People Unity News : กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย รณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม 2562 และเทิดพระเกียรติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในฐานะทูตสันถวไมตรีของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ “รวมพลังชุมชนยุติเอดส์” สร้างการมีส่วนร่วมในการป้องกัน ลดการรังเกียจกีดกัน และเลือกปฏิบัติ มีเป้าหมาย “ไม่ติด-ไม่ตาย-ไม่ตีตรา” “รมว.พม.” รับหนังสือ “ตัวแทนเครือข่ายสตรี” ย้ำไม่สนับสนุนความรุนแรงในครอบครัว พร้อมหนุนสิทธิสตรีทุกด้าน

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการเนื่องในวันเอดส์โลก และเป็นโอกาสเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในฐานะทูตสันถวไมตรีของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ในการป้องกัน เอชไอวีในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (UNAIDS Goodwill Ambassador for HIV Prevention for Asia and the Pacific) ภายใต้แนวคิด “Communities make the difference รวมพลังชุมชนยุติเอดส์” ให้ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการยุติปัญหาเอดส์ สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย “ไม่ติด-ไม่ตาย-ไม่ตีตรา” โดยมี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้การต้อนรับ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์อย่างมุ่งมั่นที่จะยุติปัญหาเอดส์ (Ending AIDS) ภายใน 10 ปี โดยเน้นให้ชุมชนทั้งภาครัฐและ ภาคประชาสังคม มีส่วนร่วมสร้างความตระหนักและความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ภาคประชาสังคมร่วมจัดบริการ ให้เข้าถึงกลุ่มผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงได้รับการตรวจเอชไอวี ส่งเสริมการป้องกันและดูแลรักษา เชื่อมต่อกับสถานบริการภาครัฐ เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ ได้รับการดูแลแบบองค์รวม ยึดผู้รับบริการเป็นศูนย์กลางและคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน สู่เป้าหมาย “ไม่ติด-ไม่ตาย-ไม่ตีตรา” คือ ลดจำนวน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้เหลือปีละไม่เกิน 1,000 ราย ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวีเหลือปีละไม่เกิน 4,000 ราย ลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติ อันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศภาวะลงจากเดิมร้อยละ 90 นำไปสู่การยุติปัญหาเอดส์ของประเทศไทยภายในปี 2573

ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) ในปี 2561 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกสะสม 37.9 ล้านคน เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 1.7 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ 770,000 คน ส่วนประเทศไทยคาดประมาณปี 2562 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ประมาณ 5,500 คน เฉลี่ยวันละ 15 คน มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีชีวิตอยู่ทั้งหมดประมาณ 467,600 คน ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2561 พบว่า มีผู้ติดเชื้อได้รับการวินิจฉัยและรู้สถานะการติดเชื้อฯ ตนเอง ร้อยละ 94 แต่มีผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเพียงร้อยละ 79 ของผู้ติดเชื้อฯ ที่ได้รับการวินิจฉัยและในจำนวนของผู้ที่กำลังรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส สามารถกดไวรัสในกระแสเลือดได้สำเร็จ ร้อยละ 97

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค และศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เชิญชวนหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์วันเอดส์โลกพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 และติดโบว์แดง เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ถึงการสนับสนุนการร่วมใจกันของทุกภาคส่วนในสังคม “รวมพลังชุมชนยุติเอดส์” สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

“รมว.พม.”รับหนังสือ”ตัวแทนเครือข่ายสตรี”ย้ำไม่สนับสนุนความรุนแรงในครอบครัว

ที่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนเครือข่ายสตรี ประมาณ 50 คน เดินทางมายื่นข้อเสนอต่อนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อสตรีเพื่อนำไปพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ดังนี้ 1.ขอให้ไม่ขยายเวลาให้สถานบริการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2.เรียกร้องให้กระทรวงศึกษาจัดหลักสูตรทักษะชีวิต เรื่อง เพศ และครอบครัว 3.ขอให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อสอบสวนประเด็นเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว 4.ขอให้ตำรวจ 191 เข้าระงับเหตุทันทีเมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับแม่และเด็ก 5.สิทธิการครอบครองที่ดินของสตรี 6.สิทธิการฝากครรภ์และการคลอดฟรีทุกโรงพยาบาล 7.ให้มีหน่วยงานการติดตามการค้ามนุษย์ขึ้นโดยตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี

โดย นายจุติ กล่าวภายหลังการรับหนังสือ ว่า หลายเรื่องรัฐบาลได้ทำอยู่แล้ว เช่น การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ทางกระทรวงพม. โดยการนำของนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ตำรวจช่วยเพิ่มการบรรจุพนักงานสอบสวนหญิง ส่วนเรื่องการละเมิดสิทธิทั้งชายและหญิงสิ่งที่สำคัญคือการให้ความเป็นธรรมต่อกัน เรามีอาสาสมัครและองค์กรภาคประชาชนจำนวนมากที่ทางกระทรวงพม.ร่วมทำงานด้วย เราไม่เคยสนับสนุนความรุนแรงในครอบครัว ไม่สนับสนุนในเรื่องการทำผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์

“ผมเคารพสิทธิของสตรี ฉะนั้นสิทธิที่มีควรจะเท่าเทียมกัน ในทางกฎหมายและทุกมิติของสังคม ที่ท่านนำเสนอมาทั้งหมดเราจะทำร่วมกับท่านและองค์กรสตรีอื่น ๆ เพื่อให้ผู้หญิงเกิดความเข้มแข็ง ผมเชื่อว่าถ้าเติมพลังผู้หญิงให้เต็มที่แล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้นมากกว่านี้ ผมพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว ผมขอเชิญชวนทุกองค์กรมาช่วยกันกับกระทรวงพม. เพื่อรักษาสิทธิ คุ้มครองสิทธิ ส่งเสริมผู้หญิงให้เข้มแข็งต่อไป” นายจุติ กล่าว