วันที่ 25 เมษายน 2024

รัฐบาลเผยรายละเอียดการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ 90 พรรษา

People Unity News : วันที่ 14 มิถุนายน 2565 นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการฝ่ายพิธีการการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ  เครืองาม) เป็นประธานกรรมการ ได้มีการประชุมเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ตามที่รัฐบาล โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯแล้ว สรุปการจัดงาน ดังนี้

1.กำหนดชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ว่า “การจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565” และชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นภาษาอังกฤษว่า “Celebrations on the Auspicious Occasion of Her Majesty Queen Sirikit The Queen Mother’s 90th Birthday Anniversary 12th August 2022”  โดยกำหนดขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565

2.มีตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ซึ่งกรมศิลปากรดำเนินการออกแบบตราสัญลักษณ์ พร้อมความหมาย โดยผู้ประสงค์ขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ฯ จะต้องเป็นนิติบุคคล หน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ สมาคม ชมรม หรือ บริษัท ห้าง ร้าน ซึ่งการนำตราสัญลักษณ์ฯ เพื่อประดับหรือประดิษฐานบนสิ่งของใดๆ จะพิจารณาถึงความเหมาะสมในเรื่องรูปแบบ วัตถุประสงค์ เจตนารมณ์ และจะต้องมีแผนดำเนินงานในระยะเวลาขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยสามารถยื่นคำขอระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 และส่งคำขออนุญาตไปยังคณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้ตราสัญลักษณ์ การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล สอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2283 4789 – 91 หรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.opm.go.th

3.การจัดทำโครงการและกิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ

การเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐจัดทำโครงการและกิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ ในระยะเวลาขอบเขตการจัดงาน ซึ่งขณะนี้มีหน่วยงานเสนอโครงการและกิจกรรมเข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ แล้วกว่า 1,000 โครงการ/กิจกรรม โดยมีโครงการและกิจกรรมสำคัญ ดังนี้

3.1 รัฐบาลจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ “ด้วยรักแห่งแผ่นดิน : With Love  for the Nation” กำหนดระหว่างวันที่ 1 – 15 สิงหาคม 2565 ณ บริเวณถนนราชดำเนินกลางตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าลีลาศถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 จัดกิจกรรม ณ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ โดยการจัดนิทรรศการในรูปแบบ Live Exhibition ซึ่งมีแนวความคิดการจัดนิทรรศการเชื่อมโยงกับโครงการป่ารักน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โซนที่ 2 จัดกิจกรรมการสาธิตและการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์และผลผลิตจากการน้อมนำแนวพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และการจำหน่ายสินค้า รวมถึงสาธิตการทำขนม หรืองานประดิษฐ์ต่างๆ ณ ซอยดำเนินกลางใต้ (ฝั่งวัดราชนัดดาราม) โซนที่ 3 จัดกิจกรรม ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน โดยการนำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตของคนไทยที่น้อมนำพระราชดำริเพื่อมาปรับใช้ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภาคต่างๆ โซนที่ 4 จัดกิจกรรม ณ บริเวณป้อมมหากาฬ โดยจัดการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน (Free Space) ได้แสดงความสามารถและผลงานที่มีความสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในด้านต่างๆ และโซนที่ 5 จัดกิจกรรม ณ บริเวณป้อมมหากาฬและตลอดแนวคลองโอ่งอ่าง โดยจัดการออกร้านเลิศลิ้มชิมรส ซึ่งเป็นการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มจากร้านที่มีชื่อเสียงจากทุกเขตของกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะสถานที่สำคัญ และร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ภายในวัดเทพธิดารามและวัดราชนัดดาราม

3.2 โครงการมหกรรมผ้าไหมไทย ไหมไทยสู่เส้นทางโลก เฉลิมพระเกียรติฯ กำหนดในวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ณ หอประชุมกองทัพเรือ โดยมีการจัดนิทรรศการผ้าไหมไทย การแสดงแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทย ซึ่งผู้เดินแบบเป็นผู้แทนจากรัฐบาลไทย คณะทูตานุทูตและคณะกงสุลจากประเทศต่างๆ รวม 100 ประเทศ

3.3 โครงการหนังสือสมาร์ท – สมุดรายนามผู้ผลิตผ้าไหมและผู้ประกอบการทั่วประเทศแบบดิจิตอลเฉลิมพระเกียรติฯ โดยนำรายชื่อผู้ผลิตและผู้ประกอบการผ้าไหมเข้าสู่ระบบดิจิตอล เพื่อจัดทำระบบฐานข้อมูลในรูปแบบ Social Media สื่อสิ่งพิมพ์ และ E-Book ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งจัดทำสมุดรายนามฉบับพิเศษเพื่อทูลเกล้าฯถวาย และเป็นของที่ระลึกแด่ผู้นำพร้อมคู่สมรส และผู้แทนจากต่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิค (APEC) ปี 2565

4.การจัดทำสารสารคดีโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติฯ ในนามคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ เพื่อเผยแพร่ ในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา

5.การจัดพิธีทางศาสนา

5.1 โครงการบรรพชาอุปสมบท 910 รูป เฉลิมพระเกียรติฯ กำหนดดำเนินการโครงการฯ ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2565 ส่วนกลางกำหนดจัดพิธี ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก กรุงเทพมหานคร จำนวน 91 คน และส่วนภูมิภาคกำหนดจัดพิธี ณ วัดในจังหวัดต่าง ๆ ที่กำหนด จำนวน 819 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการรับสมัครตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565

5.2 พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 91 รูป จากโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ถวายพระราชกุศล ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 ส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง เวลา 07.30 น. ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม

5.3 พิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศล ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 เวลา 09.09 น. ส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 91 รูป ซึ่งเป็นพระสงฆ์จากโครงการพรรพชาอุปสมบทฯ และส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม

6.พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 เวลา 18.00 น. และเวลา 19.19 น. ตามลำดับ ส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม

7.กิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศล เพื่อถวายพระราชกุศลในระยะเวลาขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยสามารถจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาได้ตามความเหมาะสม

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดปี 2565 โดยร่วมจัดทำโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ และถวายพระราชกุศลให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ ในโอกาสดังกล่าว ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมขอให้ดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราชสักการะ ตกแต่งสถานที่ประดับพระฉายาลักษณ์ ประดับธงชาติคู่กับธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 พร้อมประดับผ้าระบายสีฟ้าร่วมกับผ้าระบายสีขาว ตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน จัดทำคำถวายพระพรชัยมงคลเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของหน่วยงาน และจัดการลงนามถวายพระพรชัยมงคลภายในหน่วยงานหรือทางเว็บไซต์ โดยดำเนินการตลอดเดือนสิงหาคม 2565

Advertisement

พระราชดำรัสในหลวง พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรี ในวโรกาสเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ

People Unity : พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานต่อคณะรัฐมนตรี ในการพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ 36 คน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 เวลา 17.45 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า

“ขอให้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ได้ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ ทั้งนี้เพื่อความสุขและความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชน งานใดๆก็ต้องมีอุปสรรค งานใดๆก็ต้องมีปัญหา เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องแก้ปัญหา และเข้าหางาน เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสถานการณ์ โดยแก้ไขให้ตรงเป้าตรงจุดและมีความเข้มแข็งอดทน ก็ขอให้คณะรัฐมนตรีและรัฐบาลมีกำลังใจ มีพลังที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีด้วยความถูกต้องต่อไป”

ใต้ร่มพระบารมี : พระราชดำรัสในหลวง พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรี ในวโรกาสเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ

People Unity : post 18 กรกฎาคม 2562 เวลา 23.20 น.

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯเยี่ยมผู้บาดเจ็บและพระราชทานกำลังใจแก่ครอบครัวเหยื่อโศกนาฏกรรม

People Unity News : วันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 20.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ไปทรงเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโศกนาฏกรรมในจังหวัดหนองบัวลำภู ณ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู และโรงพยาบาลอุดรธานี นำมาซึ่งความปลาบปลื้มปิติล้นพ้น และทำให้พวกเขามีกำลังใจที่เข้มแข็งในการดำเนินชีวิตต่อไป

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

Advertisement

ปลัด มท. แจ้งทุกจังหวัด เชิญชวนรวมพลังเจริญพระพุทธมนต์

People Unity News : 17 ธันวาคม 2565 ปลัด มท. แจ้งทุกจังหวัด เชิญชวนทุกภาคส่วนร้อยรวมพลังแห่งความจงรักภักดี จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีขอพรของศาสนา เพื่อปฏิบัติบูชาน้อมถวายพระพร แด่ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ประชาชนคนไทยทุกคนได้รับทราบแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ซึ่งประชาชนในทั่วทุกภูมิภาคต่างมีความห่วงใยและปรารถนาในการร่วมกันถวายพระพรให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน

“เพื่อเป็นการรวมใจพี่น้องคนไทยทั้งชาติในการแสดงความจงรักภักดีและร่วมบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดร่วมกับคณะสงฆ์ และผู้นำศาสนาทุกศาสนาในพื้นที่จังหวัด จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีขอพรตามหลักของแต่ละศาสนา เพื่อถวายพระพรให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นพิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือจากประกาศของมหาเถรสมาคม เช่น การถวายภัตตาหารเพล โดยสำหรับบทเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรนั้น ได้รับความกรุณาจาก เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เมตตาประมวลรวบรวมบทสวดอันเป็นมิ่งมงคลต่าง ๆ รวม 34 บท ได้แก่ บทชุมนุมเทวดา บทนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้า (นะโม ตัสสะ) บทพระไตรสรณคมน์ (พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ) บทนมการสิทธิคาถา (สัมพุทเธ) บทนมการสิทธิคาถา (โย จักขุมา) บทนโมการอัฏฐกคาถา (นะโม อะระหะโต สัมมา) บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร (เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา….) บทมงคลสูตร (พะหู เทวา มะนุสสา จะ) บทรตนสูตร (ยังกิญจิ วิตตัง อิระ วา หิรัง วา) บทกรณียเมตตสูตร (กะระณียมัตถะกุสะเลนะ) บทขันธปริตร (วิรูปักเขหิ เม เมตตัง) บทเมตตานิสังสสุตตปาฐะ (เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา..) บทโมรปริตร (อุเทตะยัญจักขุมา) บทจันทปริตตปาฐะ (เอวัมเม สตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา…) บทสุริยปริตตปาฐะ (เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา..) บทวัฏฏกปริตร (วัตลิ โลเก สีละคุโถ) บทอนุสสรณปาฐะ (อิติปิ โส ภะคะวา) บทอาฏานาฏิยปริตร (วิปัสสิสสะ นะมัตถุ) บทอังคุลิมาลปริตร (ยะโตหัง ภะคินิ) บทโพชฌังคปริตร (โพชฌังโค สะติสังขาโต) บทอภยปริตร (ยันทุนนิมิตตัง) บทสักกัต์วา (สักกัตัวา พุทระระตะนัง) บทนัตถิ เม (นัตถิ เม สะระณัง อัญณัง) บทยังกิญจิ (ยังกิญจิ ระตะนัง โลเก) บทมงคลจักรวาลใหญ่ (สิริริติมะติเตโช) บทเทวตาอุยโยชนคาถา (ทุกขัปปัตตา จะ นิททุกขา) บทพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง สหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธัน) บทชยปริตร (มหาการุณีโก นาโถ) บทภวตุ สัพพมังคลัง (ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง) บทนักขัตตยักข์ (นักขัตตะยักขะภูตานัง) บทสวดพระคาถาชินบัญชร และการเจริญจิตตภาวนา นอกจากนี้ จัดพิธีปล่อยปลา ปล่อยสัตว์ โดยซื้อหาปลา หรือสัตว์อื่น ๆ ที่จะทำการปล่อยจากท้องตลาดหรือแหล่งจำหน่ายเพื่อการบริโภคเป็นหลัก เพื่อเป็นการไถ่ชีวิตสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ และเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมทำบุญตักบาตร บริจาคโลหิต เพื่อเป็นการปฏิบัติบูชาน้อมถวายพระพรแด่พระองค์ท่าน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจด้วยพระวิริยอุตสาหะ และทรงแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยทรงปฏิบัติพระราชกิจแทนพระองค์ในหลายวาระ ด้วยทรงมีพระปณิธานในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่พสกนิกรของพระองค์ ด้วยทรงใช้ความรู้ความสามารถในด้านต่าง ๆ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมไทยและพวกเราชาวไทยอย่างอเนกอนันต์ จึงขอเชิญชวนประชาชนคนไทยในทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ได้ร้อยรวมใจ ร้อยรวมพลังในการปฏิบัติบูชา เพื่อน้อมถวายพระพรแด่องค์ “เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา” เจ้าฟ้าหญิงผู้เป็นที่รักยิ่งของพวกเราคนไทยทุกคน ณ สถานที่ที่จังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่กำหนด โดยพร้อมเพียงกัน

Advertisement

ครม.รับทราบผลดำเนินงานโครงการจิตอาสาฯ ณ สิ้นเดือน ธ.ค.64 มีจิตอาสาฯกว่า 6.8 ล้านคน

People Unity News : ครม.รับทราบผลดำเนินงานโครงการจิตอาสาพระราชทาน

15 มี.ค. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 มี.ค. 2565 ได้รับทราบการการรายงานผลดำเนินงานโครงการจิตอาสาพระราชทาน ระหว่างเดือน ต.ค. – ธ.ค. 2564  โดย ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2564 มีประชาชนลงทะเบียนเป็นจิตอาสาพระราชทานแล้ว 6,896,296 คน จำแนกเป็นกรุงเทพมหานคร 455,861 คน และส่วนภูมิภาค 6,440,408 คน

ทั้งนี้  มีการจัดกิจกรรมจิตอาสาของส่วนราชการต่างๆ 17 หน่วยงาน ที่มีผู้เข้าร่วม 963,925 คน รวมกิจกรรมจิตอาสา 10,163 ครั้ง ประกอบด้วย 1) จิตอาสาพัฒนา เช่น การปรับปรุงภูมิทัศน์สถานที่ทำงานและบริเวณโดยรอบ การอำนวยความสะดวกให้ประชาชน การบริจาคโลหิต หรือสิ่งของ การปลูกต้นไม้ พัฒนาแหล่งน้ำ การบริจาควัคซีนแก่ประชาชน รวม 9,217 ครั้ง 2) จิตอาสาภัยพิบัติ เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ การอบรมภัยพิบัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวม 885 ครั้ง 3) จิตอาสาเฉพาะกิจ เช่น การจัดเตรียมสถานที่และร่วมพิธีเนื่องในวันสำคัญ การบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล รวม 43 ครั้ง และ 4) วิทยากรจิตอาสา เช่น การบรรยายความรู้ในเรื่องการขับเคลื่อนงานจิตอาสาภาคประชาชน การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การสร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมืองและโครงการจิตอาสาพระราชทานตามพระราชดำริ  รวม 18 ครั้ง

ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้บูรณาการงานจิตอาสาภาครัฐและติดตามโครงการจิตอาสาพระราชทานโดยต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีโครงการสำคัญที่อยู่ระหว่างดำเนินการหลายโครงการ เช่น โครงการ “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์”  โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร การดำเนินการคลองเปรมประชากร คลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าว การพัฒนาคูคลองในพื้นที่เขตหลักสี่ การจัดตั้งศูนย์พักคอยในชุมชน และศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรัก

นอกจากนี้ สปน. ได้รายงานว่าหน่วยงานภาครัฐได้มีการดำเนินกิจกรรมจิตอาสาเพื่อให้เกิดความรู้รัก สามัคคี เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ชุมชน สังคมและประเทศชาติโดยรวมอย่างต่อเนื่อง

Advertising

ร่วมรำลึก วันนวมินทรมหาราช ชวนชมนิทรรศการ “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย”

People Unity News : 12 ตุลาคม 2566 กระทรวงพลังงาน และ กฟผ. ร่วมสืบสานพระราชกรณียกิจ และเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้านพลังงาน จัดกิจกรรมน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติวันนวมินทรมหาราช “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” ชวนชมนิทรรศการโครงการตามแนวพระราชดำริอันเกี่ยวเนื่องกับกิจการพลังงาน 11-13 ต.ค. นี้ ที่สยามสเคป

พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ร่วมเปิดงานน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติ วันนวมินทรมหาราช “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” ซึ่งกระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2566 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 สยามสเคป กรุงเทพฯ

พลอากาศเอก ชลิต กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เปรียบดั่ง “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” ทรงสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ จากหลากหลายโครงการที่ทรงริเริ่ม เป็นรูปเป็นร่างขึ้นด้วยพระปรีชาสามารถ และด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล โดยเฉพาะโครงการตามพระราชดำริอันหลากหลาย และโครงการด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทดแทน ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ และเป็นแนวทางในการวางนโยบายด้านพลังงานของประเทศจวบจนถึงปัจจุบัน พระมหากรุณาธิคุณนี้เป็นที่ประจักษ์ และน้อมนำมาสืบสานพระราชปณิธาน ด้วยการปฏิบัติตามแนวพระราชดำริ และคำสอนของพระองค์ บนหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่ได้พระราชทานแก่พสกนิกร ก่อให้เกิดประโยชน์ และช่วยให้ประเทศไทยพัฒนารุ่งเรืองจวบจนปัจจุบัน

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติในพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาญาณอันล้ำเลิศด้านพลังงาน ประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการโครงการตามแนวพระราชดำริอันเกี่ยวเนื่องกับกิจการพลังงาน รวม 5 โครงการ ได้แก่ พลังน้ำ พลังชีวภาพ พลังทดแทน พลังทรัพย์ในดิน และแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ และการมอบหนังสือ “พลังแผ่นดิน” แก่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และโรงเรียนเครือข่ายโครงการห้องเรียนสีเขียวกว่า 20 แห่ง

นอกจากนี้ ในวันที่ 13 ตุลาคม 2566 กฟผ.เขื่อนภูมิพล ได้ร่วมกับอำเภอสามเงา และประชาชนจังหวัดตาก จัดกิจกรรมน้อมรำลึกเนื่องในวันนวมินทรมหาราช โดยจัดพิธีตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล การปลูกป่าและปล่อยพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ พิธีวางพวงมาลาและถวายบังคม การเพาะเนื้อเยื่อพันธุ์ต้นไม้ทรงปลูกของพ่อ (Tissue Culture) และการจุดเทียนชัยน้อมรำลึก และยังเตรียมกิจกรรม Open House ให้เยาวชนและนักเรียนเข้าศึกษาดูงานและเยี่ยมชมกระบวนการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำในเขื่อนของ กฟผ. โดยสามารถลงทะเบียนจองเข้าเยี่ยมชมตั้งแต่บัดนี้จนถึงตลอดปี 2567

Advertisement

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ เสด็จประทานรางวัล “ประชาบดี” ประจำปี 2560

People unity news online : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จประทานรางวัล “ประชาบดี” ประจำปี 2560 เชิดชูเกียรติต้นแบบแห่งการแบ่งปันเพื่อผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2560 เวลา 15.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จประทานรางวัล “ประชาบดี” และเข็มเชิดชูเกียรติ ประจำปี 2560 แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากและผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น โดยมี พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กราบทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. เฝ้ารับเสด็จ ณ ห้องประชุมชั้น 2 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สะพานขาว กรุงเทพฯ

พลเอก อนันตพร กราบทูลว่า ด้วย “พระประชาบดี” เทพผู้เป็นที่พึ่งและสงเคราะห์ประชาชน ด้วยพลังแห่งการให้และแบ่งปัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นจากสภาวะยากลำบาก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จึงได้นำชื่อ “ประชาบดี” มาเป็นชื่อรางวัลแห่งเกียรติยศ อันเป็นที่สุดแห่งความภาคภูมิใจของต้นแบบความดีเพื่อช่วยเหลือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก ให้ได้รับการยกย่องและเชิดชูคุณความดีให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยพระเมตตาของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้เสด็จประทานรางวัล “ประชาบดี” เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง

พลเอก อนันตพร กราบทูลต่อไปว่า การจัดงานประทานรางวัล “ประชาบดี” และเข็มเชิดชูเกียรติฯ เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปี 2550 โดยมีผู้ได้รับรางวัลแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 670 ราย ซึ่งในปี 2559 ที่ผ่านมา มีการมอบรางวัล “ประชาบดี” เพียง 4 ประเภท แต่สำหรับปี 2560 เป็นปีพิเศษที่มีการมอบรางวัลถึง 5 ประเภท โดยเพิ่ม1 รางวัล ประเภทผู้ที่ทำงานร่วมกับกระทรวง พม. มาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ในปีนี้ มีการมอบรางวัลเป็นจำนวนทั้งสิ้น 60 รางวัล ได้แก่ 1) ประเภทบุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากจำนวน 12 คน เช่น พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต 2) ประเภทองค์กรที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน 7 องค์กร เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภา จังหวัดชัยนาท 3) ประเภทสื่อที่นำเสนอกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน 17 รายการ เช่น รายการ 76 จังหวัด ตามหาคนดี ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) 4) ประเภทบุคคลผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ทำคุณประโยชน์และดำรงชีวิตเป็นแบบอย่างที่ดี จำนวน 17 คน เช่น นายสุวรรณฉัตร พรหมชาติ ซึ่งให้บริการรถแท็กซี่ ที่ได้รับบริจาค ในการรับ-ส่งผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบากไปยังโรงพยาบาล โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นระยะเวลาถึง 22 ปี และ 5) รางวัลเกียรติยศ บุคคลที่เสียสละอุทิศตนทำงานเพื่อสังคมและมีผลงานโดดเด่นสนับสนุนภารกิจกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวง พม. อย่างต่อเนื่อง จำนวน 7 คน เช่น นายมีชัย วีระไวทยะ ผู้ริเริ่มธุรกิจเพื่อสังคม และการสร้างนวัตกรรมทางการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก เป็นต้น

“กระทรวง พม. ขอแสดงความยินดีและยกย่องเชิดชูเกียรติกับทุกท่านและทุกองค์กรที่ได้รับรางวัลในวันนี้ และขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในสังคมเป็นกลไกหนุนเสริมภารกิจซึ่งกันและกันในการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม และพัฒนาสังคมร่วมกันอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กระทรวง พม. พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานตามภารกิจเพื่อการพัฒนาสังคม การพิทักษ์คุ้มครองสิทธิประชาชน โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสหรือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือดูแล เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน” พลเอก อนันตพร กราบทูลในตอนท้าย

People unity news online : post 12 ธันวาคม 2560 เวลา 11.00 น.

น้อมรับ “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์” ฉบับธรรมนาวา “วัง” เพื่อความพ้นทุกข์แก่คนไทย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 22 มีนาคม 2567 ทำเนียบรัฐบาล – “พวงเพ็ชร” น้อมรับ “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์”  ฉบับธรรมนาวา “วัง”  ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่พสกนิกรไทย เผยแพร่แก่พุทธศาสนิกชนอย่างทั่วถึง

ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน  “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์” ฉบับธรรมนาวา “วัง”  แก่พสกนิกรไทย เพื่อประโยชน์สุข   อันพึงจะได้รับจากพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงผ่านหลักการปฏิบัติอย่างถูกต้องตรงตามพุทธบัญญัติ

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ซึ่งกำกับดูแล ส่งเสริมกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนาน้อมนำหลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ ฉบับธรรมนาวา “วัง”  ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน ไปเผยแพร่ขยายผลทุกช่องทาง และนำไปบรรจุไว้ในการแสดงพระธรรมเทศนาของพระสงฆ์ทุกวัดทั่วประเทศ  ตลอดปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนอย่างทั่วถึงต่อไป

Advertisement

รองโฆษกรัฐบาลเผย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงชื่นชมทุกจังหวัดจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยสมพระเกียรติ

People Unity : สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสทรงชื่นชมทุกจังหวัดจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยสมพระเกียรติ

วันนี้ (8 เม.ย.2562) พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสทรงชมเชยผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ได้จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตามที่รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ เพื่อนำไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ ณ พุทธเจดีย์สถาน และทูลเกล้าฯถวายในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณี เสร็จเรียบร้อยอย่างสมพระเกียรติ

“ในนามของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยขอเชิญชวนทุกภาคส่วนหลอมรวมใจกันจัดพระราชพิธีให้สำเร็จลุล่วงสมบูรณ์ในทุกขั้นตอน ด้วยความรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว และทุ่มเทอย่างสุดกำลังเพื่อให้เกิดสิริมงคลแก่ประเทศชาติและประชาชนสืบไป”

ใต้ร่มพระบารมี : รองโฆษกรัฐบาลเผย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงชื่นชมทุกจังหวัดจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยสมพระเกียรติ

People Unity : post 8 เมษายน 2562 เวลา 16.30 น.

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/19818

นายกฯ เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศล วันคล้ายวันสวรรคต รัชกาลที่ 9

People Unity News : 13 ตุลาคม 2565 นายกรัฐมนตรีและภริยา เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลและทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ ทำเนียบรัฐบาล

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ข้าราชการ และสื่อมวลชนเข้าร่วมพิธี

เมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางถึงบริเวณตึกสันติไมตรี (หลังนอก) พระสงฆ์ในพิธี จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสนะสงฆ์ นายกรัฐมนตรีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีลและเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้น นายกรัฐมนตรีถวายผ้าไตรพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระสงฆ์สวดอนุโมทนา นายกรัฐมนตรีกรวดน้ำรับพร แล้วกราบลาพระรัตนตรัย และถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา นำผู้ร่วมงานใส่บาตรพระสงฆ์ ณ บริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี เป็นอันเสร็จพิธี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเป็นประธานในพิธีตักบาตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนนทบุรี ณ วัดเขมาภิรตารามราชวรมหาวิหาร ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เวลา 10.40 น. นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนนทบุรี ณ วัดแสงสิริธรรม ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

ส่วนในช่วงเย็นเวลา 17.00น. นายกรัฐมนตรี เฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เขตดุสิต กรุงเทพฯ

Advertisement

Verified by ExactMetrics