วันที่ 6 พฤษภาคม 2024

ข่าวดี แบงก์รัฐพร้อมใจลดดอกเบี้ยลง 0.25%

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 26 เมษายน 2567 สมาคมแบงก์รัฐ  ขานรับนโยบายรัฐ  ลดดอกเบี้ยลง 0.25% หวังช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเปราะบาง

ตามที่รัฐบาลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายช่วยเหลือบรรเทาภาระของลูกค้ารายย่อย และกลุ่มเปราะบาง  ผู้เดือดร้อนได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ในขณะนี้นั้น

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ  เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 มีมติร่วมกัน ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเปราะบางตามนโยบายรัฐบาล โดยธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เอสเอ็มอี ดีแบงก์  เอ็กซิมแบงก์  และ บสย. ร่วมกันลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับลูกค้ารายย่อยทุกกลุ่มลงร้อยละ 0.25  อันได้แก่ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อย (MRR – Minimum Retail Rate) อัตราดอกเบี้ยตามประกาศ (Prime Rate) และอัตรากำไรอ้างอิงสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (SPRR – Standard Profit Rate for Prime Retail Customer) เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นระยะเวลา 6 เดือน

ในขณะที่ ธ.ก.ส.  ร่วมลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบางลงร้อยละ 0.25  เป็นระยะเวลา 6 เดือนด้วยเช่นกัน เนื่องจากได้มีการพักชำระหนี้เกษตรกรไปแล้วก่อนหน้านี้

สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และธนาคารสมาชิกฯ ตระหนักถึงภาระต้นทุนทางการเงินของประชาชนและสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวในขณะนี้ โดยสมาคมฯ พร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการทางการเงินต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้น เพื่อบรรเทาภาระและช่วยเสริมสภาพคล่องในครัวเรือน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

Advertisement

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 25 เมษายน 2567 กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย

ในขณะที่มีแนวสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันตกเฉียงเหนือและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 28-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส

Advertisement

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนฟ้าคะนอง ระวังลมแรงบางพื้นที่

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 22 เมษายน 2567 กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่วนไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัด

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย

ขณะที่มีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 29-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส

Advertisement

ทั่วไทยร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 42 องศาฯ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 19 เมษายน 2567 กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ภาคเหนือ-กลาง อุณหภูมิสูงสุด 42 องศาฯ

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้ เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค

ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และการระบายอากาศในบริเวณดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดี

พยากรณ์อากาศรายภาค

กทม.-ปริมณฑล : อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 28-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคเหนือ : อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น สกลนคร นครพนม และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคกลาง : อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) : อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

Advertisement

ผลตรวจแคดเมียมที่บางซื่อ พบปริมาณสูงเกินเกณฑ์ แต่ไม่พบปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 12 เมษายน 2567 ผลตรวจพื้นที่ กทม. ไม่พบปนเปื้อนแคดเมียมในสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ เผยผลตรวจสอบจากการพบกากแคดเมียมและสังกะสี ที่เขตบางซื่อ พบปริมาณแคดเมียมสูงเกินเกณฑ์เฉพาะจากตัวอย่างดินในโรงงาน แต่ดินนอกโรงงาน แหล่งน้ำใกล้เคียง และไอระเหยในอากาศ ไม่พบปนเปื้อน เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานผลการตรวจสอบกรณีตรวจพบกากแคดเมียมและสังกะสี เก็บไว้ในโรงงาน ถนนประชาราษฎร์ 1 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ ซึ่งดำเนินการร่วมกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โดยพบการกองกากตะกอนแคดเมียมและสังกะสีภายในอาคารโรงงาน ตามการประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 จำนวน 99 ถุง คิดเป็นปริมาณ 150 ตัน กากตะกอนดังกล่าว ถูกยึดไว้เป็นของกลางในการดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน

ทั้งนี้ได้สุ่มเก็บตัวอย่างกากของเสียประกอบด้วย ดินในโรงงาน 2 ตัวอย่างและดินนอกโรงงานในเขตชุมชนช่วงระยะ 50 100 และ 500 เมตร 9 ตัวอย่าง เมื่อตรวจวิเคราะห์ด้วยเครื่องเอกซเรย์ฟลูออเรสเซนต์แบบกระจายพลังงาน (Energy Dispersive X-Ray Fluorescence; EDXRF) พบว่า กากแร่มีปริมาณแคดเมียมสูงกว่าค่า TTLC ซึ่งถือเป็นของเสียอันตราย ดินในโรงงานพบการปนเปื้อนแคดเมียมสูงเกินเกณฑ์การปนเปื้อนในดินในโรงงาน ส่วนดินนอกโรงงานตรวจไม่พบการปนเปื้อนแคดเมียม

สำหรับผลการตรวจวัดไอระเหยสารเคมีในบรรยากาศ 3 จุดได้แก่ บริเวณภายในโรงงาน หน้าโรงงาน และชุมชนห่างจากโรงงาน 250 เมตร ตรวจไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศ

จากการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งบริเวณลำรางภายในอาคาร 2 จุดและเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินบริเวณโดยรอบพื้นที่โรงงาน 3 จุดพบว่าคุณภาพน้ำเบื้องต้นในทั้งสองจุดอยู่ในเกณฑ์ปกติเนื่องจากบริเวณเก็บกากแคดเมียมไม่มีกิจกรรมที่ใช้น้ำในการประกอบกิจการและไม่พบการประกอบกิจการ

ก่อนหน้านี้กรมควบคุมมลพิษได้ร่วมประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหากากแคดเมียม 6 หน่วยงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยมีนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษเป็นผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชุมร่วมกับนายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายแพทย์ยงเจือ เหล่าศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม นายแพทย์สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กระทรวงสาธารณสุข พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พลตำรวจตรี วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.)

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมย้ำในที่ประชุมว่า ทั้ง 6 หน่วยงานจะร่วมกันแนวทางการดำเนินการกากแคดเมียม ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ตลอดตจนจะสื่อสารให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจอย่างถูกต้องว่า กากแคดเมียมที่จังหวัดตาก ได้มาจากการถลุงแร่สังกะสีซึ่งมีส่วนประกอบของแร่ทองแดงและแร่แคดเมียม ในเหมืองแร่ในจังหวัดตากซึ่งปิดตัวลงไปนานแล้วและฝังกลบอยู่ใต้ดินอย่างปลอดภัยในจังหวัดตาก กากแร่แคดเมียมที่พบ มีการปรับเสถียร ผสมกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ซึ่งนิยมใช้แพร่หลายทั่วโลกในงานก่อสร้างเพื่อป้องกันการชะล้างและการฟุ้งกระจายในอากาศ

ขณะนี้ได้เจอกากแคดเมียมแล้ว กว่า 12,500 ตัน ในจังหวัดสมุทราสาคร จังหวัดชลบุรี และเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร โดยจะสืบหากากแคดเมียมในส่วนที่ยังหาไม่พบ

ในการจัดการกับกากแคดเมียมที่พบ ได้มอบหมายกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่วางแผนและวางแนวทาง รวมถึงมาตรการป้องกันความปลอดภัยในการขนย้าย ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง และจัดเตรียมพื้นที่รวมถึงสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัย ทั้งก่อนและหลังขนย้าย โดยมีแนวทางนำกลับไปฝังกลบที่บ่อเดิมในจังหวัดตากซึ่งเป็นบ่อซีเมนต์และปูด้วยพลาสติก High-Density Polyethylene: HDPE เป็นวัสดุพลาสติกที่ผลิตจากการพอลิเมอร์ไรเดอร์ในสภาวะแรงดันสูง หนา 1.5 มิลลิเมตร ตามที่การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment EIA) กำหนด

Advertisement

ทางการเมียนมาเปิดด่านเมียวดีชั่วคราว เร่งระบายรถบรรทุกสินค้าไทยตกค้าง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 12 เมษายน 2567 ตาก – เมียนมา เปิดด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ 2 ชั่วคราว เร่งระบายรถบรรทุกสินค้าจำนวนมากของไทย ด้านเจ้าหน้าที่ทหารไทยดูแลความปลอดภัย และตรวจสอบรถบรรทุกเข้มงวด

ช่วงเช้าที่ผ่านมา ด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ 2 จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา มีคำสั่งเปิดด่านชั่วคราว เพื่อเร่งระบายรถบรรทุกสินค้าจำนวนมากของไทย ที่ตกค้างอยู่ในฝั่งเมียวดี หลังเมื่อวานนี้ มีการปิดด่านแบบฉุกเฉินจากสถานการณ์ความไม่สงบภายในจังหวัดเมียวดี ทันทีที่ประตูด่านเปิด มีขบวนรถบรรทุกสินค้าของไทย ทยอยขับข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 กลับมาฝั่งอำเภอแม่สอด แบบไม่ขาดสาย

ขณะที่บริเวณเชิงสะพานด่านพรมแดนแม่สอด มีเจ้าหน้าที่ทหารดูแลความปลอดภัย และตรวจสอบรถบรรทุกอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมาย

Advertisement

ภาคเหนืออุณหภูมิสูงสุด 38-43 องศา

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 6 เมษายน 2567 กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด ภาคเหนืออุณหภูมิสูงสุด 38-43 องศาฯ เตือนช่วงวันที่ 8-11 เม.ย.67 ไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง อาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย ในขณะที่ลมใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8-11 เม.ย.67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในระยะแรก โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อน

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-43 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนโดยทั่วไปในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

Advertisement

ทั่วไทยร้อนถึงร้อนจัด แนะเลี่ยงอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 เมษายน 2567 กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อน

พยากรณ์อากาศรายภาค

กทม.-ปริมณฑล : อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 28-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคเหนือ : อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคกลาง : อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) : อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา กระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

Advertisement

เตือนทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด-ฝนตกบางแห่ง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 31 มีนาคม 2567 กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน ส่วนอีสานตอนล่าง-ตะวันออก ฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยาเผย ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดในระยะนี้ไว้ด้วย ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อนลง

Advertisement

ราชกิจจาฯผ่อนผันแรงงาน 3 สัญชาติ กลับประเทศร่วมประเพณีสงกรานต์ 67

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 มีนาคม 2567 โฆษก มท. เผย ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยผ่อนผันแรงงาน 3 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา เดินทางกลับประเทศเพื่อร่วมประเพณีสงกรานต์ 67 และเดินทางกลับไทยได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใหม่ เริ่ม 1 เม.ย.-15 พ.ค.

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (29 มี.ค.67) ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งเข้ามาเพื่อทำงานในราชอาณาจักรตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงานหรือได้รับอนุญาตทำงานในเรือประมงและมีหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง หรือได้รับการอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นกรณีพิเศษ สามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ พ.ศ. 2567

โดยสาระสำคัญของประกาศ ได้ผ่อนผันให้กับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติตามกำหนดสามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมประเพณีสงกรานต์และเดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องดำเนินการยื่นคำขออนุญาตอีกในระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-15 พ.ค. 67 แต่หากเดินทางกลับเข้ามาไทยหลังช่วงเวลาที่กำหนด จะถือว่าการอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยของแรงงานต่างด้าวผู้นั้นเป็นอันสิ้นสุดลง หากประสงค์เดินทางเข้าจะต้องยื่นคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-Entry Permit) ตามปกติ

“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้ลงนามในประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ โดยการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 67 หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันนี้ (29 มี.ค.) แล้ว ประกาศจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับประเทศไทยได้มีโอกาสเดินทางกลับบ้านไปร่วมงานประเพณีสงกรานต์ เยี่ยมเยียนครอบครัว รวมทั้งได้ช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับแรงงานต่างด้าวซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ไม่สูงมากนักให้เดินทางได้โดยสะดวก และเป็นการรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า คนต่างด้าว 3 สัญชาติ ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมาที่ได้รับการผ่อนผันตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯนี้ มี 3 กลุ่ม ได้แก่

1.ผู้ซึ่งเข้ามาทำงานในประเทศไทยตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจัดการจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาล สปป.ลาว รัฐบาลเมียนมา ซึ่งถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางซึ่งได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส L-A และระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยยังเหลืออยู่ไม่น้อยกว่าวันที่ 15 พ.ค. 67

2.ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานในเรือประมงและมีหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง ซึ่งถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ซึ่งได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส L-A และระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในไทยยังเหลือไม่น้อยกว่าวันที่ 15 พ.ค. 67

3.ผู้ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยอนุมัติของ ครม. อนุญาตให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยตามมาตรา 17 (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) ที่ผ่านการตรวจสัญชาติและมีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ซึ่งได้รับการการตรวจลงตามประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส L-A รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ได้รับการตรวจลงตราประเภทผู้ติดตามและระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยเหลืออยู่ไม่น้อยกว่าวันที่ 15 พ.ค.67

Advertisement

Verified by ExactMetrics