วันที่ 15 กรกฎาคม 2025

“บิ๊กป้อม”ยัน “พปชร.” ส่ง “สมศักดิ์ คุณเงิน” เลือกซ่อมขอนแก่น

People Unity News : “บิ๊กป้อม”ยืนยัน “พปชร.” ส่ง “สมศักดิ์ คุณเงิน” ล้างตาเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 ขณะที่ พท.จ่อส่ง “อดิศร” ลงรักษาเก้าอี้เดิม

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 โดยยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครคนเดิม คือนายสมศักดิ์ คุณเงิน ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ

พท.จ่อส่ง”อดิศร”ลงรักษาเก้าอี้เดิม

ทางด้านพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมมีรายงานว่า จะส่ง นายอดิศร เพียงเกษโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎ อดีตส.ส.ขอนแก่นพรรค ลงในการเลือกตั้งครั้งนี้

“ธนกร”ป้อง”อุตตม”หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล

People Unity News : “ธนกร”ป้อง”อุตตม”หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล เหน็บ “มงคลกิตต์” ถ้าเป็นส.ส.แล้วพฤติกรรมแบบนี้ สู้อย่าเป็นซะดีกว่า

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเสนอให้นำนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แทนนายอุตตม สาวนายน รมว.คลังว่า แค่กระบวนการทางความคิดก็ผิดแล้ว แสดงออกถึงคลังสมองของนายมงคลกิตติ์ที่ไม่มีรอยหยักในสมองเลย เพราะไม่มีรัฐบาลไหนเอาส.ส.ฝ่ายค้านมาเป็นรัฐมนตรี ที่สำคัญ นายอุตตมเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง มีผลงานชัดเจน และเป็นถึงหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายอุตตมมีความมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานอย่างมาก หลายโครงการได้รับความชื่นชมจากประชาชนทั่วประเทศ เช่น โครงการชิมช้อปใช้ และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนั้น นายอุตตมถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล

นายธนกร กล่าวอีกว่า รู้สึกผิดหวังกับพฤติกรรมของนายมงคลกิตติ์ ที่นับวันก็ยิ่งเปลี่ยนไปอย่างมาก ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ วันๆ ทำแต่เรื่องไร้สาระ หวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะได้เป็นข่าวรายวัน นอกจากนี้ หลายเรื่องเป็นที่ระอาของประชาชน ถูกมองว่าเปลืองภาษีประชาชนเปล่าๆ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนเห็นนายมงคลกิตติ์เป็นน้องที่รักกัน จึงอยากให้นายมงคลกิตติ์กลับตัวกลับใจใหม่ สังคมยังให้อภัย กลับมาเป็นนายมงคลกิตติ์คนเดิมที่ทำงานรับใช้สังคม ตรวจสอบความไม่ถูกต้องในสังคมเหมือนในอดีตก่อนที่จะได้เป็นส.ส.จะดีกว่า หากเป็นส.ส.แล้วมีพฤติกรรมแบบนี้สู้อย่าเป็นซะดีกว่า

ไม่ใช่เพื่อนเล่น! “สิระ”ลั่นหลังรุดฟังผลสอบ”คอนโดรุกป่ากะรน”

People Unity News : “สิระ”ลั่น!ไม่ใช่เพื่อนเล่น หลังฟังรายงานเขียนด้วยลายมือ ผลสอบ “คอนโดรุกป่ากะรน” ของรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีมีการร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมบนพื้นที่ป่า ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังภูเก็ตนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน ใช้เวลา 30 วัน ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม

นายสิระได้เข้าเยี่ยมผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ก่อนจะเข้ารับฟังรายงานจากนายสุพจน์ โดยมีบรรดาหัวหน้าส่วนราชการ รวมทั้งนายกเทศบางตำบลกะทู้ เข้าร่วมด้วย ขณะที่ด้านนอกห้องประชุม มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งนำโดย ส.ท.เทศบาลตำบลกะทู้ มาถือป้ายขอให้ตรวจสอบลำคลองบริเวณหาดกะทู้ ที่ถูกระบุว่า ถูกโรงแรมแห่งหนึ่งถม

นายสุพจน์ ได้รายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงระบุว่า การตรวจสอบใน 3 ส่วนคือ 1.การทำผลกระทบสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการถูกต้อง ซึ่งในช่วงแรกมีการทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ตได้สั่งให้มีการศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งฝ่ายเอกชนได้ดำเนินการตามทั้งหมดแล้ว 2.การตรวจสอบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าหรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่า มีการเข้าทำประโยชน์ก่อนการประกาศพื้นที่ป่า และไม่มีปัญหาเรื่องการพื้นที่ 30 องศา 3.การออกใบอนุญาตก่อสร้างของเทศบาลตำบลกะรนดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการออกเอกสารสิทธิ์จะต้องรอคำสั่งของศาลปกครอง

หลังฟังรายงาน นายสิระ ได้ให้ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ทำหนังสือรายงานมาเป็นลายลักษณ์อักษร และขอบันทึกการประชุมในการรายงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากในการรายงาน รองผู้ว่าราชการจังหวัด อ่านจากลายมือเขียนในสมุดบันทึก ไม่ได้เป็นรายงานตามแบบฟอร์มของราชการแต่อย่างใด

หลังฟังรายงานใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีนายสิระได้เดินทางกลับโดยขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่หน้าศาลากลางจังหวัด โดยไม่สนใจกลุ่มชาวบ้านที่ ส.ท.นำมาจะยื่นหนังสือแต่อย่างใด กลุ่มชาวบ้านพยายามปิดกั้นรถนายสิระแต่ตำรวจได้กันออกไป

นายสิระให้สัมภาษณ์ว่าได้ขอให้รองผู้ว่าฯทำหนังสือรายงานมาเป็นทางการและขอรายงานการประชุมด้วย เพราะฟังจากการรายงานยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้ เพราะรายงานจากที่เขียนด้วยลายมือ

“มีรายงานตัวจริงเข้ามา ก็จะได้รู้ว่า ใครอุ้มใคร ใครทำหน้าที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง อยากเรียนว่า ผมไม่ใช่เพื่อนเล่น อย่ามาล้อเล่นกับผม ผมมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของข้าราชการเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน ต้องการทวงผืนป่าให้แผ่นดิน” นายสิระ กล่าวทิ้งท้าย

“หญิงหน่อย”ร่วมเปิดงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติที่เนปาล

People Unity News : “หญิงหน่อย”หลบการเมืองร้อน! ร่วมเปิดงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติที่เนปาล

วันที่ 14 พ.ย.2562 เฟซบุ๊กวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล Royal Thai Monastery ได้โพสต์ข้อความว่า เปิดงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ ครั้งที่ ๒ ณ อุทยานลุมพินีวัน วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ณ อทุยานลุมพินีวัน สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า วัดไทยลุมพินี เนปาล, ร่วมด้วย Lumbini Development Trust (LDT), Nepal จัดงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ ครั้งที่ 2 ณ อุทยานลุมพินีวัน ระหว่างวันที่ 14 -16 พฤศจิกายน 2562 โดยมี พระศรีโพธิวิเทศ (สุพจน์ ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี เป็นประธานฝ่ายคณะสงฆ์ไทย พร้อมด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานฝ่ายฆราวาสไทย และมีผู้ร่วมงานฝ่ายเนปาล chief minister Meyor of Lumbini municipality ร่วมเปิดงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ

ทั้งนี้คุณหญิงสุดารัตน์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sudarat Keyuraphan ขณะอยู่เนปาล ความว่า ขอมาเติมพลังให้หัวใจ ที่ลุมพินี

หน่อยได้กลับมาสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้าที่ลุมพินีอีกครั้งค่ะ เพื่อมาร่วมงานสาธยายพระไตรปิฏกประจำปี ซึ่งจัดโดยคณะสงฆ์นานาชาติที่มีวัดไทยเป็นแม่งานใหญ่ นำโดยพระศรีโพธิ์วิเทศ ร่วมกับ Lumbini Development Trust

หน่อยและคณะมาถึงลุมพินีเมื่อคืนนี้ เราตรงเข้าสู่วิหารมายาเทวีทันที เพื่อเข้าไปกราบพระพุทธเจ้า สวดมนต์น้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณ และเจริญสมาธิ ด้วยความเบิกบาน และอิ่มใจเป็นที่สุดค่ะ

เมื่อคืนนี้แม้ว่าจะเป็นเวลาคำ่แล้ว แต่ภาพบรรยากาศที่ปรากฏต่อหน้าหน่อย คือคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนจากหลายชาติ ได้ใช้ถนนทางเดินที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้ร่วมใจกันสร้างขึ้น เพื่อเข้าไปกราบพระพุทธเจ้า ทั้งยังได้เห็นพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก นั่งสวดมนต์และเจริญสมาธิบนลานสวดมนต์ที่พวกเราได้สร้างไว้ด้วยแรงศรัทธาอีกด้วย

หน่อยเชื่อว่าทุกคนเมื่อได้เข้ามากราบพระพุทธเจ้า ณ สถานที่ประสูติแห่งนี้แล้ว เมื่อกลับไปเขาจะตั้งใจที่จะเป็นคนดีและปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์

ภาพที่เห็นนี้คือความปลื้มใจ ที่ครั้งหนึ่งหน่อยได้ทำหน้าที่เป็น #สะพานบุญ เชื่อมโยงพลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ของคนไทยมาร่วมกันบูรณะสถานที่ประสูติขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

สำหรับหน่อยการที่ได้มาสวดมนต์เจริญสมาธิ ณ สถานที่ประสูติ คือการมาเติมพลังใจและเพิ่มความศรัทธามุ่งมั่นในการปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน
ของพระพุทธเจ้า

หน่อยขอกราบอนุโมทนากับพี่น้องชาวไทยผู้มีพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่ได้ร่วมกันบูรณะสถานที่ประสูติของพระพุทธองค์เมื่อหลายปีก่อนไปด้วยกันกับหน่อย

ขอพลังแห่งมหากุศลนี้ ได้ส่งผลให้ทุกท่านพบแต่ความสุขความเจริญนะคะ

“นิพนธ์”ย้ำภัยใกล้ตัว”อุบัติเหตุท้องถนน” รัฐ-เอกชนจับมือรวมพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย

People Unity News : “นิพนธ์”ย้ำภัยใกล้ตัว”อุบัติเหตุท้องถนน” ยกสถิติติดอันดับ 9 ของโลก “ทีดีอาร์ไอ” ชี้เจ็บ-ตายสูญเสียตกปีละกว่า 5 แสนล้าน รัฐ-เอกชนจับมือรวมพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย กระตุกสังคมไทยลดความสูญเสีย

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2 ) เป็นประธานเปิดโครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.)จับมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย บมจ.ธนชาตประกันภัย ร่วมขับเคลื่อนการแก้ปัญหาและลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด

นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลกได้จัดให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก มีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนปีละประมาณ 22,491 ราย คิดเป็น 32.7 คนต่อประชากร 1 แสนคนเฉลี่ยแล้ว มีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุชั่วโมงละ 3 คน ซึ่งถือว่าเกิดค่าเฉลี่ยของโลกถึง 2 เท่า อุบัติเหตุทางถนนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ประสบภัยเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความสูญเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยโดยรวมอย่างมหาศาล ขณะที่สถาบันวิจัยทีดีอาร์ไอ ได้คำนวณมูลค่าความสูญเสียจากการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุจราจร เกิดความสูญเสียที่คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 5 แสนล้านบาทต่อปี

เห็นได้ชัดว่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นประเด็นใหญ่ของประเทศไทย ที่ผ่านมาการป้องกันและรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญเสมอมา โดยกำหนดให้เป็นวาระสำคัญแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไข ซึ่งได้ให้นโยบายในการสร้างความเข้มแข็งการจัดการอุบัติเหตุทางถนนระดับพื้นที่ เพื่อช่วยผลักดันนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพของ “ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนท้องถิ่น” ให้เป็นกลไกหลักในการสร้างการมีส่วนร่วมและขับเคลื่อนการลดอุบัติเหตุทางถนนในชุมชนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เชื่อมโยงกลไกการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน ทุกระดับอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการพัฒนาระบบกฎหมายและกระบวนการในการบังคับใช้กฎหมาย การเฝ้าระวังและลดปัจจัยเสี่ยงทางกายภาพ การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่

“นอกจากภาครัฐจะให้ความสำคัญแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มาร่วมป้องกันและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนชาวไทย ซึ่ง โครงการพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย นี้ ถือเป็น 1 ในโครงการที่ภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และท้องถิ่นได้ร่วมมือกันดำเนินการสร้างความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่ ผ่านกลไกของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายอำเภอเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนให้โครงการประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้ การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืนนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังให้พื้นที่ในระดับตำบลสามารถลดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลงได้อย่างน้อย 1 ราย จะทำให้ภาพรวมของประเทศมีสถิติการเสียชีวิตจากการใช้รถใช้ถนนลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายนิพนธ์ กล่าว

“ภท.”ถามหาจรรยาบรรณสื่อเนชั่น โยง “อนุทิน” หลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูล “ชิโน-ไทย”

People Unity News : “ภูมิใจไทย”ถามหาจรรยาบรรณสื่อเนชั่น โยง “อนุทิน” หลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูล “ชิโน-ไทย” ก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอมโยง

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการนำเสนอข่าวกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลข้าราชการ และผู้บริหารบริษัท ชิโน-ไทย ติดสินบนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า ขอให้สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมา ตามจรรยาบรรณ

“หลังมีรายการของเนชั่นทีวีพยายามบิดเบือนสร้างความเสียหายให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยพยายามเชื่อมโยงให้นายอนุทินเกี่ยวข้องกับผู้บริหารของบริษัทซิโน-ไทย ซึ่งความเป็นจริงนายอนุทินพ้นจากการเป็นผู้บริหารบริษัทชิโน-ไทย 15 ปีแล้ว และปัจจุบันเป็นเพียงผู้ถือหุ้นที่มีจำนวนหุ้นน้อยนิด ยืนยันว่ากรณีนี้เป็นเรื่องของบริษัท ชิโน-ไทยที่ไม่เกี่ยวข้องกับนายอนุทิน แต่รายการของเนชั่นทีวีกลับนำเสนอภาพให้ประชาชนเข้าใจผิด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดคดีอาญา และเชื่อว่านายอนุทินคงดำเนินคดีกับเนชั่นทีวี” รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวถึงกรณีที่อภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 13 พ.ย.) ที่ระบุถึงเนชั่นทีวี ว่า ทางเนชั่นทีวีจะกล่าวว่าตนอย่างไรก็ได้ แต่อย่าเผลอหมิ่นตน ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการห้องทางคดีเช่นกัน

“หญิงหน่อย”อุบ”เพื่อไทย”ส่งคนเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น

People Unity News : “หญิงหน่อย” ยัน “เพื่อไทย” รักษาที่นั่งเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น เตรียมส่ง อดีตส.ส.มีประสบการณ์ลงชิง แนะกกต.จับตาตั้งแต่เริ่มหาเสียง หวั่นอำนาจรัฐ-เงินแทรกแซง แม้เลือกเพียงเขตเดียว ขณะที่ “บิ๊กป้อม”ยันพปชร.ส่งคนแข่งอย่างแน่นอน

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมส่งผู้สมัคร ส.ส.ภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ให้นายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีตส.ส.ขอนแก่น ของพรรคเพื่อไทย พ้นสมาชิกภาพจากความเป็นส.ส. โดยระบุว่า ขณะนี้หัวหน้าพรรคได้แต่งตั้ง คณะกรรมการสรรหา ตัวบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งจะได้ข้อสรุปภายในสองวันนี้ จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อคัดเลือกรอบสุดท้ายยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง รักษาเก้าอี้แน่นอนเพราะเป็นพื้นที่เดิม อีกทั้งจ.ขอนแก่น และภาคอีสาน คือบ้านของพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยมีภาระและหน้าที่ต่อประชาชนให้อยู่ดีกินดี ให้กับคนอีสานและพี่น้องประชาชนก็ฝากความหวังไว้กับพรรคเพื่อไทย

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า คนที่จะมาลงเลือกตั้งจะเป็นอดีตส.ส. ของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีหลายคน และถือว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและเข้าใจปัญหาของประชาชน รวมถึง ทุกคนทำงานในพื้นทีอย่างเข้มแข็ง

“พรรคเพื่อไทย จะไม่ปล่อยให้พื้นที่เขต 7 เป็นของพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่ที่คาดหวังส.ส.ในเขตนี้ และไม่หนักใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งได้เตรียมการเพื่อสื่อสารให้คนขอนแก่นรับรู้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐ กิจปากท้อง”

ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยยังเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.จับตาการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะเชื่อว่าจะมีบางฝ่ายใช้อำนาจรัฐ เข้ามาเอาเปรียบการเลือกตั้ง ดังนั้นกกต.จึงต้องเข้ามาดูแลตั้งแต่ต้น เพราะหากเป็นการแข่งขันที่ทัดเทียมเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย จะสะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง
ซึ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้เหมือนการเลือกตั้งใหญ่ที่มีการใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินเข้ามาช่วย

“บิ๊กป้อม”ยันพปชร.ส่งคนแข่งอย่างแน่นอน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางพรรคพลังประชารัฐจะมีการส่งตัวแทนลงเลือกตั้งแน่นอน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้

กกต.คาดจัดเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น แทน”นวัธ”22 ธ.ค.62

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารประชาสัมพันธ์ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ของนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส. เขต 7 จ.ขอนแก่น สิ้นสุดลง ซึ่ง กกต. ต้องจัดการเลือกตั้ง ส.ส. แทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน สำนักงาน กกต. ขอแจ้งข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการดำเนินการก่อนที่จะประกาศพระราชกฤษฎีกาให้เลือกตั้ง ว่า การกำหนดวันเลือกตั้งและกำหนดวันรับสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อมีประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งภายใน 5 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับ กกต. กำหนดวันเลือกตั้งและกำหนดวันรับสมัครรับเลือกตั้ง โดยเริ่มรับสมัครไม่เกิน 25 วัน นับแต่วันที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งมีผลใช้บังคับ

และวันรับสมัครไม่น้อยกว่า 5 วันการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งและการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ประสงค์จะส่งผู้สมัคร ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในจังหวัดนั้น การสรรหาผู้สมัครให้พรรคการเมืองสรรหาจากสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ที่ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่เกิน 1,500,000 บาท ต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อสำนักงาน กกต. จังหวัด ภายใน 90 วัน นับจากวันเลือกตั้ง ส่วนการหาเสียงเลือกตั้งให้ทำได้ตั้งแต่วันที่ตำแหน่งว่างลง จนถึงวันก่อนวันเลือกตั้งตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 68 (2)ทั้งนี้ จากที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 27 ธันวาคมนี้ คาดว่า กกต. จะกำหนดให้วันที่ 22 ธันวาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส. เขต 7 ขอนแก่น และจะเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2562

“จุรินทร์”สั่งแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมระหว่างเพศ 3 ข้อ

People Unity News : “จุรินทร์”สั่งแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมระหว่างเพศ 3 ข้อ เลิกเลือกปฏิบัติ เปลี่ยนหลักคิด และขจัดความรุนแรง เร่งเยียวยา-ชดเชย ผู้ถูกกระทำ

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ครั้งที่ 2/2562 วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ โดยใช้เวลาตลอดครึ่งวันเช้า รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมมีมติ คือ เห็นชอบแผนปฏิบัติการและการใช้งบประมาณของกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมกันระหว่างเพศประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 7.3 ล้านบาท ประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ การชดเชย เยียวชา และบรรเทาผู้เสียหายจากการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ วงเงิน 1,854,000 บาท และการสนับสนุนความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ และการสร้างความตระหนักรู้ วงเงิน 5,446,000 บาท จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตามที่ได้หารือ

และเห็นชอบการทำแผนงานให้สอดคล้องกับประเด็นสำคัญ 3 ประเด็นของการส่งเสริมความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ คือ การเลือกปฏิบัติ การเปลี่ยนหลักคิด และการขจัดความรุนแรงเนื่องจากความแตกต่างทางเพศ และนำมาเสนอครั้งหน้า นอกจากนั้นยังมีข้อสั่งการ ข้อสั่งการ ของนายจุรินทร์ ว่า ให้จัดทำแผนงานและโครงการที่สอดคล้องกับประเด็นสำคัญ 3 ประเด็นของการส่งเสริมความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ คือ การเลือกปฏิบัติ การเปลี่ยนหลักคิด และการขจัดความรุนแรงเนื่องจากความแตกต่างทางเพศ ภายในสองอาทิตย์ และนำมาขอความเห็นชอบครั้งหน้า วันที่ 11 ธค 15.30 น. ห้อง 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

รายงานข่าวแจ้งว่า นายจุรินทร์ให้ความสำคัญกับสิทธิและความเท่าเทียมและมีความใส่ใจเป็นพิเศษนอกจากนั้นยังเน้นเรื่องวิธีการขั้นตอนที่จะสามารถปฎิบัติรองรับการขจัดความรุนแรงที่อาจจะเกิดจากความแตกต่างทางเพศและให้มีกระบวนการคู่ขนานอย่างเสรีในการจัดเสวนาสัมมนาแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นภาคสังคม คู่ขนานกับการทำหน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้

“ธนาธร” 1 ใน 100 ดาวรุ่งแห่งปี ของนิตยสาร”TIME”

People Unity News : “ธนาธร” 1 ใน 100 ดาวรุ่งแห่งปี ของนิตยสาร”TIME” ผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ประสบความสำเร็จในการ “ปลุกไฟ” ในใจของเยาวชนคนรุ่นใหม่

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิตยสาร TIME แคมเปญใหม่ภายใต้ชื่อ “TIME 100 Next” คือ “100 บุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกสำหรับ TIME” ในจำนวน 100 คนนึ้มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รวมอยู่ด้วย โดยโดย TIME เขียนอธิบายว่า “…ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทราบดีว่าการคว้าอำนาจคืนมาจากคณะรัฐประหารที่ครองอำนาจในประเทศไทยอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ แต่ท้ายที่สุดแล้ว พรรคอนาคตใหม่ที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นมาก็ได้รับคะแนนเสียงมากถึง 17% ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในปีนี้ ไม่แย่เลยสำหรับพรรคการเมืองที่เพิ่งจะมีอายุครบ 1 ปีไปหมาดๆ อย่างไรก็ตาม ธนาธร จึงรุ่งเรือง กิจ ผู้เป็นเศรษฐีพันล้าน ทายาทยักษ์ใหญ่กิจการชิ้นส่วนรถยนต์ ก็ประสบความสำเร็จในการ “ปลุกไฟ” ในใจของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่แห่กันมาร่วมภารกิจหยุดยั้งวงจรอุบาทว์การรัฐประหารและการการสูญเสียเลือดเนื้อจากการประท้วงบนท้องถนน ซึ่งเป็นชนักติดหลังประเทศไทยมากว่า 80 ปีแล้ว ในความท้าทายอันแสนเข็ญนี้ เหล่านายพลในกองทัพก็ตอบโต้ธนาธรด้วยการฟ้องร้องดำเนินคดีจำนวนมากเพื่อหวังผลทางการเมืองทั้งสิ้น เขายืนยันว่าตนเองยังตั้งมั่นอยู่กับการก่อร่างสร้างความเข้มแข็งแก่การเคลื่อนไหวของเขาในสภา แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้าคดีความมากมายก็ตาม…”

“ตราบใดที่เหล่านายพลยังอยู่ในอำนาจ การต่อสู้ของพวกเราก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป” ดท้ายนายธนาธรกล่าวว่า “Democratization, demilitarization and decentralization is our call.” ; ” กระบวนการนำมาซึ่งประชาธิปไตย การแยกกองทัพออกจากการเอง และการกระจายอำนาจ นี่คือหัวใจของพวกเรา”

TIME 100 Next เป็นแคมเปญใหม่ของนิตยสาร TIME ที่อาจจะดูคล้ายคลึงกับแบบเก่าที่เรียกกันว่า “TIME 100 list of the world’s most influential people” หรือ “100 บุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกสำหรับ TIME” นั่นเอง สิ่งที่แตกต่างกันไปในคราวนี้ คือการโน้มเอียงไปในทางของกระแสความเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาแรงและพลิกโฉมหน้าโลกแบบเดิมที่เราเคยรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของสื่อสังคมออนไลน์ ความเชื่อมั่นในสถาบันดั้งเดิมที่ถดถอยลงเรื่อยๆ หรือแม้แต่ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ใหม่ เหล่านี้ล้วนส่งผลให้ TIME เน้นการคัดเลือกบุคคลที่ฉายแววว่าจะเป็นผู้กุมทิศทางอนาคตของโลกในทางธุรกิจ การบันเทิง กีฬา การเมือง วิทยาศาสตร์ สุขภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย บุคคลทุกคนที่อยู่ใน TIME 100 Next ล้วนมีความใฝ่ฝันอันยิ่งใหญ่และพวกเขาทุกคนก็รู้ดีว่าเขาจะต้องเจออุปสรรคที่ใหญ่ยิ่งอีกมากมาย แต่สิ่งที่เป็นแรงขับให้พวกเขาเดินหน้าต่อไปคือ “ความหวัง” นั่นเอง แต่ละคนพร้อมที่จะเอาชนะความท้าทายและต่อสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่านี้

อย่างไรก็ตาม นายธนาธรไม่ใช่คนไทยเพียงคนเดียวที่ปรากฏในการจัดอันดับของนิตยสาร TIME 100 Next แต่ยังมี”กชกร วรอาคม” ภูมิสถาปัตย์ไทยคนแรกผู้คิดค้นที่กักน้ำได้กว่าล้านแกลลอนและออกแบบสวนกลางเมืองเช่น สวนจุฬา 100 ปี และ “ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า” ศิลปินวง BLACKPINK ซึ่งเป็นวงไอดอลวงแรกที่มียอดวิวบน Youtube กว่า 1000 ล้าน และผู้ติดตามอีก 30 กว่าล้าน ทั้งยังเป็นวงแรกที่ได้แสดงบนเวทีของ Coachella ด้วย

ที่มา : https://time.com/collection/time-100-next-2019/5718836/thanathorn-juangroongruangkit/

“สิระ”เปิดเหตุผล 6 ข้อ “เสรีพิศุทธิ์”ไม่เหมาะประธานกมธ.ป.ป.ช.

People Unity News : “สิระ”เปิดเหตุผล 6 ข้อ “เสรีพิศุทธิ์”ไม่เหมาะประธานกมธ.ป.ป.ช. ยันที่ประชุมมีอำนาจปลดพ้นตำแหน่ง ขณะที่ “นภาพร” เรียกร้อง “สิระ-ปารีณา” หยุดป่วนชี้ยุคสภาฯมาจากการเลือกตั้ง ทุกคนต้องยอมรับการตรวจสอบ

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวช ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปช.) ออกมาระบุว่า ไม่สามารถปลดจากประธานคณะกรรมาธิการได้ว่า คณะกรรมาธิการสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ หากเห็นว่า ประธานมีความไม่เหมาะสมก็สามารถโหวตเปลี่ยนแปลงได้ อยากให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ไปศึกษาข้อบังคับให้ดี

“ขณะนี้ การทำงานของคณะกรรมาธิการมีการ นำประเด็นส่วนตัวมาใช้ในคณะกรรมาธิการ ทำให้ไม่สามารถทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้เต็มที่ ทำให้เสียโอกาส และในการเป็นประธานก็มีความไม่เหมาะสมในหลายประเด็น”นายสิระ กล่าว

นายสิระ กล่าวว่า ความไม่เหมาะสมของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เท่าที่ได้สัมผัสในการเข้าประชุมคณะกรรมาธิการเพียงครั้งเดียว 1.ปกปิดข้อมูล กรณีตัวแทนนายกรัฐมนตรี นำข้อมูลมาชี้แจง กรรมาธิการขอดูข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา แต่ไม่ได้ดู 2.พฤติกรรมไม่เหมาะสม กรณีชี้หน้าคณะกรรมาธิการในที่ประชุม ถามกลับไปว่า ถ้าประธานโดนชี้หน้าบ้างจะรู้สึกอย่างไร 3.ไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้แสดงความคิดเห็นตามอำนาจหน้าที่ 4.แถลงข่าวประจานกรรมาธิการ ในขณะกรรมาธิการไม่อยู่ด้วย
5.ใช้วาจาไม่เหมาะสมกับคณะกรรมาธิการ 6.ไม่ให้เกียรติคณะกรรมาธิการ

“พฤติกรรมที่กล่าวมา สร้างความอึดอัดให้กับคณะกรรมาธิการ แม้จะซีกฝ่ายค้านก็ตาม ส่วนใหญ่จึงเห็นด้วยให้มีการเปลี่ยนแปลงตัวประธาน’ นายสิระ กล่าวและว่า หากตำแหน่งประธานเป็นของพรรคเสรีรวมไทย ก็ส่งคนใหม่มาเป็น แต่หากไม่มีใครก็พร้อมที่จะเป็นเอง”นายสิระ กล่าว

“นภาพร”เรียกร้อง “สิระ-ปารีณา”หยุดป่วนการทำงานของ กมธ.ปปช.

น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา รองเลขาธิการพรรคเสรีรวมไทย เห็นว่า การเสนอให้ปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกจากประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ของนายสิระ เจนจาคะ รวมทั้งการคัดค้านการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาชี้แจงใน กมธ.ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ 2 กมธ.ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เป็นเพียงความพยายามสกัดกั้นการทำหน้าที่ตรวจสอบของ กมธ.เท่านั้น

โดยยืนยันว่า พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เพียงทำหน้าที่ตามมติในที่ประชุม กมธ.และไม่ได้มีปัญหาเป็นการส่วนตัวกับใคร ดังนั้นทั้งนายสิระและ น.ส.ปารีณา ไม่ควรคิดแต่เพียงการเล่นเกมการเมืองเพื่อหวังสกัดกั้นการตรวจสอบผู้นำของพรรคตัวเองเท่านั้น

“ต้องเข้าใจด้วยว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยถูกตรวจสอบจากกลไกองค์กรอิสระ เพราะส่วนใหญ่ถูกแต่งตั้งโดย คสช. แม้จะมี สนช.แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นแค่สภาฝักถั่ว แต่ปัจจุบันมีสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ดังนั้น กระบวนการตรวจสอบจึงมีขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา เพียงแค่ พปชร.ยอมรับว่า กมธ.สามารถตรวจสอบนายกฯได้ ทุกอย่างก็จบ” น.ส.นภาพรกล่าว

น.ส.นภาพร ยังเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับการทำงานของ กมธ. เช่นเดียวกับนายทหารรุ่นน้องอย่าง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่เคยทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมาแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องส่งคนในพรรค พปชร.มาคอยสกัดกั้นการทำงานของ กมธ.เช่นนี้

ส่วนกรณีที่ น.ส.ปารีณาขู่ที่จะนำเรื่องราวในอดีตขึ้นมาตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์นั้น น.ส.นภาพรเห็นว่า ทุกคนต้องยอมรับการตรวจสอบ หากเราตรวจสอบคนอื่นได้ ก็ต้องพร้อมที่จะถูกคนอื่นตรวจสอบกลับเช่นกัน แต่โดยส่วนตัวไม่อยากให้เกิดปัญหาเช่นนี้ เพียงแต่อยากให้ทุกอย่างเดินไปตามระบบที่ถูกต้องเท่านั้นเอง

“เราต้องยอมรับว่า ยุคนี้เป็นยุคประชาธิปไตย มีสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นทุกคนควรยอมรับการตรวจสอบ ไม่ควรเล่นเกมการเมืองแบบนี้ เพราะจะเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยทางอ้อม ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของนักการเมืองทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งกับตัวนายสิระและ น.ส.ปารีณาเอง” น.ส.นภาพรกล่าว

Verified by ExactMetrics