People Unity News : “จุรินทร์”มั่นใจ! ใช้แผนก.พาณิชย์รุก 10 ตลาดทั่วโลก รับมือตัด GSP เผย ครม.ศก.มอบ 3 กระทรวงเร่งหารือรับมือ

วันที่ 29 ตุลาคม 2562 ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ กรณีการตัดสิทธิทางภาษีหรือ GSP Generalized System of Preferences (ระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร)ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือและได้รายงานระบุว่าจะมีผลกระทบประมาณ 1,500 ล้านบาท ถึง 1,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตามก็ยังมีช่องทางให้สหรัฐได้ทบทวนโดยช่องทางที่จะทบทวนนั้นได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ ได้ประสานกับทูตไทยประจำกรุงวอชิงตันและทูตแรงงานด้วย เพื่อที่จะหารือกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ หรือ USTR ซึ่งคงจะมีคำตอบกลับมาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปในเร็วๆนี้

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันนี้ มอบหมายให้ 3 กระทรวงได้หารือร่วมกันประกอบด้วย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหาลู่ทางในการยื่นขอให้สหรัฐทบทวน สำหรับทางออกในระยะยาวนั้น กระทรวงพาณิชย์เราก็ได้เตรียมการมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยตั้ง กรอ.พาณิชย์ (กรรมการร่วมกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน) ทั้งสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมผู้ส่งออกสินค้าออกทางเรือ ได้มีการเตรียมการสำหรับตลาดต่างๆทั่วโลกเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกซึ่งได้ข้อสรุปแล้วว่าเราจะร่วมมือกันจัดกับภาคเอกชน เร่งรัดการส่งออก บุกตลาดใน 10 กลุ่มตลาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันนั้นจะมีสหรัฐอเมริกา รวมอยู่ด้วยและมีจีน อินเดีย แอฟริกาใต้ เอเชียใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น เกาหลี และอีกหลายตลาดรวมทั้งประเทศตุรกี เยอรมันในสหภาพยุโรป และอังกฤษด้วย

เตรียมแผนงานไว้แล้ว เร็วๆนี้จะนำทีมเอกชนและกระทรวงพาณิชย์ไปบุกตลาดที่ประเทศตุรกีและเยอรมัน และหลังจากนั้นคือ ตะวันออกกลางสำหรับประเทศที่มีประชากรมาก เช่น อินเดีย จีน สหรัฐ จะลงลึกไปในหลายมณฑล หรือรายรัฐ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา เราจะมีแผนงานเจาะลึกรายรับเพราะ แต่ละรัฐจะมีความต้องการสินค้าแตกต่างกันมีศักยภาพที่เป็น ตลาดนำเข้าสินค้า ของเราได้มากขึ้น แม้ว่าเราจะไม่ได้ GSP (ในประเทศเหล่านี้)ก็ตามเป็นสิ่งที่เราจะดำเนินการ ทั้งดำเนินการมาแล้วและจะดำเนินเดินหน้าต่อไป

ต่อคำถามที่ว่ามั่นใจขนาดไหนว่าเราจะต่อรองกับสหรัฐอเมริกาได้นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราพยายามจะให้เขาเกิดความเข้าใจว่าบางเรื่องเราทำได้บางเรื่องทำไม่ได้ เช่น ให้ต่างด้าวตั้งสมาพันธ์แรงงานในประเทศ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้พูดชี้แจงทำความเข้าใจว่า เราอยู่ในฐานะที่จะทำได้หรือไม่อย่างไร หรือข้อเสนออื่นๆ ซึ่งแต่ละกระทรวงหรือ แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้ที่จะทำความเข้าใจ ว่าอะไรได้ หรือไม่ได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่เราจะต้องทำ