วันที่ 18 กรกฎาคม 2025

“สุวิทย์” เดินหน้าโครงการสร้างประสบการณ์จริงนอกห้องเรียน เปิดตัวบัณฑิตอาสาที่อุดรธานี

People Unity News : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จับมือสภาอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยในพื้นที่ ลุยบัณฑิตอาสาอุดรธานี นำร่อง ”บ้านห้วยสำราญ” แหล่งปลูกไม้ดอกใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน “ยกระดับเกษตรพื้นบ้าน สู่เกษตรปลอดสาร มาตรฐาน GAP”

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) ลงพื้นที่เพื่อประชุม “บทบาทของมหาวิทยาลัยกับการพัฒนาเชิงพื้นที่ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม” ร่วมกับมหาวิทยาลัย ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้นโยบายและชี้แจงถึงความจำเป็นในการปลดล็อคมหาวิทยาลัย เพื่อปรับลดข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปอุดมศึกษาและพัฒนามหาวิทยาลัยตามกลุ่มยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1) มหาวิทยาลัยที่จะต้องไปแข่งขันระดับโลก 2) มหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม และ 3) มหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการตอบโจทย์และพัฒนาพื้นที่ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยจะต้องเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อน BCG Economic Model โดยอาศัยความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลายทางวัฒนธรรมในพื้นที่ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับงบประมาณทุนวิจัยของมหาวิทยาลัย และโครงการต่างๆของ อว. ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

จากนั้น ดร.สุวิทย์ ได้ประกาศเจตนารมณ์การสร้างคนผ่านโครงการยุวชนสร้างชาติ ว่า โครงการยุวชนสร้างชาติ เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาประเทศและเป็นโครงการสำคัญในการปฏิรูปประเทศไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ด้วยการใช้พลังเยาวชนไทยเป็นกุญแจหลักในการขับเคลื่อนประเทศ พร้อมทั้งปฏิรูประบบการเรียนรู้สร้างประสบการณ์จริงนอกห้องเรียน เปิดโอกาสให้ยุวชนนำความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีไปพัฒนาพื้นที่ชนบท พร้อมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์และผู้ประกอบการยุคใหม่อีกด้วย โครงการยุวชนสร้างชาติ ประกอบด้วย 3 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการยุวชนอาสา : สำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 กลุ่มละ 8-10 คนแบบคละศาสตร์ (วิทย์-สังคม) เรียนรู้และพักอาศัยในชุมชนเป็นเวลา 1 ภาคเรียน (4-5 เดือน) และได้รับหน่วยกิตเทียบเท่าการเรียนในชั้นเรียนทั้งภาคเรียน 2.โครงการบัณฑิตอาสา : สำหรับบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 3 ปี กลุ่มละ 8-10 คนแบบคละศาสตร์ (วิทย์-สังคม) ลงพื้นที่พักอาศัยและทำโครงการในชุมชนเป็นระยะเวลา 12 เดือน และ 3.โครงการกองทุนยุวสตาร์ทอัพ : สำหรับนักศึกษาและบัณฑิตจบใหม่ที่มีความสนใจเป็นผู้ประกอบการ และต้องการรวมกลุ่มกันจัดตั้งสตาร์ทอัพ (Startup)

ต่อมา ดร.สุวิทย์ ได้นำคณะผู้บริหาร อว. ลงพื้นที่สู่เส้นทางยุวชนสร้างชาติบัณฑิตอาสาอุดรธานี พื้นที่นำร่องบ้านห้วยสำราญแหล่งปลูกไม้ดอกใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ต.หนองไฮ อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ภายใต้กิจกรรม “ยกระดับเกษตรพื้นบ้าน สู่เกษตรปลอดสาร มาตรฐาน GAP” ซึ่งบ้านห้วยสำราญ เป็นแหล่งผลิตไม้ดอกเพื่อการท่องเที่ยว ซื้อขายผ่านพ่อค้าคนกลาง แต่มีปัญหาพันธุ์ไม้ดอกกลายพันธุ์ โรคโคนเน่า ใบแห้ง การระบาดของแมลงเพลี้ยไฟ ขาดแรงงาน ระบบน้ำในแปลงไม่ทั่วถึง มีการใช้สารกำจัดศัตรูพืชเป็นจำนวนมากและเกษตรกรไม่ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบของการใช้สารกำจัดศัตรูพืช ทั้งยังมีต้นทุนการผลิตสูง ถูกกดราคา ขาดการวางบแผนการผลิต สินค้าล้นตลาด รวมกลุ่มไม่ได้ ตลาดชุมชนไม่เป็นระบบ มีปัญหาด้านการจัดการขยะมูลฝอย

ดร.สุวิทย์ เปิดเผยว่าหลังการเยี่ยมชมว่า บ้านห้วยสำราญจะเป็นโครงการนำร่องที่จะนำบัณฑิตอาสาลงมาแก้ปัญหา อาทิ โครงการส่งเสริมการเพิ่มผลผลิต การแปรรูป การตลาด และยกระดับภาคเกษตรสู่เกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับวิสาหกิจชุมชน เป็นต้น โดยทุกโครงการจะมุ่งเน้นการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างเป็นระบบภายใต้ศักยภาพและปัญหาที่สำคัญของแต่ละพื้นที่ เน้นกระบวนการการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นสำคัญ โดยที่บ้านห้วยสำราญ อว.จะร่วมกับสภาอุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัยพื้นที่ขับเคลื่อนการทำงานในพื้นที่ โดยมีบัณฑิตอาสาเป็นฟันเฟืองในการทำงานเพื่อพัฒนาท้องถิ่น

ด้าน นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) และประธานสถาบันอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตร (สอก.) กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็น Service Organization เพื่อให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย และเชื่อมโยงความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ด้วยสภาฯเรามีเครือข่ายเชื่อมโยง 45 กลุ่มอุตสาหกรรม  12 คลัสเตอร์ และสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ครอบคลุมทั่วประเทศ ที่ให้บริการผู้ประกอบการสมาชิกของสภาอุตสาหกรรม ทั้งบริษัทใหญ่ และ SME นอกจากนี้ในส่วนกลาง เรายังมีสถาบันต่างๆให้บริการช่วยเหลือผู้ประกอบการเฉพาะด้านด้วย ในส่วนของตนจะดูแลอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตร ที่ช่วยเหลือสนับสนุนทั้งนโยบายภาครัฐ และแนวทางตลาดของเอกชน ทำงานบูรณาการงานจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการสภาอุตสาหกรรมฯ  ที่ผ่านมาเราได้ทำงานช่วยเหลือพัฒนาผู้ประกอบการภาคเกษตร พัฒนาสู่การเกษตรนักธุรกิจเกษตร ยกระดับการเกษตร ให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม เชื่อมโยงภาคส่วนต่างๆ อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร ใช้แนวทางการตลาดนำการผลิต เชื่อมโยงความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพร ให้กับการเพาะปลูกของเกษตรกร รวมทั้งการส่งเสริมการตลาดทั้งในประเทศ และการส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการซึ่งการดำเนินงานโครงการยุวชนสร้างชาตินี้ ที่มุ่งเน้นการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง เพื่อประโยชน์แก่พื้นที่นี้ เป็นแนวคิดที่เยี่ยมมาก และสามารถทำให้เห็นผลได้จริงต่อยอดให้ยั่งยืนได้  ทางสถาบันอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก็พร้อมและยินดีที่จะสนับสนุนให้เกินการพัฒนายกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ เราจึงได้เสนอ การพัฒนายกระดับเกษตรพื้นบ้าน สู่เกษตรปลอดสาร มาตรฐาน GAP ในพื้นที่บ้านห้วยสำราญนี้ เพื่อพัฒนาสร้างรายได้ และแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมี สร้างความรู้ สร้างโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปลดล๊อคการตลาดที่ผูกขาด เชื่อมจากฟาร์มไปสู่ผู้บริโภค เรายินดีและพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานครั้งนี้ ร่วมสร้างความเข้มแข็ง สร้างความเติบโต พัฒนาสู่ความยั่งยืน

โฆษณา

“ประยุทธ์” แจงสภา ซื้อขายที่ดินบิดา-โครงการศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

People Unity News : นายกรัฐมนตรียืนยัน การซื้อขายที่ดินในครอบครอง ดำเนินการตามกฎหมายเสียภาษีถูกต้อง

เมื่อเย็นวานนี้ (24 ก.พ.2563) เวลา 17.20 น. ณ อาคารรัฐสภา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงกรณีการซื้อขายที่ดินของบิดาว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นโฉนดตั้งแต่ปี 2482 และเมื่อปี 2495 ก็เป็นที่ดินของครอบครัว จากนั้นก็เป็นมรดกตกทอดมาถึงบิดาเมื่อปี 2535 และบิดาได้ขายที่ดินจำนวน 50 ไร่ เมื่อปี 2556 ซึ่งขณะนั้นตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งที่ดินดังกล่าวไม่ใช่บ่อปลา ตามที่นำไปบิดเบือน ส่วนที่เห็นเป็นบ่อน้ำคือลำรางสาธารณะ “คลองหนามแดง” ส่วนตรงกลางเป็นที่ดอนสำหรับปลูกพืชเกษตรต่างๆ  ทราบว่า บิดาได้ติดป้ายประกาศขายตั้งแต่ปี 2554 – 2555 ซึ่งมีหลายรายสนใจติดต่อ แต่ในสุดท้ายก็ขายให้บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ขณะนั้นตนเองดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ไม่รู้ว่าเป็นบริษัทของใคร ไม่รู้จักใครเป็นพิเศษส่วนตัว เป็นข้อตกลงระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ ยืนยันว่า ไม่สามารถเอื้อประโยชน์อะไรให้ใครได้ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งใด เวลาใด เมื่อปี 2556 ราคาตลาดที่ดินที่ประเมินไว้อยู่ที่ 609 ล้านบาท และ ปี 2562 ราคาก็ขึ้นมาที่ 812 ล้านบาท การซื้อ-ขายก็ดำเนินไปตามขั้นตอน รวมทั้งการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งตนเองได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ตั้งแต่ยังดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก และได้แจ้งเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 เพียงแต่  ป.ป.ช. ไม่ทราบว่าบริษัทจะซื้อที่ดินและจะนำไปพัฒนาเพื่ออะไร เพราะเป็นสิทธิของบริษัทที่ซื้อไป

สำหรับประเด็นการเปลี่ยนแปลงโครงการศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นั้น มีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2539 แต่พบปัญหาติดขัดในข้อกฎหมายที่ทางราชการออกมาภายหลัง คือ กฎหมายควบคุมการก่อสร้าง พ.ศ.2542 และเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดิน พ.ศ.2546 ซึ่งห้ามก่อสร้างอาคารสูงเกิน 23 เมตร ซึ่งสัญญามีทั้งหมด 3 ฉบับ สัญญาฉบับที่ 2 ให้สร้างตึกได้สร้างโรงแรมได้  แต่เมื่อมีกฎหมายออกมาภายหลังทำให้สร้างไม่ได้ จึงทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่ 2 ได้ จึงต้องเดินหน้าสัญญาที่ 3 เพื่อหาทางแก้ไข ซึ่งได้ชี้แจงกับอัยการรวม 10 ข้อแล้ว และอัยการมีมติเห็นชอบไม่มีข้อทักท้วง รัฐบาลจึงจำเป็นต้องดำเนินการตามการประกาศใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพฯ ที่เป็นการดำเนินการเมื่อปี 2556 ซึ่งเป็นเรื่องก่อนที่รัฐบาลที่แล้วจะเข้ามาทำงานเสียอีก ทั้งนี้ รายละเอียด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะได้ชี้แจงเพิ่มเติมในส่วนของกฎหมายและการปฏิบัติต่อไป

โฆษณา

“ประยุทธ์” แจงสภา ชิม ช้อป ใช้ เป็นมาตรการระยะสั้น

People Unity News : นายกรัฐมนตรีแจงชิม ช้อป ใช้ เป็นมาตรการระยะสั้น ชูเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อเตรียมความพร้อมคนไทยสู่สังคมไร้เงินสด

เมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.2563)  เวลา 22.50 น. ณ อาคารรัฐสภา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงแนวทางการบริหารราชการของรัฐบาลด้านเศรษฐกิจที่มีภาวะกดดันจากปัจจัยหลายด้าน และปัญหาความเหลื่อมล้ำว่า ทุกข้อเสนอแนะรัฐบาลจากทุกภาคส่วนในด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีพร้อมนำไปพิจารณา แต่สิ่งสำคัญก็คือวิธีการ กฎหมาย และกลไกต่างๆ ยังมีปัญหาอยู่พอสมควร ขณะนี้กำลังดำเนินการในเรื่องของ East West  Corridor และ North–South Corridor เพื่อประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง แต่ถ้าหากเราแตกความสามัคคีและไม่พร้อม ประเทศต่างๆก็จะไปใช้เส้นทางอื่นๆแทน วันนี้ประเทศไทยก็มีการเชื่อมโยงเศรษฐกิจไปยังประเทศต่างๆ ทั้งจาก ACMECS และ CLMVT  เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าชายแดน รวมถึงการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างกัน รวมทั้ง การใช้ Thailand-Plus- One เป็นศูนย์รวมกระจายสินค้า

สำหรับมาตรการชิม ช้อป ใช้ นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่าเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น จะได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจ้งรายละเอียดอีกครั้ง รวมไปถึงเรื่องของพลังงาน ไฟฟ้า น้ำมัน ภาษี ก็ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงต่อไป

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการเตรียมความพร้อม ซึ่งการใช้  G-Wallet หรือกระเป๋าเงินออนไลน์ ในระยะเริ่มแรกอาจจะยากบ้าง แต่เมื่อใช้บ่อยก็จะทำให้ทำได้คล่องขึ้น ตรงนี้จะเป็นการสร้างแรงจูงใจเตรียมการเข้าสู่สังคมไร้เงินสดหรือการใช้ดิจิทัลเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวก็เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก

โฆษณา

“บิ๊กตู่” เผยแนวทางการทำงานรัฐบาลปี 63 เร่งเดินหน้าเพื่อประชาชน

People Unity News : พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ย้ำแนวทางการทำงานปี 2563 เร่งเดินหน้าเพื่อประชาชน สั่งติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงแก่สื่อมวลชนถึงแนวทางในการทำงานในปี 2563 ว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าทำงานมุ่งตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การยึดหลักกฎหมาย หลักการงบประมาณ โดยได้มีการกำหนดมาตรการเสริมต่างๆ ซึ่งขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สำหรับเศรษฐกิจไทยที่มีการประเมินนั้น อาจประเมินได้ทั้งมากและน้อยนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ หลายอย่างขึ้นอยู่กับกฎกติกา รัฐบาลต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ กฎหมายให้ถูกต้อง ส่วนการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยมาโดยตลอด ทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีการติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งหามาตรการเสริมเข้ามาช่วยซึ่งบางอย่างก็ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่บางอย่างก็อยู่ระหว่างดำเนินการ

โฆษณา

“บิ๊กตู่” มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2563 “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”

People Unity News : “บิ๊กตู่” มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบคำขวัญ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ว่า  “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”

โฆษณา

“เทพไท”เย้ย”บิ๊กตู่”คุมตร.เอง โยกย้ายยัง 3 ส.”เส้น-สาย-ส่วย”

People Unity News : “เทพไท”อัด โยกย้ายตร.ไม่เป็นธรรม แม้ “บิ๊กตู่”มาคุมเอง หนีไม่พ้นค่าของคนอยู่ที่คนของใครถ้าไม่อยู่ในระบบ 3 ส.”เส้น-สาย-ส่วย” ก็ไม่ได้รับการดูแล

วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ facebook live จากสภากาแฟ ร้านป้าเผี้ยน ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เรื่อง การโยกย้ายตำรวจประจำปีนี้ ว่า การโยกย้ายปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตำแหน่งประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(กตร.) จากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็น พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรีเอง แต่ระบบการโยกย้ายของตำรวจก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม วงจรอุบาทว์ก็ยังไม่สูญหายไป ถ้าตราบใดยังไม่มีการปฎิรูปตำรวจอย่างจริงจัง คำว่า “ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร” ยังใช้ได้มาทุกยุคทุกสมัย

นายเทพไท กล่าวต่อว่า สำหรับการโยกย้ายประจำปีนี้ กระแสข่าวการซื้อขายตำแหน่งมีลดน้อยลง แต่ระบบเด็กเส้น เด็กนายยังคงมีอยู่ให้เห็นในหลายตำแหน่ง ตำรวจคนใดไม่อยู่ระบบ 3 ส. คือ เส้น-สาย-ส่วย ก็จะไม่ได้รับการดูแล โยกย้ายไปสู่ตำแหน่งที่ดีกว่า ตำรวจที่ไม่มีเส้นว่าเป็นเด็กของใคร ไม่มีสายงานที่ผู้บังคับบัญชาช่วยเหลือ ไม่มีการส่งส่วยให้กับนาย ก็ไม่มีโอกาสเจริญเติบโตในหน้าที่ราชการตำรวจ เป็นสัจธรรมในวงการตำรวจจริง แม้มีการเรียกร้องให้มีการปฎิรูปตำรวจโดยใช้มาตรา44 ตามคำสังของ คสช. แต่ก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง อย่าหวังว่ายุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะปฎิรูปตำรวจได้สำเร็จ

นายเทพไท กล่าวต่อว่าถ้าดูจากคำสั่งบัญชีโยกย้ายตำรวจระดับ รอง ผบก.-ผกก.ประจำปีนี้แล้ว ยังคงมีปัญหาอยู่ในหลายตำแหน่ง ที่โยกย้ายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอยกตัวอย่าง คำสั่ง ตร.ที่ 675/2562 ลำดับที่104 กรณี พ.ต.อ.คมสัน พฤศวานิช ผกก.สภ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ย้ายไปเป็น ผกก.สภ.กะเปอร์ จ.ระนอง ซึ่งเป็นการโยกย้ายลดระดับของนายตำรวจคนนี้ลงไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่เป็นตำรวจน้ำดี มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ได้รับโล่รางวัล และเกียรติบัตรในการทำงานมากมาย เคยเป็น ผกก.สภ.ทุ่งสง ได้พัฒนาโรงพักเป็นโรงพักดีเด่นระดับประเทศ เคยได้รับคำชมจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.คนปัจจุบัน และผู้บังคัญบัญชาทุกระดับที่ได้มาเยี่ยมชม หลังจากนั้นก็ถูกย้ายจาก สภ.ทุ่งสง ซึ่งเป็นโรงพักชั้นหนึ่ง ไปอยู่ สภ.บางขัน โรงพักชั้น3 มาปีนี้ถูกย้ายไปอยู่ สภ.กะเปอร์ จ.ระนอง ไกลจากพื้นที่เดิมมาก ทำให้เขามีปัญหาการเดินทางหรือดูแลครอบครัว และลูกยังเล็กต้องเรียนหนังสือที่ จ.นครศรีธรรมราช การโยกย้ายในครั้งนี้ถ้าไม่ได้รับการเยียวยา ครั้งหน้ามีโอกาสถูกย้ายไปถึงพม่าอย่างแน่นอน

“ผมจึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ตำรวจอีกหลายคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ในการโยกย้ายประจำปีนี้ ซึ่งเห็นได้จาก มีการออกคำสั่งถอน-แต่งตั้งนายตำรวจ18นาย ตามคำสั่ง ตร.ที่ 686/2562 ลงวันที่29พฤศจิกายน 2562 จึงเรียนมายัง พล.อประยุทธในฐานะประธาน กตร. และพล.ต.อ.จักรทิพย์ โปรดพิจารณาดำเนินการแก้ไขและทบทวนคำสั่งโดยด่วนหากไม่มีการพิจารณาดำเนินการใดๆผมจะนำไปตั้งกระทู้ถามสดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป” นายเทพไท กล่าว

เผย”บิ๊กตู่”สั่ง”ครม.”เปิดหน้าตัก โชว์ผลงานให้ปชช.รับรู้

People Unity News : โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย “บิ๊กตู่” สั่งทุกกระทรวงรวบรวมข้อมูล ก่อนนำครม.แถลงผลงานครบ 6 เดือน กำชับทีมโฆษกเพิ่มการรับรู้ประชาชน

วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ได้มีการประชุมโฆษกกระทรวงครั้งที่ 1/2562 ตามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการโฆษกกระทรวง ที่นายกรัฐมนตรีลงนามเอาไว้เมื่อวันที่ 16 ก.ย.เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน ซึ่งนายกฯอยากให้แต่ละกระทรวงเอาผลงานของตัวเองออกมา โดยสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายเลขานุการ จะรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ เพื่อที่จะเตรียมสำหรับการแถลงผลงาน 6 เดือนต่อรัฐสภา รวมถึงที่จะนำเสนอให้ประชาชนรับทราบว่า ในแต่ละกระทรวงทำอะไรไปบ้าง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างไร

โดยจะแบ่งหมวดหมู่ อาทิ ด้านสังคม เศรษฐกิจ สวัสดิการของประชาชน ซึ่งหลังจากได้ข้อมูลจากแต่ละกระทรวงแล้วจะมาจัดกลุ่มและรูปแบบในการนำเสนอ เพื่อนำเสนอในช่องทางที่ตรงกลุ่มเป้าหมายต่อไป ส่วนรูปแบบอาจจะมีการให้นายกฯ กับรองนายกฯ แถลงเหมือนในอดีต และอาจจะมีอินโฟกราฟฟิก คลิปวิดีโอ รูปเล่ม ประกอบการแถลงด้วย ซึ่งตอนนี้รัฐบาลทำงานผ่านมา 4 เดือน แต่ละกระทรวงเริ่มมีผลงานออกมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม การแถลงผลงานต่อรัฐสภา จะใช้นโยบายเร่งด่วน 12 ด้าน ที่ได้แถลงต่อรัฐสภาเอาไว้ โดยจะให้แต่ละกระทรวงจะเติมเข้ามาด้วย ซึ่งรัฐบาลจะทำงานครบ 6 เดือน ในกลางเดือน ม.ค.63 ส่วนจะแถลงต่อรัฐสภาเมื่อไรยังไม่ได้กำหนด

นางนฤมล กล่าวว่า นอกจากนี้ นายกฯกำชับให้เพิ่มการประชาสัมพันธ์ เพิ่มการรับรู้ประชาชนให้มากขึ้น และประชาชนเข้าใจง่ายว่าเราทำอะไรไปบ้าง และจะอะไรบ้าง

“สุริยะ”มั่นใจมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายถูกต้องตามกฎหมายไร้ปัญหา

People Unity News : “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ลั่นมั่นใจมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง ยันไม่ได้เข้าใจผิดตามที่”อนุทิน”กล่าวอ้าง

วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมขอยืนยันว่ามติการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ที่มีตนเป็นประธานเมื่อวันที่ 27 ต.ต. ที่ผ่านมา ถือเป็นมติที่ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย และไม่ได้เข้าใจผิดตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุขได้กล่าวอ้าง เนื่องจากได้ตรวจสอบจากฝ่ายกฏหมายที่เข้าร่วมประชุมในวันดังกล่าวแล้ว ว่าที่ประชุมฯได้ปฎิบัติตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายทุกอย่าง

“การประชุมมีมติและถูกต้องอย่างแน่นอน และไม่ได้เข้าใจผิดอย่างที่มีการกล่าวถึง เพราะได้ตรวจสอบจากฝ่ายกฏหมายที่เข้าร่วมประชุมในวันดังกล่าวแล้ว ว่าที่ประชุมฯได้ปฎิบัติตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายทุกอย่างแล้ว อย่างไรก็ตามผมขอยืนยันอีกครั้งว่ามติดังกล่าวถูกต้อง” นายสุริยะ กล่าวและว่า

สำหรับมติ คณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ที่มีตนเป็นประธานเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้กำหนดวัตถุอันตรายพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้กำหนดระยะเวลาบังคับใช้ เลื่อนจาก 1 ธ.ค.62 เป็น 1 มิ.ย. 63 ส่วนวัตถุอันตรายไกลโฟเซต ให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พ.ค.61พร้อมทั้งมอบหมายให้ กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำมาตรการรองรับในการหาสารทดแทน หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสม รวมถึงลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไป และให้นำเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาภายใน 4 เดือน นับจากวันที่มีมติ

โดยก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ย้ำว่าได้คุยกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แล้ว ซึ่งนายสุริยะเข้าใจว่า การที่พูดออกไปโดยไม่มีใครโต้แย้ง สามารถเป็นมติได้ และอาจไม่สามารถใช้ได้ในยุคสมัยนี้ ซึ่งได้เสนอไปยังนายสุริยะแล้วว่าเพื่อความชัดเจน ต้องเปิดให้มีการโหวต ย้ำว่าประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาต้องโหวตให้ชัดเจน

ด้านนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านการคอรัปชั่น ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตราย ให้เลื่อนการแบน 2 สารพิษออกไปอีก 6 เดือน และอีกหนึ่งสารพิษให้ใช้ต่อไปได้ว่า “ชัดเจนแล้วที่แท้เป็นนโยบายของรัฐบาล..นี่เอง”

“นิพนธ์”ย้ำประปานครหลวงต้องเป็นเลิศทั้งคุณภาพและบริการ

People Unity News : “นิพนธ์”ย้ำประปานครหลวงต้องเป็นเลิศทั้งคุณภาพและบริการ สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โวกทม. ปริมณฑลมีน้ำใช้ไม่ขาด วอนสังคมใช้น้ำประหยัดรู้ค่า เหตุปีนี้น้ำต้นทุนน้อยกว่าปกติ

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เป็นประธานในการเปิดงาน “สานสัมพันธ์เพื่อความยั่งยืน” และได้ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “บริการสาธารณะ พัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน” โดยการประปานครหลวง(กปน.)

นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า  หน่วยงานที่เกี่ยวกับการบริการสาธารณะไม่ว่าจะเป็นน้ำ ไฟฟ้า รวมถึงการจัดการน้ำเสียอยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย มีการมอบนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายหลักของกระทรวงมหาดไทยในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ซึ่งการจัดงาน “สานสัมพันธ์เพื่อความยั่งยืน”  ของการประปานครหลวง (กปน. )ในวันนี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชนผู้บริโภคได้เข้าถึงการบริการสาธารณะได้อย่างเท่าเทียม  และมีแระสิทธิภาพ ปัจจุบันการประปานครหลวง ได้นพเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ใช้น้ำประปามาก ท่านเพียงแค่โหลดแอพพลิเคชั่นในมือถือ พี่น้องประชาชนก็สามารถตรวจเช็คการให้บริการทุกระดับของการประปานครหลวงได้ เป็นการอำนวยความสะดวกที่การประปานครหลวงนำเทคโนโลยีมาให้บริการพี่น้องประชาชน จึงขอให้ความมั่นใจ กับประชาชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ปีนี้การประปานครหลวงสามารถให้บริการพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้โดยไม่ขาดแคลนแน่นอน แต่ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาน ขอให้ร่วมกันประหยัดทรัพยากรน้ำ และใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เนื่องจากปี้นี้เรามีปริมาณน้ำต้นทุน น้อยกว่าปีที่ผ่านมา จึงขอความร่วมมือให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำอย่างประหยัดและเห็นคุณค่าของทรัพยากรน้ำด้วย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า  ในวันนี้การประปานครหลวงใช้หลักธรรมาภิบาบในการบริหารจัดการ โปร่งใส ตรวจสอบได้เป็นไปตามหลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี และเรายังนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆเข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกแล้ว นอกจากนี้ในอนาคตการประปานครหลวงมีแผนงานที่จะขยายการลงทุนในระยะที่ 9 เพิ่มศักยภาพการลำเลียงน้ำดิบนำมาเพื่อผลิตน้ำประปาให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกกว่า 8 แสนล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ภายในปี 2564 เพื่อเชื่อมโยงการใช้น้ำของพื้นที่กรุงเทพฯทั้งจากฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกและเพื่อเป็นการรองรับการเจริญและจำนวนผู้ใช้น้ำเพื่อให้ครอบคลุมและให้บริการมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

ขอกลับไปอยู่กับประชาชน! “ธนาธร” แถลงลาออก กมธ.งบฯ

People Unity News : ขอกลับไปอยู่กับประชาชน! “ธนาธร” แถลงลาออก กมธ.งบฯ – เดินหน้ารณรงค์ ร่าง พ.ร.บ. สำคัญ – พบปะรับฟังปัญหา ปชช. – ลั่นเพื่อเปลี่ยนอนาคต ปท.ให้คนเท่าเทียม – หยุดอภิสิทธิ์ชนกินรวบ

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 ที่รัฐสภา (เกียกกาย) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวลาออกจากการเป็น กรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 โดยระบุว่า จากความผันผวนทางการเมืองช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตัดสินใจลาออกจากการทำหน้าที่ กมธ. แต่อย่างไรก็ตาม การทำงานของพรรคอนาคตใหม่ในสภาผู้แทนราษฎร ยังคงมี อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้นำ ซึ่ง อ.ปิยบุตร เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เป็นนักกฎหมาย ทำหน้าที่ในสภา ได้อย่างมีพลังสร้างสรรค์ ส่วนตน ตัดสินใจลาออกเพื่อกลับไปอยู่กับประชาชน ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการเห็นตนอยู่ในสภา ตนก็ไม่อยู่ในสภา ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการเห็นตนในสภา ก็จะกลับไปอยู่กับประชาชน โดยเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อพี่น้องประชาชน ลุกขึ้นยืนตรง ไม่ยอมก้มหัวให้กับระบอบเผด็จการ ไม่ยอมทนกับระบอบที่กดหัวประชาชนไว้อีกต่อไป ดังนั้น จำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชน

“สิ่งที่กลุ่มอภิสิทธิ์ชนกำลังทำอยู่กับสังคมไทยในเวลานี้คือ การรวบอำนาจเข้าสู่ตัวเอง เอาผลประโยชน์ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เข้าสู่กลุ่มตัวเองและพวกพ้อง ด้วยการใช้กลไกเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ สมาชิกวุฒิสภา องค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญ ที่พวกเขาแต่งตั้งมาเอง นั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ คือการรวบอำนาจกลับอยู่ที่กลุ่มอภิสิทธิ์ชนคนส่วนน้อยของประเทศ แต่สิ่งที่พวกเราจะทำ คือการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้อนาคตของประเทศไทย เป็นอนาคตที่ทุกคนเท่าเทียมกัน อนาคตที่ดอกผลการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ กระจายไปสู่ทุกคนอย่างเท่าเทียม ซึ่งพวกเขาไม่ต้องการเห็นสิ่งนี้ พวกเขาจึงต้องการทำลายเรา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนจะเห็นความตั้งใจของเรา เห็นความพยายามของเราที่อยากจะนำความเปลี่ยนแปลงที่ดีสู่สังคมไทย และย้ำอีกครั้งว่า ในเมื่อพวกเขาไม่อยากให้ผมทำงานในสภาผู้แทนราษฎร ผมก็จะไม่อยู่ในสภา ผมก็จะกลับไปอยู่กับประชาชน” นายธนาธร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีแรงกดดันในการทำงาน กมธ. หรือไม่ รวมถึงถ้าเสนอชื่อนายธนาธรเป็น กมธ.ชุดอื่นในอนาคตจะว่าอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีแรงกดดันในการทำงานแต่อย่างใด บรรยากาศการทำงานราบรื่น เราทำงานอย่างมุ่งมั่นแข็งขัน ไม่เกี่ยวการทำงานร่วมกับเพื่อนกรรมาธิการ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ กมธ. เป็นการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของสภา ดังนั้น เมื่อความเป็น ส.ส.ของตนโดนตัด แม้ว่าความเป็น กมธ. จะไม่โดนตัด แต่พวกเขาไม่ต้องการให้อยู่ตรงนี้ ตนก็ไม่อยู่ ส่วนในอนาคตถ้ามีการเสนอชื่อเป็น กมธ.ชุดอื่นๆ นั้น ต้องดูเป็นกรณีไป กรณีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ก็อาจมีความจำเป็น แต่ถ้าไม่ ก็คงขอทำงานข้างนอกดีกว่า

“ในการทำงานการเมือง เราไม่ได้ตั้งพรรคเพราะอยากมียศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่ได้ตั้งพรรคเพราะอยากเป็น ส.ส. หรือเป็นรัฐมนตรี เหล่านี้ไม่ได้มีความหมาย เราตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อนำความเปลี่ยนแปลง นำสิ่งที่ดีกว่าสู่ประชาชนคนไทย การเป็น ส.ส. หรือไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่ได้หยุดยั้งผมและพรรคอนาคตใหม่ในการก้าวเดินไปข้างหน้าได้ แม้ไม่ได้เข้าสภา ผมยังเชื่อว่า ยังทำประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้ ออกไปพบปะ ทำความเข้าใจถึงปัญหาของเขา มีปัญหาอะไร ผมก็นำปัญหา นำข้อเสนอนั้นส่งต่อให้กับ ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ที่อยู่ในสภาเพื่อจะแก้ไขได้ และผมยังได้ใช้โอกาสที่ไม่ได้อยู่ในสภานี้ ร่วมรณรงค์ ร่วมทำงานทางความคิดกับพี่น้องประชาชน ให้เข้าใจปัญหาเชิงระบบ ปัญหาเชิงโครงสร้าง ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นเครื่องมือของอภิสิทธิ์ชนอย่างไร ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้กดขี่ประชาชนอย่างไร โดยจะเดินทางไปรณรงค์ ร่าง พ.ร.บ. ต่างๆ ที่พรรคเสนอเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว และต้องการการสนับสนุนจากประชาชน ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.รับราชการทหาร, พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิแรงงาน, พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. เหล่านี้เชื่อว่า จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน” นายธนาธร กล่าว

Verified by ExactMetrics