People Unity News : ภาครัฐจับมือเอกชนกว่า 40 หน่วยงาน ร่วมเปิดโครงการ Digital Tourism Platform เน้นการสร้าง Platform การท่องเที่ยวแห่งชาติ
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมงานแถลงข่าวโครงการ “Digital Tourism Platform ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนกว่า 40 หน่วยงาน โดยนายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันดิจิทัลมีความสำคัญและเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนไทยมากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะกับภาคธุรกิจแล้ว ถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากไม่มีการปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้ว ธุรกิจอาจจะดำเนินไปด้วยความยากลำบาก จนอาจถึงขั้นต้องยุติการดำเนินงาน

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่าภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก แต่ภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นเครื่องจักรสำคัญที่ช่วยประคองภาวะเศรษฐกิจของไทย ไม่ให้ชะลอตัวลงไปมากนัก ดังนั้น หากเราสามารถดึงดูดเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น เชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศจะยังคงเดินหน้าและเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้

“อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีความเกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วน หากมีการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว จะทำให้การท่องเที่ยวขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กระทรวงฯ เห็นว่า เครื่องมือดิจิทัลจะเป็นแนวทางหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาการท่องเที่ยวให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนจึงพร้อมให้การสนับสนุนภาคเอกชนผลักดันโครงการความร่วมมือนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย    ในฐานะประธานคณะทำงานโครงการ “Digital Tourism Platform” กล่าวว่า โครงการ Digital Tourism Platform เป็นการสร้าง Platform การท่องเที่ยวแห่งชาติ ภายใต้ชื่อ Application TAGTHAi (ทักทาย)        ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนกว่า 40 หน่วยงาน ที่มีการลงนามความร่วมมือกัน โดยดำเนินการผ่านบริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ทั้งนี้ Platform กลางดังกล่าว จะเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลการท่องเที่ยว สินค้าและบริการของผู้ประกอบการในตลอดทั้ง Value Chain ด้านการท่องเที่ยว ยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบครบวงจร ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล    มาเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจของประเทศไทยให้มีช่องทางดิจิทัลในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลายขึ้น ซึ่งโดยรวมแล้ว  จะเกิดประโยชน์ในด้านการกระจายรายได้ และการลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งตอบรับกับยุทธศาสตร์ชาติในด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันด้วยเช่นกัน