วันที่ 26 เมษายน 2024

ได้ทั้งบุญได้ทั้งสุขภาพ! “สาธิต”เข้าวัดทอดกฐิน ผุด”อสม.ชวนขยับ”รณรงค์ออกกำลังกาย

People Unity : ได้ทั้งบุญได้ทั้งสุขภาพ! “สาธิต”เข้าวัดทอดกฐิน ผุด”อสม.ชวนขยับ”รณรงค์ออกกำลังกาย 1 ต่อ 10 ครอบครัว สร้างเสริมสุขภาพ ลดโรค ชะลอความแก่ ยืดอายุให้ยืนยาว

วันที่ 20 ตุลาคม 2562 ที่วัดสุวรรณาราม ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานและมอบประกาศเกียรติบัตรแก่ อสม.อำเภอพุทธมณฑลที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ว่า จากสถิติกรมอนามัยพบคนไทยโดยเฉลี่ยมีพฤติกรรมเนือยนิ่งที่ไม่รวมการนอนสูงถึงเกือบ 14 ชั่วโมงต่อวัน เช่น การนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ การใช้คอมพิวเตอร์ การนั่งคุยกับเพื่อน การนั่งหรือนอนดูโทรทัศน์ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีน้ำหนักเกินและเกิดโรคอ้วน ทำให้เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน และมะเร็งบางชนิด ดังนั้นหากส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางกายอย่างจริงจังจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ถึง 11,129 รายต่อปี และลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลได้ถึง 5,977 ล้านบาท

ดร.สาธิตกล่าวต่อว่า โครงการ “อสม.ชวนขยับ” ให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) 1 คนรับผิดชอบชวนคนมาร่วมออกกำลังกาย 10 ครอบครัว เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนใส่ใจดูแลและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองในรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมแต่ละวัยโดยวิธีง่าย เช่น เดิน วิ่ง รำไทเก็ก หรือ คีตะมวยไทย เป็นต้น อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้ง ๆ ละ 30 นาที

“ผมเชื่อว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งดีจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกในเด็ก รักษาความแข็งแรงของกระดูกในวัยรุ่นที่กำลังเจริญเติบโต ชะลอความเสื่อมของกระดูกในช่วงวัยสูงอายุ อีกทั้งยังช่วยในการย่อยและดูดซึมอาหาร ลดท้องอืดท้องเฟ้อ ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดความอ้วน มีสมาธิในการทำงานดีขึ้น ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า ลดความเครียด นอนหลับได้ดี ชะลอความแก่ ยืดอายุให้ยืนยาวด้วย” ดร.สาธิตกล่าว

ภท.ติวเข้มพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง! “อนุทิน”ขอทุกฝ่ายรวมพลังพาชาติเดินหน้า

People Unity : “อนุทิน” ต้อนรับผู้เข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงรุ่นที่ 10 ที่พรรคภูมิใจไทย วอนทุกฝ่ายรวมพลังพาชาติเดินหน้า หนุนรัฐบาลทำงานหนัก เสริมแกร่งเสถียรภาพ มั่นใจ ฝ่ายการเมืองอยู่ในกรอบ เพราะ ปชช.ตรวจสอบหนัก

วันที่ 18 ต.ค.2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวขณะให้การต้อนรับผู้เข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงรุ่นที่ 10 (พตส.10) ที่ได้มาศึกษาดูงานที่พรรค ตอนหนึ่งว่า คนไทยเก่งๆ เยอะมาก ถ้ารวมพลังกันได้ รับรองว่าบ้านเมืองจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง วันนี้ รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ แต่มั่นใจว่ามีศักยภาพแข็งแกร่ง เพราะทุกพรรคช่วยกันทำงาน ให้เกียรติกัน และฟังกัน

“ความสำเร็จของพลังอันเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจ ขอยกเรื่องการแบนสารพิษ พอพรรคภูมิใจไทยเริ่ม ทุกฝ่ายช่วยกันผลักดัน มันก็เห็นผลสำเร็จอยู่ตรงหน้า ขออีกตัวอย่างคือกระทรวงสาธารณสุข มีผลงานอยู่ตลอด เพราะฝ่ายการเมือง ข้าราชการ ประชาชน สนับสนุน” นายอนุทิน กล่าวและว่า

รัฐบาลมีเสถียรภาพ แต่ก็ถูกตรวจสอบจากประชาชนตลอดเวลา ดังนั้น การทำงานต้องอยู่กับร่องกับรอย ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ประชาชนพอใจได้คือการทำงานให้หนัก จนประชาชนเห็นผลงานและประทับใจ

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีปัญหาในเรื่องของอำนาจรัฐที่เข้าไปวุ่นวายกับประชาชนมากเกินไป ทางพรรคจึงมีนโยบายลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน ยกตัวอย่าง หากต้องการจะสร้างโรงงาน เอกชนต้องไปขออนุญาต 4-5 หน่วยงาน มันต้องลดขั้นตอนเหล่านี้ อาจจะให้เอกชนตรวจสอบตัวเอง แล้วภาครัฐสุ่มตรวจอีกรอบ เพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน ในเรื่องกัญชา ในอดีตคือผิดกฎหมาย 100% แต่วันนี้ ได้ใช้อำนาจของตนเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แก้ไขกฎกรอบจนสามารถนำมาใช้ทางการแพทย์ได้แล้ว

สิ่งที่ต้องการเห็นคือ การจัดลำดับความสำคัญในการใช้งบประมาณ ทุกวันนี้ เมื่อมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเศรษฐกิจไม่ดี มันก็ต้องคิดเรื่องการนำงบแผ่นดินไปใช้อย่างคุ้มค่า พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม การสร้างสาธารณูปโภค ต้องใช้ของไทย คนไทยสร้าง ให้เงินอยู่ในประเทศเป็นหลัก เอาตรงนี้ก่อน เรื่องยางราคาตก เราก็มองไปที่การนำยางพารามาทำเป็นแบริเออร์ ให้รัฐ เป็นฝ่ายเพิ่มปริมาณการใช้ ดึงราคายางให้สูงขึ้นด้วยตัวเอง ลดการพึ่งพาต่างชาติ

“มีการถามว่าทำไมต้องไปคิดอะไรให้ยุ่งยาก ทำไมไม่อัดเงินเข้าไปเลย คำตอบคือรัฐธรรมนูญไม่สนับสนุนนโยบายประชานิยม พรรคภูมิใจไทย ต้องคิดอะไรที่มันซับซ้อนขึ้น แต่สิ่งที่ได้รับกลับมา รับรองว่าคุ้มค่า และเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวด้วย พรรคภูมิใจไทย ทำงานแบบนี้ ให้ความสำคัญกับนโยบาย และการทำงานให้เห็นผลงานอย่างเร็วที่สุด ผลประโยชน์ถึงประชาชนมากที่สุด”

 

เตือนผู้ที่มีภาวะไขมันส่วนเกินสะสมมากกว่าปกติเสี่ยงเป็นโรคหอบหืด

People Unity : กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก เตือนผู้ที่มีภาวะไขมันส่วนเกินสะสมมากกว่าปกติ หรือโรคอ้วนลงพุง ทำให้ระบบหายใจทำงานติดขัด ก่อให้เกิดโรคหอบหืดตามมา

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การรับประทานอาหารเกินความต้องการของร่างกาย ทำให้เกิดภาวะที่มีไขมันสะสมมากผิดปกติหรือมากเกินกว่าที่ร่างกาย จะเผาผลาญออกไป ส่งผลให้พุงยื่นออกมาอย่างชัดเจน เรียกว่า โรคอ้วนลงพุง ซึ่งผลแทรกซ้อนของ โรคดังกล่าว อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา คือ เสี่ยงกับภาวะไขมันอุดตันหลอดเลือดและหัวใจ อาทิ โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง ไตวาย มะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะหัวใจล้มเหลว อีกทั้งไขมันส่วนเกินนั้นยังสามารถเข้าไปสะสมในปอดจนเบียดทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลมตีบลง เกิดอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบากซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหอบหืดได้ ทั้งนี้ผู้ที่เข้าเกณฑ์เสี่ยงโรคอ้วนลงพุงจะมีลักษณะต่างๆ อย่างน้อย 3 ข้อ ดังนี้ คือ 1. ภาวะอ้วนลงพุง 2. ความดันโลหิตสูง 130/85 มม.ปรอทขึ้นไป 3. น้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารสูงกว่า 100 มิลลิกรัม ต่อเดซิลิตรขึ้นไป 4. ไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร 5. มีไขมันดี ชนิด HDL ต่ำ โดยเพศชายน้อยกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และเพศหญิงน้อยกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หากพบว่าร่างกายมีลักษณะดังกล่าว ต้องรีบหาแนวทางการรักษาและป้องกันโรคอ้วนลงพุง เพื่อห่างไกลโรคร้ายแทรกซ้อนที่จะตามมาอย่างทันท่วงที

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคอ้วนลงพุง เป็นกระบวนการหนึ่งที่ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลม ทำให้มีอาการโรคหอบหืดตามมา อาการในผู้ป่วยโรคหอบหืดมักจะเหนื่อยหอบเวลาออกแรง ไอ เสมหะเหนียวข้น หายใจลำบาก แน่นหน้าอก และมีเสียงดังวี๊ดๆ หรือมีอาการในช่วงกลางคืน และมีค่าความเร็วของลมหายใจออกสูงสุดอยู่ระหว่าง 50 – 80 % ของค่าที่ดีที่สุด ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค ผู้ป่วยต้องปฏิบัติตนด้วยการคุมอาหารและลดน้ำหนักในรายที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารไม่ให้มีปริมาณมากเกินไป หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด มัน กะทิ ดื่มน้ำเปล่าหลีกเลี่ยงน้ำหวานและน้ำอัดลม หากสามารถปฏิบัติตนตามคำแนะนำต่างๆเหล่านี้ ได้อย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ จะทำให้หลีกหนีโรคอ้วนลงพุง ส่งผลให้มีสุขภาพแข็งแรงห่างไกลโรคร้ายที่แทรกซ้อนตามมาอีกด้วย

สมเด็จพระสังฆราชทรงโปรดให้คณะกรรมการ มส.ชุดใหม่เข้าถวายสักการะ

People Unity : สมเด็จพระสังฆราชทรงโปรดให้คณะกรรมการ มส.ที่ได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งใหม่ในรัชกาลที่ ๑๐ เข้าถวายสักการะ พร้อมประทานพระโอวาท

วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๖.๐๐ น. ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) ทรงโปรดให้คณะกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งใหม่ เข้าถวายสักการะ จากนั้นทรงมีพระโอวาทว่า กรรมการมส.ชุดนี้ มีทั้งที่เคยปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว และที่เพิ่งจะได้ปฏิบัติหน้าที่ใหม่เป็นวาระแรกในคราวนี้ ขอถวายกำลังใจแด่ทุกท่านในการปฏิบัติหน้าที่ให้ได้เต็มกำลังความสามารถ ด้วยความหนักแน่นมั่นคงในปณิธาน เพื่อความสถิตสถาพรของพระบวรพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ไทย

สมเด็จพระสังฆราช มีพระโอวาทต่อไปว่า ขอให้ทุกท่านระลึกถึงพระเดชพระคุณของบูรพาจารย์ มีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นปฐม ตลอดจนถึงอดีตพระมหาเถระที่ท่านเคารพบูชาเป็นครูบาอาจารย์ด้วยความกตัญญูกตเวที แล้วศึกษาทบทวนใคร่ครวญให้ถ้วนถี่ว่าแต่ละพระองค์และแต่ละท่านได้ทำอย่างไร วางตัวอย่างไร ประพฤติดีปฏิบัติชอบอย่างไร ทุ่มเทอุทิศสรรพกำลังเพื่อการพระศาสนาอย่างไร จึงเป็นที่กราบไหว้ได้เต็มมือ และสนิทใจ เหตุไฉนบูรพาจารย์พระองค์นั้นๆ หรือท่านนั้นๆ จึงสถิตในที่สูงเป็นทิฏฐานุคติของอนุชน ยังมีกลิ่นหอมของศีล ปัญญา อบอวลทวนกระแสกาลเวลานับร้อยนับพันปีไม่จืดจางหาย ให้พวกเราได้ชื่นใจเมื่อได้ระลึกถึงตราบเท่าทุกวันนี้

บัดนี้ ท่านได้ชื่อว่าเป็นมหาเถระเป็นผู้ปกครองคณะสงฆ์ มีตำแหน่งอยู่ในมส.พุทธบริษัทไทยเฝ้ามองการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน และตั้งความหวังไว้ที่ท่านท่านจะประคับประคอง สนองภารธุระของการคณะสงฆ์ให้ราบรื่นเรียบร้อย สามารถฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคไปได้อย่างไร แบบนั้นมีอยู่แล้ว ขอจงอย่าทิ้งทางครู โดยเฉพาะทางของสมเด็จพระบรมครู ผู้ยังเสด็จดำรงอยู่เป็นศาสดาของพวกเรา ในองค์คุณแห่งพระธรรมวินัย

ขอถวายกำลังใจแด่ทุกท่านอีกครั้ง ขออาราธนาให้ท่านตั้งปณิธาน อุทิศชีวิตนี้เพื่อบูชาคุณพระรัตนตรัยด้วยปฏิบัติบูชา ขอให้เห็นแก่ความเจริญมั่นคงของคณะสงฆ์เป็นอุดมการณ์สูงสุด เพื่อสนองพระบรมราชปณิธานของสมเด็จพระมหากษัตริยาริราชเจ้าทุกๆ พระองค์และสนองคุณของบรรพชนไทย ที่สู้อุตส่าห์เสียสละชีวิตเลือดเนื้อหยาดเหงื่อ กำลังกาย กำลังใจและกำลังสติปัญญา เพื่ออุปถัมภ์และพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาไว้บนแผ่นดินไทย

“ธนกร”เชื่อ อนค.ร้าวเพราะ”ธนาธร”กุมอำนาจคนเดียว

People Unity : “ธนกร”เชื่อ อนค.ร้าวเพราะ”ธนาธร”กุมอำนาจคนเดียว เย้ยปากชูประชาธิปไตย แต่กลับมีแนวคิดสุดโต่งจนส.ส.อึดอัด ชม”กวินาถ”เลือกยืนข้างประชาชน

วันที่ 21 ต.ค.2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความขัดแย้งภายในพรรคอนาคตใหม่ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายในพรรคอนาคตใหม่ ตนคงไม่ขอก้าวล่วง จริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่ทราบดีว่าพรรคอนาคตใหม่ชอบอ้างความเป็นประชาธิปไตย แต่จริงๆ แล้วอำนาจเด็ดขาดอยู่ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จคนเดียวใช่หรือไม่ หลายครั้งที่พรรคอนาคตใหม่เกิดปัญหาภายในจนแกนนำบางคนลาออก อาทิ การคัดเลือกผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายธนาธร แต่พรรคมักจะออกมาแสดงออกถึงเสรีภาพ ความเป็นประชาธิปไตย ทำให้หลายคนสงสัยว่าจอมปลอมหรือไม่ เพราะขนาดคนเห็นต่างยังถูกไล่บี้จนไม่มีที่ยืนในพรรค

นายธนกร กล่าวอีกว่า เมื่อวันเวลาผ่านไป หลายอย่างก็โผล่ออกมาให้เห็นหลายๆ เรื่อง พี่น้องประชาชนได้เห็นแนวคิดอะไรบางอย่าง ซึ่งตนเชื่อว่าพี่น้องคนไทยทั่วประเทศรับไม่ได้ ขณะเดียวกันก็มีข่าวเป็นระยะว่า การทำงานของส.ส.พรรคอนาคตใหม่เริ่มมีความอึดอัด เพราะทุกเรื่องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายธนาธรเพียงคนเดียว กระบวนการต่างๆ ภายในพรรคจึงถูกมองว่าเป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้น นอกจากนี้ กระบวนการคิดของนายธนาธรค่อนข้างสุดโต่ง ทำให้ส.ส.หลายคนเริ่มจะรับไม่ได้กับพฤติกรรมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนเห็นใจน.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ ที่ยกมือสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 จนถูกขู่ฆ่าและอาจถูกพรรคลงโทษ ทั้งๆ ที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะงบประมาณเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน แม้เป็นฝ่ายค้าน แต่ถ้าเป็นประโยชน์กับประชาชนทั่วประเทศก็สมควรต้องสนับสนุน ดังนั้น ส่วนตัวแล้วขอชื่นชมน.ส.กวินนาถที่เลือกยืนข้างประชาชน

“จุรินทร์”เตรียมนำทัพเอกชนลุย 10 ตลาดส่งออกทั่วโลก

People Unity : “จุรินทร์”เตรียมนำทัพเอกชนลุย 10 ตลาดส่งออกทั่วโลก ติวเข้มกระทรวงพาณิชย์หน่วยงานภาคราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน

วันที่ 25 ต.ค.2562 ตั้งแต่เวลา 8.30-10.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่ 2/2562 วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2562 ณ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดย

นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุม กรอ.พาณิชย์อีกครั้งหนึ่ง ได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างกระทรวงพาณิชย์หน่วยงานภาคราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมผู้ส่งออกสินค้าและอื่นๆวันนี้ประเด็นสำคัญก็คือ การเพิ่มตัวเลขการส่งออก ภายใต้สถานการณ์ที่ได้รับผลกระทบสงครามการค้า Brexit และ เรื่องค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับยุทธศาสตร์เดิมที่กำหนดไว้คือการมุ่งเน้นรักษาตลาดเดิม และขยายเพิ่มเติมตลาดใหม่รวมทั้งฟื้นตลาดเก่าที่เคยมีอยู่แต่สูญเสียไปได้เน้นย้ำเพิ่มเติมลึกลงไปในรายละเอียดของยุทธศาสตร์ในทางปฏิบัติที่จะมุ่งเน้น 5-6 ประเด็นใหญ่

ประเด็นแรกจะคงเดินหน้าการสร้างไทยแบรนด์เพื่อให้มีความเข้มแข็งในตลาดโลกต่อไป อันที่สอง คือ มุ่งเน้นการส่งเสริมภาคบริการใหม่นอกจากที่เคยทำมา เช่น ค้าปลีก โลจิสติกส์และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กีฬา การก่อสร้างตกแต่ง โรงแรมอีคอมเมิร์ซเพิ่มเติม เป็นต้น อันที่สาม คือมุ่งเน้นกระชับการสร้างพันธมิตรเครือข่ายกับสภาธุรกิจเอกชนระหว่างประเทศในภูมิภาคต่างๆถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นและส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกเป็นรูปธรรมได้ชัดเจนโดยเร็วขึ้น และสี่ คือ การเน้นสนับสนุนให้เอสเอ็มอีสามารถที่จะส่งออกได้มากขึ้นผ่านช่องทางต่างๆ อันที่ห้า มุ่งเน้น ให้ทูตพาณิชย์หาลู่ทางเจาะเป็นตลาดในประเทศใหญ่ๆ รายมณฑลเพิ่มตัวเลขการส่งออกแผนการเจาะตลาดประเทศ

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าอย่างน้อยในช่วงระยะเวลาถ้าจากนี้ไปจะบุกตลาดไปด้วยกันทั้งภาครัฐและเอกชนใน 10 ตลาดใหญ่ที่เห็นว่ามีศักยภาพ ประกอบด้วยตลาด จีน อินเดีย ตุรกี เยอรมัน ศรีลังกา บังคลาเทศ ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ อังกฤษ ยุโรป เป็นต้น และสิ่งที่ที่ประชุมนี้มีความเห็นให้ฝ่ายเลขาฯไปทำการบ้านเพิ่มเติมเพื่อการประชุมเที่ยวหน้าคือหนึ่งการทำให้ภูมิภาคอาเซียนการค้าชายแดนของไทยสามารถใช้โลโก้ข้าวอินทรีย์ได้มากขึ้น และจัดทำแผนสนับสนุนเอสเอ็มอีกับสตาร์ทอัพให้เพิ่มตัวเลขการส่งออกในตลาดสำคัญสำคัญต่างๆทั่วโลกได้มากขึ้นกับสามให้ทูตพาณิชย์ไปศึกษากฎเกณฑ์กติกาต่างๆของประเทศสำคัญสำคัญที่ช่วยให้การส่งออกของไทย สามารถได้รับสิทธิพิเศษหรืออัตราภาษีต่ำตามกฎเกณฑ์ที่มีอยู่แล้วเพื่อให้ส่งออกไปในราคาที่แข่งขันกับคู่แข่งได้

“มนัญญา”วอน! สหรัฐฯเคารพกม.ไทย ปมแบน 3 สารพิษเกษตร

People Unity : “มนัญญา”ออกโรงวอน! สหรัฐฯอย่ายัดเยียดในสิ่งที่เราไม่ต้องการ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น ยืนยันสารเคมีพิษทำลายสุขภาพคนไทย เดินเครื่อง อุทัยธานีโมเดล เมืองปลอดสารพิษ สะอาดทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ

วันที่ 25 ต.ค.2562 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตร ณ ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี เพื่อรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน ภายหลังการแบน 3 สารเคมี พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ให้ทุกหน่วยงาน ช่วยเหลือ ดูแล เกษตรกรในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน ซึ่งจะนำร่องที่จังหวัดอุทัยธานี โดยมีเกษตรกร สมาชิกสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดอุทัยธานี รวมไปถึงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล มาชูป้ายสนับสนุนนโยบายการแบนสารเคมีพิษภาคการเกษตร และ มอบดอกกุหลายสีแดง เพื่อให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก พร้อมตะโกนว่า “มนัญญา สู้สู้”

นางสาวมนัญญา กล่าวว่า ต้องการทราบความต้องการของเกษตรกรหลังจากที่เราละ ลด เลิก ใช้สารเคมีต่างๆ ไปแล้ว ซึ่งประเทศไทยเราไม่ต้องการให้มีสารเคมี หรือสารพิษที่ทำลายพี่น้องประชาชน แต่ทุกวันนี้เราต้องอยู่กับมัน เพื่ออะไร แล้วเราจะต้องทำอย่างไรต่อไป อากาศ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นของพี่น้องประชาชน ชาวไทยทุกคน ไม่มีใครมาบั่นทอนสุขภาพเราได้

ส่วนที่สถานทูตอเมริกาจะไม่ยอมให้แบนสารพิษนั้น นางมนัญญา กล่าวว่า “สถานทูตอเมริกา ต้องการให้เราใช้ต่อใช่ไหม เราต้องถามพี่น้องประชาชนคนไทย ว่าเราต้องการใช้หรือไม่ เพราะที่จริงแล้ว ระบบกฎหมายใครกฎหมายมันความต้องการของใครก็ความต้องการของมันอยู่แล้ว ถ้าเราต้องการจะให้อะไรกับใครสักคน เราต้องถามประเทศนั้น ๆ ว่าเขายอมรับหรือไม่ การยัดเยียดในสิ่งที่เราไม่ต้องการ มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น”

ส่วนที่สหรัฐอเมริกากดดันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมติของ คณะกรรมการวัตถุอันตรายหรือไม่นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “มันอยู่ที่เรา ว่าเราจะยอมรับตรงนั้น หรือ ปฏิเสธตรงนั้น เราเดินหน้าในการแบนสาร 3 ตัว เราทำมานานแล้ว ต้องเข้าใจว่าเราทำมาหลายปีแล้ว และเมื่อหลายปีที่ผ่านมาต้องเข้าใจว่าทำไมถึงไม่ประสบความสำเร็จ และตัวดิฉันเอง ใช้เวลาทำ 3 เดือน ณ วันนี้ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ ว่าตัวดิฉันเจออะไรบ้าง ณ วันนี้ ทุกอย่างจะเริ่มเปิดเผยออกมาว่าที่ผ่านมาตัวดิฉันเอง ต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนชาวไทย แต่ตัวดิฉันเองต้องสู้กับอะไร”

ส่วนที่ว่าจะมีการพิจารณาสารทดแทน หรือไม่นั้น นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “คือมันเป็นการพูดเฉย ๆ นะคะ ว่าสารทางเลือกหรือสารทดแทน หรือสารอะไรก็แล้วแต่ เป็นราคาที่สูง จริงๆ แล้วสารพวกนี้อยู่ในท้องตลาดที่เกษตรกรจับต้องได้อยู่แล้ว แต่ทางเลือกของเราต้องการให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ สรรพสิ่งในประเทศไทย สามารถนำมาทำปุ๋ยได้มากมาย นะคะ”

ส่วนจะทำหนังสือชี้แจงทางสหรัฐฯ หรือไม่นั้น นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “ถ้าทางสหรัฐอเมริกา ทำหนังสือมาที่กระทรวงเกษตร เราจะทำหนังสือตอบกลับไป แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นหนังสืออะไรมา เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือตามไลน์ต่างๆ แต่ที่ส่งหนังสือเป็นทางการ ที่จะส่งมาที่กระทรวงเกษตร ยังไม่เห็น เรามีเหตุผลอยู่แล้วว่าทำไมต้องแบน”

เป็นที่คาดหมายหรือไม่ที่สหรัฐอเมริกา อาจจะลดการนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศไทย นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “อันนี้ก็ต้องดูต่อไปว่าหลังจากนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น การจะไปคาดการณ์ล่วงหน้าในสิ่งที่ยังไม่เกิด จะกลายเป็นการสร้างให้เกษตรกรตื่นกลัว หรือจะเป็นการเข้าทาง คือทุกวันนี้เราไม่ได้สู้กับเกษตรกร เกษตรกรทุกคนพร้อมแล้วที่จะ ลด ละ เลิก สารเคมี ซึ่งสารพวกนี้ไม่ได้เป็นผลดีทั้งผู้บริโภค และผู้ที่ฉีดหรือเกษตรกรอยู่แล้ว จริงๆ เรามุ่งหวังจะรักษาสุขภาพชาวไทย เราต้องการมีเกษตรกรที่น่ารักและมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ในประเทศไทยเรามากกว่า เราจะใช้การตลาดนำผลผลิตอยู่แล้ว”

สำหรับการมาประชุมที่ จ.อุทัยธานี หลังจากการแบน 3 สารเคมี นี้จะดำเนินการอะไรบ้าง นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “เราจะให้จังหวัดอุทัยธานี เป็นเมืองปลอดสารพิษ เป็นจังหวัดแรก ๆ ที่ปลอดภัย และปลอดสารเคมี เราจะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใครมาอุทัยธานี ดิน น้ำ ลม ไฟ ต้องดี ต้องสะอาด ไม่ใช่แค่จังหวัดอุทัยธานี ตัวดิฉันเองจะไปให้ทุกจังหวัดเพื่อจะสร้างโมเดลแบบนี้ให้กับทุกจังหวัด เพียงแต่ว่าจังหวัดนี้เป็นจังหวัดบ้านเกิด เราก็อยากทำอะไรให้กับบ้านเกิดเมืองนอนของเรา เราเติบโตมาจากที่นี่ และเราก็เติบโตมาจากประเทศไทย เพราะเราก็นเป็นคนไทย”

“ธนกร”ป้อง”บิ๊กตู่” ยัน”ชิม ช้อป ใช้”ช่วยพยุงเศรษฐกิจ

People Unity : “ธนกร”ป้อง”บิ๊กตู่” ยัน”ชิม ช้อป ใช้”ช่วยพยุงเศรษฐกิจ จวก”พิชัย”ดีแต่พูด ประชาชนจำไม่ได้ด้วยซำ้เคยสร้างผลงานอะไรเอาไว้ ชูใช้เงินกระเป๋า 2 ถึง 5 หมื่น รับแคชแบ็กกลับถึง 8,500 บาท

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่าโครงการชิม ช้อป ใช้ เฟส2 ไม่ได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อ้างว่าอาบน้ำร้อนมาก่อน แต่คิดได้แค่แจกเงินว่า ต้องทำความเข้าใจกับนายพิชัยก่อนว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกมามีหลายมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ เป็นมาตรการหนึ่งเท่านั้น เป็นการทำงานเชิงรุกของภาครัฐที่ประเมินสถานการณ์และเตรียมการรับมือเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง จึงมีการวางแผนและออกแบบมาตรการพยุงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและทันท่วงที โดยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศผ่านการให้แรงจูงใจ ดึงผู้มีกำลังซื้อออกมาใช้จ่ายในพื้นที่ต่างๆ เกิดความคึกคักในการจับจ่าย กระจายเม็ดเงินไปยังเศรษฐกิจฐานราก และการจ้างงานต่อเนื่อง ไม่เพียงใช้แล้วหมดไป ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณในการสร้างแรงจูงใจจะคุ้มค่าเพราะก่อให้เกิด Multiplier Effect จากการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเศรษฐกิจไทยโดยในช่วงที่ผ่านมา

นายธนกร กล่าวอีกว่า นายพิชัยเป็นอดีตรัฐมนตรีที่ไม่เคยมีผลงานอะไรเลย เมื่อเทียบกับพล.อ.ประยุทธ์แล้วประชาชนนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่านายพิชัยเป็นใคร แต่ประชาชนทั่วประเทศรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของพล.อ.ประยุทธ์ในการทำงานให้กับบ้านเมือง ที่ผ่านมามีผลงานมากมาย แต่นายพิชัยทำได้เพียงรับใช้นายทุนเท่านั้น อย่างอื่นตนนึกไม่ออกเลย อย่างไรก็ตาม มาตรการชิม ช้อป ใช้ เฟส2ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ซึ่งในส่วนกระเป๋า2นั้น หากใช้ 30,000 บาทจะได้แคชแบ็กถึง 15 เปอร์เซนต์ แต่หากใช้300,00บาทขึ้นไป จะได้แคชแบ็กถึง 20 เปอร์เซนต์ พูดง่ายๆ คือ หากใช้ถึง 50,000 บาทจะได้เงินแคชแบ็กคืนมาถึง 8,500 บาท ทั้งนี้ สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ทวิตเตอร์ Pichai Naripthaphan/พิชัย นริพทะพันธุ์ ระบุว่า การแจกเงินชิมช้อปใช้ ซึ่งประชาชนนำไปใช้แล้วก็หมดไป ไม่ได้สร้างความยั่งยืนทางการพัฒนา หรือ ความยั่งยืนทางรายได้ และที่สำคัญไม่ได้แก้ปัญหาการว่างงานที่จะเกิดขึ้นรวมกว่า 5 แสนคนในปีหน้าได้ นักศึกษาที่จบใหม่จะตกงานกันอย่างมาก ทั้งนี้มาจากการลงทุนที่หดหายมากว่า 5 ปี

“บิ๊กตู่”ถามกลับ”สมพงษ์”สั่งรัฐบาลทำงบฯใหม่ได้หรือ?

People Unity : “บิ๊กตู่”เข้าสภาฯพิจารณงบฯวันที่สองอย่างอย่างอารมณ์ดีรับเครียดอะไรเลย หงุดหงิดนิดหน่ือยถามกลับ”สมพงษ์”สั่งรัฐบาลทำงบฯใหม่ได้หรือ

วันที่ 18 ต.ค.2562 ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 โดยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีถึงภาพรวมการอภิปรายเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า ก็ไม่มีอะไร วันนี้ก็ให้เกียรติสภา ให้เกียรติผู้แทน ไม่ได้เครียดอะไรเลย เมื่อถามว่ากังวลถึงผลโหวตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ไม่มีหรอก จะมีอะไรละ

เมื่อถามว่าจากการฟังฝ่ายค้านอภิปรายร่างงบประมาณมีประเด็นอะไรจะนำไปปรับปรุงร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องของงบประมาณตนดูมาแล้ว ซึ่งต้องรอในวาระที่ 2 ที่กรรมาธิการงบประมาณจะพิจารณาอีก

เมื่อถามอีกว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านระบุให้รัฐบาลไปร่างพ.ร.บ.งบประมาณมาใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวพร้อมมีสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยว่า “เขาสั่งได้เหรอ”

เมื่อถามว่าระหว่างที่ชี้แจงการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อวันที่ 17 ต.ค. เหมือนนายกฯจะมีอารมณ์หงุดหงิด พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่าก็เป็นทหารเก่าไง ต้องการพูดให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา รู้สึกว่าเราก็ห่วงใยชีวิตของเขา เพราะเจ้าหน้าที่ก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทุกวัน เบี้ยเลี้ยง เงินเดือน ก็มีเท่านั้น ไม่ได้มากมายอะไร แต่รักษาบ้านเมืองให้อยู่อย่างสุขสงบประชาชนปลอดภัย แต่เขาเองก็อันตรายบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก แล้วเราจะไปพูดให้เสียหายเสียกำลังใจไม่ได้ อย่างอื่นไม่ได้มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่าคิดว่าฝ่ายค้านจะเข้าใจสิ่งที่ชี้แจงไปหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ต้องไปถามเขาสิจ๊ะ”

“บิ๊กป้อม”ถก กกท.และสมาคมกีฬาฯ ตั้งเป้าเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์

People Unity : พล.อ.ประวิตรเรียกประชุม มอบนโยบาย กกท.และสมาคมกีฬาฯมุ่งความเป็นเลิศสู่ระดับนานาชาติ ตั้งเป้าเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์

เมื่อ 28 ต.ค.2562 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าเวลา 11.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการดำเนินงานด้านกีฬาร่วมกันระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทยกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยโดยมี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาเข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ

พล.อ.ประวิตร กล่าวมอบนโยบายโดยเน้นย้ำให้สมาคมกีฬาฯ ซึ่งมีถึง 84 สมาคม จะต้องนำนโยบายด้านการกีฬาเพื่อไปใช้เป็นแนวทางกำหนดยุทธศาสตร์และแผนงานร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทยทั้งนี้การกีฬาแห่งประเทศไทยถือเป็นองค์กรหลักในการ บูรณาการขับเคลื่อนเพื่อความเป็นเลิศสู่ระดับนานาชาติ ต่อยอดสู่ความเป็นอาชีพและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ จะต้องมีแผนงานโครงการสอดคล้อง เชื่อมโยงกับแผนระดับชาติมุ่งเน้นด้านโครงสร้างและพัฒนาศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติที่เป็นมาตรฐาน มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ รวมถึงการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา พัฒนาบุคลากรการจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ให้เพียงพอและทันสมัย

พล.อ.ประวิตร ขอให้รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาฯ กำชับและกำกับดูแล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนงานในความรับผิดชอบไปสู่เป้าหมายที่กำหนดตามนโยบายของรัฐบาล อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อก้าวสู่เวทีระดับโลก และตั้งเป้าหมายเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งนี้ให้ได้

Verified by ExactMetrics