People Unity : “ธนกร”ป้อง”บิ๊กตู่” ยัน”ชิม ช้อป ใช้”ช่วยพยุงเศรษฐกิจ จวก”พิชัย”ดีแต่พูด ประชาชนจำไม่ได้ด้วยซำ้เคยสร้างผลงานอะไรเอาไว้ ชูใช้เงินกระเป๋า 2 ถึง 5 หมื่น รับแคชแบ็กกลับถึง 8,500 บาท

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่าโครงการชิม ช้อป ใช้ เฟส2 ไม่ได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อ้างว่าอาบน้ำร้อนมาก่อน แต่คิดได้แค่แจกเงินว่า ต้องทำความเข้าใจกับนายพิชัยก่อนว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกมามีหลายมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ เป็นมาตรการหนึ่งเท่านั้น เป็นการทำงานเชิงรุกของภาครัฐที่ประเมินสถานการณ์และเตรียมการรับมือเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง จึงมีการวางแผนและออกแบบมาตรการพยุงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและทันท่วงที โดยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศผ่านการให้แรงจูงใจ ดึงผู้มีกำลังซื้อออกมาใช้จ่ายในพื้นที่ต่างๆ เกิดความคึกคักในการจับจ่าย กระจายเม็ดเงินไปยังเศรษฐกิจฐานราก และการจ้างงานต่อเนื่อง ไม่เพียงใช้แล้วหมดไป ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณในการสร้างแรงจูงใจจะคุ้มค่าเพราะก่อให้เกิด Multiplier Effect จากการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเศรษฐกิจไทยโดยในช่วงที่ผ่านมา

นายธนกร กล่าวอีกว่า นายพิชัยเป็นอดีตรัฐมนตรีที่ไม่เคยมีผลงานอะไรเลย เมื่อเทียบกับพล.อ.ประยุทธ์แล้วประชาชนนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่านายพิชัยเป็นใคร แต่ประชาชนทั่วประเทศรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของพล.อ.ประยุทธ์ในการทำงานให้กับบ้านเมือง ที่ผ่านมามีผลงานมากมาย แต่นายพิชัยทำได้เพียงรับใช้นายทุนเท่านั้น อย่างอื่นตนนึกไม่ออกเลย อย่างไรก็ตาม มาตรการชิม ช้อป ใช้ เฟส2ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ซึ่งในส่วนกระเป๋า2นั้น หากใช้ 30,000 บาทจะได้แคชแบ็กถึง 15 เปอร์เซนต์ แต่หากใช้300,00บาทขึ้นไป จะได้แคชแบ็กถึง 20 เปอร์เซนต์ พูดง่ายๆ คือ หากใช้ถึง 50,000 บาทจะได้เงินแคชแบ็กคืนมาถึง 8,500 บาท ทั้งนี้ สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ทวิตเตอร์ Pichai Naripthaphan/พิชัย นริพทะพันธุ์ ระบุว่า การแจกเงินชิมช้อปใช้ ซึ่งประชาชนนำไปใช้แล้วก็หมดไป ไม่ได้สร้างความยั่งยืนทางการพัฒนา หรือ ความยั่งยืนทางรายได้ และที่สำคัญไม่ได้แก้ปัญหาการว่างงานที่จะเกิดขึ้นรวมกว่า 5 แสนคนในปีหน้าได้ นักศึกษาที่จบใหม่จะตกงานกันอย่างมาก ทั้งนี้มาจากการลงทุนที่หดหายมากว่า 5 ปี