรายงานและข้อครหาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนและองค์การระหว่างประเทศว่าจีนนำคนอุยกูร์ในซินเจียงเข้าค่ายอบรม ซึ่งมีการซ้อมทรมานและใช้แรงงานบังคับ ซึ่งทางการจีนปฏิเสธมาโดยตลอด

เจสัน ทาวเวอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายเมียนมาจากสถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐอเมริกา (USIP) ให้ความเห็นกับวีโอเอไทยว่า อิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สืบเนื่องจากบทบาทการปราบปรามมิจฉาชีพออนไลน์ตามชายแดนไทย-เมียนมาตั้งแต่เดือนมกราคม ทำให้จีนสามารถเดินหน้าวาระด้านความมั่นคงกับไทยได้เต็มที่

เขากล่าวว่า “การส่งตัวชาวอุยกูร์กลับในเวลานี้ไม่ใช่ความบังเอิญ มันคือสัญญาณของอิทธิพลด้านความมั่นคงของจีนที่มากขึ้นในไทย มันมีความเป็นไปได้ว่านี่จะมีผลไปสู่แรงกดดันที่มากขึ้นต่อกองกำลังฝ่ายประชาธิปไตยในเมียนมาในช่วงหลายเดือนนับจากนี้”

ทาวเวอร์ระบุว่าจีนน่าจะใช้อิทธิพลที่มากขึ้นเพื่อช่วยรัฐบาลทหารเมียนมาปราบปรามกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ดังกล่าว เช่นเดียวกันกับที่จีนกำลังกดดันกลุ่มกองกำลังชาติตามชายแดนจีน-เมียนมา

ในการแถลงข่าวค่ำวันพฤหัสบดี นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าการส่งตัวชาวอุยกูร์เกี่ยวข้องกับการที่หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะจีนเข้ามาปราบมิจฉาชีพหรือไม่ โดยตอบว่าเป็นคนละเรื่องกัน

ที่มา VOA ไทย  ข้อมูลเพิ่มเติมจากรอยเตอร์, เบนาร์นิวส์

Advertisement

แจ้งเตือน 23-25 ก.พ.นี้ อากาศแปรปรวน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 21 กุมภาพันธ์ 2568 ทำเนียบ – “จิรายุ” เผย ปภ.ช. แจ้งเตือน 23-25 ก.พ.นี้ อากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง ขณะที่ กทม.-ปริมณฑล สุดสัปดาห์นี้ ฝุ่นจะกลับมาเพิ่มขึ้น

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. เกิดเหตุไฟไหม้ป่าที่แหลมกระทิง จ.ภูเก็ต พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ โดยทางจังหวัดได้ระดมสรรพกำลังดับไฟจนสงบลงเช้าวันนี้ จึงขอให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังและหากเกิดไฟไหม้ให้รีบดับโดยเร็วที่สุด

ส่วนสถานการณ์ภาพรวมทั้งประเทศวันนี้ กรมควบคุมมลพิษรายงานว่า ในบางพื้นที่สถานการณ์แย่ลงกว่าเมื่อวาน (20 ก.พ.) เมื่อเทียบกันในช่วงเวลา 07.00 น. โดยพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และภาคกลาง เช่น สิงห์บุรี อ่างทอง ที่มีค่าฝุ่นสูงถึงระดับสีส้ม ซึ่งตรงกับที่คาดการณ์ไว้ว่า วันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ สถานการณ์จะแย่ลง แต่หลังจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ไปแล้ว สถานการณ์จะดีขึ้น เช่นเดียวกับภาคตะวันออก ส่วนพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ สถานการณ์ดีขึ้น ไม่มีพื้นที่สีแดง แต่ยังมีกลุ่มจังหวัดที่เป็นสีส้ม คือ ลำปาง พิษณุโลก น่าน เชียงราย และตาก ขณะที่ 20 จังหวัดแรก ที่พบค่าฝุ่นสูงสุด คือ ต.หน้าพระลาน สระบุรี เขตบึงกุ่ม กทม. และ ต.ในเมือง จ.พิษณุโลก ทั้งนี้ คาดการณ์ระบุว่า หลัง 21 กุมภาพันธ์ สถานการณ์ในภาคเหนือจะดีขึ้น แต่จะพบสีส้มในพื้นที่ภาคกลาง และกทม. เป็นส่วนใหญ่

“แนวโน้มสถานการณ์ ต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล สุดสัปดาห์นี้ ฝุ่นจะกลับมาเพิ่มขึ้น เมื่อเข้าสู่วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ลมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดเข้ามา ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่หลังจากนั้นช่วงวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ สถานการณ์ฝุ่นอาจจะกลับมาอีก ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด”

สำหรับจุดความร้อนจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์กามหาชน) หรือ จิสด้า รายงานว่า ประเทศไทยพบจุดความร้อนจำนวน 264 จุด กระจายตัวในภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคอีสาน นอกจากนี้ ยังพบการกระจุกตัวอยู่ในเมียนมา ที่วันนี้พบจุดความร้อนสูงสุด คือ 1,898 จุด รองลงมาคือ กัมพูชา ส่วนไทยอยู่ลำดับที่ 4 โดยจำนวนจุดความร้อนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาลดลง เนื่องจากมีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ ส่วนจังหวัดชัยภูมิพบจุดความร้อนมากที่สุดถึง 47 จุด ตาก 21 จุด นครราชสีมา 18 จุด และลพบุรี 15 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตร

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศพบความชื้นในประเทศไทยที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและจะมีฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคใต้บางพื้นที่ แต่ไม่สามารถลดสถานการณ์ฝุ่นได้มากนัก ทั้งนี้ ขอแจ้งเตือนเฝ้าระวังอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักภาคใต้ คลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ช่วงวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ ต้องเฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนอง โดยคาดการณ์จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช

Advertisement

สภาพอากาศวันนี้ ทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง กทม.-ปริมณฑล ฝน 30%

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 17 กุมภาพันธ์ 2568 กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและฟ้าผ่าบางพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1–2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน

พยากรณ์อากาศรายภาค วันที่ 17 ก.พ.68

กทม.-ปริมณฑล : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคเหนือ : อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดกำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1–2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง : อากาศเย็นในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

Advertisement

จับสินค้าออนไลน์เถื่อนกว่า 2.1 หมื่นคดี

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 15 กุมภาพันธ์ 2568 รัฐบาลลุยกวาดล้าง จับสินค้าออนไลน์เถื่อนกว่า 2.1 หมื่นคดี มูลค่าเสียหายทะลุพันล้าน

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการบูรณาการความร่วมมือแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ ผ่านคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SME ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ ตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค.2567 สามารถแก้ปัญหาการนำเข้าสินค้าไร้คุณภาพในระยะสั้นเกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการนำเข้าผ่านการสั่งซื้อออนไลน์ ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้มงวดตรวจสอบการนำเข้าและดำเนินคดีกับผู้นำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานได้ 21,227 คดี ความเสียหาย 1,137 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งอาหารเสริม อาหาร ยาและเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ปลั๊กพ่วง พาวเวอร์แบงก์ เป็นต้น

ส่วนการดำเนินงานระยะกลาง และยาว รัฐบาลได้กำชับให้ทุกหน่วยงานดำเนินการเพิ่มความเข้มงวดและความถี่ให้การตรวจสอบให้มากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบสินค้าไม่มีคุณภาพ คณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการเชิงรุกเพื่อตรวจสอบทั้งสิ้นนำเข้าไร้มาตรฐาน ที่วางขายในท้องตลาดทั่วไป และตรวจสอบธุรกิจนอมินี ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวทั่วประเทศ เพื่อทำให้ปัญหาดังกล่าวหมดไปโดยเร็ว

“รัฐบาลตระหนักถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ และมุ่งมั่นสร้างมาตรฐานสินค้าให้เป็นไปตามกฎหมายสากล โดยจะเดินหน้าปราบปรามผู้ค้าฉวยโอกาสที่นำเข้าสินค้าไม่มีคุณภาพอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคไทย และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น” นางสาวศศิกานต์ กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics