วันที่ 24 เมษายน 2024

มหาดไทยสั่งนายอำเภอทุกอำเภอตรวจสอบเชิงรุก มูลนิธิ-สมาคม

People Unity News : 21 กุมภาพันธ์ 2566 ปลัดกระทรวงมหาดไทย เผยมีมาตรการเชิงรุกตรวจสอบ มูลนิธิ-สมาคม หลังพบหลายแห่งดำเนินการผิดวัตถุประสงค์ ฟอกเงินทุนสีเทา สั่ง นายทะเบียนอำเภอลงพื้นที่สแกน ขอความร่วมมือประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงมาตรการเชิงรุก ในการตรวจสอบการจัดตั้งมูลนิธิและสมาคม ภายหลังปรากฏพบเป็นข่าวบางแห่ง เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินสีเทา ว่า การขอจดแจ้ง มูลนิธิและสมาคม ต้องเป็น สุภาพชนคนดี ไม่มีประวัติอาชญากรรม หลักการดำเนินการเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ในรูปแบบคณะกรรมการ และการดำเนินการ ต้องเป็นไปในทางที่ชอบมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ส่วนทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 200,000 บาท รวมถึงต้องมีการรายงานผลดำเนินการประจำปี ให้นายทะเบียนอำเภอได้รับทราบ ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตามพระราชบัญญัติ กำหนดความผิด เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่2) พ.ศ.2535

ส่วนกรณีที่ปรากฏเป็นข่าว ว่ามูลนิธิทำผิดกฎหมาย ใช้เป็นช่องทางของกลุ่มทุนจีนสีเทา นั้น นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า เมื่อมีการตรวจพบทางกระทรวงมหาดไทยก็ได้ดำเนินการ เช่น มูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป และอีกหลายมูลนิธิที่ปรากฏเป็นข่าว พบว่าไม่ได้ทำการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เหล่านี้แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ คือระบุเป็นมูลนิธิแต่ไม่ได้จดทะเบียนกับจดทะเบียนเป็นมูลนิธิ เพื่อใช้เป็นช่องทางในการรับรองบุคคลที่เป็นจีนสีเทา เมื่อตรวจเจอเจ้าหน้าที่กรมการปกครองจะดำเนินคดี

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการเชิงรุก อธิบดีกรมการปกครองได้สั่งการไปยังนายทะเบียนอำเภอ ทุกอำเภอให้ตรวจสอบมูลนิธิในพื้นที่ ว่าได้ดำเนินกิจกรรมไปตามข้อบังคับตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ ส่วนไหนที่เห็นว่า ไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องก็ให้ทำการยกเลิก ที่ผ่านมามีการสำรวจเสร็จไปแล้วรอบหนึ่ง แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจ เพราะจากการตรวจสอบบางมูลนิธิ มีชื่อที่ดี เช่น มูลนิธิที่เกี่ยวกับการศึกษา อีกทั้งจากการตรวจสอบเบื้องต้น มีมูลนิธิที่ไม่ได้ดำเนินการเพียง 100 กว่าแห่ง ซึ่งตนมองว่าน้อยเกินไป ทางกรมการปกครองจึงสั่งการให้นายอำเภอต้องไปสำรวจใหม่อีกหนึ่งครั้ง โดยให้กันอัตรากำลังลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมที่ทำการของมูลนิธิจริง เพื่อให้เกิดความชัดเจน สำหรับมูลนิธิที่ทำผิดกฎหมายและตรวจพบก็ได้ดำเนินการทางคดีไปแล้ว โดยยื่นต่ออัยการเพื่อส่งคำร้องไปยังศาลให้ศาลมีคำสั่งยกเลิก อย่างกรณี ปลอมเป็นมูลนิธิก็ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว

“ที่ทำผิดกฏหมายก็ไม่ค่อยมีตัวตน ซึ่งมาตรการเชิงรุกคือให้นายทะเบียนอำเภอไปตรวจสอบ พูดคุย ตรวจเอกสารการดำเนินกิจการกิจกรรมของมูลนิธิ สมาคม และที่ตั้ง เพื่อที่จะได้เห็นของจริง” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ส่วนกรณีมูลนิธิ หรือ สมาคม ที่กระทำความผิดแต่ไม่ได้จดทะเบียน นั้น นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันแจ้งเบาะแส หากเห็นอะไรที่ผิดสังเกต เนื่องจากบางมูลนิธิ บางสมาคมก็ดำเนินการไปโดยที่อาจเล็ดรอดหูตาเจ้าหน้าที่ไปได้ ต่อไปนี้มูลนิธิและสมาคมที่จดทะเบียนในแต่ละพื้นที่ จะมีการแจ้งผู้ปกครองท้องที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้มีรายชื่อติดเอาไว้ว่าในพื้นที่มูลนิธิและสมาคมอะไรบ้าง หากนอกเหนือจากนั้นให้แจ้งมายังนายทะเบียนอำเภอ

Advertisement

 

อีสาน-ตะวันออก เย็นลง 1-4 องศาฯ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 22 มกราคม 2567 อุตุฯ เผยภาคอีสานอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาฯ ส่วนภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาฯ

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่ได้แผ่ปกคลุมถึงบริเวณประเทศจีนตอนใต้และเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่คลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกในวันนี้ (วันที่ 22 ม.ค. 67) โดยจะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันปานกลางถึงมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และการระบายของอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดี

พยากรณ์อากาศรายภาค

กทม.-ปริมณฑล : มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคเหนือ : อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคกลาง : อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากตามแนวชายฝั่งทะเล อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎ์ธานี ขึ้นไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรมอุตุฯ เตือน ไทยตอนบนรับมือ “พายุฤดูร้อน” ช่วงวันที่ 1-3 มี.ค. 67

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 กุมภาพันธ์ 2567 กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบน อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เตือนรับมือ “พายุฤดูร้อน” ช่วงวันที่ 1-3 มี.ค. 67

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 1-3 มี.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูงเนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และมีการระบายอากาศที่ไม่ดี

Advertisement

แนะนักท่องเที่ยว ผู้ที่เดินทางกลับบ้านช่วงหยุดยาว เคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคลขั้นสูงสุดป้องกันโควิดระลอกใหม่

People Unity News : แนะนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่เดินทางกลับบ้านช่วงหยุดยาวนี้ เคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคลขั้นสูงสุดป้องกันการเกิดคลัสเตอร์โรคโควิด-19 ระลอกใหม่

21 ตุลาคม 2564 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เริ่มคลี่คลาย มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงมาจากความร่วมมือของประชาชนและการเร่งฉีดวัคซีนที่รวดเร็วแบบครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย รัฐบาลจึงได้ปรับมาตรการสำหรับกิจการ สถานประกอบการและมาตรการการเดินทาง ประกอบกับในช่วงวันที่ 21-24 ตุลาคม 2564 เป็นช่วงวันหยุดยาว ประชาชนอาจเดินทางกลับบ้าน หรือไปท่องเที่ยว ทำให้เกิดการรวมตัวกันมากขึ้น อาจเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนระลอกใหม่ได้

กรมควบคุมโรค ขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการเดินทางเข้าจังหวัดปลายทาง จัดเตรียมเอกสารส่วนตัว อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน เอกสารยืนยันการฉีดวัคซีน พร้อมทั้งเคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลาแบบครอบจักรวาล เน้นการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการตั้งวงสังสรรค์ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และควรสังเกตอาการตนเองหลังเดินทางกลับจากการท่องเที่ยว หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ควรตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจหาเชื้อด้วยตนเอง หรือไปพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรอง

Advertising

อุตุฯ เตือน 16-18 เม.ย.นี้ ทั่วไทยรับมือ “พายุฤดูร้อน”

People Unity News : 15 เมษายน 2565 ในช่วงวันที่ 16-18 เมษายน 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มได้รับผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ฃไม่แข็งแรง และขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางสัญจรผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองซึ่งอาจเกิดอันตรายจากลมกระโชกแรงและฟ้าผ่าได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement

ประธานสำนักงานสลากฯ ลั่นเอาผิดแพลตฟอร์มออนไลน์ ทุกฐานความผิด

People Unity News : 11 มกราคม 2566 สำนักงานสลากฯ เผยสลากดิจิทัลผ่านแอปเป๋าตังผลตอบรับดี สลาก 80 บาทมีอยู่จริง พร้อมเตรียมเพิ่มจำนวน ในปี 2566 ส่วนปัญหาสลากเกินราคาและแพลตฟอร์มออนไลน์ จะดำเนินการอย่างจริงจังในทุกฐานความผิดจากทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ (11 มกราคม 2566) นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวถึงการจำหน่ายสลากดิจิทัลงวด 17 มกราคม 2566 ซึ่งมีจำนวนสลากมากถึง 17,129,000 ใบ เป็นสลากของตัวแทนรายย่อย 34,258 ราย ได้รับความสนใจซื้อสลากเป็นอย่างมาก สลากขายหมดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ซื้อเลือกซื้อเลขที่ต้องการได้ในราคาไม่เกิน 80 บาท  จากผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องในปี 2566 สำนักงานสลากฯ จะเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกในการซื้อสลากราคา 80 บาท ปัจจุบันรูปแบบการขายสลากในราคา 80 บาท มีหลากหลายมากขึ้น ทั้งขายผ่านแอปเป๋าตัง และจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 ซึ่งขณะนี้กระจายอยู่เกือบ 2,000 จุดทั่วประเทศมีจำนวนสลากมากกว่า 2 ล้านใบ

ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนของการดำเนินการแก้ปัญหาสลากเกินราคาและแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น สำนักงานสลากฯ จะมีการดำเนินการอย่างจริงจังในทุกฐานความผิดจากทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยได้มีการประชุมร่วมกับกรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมการปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ปปง. กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไปเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 เพื่อวางกรอบแนวทางการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ซึ่งจากนี้ไปจะเห็นการดำเนินคดีออกมาอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของการจำหน่ายสลากดิจิทัลผ่านแอปเป๋าตัง ของสำนักงานสลากฯ ขอยืนยันว่า เป็นการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายในทุกขั้นตอน มีการขออนุญาตประกอบธุรกิจตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 สลากทุกใบเป็นของตัวแทนรายย่อยและทุกใบราคา 80 บาท

Advertisement

รบ.แจง มติ ครม.ให้หยุดพิเศษ 31 ก.ค. หากกระทบ ปชช. หน่วยราชการบางแห่งไม่หยุดได้

People Unity News : 26 กรกฎาคม 2566 รองโฆษกรัฐบาล ย้ำมติ ครม. 31 ก.ค. เป็นวันหยุดพิเศษราชการ หากกระทบประชาชน หัวหน้าส่วนราชการ พิจารณาไม่หยุดได้

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกำหนดให้วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษอีก 1 วัน ในปี 2566 ทำให้มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง 6 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 นั้น

ปรากฏว่า มีการแชร์ข้อความที่เป็นมติคณะรัฐมนตรีไม่ครบถ้วน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานที่ต้องให้บริการประชาชนเกิดความกังวลว่าจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน นางสาวรัชดา กล่าวย้ำว่า ถึงแม้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบกำหนดให้เป็นวันหยุดพิเศษ สำหรับหน่วยงานที่มีภารกิจในการให้บริการประชาชน หรือมีความจำเป็นหรือราชการสำคัญ ให้หัวหน้าหน่วยงานนั้น พิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร โดยไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและกระทบต่อการให้บริการประชาชน

สำหรับรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และภาคเอกชน ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงแรงงานพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมของการกำหนดให้วันดังกล่าวข้างต้น เป็นวันหยุดให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณี

จึงเห็นได้ว่าการกำหนดให้เป็นวันหยุด ไม่ได้หมายความว่าทุกส่วนราชการต้องหยุดให้บริการประชาชน ในส่วนราชการไหนที่จำเป็นต้องให้บริการประชาชน หัวหน้าส่วนราชการจะเป็นผู้พิจารณาแนวทางปฎิบัติงาน

นางสาวรัชดา ย้ำว่าในการกำหนดวันหยุดราชการกรณีพิเศษเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นวันหยุดยาว และนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจในเรื่องการท่องเที่ยวทุกครั้ง คณะรัฐมนตรีจะมีการพิจารณาและประกาศล่วงหน้าเป็นไปตามข้อเสนอของคณะกรรมการพิจารณาวันหยุดพิเศษของทางราชการ สำหรับปีนี้ช่วง 6 เดือนแรกได้ประกาศไปเรียบร้อยแล้ว และเดิมทางคณะรัฐมนตรีตั้งใจว่าในช่วง 6 เดือนหลัง จะเป็นการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดใหม่ แต่ด้วย ณ ปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ คณะรัฐมนตรีชุดรักษาการจึงต้องหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาตามความเหมาะสม โดยได้พิจารณาอย่างรอบคอบและถึ่ถ้วนแล้ว

Advertisement

“นิพนธ์” สั่ง ปภ.-ผู้ว่าฯ-อปท.เตรียมรับมือ “พายุมู่หลาน”

People Unity News : 11 สิงหาคม 65 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 6  ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2565 แจ้งว่าพายุโซนร้อน “มู่หลาน” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 500 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนามตอนบน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

“พายุมู่หลาน” นี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ และเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 11 ส.ค. 2565 ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ส่วนการเตรียมการรับมือสถานการณ์ “พายุมู่หลาน” ได้สั่งการไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยของกรม ปภ. ที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมงในการช่วยเหลือประชาชนหากได้รับผลกระทบจากพายุ พร้อมทั้งกำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  อาสาสมัคร ประสานการปฏิบัติงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในทุกพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายจากพายุ ให้อยู่ในพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนได้ทันเหตุการณ์หากเกิดความรุนแรงจากผลกระทบ

“การติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ ได้แจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยใช้การสื่อสารทุกรูปแบบ ทั้งหอกระจายข่าวหมู่บ้าน การแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน ดังนั้น ยืนยันว่าทุกฝ่ายได้เตรียมความพร้อมเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนในส่วนนี้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ ส่วนประชาชนขอให้ติดตามข่าวสารสถานการณ์พายุอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประชาชนที่ปลูกบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ราบเชิงเขา อาจได้รับผลกระทบจากสภาวะดินสไลด์ กระแสน้ำป่าไหลหลาก ส่วนที่ลุ่มต่ำ ต้องเฝ้าระวังเตรียมการอพยพให้พร้อม ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้หากสถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มรุนแรง ให้สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้โดยทันที” นายนิพนธ์ กล่าว

Advertisement

แนะฉีดวัคซีนเด็กอายุ 12-18 ปีที่มีโรคประจําตัวเสี่ยงติดโควิดในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

People Unity News : แนะผู้ปกครองในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่มีเด็กอายุ 12-18 ปี มีโรคประจําตัวเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดโรคโควิด-19 ให้รีบพาเด็กไปรับวัคซีน

17 ส.ค.64 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ยังคงมีแนวโน้มการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น เฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุ 12-18 ปี พบติดเชื้อรายใหม่ในสัปดาห์แรกเดือนสิงหาคม 7,787 คน และมีจำนวนการติดเชื้อรายใหม่ในสัปดาห์ที่ 2 เพิ่มขึ้นเป็น 8,733 คน คิดเป็นร้อยละ 12 ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวกลุ่มวัยเรียนวัยรุ่น จึงเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น ล่าสุดราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยมีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคโควิด-19 ในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กลุ่มผู้ป่วยเด็กที่มีโรคประจําตัวที่มีความเสี่ยงของโรคโควิด-19 ที่รุนแรง ได้แก่ โรคอ้วน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ โรคเบาหวาน และกลุ่มโรคพันธุกรรมรวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง เด็กที่มีพัฒนาการช้า แต่ยังไม่แนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กทั่วไปที่แข็งแรงดีจนกว่าจะมีวัคซีนที่มากขึ้น

จากข้อมูลทะเบียนราษฎร์ประเทศไทยมีเด็กและวัยรุ่นอายุ 12-18 ปี 5,196,248 คน พบติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ 1 เมษายน–14 สิงหาคม 2564 จำนวน 41,832 คน คิดเป็นร้อยละ 0.8 ในจำนวนนี้เสียชีวิต 8 คน ทั้งหมดเป็นกลุ่มเด็กป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น พิการทางสมอง มะเร็ง และหัวใจ เป็นต้น

พ่อแม่ ผู้ปกครองที่ดูแลเด็กและวัยรุ่นอายุ 12-18 ปี ที่เป็น 7 กลุ่มโรคเสี่ยง และมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย สามารถให้เด็กเข้ารับบริการฉีดวัคซีนตามที่ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยแนะนำได้ โดยสอบถามและประสานนัดหมายกับสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลที่ประกาศให้บริการ

Advertising

 

สุดปัง! QS World University Rankings 2022 ประกาศมหาวิทยาลัยไทย ติดอันดับโลก 122 สาขา

People Unity News : 22 เมษายน 2565 นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เผย Quacquarelli Symonds (QS) หรือ  QS World University Rankings ซึ่งเป็นองค์กรการให้ข้อมูลในด้านการศึกษาและการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ประกาศการจัดอันดับสาขาวิชาที่ติดอันดับโลก เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 65 ปรากฏว่า มหาวิทยาลัยของประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับในสาขาวิชาที่ติดอันดับโลก ถึง 122 สาขาวิชา เพิ่มขึ้นจากปี 64 ที่ได้ 96 สาขา อีก 26 สาขา ที่สำคัญมีสาขาวิชาที่สามารถขึ้นไปติดถึงอันดับ 47 ของโลกหรือ TOP 50 ของโลกได้ คือ สาขาด้านศิลปะการแสดง (Performing Arts) ของมหาวิทยาลัยมหิดล

มหาวิทยาลัยไทยที่มีสาขาวิชาที่ติดอันดับ TOP 100 ของโลก ได้แก่

💡จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ติดอันดับใน 4 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาด้านศิลปะการแสดง สาขาวิชาด้านวิศวกรรมปิโตรเลียม สาขาวิชาด้านพัฒนศึกษา และสาขาวิชาด้านนโยบายสังคมและการบริหาร

💡สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังติดอันดับด้านวิศวกรรมปิโตรเลียม

💡มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ติดอันดับใน สาขาวิชาด้านเกษตรศาสตร์และป่าไม้

💡มหาวิทยาลัยมหิดล ติดอันดับในสาขาด้านวิชาเภสัชกรรมและเภสัชวิทยา

สาขาวิชาที่ติดอันดับโลกในแต่ละสถาบันอุดมศึกษาของประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มขี้น เช่น จุฬาฯ ในปี 63 และ 64 ติดอันดับ 30 สาขาวิชา ขยับขึ้น 35 สาขาวิชาในปี 65 ,ม.มหิดล ปี 63 ติดอันดับ 14 สาขาวิชา ปี 64 ติดอันดับ 16 สาขาวิชา และปี 2565 ติดอันดับ 20 สาขาวิชา ,ม.เชียงใหม่ ปี 64 ติดอันดับ 9 สาขาวิชาและปี 65 ติดอันดับ 13 สาขาวิชา ,ม.ธรรมศาสตร์ ปี 64 ติดอันดับ 5 สาขาวิชา แต่ปี 65 ขยับขึ้นมาเป็น 13 สาขาวิชา เป็นต้น

Advertisement

Verified by ExactMetrics