วันที่ 4 พฤษภาคม 2025

นายกฯเชื่อมั่นผลงานจะสำเร็จ บางผลงานสำเร็จแล้ว ไม่ยาวนานเท่าสร้างกรุงโรม

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 21 พฤษภาคม 2567 นายกตอบคำถามเกี่ยวกับการเมือง เชื่อมั่นผลงานจะสำเร็จ และมีบางผลงานสำเร็จแล้วไม่ยาวนานเท่ากับการสร้างกรุงโรม

วันนี้ (21 พฤษภาคม 2567) เวลา 11.20 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโรม ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง) ณ โรงแรม Six Senses นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสุภาษิต Rome wasn’t built in one day แต่เชื่อว่าผลงานจะไม่ยาวนานแบบการสร้างกรุงโรม หลาย ๆ เรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้ไปติดต่อ พูดคุยมา ก็อยากให้สำเร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ หลาย ๆ เรื่องก็ทำต่อมาจากรัฐบาลที่แล้ว นำมาสานต่อ และทำเพิ่ม ซึ่งหลาย ๆ เรื่องก็สามารถทำได้ทันที แต่บางเรื่องก็ต้องมีการรอบ้าง เป็นธรรมดา การจะลงทุนเป็นจำนวนมาก ต้องให้ความสำคัญในเรื่องความรอบคอบ ดูหลาย ๆ มิติ นายกรัฐมนตรีมีการติดตาม ผลักดันเต็มที่ ถ้าตรงไหนทำได้ทำก่อน แต่เรื่องลงทุนเป็นหมื่นล้านก็อาจต้องรอก่อน ตอนนี้ก็เริ่มเห็นบ้างแล้ว เช่น Microsoft ประกาศว่าจะลงทุน ต่อไปก็จะบอกว่าลงทุนเท่าไร AWS ก็เริ่มลงทุนแล้ว หลาย ๆ บริษัทก็จะมีการลงทุนกันอย่างสูงต่อไป ยืนยันได้ทำทุกอย่างครบแล้วตามที่ตั้งใจไว้ เรื่องของผล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีความทะเยอทะยาน อยากได้เยอะเช่น อยากให้เขามาสร้างโรงงานผลิต เขาก็ต้องดูจำนวนก่อน หรือเฮลิคอปเตอร์ของบริษัท Leonardo ปัจจุบันมี 30 เครื่อง ถ้าถึงจุด ๆ หนึ่ง เขาถึงจะมาสร้าง Regional Training Center ได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีก็เสนอให้มาสร้าง Regional Office ก่อน

สำหรับประเด็นนายพิชิต ชื่นบาน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ในฐานะนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบฝ่ายบริหาร ต้องน้อมรับคำติชม กระบวนการของฝ่ายตุลาการหรือฝ่ายนิติบัญญัติที่ตรวจสอบ สำหรับนายพิชิต ชื่นบาน เพิ่งยื่นลาออกเมื่อ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งคุณพิชิตเป็นผู้ที่เห็นแก่บ้านเมืองเป็นหลัก อยากให้คณะรัฐมนตรีเดินไปข้างหน้า เพื่อแก้ปัญหาบ้านเมือง เมื่อวานสภาพัฒน์เพิ่งแถลงตัวเลข GDP 1.5 ซึ่งมีการพูดคุยกับเลขาธิการสภาพัฒน์ ซึ่งท่านบอกว่าภาคบริการ หรือการท่องเที่ยว ที่รัฐบาลทำมาตลอดมีการเติบโต double-digit ถ้าไม่มีภาคบริการมาช่วย เราจะตกไปอยู่ใน technical recession ซึ่งหลาย ๆ เรื่องเราต้องเดินหน้าต่อไป เข้าใจว่าคุณพิชิต อยากให้รัฐบาลเดินหน้าได้โดยไม่ต้องเป็นห่วงเป็นใย ซึ่งขอขอบคุณคุณพิชิตใน spirit ที่แสดงออกมา เดี๋ยวจะโทรไปให้กำลังใจท่าน และขอคุยกับท่านก่อน

สำหรับประเด็นกรณีครบกำหนดเวลา 60 วันที่โยกย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ซึ่งนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ได้ทำหนังสือแจ้งขอขยายเวลาเพิ่มเติมมา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงต้องดำเนินการต่อไป เพื่อให้การพิจารณารอบคอบ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายด้วย อยากให้พิจารณาสอบสวน ไตร่ตรองให้ถูกต้อง หากตัดสินใจอะไรไปแล้ว เกรงว่าจะไม่ยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย

Advertisement

วันแรก มีผู้สนใจขอรับใบสมัคร สว. 1,933 คน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 11 พฤษภาคม 2567 วันแรก มีผู้สนใจขอรับใบสมัคร สว. 1,933 คน

กกต. – วานนี้ 10 พ.ค.เป็นวันแรก ที่สำนักงาน กกต.เปิดให้ผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) สามารถขอรับใบสมัครได้ โดยต้องไปติดต่อขอรับใบสมัคร (สว. 2) พร้อมแบบข้อมูลแนะนำตัว (สว.3) และแบบหนังสือรับรองความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในกลุ่มที่สมัคร (สว.4) ด้วยตนเอง จากนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น สำหรับกรุงเทพมหานครหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขต โดยมีรายงานว่า มีผู้สนใจมารับใบสมัคร สว. วันแรก จำนวน 1,933 คน

สำหรับผู้ที่จะขอรับใบสมัคร ติดต่อขอรับเอกสารการสมัครจากนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นสำหรับกรุงเทพมหานคร

Advertisement

กกต. แจ้ง ผู้ประสงค์สมัคร สว. ขอรับใบสมัครได้ตั้งแต่ 10 พ.ค.นี้

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 9 พฤษภาคม 2567 กกต. แจ้งผู้ประสงค์สมัครรับเลือกเป็น สว. ขอรับใบสมัครได้ตั้งแต่ 10 พ.ค.นี้ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขต

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจ้งว่าผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา สามารถขอรับใบสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.2567 เป็นต้นไป โดยต้องไปติดต่อขอรับใบสมัคร หรือ ใบ สว. 2 พร้อมแบบข้อมูลแนะนำตัว หรือ ใบ สว. 3 และแบบหนังสือรับรองความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในกลุ่มที่สมัครด้วยตนเอง จากนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขต โดยต้องแสดงหลักฐานแสดงตนอย่างใดอย่างหนึ่ง ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชนของผู้ถือบัตร หรือ หลักฐานภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดผ่านแอปพลิเคชันของหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์

การที่กำหนดให้ผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกเป็น สว. ต้องติดต่อรับเอกสารการสมัครจากนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นสำหรับกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ข้อมูลผู้สมัคร โดยเฉพาะข้อมูลในส่วนที่สำคัญมีความถูกต้อง ตลอดจนเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการรับสมัคร เนื่องจากต้องมีการจัดเก็บข้อมูลของผู้สมัครไว้ในระบบบริหารจัดการเลือก โดยเอกสารที่นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น มอบให้ผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือก ได้แก่ 1. แบบใบสมัคร (สว. 2) 2. แบบข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว. 3) 3. แบบหนังสือรับรองความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในกลุ่มที่สมัคร (สว. 4) และ4. คู่มือสำหรับผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา

Advertisement

นายกฯ ขอ สธ. แก้กฎกระทรวง ยาบ้า 1 เม็ดก็ผิด

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 8 พฤษภาคม 2567 ทำเนียบ – นายกฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สางปัญหายาเสพติด ขอ สธ. แก้ไขกฎกระทรวง กําหนดปริมาณครอบครองเพื่อเสพ เป็น 1 เม็ด แทนปริมาณเล็กน้อย ชี้ต้องทำงานหนักขึ้น ขีดเส้นคืบหน้าภายใน 90 วัน ฝากตำรวจแจง “จะมีกี่เม็ด ก็ผิด” หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นผู้เสพ ถูกแจ้งข้อหา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าหารือภายในห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวมถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และหน่วยงานความมั่นคง

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวในที่ประชุมว่า เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ไปพูดคุยกับประธานศาลฎีกา เพื่อให้ศาลเป็นผู้กำหนดในคำพิพากษาให้ชัดเจน ว่า จะต้องมีคำสั่งให้ต้อง “บำบัด” ซึ่งหากไม่มีคำสั่งบำบัด แล้วกระทำผิดซ้ำ ถูกจับอีกครั้ง ก็จะต้องถูกจำคุก โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เห็นด้วยที่จะมีการกำหนดให้ชัดเจน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือผู้ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้วกว่า 3 แสนคดี จะต้องทำอย่างไร เช่น อาจใช้วิธีการคุมประพฤติ ให้กรมคุมประพฤติส่งหนังสือไปยังศาล เพื่อขอให้มีคำสั่งนำตัวไปบำบัด ส่งต่อให้กระทรวงสาธารณสุขช่วยดูเเล 45 วัน ก็เชื่อว่าจะเห็นผล

นายกรัฐมนตรี กล่าวเสริมว่า ขอให้นายสมศักดิ์ และพันตำรวจเอกทวี ไปคุยกับประธานศาลฎีกาให้เรียบร้อย พร้อมเเนะว่า ให้ใช้สถานที่ราชการ หรือ ค่ายทหาร เป็นสถานที่บำบัดผู้ติดยาเสพติด โดยอาจนำร่องในค่ายทหารสักหนึ่งแห่ง และให้คณะกรรมการบำบัดยาเสพติดเข้าไปดูแลด้วย และเมื่อไปแล้ว 3-6 เดือน ได้ผลอย่างไร ก็จะนำไปเป็นตัวอย่างให้กับค่ายทหารอื่น

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการสอบถามถึงความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข ในการรองรับผู้ติดยาเสพติด จำนวนกว่า 2 แสนคน ที่กระทรวงยุติธรรมจะต้องส่งต่อไปให้ดูแลประมาน 45 วัน ในอีก 4 เดือนข้างหน้า

โดยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การรักษาผู้ติดยาเสพติดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท โดยประเภทเเรก คือการรักษาทางการแพทย์ โดยมีแพทย์เป็นผู้ดูแล ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยจิตเวช จะถูกส่งไปอยู่ในชุมชน ซึ่งได้รับการดูแลร่วมกับฝ่ายปกครอง ดังนั้น ในส่วนของกระทรวงจึงไม่มีความกังวล และรับประกันว่าจะดูแลอย่างเต็มที่

ขณะที่นายอนุทิน เห็นด้วย เพราะเคยมีการนำร่องใช้ค่ายทหารเป็นสถานที่รักษาพยาบาลในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 มาแล้ว ดังนั้นเห็นควรที่จะใช้โมเดลนี้ มาใช้กับการบำบัดผู้ติดยาเสพติด และเชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุขมีศักยภาพ ทำโรงพยาบาลสนาม และอุปกรณ์มีความพร้อม

ด้านนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่าปัญหายาเสพติดถือว่ามีความสำคัญ ที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขเพราะเป็นการบ่อนทำลายประเทศชาติ เยาวชน ติดยาเสพติดจำนวนมาก ขอให้ทุกคนทำงานให้หนักขึ้นทั้งการปราบปราม ยึดทรัพย์ และบำบัดให้ทั่วถึง ขอให้มีความคืบหน้าให้ชัดเจนภายใน 90 วัน

ในช่วงท้ายของการประชุมนายอนุทิน ได้ข้อหารือ นายกรัฐมนตรี หลังรับทราบปัญหา ขบวนการขนย้ายยาเสพติด ไม่ได้พบแค่เพียงบริเวณแนวชายแดนเท่านั้น จึงต้องการที่จะต้องมีเครื่องสแกนยาเสพติดขนาดใหญ่ ขณะที่รถขับผ่าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ เวลาที่รถขับผ่านจะได้ตรวจได้เลย ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการสะท้อนปัญหาจากในพื้นที่ ทำให้นายสมศักดิ์ ได้กล่าวว่า สำหรับการจับผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ปปง.มีเส้นทางการเงิน ที่สามารถตรวจสอบได้ จึงต้องขอให้ ปปง. ช่วยในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีจึงได้เน้นย้ำ ให้ มีการตรวจสอบและรายงานความคืบหน้ากลับมา เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า “ปัญหายาเสพติดคือวาระแห่งชาติที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเพื่อให้ยาเสพติดหมดไปให้ได้ และภายใน 90 วันต้องเห็นผลชัดเจนครับ

ในเรื่องการปราบปราม ขอให้กระทรวงยุติธรรม ปปส. และตํารวจ ร่วมกันตรวจ จับ ปราบปราม ยึดทรัพย์ให้มากขึ้นอีก ทั้งรายใหญ่ รายย่อย และเพื่อความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมาย แยกผู้เสพจากผู้ค้า ผมได้ขอกระทรวงสาธารณสุขแก้ไขกฏกระทรวง กําหนดปริมาณที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ เป็น 1 เม็ด แทนการระบุว่า ปริมาณเล็กน้อย

ฝากทางสํานักงานตํารวจแห่งชาติสื่อสารกับผู้ฏิบัติงานให้ชัดเจนว่า “ไม่ว่าจะมีกี่เม็ด ก็ผิด” หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นผู้เสพ จะถูกแจ้งข้อหา ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอแรงพนักงานสอบสวนทํางานให้หนักขึ้นเพื่อดูเจตนาอีกครั้งว่าเป็น ผู้เสพ หรือ ผู้ค้า ส่วนเรื่องกัญชา ผมขอให้กระทรวงสาธารณสุขแก้ไขประกาศกระทรวง โดยดึง กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ประเภท 5 และเร่งออกกฎกระทรวง อนุญาต ให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น

และในเรื่องการบําบัด ขอให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงยุติธรรม ยกระดับประสิทธิภาพงานบําบัดยาเสพติด ทั้งในศูนย์บำบัด ในเรือนจํา และในระบบคุมประพฤติ พร้อมฝากให้ร่วมกันจับผู้ที่หลบหนีการบําบัด หรือบําบัดไม่ผ่านมาดําเนินคดี ยาเสพติดเป็นปัญหาที่บ่อนทําลายอนาคตของชาติ เยาวชนติดกันเต็มไปหมด ทุกคนต้องเร่งทํางาน ต้องปราบปรามยึดทรัพย์ และบําบัดให้ทั่วถึง และผมขอให้มีความคืบหน้าชัดเจนรายงานกลับมาภายใน 90 วันด้วยครับ”

Advertisement

แบ่งงาน รองนายกฯ – รมต.สำนักฯ “จักรพงษ์” คุมสำนักงบฯ ”จิราพร“ คุมสื่อ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 7 พฤษภาคม 2567 ทำเนียบรัฐบาล – นายกฯ ตั้ง 6 รองนายกฯ รักษาการแทนกรณีไม่อยู่ “พีระพันธุ์” ดูกฤษฎีกา พร้อมแบ่งงาน 3 รมต.สร. “จักรพงษ์” คุมสำนักงบฯ ”จิราพร“ คุมสื่อ

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายงานให้รองนายกฯรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี รวมถึงกรณีที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง โดยมีคำสั่งนายกรัฐมนตรี ดังนี้ กรณีที่นายกรัฐมนตรี ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ มีรักษาการนายกรัฐมนตรีลำดับดังต่อไปนี้  1.นายภูมิธรรม เวชยชัย 2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 3.นายพิชัย ชุนหวชิร 4.นายอนุทิน ชาญวีรกูล 5.พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ 6.นายพีระพันธุ์ สาลีรีรัฐวิภาค

“ระหว่างรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี จะสั่งการใดผู้รักษาราชการแทน จะสั่งการใดที่เกี่ยวกับการบริหาร บริหารงานบุคคล และการอนุมัติเงินงบประมาณ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรีได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีเสียก่อน เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่น มาตรา 41 และ 48” นางรัดเกล้า กล่าว

ด้าน น.ส.เกณิกา อุ่นจิตต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่าง ๆ ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย กำกับดูแลกระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กำกับดูแล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ

“นายพิชัย ชุนหวชิร กำกับดูแลกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ นายอนุทิน ชาญวีรกูล กำกับดูแลกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ  กำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายพีระพันธุ์ สาลีรีรัฐวิภาค  กำกับดูแลกระทรวงพลังงาน กระทรวงยุติธรรม ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา” น.ส.เกณิกา กล่าว

น.ส.เกณิกา กล่าวว่า ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจักรพงษ์ แสงมณี ได้รับมอบหมายให้ดูแลสำนักงบประมาณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานรัฐบาลพัฒนาดิจิทัล นายพิชิต ชื่นบาน  กำกับดูแลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา น.ส.จิราพร สินธุไพร  กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) กองทุนหมู่บ้าน

Advertisement

เผยนายกฯผลักดัน กม.เพิ่มความคุ้มครองให้ลูกจ้าง 11 เรื่อง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 5 พฤษภาคม 2567 นายกฯ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ผลักดันกฎหมายเพิ่มความคุ้มครองให้กับลูกจ้าง 11 เรื่อง ส่งเสริมแรงงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ครอบคลุมตามกฎหมาย

วันนี้ (5 พฤษภาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับแรงงานนอกระบบ ซึ่งเป็นอีกกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มุ่งผลักดันมาตรการ ส่งเสริมแรงงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตามกฎหมาย ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมไทยในปัจจุบัน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงาน ได้ผลักดันการออกกฎกระทรวง ฉบับที่ 15 (พ.ศ.2567) ตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 30 เมษายน 2567 มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มการคุ้มครองให้กับลูกจ้างซึ่งทำงานบ้าน 11 เรื่อง ได้แก่ 1. มีเวลาทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน 2. มีเวลาพักไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง 3. มีสิทธิลากิจธุระอันจำเป็น 4. ห้ามลูกจ้างหญิงมีครรภ์ทำงานเวลา 22.00 – 06.00 น. ทำล่วงเวลา หรือวันหยุด 5. ลูกจ้างหญิงลาคลอดได้ 98 วัน 6. ห้ามเลิกจ้างเพราะเหตุมีครรภ์ 7. ให้นายจ้างแจ้งการใช้แรงงานเด็ก 8. ลูกจ้างเด็กมีสิทธิฝึกอบรมโดยได้รับค่าจ้าง 30 วัน 9. ลูกจ้างหญิงได้รับค่าจ้างลาคลอด 45 วัน 10. ห้ามนายจ้างหักค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด 11. ลูกจ้างได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

“รัฐบาลมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานในทุกภาคส่วน ให้แรงงานทุกกลุ่ม ได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ครอบคลุมและสอดคล้องตามสภาพสังคมและเศรษฐกิจ รวมทั้ง สนับสนุนให้ กฎ ระเบียบ ช่วยดูแลคุ้มครองแรงงาน อย่างทั่วถึง และเท่าเทียม ด้วยตระหนักดีว่า แรงงานทุกคนคือกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ” นายชัย กล่าว

Advertisement

3 ตำนานนักเตะหงส์แดงเข้าพบนายกฯ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 3 พฤษภาคม 2567 3 อดีตตำนานหงส์แดงเข้าพบนายกฯ ประทับใจประเทศไทย ยินดีเป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ไทยสู่สายตาชาวโลกผ่านกีฬาฟุตบอล

วันนี้ (3 พฤษภาคม 2567) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายธรณินทร์ เกียรติชัย ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท อินฟลูออส จำกัด บริษัทด้านการบริการจัดกิจกรรมนำนักฟุตบอลระดับโลกมาจัดกิจกรรมในไทย พร้อมด้วยอดีตนักฟุตบอลระดับตำนานของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ นาย Michael James Owen(ไมเคิล โอเวน) นาย Steven Charles McManaman(สตีฟ แม็กมานามาน) และนาย Robert Bernard Fowler(ร็อบบี้ ฟาวเลอร์) เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรียินดีที่บริษัท อินฟลูออสฯ จัดกิจกรรมนำนักฟุตบอลในตำนานของสโมสรลิเวอร์พูลมาร่วมทำกิจกรรมในไทย พร้อมชื่นชมความสำเร็จของสโมสรลิเวอร์พูลที่เป็นหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก และยังสามารถครองใจแฟนบอลทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีแฟนคลับของสโมสรลิเวอร์พูลจำนวนมาก

ผู้บริหาร บริษัท อินฟลูออสฯ กล่าวว่า บริษัทฯ จัดกิจกรรมพานักฟุตบอลจากสโมสรลิเวอร์พูลมาเยือนไทยครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนนำมาสู่การจัดงาน Living Legends: THE KOP DNA II ระหว่างวันที่ 3 – 5 พฤษภาคมนี้ โดยได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และบริษัทพันธมิตร นำนักฟุตบอลในตำนานของสโมสรฯ ทั้ง 3 คน มาร่วมทำกิจกรรมกับแฟนคลับในไทย โดยนักกีฬาทั้ง 3 คน ชื่นชอบ และสนใจการท่องเที่ยวในประเทศไทย เช่น จังหวัดภูเก็ต รวมถึงชื่นชอบอาหารไทยด้วย

ด้านอดีตนักฟุตบอลของลิเวอร์พูลเผยว่า รู้สึกประทับใจที่ได้มาเยือนไทย ยินดีที่ประเทศไทยมีแฟนคลับของสโมสรลิเวอร์พูลจำนวนมาก และได้ร่วมทำกิจกรรม กับแฟนคลับชาวไทย พร้อมยินดีเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยผ่านการใช้กีฬาฟุตบอลเป็นสื่อกลาง

ซึ่งนายกรัฐมนตรีมองว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายที่จะทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการจัดกิจกรรมในภูมิภาค รวมถึงรัฐบาลตั้งใจจะผลักดันปี 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมมากมาย และขอเชิญชวนสโมสรลิเวอร์พูลเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย

Advertisement

“มาริษ เสงี่ยมพงษ์” เจ้ากระทรวงบัวแก้วคนใหม่ “สิงห์ทอง รามคำแหง” ประสบการณ์นักการทูตกว่า 30 ปี

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 พฤษภาคม 2567 รู้จัก “ทูตปู” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์  รมว.ต่างประเทศ คนใหม่ ประสบการณ์นักการทูตกว่า 30 ปี

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่ง

นายมาริษ มีชื่อเล่นว่า ”ปู” หรือที่สื่อมวลชนจะเรียกกันว่า ”ทูตปู” สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหลักสูตรรัฐศาสตร์บัณฑิต (การเมืองการปกครอง) มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ปริญญาโทหลักสูตร Master of Arts (International Relations) มหาวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา และผ่านการอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูง หรือ นบส.รุ่นที่ 66 วิทยาลัยนักบริหาร สำนักงาน ก.พ.

สำหรับประวัติการรับราชการ นายมาริษ เริ่มต้นรับราชการที่กระทรวงการต่างประเทศในปี 2529 ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่การทูต กองการสังคม กรมองค์การระหว่างประเทศก่อนที่จะเติบโต และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ ก่อนดำรงตำแหน่งเลขานุการตรี จนถึงเลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม จากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นอัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเวียงจันทน์ สปป ลาว และอัครราชทูตในหลายประเทศ ได้แก่ อัครราชทูตประจำสถานเอกอัครราชทูตไทยกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี, อัครราชทูตประจำสถานเอกอัครราชทูตไทยกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส และได้ดำรงตำแหน่งเอกอัคราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มในหลายประเทศ ได้แก่ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล, เครือรัฐออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และแคนาดา ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2562

ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นายมาริษ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะได้นำชื่อนายมาริษ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังจากที่นายปานปรีย์ ได้ลาออกจากตำแหน่ง

Advertisement

นายกฯ แย้ม รมต.ตปท.คนใหม่ เป็นนักการทูต-นักการเมืองอยู่เบื้องหลังพรรค พท.

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 เมษายน 2567 ทำเนียบรัฐบาล – นายกฯ เผยขอโทษ “ปานปรีย์” แล้วหลังหลุดรองนายกฯ รับมีทั้งคนพอใจ ไม่พอใจ ยันสัมพันธ์ลูกเป็นเพื่อนกัน ไม่ขัดแย้ง เชื่อคนใหม่สานต่องานได้

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือลาออกจากทุกตำแหน่ง ว่า เรื่องของโผการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รอขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ ลงมา ดังนั้น จึงไม่เหมาะสมที่ตนจะพูดก่อน ส่วนเรื่องนายปานปรีย์ ตนเคารพการตัดสินใจ ส่วนตัวรู้จักกันมาหลายสิบปี ลูกเป็นเพื่อนกัน และรักชอบกันดี

ส่วนกรณีหนังสือลาออกของนายปานปรีย์ ที่ส่งให้สื่อมวลชนก่อนแจ้งนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ได้ยินก็เป็นอย่างนั้น ตนสะดวกพูดในแง่องค์รวมมากกว่า การปรับเปลี่ยนหน้าที่และคณะรัฐมนตรีต่าง ๆ เชื่อว่ามีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ สมหวังและไม่สมหวัง จึงอยากโฟกัสสิ่งที่ดี 7- 8 เดือนดีกว่า เชื่อว่ารัฐมนตรีคนใหม่ที่จะเข้ามาจะสานต่อสิ่งที่ดีเหล่านี้

“ผมได้ส่งข้อความไปหาในกลุ่มเรื่องการต่างประเทศว่าขอโทษ ถ้าทำให้พี่ไม่สบายใจเรื่องอะไร และขอบคุณที่ช่วยงานกันมา วันศุกร์ที่ผ่านมาได้เชิญหลายท่านมาพูดคุย ซึ่งนายปานปรีย์เป็นหนึ่งในคนที่มาคุย เชื่อว่าวันนั้นเป็นการสนทนาระหว่างบุคคลสองคน และมั่นใจว่าตนพูดอะไรไปในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมมีความชัดเจนในการบอกกล่าวอะไรออกไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนหาคนมาแทนแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องทูลเกล้าฯ รายชื่อใหม่ และระหว่างนี้ ตามประกาศคณะรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ดูแลไปก่อน ส่วนคนใหม่มองหาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ เพราะต้องคัดกรองคุณสมบัติก่อน ไม่อยากให้มีคนสมหวังหรือผิดหวังอีก ตนเคารพกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ เข้าใจรัฐมนตรีหลายท่านสมหวังและไม่พอใจ ยืนยันว่า รับผิดชอบและต้องพูดคุยกัน

เมื่อถามย้ำว่าเป็นคนในหรือคนนอกพรรค นายเศรษฐา กล่าวว่า พูดลำบาก เพราะท่านอยู่ในแวดวงการทูตและแวดวงการเมือง เป็นคนที่ทำงานข้างหลังของพรรคเพื่อไทยมาตลอด มีจิตวิญญาณที่ยึดโยงกับพี่น้องประชาชน

ส่วนเหตุผลการลาออกของนายปานปรีย์ที่ระบุว่าที่ต้องควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพราะเป็นตำแหน่งที่สำคัญ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีเหตุผล แต่ทุกกระทรวงก็อยากควบรองนายกรัฐมนตรี หลายตำแหน่งต้องประสานงานระหว่างกระทรวง ทบวง กรม เชื่อว่าปัจจุบันเรามีรองนายกรัฐมนตรีหลายคนแล้ว หากทุกกระทรวงต้องควบรองนายกรัฐมนตรีคงไม่ได้ แต่ละรัฐบาลมีรองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือบางรัฐบาลก็ไม่มีรองนายกรัฐมนตรีควบ

“ผมเชื่อว่าผมอำนวยความสะดวกหรือช่วยเหลือ ผลักดันเรื่องต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในการทำงานข้ามกระทรวง เชื่อว่าเราทำงานเป็นทีมได้อยู่แล้ว ซึ่งมองว่าไม่มีความจำเป็นควบกระทรวงการต่างประเทศ เรามีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันไป แต่เรายึดโยงกับความเป็นมิตรดีกว่า และมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ซึ่งผมขอโทษท่านไปแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องของความเห็นต่าง ทั้งหมดนี้ผมต้องรับผิดชอบ และจะพยายามดำเนินงานต่อไป โดยเอาผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนเสียดายหรือไม่ เพราะนายปานปรีย์ได้รับคำชมในการบริหารงานที่กระทรวงการต่างประเทศจากหลายฝ่าย นายเศรษฐา กล่าวว่า เสียดายทุกคนที่ต้องเปลี่ยนออกไป แต่ในบริบทการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปทุกช่วงเวลาของการบริหารประเทศ มีความจำเป็นหรือมีความต้องการแก้ไขปัญหาโดยการเปลี่ยนบุคลากรทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องปรับเพื่อให้คนที่เหมาะสมหรือมีความชำนาญมากกว่าในด้านนั้น ๆ เข้ามาทำหน้าที่ ไม่ได้หมายความว่าคนที่ถูกปรับไม่มีความสามารถบริหาร แต่รัฐบาลมีอายุ 4 ปี และในอดีต ไม่ใช่ว่าออกไปแล้วจะไม่กลับมาอีก มีหลายกรณีที่ออกไปแล้วกลับมาอีกครั้ง

Advertisement

นายกฯ ห่วงภัยอันตรายจากสภาพอากาศร้อน กำชับหน่วยงานแนะนำประชาชน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 24 เมษายน 2567 ​โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ห่วงภัยอันตรายจากสภาพอากาศร้อน กำชับหน่วยงานภาครัฐพร้อมแนะนำประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือป้องกัน และเฝ้าระวังความปลอดภัยเหตุอัคคีภัย

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ห่วงใยความเป็นอยู่และความปลอดภัยของประชาชนในช่วงสภาพอากาศที่ร้อนมากขึ้นในช่วงนี้ โดยเฉพาะความเสี่ยงในการเผชิญกับเหตุอัคคีภัย ซึ่งเป็นสาธารณภัยที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในทุกสถานที่ และสามารถทำให้เกิดความสูญเสียต่อทรัพย์สินและชีวิต พร้อมกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ และแนะนำให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือป้องกัน และเฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัย เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทยได้แนะนำแนวทางการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัยในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยและบ่อขยะ โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเผากำจัดขยะและการเผาพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยและบ่อขยะ รวมถึงดูแลรักษาสถานที่เก็บรวบรวมวัสดุที่มีความเสียงต่อการเกิดอัคคีภัย ซึ่งรวมถึงโรงงาน พร้อมทั้งแนะนำให้กำหนดแนวทางการแจ้งเตือน การประสานงาน การอพยพ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอัคคีภัย ตลอดจนเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติการเผชิญเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบทันทีหากพบควันไฟ กลิ่นเหม็นไหม้ หรืออัคคีภัยในบริเวณสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยและบ่อขยะ

“นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนถึงความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยในช่วงที่อากาศร้อนจัด แนะนำประชาชนเฝ้าระมัดระวังและป้องกันอัคคีภัยเชิงรุก ทั้งภัยที่อาจเกิดในบ้าน หรือ โรงงาน สถานประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่เก็บรวบรวมวัสดุที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย พร้อมกำชับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องสร้างความตระหนักรู้ถึงการป้องกันเหตุอัคคีภัย ให้แก่ประชาชน เตรียมพร้อมรับมือเหตุอัคคีภัยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที” นายชัย กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics