วันที่ 20 เมษายน 2024

เตือนลูกจ้างอย่าเที่ยวสงกรานต์เพลิน ขาดงาน 3 วันนายจ้างเลิกจ้างไม่จ่ายชดเชย

People unity news online : 15 เมษายน 2561 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เตือนลูกจ้างวางแผนเดินทางช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์กลับมาทำงานตามวันเวลาที่กำหนด โดยไม่ขาดงานติดต่อกันเกิน 3 วัน เพราะอาจเป็นสาเหตุให้ถูกลงโทษทางวินัยหรือบอกเลิกจ้างได้

นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์สถานประกอบกิจการส่วนใหญ่ได้ประกาศให้เป็นวันหยุดต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายวัน เพื่อให้ลูกจ้างเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัว และร่วมกิจกรรมตามประเพณีนิยม กสร. ขอฝากเตือนไปยังลูกจ้างทุกท่านที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงสงกรานต์ให้วางแผนการเดินทางไปกลับเพื่อความสะดวก ปลอดภัยและกลับมาทำงานทันตามวันเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้ขาดงานโดยไม่มีเหตุอันจำเป็น เพราะอาจทำให้ลูกจ้างถูกลงโทษทางวินัยและอาจเป็นสาเหตุให้นายจ้างบอกเลิกจ้างได้

อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ได้กำหนดกรณีลูกจ้างละทิ้งหน้าเป็นเวลา 3 วันทำงานติดต่อกันไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตามโดยไม่มีเหตุอันสมควรนายจ้างสามารถเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นจึงขอให้ลูกจ้างปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานอย่างเคร่งครัด

People unity news online : post 16 เมษายน 2561 เวลา 07.00 น.

รู้ยัง! ก.ดิจิทัลจับมือทีโอที-กสท-เอไอเอส-ทรู ลงทะเบียนครั้งเดียวใช้ Free Wi-Fi ได้ทุกค่าย

People unity news online : กระทรวงดิจิทัลฯ สนับสนุน สดช. ร่วมมือ ทีโอที กสทฯ เอไอเอส และทรู เปิดตัวโครงการ “Smart Sign On” ให้บริการอินเทอร์เน็ต Free Wi-Fi ทั่วประเทศร่วม  50,000 จุดบริการ ลงทะเบียนเพียงครั้งเดียว ใช้ Username และ Password เดียวกันได้กับทุกเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นของขวัญปีใหม่ไทยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวก

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561 ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยุทธศาสตร์ “การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลประสิทธิภาพสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ” เป็นการมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลประสิทธิภาพสูง ที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้แบบทุกที่ทุกเวลา กระทรวงฯจึงได้ดําเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ (โครงการเน็ตประชารัฐ) โครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน โครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ Smart City จังหวัดภูเก็ต และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายเพื่อประโยชน์สาธารณะ (Free Wi-Fi) เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน ส่งเสริม ให้ประชาชนไม่จํากัดอายุ การศึกษา สถานะทางการเงินและสังคม รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการดิจิทัลที่เป็นประโยชน์ได้

สําหรับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายเพื่อประโยชน์สาธารณะ (Free Wi-Fi) เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะผ่านระบบตรวจสอบสิทธิ (Smart Sign On) ทั่วประเทศนั้น กระทรวงดิจิทัลฯโดยสํานักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ได้รับความร่วมมือในการดำเนินโครงการฯจากบริษัท กสท โทรคมนาคม จํากัด (มหาชน) บริษัท ทีโอทีจํากัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ ทรูมูฟ ซึ่งได้มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการฯภายใต้แนวคิด “Thailand Wi-Fi เชื่อมติดชีวิตดิจิทัล” ในวันนี้ (30 มีนาคม 2561)

ด้าน นางสมใจ ประเสริฐจีรังกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ปี 2555 กระทรวงฯได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการต่างๆ ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีในที่สาธารณะ กระจายอยู่ตามสถานที่ชุมชน อาทิ สถานศึกษา สถานบริการภาครัฐ สถานีขนส่ง รถไฟ รถประจําทาง ท่าอากาศยาน และสถานที่ท่องเที่ยว จากการให้บริการที่ผ่านมาประชาชนได้รับประโยชน์เป็นจํานวนมาก แต่ด้วยผู้ให้บริการแต่ละรายมีการบริหารจัดการแยกกัน ส่งผลให้ประชาชนต้องลงทะเบียนซ้ำซ้อนหลายครั้ง เมื่อต้องการเข้าใช้บริการกับผู้ให้บริการที่แตกต่างกัน จึงเกิดความไม่สะดวกในการใช้บริการ

ดังนั้น สดช. ในฐานะหน่วยงานหลักซึ่งทําหน้าที่กําหนดนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการทั้ง 5 รายดังกล่าว ดําเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายเพื่อประโยชน์สาธารณะ (Free Wi-Fi) เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (Free Wi-Fi) โดยจัดให้มีระบบตรวจสอบสิทธิ (Smart Sign On) การเข้าใช้งานบริการ Free Wi-Fi ส่วนกลาง ซึ่งผู้ใช้บริการลงทะเบียนเพียงครั้งเดียวก็สามารถใช้บริการ Free Wi-Fi ด้วยชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) เดียวกันได้กับทุกผู้ให้บริการ (ISP) ที่เข้าร่วมโครงการฯทั่วประเทศ เช่น บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะตามโครงการเน็ตประชารัฐ บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะตามโครงการ Smart City จังหวัดภูเก็ต โครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) (AIS) และบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) เป็นต้น รวมทั้งสิ้นประมาณ 46,700 จุด ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนประมาณ 120,000 คน และเข้าใช้งานแล้วมากกว่า 1,600,000 ครั้ง

การจัดงานเปิดตัวโครงการฯครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบประโยชน์ของการใช้งานระบบตรวจสอบสิทธิ (Smart Sign On) สําหรับเข้าใช้งาน Free Wi-Fi ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากบริการต่างๆของภาครัฐอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้งานได้ ณ จุดบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะทั่วประเทศ หรือลงทะเบียนเพื่อขอรับ Username และ Password ล่วงหน้าได้ที่www.th-wifi.net และ Mobile Application ชื่อ ThailandWiFi ทั้งระบบ iOS และ Android และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB : THWi-Fi:Smart Sign On

People unity news online : post 2 เมษายน 2561 เวลา 18.30 น.

ด่วน!สาธารณสุขเตือนประชาชนระวัง 6 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำในพื้นที่ประสบภัยแล้ง

People Unity : กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวัง 6 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำที่พบบ่อยในพื้นที่ประสบภัยแล้ง อาจขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาด ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. แนะนำประชาชนในการป้องกันโรค ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” หากท้องเสีย อาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์

วันนี้ (29 กรกฎาคม 2562) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ประสบภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง ซึ่งสภาพอากาศร้อน แล้ง อาจทำให้เกิดโรคติดต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ ได้ให้กรมควบคุมโรคเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและผลกระทบต่อสุขภาพ และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเฝ้าระวังสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ให้คำแนะนำประชาชนในการป้องกันโรค หากมีอาการท้องเสีย อาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์

ด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้ให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมปฏิบัติงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่รับผิดชอบ หากพบกลุ่มก้อนการระบาดของโรคติดต่อที่สัมพันธ์กับภัยแล้ง ให้ลงพื้นที่ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคทันที สื่อสารความเสี่ยงให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ในการป้องกันตนเองจากการเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อที่มีอาหารและน้ำเป็นสื่อ โดยรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ ร้อน ปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ใช้ช้อนกลางเมื่อกินอาหารร่วมกันหมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินอาหาร และหลังการขับถ่าย หากมีอาการท้องเสีย ดูแลเบื้องต้นโดยการจิบน้ำผสมสารละลายเกลือแร่ (ORS) บ่อยๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ หากอาการไม่ดีขึ้น รับประทานอาหารไม่ได้ กระหายน้ำมากกว่าปกติ หรืออุจจาระเป็นมูกปนเลือด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ทั้งนี้ สำนักระบาดวิทยา รายงานตั้งแต่ต้นปี 2562 พบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหาร 6 โรคสำคัญ ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง 575,112 ราย  โรคอาหารเป็นพิษ 59,360 ราย โรคบิด 432 ราย อหิวาตกโรค 9 ราย ไข้ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย 560 ราย ไวรัสตับอักเสบเอ 224 ราย

ข่าวด่วน : ก.สาธารณสุขเตือนประชาชนระวัง 6 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำในพื้นที่ประสบภัยแล้ง

People Unity : post 29 กรกฎาคม 2562 เวลา 13.30 น.

ด่วน!สธ.เผยพบผู้ป่วยไข้เลือดออกกว่าหมื่นคนเป็นเด็กนักเรียน แนะ รร.รีบป้องกันช่วงเปิดเทอม

People Unity : กระทรวงสาธารณสุข เผย 5 เดือนของปี 2562 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้วกว่า 20,000 คน เกินครึ่งเป็นเด็กนักเรียน ขอความร่วมมือผู้ปกครอง ครู กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในบ้านและโรงเรียนเพื่อป้องกันไข้เลือดออกช่วงเปิดเทอมและเข้าสู่ฤดูฝน

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน เกิดฝนตกในหลายพื้นที่ อาจมีน้ำขังในภาชนะที่ถูกทิ้งไว้บริเวณบ้าน โรงเรียน ศาสนสถาน กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่เป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก โดยในปีนี้ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 13 พ.ค. ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ระบุพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเป็นเด็กนักเรียนถึงร้อยละ 52 จากผู้ป่วยทั้งหมด 20,733 คน เสียชีวิต 25 ราย จึงขอเชิญชวนให้ผู้ปกครอง ครู พี่เลี้ยงเด็ก เข้มงวดเรื่องการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เพื่อให้ลูกหลานปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออกต้อนรับเปิดเทอมใหม่ เพราะเด็กนักเรียนมีโอกาสได้รับเชื้อโรคไข้เลือดออกจากยุงลายที่บ้านและโรงเรียน

“ขอให้ทุกบ้าน ทุกโรงเรียนสำรวจจุดเสี่ยงที่เป็นแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงลายที่พบบ่อย เช่น ภาชนะที่ถูกทิ้งรอบๆบ้าน จานรองกระถางต้นไม้ ยางรถยนต์เก่า ที่อาจพบไข่ยุงลายติดอยู่และอยู่ได้นานถึง 1 ปี เมื่อมีน้ำขัง ไข่ยุงจะเติบโตเป็นลูกน้ำยุงลายได้ภายใน 1-2 วัน ส่วนในบ้านพบได้ตามภาชนะรองน้ำทิ้งด้านหลังตู้เย็น แก้วน้ำหิ้งพระ แจกันที่ศาลพระภูมิ  ขอให้ล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำทุกสัปดาห์  ซึ่งหากทุกคนร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย จะช่วยลดจำนวนลูกน้ำยุงลายและโอกาสการเกิดโรคไข้เลือดออกลงได้” นายแพทย์สุขุมกล่าว

นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ วิธีการป้องกันการเกิดไข้เลือดออกที่ดีที่สุด คือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ใช้มาตรการ “3 เก็บ 3 โรค” คือ 1.เก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำและเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันดอกไม้ทุกสัปดาห์  2.เก็บขยะ เศษภาชนะรอบบ้าน ทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำต้องปิดฝามิดชิดป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ซึ่งการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย จะสามารถป้องกันได้ 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิก้า และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย

ข่าวด่วน : ด่วน!สธ.เผยพบผู้ป่วยไข้เลือดออกกว่าหมื่นคนเป็นเด็กนักเรียน แนะ รร.รีบป้องกันช่วงเปิดเทอม

People Unity : post 21 พฤษภาคม 2562 เวลา 10.30 น.

ศบค.ปลดล็อกให้นั่งทานอาหารในร้านเปิดโล่งได้ร้อยละ 75 ร้านปรับอากาศร้อยละ 50 เริ่ม 1 ก.ย.นี้

People Unity News : ศบค. ปลดล็อกให้นั่งทานอาหารภายในร้านเปิดโล่งได้ร้อยละ 75 และร้านอาหารปรับอากาศ ร้อยละ 50 เริ่มนำร่อง 1 กันยายนนี้ ในพื้นที่ที่มีความพร้อม

วันนี้ (27 สิงหาคม 2564)  เวลา 09.30 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ครั้งที่ 13/2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ปลดล็อกให้นั่งทานอาหารได้ในร้านที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศร้อยละ 75 และร้านอาหารปรับอากาศ  ให้นั่งรับประทานได้ร้อยละ 50  คงมาตรการ Curfew ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด  ทั้งนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการปรับมุมมองและยุทธศาสตร์การบริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยให้ประชาชนสามารถอยู่กับโรคได้อย่างปลอดภัย เพราะเชื่อว่าไวรัสโควิด-19 จะไม่หมดไปและจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น ศบค. จึงกำหนดเป้าหมาย ด้วยการควบคุมโรคให้สมดุลกับการดำรงชีวิตและสามารถทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลได้เริ่มดำเนินกิจกรรม โครงการแล้ว อาทิ Phuket Sandbox และ Samui Plus Model ซึ่งเป็นการทยอยเปิดกิจกรรมและในพื้นที่ที่มีความพร้อมตามเป้าหมายการเปิดประเทศอย่างเป็นขั้นตอน ภายใต้ความปลอดภัยด้านสาธารณสุข DMHTT และมาตรการ Universal Prevention นายกรัฐมนตรียังฝากกระทรวงพาณิชย์ติดตามความต้องการใช้ออกซิเจนทางการแพทย์ให้เพียงพอ พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันการลักลอบส่งออกถังออกซิเจนผิดกฎหมายด้วย

นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งจัดหาวัคซีนโควิดสำหรับเด็กอายุ 12-18 ปี ซึ่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้รายงานว่า ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนให้กับครูแล้วกว่า 573,656 คน และยังคงมีนักเรียนในระบบอีกประมาณ 4 ล้านคน  จากการประเมินของกระทรวงสาธารณสุขคาดว่า ภายในสิ้นปีนี้ ไทยจะได้รับวัคซีนรวมทุกประเภท 140 ล้านโดส ก็ขอให้เดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการศึกษา กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งชาวต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทย ให้เร็วที่สุดสอดคล้องกับจำนวนวัคซีนที่ไทยมีอยู่ รวมทั้งให้เร่งรัดการเข้าถึงการตรวจโควิด-19 ด้วย ATK ด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันรัฐบาลพร้อมยกระดับงานวิจัยและพัฒนาวัคซีนไทย เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุข ครอบคลุมถึงการกระบวนการผลิต เพื่อให้ไทยสามารถพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในอนาคตได้ และจากที่ได้ติดตามการพัฒนา วัคซีน ChulaCov19 (จุฬา-คอฟ-19) ชนิด mRNA โดยคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งเป้าหมายขึ้นทะเบียนให้ใช้ได้ ในรูปแบบภาวะฉุกเฉินในช่วงเดือนเมษายน 2565 และวัคซีนใบยาที่ใช้เทคโนโลยีจากใบยาสูบ รัฐบาลพร้อมจัดสรรงบประมาณและเร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. ได้คลายล็อกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด สอดคล้องกับนายกรัฐมนตรีที่ห่วงใยการประกอบอาชีพของพี่น้องประชาชน โดยหวังให้ประชาชนสามารถดำเนินกิจการ/กิจกรรมทางได้ ด้วยการยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 สำหรับเปิดกิจการ/จัดกิจกรรมให้ปลอดภัย ลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ภายใต้การยกระดับมาตรการป้องกัน Universal Prevention และ COVID Free Setting ในสถานที่เสี่ยงและกลุ่มเสี่ยง

ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. ให้เปิดบริการในส่วนของร้านอาหาร  สำหรับร้านอาหารที่อยู่นอกอาคาร หรือในอาคารแต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ  โล่ง อากาศถ่ายเทดี  ให้นั่งรับประทานได้ร้อยละ 75  ร้านอาหารที่เป็นห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ  ให้นั่งรับประทานได้ร้อยละ 50   ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ สามารถดำเนินการได้ทุกแผนก ถึงเวลา 20.00 น.   โดยกิจการกลุ่มที่ 1 ร้านเสริมสวย  ร้านตัดผม/แต่งผม ให้บริการเฉพาะรายไม่เกิน 1 ชั่วโมง ร้านนวด เปิดได้เฉพาะนวดเท้า คลินิกเสริมความงาม เปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น ร้านอาหาร เปิดได้ตามเงื่อนไขของมาตรการร้านอาหารมีเครื่องปรับอากาศ  กิจการกลุ่มที่ 2  สถาบันกวดวิชา  โรงภาพยนตร์  สปา สวนสนุก สวนน้ำ ฟิตเนสห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ห้องจัดประชุม/จัดเลี้ยง ยังไม่เปิดกิจการ

การใช้อาคารของสถานศึกษา สามารถใช้อาคารของสถานศึกษาได้ โดยผ่านความเห็นชอบของผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  ในพื้นที่ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.  ในส่วนสนามกีฬาและสวนสาธารณะ เปิดถึงเวลา 20.00 น.  โดยสามารถใช้สนามกีฬาและสวนสาธารณะ ประเภทกลางแจ้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีระบบปรับอากาศ เพื่อเล่น ซ้อม หรือแข่งขันกีฬาได้แบบไม่มีผู้ชม จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมและไม่ให้มีการรวมกลุ่มกัน สามารถเปิดใช้สนามกีฬาทุกประเภทสำหรับการฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติไทย แบบไม่มีผู้ชม และผู้จัดการแข่งขัน ต้องดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ก่อนปิดประชุม นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวให้กำลังใจทุกคนว่า “ขอให้เราต้องมีจิตใจที่ยิ่งใหญ่  เพื่อร่วมมือกันทำงานเพื่อคนไทย และคงต้องร่วมกันทำในยุคนี้ รัฐบาลชุดนี้ด้วย” นายธนกร กล่าว

Advertising

สรรพากรเตือนอย่าหลงเชื่อข่าวเก็บภาษีวัดและพระ

People unity news online : เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2561 กรมสรรพากรออกประกาศเตือนอย่าหลงเชื่อข่าวสรรพากรเก็บภาษีวัดและพระ

ตามที่ได้มีการแชร์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ ว่ากรมสรรพากรจะเก็บภาษีจากวัด และต้องการให้พระทุกรูปเสียภาษีผ่านบัญชีกลางของวัดนั้น

กรมสรรพากร ขอเรียนว่า

1.วัดมิได้เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร จึงไม่มีหน้าที่ในการเสียภาษี ดังนั้น รายได้ที่วัดได้รับจึงไม่มีภาระภาษี และกรมสรรพากรไม่มีความจำเป็นต้องตรวจสอบรายได้หรือตรวจสอบการเสียภาษีของวัดแต่อย่างใด

2.กรมสรรพากรได้จัดทำระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) เพื่ออำนวยความสะดวกให้วัดและผู้บริจาคเงินที่ประสงค์จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเท่านั้น โดยเมื่อวัดกรอกข้อมูลการรับบริจาคบนระบบของกรมสรรพากรแล้ว วัดจะไม่มีภาระในการจัดทำใบอนุโมทนาบัตร รวมถึงผู้เสียภาษีก็ไม่ต้องเก็บหลักฐานการบริจาคเงินเพื่อเป็นหลักฐานในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้

3.ในส่วนของวัดที่มีการรับบริจาคผ่าน QR Code เป็นการให้บริการของธนาคารแก่วัดตามความสมัครใจของวัด ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับกรมสรรพากร

4.สำหรับการกำหนดให้วัดต้องจัดทำบัญชี ลงบัญชีรายรับ รายจ่าย หรือรายการต่างๆนั้น มิได้อยู่ในการกำกับดูแลของกรมสรรพากร และกรมสรรพากรก็มิได้มีนโยบายให้วัดต้องจัดทำบัญชีดังกล่าวแต่อย่างใด กรมสรรพากรขอเรียนยืนยันว่ากรมสรรพากรไม่มีนโยบายที่จะจัดเก็บภาษีจากวัดหรือพระภิกษุสงฆ์แต่อย่างใด

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร โทร.1161

People unity news online : post 18 มิถุนายน 2561 เวลา 10.00 น.

ได้เวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (ภ.ง.ด.94)

People Unity : กรมสรรพากรประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีเงินได้ที่มีหน้าที่ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (ภ.ง.ด.94) สำหรับปีภาษี 2562 สามารถยื่นแบบพร้อมชำระภาษี ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาได้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.2562 และเพื่อความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา ผู้เสียภาษีสามารถยื่นแบบพร้อมชำระภาษีผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตที่ www.rd.go.th จะได้รับสิทธิขยายเวลาการยื่นแบบถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2562

สำหรับผู้ที่มีหน้าที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.94 คือผู้ที่มีเงินได้ตามมาตรา 40(5) – (8) แห่งประมวลรัษฎากร เช่น เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน เงินได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ (แพทย์ วิศวกร นักบัญชี นักกฎหมาย ฯลฯ) เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระในส่วนสำคัญนอกจากเครื่องมือเงินได้จากการประกอบธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมุ่งทางการค้าหรือหากำไร และการพาณิชย์อื่นๆ รวมทั้งนักแสดงสาธารณะ เป็นต้น

ผู้มีหน้าที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.94 สามารถ Download พร้อมทั้งศึกษาวิธีการกรอกแบบแสดงรายการฯ ได้จากเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th หัวข้อ Download > แบบแสดงรายการภาษี แบบคำร้อง/คำขอต่างๆ > ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือด้วยการ Scan QR Code ที่อยู่ด้านหน้าแบบแสดงรายการฯ นอกจากนี้ กรมสรรพากร มีบริการจัดส่งแบบ ภ.ง.ด.94 ให้แก่ผู้เสียภาษีที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปด้วย

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการยื่นแบบฯ ภ.ง.ด.94 ได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร โทร. 1161 และหากพบเห็นการกระทำใดๆ ที่เป็นการหลีกเลี่ยงภาษี ขอให้แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลต่างๆ ที่ www.rd.go.th > เมนู “แจ้งเบาะแสข้อมูลแหล่งภาษี” เพื่อที่กรมสรรพากรจะได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ข่าว : ได้เวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (ภ.ง.ด.94)

People Unity : post 14 สิงหาคม 2562 เวลา 11.50 น.

นายกฯสั่งด่วนกองทัพสนับสนุนเครื่องบิน-กำลังพลทำฝนเทียมเหนือเขื่อนแก้ภัยแล้งด่วน

People Unity : นายกรัฐมนตรีสั่งด่วนกองทัพสนับสนุนอากาศยาน – กำลังพล ทำฝนเทียมเพิ่มน้ำเหนือเขื่อน แก้ปัญหาภัยแล้งเร่งด่วน

วันนี้ (19 กรกฎาคม 2562) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ จึงได้สั่งการด่วนให้ทุกเหล่าทัพสนับสนุนอากาศยานและกำลังพล เพื่อทำฝนเทียมเพิ่มปริมาณน้ำเหนือเขื่อนและร่วมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำกับฝ่ายพลเรือนแบบบูรณาการ โดยมีเป้าหมายบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งปัญหาภัยแล้งเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายจะต้องระดมสรรพกำลังมาช่วยกัน เพราะปีนี้ฝนทิ้งช่วงยาวนานจึงมีปริมาณน้ำน้อยกว่าปกติถึง 40% และประเทศเพื่อนบ้านลดการระบายน้ำลงแม่น้ำโขง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจโดยได้ติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประกาศพื้นที่เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ในหลายจังหวัด พร้อมดำเนินมาตรการต่างๆ เช่น จัดรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำ ปฏิบัติการฝนหลวง ขุดเจาะบ่อบาดาล เพิ่มความจุแหล่งน้ำ เป็นต้น

ข่าวด่วน : นายกฯสั่งด่วนกองทัพสนับสนุนเครื่องบิน-กำลังพลทำฝนเทียมเหนือเขื่อนแก้ภัยแล้งด่วน

People Unity : post 19 กรกฎาคม 2562 เวลา 22.20 น.

นายกฯเผยเริ่มนับการเรียนการสอน 1 ก.ค.63 – 16 พ.ค.64 กรณีเปิดสอนในโรงเรียนตามปกติ

People Unity News : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยเริ่มนับการเรียนการสอนตั้งแต่ 1 ก.ค. 2563 – 16 พ.ค. 2564 กรณีเปิดสอนในโรงเรียนตามปกติ ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม มีมาตรการรองรับตามที่ กศจ. และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนด พร้อมจัดงบฯให้ครูออกไปเยี่ยมบ้านนักเรียน พร้อมพิจารณาจ่ายเงินสดให้ผู้ปกครองนักเรียนพิการและด้อยโอกาส

2 มิถุนายน 2563 นายกรัฐมนตรีแถลงถึงแนวทางการเรียนการสอนในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19  โดยได้ชี้แจงถึงการนับเวลาการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึง 16 พฤษภาคม 2564  พร้อมให้สถานศึกษาเปิดสอนชดเชยให้ครบตามโครงสร้างเวลาเรียน โดยต้องคำนึงถึงความเหมาะสมทั้งในระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย และสถานศึกษาต่างๆ รวมทั้งการเรียนการสอนทางไกล ให้จัดตารางเวลาเรียนที่ชัดเจนเพื่อที่จะสามารถนับชั่วโมงการเรียนได้

สำหรับการจัดการเรียนการสอนทางไกลในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ศธ.ได้นำผลการดำเนินการในระยะที่ 1 (เตรียมความพร้อม) ซึ่งเสร็จสิ้นในวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 และระยะที่ 2 (การตรวจสอบความพร้อมการเรียนการสอนผ่านโทรทัศน์ดิจิทัลและระบบออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม-30 มิถุนายน 2563) มาดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อดำเนินการในระยะที่ 3 ในช่วงวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึง 30 เมษายน 2564 แยกออกเป็น

สถานการณ์ที่ 1 หากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย จะต้องจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย ถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ด้วยระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ระบบดาวเทียม ระบบเคเบิลทีวี และระบบ IPTV จำนวน 17 ช่อง รวมถึงหาวิธีการที่เหมาะสม จัดเตรียมความพร้อมสำหรับอุปกรณ์ ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีการนำระบบการเรียนออนไลน์เข้ามาช่วยจัดการเรียนการสอน

สถานการณ์ที่ 2 หากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย จะมีการเรียนการสอนปกติในโรงเรียน โดยจะต้องมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) มีมาตรการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

สำหรับการวัดและการประเมินผล จะต้องใช้ความร่วมมือจากหลายฝ่าย อาจใช้วิธีการสังเกต การสัมภาษณ์ ให้ข้อมูล ตรวจเยี่ยมบ้านนักเรียน ประสานความร่วมมือจากผู้ปกครอง ใช้การทดสอบรูปแบบต่างๆ อาทิ การประเมินทางอีเมล จัดทำตารางนัดหมายเป็นกลุ่มขนาดเล็ก

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เห็นชอบลดภาระค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (เพิ่มเติม) ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม ในการใช้จ่ายการติดตามและเยี่ยมบ้านนักเรียน อาทิ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกระดับ

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จะพิจารณาดำเนินการจ่ายเงินสดให้แก่ผู้ปกครอง สำหรับนักเรียนพิการ เด็กด้อยโอกาส ทั้งนักเรียนประจำและนักเรียนไป-กลับ อีกด้วย

Advertising

Advertising

ก.คลัง แจงยอดคนได้คนอดได้ 5 พันรอบที่ 1 ลุ้นระทึกรอบที่ 2 อีก 6 แสนราย 13-14 เม.ย.นี้

People Unity News : ความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาท หลังจากการตรวจสอบและคัดกรองตามหลักเกณฑ์แล้วพบว่าในรอบที่ 1 ได้มีการตรวจสอบคัดกรองไปแล้ว 7.99 ล้านรายโดยจากจำนวนนี้สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาท หลังจากการตรวจสอบและคัดกรองตามหลักเกณฑ์แล้วพบว่าในรอบที่ 1 ได้มีการตรวจสอบคัดกรองไปแล้ว 7.99 ล้านรายโดยจากจำนวนนี้สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มผ่านเกณฑ์ 1.68 ล้านราย ซึ่งในกลุ่มนี้ได้ทยอยส่ง SMS แจ้งผลการพิจารณาและโอนเงินเข้าบัญชีหรือพร้อมเพย์ที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้วในช่วงวันที่ 8-10 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา

กลุ่มที่ต้องขอข้อมูลเพิ่มเติม 1.53 ล้านรายโดยการกรอกแบบสอบถามออนไลน์ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com (หัวข้อขอข้อมูลเพิ่มเติม) ขอความกรุณาให้ดำเนินการภายใน 10 วัน นับจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งเพื่อการประมวลผลที่รวดเร็วซึ่งได้เริ่มทยอยส่ง SMS แจ้งผลการพิจารณาแล้วตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2563 และจะทยอยแจ้งไปจนถึงวันที่ 13 เมษายน 2563 โดยพบว่า ขณะนี้ได้มีผู้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้วจำนวนหลายแสนราย

กลุ่มไม่ผ่านเกณฑ์ 4.78 ล้านราย จะทยอยได้รับ SMS แจ้งผลการพิจารณาในช่วงวันที่ 12-14 เมษายน 2563 โดยส่วนใหญ่ไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากได้รับการดูแลผลกระทบจาก Covid-19 โดยรัฐบาลผ่านช่องทางอื่น เช่น ข้าราชการ ผู้รับบำนาญ ผู้ได้รับสิทธิ์ประกันสังคม เกษตรกร เป็นต้น หรือกลุ่มที่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น นักเรียน นักศึกษา ซึ่งยังคงมิได้ประกอบอาชีพเป็นหลัก และส่วนหนึ่งได้รับการดูแลผ่านช่องทางกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือกลุ่มที่ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เช่น ผู้ค้าขายออนไลน์

ทั้งนี้ ตามที่ได้เริ่มมีกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ถึงการไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากสาเหตุต่างๆ โดยเฉพาะในประเด็นเกษตรกรนั้น ขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า เกษตรกรจะมีการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทุกปีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการขึ้นทะเบียนจะเป็นราย “ครอบครัว” โดยให้หัวหน้าครอบครัวเป็นคนมาขึ้นทะเบียน และในการกรอกรายละเอียดสมาชิกในครอบครัวจะให้ระบุด้วยว่ามีสมาชิกในครอบครัวกี่คนเป็นใครบ้าง และสมาชิกในครอบครัวที่ช่วยทำเกษตรกรรมมีกี่คนคือใครบ้าง ที่ผ่านมารัฐบาลใช้ฐานข้อมูลเกษตรกรชุดเดียวกันนี้ในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรไม่ว่าจะเป็นค่าเพาะปลูกค่าเก็บเกี่ยวค่าปัจจัยการผลิต เป็นต้น ดังนั้น ในการคัดกรองของมาตรการเยียวยา 5,000 บาท กำหนดหลักเกณฑ์ให้ครอบครัวที่ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและสมาชิกในครอบครัวที่ช่วยทำเกษตรกรรมถือว่าเป็นกลุ่มเกษตรกรไม่ผ่านเกณฑ์ และจะมีการดูแลโดยมาตรการเยียวยากลุ่มเกษตรกรโดยเฉพาะที่จะออกมาเร็วๆนี้

นอกจากนี้ เมื่อปิดรับลงทะเบียนและได้คัดกรองผู้ลงทะเบียนครบถ้วนทั้งหมดแล้วซึ่งขณะนี้มีประมาณ 27 ล้านราย จะเปิดให้มีช่องทางการอุทธรณ์ผลการพิจารณาสำหรับผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งผู้ที่ผ่านการอุทธรณ์ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาครบทั้ง 3 เดือนเช่นเดิม เนื่องจากการให้เงินเยียวยาจะใช้วันลงทะเบียนในการเริ่มนับสิทธิ์

โฆษกกระทรวงการคลังยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ลงทะเบียนยังคงจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยจะทยอยแจ้งผลการคัดกรองและโอนเงินเยียวยาอย่างต่อเนื่องตลอดทุกวันทำการ โดยในรอบที่ 2 จะเริ่มทยอยส่ง SMS แจ้งผลและโอนเงินเยียวยาในช่วงวันที่ 13-14 เมษายน 2563 ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์ประมาณ 6 แสนราย โดยกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งกระบวนการตรวจสอบและคัดกรองโดยเร็วที่สุด เพื่อให้คนทำงานที่เดือดร้อนจากสถานการณ์ Covid-19 ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันการณ์และตรงตัว

ขอขอบคุณ ภาพ :istockphoto

โฆษณา

Verified by ExactMetrics