People Unity News : 12 กันยายน 2566 ที่รัฐสภา – “วราวุธ”  ชี้ กระทรวง พม.จะทำงานเชิงรุกมากขึ้น ยันจะเป็นกำแพงให้ ปชช.ได้พิงหลังยามเกิดปัญหา เตรียมมอบนโยบาย 19 ก.ย.นี้ ขอโทษประชาชนปมเบี้ยสนับสนุนเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีช้า เหตุรอยต่อ ครม.

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนร่วมการประชุมร่วมรัฐสภา ว่า การแถลงนโยบายรัฐบาลเมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) มีสมาชิกพูดถึงเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ คาดว่าในวันนี้จะมีประเด็นเพิ่มเติม ซึ่งจะประมวลข้อสังเกตของสมาชิกอื่น ๆ และขอขอบคุณหลายฝ่ายที่ตั้งแต่แถลงนโยบายได้ติดต่อเข้ามา การทำงานของ พม. ต่อจากนี้จะทำงานเชิงรุกมากยิ่งขึ้น สร้างความตระหนักรู้อีกหลายฝ่ายในสังคม

“ส่วนเรื่องเบี้ยของเด็กแรกเกิดที่เป็นปัญหา ต้องขอกราบอภัยประชาชนกว่า 2 ล้านราย ที่รอรับเบี้ยสนับสนุน 600 บาทต่อเดือน แต่ยังไม่ได้ เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านคณะรัฐมนตรี ทำให้ไม่สามารถอนุมัติงบประมาณดังกล่าวได้ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ไม่มีอำนาจนำวาระมาอนุมัติงบประมาณ พรุ่งนี้จะมีการประชุม ครม. ผมได้ประสานกับสำนักเลขาธิการ ครม. สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง เพื่อที่จะทำให้เงินอยู่ในบัญชีของประชาชนภายในวันที่ 18 ก.ย.นี้” นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวว่า ทุก ๆ เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ จะมีงบประมาณไม่เพียงพอ ซึ่งไม่ได้ให้ไม่ครบ แต่จำนวนของเด็กที่ได้รับการสนับสนุนในแต่ละเดือนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น สำนักงบประมาณจะให้เงินเป็นเลขกลม ๆ หากขาดเหลือเท่าไหร่ จะของบประมาณอีกครั้ง ซึ่งปีนี้ตรงกับช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ทำให้เกิดความล่าช้า และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

ส่วนการมอบนโยบายให้กระทรวง พม.ในสัปดาห์หน้า นายวราวุธ กล่าวว่า มีแนวทางมอบนโยบายให้ข้าราชการในกระทรวงวันอังคารที่ 19 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา พม.มีภารกิจเยอะมาก ทั้งเรื่องเด็กและเยาวชน ทุกเพศ ทุกวัย และทุกสถานะ รวมถึงเคหะที่ดูแลเรื่องที่พักอาศัย ดังนั้น งานที่ผ่านมาเป็นงานที่เข้าถึงประชาชนทุกระดับ แต่บางครั้งต้องตระหนักถึงหน้าที่ของข้าราชการ เพราะประชาชนยังไม่รับรู้เท่าที่ควร

“เราจึงจะทำงานรุกให้มากขึ้น ทั้งการดูแลสวัสดิการประชาชน ให้ได้รับการรับรองในมิติต่าง ๆ การทำงานของ พม.จะเป็นกำแพงให้พี่น้องประชาชน ได้พิงเวลาเจอปัญหา จะเป็นเกราะป้องกันให้ประชาชนในยามเจออันตราย ดังนั้น มิติของ พม.ทั้งในไทยและทั่วโลกจะถูกทำให้มีความหลากหลายมากขึ้น” นายวราวุธ กล่าว

ส่วนกรณีของหยก นายวราวุธ กล่าวว่า จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ทั้งเรื่องการศึกษา และส่วนที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว โดยบริบทการทำงานของ พม. คงไม่ก้าวล่วงในเรื่องการศึกษา แต่เรื่องของครอบครัว เราจะใช้สหวิชาชีพทุกแขนงดูแล ซึ่งไม่ได้เน้นการแก้ไขที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่ต้องป้องกันทั้งระบบ ไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก

Advertisement