พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 17 มิถุนายน 2568 “สรวงศ์” เผย ครม.เห็นชอบเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด F1 วงเงิน 41,339 ล้านบาท ตลอด 5 ปี ตั้งแต่ 2571-2575 โดยจะมีการแข่ง 3 วัน คือ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ของเดือน มี.ค. หรือ ก.ย. พร้อมตั้งคณะกรรมการศึกษารายละเอียด สำนักเลขานายกฯ ติงเป็นวงเงินที่ค่อนข้างสูง และอาจส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินของประเทศในอนาคต ขณะที่รายได้ที่หามาไม่คุ้มเงินที่ลงทุน

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบนโยบายการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง Fomula หรือ F1 แล้ว และหลังจากนี้ ซึ่งตามข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2571 กรอบวงเงินกว่า 40,000 ล้านบาท จะใช้งบเป็นรายปี และต้องเสนอเข้ามาให้ ครม.พิจารณาทุกปี ดังนั้น วันนี้ที่ประชุมจึงได้พิจารณากรอบการดำเนินโครงการเพื่อไปศึกษาโดยละเอียดต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะทำงานประมูลสิทธิ์ และมีองค์ประกอบเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และอธิบดีที่เกี่ยวข้องในกระทรวงคมนาคม และอื่นๆ พร้อมยืนยันว่า ระยะเวลาในการศึกษาโครงการที่มีจนถึงปี 2571 เพียงพอ เพราะขณะนี้ได้มีการออกแบบไว้คร่าวๆ แล้ว และเบื้องต้นมีแบบออกมาบ้างแล้ว โดยทำงานร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ของ สปน. รวมถึงบริษัท F1 แล้ว

ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอการเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ FIA FORMULA ONE WORLD CHAMPIONSHIP ในประเทศไทย ประจำปี 2571-2575 รวม 5 ปี ภายในกรอบวงเงิน 41,339.67 ล้านบาท รวมถึงงบประมาณที่จำเป็นเร่งด่วนในส่วนของค่าออกแบบ 218.07 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะขอรับจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป และจะมีการขอรับการสนับสนุนจากภาคเอกชน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ แต่หากไม่เพียงพอ สามารถตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและมีเงินคงเหลือ ให้นำส่งและคืนเงินตามกฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขัน จะช่วยสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจและเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ รวมทั้งส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการเป็นศูนย์กลางในการแข่งขันกีฬาชั้นนำของโลก และ World Class Event Hub ตลอดจนช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเสริมสร้างประสบการณ์ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับกีฬายานยนต์ โดยระยะเวลาการแข่งขันจะใช้เวลา 3 วันต่อปี ตรงกับวันศุกร์-อาทิตย์ ของเดือนมีนาคม หรือเดือนกันยายน ของปี 2571-2575

สำหรับพื้นที่ที่จะใช้ในการจัดการแข่งขัน คือ บริเวณจตุจักร ประกอบด้วย 8 พื้นที่หลัก เนื่องจากมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และมีพื้นที่สำหรับแฟนกีฬาไม่ได้เป็นญาติที่พักอาศัยหลัก ทำให้มีผลกระทบต่อชุมชนและการจราจรน้อย ได้แก่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีขนาดพื้นที่ 838 ไร่ สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีขนาดพื้นที่ 109 ไร่ ตลาดนัดสวนจตุจักร 241 ไร่ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 207 ไร่ สวนจตุจักร 163 ไร่ สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ 418 ไร่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 45 ไร่ และการรถไฟแห่งประเทศไทย 146 ไร่ โดยจะมีพื้นที่ Grandstand เป็นที่นั่งบนอัฒจันทร์ที่จัดเตรียมไว้สำหรับผู้ชมทั่วไปชมการแข่งขันกระจายตามจุดต่างๆ ของจำนวน 93,500 ที่นั่ง และพื้นที่ Paddock Club เป็นพื้นที่ VIP ตั้งอยู่บน Pit Lane 4,000 ที่นั่ง และพื้นที่ VIP Hospitality เป็นพื้นที่โซนวีไอพี โดยเป็นที่นั่งบนอัฒจันทร์ Grandstand ในตำแหน่งพิเศษ

“เส้นทางสนามที่เสนอให้มีการแข่งขัน มีระยะทาง 5.732 กิโลเมตร โดยมีจำนวนโค้งทั้งหมด 18 จุด และช่องทางตรงที่ยาวที่สุดถึง 1.2 กิโลเมตร อัฒจันทร์ที่กระจายตัวตามจุดต่างๆ รอบสนาม รองรับผู้ชมได้สูงสุดถึง 108,200 คน”

ขณะที่ผลการศึกษาได้ประมาณการรายได้จากการเป็นเจ้าภาพ ทั้งจากการจำหน่ายตั๋ว จากผู้สนับสนุน จากการขายของที่ระลึก อาหาร เครื่องดื่ม รายได้จากการจัดคอนเสิร์ต จากค่าเช่าพื้นที่ และค่าคอมมิชชั่นจากโรงแรมที่พัก รวม 5 ปี อยู่ที่ 27,276.77 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณปีละกว่า 5,000 ล้านบาท

สำหรับผลคาดการณ์จำนวนผู้ร่วมงานฟอร์มูล่าวันในประเทศไทย ในกรณีมีการจัดงานในปี 2571 พิจารณาสัดส่วนจากผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศและท่องเที่ยวต่างประเทศของ 21 ประเทศเจ้าภาพ พบว่ามีความเป็นไปได้ในระดับสูงที่จะมีผู้เข้าร่วมงานในไทยที่ค่าเฉลี่ยจำนวน 407,132 คน 81,918 คน และสูงสุด 314,508 คน และเป็นผู้ร่วมงานจากต่างประเทศ 92,622 คน

ด้านผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในช่วงปี 2571-2575 ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร บริการขนส่ง ทำให้เงินสะพัดทางเศรษฐกิจระหว่างการจัดการแข่งขันอยู่ที่ 16,000 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 14,000 ล้านบาทต่อปี ช่วยสร้างรายได้จากการจัดเก็บภาษีของภาครัฐ 1,400 ล้านบาทต่อปี เกิดการลงทุนใหม่ประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อปี และสร้างงานใหม่ให้ประเทศไทย 8,000 ตำแหน่งต่อปี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะแสดงความเห็นถึงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน Formula 1 ในไทย ภายในกรอบวงเงิน 41,779.67 ล้านบาท เป็นวงเงินที่ค่อนข้างสูงและอาจส่งผลผลกระทบต่อสถานะการเงินของประเทศในอนาคตได้ โดยเฉพาะในบริบทที่ภาครัฐมีงบจำกัด และมีภาระทางการคลังจากภารกิจจำเป็นอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไป แม้ผลการศึกษาความเหมาะสมจะแสดงให้เห็นว่า การลงทุนโดยภาครัฐทั้งหมดมีข้อดีบางประการ แต่ก็มีข้อเสียที่สำคัญ โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านการขาดทุนที่ตกอยู่กับภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว หากการเป็นเจ้าภาพดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย อาจก่อให้เกิดภาระทางการคลังอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ผลการศึกษาเห็นว่า ไม่สามารถสร้างรายได้จากการจัดงานรวมมากกว่างบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดงานและการลงทุน จึงเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้ให้ครบถ้วนและครอบคลุมผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะแนวทางในการเพิ่มรายได้และลดภาระงบประมาณภาครัฐ

Advertisement