People Unity News : “รบ.”แพ้โหวต! “บิ๊กป้อม”ยันไม่มีปัญหาเป็นสปิริตตัวบุคคล ขณะที่ 3 ส.ส.ปชป. เมินมติวิปรัฐบาล ยันโหวตตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาม.44 เหมือนเดิม

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลแพ้โหวตในการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) เพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศ และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 ว่า เป็นเรื่องของสปิริตของส.ส. ถือเป็นเรื่องของสภา ส่วนต้องกำชับลูกพรรคให้เข้าร่วมประชุมสภาทุกครั้งหรือไม่นั้น วานนี้(วันที่ 27 พ.ย.)มีรัฐมนตรีหลายคนติดภารกิจจึงไม่ได้เข้าร่วมประชุม ส่วนการโหวตก็เป็นเรื่องสปิริต

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคร่วมโหวตสวนทางกับรัฐบาลจนทำให้แพ้โหวต พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า เป็นเรื่องของสปิริตไง จะให้ทำอย่างไร ซึ่งมีการพูดคุยกันก่อนโหวตแล้ว

เมื่อถามว่า จะแก้ปัญหานี้อย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ต้องแก้ เพราะเป็นเรื่องสปิริตของส.ส. และยืนยันไม่มีปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของบุคคล อีกทั้งไม่มีความกังวลถึงการโหวตในครั้งต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องของบุคคล เพราะในส่วนของพรรคการเมือง พูดคุยกันเรียบร้อยดี

เมื่อถามย้ำว่าก่อนการโหวตมีการพูดคุยเข้าใจกันแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เข้าใจ และสื่อก็อย่าถามอะไรมาก ส่วนการที่สภาขอตั้งกรรมาธิการ เพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศ ม.44 สะท้อนถึงอะไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของสภา พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้แสดงความจริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้ส.ว.ปฏิบัติตาม ว่า ตนสนับสนุนอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาทำไม ซึ่งสนับสนุนให้มีการพูดจากัน

เชื่อยืดเวลาแบนสารพิษไม่เป็นชนวนขัดแย้งรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงมติประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ขยายระยะเวลายุติการใช้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส และจำกัดการใช้ไกลโฟเซต จะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ว่า ไม่ขัดแย้งเพราะเป็นเรื่องของคณะกรรมการฯ เชื่อว่าคุยกันได้

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเหมือนเป็นการตอบโต้การทำงานของเจ้าหน้าที่ หรือไม่นั้น ระบุว่า เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ไปดำเนินการแล้วไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนพวกก่อเหตุก็จะหาช่องทางดำเนินการอยู่เรื่อย แต่เราก็ต้องป้องกันซึ่งแม่ทัพภาคที่4 ก็ดำเนินการอยู่แล้ว

สามส.ส.ปชป. เมิน มติวิปรัฐบาล ยันโหวตตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาม.44 เหมือนเดิม

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง หนึ่งในหกส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่โหวตให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคสช.และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 ยืนยันว่า แม้จะให้มีการลงคะแนนใหม่ตนก็จะลงคะแนนเหมือนเดิม เนื่องจากเป็นผู้เสนอญัตติคล้ายคลังกับของฝ่ายค้าน เพียงแต่ของตนรวมถึงคำสั่งคณะปฏิวัติอื่นด้วย ซึ่งตนได้แจ้งกับผู้ที่รับผิดชอบมานานแล้วว่าจะลงมติให้ตั้งกรรมาธิการฯ และอยากให้สังคมเข้าใจด้วยว่าเรื่องนี้ไม่เรื่องของรัฐบาลหรือฝ่ายค้านแต่เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎรที่มีหน้าที่ศึกษาความไม่สอดคล้องของกฎหมายเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุง

“ถ้าไปคิดว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลกลัวเสียหน้าจะทำให้เรื่องยุ่งยากมากขึ้น ที่ผ่านมาวิปรัฐบาลก็ไม่ชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมไม่อยากให้ตั้งกรรมาธิการฯและถ้าไม่ตั้งจะมีวิธีการศึกษาทบทวนเรื่องเหล่านี้อย่างไร ผมจึงคิดว่าการตั้งกรรมาธิการวิสามัญของสภาเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ไม่ใช่เรื่องว่าเราปันใจไปให้ฝ่ายค้าน ในทางตรงกันข้ามฝ่ายค้านก็โหวตสนับสนุนญัตติของผมเหมือนกัน ผมยืนยันจะโหวตให้ตั้งกรรมาธิการฯเพราะผมก็ต้องรับผิดชอบต่อญัตติที่ตัวเองเสนอต่อสภาด้วย” นายสาทิตย์กล่าว

ด้านนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ สส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคนที่โหวตให้ตั้งกรรมาธิการฯชุดนี้ กล่าวเช่นเดียวกันว่า จะไม่มีการโหวตแตกต่างไปจากเดิม เพราะถ้าทำเช่นนั้นก็คงให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้ เนื่องจากต้องรับผิดชอบต่อการลงคะแนนของตัวเอง ซึ่งคิดรอบคอบแล้วเห็นว่าการตั้งกรรมาธิการฯจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน เนื่องจากจะได้มีการทบทวนคำสั่งปฏิวัติทั้งหมดไม่ใช่เฉพาะคำสั่งของคสช.เท่านั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น

“ผมเชื่อว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นคุณต่อสภา เราโหวตไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราทำ ผมไม่สามารถขานชื่อลงคะแนนแตกต่างไปจากเดิมได้ หวังว่าพรรคจะเข้าใจเพราะญัตตินี้สส.ของพรรคก็เสนอด้วย เราต้องแยกเรื่องการเมืองออกจากงานสภา เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด” นายพนิต กล่าว

ส่วนนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก ก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่าจะโหวตเหมือนเดิม โดยระบุว่าได้แจ้งกับผู้ที่เกี่ยวข้องไปสองสัปดาห์แล้วว่าจะลงคะแนนแบบนี้ เพราะต้องสนับสนุนญัตติของนายสาทิตย์ ไม่มีวาระซ่อนเร้นทางการเมืองใด ๆ แอบแฝงทั้งสิ้น และไม่เข้าใจว่าทำไมวิปรัฐบาลจึงอาการหนักขนาดนี้ เพราะการตั้งกรรมาธิการฯก็เพียงแค่ศึกษาให้ทุกภาคส่นได้เข้ามามีส่วนร่วมพิจารณาเพื่อรายงานต่อสภาและเสนอรัฐบาลเท่านั้น

“ผมว่ามันคงทะแม่ง ๆ ถ้าผมไม่โหวตสนับสนุนญัตติของนายสาทิตย์ ในการลงคะแนนครั้งใหม่ผมก็ยังยืนยันที่จะโหวตเหมือนเดิมโดยไม่เป็นห่วงว่าจะเกิดปัญหาในพรรค คิดว่าพรรคจะเข้าใจเหตุผล” นายชัยวุฒิ กล่าว

“อนุสรณ์”ท้าพลังประชารัฐเอาป้ายหาเสียงแบบเดิมมาใช้เลือกตั้งซ่อมเขต 7 ขอนแก่น

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ชัดเจนว่าเป็นการวัดศรัทธาประชาชนระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายสืบทอดอำนาจ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐบาลรัฐประหารมา 5 ปี ไม่มีอะไรดีขึ้น มาเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งต่อก็ไม่มีอะไรใหม่ พี่น้องประชาชนสัมผัสได้ว่า เศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่อย่างไร สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ หนี้ครัวเรือนสูง ความเหลื่อมล้ำมาก ค่าครองชีพแพง ค่าแรงถูก คนตกงานกว่า 5 แสนคน แม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนรัฐบาล แต่หนึ่งคะแนนของพี่น้องประชาชนในจังหวัดขอนแก่นจากการเลือกตั้งในครั้งนี้ สามารถกระตุกเตือนรัฐบาลได้ว่า ประชาชนรู้สึกอย่างไรกับรัฐบาล หลายนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐ เคยหาเสียงไว้ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อมาเป็นรัฐบาลกลับไม่ดำเนินการ แล้วสร้างเงื่อนไขเพื่อจะไม่ทำ กลายเป็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลขนาดกลางยังพยายามจะผลักดันนโยบายมากกว่า จึงแปลกใจว่าพรรคพลังประชารัฐไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้

“ถ้าพรรคพลังประชารัฐมั่นใจ ช่วยเอาป้ายหาเสียงเมื่อครั้งเลือกตั้งทั่วไปที่เป็นสัญญาประชาคมว่าจะทำนโยบายใดบ้าง มาขึ้นป้ายหาเสียงใหม่อีกรอบ ซึ่งคงไม่กล้า เพราะขนาดจะเอาไปประกอบการอภิปรายในสภา ป้ายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐยังกลายเป็นสิ่งต้องห้าม” นายอนุสรณ์ กล่าว