People Unity News : 18 กุมภาพันธ์ 2566 โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกให้ประชาชน พร้อมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ล่าสุด ก.คมนาคม เปิดเส้นทางบริการรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่ม 2 สายใน กทม. ตั้งเป้าในปี 2566 ขยายรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 1,850 คัน ใน 45 เส้นทาง

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบการเปิดให้บริการเดินรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพิ่ม 2 สาย ได้แก่ สาย 38 มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 48 มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา-ท่าช้าง ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ภายใต้แนวคิด “Thai Smile Change For The Better” เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า อำนวยความสะดวกให้ประชาชนพร้อมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในปี 2565 ภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมมือจัดสรรให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าแก่ประชาชนกว่า 1,250 คัน ใน 77 เส้นทาง เพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน และในปี 2566 กระทรวงคมนาคมได้ตั้งเป้าหมายให้มีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 1,850 คัน เพื่อขยายผลบริการรถโดยสารสาธารณะที่มีคุณภาพ โดยภาคเอกชนมีการพัฒนาคุณภาพบริการรถโดยสารเอกชนจากรถที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ในอีก 45 เส้นทาง ตั้งเป้าภายในปี 2566 จะมีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการถึง 3,100 คัน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ผลักดันนโยบายเพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ สะดวก สะอาด ประหยัด ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ได้ดำเนินการปฏิรูปเส้นทางเดินรถให้ประชาชนเดินทางได้สะดวก โดยเน้นการเชื่อมต่อกับทางเดินในรูปแบบอื่นอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงปรับปรุง แก้ไข กฎระเบียบ เพื่อสนับสนุนให้เอกชนเริ่มใช้รถโดยสารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างความรู้กับภาคเอกชนในการพัฒนาปรับปรุงรูปแบบการให้บริการขนส่งสาธารณะที่ดี และขอความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะที่ราคาประหยัด และช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนอีกด้วย นอกจากนี้ ทางบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ได้จัดทำรูปแบบการชำระค่าโดยสารราคาพิเศษผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตร HOP CARD) เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมและขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่มุ้งเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ พัฒนาบริการที่ดีแก่ประชาชน และให้ความสำคัญต่อนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มประสิทธิภาพรถโดยสารสาธารณะเพื่อให้บริการประชาชน และสนับสนุนให้ผู้คนที่เดินทางมาใช้บริการขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ สะดวก สะอาด ปลอดภัย ในราคาที่ประหยัด และช่วยการแก้ปัญหามลพิษ PM 2.5 รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และการจราจรของกรุงเทพฯ ” นายอนุชา กล่าว

Advertisement