People Unity : “อุตตม”ชง ครม.ไฟเขียว”ชิมช็อปใช้”เฟส 2 พ่วงช่วยดูแลภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัดหารือททท.ลดภาษีนำเข้าแบรนด์เนม

เมื่อเวลา 08.20 น.วันที่ 22 ต.ค.2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ตนจะเสนอให้ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบใน 2 ประเด็น คือ 1.โครงการชิมช็อปใช้ เฟส 2 และ 2.มาตราการในการช่วยดูแลภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นตอนต่อในการดูแลเศรษฐกิจในในภาวะที่เศรษฐกิจภายนอกไม่ดี ส่งผลต่อรายได้ ทำให้เราต้องดูแลตัวเอง ทั้งนี้โครงการในเฟสที่ 2 จะไม่เหมือนเฟสแรก และหาก ครม.เห็นชอบก็จะดำเนินการได้

ช่วงบ่ายวันนี้จะมีการแถลงข่าวที่กระทรวงการคลังรูปแบบในเฟสที่ 2 เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ส่วนกรณีที่มีปัญหาห้างร้านที่มีการรับบาร์โค้ดมาหักหัวคิวนั้น เราได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว และพบว่าเป็นส่วนน้อย พร้อมได้เตือนไปแล้วว่าอย่าทำแบบนี้เพราะไม่ตรงกับเจตนารมณ์ ซึ่งหากขัดกฎหมายก็จะต้องดำเนินการ โดยทางกระทรวงมีคณะกรรมการประเมินผลการทำงาน มีปลัดกระทรวงเป็นประธานในการดำเนินการตรวจสอบต่อไป ซึ่งหากมีใครกระทำผิดก็ต้องดูเป็นรายกรณีไป

ปัดหารือททท.ลดภาษีนำเข้าแบรนด์เนม

นายอุตตม เปิดเผยถึงกรณีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมจาก 30% เหลือ 5% ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว และยังไม่มีหนังสือข้อเสนอให้ปรับลดภาษีสินค้าแบรนด์เนม รวมทั้งยังไม่มีเคยมีการหารือกับทาง ททท.แต่อย่างใด ดังนั้นจึงยังขอรอดูในรายละเอียดก่อนว่าเป็นอย่างไร ถึงจะสามารถบอกได้ว่าควรจะมีการปรับลดภาษีดังกล่าวหรือไม่

“ยังไม่มีหนังสือส่งมาถึง เลยยังบอกอะไรไม่ได้ ทุกอย่างต้องขอรอดูก่อน รอข้อเสนอก่อน ขอเวลาพิจารณาก่อน แล้วค่อยมาว่ากันว่ากระทรวงการคลังจะเอายังไง” นายอุตตม กล่าว

ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า นายอุตตม ยังไม่ได้สั่งการให้สศค.ศึกษาเรื่องดังกล่าว แต่หากต้องมีการศึกษาเพื่อเสนอแนวทางการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจริง ก็จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากในทางภาษีสินค้าที่นำเข้าทุกประเภทไม่ได้ระบุว่ายี่ห้อใดหรือแบบใดเป็นสินค้าแบรนด์เนม ดังนั้นจะต้องดูความเหมาะสมหากต้องปรับลด ว่าจะกระทบกับผู้ประกอบการในไทยหรือไม่ด้วย

“ที่ผ่านมาก็เคยมีการเสนอแบบนี้มาแล้ว แต่ทำได้ยาก เพราะผลกระทบที่มีต่อผู้ประกอบการไทยก็มีเช่นกัน เช่น เครื่องหนัง ไม่ได้มีการระบุว่ายี่ห้อใดหรือประเภทใดเป็นสินค้าแบรนด์เนม ดังนั้นหากจะลดภาษีจาก 30% เหลือ 5% ก็จะต้องลดทั้งหมด ซึ่งมันจะเหมาะสมหรือไม่ ก็ต้องดูด้วย จะขอลดเลยอย่างเดียวไม่ได้”นายลวรณ กล่าว

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.ระบุว่า ได้หารือกับกระทรวงการคลังถึงกรณีการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งหากปรับลดได้ จะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวให้สูงขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยในช่วงปีใหม่ และตรุษจีนในปีหน้า