People Unity News : 19 พฤษภาคม 2566 ศาลอาญายกฟ้อง “ช่อ พรรณิการ์” โพสต์ข้อความปมพาดพิงสถาบันฯ พร้อมเผยร่างคำพิพากษาอธิบายเหตุหลุดคดี

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความ พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า วันนี้ (19 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.พรรณิการ์ ในความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(2) โดยคดีนี้เจ้าหน้าที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้เเจ้งความร้องทุกข์ไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตั้งเเต่ช่วงปี 2564 กรณีที่น.ส.พรรณิการ์โพสต์ข้อความสมัยเรียนหนังสือที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในช่วง ปี 2556-2557 โดยระบุว่าข้อความดังกล่าวโดยการนำเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบทกวีมีลักษณะพาดพิงสถาบันฯ

สำหรับข้อความที่ 1 ระบุว่าประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปัตย์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นอาวุธ ส่วนข้อความที่สอง เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา ศาลพิเคราะห์ว่า แม้ข้อความที่ 1 จะมีคำว่าพระมหากษัตริย์ แต่เป็นเพียงการเปรียบเทียบโดยเล่นคำ วิญญูชนพึงทราบว่าประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ถือเป็นความเท็จ ส่วนการมีคำว่าพระมหากษัตริย์ อาจทำให้ผู้อ่านมีความรู้สึกไปได้หลายทางตามอัตวิสัยของแต่ละบุคคล แต่การตัดสินคดีความพึงใช้ตัวบทกฎหมาย พิจารณาองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย ไม่สามารถขึ้นอยู่กับทัศนคติหรือความรู้สึกของคนใดคนหนึ่งได้ จึงเห็นว่าข้อความดังกล่าวไม่เข้าข่ายความผิดพ.ร.บ .คอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14 (2)

ทั้งนี้ ร่างคำพิพากษาอธิบายด้วยว่า สำหรับข้อความแรกนั้นเป็นการเปรียบเปรยถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น และข้อความที่สอง เป็นคำทำนายเพลงยาวพยากรณ์ซึ่งสาธารณชนทั่วไปรับรู้อยู่แล้ว มีการเผยแพร่และตีพิมพ์ทั่วไป เมื่อศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามความผิดพ.ร.บ.คอมฯ ที่โจทก์ฟ้อง เนื่องจากข้อความทั้งสองข้อความที่โจทก์ฟ้องมานั้น เมื่อพิจารณาแล้วพบว่า ไม่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมฯ ตามที่โจทก์ฟ้อง เพราะทั้งสองข้อความไม่ได้เป็นกรณีที่จำเลยเจตนาจะนำความเท็จมาเผยแพร่ให้ประชาชนเข้าใจผิด หรือก่อความเสียหายหรือสร้างตื่นตระหนกต่อสังคม

Advertisement