วันที่ 20 กันยายน 2025

“บิ๊กป้อม”ยันความพร้อมรับมือการประชุมสุดยอดอาเซียน

People Unity : โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีเปิดเผย “บิ๊กป้อม” เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคง ยืนยันความพร้อมรับมือการประชุมสุดยอดอาเซียน

วันที่ 24 ตุลาคม 2562 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เวลา 10.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ที่ศาลาว่าการกลาโหมเพื่อรับทราบการเตรียมการและการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ในการรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดอาเซียน ระหว่าง วันที่ 4 -5 พ.ย.2562 ซึ่งโดยสรุปภาพรวม ทุกหน่วยงานความมั่นคงมีความพร้อม รองรับการประชุมสุดยอดอาเซียนที่จะมีขึ้น

พล.อ.ประวิตร กำชับหน่วยงานด้านการข่าว เกาะติดทุกเป้าหมายที่อาจเป็นปัญหา และให้พิสูจน์ทราบด้วยความรอบคอบรัดกุม ไม่ประมาท เน้นการทำงานร่วมกับเครือข่ายเฝ้าระวัง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้นำทุกประเทศ พร้อมทั้งย้ำ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพหลัก วางแผนจัดการดูแลรักษาความปลอดภัย ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในทุกพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ปัญหา โดยให้สำรวจความพร้อมของ กำลังพล ยานพาหนะและเครื่องมือทุกชนิด และให้มีการซักซ้อมแผนการปฏิบัติและพร้อมเผชิญเหตุในทุกสถานการณ์ โดยให้พัฒนาแผนอย่างต่อเนื่องให้มีความสมบูรณ์ เน้นประสิทธิภาพและความเข้าใจร่วมกัน ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามกฎหมายและหลักสากล เพื่อภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นและการยอมรับร่วมกัน

สำหรับการบริหารจัดการและการอำนวยความสะดวกการจราจร ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ ความสำคัญกับการวางแผนการเดินทางของผู้เข้าร่วมประชุมและการดูแลทางการแพทย์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยให้อำนวยความสะดวกการสัญจรให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด พร้อมทั้งต้องสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชน ร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพที่ดี แม้วันดังกล่าวจะเป็นวันหยุดราชการก็ตาม

สุดอลังการ!กุนซือ”บิ๊กป้อม”เปิดงาน มหกรรมอาหารนานาชาติสารคาม

People Unity : สุดอลังการ!กุนซือ”บิ๊กป้อม”เปิดงาน มหกรรมอาหารนานาชาติสารคาม ขณะลงพื้นที่ภาคอีสานติดตามผลการช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลด เผย”ประวิตร”ยันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากควบคู่กันไป

เมื่อ 27 ต.ค.2562 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ (พล.อ.ประวิตร) ลงพื้นที่ติดตามนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ในการช่วยเหลือฟื้นฟู หลังน้ำลดพื้นที่ภาคอีสาน ได้แก่ จ.มหาสารคาม จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด

ทั้งนี้ผู้แทนประชาชนของจังหวัดดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วม ตั้งแต่เริ่มน้ำท่วม กระทั่งการฟื้นฟู ได้แสดงความขอบคุณรัฐบาล ที่มีความห่วงใย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาดูแลช่วยเหลือ มีทั้งการมอบสิ่งของจำเป็น เงินชดเชย การซ่อมแซม การซ่อมแซมบ้านพักอาศัย โดยเฉพาะการแก้ปัญหาดินทราย ที่มากับกระแสน้ำเข้าไปในพื้นที่ทำนาเป็นบริเวณกว้าง ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยทหารในพื้นที่และ เจ้าหน้าที่รัฐจากส่วนกลางมาให้การสนับสนุนจนสามารถกลับมาใช้พื้นที่สำหรับการปลูกข้าวและพืชไร่ได้ตามปกติซึ่งชาวบ้านมีความพอใจในการช่วยเหลือที่รัฐบาลมอบให้เป็นอย่างมากเป็นการสะท้อนความจริงใจและทำตามที่รัฐบาลเคยพูดไว้เสมอว่าจะไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง

หลังจากนั้นนายประสานได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานพิธีไหว้เจ้าแสดงงิ้วและมหกรรมอาหารนานาชาติ ประจำปี 2562 ณ บริเวณ หอนาฬิกา จังหวัดมหาสารคาม

นายประสานได้กล่าวเปิดงานพร้อมย้ำว่าพล.อ.ประวิตรได้แสดงความขอบคุณประชาชนและจังหวัดมหาสารคามตลอดจนองค์กรส่วนท้องถิ่น รวมถึงภาคเอกชนไทย-จีน จิตอาสา ที่ร่วมกันจัดงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วยดี

“พล.อ.ประวิตรในฐานะประธานคณะกรรมการมรดกโลกได้ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นมาโดยตลอดและพร้อมให้การสนับสนุนทุกกิจกรรมผ่านทางกระทรวงวัฒนธรรมเพราะถือว่าอารยธรรมท้องถิ่นได้มีการสืบทอดผ่านวัฒนธรรมอันดีงาม และตกทอดสู่คนรุ่นหลังได้ชื่นชมพร้อมทั้งหวังที่จะธำรงรักษาไว้ให้คงอยู่ต่อไปและหวังว่าการจัดงานประเพณีครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาคุณภาพชีวิต การค้า การลงทุน และการเพิ่มรายได้ประชาชนตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล” นายประสาน กล่าว

“อนุทิน”ชี้มติแบน 3 สารพิษได้เห็นขรก.-นักวิชาการมีคุณธรรม

People Unity : “อนุทิน”ชี้มติแบน 3 สารพิษเป็นผลงานทุกคน ได้เห็นข้าราชการ นักวิชาการที่มีคุณธรรมทำเพื่อสุภาพ-ชีวิต ของปชช.

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบนสารพิษ 3 ตัวว่า สิ่งที่ดีใจคือ เรายังเห็นว่า ประเทศไทยเรายังมีข้าราชการ นักวิชาการที่มีคุณธรรม มีสำนึกต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้างราชที่ลงมติแบนสารพิษทั้ง 3 ชนิด จากทุกกรม ทุกกระทรวง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง

แต่เป็นภารกิจของรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงสาธารณสุขซึ่งต้องมีความรับผิดชอบต่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งเรื่องแบนสารพิษนี้ไม่ได้อยู่ในนโยบายตอนหาเสียงด้วยซ้ำ แต่เป็นภารกิจที่ต้องทำ และภาคภูมิใจที่อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเลขาธิการอย. พร้อใจกันโหวตอย่างเปิดเผย นำนโยบายของกระทรวงไปทำให้บรรลุความสำเร็จ ทั้งนี้ เป็นไปตามขั้นตอน ใครทำอะไรได้ก็ทำ เรามีหน้าที่แบน เราก็แบนอย่างสุดหัวใจ ใครจะค้านก็ไปค้าน ผลจะเป็นอย่างไรเราได้ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่แล้ว เรื่องนี้เป็นความเป็นความตายของพี่น้องประชาชน เป็นเรื่องสุขภาพ ชีวิต ใครไม่เคยโดนก็ไม่รู้หรอก อย่างไรก็ตาม ครม.ไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพราะตนเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่ละกระทรวงจะต้องไปหามาตรการเยียวยา

เมื่อถามถึงแนวทางในการคุ้มครอง เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแบนสารพิษครั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า จขะอนุญาตให้ใช้สารพิษที่มีมติแบนไปนี้ถึงวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ส่วนเรื่องเยียวยา เช่น การหาสารทดแทน เป็นเรื่องของกระทรวงไหนมีหน้าที่อย่างไร ทั้งนี้ วันนี้ถือเป็นผลงานร่วมกันของทุกคน แต่สำหรับตนไม่ได้ถือเป็นผลงาน แต่ถือเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่อยู่ในคณะกรรมการ วันนี้ดี เปิดเผยกันมแล้ว ก็ขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เฟซบุ๊ค “Anutin Charnvirakul” ของนายอนุทิน ขึ้นภาพขณะนำผู้บริหารในกระทรวงสาธรณสุขออกกำลังกาย พร้อมข้อความว่า
เชียร์ลีดเดอร์ของกระทรวงสาธารณสุข

มติที่ประชุม มีผู้เข้าประชุม 26 ท่าน
1. พาราควอท
-แบน 21 จำกัดการใช้ 5
2. ครอร์ไพริฟอส
-แบน 22 จำกัดการใช้ 4
3.ไกลโฟเซต
-แบน 19 จำกัดการใช้ 7

ขอกราบขอบพระคุณและน้อมคารวะต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายเฉพาะผู้ที่ลงมติแบนการใช้สารพิษด้วยจิตสำนึกที่รักและห่วงใยในคุณภาพชีวิตและสุขภาพของพี่น้องประชาชน ประวัติศาสตร์จะจารึกวีรกรรมที่ท่านทำเพื่อแผ่นดินเกิดในวันนี้เยี่ยงวีรบุรุษของชาติ ขอแสดงความยินดีกับคนไทยทุกคนที่ประเทศของเรายังมีข้าราชการและนักวิชาการที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรมและจริยธรรมหลงเหลืออยู่ในบ้านของเรา
โดยมีคอมเม้นท์ให้กำลังใจเป้นจำนวนมาก อาทิ

“ความเห็นต่างไม่เปนไร ไม่ว่ากันครับ…แต่ก็ถือว่าที่ประชุมเสียงข้างมากลงมติแบน…ก็ต้องขอบคุณท่านอนุทิน ชาญวีรกูล และชาวคณะทุกท่าน และท่านมนัญญา ไทยเศรษฐ์ และท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน ด้วยครับ”

“ข้่าราชการทุกคน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาลชุดนี้ และเป็นการทำงานร่วมกันของทุกพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆครับ”

“สมเจตนาประสงค์เป็นคุณูประการกับประชาชนชาวไทยและประเทศชาติ ขอขอบคุณอย่างสูงต่อทุกท่านทื่ได้ผลักดันเรื่องนื้ให้เกิดเป็นความสำเร็จตามเป็าหมายชัดเจนถึงโทษภัยร้ายแรงของสารเคมีดังกล่าวครับ”

แพทย์เตือนนอนกรนเสียงดังเป็นประจำเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ

People Unity : กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก เตือนนอนกรนเสียงดังเป็นประจำ ง่วงนอนมากผิดปกติ ในเวลากลางวัน หงุดหงิดง่าย อย่าละเลยอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับโดยไม่รู้ตัว

วันที่ 24 ตุลาคม 2562 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea, OSA) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเนื่องจากการยุบตัวของทางเดินหายใจส่วนต้น ทำให้ขณะหลับร่างกายจะเกิดภาวะขาดออกซิเจนเป็นช่วงๆ การนอนหลับจะขาดตอน ส่งผลต่อการทำงานของสมอง ทำให้เกิดอาการง่วงนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถ และเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วนลงพุง ภาวะนี้สามารถพบได้ในคนทุกวัย โดยผู้ใหญ่จะพบว่าเกิดกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง คนในวัยทองและคนอ้วน และอาจพบในเด็กที่มีต่อมทอนซิลและอดีนอยด์โต มีปัญหาโครงสร้างใบหน้า หรือเด็กที่อ้วน

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สัญญาณเตือนที่เสี่ยงอาจทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น คือ การนอนกรนเสียงดังเป็นประจำ ญาติสามารถสังเกตได้ ในขณะนอนหลับอาจหยุดหายใจหรืออาจหายใจแรง เสียงดังเป็นพักๆ สลับนิ่งเงียบ หายใจเฮือกเหมือนสำลักน้ำลาย บางครั้งตื่นมารู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ง่วงนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน ไม่มีสมาธิในการทำงาน ขี้ลืม หงุดหงิดง่าย วิตกจริตหรือซึมเศร้า สำหรับการรักษาภาวะดังกล่าวขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค โดยแบ่งเป็น

1.การรักษาด้วยเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นมาตรฐานในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น 2.การใส่ทันตอุปกรณ์ โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาให้เหมาะสมในแต่ละรายซึ่งจะได้ผลดีในผู้ป่วยที่มีระดับความรุนแรงของโรคเล็กน้อยถึง ปานกลาง 3.การผ่าตัด ในกรณีผู้ป่วยที่มีความรุนแรงของโรคระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ร่วมกับมีโครงสร้างทางเดินหายใจส่วนต้นผิดปกติ

ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น สามารถปฏิบัติตนโดยการคุมอาหารและลดน้ำหนักในรายที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ หลีกเลี่ยงการนอนหงาย พยายามนอนตะแคง ไม่ควรรับประทานยานอนหลับเพราะยาจะกดการหายใจ ทำให้ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นเป็นมากขึ้น ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 4 ชั่วโมงก่อนนอนเพราะแอลกอฮอล์จะทำให้รูปแบบการนอนหลับไม่ต่อเนื่อง และไม่ควรขับรถขณะง่วงนอน เนื่องจากอาจหลับในสามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้หากพบว่ามีสัญญาณเตือนว่าคุณอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ เพื่อเข้ารับการตรวจการนอนหลับวินิจฉัยและหาแนวทางการรักษาต่อไป

“เทวัญ”แจงงบฯปี63! หนุน พศ. ลดยกเหตุจำนวนพระเณรลดลง

People Unity : “เทวัญ”แจงงบฯปี63! หนุน พศ. ลดยกเหตุจำนวนพระเณรลดลง ยันยังส่งเสริมให้พระอยู่ดูแลปลูกป่าเช่นเดิม ส่วนงบฯสนันสนุนม.สงฆ์ พศ.ไม่ได้ดูแล

วันที่ 19 ต.ค.2562 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 ในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอภิปรายนายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ที่ระบุลดลงว่า สาเหตุที่ลดมีอยู่หลายปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากการลดลงของพระภิกษุ และสามเณร เนื่องจากปัจจุบันนี้เยาวชนได้หันไปเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมากขึ้น ส่วนงบประมาณสนับสนุนมหาวิทยาลัยสงฆ์นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับ พศ. ประกอบกับปัจจุบันนี้มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งสามารถบริหารจัดการตัวเองได้

“ขณะที่ข้อกังวลเรื่องจะทุบวัดและไล่พระออกจากป่านั้นก็ไม่เป็นความจริง ต่อไปนี้รัฐบาลจะสนับสนุนให้พระเป็นประหนึ่งเจ้าหน้าที่คอยดูแลป่าส่งเสริมการปลูกป่า ดังนั้นรัฐบาลนี้จึงให้การสนับสนุนพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจง

พปชร.ซัดพท.ถล่มชิมช้อปใช้เฟส2แจกเงินย้ำกระตุ้นศก.

People Unity : รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐโต้ฝ่ายค้านหยุดปั่นกระแสดิสเครดิต “ชิม ช้อป ใช้”เฟส 2 บัตรสวัสดิการฯ ยันลงพื้นที่ชาวบ้านนิยมและต้องการให้เดินหน้าต่อ ซัดนั่งวิจารณ์แต่ในห้องแอร์

วันที่ 26 ต.ค.2562 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ หรือ “อ้น” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาวิจารณ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 2 ของรัฐบาลว่าเป็นการแจกเงินแล้วหมดไป ไม่ได้สร้างการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนว่า รู้สึกท้อใจกับการทำงานของฝ่ายค้าน ที่ไม่เข้าใจหรือไม่ยอมเข้าใจหลักการ ว่ามาตรการดังกล่าวไม่ใช่การแจกเงินไปเที่ยวเท่านั้น หากแต่เป็นการอาศัยกลไกให้ประชาชนช่วยกันกระจายเม็ดเงินออกไปเพื่อหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจในชุมชนต่างๆ ผ่านการท่องเที่ยว เพราะการเดินทางไปท่องเที่ยวจะไม่ใช่การเที่ยวอย่างเดียว แต่ต้องกิน ต้องใช้ ซึ่งเงินเหล่านั้นก็จะหมุนไปในชุมชน เข้าสู่กระเป๋าของผู้ค้า ผู้ประกอบการต่างๆ และลงไปยังลูกจ้าง พนักงาน ทำให้ฟันเฟืองต่างๆทางเศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้ โดยชิมช้อปใช้ รอบนี้ไม่จำกัดจังหวัดที่จะใช้จ่ายแต่จะยกเว้นจังหวัดตามบัตรประชาชนเท่านั้น ซึ่งจะช่วยกระจายเม็ดเงินไปได้ทั่วถึงมากขึ้น

ส่วนการเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ก็เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย รวมทั้งยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น การขยายเวลาช่วยจ่ายค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไปอีก 1 ปีพร้อมทั้งคืนภาษี VAT ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 5 เปอร์เซ็นต์โดยรัฐจะเก็บภาษี VATจากผู้มีรายได้น้อยเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงกันยายน 2563 เป็นระยะเวลา 10 เดือน มาตรการต่างๆ มีส่วนช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพในครัวเรือนให้กับประชาชน ช่วยแก้ปัญหาปากท้องได้อีกทางหนึ่ง

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนจากจังหวัดต่างๆสะท้อนความต้องการอยากให้ช่วยแก้ไขปัญหาปากท้อง โดยเฉพาะการจัดเวทีประชาธิปไตยไทยอิ่ม ไม่ต้องแก้ก็กินได้เลย ซึ่งไปมาแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.กำแพงเพชร และจ.ราชบุรี พบว่าประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจกับมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช่น เรื่องราวของนางหนูพิน มุ่งลา ชาวบ้านวัดบ้านตะบอง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หนึ่งในผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่อยากให้รัฐบาลดำเนินนโยบายนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ เนื่องจากไม่มีงานทำ ขณะที่สามีรับจ้างได้วันละ 300 บาท พอมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็นำเงินไปซื้อข้าวสาร กะปิ น้ำปลา และสิ่งของต่างๆ ที่จำเป็นได้ กินและใช้ได้ทั้งเดือน

“พรรคพลังประชารัฐ มีเป้าหมายให้ประชาชนยืนได้ด้วยตนเอง แต่ก่อนอื่นต้องช่วยเหลือคนที่ไม่มีกำลังและประคองให้เขาลุกขึ้นได้ก่อน เราลงพื้นที่ไปสัมผัสกับประชาชนในพื้นที่ รับรู้ปัญหาและนำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อสะท้อนไปยังรัฐบาลให้ออกมาตรการและนโยบายออกมาแก้ไขปัญหา ไม่ได้มัวแต่นั่งวิจารณ์อยู่แต่ในห้องแอร์” น.ส.ทิพานัน กล่าว

รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2562 ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ชุมชนวัดมงคลวราราม และชุมชนใกล้เคียง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. โดยจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนพบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ทราบรายละเอียดในการลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโครงการ ‘ชิม ช้อป ใช้’ เฟส 2 ขณะที่บางส่วนคิดว่าโครงการ ‘ชิม ช้อป ใช้’ และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคือโครงการเดียวกัน หากจะใช้บัตรสวัสดิการต้องเดินทางไปใช้ที่ต่างจังหวัด ซึ่งตนได้ชี้แจงทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชนแล้วว่าเป็นคนละโครงการกัน พร้อมกันนี้ชาวบ้านแจ้งว่าอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปอำนวยความสะดวกในเรื่องของการทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนี้ยังอยากให้หน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องของที่อยู่อาศัยเนื่องจากที่อยู่อาศัยมีลักษณะทรุดโทรม ซึ่งตนยิ่งลงพื้นที่ยิ่งเห็นความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งน่าเห็นใจอย่างมาก ที่น่าเสียดาย คือ ส.ส. ฝ่ายค้าน อาจจะหลงลืมไปว่า ปัญหาเร่งด่วนคือความกินดีอยู่ดีของประชาชน ควรช่วยกันลงมือทำเพื่อประโยชน์ประชาชนมากกว่า

“พรรคพลังประชารัฐ เราพร้อมรับฟังปัญหา ให้การใส่ใจดูและความเป็นอยู่ ปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งตนจะได้นำข้อมูลต่างๆที่ได้รับลงพื้นที่สำรวจอยู่เป็นประจำ ไปรายงานพร้อมหารือต่อพรรคและประสานงานไปยังรัฐบาลเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว

การเมืองแห่งความหวัง! หนังสือขายดีอันดับหนึ่ง”ปิยบุตร”เขียน

People Unity : “การเมืองแห่งความหวัง” อันดับ 1 หนังสือขายดี – ร้าน “ก็องดิด” เตรียมจัดกิจกรรมพบปะ “ปิยบุตร” คุยหัวข้อ “หนังสือคือความหวัง”

วันที่ 25 ต.ค.2562 ร้านหนังสือก็องดิด( Candide Books) เผยแพร่เชิญชวนร่วมกิจกรรม “หนังสือคือความหวัง” โดยระบุว่า “คุยกันเรื่องหนังสือ การอ่าน และหนังสือเล่มใหม่ การเมืองแห่งความหวัง กับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ นักการเมืองที่เปิดเผยทรัพย์สินว่ามีหนังสือในครอบครอง 2,500 เล่ม ชวนคุยโดยภาณุ ตรัยเวช นักเขียนผู้เป็นหนอนหนังสือตัวฉกาจ และเป็นเจ้าของเพจ Our History เรื่องเล่า เรา โลก”

ขณะเดียวกัน ได้เปิดเผยถึง 10 อันดับขายดีประจำวันที่ 15 – 21 ตุลาคม ที่ผ่านมาของร้าน ทั้งผ่านทางหน้าร้านและทางระบบออนไลน์ ออนไลน์ www.candidebooks.com ซึ่งปรากฏว่าหนังสือ “การเมืองแห่งความหวัง” ผลงานล่าสุดของนายปิยบุตรติดในลำดับที่ 1 หนังสือขายดี โดยเป็นหนังสือรวมบทสัมภาษณ์ทุกแง่มุมชีวิต การปราศรัยทั้งการเปิดตัวพรรค นโยบายต่างๆ การหาเสียง ตลอดจนการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะ ส.ส.ที่มีบทบาทเด่นเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่อันดับ 2 และ 3 ได้แก่วรรณกรรมแปลจากญี่ปุ่น คือ “วันที่เหมาะกับขนมปัง ซุป และแมว”, “อันตัวข้าพเจ้านี้คือแมว” ตามลำดับ ส่วน “ลงเรือแป๊ะ” ผลงานของ วิษณุ เครืองาม ติดอยู่ในหนังสือขายดีลำดับที่ 4 ด้วย ทั้งนี้ กิจกรรมหนังสือคือความหวัง จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคมนี้ เวลา 17.00 -18.30 น. ที่ร้านหนังสือก็องดิด เดอะ แจมแฟคทอรี ( The Jam Factory) คลองสาน

“อุตตม”ร่วมถก ธ.ก.ส.เร่งเสริมมาตรการช่วยเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย

People Unity : รมว.คลัง ร่วมประชุมคณะกรรมการธ.ก.ส. เร่งเสริมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยปี2562 ทั้งขยายเวลาชำระหนี้ 2 ปี และลดดอกเบี้ยเงินกู้อีกร้อยละ 3 ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ภาคชนบท ทั้งการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว การดำเนินโครงการประกันรายได้ปาล์ม ข้าว ที่จ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรไปแล้วกว่า 34,600 ล้านบาท พร้อมเตรียมโอนประกันรายได้ยาง งวดแรก 1 พฤศจิกายนนี้

วันที่ 28 ต.ค.2562 ที่ ธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. เป็นประธานในการประชุม ติดตามการดำเนินงานของธนาคารในการช่วยเหลือเกษตรกรและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ได้สรุปมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในระยะสั้นที่ดำเนินการไปแล้ว (ข้อมูล ณ 24 ตุลาคม 2562) ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2562/63 ในอัตราไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ วงเงิน 24,810 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกร 4.31 ล้านครัวเรือน ดำเนินการโอนเงินแล้ว จำนวน 3.99 ล้านครัวเรือน เป็นเงิน 23,929 ล้านบาท โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562-2563 วงเงิน 13,000 ล้านบาทเป้าหมายเกษตรกร 263,107 ครัวเรือน ดำเนินการโอนเงิน รอบที่ 1 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ไปแล้ว 254,667 ครัวเรือน เป็นเงิน 1,351 ล้านบาท โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปี 2562/63 รอบที่ 1 วงเงิน 20,940 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกร 4.31 ล้านราย มีเกษตรกรที่มีคุณสมบัติถูกต้องได้รับเงินในรอบที่ 1 ทั้งสิ้น 349,300 ครัวเรือน โดย ธ.ก.ส. โอนเงินเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ไปแล้วกว่า 9,411 ล้านบาท รวมเงินที่โอนไปแล้วทั้ง 3 โครงการ จำนวน 34,691 ล้านบาท

สำหรับการประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ในครั้งนี้ นายอุตตม ได้พิจาณาเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลการปลูกยางกับการยางแห่งประเทศไทย ระยะที่ 1 เพื่อเป็นการให้ช่วยเหลือแก่เกษตรกรชาวสวนยาง วงเงิน 24,278 ล้านบาท โดยเป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไป ที่เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 25 ไร่ ปริมาณผลผลิตยาง (ยางแห้ง) 240 กิโลกรัม/ปี หรือ 20 กิโลกรัม/ไร่/เดือน กำหนดราคาประกันยางแผ่นดินคุณภาพดี 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50 %) 23 บาท/กิโลกรัม ซึ่งแบ่งสัดส่วนการจ่ายเงินให้กับเจ้าของสวนยาง 60% และ คนกรีดยาง 40% โดยคาดว่าจะสามารถโอนเงินในงวดแรกให้เกษตรกรได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้

นายอภิรมย์ กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการ ธ.ก.ส. ยังเตรียมพิจารณาให้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี 2562 จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการขยายเวลาชำระหนี้ต้นเงินกู้เป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่ 1 กันยายน 2562- 31 สิงหาคม 2564 และขยายเวลาชำระดอกเบี้ยเงินกู้เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 – 31 สิงหาคม 2563 และโครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรลูกค้า โดยคิดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตรา MRR-3 (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.875 ต่อปี) วงเงินกู้ไม่เกิน 300,000 บาทแรก เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 – 31 สิงหาคม 2563 และมอบหมายให้ ธ.ก.ส. เตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลเพื่อดูแลเกษตรกรตามมาตรการต่าง ๆ ที่จะทยอยออกมา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตโดยเฉพาะพืชหลักชนิดต่าง ๆ ให้สามารถแข่งขันในตลาดได้

ทั้งนี้ ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ กระทรวงการคลัง ธ.ก.ส. และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมจัดโครงการประชารัฐสร้างไทย พัฒนาล้านนา ซึ่งมีชุมชนจาก 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนเข้าร่วม ตามนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีพิธีมอบสินเชื่อให้ลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ การจัดตลาดชุมชนทางน้ำ และการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ประชาชน ณ เทศบาลตำบลสันทรายหลวง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

“ชวน”พร้อมจับเข่าคุยทุกกลุ่มแก้ รธน.เน้นสร้างสรรค์ ไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า

People Unity News : “ชวน”พร้อมจับเข่าคุยทุกกลุ่มแก้ รธน.เน้นสร้างสรรค์ ไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า เพื่อตกผลึกความคิด แนะเชิญฝ่ายที่ได้รับผลกระทบร่วมหารือ เพราะทุกฝ่ายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ

วันที่ 29 ต.ค.2562 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร กล่าวถึงที่ภาคประชาสังคมจะมายื่นเรื่องต่อสภาเพื่อให้แก้รัฐธรรมนูญว่า ตนยินดีที่จะหารือกับทุกคณะ เพราะถือว่าเป็นประโยชน์ ซึ่งขณะนี้มี 2-3 คณะ ส่วนคณะของนายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี ยังไม่ได้นัดวันที่จะมาพบ เพียงแต่เป็นข่าวเท่านั้น ส่วนกลุ่มอื่นตนนัดไว้สัปดาห์ก่อน แต่ฝ่ายผู้นัดไม่ว่าง แต่ละคนจะได้มารับรู้รับทราบ และหากมีอะไรที่เป็นประโยชน์ก็ยินดีให้ความร่วมมือและรับฟัง ซึ่งตนคิดว่าแต่ละฝ่ายคงมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันได้ในบางเรื่อง เช่น ความคิดเรื่องประชาธิปไตย ก็คงไม่ต่างกันมากนัก ฉะนั้นความคิดเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็สามารถทำความเข้าใจกันได้ว่าในสภาไปถึงไหนแล้ว เพราะเมื่อเปิดสมัยประชุมมา ญัตติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะเข้าสู่สภาเป็นเรื่องแรก ฉะนั้นก็จะได้คุยกันว่าเบื้องต้นขณะนี้เขาพยายามหาทางที่จะวางแนวว่าทำอย่างไรให้รัฐธรรมนูญนี้สามารถแก้ได้ ส่วนแก้อะไรนั้นยังไม่พูดถึง

เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างมาอยู่ในระบบของสภาเพราะภาคประชาชนไปเคลื่อนไหวข้างนอก นายชวนกล่าวว่า การรณรงค์ข้างนอกเพื่อให้ความรู้กับประชาชนนั้นไม่เป็นไร แต่ต้องให้ความจริงและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่วนที่ว่าโครงสร้างที่วางไว้คล้ายกับสสร.นั้น ตนคิดว่าต้องคุยกัน รวมถึงฝ่ายที่จะได้รับผลกระทบ เช่น ส.ว. ก็ต้องเชิญมาคุยว่าหากจะแก้ไขปรับปรุงจะกระทบเขาจริงหรือไม่ หรือควรจะมีเงื่อนเวลาอย่างไร ดังนั้นคิดว่าทุกฝ่ายควรจะพูดคุยกัน ซึ่งก็คงไม่ง่ายนักแต่ดีกว่าไม่คุยกัน แม้กระทั่งรัฐบาลเองเพราะทุกฝ่ายก็เป็นส่วนหนึ่งของประเทศนี้เหมือนกัน

เมื่อถามว่าหากเป็นเช่นนี้ใครควรที่จะเป็นแม่งานในการนัดหมายทั้งหมดมาพูดคุยกัน นายชวนกล่าวว่าต้องรอดูคณะกรรมาธิการที่สภาจะตั้งขึ้นมา โดยญัตติที่จะเข้าสภาวาระแรกนั้นจะเป็นแนวทางว่าทำอย่างไรถึงจะสามารถกำหนดแนวทางในการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นไปได้หรือมีประเด็นว่าจะต้องแก้ ส.ส.หรือ ส.ว.อย่างไร

“ผมคิดว่าการคิดอย่างนี้เป็นการคิดในเชิงสร้างสรรค์ แบบไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า เช่น ยกเลิกรัฐธรรมนูญไม่เอานั่นเอานี่ ซึ่งไม่ถึงขนาดนั้นแต่โดยบทรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทำได้ยาก จึงต้องหาทางว่าจะทำอย่างไรให้สามารถเป็นได้”

เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมาพูดถึง ม.256 เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ง่าย นายชวนกล่าวว่า แล้วแต่คณะกรรมาธิการฯจะหารือกัน ส่วนความเป็นไปได้ที่จะให้ภาคประชาชนเช่นนายโคทมเข้ามาเป็นกรรมาธิการด้วย นายชวนกล่าวว่าแล้วแต่เขาจะตั้งเพราะกรรมาธิการชุดนี้สามารถตั้งคนนอกได้

ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชน ที่ยึดแนวทาง วิชาการนำการเมือง โดยให้กลุ่มนักวิชาการเป็นหัวหอกในการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด เพราะกลุ่มนักวิชาการเป็นกลุ่มที่ไม่มีผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝง สังคมจะได้ไม่หวาดระแวงว่ามีวาระซ่อนเร้นเพื่อกลุ่มของตัวเอง ซึ่งผิดกับการเคลื่อนไหวของนักการเมือง หรือพรรคการเมือง ที่จะตกเป็นเป้าโจมตีของฝ่ายไม่เห็นด้วยว่าทำเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองหรือพรรคการเมืองเท่านั้น ทำให้ขาดการยอมรับและเสียงสนับสนุนจากสังคมโดยทั่วไป ที่มองภาพนักการเมืองในทางลบ ดังนั้นอยากให้นักการเมืองเคลื่อนไหวเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในเวทีรัฐสภาจะเป็นการเหมาะสมที่สุด โดยการขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กำลังจะตั้งขึ้นในสมัยประชุมสมัยที่จะถึงนี้ เพราะมีสัดส่วน ส.ส.จากทุกพรรคการเมืองเข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ด้วย ส่วนการเคลื่อนไหวภายนอกสภา ก็ให้เป็นบทบาทของกลุ่มเครือข่ายภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ที่จะต้องเคลื่อนไหวคู่ขนานกับการเคลื่อนไหวในรัฐสภาไปจนประสบผลสำเร็จ

ถ้าให้นักการเมืองหรือพรรคการเมืองตั้งเวทีเคลื่อนไหวในภูมิภาคต่างๆ เหมือนที่ผ่านมา ก็สุ่มเสี่ยงกับการถูกฝ่ายต่อต้านหยิบยกเอาประเด็นบางเรื่องมาเป็นเหยื่อทางการเมือง และขยายผลสร้างแรงต่อต้านขึ้นมาได้ เช่น กรณีวาทกรรม รัฐธรรมนูญเฮงซวยทุกมาตรา หรือการพูดถึงมาตรา1สามารถแก้ไขได้ เหล่านี้เป็นต้น ดังนั้นเพื่อขจัดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในสังคม แต่ละฝ่ายควรจะแบ่งบทบาทการเคลื่อนไหวให้สอดคล้องกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนจะดีกว่า เพื่อเป้าหมายที่สูงสุดคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

“จุรินทร์”ปลุกสมาชิก”ปชป.”มุ่งหน้าทำงาน ยันแก้ไขรธน.เป็นเงื่อนไขหนึ่งร่วมรัฐบาล

People Unity : “จุรินทร์”ปลุกสมาชิก”ปชป.”มุ่งหน้าทำงาน ยันแก้ไขรธน.เป็นเงื่อนไขหนึ่งร่วมรัฐบาลทำฝันประชาชนสำเร็จ โอนเงินส่วนต่างข้าว-ปาล์มแล้ว พืชอีก 3 ชนิดโอนภายในสิ้นปีนี้ทั้งหมด

วันที่ 26 ต.ค.2562 เวลา 9.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมกรรมการสาขาพรรคและตัวแทนประเทศ ประจำทุกจังหวัดของพรรคประชาธิปัตย์ และได้กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์โดยกลไกกรรมการสาขาและตัวแทนประจำจังหวัดจะต้องดำเนินการจัดตั้งตามกฎหมายให้ครบถ้วน ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะมีการเลือกตั้งเร็วๆนี้แต่เป็นหน้าที่ของพรรคที่จะต้องมีความพร้อม

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ภายหลังการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา (24มีนาคม2562) อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่เป็นความฝัน ของพรรคที่ว่าอยากเห็นผู้ที่มีศักยภาพไม่ว่าจะเป็นอดีตผู้แทนราษฎร ผู้บริหารของพรรค อดีตผู้สมัครของพรรคได้มีโอกาสทำหน้าที่ขณะนี้ก็เป็นจริง คือ ประมาณไม่ต่ำกว่า 80 คนดังกล่าวได้ถูกคัดสรรค์ให้เข้าไปทำหน้าที่ผู้บริหารระดับต้นของประเทศและตำแหน่งอื่นๆ เช่น ผู้ช่วย ส.ส. ผู้เชี่ยวชาญ ชำนาญการ และที่ต้องช่วยรัฐมนตรีของพรรค คือ เลขานุการรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นทีมจากพรรคประชาธิปัตย์ นี่เป็นสิ่งแรกที่เราสามารถทำฝันที่คิดกันมานานลงสู่การปฏิบัติได้แม้ว่าไม่ครบถ้วนทุกคนก็ตาม

และในการเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ พรรคก็มีเงื่อนไขคือนำนโยบายองพรรคบรรจุไว้ในนโยบายรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นโครงการประกันรายได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดหัวข้อที่จะต้องแก้ไข ได้หรือการเปิดกุญแจปลดล็อคให้เดินไปสู่การแก้ไขในวันข้างหน้าได้ และการบริหารราชการแผ่นดินจะต้องบริหารด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งหมดก็บรรจุไว้เป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้

ส่วนนโยบายประกันรายได้เกษตรกรที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ โดยเป็นนโยบาย เร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งการประกันรายได้พืช 5 ชิดนั้น คือข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด แต่ไม่ได้หมายความว่าพืชเกษตรตัวอื่นจะไม่ดูแลแต่ใช้ยาคนละขนาน กันเท่านั้น สำหรับพืช 5 ชนิดนี้หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วก็มีความคืบหน้าเป็นอย่างยิ่งมีผลเป็นรูปธรรมโดยปาล์มลงมือปฏิบัติไปแล้วโดยการจ่ายเงินงวดแรกเรียบร้อยถึงมือเกษตรกรแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เราใช้เวลาเพียงแค่60วันฟังการแถลงนโยบาย หรือ 77 วันหลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนเรื่องข้าวได้โอนเงินส่วนต่างให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวงวดแรกไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตัวที่ 3 คือเรื่องยางพาราได้ผ่านคณะรัฐมนตรีแล้วกำลังดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการ คือ และวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ที่จะถึงนี้โดย 1- 15 พย.ใช้เวลา 15 วันเราจะโอนเงินส่วนต่างถึงมือเกษตรกรผู้ปลูกยางทุกคน เพราะกระบวนการเรื่องยางพาราจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเป็นขั้นตอนมากกว่า เมื่อมีการตรวจสอบบัญชีเสร็จเรียบร้อยจึงจะเป็นการโอนเงิน ทันที

สำหรับมันสำปะหลัง วันพรุ่งนี้ 27 ตุลาคม 2562 จะเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี เพื่อการประชุม 3 ฝ่ายภาครัฐภาคเอกชนและเกษตรกร จะไปเคาะในวันพรุ่งนี้ว่าจะประกันรายได้ไว้ที่กิโลกรัมละเท่าใดจำนวนเท่าใดต่อครัวเรือน เสร็จแล้วก็จะเข้ากระบวนการคณะรัฐมนตรี ส่วนข้าวโพดจะไปเคาะประกัน 3 ฝ่ายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ก็จะเข้าคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดแล้วไปคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติต่อไป ทั้งหมดนี้คาดว่าจะดูแลส่วนต่างพืช 5 ชนิดได้ครบถ้วนภายในสิ้นปีนี้

นายจุรินทร์ บอกกับสมาชิกพรรคว่า นี่คือสิ่งที่เราตั้งใจทำเพื่อประชาชนและพิสูจน์ตามที่ประกาศไว้ว่าจะ “ทำได้ไว ทำได้จริง” สุดท้ายนี้เราจะเดินหน้าไปด้วยกัน จับมือร่วมกันเดินหน้าด้วยกลไกล 3 ประสานทำงานไปด้วยกัน ประชาธิปัตย์ยุคนี้ กลไกที่หนึ่งคือกลไกรัฐบาล หน้าที่ความรับผิดชอบในรัฐบาล กลไกที่สองคือกลไกสภา โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคต้องทำหน้าที่แทนประชาชนอย่างเข้มแข็ง กลไกที่สามคือกลไก ของพรรค ต้องเดินหน้าคู่ขนานกิจกรรมของพรรคต้องทำเชิงยุทธศาสตร์มากขึ้นให้เกิดผลต่อความร่วมมือร่วมใจของสมาชิกทั่วประเทศให้มีความเข้มแข็งและมีความพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปได้

Verified by ExactMetrics