วันที่ 12 กรกฎาคม 2025

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปิดประชุมรัฐสภา พุทธศักราช ๒๕๖๒

People Unity : พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพิธีทรงเปิดประชุมรัฐสภา พุทธศักราช ๒๕๖๒ ณ ห้องประชุมวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ วันศุกร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒

“บัดนี้ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสร็จสิ้นลง และมีการเรียกประชุมรัฐสภา พุทธศักราช ๒๕๖๒ แล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อให้ทำหน้าที่นิติบัญญัติ ตั้งแต่วาระนี้เป็นต้นไป ขอให้สมาชิกแห่งสภาพึงนึกถึงความสำคัญและความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง เพราะการกระทำทุกอย่างของแต่ละคน จะมีผลโดยตรงถึงความมั่นคงของประเทศและความสุขทุกข์ของประชาชน จึงจำเป็นที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันปฏิบัติภารกิจทั้งปวงโดยเต็มสติปัญญาความสามารถ ด้วยความสุจริต และด้วยความคิดพิจารณาอันสุขุม รอบคอบ หนักแน่นด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง เที่ยงตรง ตามหลักนิติธรรมและคุณธรรม ให้งานของชาติดำเนินก้าวหน้าไปโดยไม่ติดขัด และบังเกิดประโยชน์อันพึงประสงค์สมบูรณ์ บริบูรณ์

ขออำนวยพรให้การดำเนินงานของรัฐสภาเป็นไปโดยเรียบร้อย สัมฤทธิ์ผลผล เป็นความผาสุกสวัสดิ์ และความวัฒนาถาวรแก่อาณาประชาราษฎร์และชาติบ้านเมือง ทั้งขอให้ทุกคนที่ประชุมร่วมกันอยู่ ณ ที่นี้ ประสบความสุขความเจริญทุกเมื่อทั่วหน้ากัน”

ใต้ร่มพระบารมี : พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปิดประชุมรัฐสภา พุทธศักราช ๒๕๖๒

People Unity : post 24 พฤษภาคม 2562 เวลา 23.30 น.

รฟท. จัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวรถจักรไอน้ำ วันปิยมหาราช ทริปถัดไปวันที่ 5 ธันวาคม 2566

People Unity News : 23 ตุลาคม 2566 วันนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวรถจักรไอน้ำ เนื่องในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม 2566 เส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ – พระนครศรีอยุธยา

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวรถจักรไอน้ำ เส้นทาง กรุงเทพ – อยุธยา เนื่องในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม 2566 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานกิจการรถไฟ เพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชนชาวไทย โดยมีนายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถพิเศษนำเที่ยวรถจักรไอน้ำ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ พร้อมด้วยผู้บริหาร พนักงานการรถไฟฯ นักท่องเที่ยว เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 การรถไฟฯ จึงได้จัดกิจกรรม จัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวรถจักรไอน้ำ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่มีต่อปวงชนชาวไทย

ทั้งนี้ การรถไฟฯ นำหัวรถจักรไอน้ำแปซิฟิก หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว จำกัด ซึ่งปัจจุบันได้เก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี นำมาจัดเดินขบวนรถนำเที่ยวพิเศษใน 6 โอกาสพิเศษและวันสำคัญของทุกปี ซึ่งประกอบด้วย

-วันที่ 5 ธันวาคม วันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ

-วันที่ 26 มีนาคม วันสถาปนากิจการรถไฟ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ

-วันที่ 3 มิถุนายน วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เส้นทางกรุเทพ – นครปฐม – กรุงเทพ

-วันที่ 28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ

-วันที่ 12 สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ

-วันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ

สำหรับ ทริปถัดไปได้ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2566 เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา โดยมีอัตราค่าโดยสารไป-กลับ (รถนั่งชั้น 3) ในราคา 329 บาท และตู้โดยสารปรับอากาศ (รถโอทอป) ราคา 799 บาท/คน พร้อมบริการอาหารว่าง และเครื่องดื่มบนรถไฟทั้งเที่ยวไป-กลับ ทั้งนี้ จะเริ่มเปิดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าสูงสุด 30 วัน ด้วยระบบ D-Ticket หรือที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ

Advertisement

“บิ๊กตู่” ประชุมมูลนิธิโครงการหลวงสนองพระราโชบาย ร.10 สืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการหลวง

People Unity News : รัฐบาลติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง สนองพระราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอดงานโครงการหลวง

วันนี้ (7 ก.ค.64) เวลา 09.30 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง ครั้งที่ 1/2564 (ผ่านระบบ VDO Conference) โดยมี นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรีและประธานกรรมการมูลนิธิโครงการหลวง พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรีและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรีและที่ปรึกษาพิเศษ สวพส. ร่วมประชุม

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานผลการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง และหน่วยงานสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนแม่บทศูนย์พัฒนาโครงการหลวง และแผนแม่บทโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงที่ผ่านมา โดยรัฐบาลยินดีให้การสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวงมาโดยตลอดและต่อเนื่อง รวมทั้งจะติดตามการทำงานเพื่อเป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานโครงการหลวง และพระราโชบายพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดงานโครงการหลวง ดังนั้น ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำงานให้สอดคล้องตามพระราโชบายพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด และพัฒนาให้ดีขึ้น ตลอดจนมีการใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างคุ้มค่า ประหยัด เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบการนำแผนกลยุทธ์มูลนิธิโครงการหลวง ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อเป็นแนวทางในการประสานประโยชน์จากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการสนับสนุนงานโครงการหลวงต่อไป รวมทั้งที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการร่างแผนปฏิบัติการฯ 3 แผน ดังนี้

1.เห็นชอบในหลักการ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาพื้นที่โครงการหลวงระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) และกรอบงบประมาณ โดยมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้ไปพิจารณาให้มีความสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการฯ และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป รวมทั้งมอบให้หน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการและจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป

2.เห็นชอบในหลักการ (ร่าง) แผนปฏิบัติการโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) และกรอบงบประมาณ โดยมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ยืนยันความสอดคล้องของแผนปฏิบัติการฯ กับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งสำนักงบประมาณ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการและนำแผนปฏิบัติการฯไปใช้ในการจัดทำคำของบประมาณประจำปี

3.เห็นชอบในหลักการ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2557) และกรอบงบประมาณ โดยมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.)  ยืนยันความสอดคล้องของแผนปฏิบัติการฯ กับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งสำนักงบประมาณ เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป รวมทั้งกำหนดให้แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนฯ เป็นแผนงานบูรณาการระดับประเทศต่อไป

นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงการเสนองบประมาณในการดำเนินแผนงานโครงการต่างๆ ต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ด้าน รวมทั้งใช้จ่ายงบประมาณให้และเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีความชัดเจน โปร่งใส มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการลดภาวะโลกร้อน นำวัสดุเหลือใช้มาแปรรูปเพิ่มมูลค่าและใช้ประโยชน์ในครัวเรือนแทนการเผาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถนำแนวทางนี้ไปปรับใช้ในการพัฒนาพื้นที่สูง รวมทั้งการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนินการต่างๆของรัฐบาล ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ Bio-Circular-Green Economy (BCG Model) เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมของประเทศ พร้อมขอให้ประชาชนนำไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอยู่รอดได้อย่างดีภายใต้สถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

Advertising

“ในหลวง-พระราชินี” ทรงจัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กในพื้นที่อุทกภัย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 25 กันยายน 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ลงถุงพระราชทานสำหรับเด็ก ด้วยทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กทารกแรกเกิดจนถึง 2 ขวบ เพื่อพระราชทานเป็นพิเศษ

วานนี้ (24 กันยายน 2567) เวลา 18.27 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรง Screen “ถุงพระราชทานสำหรับเด็ก” และทรงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ลงถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน 1,000 ถุง เพื่อมอบแก่เด็กในพื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กทารกแรกเกิดและเด็กเล็ก ที่อยู่ในสถานการณ์อุทกภัยร้ายแรง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็ก ตลอดจนจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กบรรจุลงในถุงพระราชทาน อาทิ ตุ๊กตาผ้าห่ม เป้อุ้มเด็ก นมผง อาหารเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สำลี ฟองน้ำเช็ดตัว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ซักล้างสำหรับเด็ก โดยจัดพระราชทานสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด ถึงอายุ 2 ขวบ เพิ่มเติมจากถุงพระราชทานทั่วไป

ทั้งนี้ ได้มีพระราชกระแสทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัย ตลอดจนมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจแก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ทำให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในการให้ทุกคนมีจิตอาสา พร้อมที่จะเสียสละ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนสามารถทำให้สถานการณ์รุนแรงคลี่คลายลงได้ตามลำดับ โดยในวันที่ 30 กันยายนนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน 3,271 ถุง ไปพระราชทานแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และนายอำเภอที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ณ หอประชุมเทศบาลตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

Advertisement

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯเยี่ยมผู้บาดเจ็บและพระราชทานกำลังใจแก่ครอบครัวเหยื่อโศกนาฏกรรม

People Unity News : วันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 20.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ไปทรงเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโศกนาฏกรรมในจังหวัดหนองบัวลำภู ณ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู และโรงพยาบาลอุดรธานี นำมาซึ่งความปลาบปลื้มปิติล้นพ้น และทำให้พวกเขามีกำลังใจที่เข้มแข็งในการดำเนินชีวิตต่อไป

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

Advertisement

ประทับใจงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ต้อนรับประชาชนอบอุ่น เป็นแขกของพระเจ้าอยู่หัว

People unity news online : เหลือเวลาอีก ๑๑ วันเท่านั้น กับการจัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจัดงานพระราชทานความสุขให้กับประชาชน และเผยแพร่ความงดงามของความเป็นไทยในรูปแบบต่างๆในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร องค์พระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักเคารพยิ่งของปวงชนชาวไทย ภายใต้ชื่องานว่า “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ – ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๑ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๐ – ๒๑.๐๐ น. วันศุกร์และวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๐ – ๒๒.๐๐ น.

จึงขอเชิญชวนประชาชนไปร่วมงาน และแต่งกายย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ ๕ หรือสวมใส่ผ้าไทย หรือชุดสุภาพตามสมัยนิยม …อีก ๑๑ วันเท่านั้น

เสียงจากผู้เข้าชมงาน คุณสุภาวดี วงษ์เพชร ผู้อำนวยการ สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ และเป็นภรรยาของ พล.อ.พัชราวุธ วงษ์เพชร ผู้ทรงคุณวุฒิกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความประทับใจของงานอุ่นไอรักฯ ว่า

“ทุกอย่างภายในงานสวยงามมาก พิถีพิถันในการจัดงาน ได้บรรยากาศย้อนยุคจริงๆ และที่ประทับใจที่สุด คือ การต้อนรับ ซึ่งประชาชนทุกคนที่เข้าไปชมงาน จะได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆอย่างดีมาก อบอุ่นด้วยความรัก ความสุภาพ ให้เกียรติกับประชาชนทุกคนเสมือนเป็นบุคคลสำคัญ ตั้งแต่ย่างก้าวแรกที่ขึ้นรถรับส่งของงานเพื่อเข้ามาชมงาน ได้ยินมาว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ต้อนรับประชาชนที่มาเที่ยวชมงานในฐานะเป็นแขกของพระองค์ ได้ยินแล้วก็ขนลุก ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

People unity news online : post 1 มีนาคม 2561 เวลา 10.00 น.

มท. เปิดตัวบทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์  : 17 สิงหาคม 2567 กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกับ โกไข่ ศิลปินจิตอาสา เปิดตัวบทเพลง “THE LIGHT OF LOVE” บทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พระผู้ทรงเป็นหลักชัยและศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งนับตั้งแต่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติ พระองค์เปรียบประดุจแสงแห่งความรัก ผู้ทรงทศพิธราชธรรม ที่ฟูมฟักทะนุถนอมประชาชนคนไทย ยังผลให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ด้วยทรงมีพระราชปณิธานอันมุ่งมั่นแน่วแน่ ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานทั้งปวงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เคียงคู่พระบารมี เสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ ยังประโยชน์สุขให้กับประชาชนคนไทย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จึงได้ร่วมกับศิลปินจิตอาสา คือ ดร. จุมพล ทองตัน (โกไข่) ประพันธ์บทเพลง “THE LIGHT OF LOVE – บทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ซึ่งมีเนื้อหาบทเพลงที่สะท้อนความรักของประชาชนคนไทย ที่พร้อมเพรียงในการถวายหัวใจแห่งความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการปฏิบัติบูชา สืบสานงานตามพระราชดำริ ทั้งงานจิตอาสา และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นหลักชัย ผู้ทรงเปรียบประดุจแสงแห่งความรักที่ส่องสว่างให้ประชาชนคนไทยได้มีสิ่งที่ดีงามของชีวิต

สำหรับเนื้อเพลง “THE LIGHT OF LOVE” มีคำร้อง ดังนี้

A

When the sky is gray

It seems too hard to see

Soon, the dawn will shine bright The golden light will be back again

B

It’s the light of our love

That’s ready to be found

All the crowd will shout from their hearts

C

We’ll preserve all the things And contribute all your guides

Your vision will be in our lives

In our great beloved

King Vachiralongkorn.

D

The love of all Thai people

Together with our beloved queen

Forever we’ll be good

We’ll change all the wrong to be right.

We’ll apply the idea

Of life long living to our plan

Oh, in this motherland

We all will forever be on your side

(Repeat B / C / D)

E

With heart and unity

Volunteer society will be rise

Your light of love’s shining bright My life will be serving you forever

Forever

Forever

“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ ได้ร่วมรับฟัง และร่วมแชร์บทเพลงแสงแห่งรัก ผ่านทางเว็บไซต์ https://youtu.be/o4e_bJbqUJk?si=Kov1Oyn_MFj2t5h_ เพื่อร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และ เผยแผ่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ขจรขจาย ด้วยความจงรักภักดี โดยพร้อมเพียงกัน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย

Advertisement

ตั้ง รร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณฯ เพิ่มอีก 6 แห่ง

People Unity News : 2 พฤษภาคม 2566 รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.รับทราบรายงานความก้าวหน้ายกระดับคุณภาพโรงเรียนมัธยมศึกษาให้เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปี 66 ตั้งเพิ่ม 6 แห่ง กระจายการเข้าถึงการศึกษาคุณภาพทุกภูมิภาค

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการพัฒนายกระดับคุณภาพโรงเรียนมัธยมศึกษาให้เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดย ครม. มีมติเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 เห็นชอบในหลักการพัฒนายกระดับคุณภาพโรงเรียนมัธยมศึกษาให้เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย (จ.ภ.) ประจำเขตตรวจราชการ จำนวน 6 แห่ง และให้ปรับปรุงแก้ไขจังหวัดเขตพื้นที่บริการโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับจำนวนโรงเรียนและบริบทเชิงพื้นที่ ภูมิศาสตร์ ภูมิสังคม ระบบราชการ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินการ ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (ปีงบฯ 2565 – 2569)

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการเสนอรายงานความก้าวหน้าว่าได้ดำเนินการตามมติ ครม. ดังกล่าว โดยจัดทำแนวทางการพัฒนาจัดตั้ง จ.ภ. 6 แห่ง โดยกำหนดพื้นที่จังหวัดสำหรับการจัดตั้ง จ.ภ. ในพื้นที่เขตตรวจราชการ 6 เขตตรวจฯ ที่ยังไม่มี จ.ภ. ตั้งอยู่ ซึ่งสอดคล้องกับพื้นที่เขตตรวจราชการที่กำหนดไว้ และได้ปรับปรุงเขตพื้นที่บริการของ จ.ภ. จากเดิมที่มีพื้นที่รับนักเรียนจำนวน 7-8 จังหวัดต่อ 1 โรงเรียนให้เป็นจำนวน 4-5 จังหวัดต่อ 1 โรงเรียนเพื่อให้การเข้าถึงโอกาสของนักเรียนในจังหวัดต่าง ๆ มีการกระจายอย่างทั่วถึง

“เดิมโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยมีจำนวน 12 แห่ง และได้กำหนดเพิ่มเติมอีก 4 แห่ง ในจังหวัดสุพรรณบุรี กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และลำปาง แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาและกระจายการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทยให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นจึงได้มีการเพิ่มจัดสรรใหม่อีก 2 แห่ง คือ ในจังหวัดสระแก้ว และ กำแพงเพชร ทำให้จะมีโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย 18 แห่งทั่วประเทศไทย โดยในงบประมาณปี 2566 กระทรวงศึกษาธิการได้มีประกาศ ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เรื่อง ตั้งโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ลำปาง สระแก้ว สุพรรณบุรี และอุบลราชธานี ให้เป็นสถานศึกษาที่มีการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษในสังกัด สพฐ. ตั้งแต่ชั้น ม. 1-6 รับนักเรียนประเภทประจำโดยมีเขตพื้นที่บริการตามที่ สพฐ. กำหนด” น.ส.ทิพานัน กล่าว

Advertisement

 

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทาน 9 แนวทางให้รัฐบาลยึดเป็นหลักปฏิบัติ

People unity news online : เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 เวลา 13.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เมื่อวาน (7 สิงหาคม) ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งเป็นการถวายรายงานการทำงานของรัฐบาลตามห้วงระยะเวลา โดยได้ถวายงานในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่ง สรุปได้ดังนี้

1.ทรงห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมทั้งภาคเหลือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงรับสั่งให้รัฐบาลช่วยเหลือตามมาตรการต่างๆอย่างรวดเร็ว และทั่วถึง ลดภาระความซ้ำซ้อน สิ่งใดที่สถาบันจะช่วยได้ ก็จะทรงพระราชทานความช่วยเหลือมาให้ อย่างที่ทรงพระราชทานอยู่ปัจจุบันนี้ พร้อมทรงรับสั่งให้แก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเป็นพื้นที่ๆไป ถ้าไม่สามารถแก้ไขในภาพรวมได้ โดยนายกรัฐมนตรีได้ทูลถวายถึงโครงการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำภาพรวมของรัฐบาลว่า ติดปัญหาอยู่ที่ประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียเรื่องที่ดิน และในพื้นที่ส่วนบุคคล โดยไม่สามารถทำได้ ซึ่งจะมีการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ต่อไป

2.ทรงรับสั่งขอให้ทำให้ประเทศชาติและประชาชนมีความสุข ทั้งการช่วยเหลือ การบรรเทา การจัดระเบียบ การสร้างวินัย การสร้างอุดมการณ์ ขอให้ทำในทุกมาตรการอย่างต่อเนื่อง

3.ให้ช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทยแต่โบราณกาลที่เป็นส่วนที่ดีงาม เป็นอัตลักษณ์ของไทย ให้คนมาท่องเที่ยว มาชื่นชม ขอให้รักษาไว้ให้ได้

4.เรื่องภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น ภัยคุกคามรูปในแบบเก่า การรักษาอธิปไตย วันนี้น้อยลง ก็มีแต่การรักษาทรัพยากรบนแผ่นดินและบนพื้นน้ำที่เป็นอาณาของประเทศไทย ที่จำเป็นต้องมีกำลังไว้รักษา และภัยคุกคามรูปแบบใหม่ต้องเตรียมมาตรการรองรับให้ดี ให้เป็นสากล

5.ทรงให้เร่งดูแลระบบการศึกษา ซึ่งปัจจุบันได้มีการปฏิรูปการศึกษา เร่งกระบวนการเรียนรู้ ให้คนไทยมีความรู้ สามารถประกอบอาชีพมั่นคง มีความเข้มแข็ง มีหลักคิดที่ถูกต้องในทุกๆเรื่อง จะได้ลดความขัดแย้ง

6.ทรงขอให้ช่วยกันส่งเสริมกลุ่มงานจิตอาสา ซึ่งตนได้สั่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงมหาดไทย จัดตั้งอาสาสมัครในการดูแลพื้นที่ และความมั่นคง ในลักษณะจิตอาสา หรือทำกิจกรรมสาธารณะ

7.การดูแลประชาชน ให้ความเป็นธรรม กระบวนการยุติธรรมทุกอย่างให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ มีหลักฐานที่ชัดเจน ให้ประชาชนเชื่อมั่นไว้วางใจในกระบวนการยุติธรรมให้ได้

8.ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทรงขอให้ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง เป็นแม่แบบให้กับประชาชนให้เคารพศรัทธาเชื่อมั่นในการทำงานเพื่อให้เกิดความร่วมมือ ลดผลกระทบระหว่างกันให้ได้ในการบังคับใช้กฎหมาย

9.ทรงเสียพระทัยในการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยรับสั่งว่าขอให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจ ขยายสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงทำไว้มากมายให้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป ขอให้สำนึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมขอให้นำทุกอย่างที่ทั้งสองพระองค์ได้ทรงริเริ่มนำไปขับเคลื่อน ส่วนพระองค์จะสนับสนุนส่งเสริมรัฐบาลในการทำเพื่อประชาชน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และโชคดีที่ประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถต่อไป ขอให้คนไทยทุกคนช่วยกันรักษา ให้ใช้การสูญเสียในครั้งนี้ เปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปในสิ่งที่ดีกว่าเดิม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านต่อไป

People unity news online : post 9 สิงหาคม 2560 เวลา 17.00 น.

ประชาชนลงนามถวายสักการะหน้าพระรูปสมเด็จพระสังฆราช

People Unity News : 25 มิถุนายน 2566 วัดราชบพิธฯ – ประชาชนลงนามถวายสักการะหน้าพระรูปสมเด็จพระสังฆราช ที่วัดราชบพิธฯ เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ

บรรยากาศที่พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร มีประชาชนมาร่วมลงนามถวายสักการะหน้าพระรูป “สมเด็จพระสังฆราช” เนื่องในโอกาสงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วันที่ 26 มิถุนายน 2566 โดยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่า เข้าถวายเครื่องสักการะและลงนามถวายสักการะหน้าพระรูปสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19-25 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00-16.00 น. โดยจะได้รับพระรูปของสมเด็จพระสังฆราช และหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษเนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ เป็นที่ระลึกด้วย โดยประชาชนที่มาร่วมลงนาม และร่วมทำบุญ พร้อมตั้งจิตทำสมาธิและตั้งใจน้อมนำคำสอนมาปรับใช้

ส่วนวันที่ 26 มิ.ย. ตามกำหนดการจัดงาน “การจัดงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 26 มิถุนายน 2566” นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา จะเป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระกุศล ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระนามเดิม อัมพร ประสัตถพงศ์ ฉายา อมฺพโร เป็นสมเด็จพระสังฆราชไทยพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยทรงเริ่มดำรงตำแหน่งในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2470 ตรงกับแรม 12 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ณ ตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี

Advertisement

Verified by ExactMetrics