วันที่ 29 มีนาคม 2024

รัฐบาลเผยสถานการณโควิดปี 66 ผู้ติดเชื้อลดลง

People Unity News : 27 มกราคม 66 รองโฆษกรัฐบาล เผยสถานการณ์โควิด-19 ปี 66 ผู้ติดเชื้อใหม่ยังลดลง สวนทางจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยเพิ่มต่อเนื่อง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันกำหนดแนวทางรองรับการเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภายหลังทางการประเทศจีนประกาศอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 เป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ได้มีการติดตามโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เพื่อมีข้อมูลนำไปสู่การบริหารจัดการที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 15–21 ม.ค. 66 ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 3 ของปี 66 ในรายงานสถานการณ์โควิด-19 พบว่า มีรายงานผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 627 ราย เฉลี่ยวันละ 90 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า (8-14 ม.ค.) ที่มีผู้ป่วยใหม่ 969 คน เฉลี่ยวันละ 138 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิตตลอดสัปดาห์อยู่ที่ 44 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่เสียชีวิต 65 ราย

ซึ่งชาวต่างชาติทุกสัญชาติที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8-21 ม.ค. 2566 พบผู้ติดเชื้อ 8 คน โดยมีอาการต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 1 คน และที่เหลือส่วนใหญ่ไม่มีอาการ สัญชาติที่ตรวจพบเชื้อ อันดับ 1 คือ จีน 3 คน เมียนมา กัมพูชา ญี่ปุ่น อังกฤษและเกาหลีใต้ ประเทศละ 1 คน และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเฝ้าติดตามสายพันธุ์ของโควิด-19 ก็รายงานว่าสายพันธุ์ที่พบในไทยขณะนี้ ร้อยละ 86 คือสายพันธุ์โอมิครอน BA.2.75 ส่วนที่เหลือเป็นสายพันธุ์อื่นที่เคยพบในต่างประเทศ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 และผู้เสียชีวิตจะลดลง รัฐบาลยังคงสนับสนุนให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยและเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มป้องกันโควิด-19 เข็มกระตุ้น และยังคงการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

Advertisement

เฝ้าระวังโควิดสายพันธุ์ย่อย JN.1

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 5 มกราคม 2567 เฝ้าระวังโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยตัวใหม่ JN.1 หลังพบในหลายประเทศปะปนในน้ำเสีย อาการไม่แตกต่าง แต่หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันดีขึ้น

ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เผยถึงการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ JN.1 (เจเอ็น วัน) ว่า พบผู้ป่วยแล้วในหลายประเทศ ทั้งในประเทศฝั่งยุโรป สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา และมีแนวโน้มในไทยด้วย ทั้งนี้ โควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 พัฒนาต่อเนื่องมาจากสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.2.86 โดยพบการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตรงโปรตีนหนาม 1 ตำแหน่ง ทำให้หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น จากเดิมที่ร่างกายเคยเรียนรู้วิธีป้องกัน อาจจะยากขึ้นต่อการรับมือ แต่อาการที่พบ ไม่ได้แตกต่างกับสายพันธุ์โอมิครอน ที่ผ่านมา

ส่วนการประกาศเรื่องไวรัสขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่ประกาศให้สายพันธุ์ JN.1 เป็นแบบ VOI หรือ Variants of interest หมายถึง เป็นสายพันธุุ์ที่น่าสนใจ แต่ไม่ได้น่ากังวลเท่าสายพันธุ์อัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา เบื้องต้นพบผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ JN.1 ในไทยแล้ว 3 คน และอาจต้องเฝ้าระวังจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงนี้เข้มงวดการตรวจเชื้อโควิดน้อยลง

ขณะที่อาการลักษณะคล้ายโอมิครอน ไม่รุนแรง แต่เป็นที่น่ากังวล เพราะสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบสาธารณสุขต้องเตรียมพร้อมรองรับด้วย อีกทั้งจะมีอาการผิดปกติระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากมีการตรวจพบเชื้อ JN.1 ในน้ำเสียในหลายประเทศ แหล่งอุจจาระและปัสสาวะในชุมชน อาจเป็นไปได้ว่าเชื้อมีการเคลื่อนตัวจากปอด ลงมาสู่ระบบทางเดินอาหารหรือไม่ จึงพบไวรัสในน้ำเสีย หัวหน้าศูนย์จีโนมฯ เปิดเผยว่า WHO จะให้มีการผลิตวัคซีนรุ่นใหม่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ๆ มากขึ้น ส่วนในไทยคาดว่าที่มีปัจจุบันมีเยอะน่าจะเป็นรุ่นที่ 2 ไบวาเลนท์ ซึ่งยังคงฉีดได้ แม้จะไม่ป้องกันการติดเชื้อ แต่ช่วยลดความอาการรุนแรงของโรคได้

ขณะที่วัฏจักรการระบาดของโควิด-19 ในช่วงเดือนมกราคม เป็นเรื่องปกติของการระบาด เหมือนช่วงเดลตาและโอมิครอน ซึ่งช่วงต้นปี 2024 พบการระบาดสายพันธุ์ JN.1 เป็นหลักแล้วหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ จึงต้องจับตาว่า ในบ้านเราการระบาดของ JN.1 จะมีจำนวนมากกว่าหรือน้อยกว่าเชื้อสายพันธุ์อื่นๆ ในช่วงระยะเวลาเดียวกันอย่างไร และจากนั้นสายพันธุ์นี้ก็จะลดหายไปในช่วงปลายเดือนมกราคม และจะมีสายพันธุ์ใหม่ที่พัฒนาจาก JN.1 มาแทนที่ ซึ่งต้องรอดูอัตราการแพร่ระบาดและความรุนแรงอีกครั้ง ส่วนบ้านเราที่น่ากังกลเป็นช่วงหลังเทศกาลที่มีการพบปะรวมตัวกัน และยังคงแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าในพื้นที่แออัด เพราะยังพอช่วยป้องกันได้

กินเจอย่างไร ให้สุขภาพดี ไม่กระทบโรคเรื้อรัง

People Unity News : 15 ตุลาคม 2566 แพทย์แนะผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) กินเจหากไม่ระวัง อาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายและอาจทำให้โรคที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้นได้

นายแพทย์ภควัต ตั้งจาตุรนต์รัศมี แพทย์ทางด้านโภชนาการ โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า อาหารเจเป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ซึ่งอาจรวมถึงไข่และนมด้วย เพราะฉะนั้นในช่วงเทศกาลกินเจ หลายคนจึงมักไปเน้นการกินผักและผลไม้เป็นหลัก

อย่างไรก็ตามอาหารเจส่วนใหญ่มักมีการประกอบอาหารด้วยการผัด ทอด และปรุงรสชาติที่เข้มข้น ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, โรคไตวายเรื้อรังได้ ดังนั้น ผู้ป่วยกลุ่มโรคดังกล่าวควรกินเจอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นปัจจัยทำให้โรครุนแรงขึ้น

คำแนะนำการกินเจสำหรับผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

-ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรเลือกกินอาหารเจที่มีไขมันต่ำ เช่น อาหารเจต้ม ผัด นึ่ง ย่าง หลีกเลี่ยงอาหารเจทอด

-ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรเลือกกินอาหารเจที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น อาหารเจต้ม ผัด นึ่ง ย่าง หลีกเลี่ยงอาหารเจที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวานเจ น้ำหวานเจ

-ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคไตวายเรื้อรัง ควรเลือกกินอาหารเจที่มีโซเดียมต่ำ เช่น อาหารเจต้ม ผัด นึ่ง ย่าง หลีกเลี่ยงอาหารเจที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารเจสำเร็จรูป อาหารเจกระป๋อง

ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังควรได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วน เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุ เพื่อส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว หากจำเป็นต้องกินเจ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือนักกำหนดอาหารเพื่อขอคำแนะนำในการกินเจที่เหมาะสมกับโรคของตัวเอง

Advertisement

กรมควบคุมโรคเผยกรุงเทพฯผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุดรอบสัปดาห์

People Unity : กรมควบคุมโรคเผยแพร่”พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์” กรุงเทพฯผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด

วันที่ 26 ต.ค.2562 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย จากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2562) พบผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน 737,464 ราย และเสียชีวิต 13,291 ราย ส่วนจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ รองลงมาคือชลบุรี นครราชสีมา เชียงใหม่ และสมุทรปราการ ตามลำดับ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ นอกจากตัวผู้ขับขี่และยานพาหนะแล้ว ยังมีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมด้วย เช่น ฝนตก ถนนลื่น ทัศนวิสัยไม่ดี

อธิบดีกรมควบคุมโรคระบุอีกว่า การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสจะพบอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ประชาชนมักเดินทางท่องเที่ยวตามภูเขาสูง โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ซึ่งในช่วงเช้าอาจมีหมอกลงจัด ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงได้ ประกอบกับในบางพื้นที่ยังมีฝนตก อาจทำให้ถนนลื่น เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ใช้หลักการป้องกันการบาดเจ็บ ตามหลัก 3ม. 2ข. 1ร. ได้แก่ 3ม. (เมาไม่ขับ สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ปลอดภัย) 2ข. (คาดเข็มขัดนิรภัย พกใบขับขี่ติดตัวเสมอ) และ 1ร. (ขับขี่ไม่เร็ว) หากผู้ขับขี่รู้สึกเกิดความอ่อนล้า อย่าฝืนขับ ควรพักงีบหลับอย่างน้อย 15 นาที และหลีกเลี่ยงการโดยสารบนกระบะท้าย กรณีมีความจำเป็นต้องโดยสารให้มีหลังคาปกปิด และมีที่นั่งสองแถวที่มั่นคงแข็งแรง ไม่นั่งห้อยโหนหรือยืนกระบะท้าย ตรวจสอบสมรรถนะรถและสภาพความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ขับขี่รถยนต์ตามกฎจราจร และเว้นระยะห่างขณะขับตามรถคันหน้าให้มากกว่าปกติเป็น 2 เท่า โดยเฉพาะช่วงฝนตกหรือหมอกลงจัด เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้

องค์การเภสัชกรรมเร่งผลิตยาโอเซลทามิเวียร์ รักษาไข้หวัดใหญ่เพิ่ม

People Unity News : 30 กันยายน 2566 องค์การเภสัชกรรมเร่งผลิตยาโอเซลทามิเวียร์รักษาไข้หวัดใหญ่สำรองเพิ่มเติม 26 ล้านเม็ด รองรับการระบาดไข้หวัดใหญ่และทำหนังสือถึง อย. นำยาฟาวิพิราเวียร์ เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติใช้ในไข้หวัดใหญ่

องค์การเภสัชกรรมได้เร่งผลิตยาโอเซลทามิเวียร์ สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ จำนวนรวม 26 ล้านเม็ด เพื่อรองรับการระบาดไข้หวัดใหญ่ที่ยังระบาดต่อเนื่อง เป็นวงกว้าง โดยเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่ วันที่ 4 ตุลาคม นี้ และล่าสุดทำหนังสือถึง อย. พิจารณานำยาฟาวิพิราเวียร์เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติข้อบ่งใช้ในไข้หวัดใหญ่ พร้อมส่งโรงพยาบาลทันที จำนวน 1.6 ล้านเม็ด

พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ขยายเป็นวงกว้าง จนส่งผลให้มีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนมากขึ้น องค์การเภสัชกรรมจึงได้เร่งจัดส่งยาโอเซลทามิเวียร์ ให้กับโรงพยาบาลที่มีการสั่งยาเข้ามาจนหมดแล้วตั้งแต่กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่เนื่องจากมีความต้องการยาเพิ่มสูงมาขึ้น 4–5 เท่า จึงได้มีการเร่งผลิต สำรองยาที่จะต้องผลิตเพิ่มขึ้นทั้ง 3 ขนาด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเด็กเล็กขนาด 30 มิลลิกรัม เด็กโตขนาด 45 มิลลิกรัม ผู้ใหญ่ 75 มิลลิกรัม โดยขณะนี้มีวัตถุดิบประมาณ 2,800 กิโลกรัม ซึ่งสามารถผลิตเป็นยาโอเซลทามิเวียร์ ได้ประมาณ 26 ล้านเม็ด โดยยาโอเซลทามิเวียร์สำหรับเด็กเล็ก 30 มิลลิกรัม องค์การฯ จะจัดส่งได้หมดในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ ขนาด 45 มิลลิกรัมจะส่งได้ไม่เกินวันที่ 9 ตุลาคมนี้ และขนาด 75 มิลลิกรัมสำหรับผู้ใหญ่จะทยอยจัดส่งได้ไม่เกินเดือนตุลาคม 2566

นอกจากนี้ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อไปว่า องค์การฯยังได้มีการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 1.6 ล้านเม็ด และมีวัตถุดิบที่สามารถผลิตยาได้อีก จำนวน 880,000 เม็ด และล่าสุดองค์การฯ ได้จัดทำหนังสือถึง อย. ไปยังคณะอนุกรรมการฯ บัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อพิจารณาขอให้นำยาฟาวิพิราเวียร์เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติในข้อบ่งใช้การติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่อีกด้วย

“ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า องค์การฯสามารถจัดเตรียมยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษา และสำรองวัตถุดิบไว้รองรับอย่างเพียงพอและทั่วถึง หากมีความจำเป็นต้องการใช้อย่างเร่งด่วนก็สามารถเร่งการผลิตเพิ่มเติมให้รวดเร็วทันการมากที่สุดได้ในทันที” ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าว

Advertisement

ธอส.รับนโยบายนายกรัฐมนตรีช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพ จ.อยุธยา

People Unity News : ธอส. รับนโยบายนายกรัฐมนตรี เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ณ วัดสะตือ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 300 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน พร้อมให้คำปรึกษาแนวทางช่วยเหลือผ่าน 7 มาตรการ ตาม “โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2564”

14 ตุลาคม 2564 นายยุทธนา หยิมการุณ ประธานกรรมการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้รัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ร่วมกันลงพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนนั้น ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง ได้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด พร้อมกับให้ความช่วยเหลือลูกค้ามาอย่างต่อเนื่องผ่าน “โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2564”  และในวันนี้ (14 ตุลาคม 2564) ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานของธนาคาร นำโดย นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. จึงได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ จำนวน 300 ชุด ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ บริเวณวัดสะตือ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และยังได้รับฟังความต้องการของประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมถึงให้คำแนะนำแนวทางความช่วยเหลือของธนาคารทั้ง 7 มาตรการตาม “โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2564” กรอบวงเงินรวมของโครงการ 100 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งการลดดอกเบี้ย ให้กู้เพิ่ม/กู้ใหม่อัตราดอกเบี้ยต่ำ มาตรการประนอมหนี้ ปลอดหนี้ และพิจารณาสินไหมเร่งด่วนให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้รับทราบ โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารเปิดจุดบริการพิเศษเพื่อรับคำขอเข้ามาตรการและให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่ง ธอส. ยืนยันว่าพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนถึงปัจจุบัน ธอส. ได้ส่งมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยมาแล้วกว่า 3,000 ชุด ให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างภาคกลาง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวม 13 จังหวัด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร ด้วยความห่วงใยและตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกในการเป็นจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคมให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

Advertising

กทม.จับมือ สภาเภสัชกรรม เชื่อมโยงการทำงานร้านยาคุณภาพ กับศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.

People Unity News : 25 กรกฎาคม 2566 กทม. ร่วมกับ สภาเภสัชกรรม เชื่อมโยงการทำงานร้านยาคุณภาพ กับศูนย์บริการสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร เพิ่มทางเลือกให้ประชาชน ในการดูแลรักษาภาวะความเจ็บป่วยเบื้องต้น และเพิ่มประสิทธิภาพการส่งต่อผู้ป่วยไปยังศูนย์บริการสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร

รองศาสตราจารย์ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หารือกับ เภสัชกรปรีชาพันธุ์ติเวช อุปนายกสภาเภสัชกรรม คนที่ 2 และคณะ เพื่อร่วมกันหาแนวทางลดความแออัดในโรงพยาบาลและพัฒนาระบบสาธารณสุขปฐมภูมิให้เข้มแข็ง ด้วยการนำร้านยาคุณภาพ ซึ่งผ่านการรับรองจากสภาเภสัชกรรม เข้ามาอยู่ในเครือข่ายเดียวกับกรุงเทพมหานคร ผ่านระบบBangkok Health Zoning เพื่อเชื่อมต่อการทำงานระหว่างร้านยาคุณภาพกับศูนย์บริการสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร ทำให้ระบบสาธารณสุขปฐมภูมิ หรือหน่วยการรักษาพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้าน มีความเข้มแข็ง และทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการให้บริการได้ง่ายมากขึ้นและทางเลือกของประชาชนในการดูแลรักษาภาวะความเจ็บป่วยเบื้องต้นของตนเอง เพราะร้านยาคุณภาพ จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้ยาที่ถูกต้อง และการดูแลรักษาสุขภาพ ควบคู่กับการให้บริการด้านยาและส่งเสริมให้เกิดการใช้ยาที่เหมาะสมตลอดจนให้คำแนะนำ และช่วยดูแลประชาชนในเรื่องของสิทธิการรักษา รวมถึง ส่งต่อผู้ป่วยไปยังศูนย์บริการสาธารณสุขของกรุงเทพมหานครได้

ทั้งนี้ ในอนาคต กรุงเทพมหานครและสภาเภสัชกรรม จะมีการทำ MOU ร่วมกันในเรื่องนี้ และจะมีการนำข้อมูล ตลอดจนพิกัดของร้านยาคุณภาพมาอยู่บนระบบ Bangkok Health Map เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการระบบสาธารณสุขในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้มีประสิทธิภาพต่อไป

Advertisement

สถาบันทันตกรรมให้บริการทำฟันฟรี 300 ราย ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า

People Unity : กรมการแพทย์โดยสถาบันทันตกรรม ให้บริการทำฟันฟรีแก่ประชาชน 300 ราย ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ พร้อมแนะพ่อแม่ดูแลสุขภาพของช่องปากและฟันของเด็กตั้งแต่แรกเกิดป้องกันปัญหาฟันผุ

วันที่ 21 ตุลาคม 2562 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ตรงกับวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ กรมการแพทย์โดยสถาบันทันตกรรม ได้ให้บริการและจัดกิจกรรมให้ความรู้ทางทันตกรรมแก่ประชาชน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีพระเมตตาต่อประชาชนชาวไทย ทั้งนี้การดูแลสุขภาพของช่องปากและฟันโดยเฉพาะเด็ก ถือเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญในการดูแลตั้งแต่แรกเกิด เพราะหน้าที่ของฟันนอกจากใช้บดเคี้ยวอาหารและให้ความสวยงามแล้ว ยังช่วยพัฒนาการออกเสียงได้ชัดเจน นอกจากนี้เด็กยังได้รับสารอาหารที่เพียงพอจากการมีฟันที่ดีใช้บดเคี้ยวอาหาร ส่งผลดีต่อการเรียนรู้และสติปัญญาอีกด้วย ซึ่งปัญหาสุขภาพฟันที่มักเกิดขึ้นกับเด็กคือ ฟันผุ โดยมีสาเหตุมาจากการบริโภคอาหารจำพวกขนมกรุบกรอบ และเครื่องดื่ม
ที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ หรือน้ำอัดลม

ด้านทันตแพทย์อำนาจ ลิขิตกุลธนพร ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สุขภาพช่องปากเด็กควรดูแลตั้งแต่เริ่มมีฟันน้ำนม เพราะฟันน้ำนมมีประโยชน์ทั้งในการช่วยกัด และบดเคี้ยวอาหาร ช่วยในการออกเสียง กันพื้นที่สำหรับฟันแท้ ส่งผลให้ฟันแท้เรียงตัวได้สวยงาม ซึ่งโรคฟันผุเกิดจากเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล เกิดเป็นกรดที่สามารถละลายแร่ธาตุที่ผิวฟันและทำลายชั้นเคลือบฟัน ทำให้ฟันเกิดรูผุที่มองเห็นได้ และฟันที่ผุลึกอาจทำให้เด็กปวดฟัน ดังนั้นผู้ปกครองควรดูแลเอาใจใส่ ฝึกให้เด็กคุ้นเคยกับการทำความสะอาดช่องปาก สอนให้แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน สร้างบรรยากาศในการแปรงฟันให้รู้สึกสนุกผ่อนคลาย และตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน จากทันตแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำเรื่องอาหารและการดูแลสุขภาพช่องปาก ทั้งนี้ในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติปีนี้ สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ ได้ให้บริการทางทันตกรรมตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟันและขูดหินปูน ให้แก่ประชาชน จำนวน 300 ราย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในวันที่ 21 ตุลาคม 2562 โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี

รฟท.ห่วงความปลอดภัยผู้โดยสาร หลังยุบตำรวจรถไฟ

People Unity News : 30 มิถุนายน 2566 รฟท. ห่วงความปลอดภัยผู้โดยสาร หลังยุบตำรวจรถไฟ เร่งหาแนวทางเพิ่มมาตรการดูแล

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ (บก.รฟ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะถูกยุบเลิก ตั้งแต่เดือน ต.ค. 66 นี้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อ รฟท. ที่เดิมมีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ทั้งสถานีและบนขบวนรถไฟ แม้ว่า รฟท. จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในการให้บริการผู้โดยสารอยู่แล้ว แต่ก็มีข้อจำกัดในกรณีเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง

“การที่ไม่มีตำรวจรถไฟกระทบแน่นอน แต่ไม่ได้ทั้ง 100% เพราะมีเจ้าหน้าที่ รฟท. ดูแลอยู่แล้วส่วนหนึ่ง แต่ต้องเข้าใจว่ากรณีมีคนร้ายหรือเกิดเหตุรุนแรง การมี รปภ. กับมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจช่วยเราได้มาก ดังนั้น จะประสานกับตำรวจในการขอให้จัดกำลังมาดูแลในพื้นที่จำเป็น เพราะปัญหาจะอยู่ที่บนขบวนรถไฟ ซึ่งเดิมมีตำรวจรถไฟ ประจำบนขบวนรถไฟไปตลอดทาง โดยจะมีการจัดกำลังรับช่วงต่อกันในแต่ละพื้นที่ แต่เมื่อตำรวจรถไฟถูกยุบ กำลังตำรวจบนรถไฟก็จะหายไป” นายนิรุฒ กล่าว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา รฟท. ได้หารือกับทางตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ซึ่งจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยดูแลความปลอดภัยต่อไปก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน แต่อาจจะมีประเด็นในเรื่องของเขตอำนาจในการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ อาจจะเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง

ในส่วนของ รฟท. ได้เตรียมแผนรองรับ เช่น แนวทางจัดจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่ม หรืออาจจะทำเอ็มโอยูร่วมกับตำรวจให้จัดกำลังมาดูแล โดย รฟท. อาจจะจัดงบประมาณรองรับในส่วนนี้ ซึ่งต้องหารือกันว่าโครงสร้างตำรวจจะดำเนินการในรูปแบบดังกล่าวได้หรือไม่

ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า จะเร่งหารือร่วมกับทางตำรวจเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุดมีการเสนอการจัดพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ให้ทางตำรวจ ขณะนี้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ประสานขอใช้พื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะมีตำรวจอีกหลายหน่วยที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ เพราะในอนาคตสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะเป็นศูนย์กลางการคมนาคม ซึ่งจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก

Advertisement

นายกฯ ชูพลังสตรีขับเคลื่อนประเทศ พร้อมส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศและศักยภาพผู้หญิง

People Unity News : 23 มิถุนายน 65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถาพิเศษในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก ประจำปี 2565 ซึ่งมีผู้ร่วมงานจาก 52 ประเทศ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีของไทยที่จะได้รับประสบการณ์ดีๆ จากสุดยอดผู้นำสตรีทั่วโลก และชื่นชมการจัดงานแบบรักษ์โลก (ประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมในการประชุม) สอดคล้องกับหลักการของไทย ที่พร้อมรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ไปพร้อมกับทุกคน

ไทยริเริ่มเดินหน้าพัฒนาประเทศในทุกมิติ รวมถึงการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ โดยการสนับสนุนการสร้างพื้นที่ให้ผู้หญิงได้แสดงศักยภาพของตนเอง และผู้หญิงคือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม

เช่น การส่งเสริมบทบาทผู้หญิงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยังนำไปสู่สันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ รวมถึง อสม. กว่าล้านคน ที่กว่า 90% เป็นผู้หญิง ที่คอยดูแลสุขภาพ กระตุ้นให้คนออกมาฉีดวัคซีนในช่วงโควิดที่ผ่านมา

นอกจากนี้ รัฐบาลได้เปิดโอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในยุคดิจิทัล โดยร่วมมือกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพแรงงานสตรีในสถานประกอบกิจการ/ ร่วมรับรองเอกสารวาระการดำเนินงานในการสร้างความตระหนักในเรื่องการส่งเสริมขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของสตรีในอาเซียน/ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจ ในเดือน ก.ย. 65 ฯลฯ

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและส่งเสริมบทบาทสตรีในการพัฒนาเศรษฐกิจโลกอย่างยั่งยืน

Advertisement

Verified by ExactMetrics