วันที่ 25 เมษายน 2024

“ช่อ” ย้ำชัด “เดียร์” เคยถือหุ้นเนชั่นโอนนอกตลาดหลักทรัพย์ก่อนสมัคร ส.ส. 7 วัน

People Unity News : “ช่อ” ย้ำชัด “เดียร์” เคยถือหุ้นเนชั่น ตั้งข้อสังเกตโอนนอกตลาดหลักทรัพย์ – ก่อนสมัคร ส.ส.เพียง 7 วัน ถามทำไมไม่ทำพร้อมหุ้นสื่ออื่นซึ่งเกิดในตลาดหลักทรัพย์ – จี้ กกต. ตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ที่อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงกรณีการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ตรวจสอบคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราาฏรตามรัฐธรรมนูญ โดยพรรณิการ์ กล่าวว่า การที่ตนได้ตั้งคำถามถึงเรื่องการถือหุ้นบริษัทเครือเนชั่นของคุณวทันยา วงษ์โอภาสี ที่ก่อนหน้านี้คุณวทันยา ออกมาปฏิเสธว่า ไม่เคยเกี่ยวข้อง และไม่เคยถือหุ้นเครือเนชั่นเลย ตนยืนยันได้ว่าสามารถไปตรวจเช็คได้ในบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของคุณวทันยา และคุณฉาย บุนนาค คู่สมรส

“มีการยืนยันชัดเจนว่าคุณวทันยา ได้โอนหุ้นบริษัทเครือเนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป ไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าคุณวทันยา เคยถือหุ้นบริษัทเครือเนชั่น ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับเนชั่นตามที่เป็นข่าวออกมา ข้อสังเกตในความผิดปกติที่มากไปกว่านั้นก็คือ การโอนหุ้นเครือเนชั่น ของคุณวทันยา เกิดขึ้นก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐเพียง 7 วัน ถือเป็นการกระทำที่กระชั้นชิดเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้คุณวทันยา ได้ขายหุ้นของนิวส์ เน็ตเวิร์ค ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการกระทำที่มีพยานหลักฐานชัดเจน ไม่สามารถบิดเบือนได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561” นางสาวพรรณิการ์ กล่าว

นางสาวพรรณิการ์ กล่าวต่อ ตนขอตั้งคำถามไปยังคุณวทันยาดังนี้ 1.เหตุใดเมื่อมีการโอนหุ้น นิวส์ เน็ตเวิร์ค ไปตั้งแต่เดือน พ.ย. 2561 แต่หุ้นจำนวนเพียงเล็กน้อยของเครือเนชั่น ที่คุณวัทนยาถืออยู่ จึงไม่ได้มีการโอนออกไปในช่วงเวลาเดียวกัน กลับมีการโอนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งก่อนการรับสมัครรับเลือกตั้งเพียง 7 วัน 2.การโอนหุ้น นิวส์ เน็ตเวิร์ค เกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ แต่ว่าการโอนหุ้นเครือเนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ปนั้น กลับเป็นการโอนนอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งการโอนหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์หมายความว่า เป็นการทำหนังสื่อสัญญาฝ่ายเดียวของเนชั่น ก็มีข้อสงสัยเกิดขึ้นได้ว่า หากเป็นหนังสือสัญญาฝ่ายเดียวไม่ต้องแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ไม่ได้ผ่าน TSD (ศูนย์กลางรับฝากหลักทรัพย์) อย่างที่คุณวทันยาได้อ้างเอาไว้ และจะมีข้อสงสัยเกิดขึ้นได้ไหมว่า 3.ทำไมถึงมีการโอนหุ้นที่กระชั้นชิดเพียงไม่ถึง 7 วันก่อนรับสมัครเลือกตั้ง ทั้งที่หุ้นสื่ออื่นๆที่คุณวทันยาถืออยู่ ได้โอนไปหลายเดือนก่อนหน้านั้นแล้ว

“ทั้งหมดทั้งมวลนี้ดิฉันอยากจะขอฝากไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งตอนนี้ได้ยื่นเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงการถือหุ้นของคุณวทันยา และการโอนหุ้นนอกตลาดในครั้งนี้ มีความผิดปกติหรือไม่อย่างไร ดิฉันต้องการให้คุณวทันยาได้ชี้แจงต่อกกต. ในเรื่องนี้” นางสาวพรรณิการ์กล่าว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่ เนชั่นจะดำเนินการฟ้องกลับฐานหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา ว่า ตนเองขอยืนยันการแถลงข่าวกรณีที่พรรคอนาคตใหม่โดนโจมตีจากสื่อบางสำนัก เป็นการพูดบนหลักการของข้อเท็จจริง และเป็นการวิจารณ์แบบสุจริต อีกทั้งเป็นการเรียกร้องความเป็นธรรมในฐานะที่พรรคอนาคตใหม่ ถูกกล่าวร้ายป้ายสีมาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังเป็นการให้สื่อมวลชนตระหนักถึงจรรยาบรรณและวิชาชีพในการเสนอข่าว
ส่วนการที่เนชั่นฟ้องกลับนั้น โดยส่วนตัวมองว่า เป็นสิทธิของเนชั่นที่สามารถทำได้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเฟคนิวส์ ทีมกฎหมายของพรรค กำลังรวบรวมข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ เพื่อจะดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่ข่าว และปล่อยข่าวที่บิดเบือน ซึ่งตนเอง ได้เตือนไปยังสื่อฯ ต่าง ๆ ให้เลิกเผยแพร่ข่าวที่ไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยัน การดำเนินการลักษณะนี้ ไม่ได้เป็นการท้าชนในเรื่องการต่อสู้ทางกฎหมาย แต่เพื่อให้สื่อฯ ตระหนักถึงจรรยาบรรณวิชาชีพที่ควรจะเป็น นางสาวพรรณิการ์กล่าว

“ธนกร”เชื่อ อนค.ร้าวเพราะ”ธนาธร”กุมอำนาจคนเดียว

People Unity : “ธนกร”เชื่อ อนค.ร้าวเพราะ”ธนาธร”กุมอำนาจคนเดียว เย้ยปากชูประชาธิปไตย แต่กลับมีแนวคิดสุดโต่งจนส.ส.อึดอัด ชม”กวินาถ”เลือกยืนข้างประชาชน

วันที่ 21 ต.ค.2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความขัดแย้งภายในพรรคอนาคตใหม่ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายในพรรคอนาคตใหม่ ตนคงไม่ขอก้าวล่วง จริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่ทราบดีว่าพรรคอนาคตใหม่ชอบอ้างความเป็นประชาธิปไตย แต่จริงๆ แล้วอำนาจเด็ดขาดอยู่ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จคนเดียวใช่หรือไม่ หลายครั้งที่พรรคอนาคตใหม่เกิดปัญหาภายในจนแกนนำบางคนลาออก อาทิ การคัดเลือกผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายธนาธร แต่พรรคมักจะออกมาแสดงออกถึงเสรีภาพ ความเป็นประชาธิปไตย ทำให้หลายคนสงสัยว่าจอมปลอมหรือไม่ เพราะขนาดคนเห็นต่างยังถูกไล่บี้จนไม่มีที่ยืนในพรรค

นายธนกร กล่าวอีกว่า เมื่อวันเวลาผ่านไป หลายอย่างก็โผล่ออกมาให้เห็นหลายๆ เรื่อง พี่น้องประชาชนได้เห็นแนวคิดอะไรบางอย่าง ซึ่งตนเชื่อว่าพี่น้องคนไทยทั่วประเทศรับไม่ได้ ขณะเดียวกันก็มีข่าวเป็นระยะว่า การทำงานของส.ส.พรรคอนาคตใหม่เริ่มมีความอึดอัด เพราะทุกเรื่องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายธนาธรเพียงคนเดียว กระบวนการต่างๆ ภายในพรรคจึงถูกมองว่าเป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้น นอกจากนี้ กระบวนการคิดของนายธนาธรค่อนข้างสุดโต่ง ทำให้ส.ส.หลายคนเริ่มจะรับไม่ได้กับพฤติกรรมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนเห็นใจน.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ ที่ยกมือสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 จนถูกขู่ฆ่าและอาจถูกพรรคลงโทษ ทั้งๆ ที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะงบประมาณเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน แม้เป็นฝ่ายค้าน แต่ถ้าเป็นประโยชน์กับประชาชนทั่วประเทศก็สมควรต้องสนับสนุน ดังนั้น ส่วนตัวแล้วขอชื่นชมน.ส.กวินนาถที่เลือกยืนข้างประชาชน

“วัชระ”แฉ ขรก.รายงานเท็จ”ประธานชวน”กรณีสอบ”สรศักดิ์”ล่าช้า

People Unity News : “วัชระ”อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แฉ ขรก.รายงานเท็จ”ประธานชวน”กรณีสอบ”สรศักดิ์”ล่าช้า

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของความล่าช้าในการสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรงต่อนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากผู้ร้องคือตนเองไม่ได้มาให้ข้อเท็จจริง แล้วกลับมีการยื่นคัดค้านกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะไม่เชื่อว่าจะให้ความเป็นธรรมได้นั้น ถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนอย่างยิ่ง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทั้งตนเองและประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างมาก เพราะความจริงนั้นได้ไปให้การกับคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภาเป็นประธาน เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.15 น.ที่อาคารสุขประพฤติ ตรงกำหนดระยะเวลาตามหนังสือที่คณะกรรมการได้นัดไว้ โดยมีพยานคือนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการปปช.สภาผู้แทนราษฎรเป็นพยานและเป็นผู้ให้การกล่าวโทษนายสรศักดิ์ เพียรเวช เพิ่มเติมอีกด้วย

และในวันนั้นยังได้ยืนยันความผิดของนายสรศักดิ์ พร้อมส่งพยานเอกสารการคุกคามทางเพศของนายสรศักดิ์ เพียรเวชที่กระทำต่อข้าราชการสุภาพสตรีซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายสรศักดิ์เพิ่มเติมต่อนายนัฑ ผาสุข รวมทั้งคัดค้านกรรมการสืบสวนอย่างมีเหตุผลและเอกสารของทางราชการรองรับว่ากรรมการทุกคนมีผลประโยชน์ทับซ้อน มีส่วนได้ส่วนเสียกับนายสรศักดิ์และได้ส่งพยานหลักฐานเอกสารของทางราชการที่ระบุชื่อกรรมการแต่ละคน ตั้งแต่นายนัฑ ผาสุขว่าเกี่ยวพันกับนายสรศักดิ์อย่างไรโดยให้เอกสารกับมือของกรรมการทุกคนเป็นรายบุคคลครบทั้งคณะอีกด้วย

นายวัชระ ระบุว่า ตนเองมีพยาน2คนเข้าไปนั่งเป็นสักขีพยานตลอดจนจบคำให้การในประเด็นของการคุกคามทางเพศครบทุกถ้อยกระบวนความที่ให้กรรมการได้เห็นจนสามารถชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงตามกฎของก.ร.ได้ทันที และได้ขอให้ทบทวนคณะกรรมการชุดนี้เพราะจะเกิดความไม่เที่ยงธรรมดังเหตุผลที่กล่าวมา ซึ่งบัดนี้ได้ครบกำหนดเวลา 15 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

ทั้งนี้ นายวัชระยังได้ส่งภาพการให้การของตนเองและของนายวิลาศในคณะกรรมการสืบสวนชุดนายนัฑเป็นประธานเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน มาด้วย พร้อมกับขอให้ตั้งกรรมการสอบผู้ที่รายงานเท็จต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรโดยด่วนที่สุดต่อไป ซึ่งจะมีการยื่นหนังสือในเรื่องนี้ต่อนายชวน หลีกภัย ในวันจันทร์ที่ 25 พ.ย.นี้ เวลา 11.00น.ที่สภาผู้แทนราษฎร โดยนายวัชระ ได้ระบุทิ้งท้ายว่า พวกเขากล้าแม้กระทั่งรายงานเท็จต่อนายชวน หลีกภัย ที่เป็นถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆสำหรับข้าราชการบางคนในยุคสมัยนี้

“ปารีณา” ปะทะเดือด “เสรีพิศุทธ์” ปม “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ส่งตัวแทนแจง

People Unity News : “ปารีณา” ปะทะเดือด “เสรีพิศุทธ์” ปม “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ส่งตัวแทนแจง ประธานกมธ.ป.ป.ช.ยันต้องมาแจงเอง ส่วน “ปารีณา” สวนสมัย “ยิ่งลักษณ์” ยังไม่เข้าแจง

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค เสรีรวมไทย เป็นประธาน โดยมีวาระพิจารณาเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เข้าชี้แจงต่อประเด็นการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 โดยไม่ชอบ เพราะการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ได้ส่งพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นตัวแทนเข้าชี้แจง ขณะที่พล.อ.ประวิตรได้ส่งนายประสาร หวังรัตนปราณี คณะทำงาน เข้าชี้แจงแทนเช่นกัน

โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ให้พล.อ.ชาญชัยและนายประสานมอบหนังสือชี้แจง ซึ่งลงลายมือชื่อของพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร ต่อหน้าที่ประชุมกมธ.และให้ชี้แจงรายละเอียดสั้นๆ ก่อนที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะกล่าวต่อที่ประชุมว่า ไม่สามารถให้บุคคลอื่นมาชี้แจงแทนบุคคลที่ระบุชื่อให้มาชี้แจงได้ พร้อมยกบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 วรรคสี่ ระบุว่า กมธ.มีอำนาจเรียกเอกสารจากบุคคล หรือเรียกบุคคลมาชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนั้น กมธ. ไม่สามารถรับฟังคำชี้แจงจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ที่เชิญชี้แจงได้ เพราะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้ถูกเชิญชี้แจงและกมธ.ฯ ทั้งนี้บุคคลที่เชิญระบุชื่อไว้ชัดเจนด้วย ดังนั้น ตนจะขอมติจากที่ประชุมต่อการพิจารณาเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้พล.อ.ชาญชัย ชี้แจงตอนหนึ่งด้วยว่าตามารัฐธรรมนูญมาตรา 129 วรรคสองบัญญัติให้การทำหน้าที่ของกมธ. ต้องอยู่ในหน้าที่และอำนาจตามที่ระบุไว้ ซึ่งข้อบังคับการประชุมสภาฯ พ.ศ.2562 ข้อ90 (22) ระบุว่ากมธ.ฯ ต้องสอบหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับกระบวนการ และมาตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริต ซึ่งประเด็นการเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ขณะที่ผ่านวาระแรกแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาวาระสอง ซึ่งเป็นไปตามกรอบการจัดทำงบประมาณ ดังนั้นเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของการประพฤติมิชอบและไม่อยู่ในอำนาจของกมธ.ที่ระบุไว้ในข้อบังคับ ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวโต้แย้งว่าเรื่องตรวจสอบดังกล่าวเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของกมธ. ไม่เช่นนั้นจะเรียกคนมาชี้แจงทำไม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐและนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลัง ประชารัฐ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกมธ. แทนตำแหน่งที่ว่าง เข้าร่วมประชุม โดย น.ส.ปารีณา ขอแสดงความเห็น แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวขึ้นว่า ขอให้รู้มารยาทเพราะประธานยังไม่เชิญให้พูด ทั้งนี้ขอให้พิจารณาไปก่อน และอนุญาตให้ น.ส.ปารีณา แสดงความเห็นในเวลาต่อมา

น.ส.ปารีณา กล่าวว่า กรณีที่ประธานกมธ.ฯ เหมือนใช้อำนาจบังคับบุคคลให้มาชี้แจง ทั้งที่เป็นการขอความร่วมมือและมาโดยสมัครใจ ถือว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ที่ผ่านมา สภาเคยเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯมาชี้แจงยังไม่เคยมา ดังนั้นการใช้อำนาจบังคับบุคคลอาจผิดกฎหมายได้ และประธานกมธ.ฯ อาจต้องติดคุก ทำให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวว่า “ขู่ผมเหรอ ผมเรียนกฎหมายมา” ก่อนที่จะให้กมธ.ฯ คนอื่นแสดงความเห็น ซึ่งมีผู้เสนอให้การพิจารณาต่อไปของกมธ.ฯ เป็นการประชุมภายในของกมธ.ฯ ทำให้ต้องเชิญผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรวมถึง พล.อ.ชาญชัย และ นายประสาน ออกจากห้องประชุม

“จุรินทร์”มั่นใจ! ใช้แผนก.พาณิชย์รุก 10 ตลาดทั่วโลก รับมือตัด GSP

People Unity News : “จุรินทร์”มั่นใจ! ใช้แผนก.พาณิชย์รุก 10 ตลาดทั่วโลก รับมือตัด GSP เผย ครม.ศก.มอบ 3 กระทรวงเร่งหารือรับมือ

วันที่ 29 ตุลาคม 2562 ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ กรณีการตัดสิทธิทางภาษีหรือ GSP Generalized System of Preferences (ระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร)ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือและได้รายงานระบุว่าจะมีผลกระทบประมาณ 1,500 ล้านบาท ถึง 1,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตามก็ยังมีช่องทางให้สหรัฐได้ทบทวนโดยช่องทางที่จะทบทวนนั้นได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ ได้ประสานกับทูตไทยประจำกรุงวอชิงตันและทูตแรงงานด้วย เพื่อที่จะหารือกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ หรือ USTR ซึ่งคงจะมีคำตอบกลับมาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปในเร็วๆนี้

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันนี้ มอบหมายให้ 3 กระทรวงได้หารือร่วมกันประกอบด้วย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหาลู่ทางในการยื่นขอให้สหรัฐทบทวน สำหรับทางออกในระยะยาวนั้น กระทรวงพาณิชย์เราก็ได้เตรียมการมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยตั้ง กรอ.พาณิชย์ (กรรมการร่วมกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน) ทั้งสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมผู้ส่งออกสินค้าออกทางเรือ ได้มีการเตรียมการสำหรับตลาดต่างๆทั่วโลกเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกซึ่งได้ข้อสรุปแล้วว่าเราจะร่วมมือกันจัดกับภาคเอกชน เร่งรัดการส่งออก บุกตลาดใน 10 กลุ่มตลาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันนั้นจะมีสหรัฐอเมริกา รวมอยู่ด้วยและมีจีน อินเดีย แอฟริกาใต้ เอเชียใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น เกาหลี และอีกหลายตลาดรวมทั้งประเทศตุรกี เยอรมันในสหภาพยุโรป และอังกฤษด้วย

เตรียมแผนงานไว้แล้ว เร็วๆนี้จะนำทีมเอกชนและกระทรวงพาณิชย์ไปบุกตลาดที่ประเทศตุรกีและเยอรมัน และหลังจากนั้นคือ ตะวันออกกลางสำหรับประเทศที่มีประชากรมาก เช่น อินเดีย จีน สหรัฐ จะลงลึกไปในหลายมณฑล หรือรายรัฐ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา เราจะมีแผนงานเจาะลึกรายรับเพราะ แต่ละรัฐจะมีความต้องการสินค้าแตกต่างกันมีศักยภาพที่เป็น ตลาดนำเข้าสินค้า ของเราได้มากขึ้น แม้ว่าเราจะไม่ได้ GSP (ในประเทศเหล่านี้)ก็ตามเป็นสิ่งที่เราจะดำเนินการ ทั้งดำเนินการมาแล้วและจะดำเนินเดินหน้าต่อไป

ต่อคำถามที่ว่ามั่นใจขนาดไหนว่าเราจะต่อรองกับสหรัฐอเมริกาได้นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราพยายามจะให้เขาเกิดความเข้าใจว่าบางเรื่องเราทำได้บางเรื่องทำไม่ได้ เช่น ให้ต่างด้าวตั้งสมาพันธ์แรงงานในประเทศ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้พูดชี้แจงทำความเข้าใจว่า เราอยู่ในฐานะที่จะทำได้หรือไม่อย่างไร หรือข้อเสนออื่นๆ ซึ่งแต่ละกระทรวงหรือ แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้ที่จะทำความเข้าใจ ว่าอะไรได้ หรือไม่ได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่เราจะต้องทำ

ธนารักษ์-ทบ.ลงนามสร้าง “สวนป่าเบญจกิติ” ปรับภูมิทัศน์-เพิ่มพื้นที่สีเขียว-สร้างหอชมเมือง

People Unity News : “คลัง” กดปุ่มพัฒนาระยะแรกโครงการจัดสร้าง “สวนป่าเบญจกิติ” มอบกองทัพบกเข้าก่อสร้าง พ.ย.นี้ พร้อมเฉลิมพระเกียรติวันแม่ปี 64

“คลัง” ไฟเขียว กรมธนารักษ์-กองทัพบก ลงนามข้อตกลงโครงการจัดสร้าง “สวนป่าเบญจกิติ” มั่นใจ “เฟสแรก” ลุยปรับภูมิทัศน์-เพิ่มพื้นที่สีเขียวเต็มพื้นที่ ก่อสร้างระยะแรกแล้วเสร็จ เพื่อเตรียมการ จัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2564

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ครั้งที่ 1/2563  ว่า ทางกรมธนารักษ์ได้รายงานความคืบหน้าการสร้างสวนป่าเบญจกิติ ในพื้นที่โรงงานยาสูบ ของการยาสูบแห่งประเทศไทย ภายหลังการส่งมอบพื้นที่ 259 ไร่เป็นที่เรียบร้อย  โดยงบประมาณในการก่อสร้างกว่า 652 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2565  โดยเตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินงานในวันที่ 26 ตุลาคม 2563 เพื่อดำเนินการก่อสร้างในโครงการทั้งหมด

สำหรับแผนการพัฒนาโครงการแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ โดยระยะ1 เริ่มเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นไปตามแนวทางการออกแบบทั้งหมด และปลูกต้นไม้เพิ่มในพื้นที่สีเขียว  คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนปี 2564  เพื่อให้มีช่วงเวลาสำหรับเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2564 ส่วนระยะ 2 ทางกองทัพบกจะเข้าไปก่อสร้างในส่วนของอาคารและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานแล้วเสร็จและเปิดให้บริการประชาชนเข้าชมได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2565

“ผมได้ย้ำให้ผู้ออกแบบดูเรื่องหอชมเมือง เพราะมีความจำเป็นมาก เนื่องจากจะเป็น Destination ของกรุงเทพฯ โดยให้เตรียมกำหนดพื้นที่ที่มีความเหมาะสมไว้ก่อน ส่วนเรื่องงบประมาณทางรัฐบาลจะมาดูอีกครั้ง นอกจากนี้ได้กำชับให้กรมธนารักษ์ และหน่วยงานที่รับผิดชอบ หาแนวทางในการนำระบบโซลาร์เซลล์มาติดตั้งในพื้นที่สวนป่าโดยเฉพาะการผลิตพลังงานกังหันน้ำชัยพัฒนาเพื่อบำบัดน้ำเสีย จะมีการติดตั้งไว้ในบึงบริเวณพื้นที่โครงการ ขณะที่ระบบไฟฟ้าที่ใช้ส่องสว่างภายในสวนทั้งหมดจะมีการใช้ระบบโซลาร์เซลล์ด้วยเช่นกัน ถือเป็นการช่วยรักษาระบบนิเวศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายสันติ กล่าว

Advertising 

อุเทน”วอนศาลทบทวนตัดสินคดีล้มประชุมอาเซียนฯปี52 ของจำเลยบางราย

People Unity News : “อุเทน”วอนศาลทบทวนตัดสินคดีล้มประชุมอาเซียนฯปี52 ของจำเลยบางราย หลังปรากฏ “พยานสำคัญ” ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดให้การเท็จ ส่งผลให้คำเบิกความที่กล่าวหาผู้บริสุทธิ์ควรตกไปด้วย เชียร์ “ประยุทธ์” หาแนวทางให้ความเป็นธรรมแบบไม่เลือกสีเสื้อ วางหมุดแรกสร้างความปรองดอง

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีที่ 3 จำเลยในคดีล้มการประชุมอาเซียนที่โรงแรมรอยัล คลิฟบีชรีสอร์ท เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2552 ได้กลับคำให้การและรับสารภาพ ส่งผลให้ศาลฎีกานัดฟังคำสั่งใหม่ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ในขณะที่จำเลยบางส่วนต้องคำพิพากษาจำคุก 4 ปีโดยไม่รอลงโทษไปแล้วว่า เข้าใจว่าเป็นแนวทางการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมของ 3 จำเลยดังกล่าว ที่หวังได้รับการลงโทษสถานเบา ซึ่งก็ถือว่าศาลได้ให้ความเมตตารับฟังคำร้องไว้เบื้องต้น และนัดรับฟังคำพิพากษาใหม่ อย่างไรก็ดีภายใต้ความเคารพในคำพิพากษาของศาล และไม่เป็นการล่วงละเมิดขอบเขตอำนาจศาล ตนอยากขอวิงวอนองค์คณะผู้พิพากษาได้ให้ความเมตตาแก่จำเลยในคดีเดียวกันนี้กับรายอื่นๆในส่วนที่ต้องคำพิพากษาจำคุกไปแล้ว

เพราะขณะนี้ได้ปรากฏมีข้อเท็จจริงใหม่ จากการที่ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยและพิพากษาโดยอ้างอิงคำเบิกความของพยานสำคัญ คือ พ.ต.ท.ศราวุธ บุญชัย (สารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธร (สภ.) ขลุง จ.จันทบุรี ในขณะนั้นเกิดเหตุเมื่อปี 2552) จึงตัดสินลงโทษจำเลยดังกล่าว แต่ต่อมา พ.ต.ท.ศราวุธ ถูกศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษฐานแจ้งความเท็จ โดยยอมรับสารภาพว่า ถูกผู้บังคับบัญชาบังคับให้ให้การเท็จปรักปรำจำเลยในคดีล้มการประชุมอาเซียนซัมมิท จนถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น คือ จำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับ 12,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.61 และยังอยู่ในชั้นฎีกาคดี

“เมื่อ พ.ต.ท.ศราวุธ สารภาพว่าให้การเท็จเพราะถูกบังคับ เป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าผู้ต้องหาชุดดังกล่าวมีความผิด ตามถ้อยคำเบิกความของ พ.ต.ท.ศราวุธ ที่ผูกพันคำพิพากษาจำเลยในคดีล้มการประชุมอาเซียนปี 2552 บางราย จึงไม่ควรรับฟัง และควรที่จะตกไป” นายอุเทน กล่าวและว่า

โดยเฉพาะรายของ นายศักดา นพสิทธิ์ ที่เดินทางไปตามนัดหมายศาลเพียงคนเดียวเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ก่อนถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษพัทยา ตามโทษ 4 ปีตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ซึ่งเจ้าตัวยืนยันและพยายามต่อสู้ในชั้นศาลว่า ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการชุมนุมของ นปช. เพราะขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารและโฆษกพรรคเพื่อไทย อีกทั้งยังไม่ได้เข้าร่วมชุมนุมหรือบุกเข้าโรงแรมที่ใช้จัดประชุมในวันที่ 11 เม.ย.52 แต่อย่างใด ส่วนในวันที่ 10 เม.ย.ที่ได้เข้าไปอยู่ในสถานที่ชุมนุม แค่ไปติดตามสถานการณ์ ในฐานะที่เป็นคนที่เกิดและโตใน จ.ชลบุรี เท่านั้น แต่ในคำพิพากษาส่วนของนายศักดา ระบุว่า พ.ต.ท.ศราวุธ ให้การว่าเห็นนายศักดาปราศรัยอยู่บนรถขยายเสียงในวันที่ 11 เม.ย.ด้วย ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง แต่ทำให้นายศักดาต้องโทษ ส่งผลให้ครอบครัวและลูกเล็กได้รับความลำบาก เนื่องจากหัวหน้าครอบครัวที่เป็นเสาหลักต้องโทษถูกจำคุก

“ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีพยานเท็จในคดีนี้นั้น ผมได้พยายามประสานผ่านฝ่ายต่างๆไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ (จันทร์โอชา นายกฯ) แล้วอย่างน้อยๆ 3 ครั้ง เพื่อแสวงหาช่องทางช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้บริสุทธิ์ แต่ก็ยังไม่รับการตอบสนอง ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้ฝากเรื่องผ่านรัฐมนตรีท่านหนึ่งในรัฐบาลปัจจุบันไปอีกครั้ง ก็หวังว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะรับฟังและแสวงหาแนวทางพิสูจน์ข้อเท็จจริง อันจะเป็นหมุดหมายแรกในการสร้างบรรยากาศความปรองดอง ที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกกลุ่ม ทุกสีเสื้อ” นายอุเทน กล่าว

ศบค. ลดพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 6 จว. – ปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ถึง 15 ม.ค. 65

People Unity News : ศบค. ลดพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 6 จว. – ปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ถึง 15 ม.ค. 65

ที่ประชุม ศบค. วันนี้ (12 พ.ย.64) มีมติสำคัญดังนี้

เห็นชอบ การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด (ประกอบด้วย ตาก/นครศรีธรรมราช/นราธิวาส/ปัตตานี/ยะลา/สงขลา ) ขณะที่ปรับจังหวัดจันทบุรีเพิ่มในพื้นที่ควบคุมสูงสุด รวมเป็น 39 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 23 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด และพื้นที่สีฟ้า 4 จังหวัด ยังคงปิด สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และเห็นชอบเลื่อนการเปิดบริการจากแผนเดิม จาก 1 ธ.ค. 64 เป็น 16 ม.ค. 65 เพื่อเตรียมการ และประเมินสถานการณ์การระบาด และความครอบคลุมการได้รับวัคซีน

โดยมอบหมาย ศปก.ศบค., มท., สธ. คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับผู้ประกอบการ เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดสถานบันเทิงฯ  และกำกับติดตามมาตรการ ป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 แบบบูรณาการอย่างต่อเนื่อง

เห็นชอบแนวทางการนำแรงงานต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศตาม MoU รวมทั้งเดินหน้าโครงการ Factory Sandbox โดยมีการขยายขอบจังหวัดจาก 4 จังหวัดเป็น 11 จังหวัด ปรับลดหลักเกณท์ขนาดสถานประกอบการจาก 500 คน เป็น 100 คน เพื่อให้ครอบคลุมให้มากที่สุด

Advertising

“บิ๊กตู่” บอกการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นเรื่องของกรรมาธิการ ได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับกรรมาธิการ

People Unity News : พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นเรื่องของกรรมาธิการ ย้ำรัฐบาลดำเนินการทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ

วันนี้ (26 ส.ค.63) เวลา 11.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่อกรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่าคณะกรรมาธิการกำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการชี้แจงอธิบายถึงเหตุผลความจำเป็นและหลักเกณฑ์ต่างๆทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ย้ำว่าอะไรก็ตามที่จะสร้างความปลอดภัยไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อประเทศชาติ คนไทยทุกคนและทรัพยากรของประเทศ และพิจารณาดำเนินการสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการมีไว้เพื่อสู้กับใครแต่เป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ และเป็นการดำเนินการซึ่งเป็นงบประมาณของกองทัพเรืออยู่แล้ว ส่วนจะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการเป็นผู้พิจารณา

Advertising

“อนุสรณ์”ถามพลังประชารัฐ เจตนาป่วนหรือแก้รธน.

People Unity News : “อนุสรณ์”ถามพลังประชารัฐ เจตนาป่วนหรือแก้รธน. ขณะที่ “เทพไท” ท้า “บิ๊กป้อม” รักษาคำพูดหนุนแก้ รธน. ชี้อำนาจอยู่ 3 ป.

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พรรคพลังประชารัฐ เตรียมเสนอชื่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน ชิงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 แทน นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ว่า หลังจากที่มีกระแสข่าว พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ส่งชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงชิงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 เพราะกลัวขัดแย้งกับพรรคพลังประชารัฐ สังคมก็ตั้งคำถามว่า ตกลงการอยากอยู่ร่วมรัฐบาลให้นานที่สุด กับมติพรรคและสัญญาประชาคม พรรคประชาธิปัตย์เห็นอย่างใดสำคัญกว่ากัน ถ้ารัฐบาลทำงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้กับประชาชนได้ พรรคร่วมรัฐบาลอยากสนับสนุนก็พอเข้าใจได้ แต่ถ้ารัฐบาลทำงานไม่ได้ การอยู่นานของรัฐบาลน่าจะเป็นการทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาส ไม่มีความจำเป็นในการพายเรือให้ใครนั่ง การจงใจส่งนายไพบูลย์ มาเป็นประธานกมธ.ของพรรคพลังประชารัฐเจตนาชัดว่า จะยื้อเวลาและปั่นป่วนไม่ให้การทำงานศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถขับเคลื่อนได้

“การส่งคนที่ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และจุดยืนชัดว่าไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญ มาเป็นประธานกมธ. เป็นการส่งสัญาณชัดว่าอยากอยู่ยาว พอได้อยู่ยาว ก็อยากอยู่ต่อให้นานที่สุด โดยไม่สนใจว่าประชาชนจะเดือดร้อนอย่างไร” นายอนุสรณ์ กล่าว

“เทพไท” ท้า “บิ๊กป้อม” รักษาคำพูดหนุนแก้ รธน. ชี้อำนาจอยู่ 3 ป.

ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ตนออกมาเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรคมีความจริงใจในการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้พาดพิงหรือเฉพาะเจาะจงไปถึงพรรคพลังประชารัฐพรรคเดียว แต่เป็นการเรียกร้องหาความจริงใจจากทุกพรรคและทุกภาคส่วน แต่เมื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมารับลูกแทนรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ และประกาศยืนยันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะมีการแก้ไขอย่างแน่นอน ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี ก็ขอให้สังคมจดจำและบันทึกไว้ เพราะถือว่าเป็นการให้สัญญาประชาคมต่อพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศแล้ว ขอให้พลเอกประวิตร ได้รักษาคำพูดและผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้เป็นจริงตามที่ประกาศไว้

ผมขอขอบคุณในคำยืนยันของพลเอกประวิตรไว้ล่วงหน้า และหวังว่าท่านคงรักษาสัจจะของลูกผู้ชายชาติทหาร และถ้าเป็นความตั้งใจจริงของท่าน ผมเชื่อว่าพล.อ.ประวิตร สามารถผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จได้อย่างแน่นอน เพราะเพียงแค่ท่านส่งสัญญาณไปยังสมาชิกวุฒิสภา ที่ได้รับแต่งตั้งจาก คสช. เท่านั้น สมาชิกวุฒิสภาทุกคนก็รอฟังสัญญานจาก พล.อ.ประยุทธ หรือพล.อ.ประวิตร กันตลอดเวลา ต้องยอมรับความจริงว่า การเมืองในวันนี้อำนาจสูงสุดรวมศูนย์อยู่ที่พี่น้อง3ป. หากคณะ3ป.เปิดไฟเขียวเมื่อไหร่ ทุกอย่างก็จะราบรื่นและง่ายดายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก

ถ้าหากพลเอกประวิตรสามารถผลักดันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จได้ตามที่ประกาศไว้ ท่านจะได้รับเสียงชื่นชมแซ่ซ้องสรรเสริญ จากทุกภาคส่วนในสังคม และถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จได้จริงภายในหนึ่งปีด้วยฝีมือและการสนับสนุนของพล.อ.ประวิตรจริง ผมจะขออาสาเป็นตัวแทนของทุกคนที่รักประชาธิปไตย นำดอกไม้ธูปเทียน ไปกราบขอบพระคุณพลเอกประวิตรถึงห้องทำงาน ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาลทันที

Verified by ExactMetrics