วันที่ 14 กรกฎาคม 2025

ปลัด ทส. เผยสรุปผลสอบอธิบดีกรมอุทยานฯ วันนี้

People Unity News : 28 ธันวาคม 2565 ปลัด ทส. ระบุคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีอธิบดีกรมอุทยานฯ ถูกจับฐานเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา จะสรุปภายในเย็นวันนี้ จึงจะชี้ขาดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ เตรียมเรียกข้าราชการทุกคนมาเน้นย้ำห้ามซื้อขายตำแหน่งและรับของขวัญของกำนัลใดๆ

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตำรวจ บก.ปปป. จับกุมนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ฐานเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว โดยคณะกรรมการจะนำข้อมูลของ ป.ป.ช. และตำรวจมาพิจารณาด้วย โดยจะสรุปผลภายในเย็นวันนี้ ดังนั้น วันพรุ่งนี้จะสามารถพิจารณาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ตามระเบียบราชการ ตลอดจนการหาผู้รักษาราชการแทน

นอกจากนี้ยังจะเรียกประชุมข้าราชการทั้งหมดของกระทรวงในวันที่ 4 มกราคม 2566 ตามที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้กำชับข้าราชการทุกคนให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตและโปร่งใส ห้ามเรียกรับของขวัญหรือของกำนัลตามนโยบาย No Gift Policy และห้ามซื้อขายตำแหน่ง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนข้าราชการทุกคนของกระทรวง ทส. ว่าต้องปฏิบัติตัวให้เหมาะสมและระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหาย แต่ข้าราชการที่ดีมีอีกจำนวนมาก จึงขอให้กำลังใจการปฏิบัติงานต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้บริหารส่วนงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่เดินทางจากต่างจังหวัดมาประชุมที่กรมวานนี้ ซึ่งเป็นการประชุมประจำเดือน และกำหนดให้มีพิธีทำบุญตักบาตรต้อนรับปีใหม่ ข้าราชส่วนใหญ่เข้าห้องประชุมเพื่อรออธิบดีมาเป็นประธาน จึงไม่ทราบว่ามีการจับกุมอธิบดีไปแล้ว โดยรองอธิบดีมาเป็นประธานแทน เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมและออกจากห้องประชุมแล้ว จึงทราบเหตุดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่รู้สึกตกใจ เมื่อสอบถามถึงการเรียกรับและจ่ายเงินให้อธิบดี ผู้บริหารส่วนงานในพื้นที่ต่างตอบว่าไม่เคยจ่ายแม้แต่บาทเดียว

Advertisement

ผู้เชี่ยวชาญชี้ ‘หลายปัจจัย’ ทำปักกิ่งเจอป่วยโควิด อาการรุนแรงเพิ่ม

(220429) -- BEIJING, April 29, 2022 (Xinhua) -- Residents line up for nucleic acid testing at Aoyuncun Subdistrict in Chaoyang District, Beijing, capital of China, April 29, 2022. Chaoyang District of Beijing has started a new round of nucleic acid testing on Friday to curb the recent resurgence of COVID-19. (Xinhua/Chen Zhonghao)

People Unity News : 23 ธันวาคม 2565 คณะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจีน เปิดเผยปัจจัยหลายประการที่ทำให้จำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศเพิ่มสูงขึ้น โดยพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนมักพบโรคติดเชื้อทางเดินหายใจระบาดวงกว้างในช่วงฤดูหนาวอยู่แล้ว

หลี่เยี่ยนหมิง หัวหน้าแผนกระบบการหายใจและเวชบำบัดวิกฤตประจำโรงพยาบาลปักกิ่ง ซึ่งมีผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ กล่าวว่าผู้ป่วยสูงอายุบางรายมีอาการรุนแรงหลังจากติดเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ทว่าจะฟื้นตัวหลังได้รับการรักษา

ด้าน ถงจ้าวฮุย รองประธานโรงพยาบาลปักกิ่ง เฉาหยาง ระบุว่าช่วงไม่กี่วันมานี้ทางโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยมีไข้เฉลี่ย 350-400 คน และผู้ป่วยฉุกเฉินประมาณ 500 คนต่อวัน

เจียวหย่าฮุย เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน เผยว่าจีนได้เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง ท่ามกลางจำนวนผู้ป่วยกลุ่มนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมชี้ว่าโรงพยาบาลระดับ 3 ควรรับตัวผู้ป่วยอาการรุนแรง รวมถึงผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวรุนแรง

ผู้ป่วยสูงอายุที่มีโรคประจำตัวและเด็กควรถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลระดับ 3 ทันทีที่มีอาการมากขึ้น โดยโรงพยาบาลกลุ่มนี้ครองอันดับหนึ่งของระบบการจัดอันดับโรงพยาบาล 3 ระดับของจีน เนื่องจากมีเตียงในโรงพยาบาลมากที่สุด และให้บริการทางการแพทย์ครบวงจร

Advertisement

 

กรมธนารักษ์เริ่มใช้ราคาประเมินที่ดิน-สิ่งปลูกสร้างใหม่ 1 ม.ค. 66

People Unity News : 22 ธันวาคม 2565 กรมธนารักษ์เริ่มใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สิน เพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ.2562 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป โดยราคาประเมินที่ดินมีอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยทั้งประเทศประมาณร้อยละ 8.93 และราคาประเมินสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณร้อยละ 6.21

วันนี้ (22 ธันวาคม 2565) ณ กรมธนารักษ์ นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ประธานคณะกรรมการประจำจังหวัดแต่ละจังหวัดได้มีการประกาศบัญชีราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 แล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2564 แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบันยังคงส่งผลกระทบโดยรวมต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ จึงให้เริ่มใช้บัญชีดังกล่าวในวันที่ 1 มกราคม 2566 เพื่อลดภาระกับประชาชนที่จะต้องนำราคาประเมินไปใช้เป็นฐานในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งภาษีอากรและค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ได้ดำเนินการติดประกาศและเตรียมข้อมูลเผยแพร่แล้ว ดังนั้น ราคาประเมินใหม่จะใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566 ถึง 31 ธันวาคม 2569 โดยราคาประเมินที่ดินมีอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยทั้งประเทศ ประมาณร้อยละ 8.93 และราคาประเมินสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณร้อยละ 6.21 เมื่อเทียบกับรอบบัญชีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งใช้มาเป็นระยะเวลา 7 ปี โดยที่กรุงเทพมหานคร มีอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาประเมินที่ดินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 2.76 และราคาประเมินสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้นเฉลี่ย ร้อยละ 4.60

นายจำเริญกล่าวต่อว่า สำหรับปีภาษี 2566 จะใช้ราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รอบบัญชี พ.ศ. 2566-2569 ไปใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ซึ่งจากข้อมูลที่ผ่านมามีจำนวนการจดทะเบียนซื้อขายเฉลี่ยปีละประมาณ 7 ล้านแปลง คิดเป็นร้อยละ 20 จากจำนวนแปลงที่ดินทั้งหมด และราคาดังกล่าวยังนำไปใช้ในการจัดเก็บภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งหากประชาชนที่เป็นเจ้าของที่ดินใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเกษตรกรรมหรือเป็นที่อยู่อาศัย (บ้านหลังหลัก) มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งถือว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบแต่จะได้รับผลกระทบกับประชาชนผู้ที่ถือครองที่ดินที่มีจำนวนมาก และมีบ้านมากกว่า 1 หลัง สำหรับผู้เช่าที่ราชพัสดุยังจะต้องจ่ายค่าภาษี ซึ่งไม่ได้รับการยกเว้น

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รอบบัญชี พ.ศ. 2566-2569 ได้ที่เว็บไซต์กรมธนารักษ์ www.treasury.go.th หรือแอปพลิเคชัน TRD Property Valuation และสอบถามราคาประเมินที่ดิน โทร. 0 2270 0360 – 63 และ Call Center กรมธนารักษ์ โทร. 0 2059 4999

Advertisement

ไทยตอนบน-กทม.อุ่นขึ้น ใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

People Unity News : 21 ธันวาคม 2565 กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและอีสาน ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขณะที่ภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้ง

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ตอนบนของภาค อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย ตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

Advertisement

ช่วยได้แล้ว 75 ตามหาอีก 31 นาย!!

People Unity News : 19 ธันวาคม 2565 นายกฯ บอกกำลังช่วยกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ด้านโฆษก ทร. บอกช่วยได้แล้ว 75 กำลังตามหาอีก 31 นาย ส่วน ผบ.ทร. เตรียมบินจากสัตหีบไปบางสะพาน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 3/2565 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวสั้นๆ ถึงการให้ความช่วยเหลือ กำลังพลของกองทัพเรือหลังเรือหลวงสุโขทัย ประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรง จนมีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และได้อัปปางจมลงใต้ทะเลเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า “กำลังช่วยอยู่”

ด้าน พล.ร.อ.ปกครอง มณธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถช่วยเหลือกำลังพลได้แล้ว จำนวน 75 นาย ปลอดภัยดี และอยู่ระหว่างการติดตามช่วยเหลืออีก 31 นาย ทั้งนี้ กำลังพลบนเรือมีจำนวนทั้งสิ้น 106 นาย ไม่ใช่ 110 นายตามที่เป็นข่าว ส่วนที่บอกว่าปลอดภัยทั้งหมด หมายถึงในระหว่างให้การช่วยเหลือ ทั้ง 106 นายขึ้นมาอยู่บนดาดฟ้าเรือแล้ว ไม่มีใครติดอยู่ตามห้องต่างๆในเรือ

“ขณะนั้นคลื่นลมแรงมาก การลำเลียงจาก ร.ล.สุโขทัยเป็นไปด้วยความยากลำบาก เมื่อเรือจมลงแล้ว สามารถลำเลียงมาลง ร.ล.กระบี่ได้จำนวน 75 นาย ซึ่งมี 1 นายที่ขาหักและอีก 1 ราย นิ้วหัก ส่วนอีก 31 นายยังไม่พบ ซึ่งวันนี้ (19 ธ.ค.) เราออกลาดตระเวณค้นหาตั้งแต่เช้า ก็หวังว่าจะได้พบทุกคนปลอดภัย” โฆษกกองทัพเรือ กล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เวลาประมาณ 11.00 น. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากสัตหีบ จ.ชลบุรี ไป อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง

Advertisement

ขนส่งฯ ชี้แจงข่าวเว็บพนัน ประมูลเลขสวย

People Unity News : 13 ธันวาคม 2565 ขนส่งทางบก ไม่หวั่น! หลังมีกระแสข่าวเจ้าของเว็บพนันหันมาประมูลทะเบียนเลขสวยเก็บเข้ากรุ ลั่นพร้อมให้ความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ปปง.ในรายละเอียด

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก สายไหมต้องรอด โพสต์ข้อความโดยระบุว่าเดี๋ยวนี้เจ้าของเว็บพนันหันมาเก็บสะสมป้ายทะเบียนเลขสวยแทนเงินสด แล้วมีการเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ประมูลเลขว่า ในเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินดังกล่าวนั้น เป็นหน้าที่ของ ตำรวจ และ ปปง. ส่วนกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นผู้จัดประมูลก็มีระเบียบหลักเกณฑ์ในการเปิดประมูล หากผู้ที่สนใจเข้ามาประมูลเลขสวยดำเนินการตามขั้นตอนข้อกำหนด ก็จะมีสิทธิที่จะเข้าประมูลเลขทะเบียนเลขสวยได้ทุกคน

อย่างไรก็ตามทางขนส่งทางบก พร้อมให้ความร่วมมือกับทาง ตำรวจ และ ปปง. หากประสานขอความร่วมมือมา

ส่วนขั้นตอนการจ่ายเงินภายหลังจากที่มีการประมูเลขสวยนั้นก็มีระเบียบตามขั้นตอน หากฝ่ายตำรวจตรวจสอบพบว่ามีความผิดปกติทางการเงินของผู้ประมูลหมายเลขใดเลขหนึ่ง ก็เป็นหน้าที่ของ ตำรวจ และ ปปง. ที่จะอายัดเส้นทางการเงิน ซึ่งขนส่งทางบกมั่นใจว่า จะไม่กระทบต่อการประมูลในครั้งต่อๆไปแน่นอน

นายจิรุตม์​ กล่าวต่อว่า  ส่วนประเด็นที่ว่า การประมูลทะเบียนเลขสวย หมวด 9 กก 9999  มีผู้ประมูลได้ราคาสูงสุดกว่า 45 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ที่เคยประมูลมานั้นว่า ในเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจว่า ก่อนหน้านั้นกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน หรือ กปถ. ได้เปิดประมูลเลขสวยหมวด 8 กก 8888 ก็มีผู้สนใจเข้ามาประมูลมากและมีราคาสูงถึง 28 ล้านบาท ดังนั้นหากเลขทะเบียนหมวด 9 กก 9999  เมื่อเปิดประมูล ทางขนส่งก็เคยมีการประมาณการณ์แล้วว่า หมวดดังกล่าวต้องราคาสูงกว่า 30 ล้านแน่นอน เนื่องจาก เป็นเลข 9 และ หมวดอักษร กก

Advertisement

เตือนภัยมิจฉาชีพออนไลน์ผ่านแอป “เป๋าตัง”

People Unity News : 8 ธันวาคม 2565 กระทรวงดิจิทัลฯ ผนึกกำลังแบงก์กรุงไทย  เพิ่มช่องทางแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์และข่าวปลอมที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางการเงินผ่านแอป “เป๋าตัง” เพิ่มสปีดในการเข้าถึงประชาชนมากกว่า 40 ล้านคน เพื่อป้องกันและลดความสูญเสียก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์

วันนี้ (8 ธ.ค. 65) ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์  วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และ นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่  ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การบูรณาการบริการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์ และการแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์และข่าวปลอมแก่ประชาชนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์  วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เกิดจากเจตนารมณ์ร่วมกันในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องต่อประชาชนและสาธารณชน ผ่านแอป “เป๋าตัง” ซึ่งบริหารจัดการโดยธนาคารกรุงไทย และปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านคน โดยจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันการหลอกลวงทางออนไลน์ และข่าวปลอม เพื่อป้องกันและยับยั้งก่อนเกิดปัญหาการถูกหลอกลวง ลดความสูญเสียของประชาชนในการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพออนไลน์

ด้านรูปแบบความร่วมมือ จะมีการพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลให้บริการข้อมูลจากฐานข้อมูลข่าวปลอม ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (AFNC) ที่ดำเนินงานโดยกระทรวงดิจิทัลฯ  ไปยังแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อให้มีการเผยแพร่การแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางการเงิน หรืออาชญากรรมทางการเงิน (Financial Fraud) ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งทางออนไลน์และข่าวปลอมแก่ประชาชน เพื่อให้รับทราบทันต่อสถานการณ์อยู่เสมอ

“แอปเป๋าตัง จะเป็นอีกช่องทางที่ช่วยเผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริง ที่ผ่านการตรวจสอบยืนยันจากหน่วยงานภาครัฐแล้ว ในรูปแบบการแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์และข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางการเงิน หรืออาชญากรรมทางการเงิน (Financial Fraud) ให้ทันต่อสถานการณ์และรูปแบบการหลอกลวงที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ประชาชนมีความรู้เท่าทันและสามารถรับมือกับการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่ทวีความซับซ้อน และก่อความเสียหายรุนแรงเป็นอย่างมากในปัจจุบัน” ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์กล่าว

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ  มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ควบคู่กับการส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการป้องกันภัยทางการเงินในทุกรูปแบบ ทั้งภัยทางไซเบอร์ กลโกงทางการเงิน รวมถึงการสร้างข่าวปลอม (Fake News)  เพื่อหลอกหลวงประชาชนให้ข้อมูลส่วนตัว โดยล่าสุด ธนาคารได้ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเผยแพร่ข้อมูลจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (AFNC) ที่ดำเนินงานโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”   ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Banking ที่คนไทยคุ้นเคย  มีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านคน  เพื่อให้ประชาชนได้ข้อมูลข่าวสารทางการเงินที่ถูกต้อง พร้อมแจ้งเตือนภัยกลโกง หรืออาชญากรรมทางการเงิน (Financial Fraud) ในรูปแบบต่าง ๆ ให้ประชาชนรู้เท่าทันกลโกง และไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

“ปัจจุบันมิจฉาชีพได้อาศัยเทคโนโลยี เป็นช่องทางแสวงหาประโยชน์ในทางที่มิชอบในทุกรูปแบบ และมีการปรับเปลี่ยนวิธีการไปตามยุคสมัย ทั้งภัยทางไซเบอร์ กลโกงทางเงิน เพื่อหลอกลวงให้ประชาชนเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ แม้ว่าทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน จะร่วมมือกันเต็มกำลังเพื่อป้องกันระวังภัยดังกล่าว  แต่ยังมีเหยื่อถูกหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการสร้างข่าวปลอม (Fake News) บิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างความเข้าใจผิด หลอกให้ประชาชนหลงเชื่อ ดังนั้น การให้ความรู้ทางการเงินกับประชาชนอย่างทั่วถึง จึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างเกราะป้องกันภัยให้กับประชาชนทุกกลุ่ม  ความร่วมมือในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยสร้างเกราะป้องกันภัยทางการเงินให้กับประชาชนทุกกลุ่ม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าธนาคารกรุงไทย และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะมีความร่วมมือในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดียิ่งขึ้น ตามวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”

สำหรับความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลฯ และธนาคารกรุงไทยครั้งนี้ เพื่อให้บรรลุภารกิจตามยุทธศาสตร์ชาติที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบการบริการประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพบริการภาครัฐให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและไร้รอยต่อ รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการนำข้อมูลดิจิทัลไปใช้ประโยชน์ เพื่อขับเคลื่อนกลไกการสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างยั่งยืน ธนาคารกรุงไทยมีเจตนารมณ์ที่จะนำเสนอและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ต่อปัญหาการหลอกลวงข้อมูลทางสื่อออนไลน์ โดยมีการบูรณาการการสร้างการตระหนักรู้ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงดิจิทัลฯ ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้กับประชาชนอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นการป้องกันและยับยั้งก่อนการเกิดปัญหา ที่เราพบเห็นกันอยู่ในปัจจุบันอย่างแพร่หลาย โดยในครั้งนี้เราได้พัฒนาการแจ้งเตือนข่าวผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ที่มีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคน โดยเป็นการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับฐานข้อมูลข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti Fake News Center Thailand :AFNC) ที่ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมีการเผยแพร่เป็นการแจ้งเตือนภัยจากการหลอกหลวงฉ้อโกงทางการเงินหรืออาชญากรรมทางการเงินในรูปแบบต่างๆ ทั้งทางออนไลน์และข่าวปลอมต่างๆอย่างเสมอ เพื่อลดการสูญเสียและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และเพื่อเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับภาคประชาชนในการนำข้อมูลดิจิทัลไปใช้ในการขับเคลื่อนกลไกลต่างๆ ในการสร้างความเชื่อมั่นในด้านความมั่นคง ความปลอดภัยทั้งทางทรัพย์สิน สังคม และความยั่งยื่นต่อไปในอนาคต โดยในการดำเนินการในครั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยจะไม่หยุดนิ่ง ที่จะพัฒนาแอปพลิชั่นเป๋าตังนี้ต่อไป

Advertisement

วันนี้ฝนตกทั่วไทย 40-70% ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

People Unity News : 26 พฤศจิกายน 2565 กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนฟ้าคะนอง 40-70% เตือนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

สำหรับอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร และพิษณุโลก อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

Advertisement

รองโฆษกรัฐบาลแจง เบอร์มือถือผูกพร้อมเพย์ไม่สามารถทำให้รู้ยอดเงินในธนาคารได้

People Unity News : 22 พฤศจิกายน 2565 รองโฆษกรัฐบาลย้ำเบอร์มือถือผูกพร้อมเพย์ ไม่สามารถทำให้รู้ยอดเงินในธนาคารได้ ยืนยันมีกฎหมายคุ้มครองชัดเจน ขอ ปชช.อย่าเป็นกังวลหลงเชื่อข่าวดังกล่าว

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยสถาณการณ์ที่มีอาชญากรรมออนไลน์เกิดขึ้นหลายรูปแบบ ล่าสุดมีการปล่อยข่าวว่าหากเบอร์มือถือที่ผูกกับพร้อมเพย์หลุดออกไปจะถูกเปิดเผยยอดเงินบัญชีทำให้ประชาชนเกิดความกังวลใจ จึงขอชี้แจงว่า การเผยแพร่ข้อความดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ

ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ธนาคารและบริษัทที่ดูแลระบบกลาง ไม่สามารถนำข้อมูลลูกค้ามาเปิดเผย หรือขายต่อข้อมูลได้ เพราะมีกฎหมายรองรับอยู่ คือ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และ พ.ร.ฎ. ควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนั้น มีประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนดในเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัย และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ให้บริการพร้อมเพย์ทั้งธนาคารพาณิชย์ และผู้ให้บริการระบบกลางพร้อมเพย์ต้องปฏิบัติตาม อีกทั้งธนาคารพาณิชย์และบริษัทที่ดูแลระบบกลาง เป็นระบบปิดที่มีการดูแลรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ISO 27001 คนภายนอกไม่สามารถต่อเข้ากับระบบพร้อมเพย์ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตทั่วไปได้ รวมถึงการดูแลระบบสารสนเทศ (IT) ในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย มาตรฐานความถูกต้อง ความพร้อมใช้ของระบบการดูแลการเข้าถึงข้อมูล การสำรองข้อมูล และการมีแผนรองรับกรณีฉุกเฉิน

“ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.bot.or.th หรือโทร. 02 2835353 การที่ผู้อื่นรู้เบอร์มือถือที่ผูกพร้อมเพย์ ไม่สามารถทำให้รู้ยอดเงินในธนาคารได้ โดยธนาคารและบริษัทที่ดูแลระบบกลางนั้น ไม่สามารถนำข้อมูลลูกค้ามาเปิดเผย หรือขายต่อข้อมูลได้เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่” นางสาวรัชดากล่าว

Advertisement

กรมอุตุฯ เผยเกือบทั่วทุกภาคยังมีฝน ภาคใต้ตกหนัก

People Unity News : 20 พฤศจิกายน 2565 กรมอุตุฯ เตือนเกือบทั่วทุกภาคเตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ขณะที่ไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ยังคงมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ในระดับบนพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวนในวันที่ 21 – 22 พ.ย. 65 และเข้าสู่อ่าวไทย ในช่วงวันที่ 23 – 24 พ.ย. 65 ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณปลายแหลมญวน ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 21 – 24 พ.ย. 65 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

Advertisement

Verified by ExactMetrics