People Unity News : ขอกลับไปอยู่กับประชาชน! “ธนาธร” แถลงลาออก กมธ.งบฯ – เดินหน้ารณรงค์ ร่าง พ.ร.บ. สำคัญ – พบปะรับฟังปัญหา ปชช. – ลั่นเพื่อเปลี่ยนอนาคต ปท.ให้คนเท่าเทียม – หยุดอภิสิทธิ์ชนกินรวบ

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 ที่รัฐสภา (เกียกกาย) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวลาออกจากการเป็น กรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 โดยระบุว่า จากความผันผวนทางการเมืองช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตัดสินใจลาออกจากการทำหน้าที่ กมธ. แต่อย่างไรก็ตาม การทำงานของพรรคอนาคตใหม่ในสภาผู้แทนราษฎร ยังคงมี อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้นำ ซึ่ง อ.ปิยบุตร เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เป็นนักกฎหมาย ทำหน้าที่ในสภา ได้อย่างมีพลังสร้างสรรค์ ส่วนตน ตัดสินใจลาออกเพื่อกลับไปอยู่กับประชาชน ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการเห็นตนอยู่ในสภา ตนก็ไม่อยู่ในสภา ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการเห็นตนในสภา ก็จะกลับไปอยู่กับประชาชน โดยเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อพี่น้องประชาชน ลุกขึ้นยืนตรง ไม่ยอมก้มหัวให้กับระบอบเผด็จการ ไม่ยอมทนกับระบอบที่กดหัวประชาชนไว้อีกต่อไป ดังนั้น จำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชน

“สิ่งที่กลุ่มอภิสิทธิ์ชนกำลังทำอยู่กับสังคมไทยในเวลานี้คือ การรวบอำนาจเข้าสู่ตัวเอง เอาผลประโยชน์ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เข้าสู่กลุ่มตัวเองและพวกพ้อง ด้วยการใช้กลไกเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ สมาชิกวุฒิสภา องค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญ ที่พวกเขาแต่งตั้งมาเอง นั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ คือการรวบอำนาจกลับอยู่ที่กลุ่มอภิสิทธิ์ชนคนส่วนน้อยของประเทศ แต่สิ่งที่พวกเราจะทำ คือการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้อนาคตของประเทศไทย เป็นอนาคตที่ทุกคนเท่าเทียมกัน อนาคตที่ดอกผลการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ กระจายไปสู่ทุกคนอย่างเท่าเทียม ซึ่งพวกเขาไม่ต้องการเห็นสิ่งนี้ พวกเขาจึงต้องการทำลายเรา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนจะเห็นความตั้งใจของเรา เห็นความพยายามของเราที่อยากจะนำความเปลี่ยนแปลงที่ดีสู่สังคมไทย และย้ำอีกครั้งว่า ในเมื่อพวกเขาไม่อยากให้ผมทำงานในสภาผู้แทนราษฎร ผมก็จะไม่อยู่ในสภา ผมก็จะกลับไปอยู่กับประชาชน” นายธนาธร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีแรงกดดันในการทำงาน กมธ. หรือไม่ รวมถึงถ้าเสนอชื่อนายธนาธรเป็น กมธ.ชุดอื่นในอนาคตจะว่าอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีแรงกดดันในการทำงานแต่อย่างใด บรรยากาศการทำงานราบรื่น เราทำงานอย่างมุ่งมั่นแข็งขัน ไม่เกี่ยวการทำงานร่วมกับเพื่อนกรรมาธิการ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ กมธ. เป็นการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของสภา ดังนั้น เมื่อความเป็น ส.ส.ของตนโดนตัด แม้ว่าความเป็น กมธ. จะไม่โดนตัด แต่พวกเขาไม่ต้องการให้อยู่ตรงนี้ ตนก็ไม่อยู่ ส่วนในอนาคตถ้ามีการเสนอชื่อเป็น กมธ.ชุดอื่นๆ นั้น ต้องดูเป็นกรณีไป กรณีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ก็อาจมีความจำเป็น แต่ถ้าไม่ ก็คงขอทำงานข้างนอกดีกว่า

“ในการทำงานการเมือง เราไม่ได้ตั้งพรรคเพราะอยากมียศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่ได้ตั้งพรรคเพราะอยากเป็น ส.ส. หรือเป็นรัฐมนตรี เหล่านี้ไม่ได้มีความหมาย เราตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อนำความเปลี่ยนแปลง นำสิ่งที่ดีกว่าสู่ประชาชนคนไทย การเป็น ส.ส. หรือไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่ได้หยุดยั้งผมและพรรคอนาคตใหม่ในการก้าวเดินไปข้างหน้าได้ แม้ไม่ได้เข้าสภา ผมยังเชื่อว่า ยังทำประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้ ออกไปพบปะ ทำความเข้าใจถึงปัญหาของเขา มีปัญหาอะไร ผมก็นำปัญหา นำข้อเสนอนั้นส่งต่อให้กับ ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ที่อยู่ในสภาเพื่อจะแก้ไขได้ และผมยังได้ใช้โอกาสที่ไม่ได้อยู่ในสภานี้ ร่วมรณรงค์ ร่วมทำงานทางความคิดกับพี่น้องประชาชน ให้เข้าใจปัญหาเชิงระบบ ปัญหาเชิงโครงสร้าง ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นเครื่องมือของอภิสิทธิ์ชนอย่างไร ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้กดขี่ประชาชนอย่างไร โดยจะเดินทางไปรณรงค์ ร่าง พ.ร.บ. ต่างๆ ที่พรรคเสนอเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว และต้องการการสนับสนุนจากประชาชน ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.รับราชการทหาร, พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิแรงงาน, พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. เหล่านี้เชื่อว่า จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน” นายธนาธร กล่าว