วันที่ 17 กรกฎาคม 2025

อากาศแปรปรวน อีสานอุณหภูมิลด ภาคใต้ยังมีฝน

People Unity News : 19 กุมภาพันธ์ 2566 กรมอุตุฯ เผยภาคอีสานอุณหภูมิลดลง ส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือนไทยตอนบน ฝุ่นละออง-หมอกควันเพิ่ม

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่ได้แผ่ลงมาถึงประเทศจีนตอนใต้และเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันนี้ (19 ก.พ. 66) โดยจะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลงในวันพรุ่งนี้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

ฝุ่นละอองในระยะนี้ ประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันเพิ่มขึ้นเนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลง

Advertisement

เข้าสู่ช่วง “พายุฤดูร้อน” มท.1 สั่งทุกจังหวัดพร้อมรับมือ

People Unity News : 18 กุมภาพันธ์ 2566 มท.1 กำชับผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เตรียมพร้อมรับสถานการณ์พายุฤดูร้อน ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.พ.-มี.ค.66 พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) ได้ติดตามการคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคม ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน จากนั้นจนถึงปลายเดือนเมษายน จะมีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป มีอากาศร้อนจัด และจะเกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ โดยจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีลูกเห็บตกลงในบางแห่ง ซึ่งสภาวะดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนผลผลิตทางการเกษตรได้

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เตรียมการรับสถานการณ์พายุฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยดำเนินการ 1. ด้านการเตรียมความพร้อม ด้วยการ 1) ติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่อาจทำให้เกิดพายุฤดูร้อนกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมอบหมายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2) ให้ผู้อำนวยการแต่ละระดับ เร่งตรวจตราอาคารสถานที่ ป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง รวมถึงไม้ยืนต้นตามที่สาธารณะที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง พร้อมทั้งแจ้งให้หน่วยงานตามกฎหมาย เข้าตรวจสอบ ซ่อมแซมตามอำนาจหน้าที่ ตลอดจนเชิญชวนประชาชนจิตอาสามีส่วนร่วมในการสอดส่อง ปรับปรุง ดูแลให้เกิดความปลอดภัยต่อไป 3) ให้ผู้อำนวยการท้องถิ่นเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ ทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงที 4) สร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย อาทิ การตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของที่พักอาศัย การป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า และกรณีต้นไม้หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรงล้มทับ พร้อมทั้งแจ้งช่องทางการขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ตลอดจนมาตรการในการดูแลประชาชน ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ที่ประชาชนสามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า 2. ในด้านการเผชิญเหตุ หากจังหวัดใดเกิดสถานการณ์พายุฤดูร้อนในพื้นที่ ให้จังหวัดดำเนินการตามแนวทาง 1) หากเกิดเหตุวาตภัยที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในพื้นที่ใด ให้เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง 2) กรณีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายให้แบ่งมอบการกิจ พื้นที่รับผิดชอบและบูรณาการหน่วยงาน เพื่อจัดทีมปฏิบัติการเร่งเข้าซ่อมแชมบ้านเรือนประชาชนโดยเร่งด่วน 3) กรณีป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง ไม้ยืนต้น หรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าได้รับความเสียหาย ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าดำเนินการแก้ไขไม่ให้กีดขวางพื้นที่สาธารณะ และซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว 4) กรณีความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอำเภอร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง 5) เมื่อเกิดสถานการณ์วาตภัยจากพายุฤดูร้อนขึ้นในพื้นที่ ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสรุปสถานการณ์และรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบผ่านกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

“กระทรวงมหาดไทยได้ย้ำเตือนให้จังหวัด อำเภอ ได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างการรับรู้หมายเลขโทรศัพท์สายด่วนที่เกี่ยวข้อง ผ่านทุกช่องทางสื่อสารในพื้นที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถติดต่อหน่วยงานในการขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์วาตภัยและภัยต่าง ๆ สามารถติดต่อแจ้งขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนนิรภัยโทร. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือต่อไป” พลเอก อนุพงษ์กล่าว

Advertisement

นายกฯขอทุกพื้นที่ “งดการเผาทุกกรณี” 89 วัน ลด PM 2.5

People Unity News : 15 กุมภาพันธ์ 2566 โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าอย่างใกล้ชิด ห่วง PM2.5 พุ่งสูง กระทบสุขภาพประชาชน ขอความร่วมมือทุกพื้นที่งดเผาทุกกรณี

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าอย่างต่อเนื่อง ห่วงกังวลค่า PM2.5 พุ่งสูง กระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยสถานการณ์ไฟป่าในหลายพื้นที่มีความรุนแรง ทั้งจากภาวะความแห้งแล้งจัด รวมถึงการลักลอบเข้าป่าและจุดไฟเผาป่า เพื่อแสวงผลประโยชน์จากป่า โดยไม่คำนึงถึงภาพรวม และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้หมอกควันจากไฟป่าลอยปกคลุม ค่า PM2.5 เพิ่มสูงขึ้นเกินมาตรฐาน กระทบต่อสุขภาพประชาชน

“นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือแนวทางการป้องกันและรับมือสถานการณ์ไฟป่าของแต่ละหน่วยงาน เพื่อการถอดบทเรียนปัญหาไฟป่า ป้องกันการลุกลาม สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ พื้นที่การเกษตร บ้านเรือนประชาชน อีกทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มขึ้นในอากาศ ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ใช้ทุกมาตรการเพื่อลดจำนวนการเกิดไฟป่า และขอความร่วมมือทุกพื้นที่ “งดการเผาทุกกรณี” 89 วัน ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2566 หากฝ่าฝืนมีโทษ พร้อมได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างความเข้าใจ และขอความร่วมมือประชาชน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งทำให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มขึ้นในอากาศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือ เฝ้าระวัง และจัดการสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ พร้อมแจ้งเตือน และขอความร่วมมือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ขอให้พร้อมปรับแผน และมาตรการให้เข้มงวดขึ้นอย่างทันท่วงที

Advertisement

ผบ.ตร. สั่งตรวจสอบทุกประเด็นที่ “ดิว อริสรา” ออกมาแฉ

People Unity News : 9 กุมภาพันธ์ 2566 ผบ.ตร. สั่งตรวจสอบทุกประเด็นของ “ดิว อริสรา” พร้อมให้ความช่วยเหลือ และให้ความเป็นธรรม ส่วนสารวัตรเอี่ยวพนันออนไลน์ ให้หน่วยเร่งตรวจสอบแล้ว หากมีมูลให้ดำเนินการเด็ดขาด

วันที่ 9 ก.พ.66 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี ประเด็นสังคมที่เกี่ยวข้องกับ ดิว อริสรา ดารานักแสดง และสารวัตรที่ถูกพาดพิงว่า “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกเรื่อง ทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง ทั้งการพนันออนไลน์ ได้ดำเนินการตรวจค้น จับกุม ออกหมายจับ และทลายเครือข่ายกลุ่มผู้กระทำผิด ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล เพื่อดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย รวมทั้งประเด็นการทำร้ายร่างกาย หรือความผิดอาญาอื่นๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้เห็นว่า ทุกคนในสังคมต้องอยู่ในกฎ กติกา และกรอบของกฎหมาย หากมีการทำผิดต้องมีการรับโทษตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน

โดยหากคุณดิว อริสรา มีความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีในประเด็นใดเพิ่มเติม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมจะดูแลอำนวยความสะดวกในทุกๆเรื่อง พร้อมให้ความเป็นธรรม และทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดกับผู้ที่ละเมิดกฎหมายทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด โดย ผบ.ตร.ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อตรง รักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด ต้องไม่เป็นผู้กระทำผิดเสียเอง ถ้าใครทำผิด ต้องมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกราย

โฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในส่วนของอีกประเด็นที่มีการกล่าวหาพาดพิง ตำรวจเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ และละทิ้งหน้าที่ราชการนั้น ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ ผบช.สกบ.ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ หากพบว่ามีการละทิ้งหน้าที่ หรือมีการกระทำผิดอื่น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการ จะดำเนินการทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน”

Advertisement

เอาแล้ว พวกทำเฉยจ่ายค่าปรับ!! ตร.จับมือขนส่ง ชะลอออกป้ายภาษีรถยนต์ค้างจ่ายค่าปรับใบสั่ง

People Unity News : 8 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับมือกรมการขนส่งทางบก ลงนามความร่วมมือเชื่อมข้อมูลเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายจราจร เริ่ม 1 เม.ย.66 เตือนมีใบสั่งค้างจ่าย ไม่ได้ป้ายภาษีรถ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) การเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายจราจรทางบก เพื่อลดการกระทำผิดกฎหมาย ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน

ผบ.ตร. กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก จะร่วมกันดำเนินการกวดขันวินัยการขับขี่ โดยบังคับใช้มาตรการตามที่กำหนดในกฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มาตรการที่ 1 การตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปตั้งแต่ 9 มกราคม 2566 มีผู้กระทำผิดกฎจราจรและถูกตัดคะแนนแล้ว จำนวน 15,456 ราย

มาตรการที่ 2 มาตรการชะลอการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี สำหรับรถที่มีใบสั่งค้างชำระ ตาม 141/1 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานจะต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลยานพาหนะ และข้อมูลใบสั่งค้างชำระ เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลได้แบบ Real Time

สำหรับมาตรการชะลอเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจะใช้กับรถยนต์ที่มีใบสั่งจราจรที่ค้างชำระ ซึ่งเจ้าของรถเพิกเฉยไม่ชำระค่าปรับตามที่กำหนด โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งข้อมูลโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก เมื่อประชาชนไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี นายทะเบียนจะรับต่อภาษีประจำปี แต่ยังไม่ได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (ป้ายภาษี) โดยจะได้หลักฐานชั่วคราวแทนป้ายภาษี ซึ่งมีอายุ 30 วัน เพื่อให้ผู้นั้นไปชำระค่าปรับที่ค้างชำระให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน แล้วจึงสามารถมารับป้ายภาษีได้ แต่หากประชาชนต้องการจะชำระค่าปรับในขณะต่อภาษี กฎหมายกำหนดให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้นายทะเบียนสามารถรับชำระค่าปรับตามใบสั่งพร้อมกับชำระภาษี และรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีได้ทันที

ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า การขับรถโดยไม่มีป้ายภาษี จะมีโทษตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ มาตรา 11 ซึ่งกำหนดว่า รถยนต์คันที่ต่อภาษีแล้วจะต้องแสดงเครื่องหมายตามที่กรมการขนส่งกำหนดให้ครบถ้วน มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลใบสั่งค้างชำระ และคะแนนความประพฤติได้จากเว็บไซต์ E-ticket PTM และแอปฯ ขับดี

ด้านอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ การเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งค้างชำระของทั้งสองหน่วยงาน จะเริ่มใช้กับใบสั่งจราจรตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป โดยไม่มีผลย้อนหลัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบกเชื่อมั่นว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถนำไปสู่การเสริมสร้างวินัยจราจร จิตสำนึกด้านความปลอดภัยซึ่งจะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืนต่อไป

Advertisement

พบหญิงไทย 1 ราย เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในตุรกี

People Unity News : 8 กุมภาพันธ์ 2566 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา แจ้งว่ามีหญิงไทย 1 ราย เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในตุรกี พบศพใต้ซากปรักหักพังของอาคาร

นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่ากระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ว่ามีสตรีชาวไทย 1 ราย เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในตุรกี โดยถูกพบที่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารในเมือง Iskenderun ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งไปยังครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตแล้วและกำลังเร่งประสานงานกับทางการตุรกีเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตมา ณ ที่นี้

Advertisement

จ่ายแล้ว สนง.สลากฯเผยจ่ายเงินรางวัลที่ 1 ลูกค้ากองสลากพลัสครบแล้ว

People Unity News : 5 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานสลากฯ ยืนยันจ่ายเงินรางวัลที่ 1 ให้ผู้ที่นำสลากฯ จากกองสลากพลัสมาขอรับเงินรางวัลครบถ้วนแล้ว

สืบเนื่องจากมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า ถูกรางวัลที่ 1 งวด 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ซื้อสลากฯ จากกองสลากพลัส แต่นำสลากฯ ไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กลับถูกไล่กลับ นั้น

วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2566) พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชี้แจงว่า ช่วงก่อนออกรางวัลในงวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานสลากฯ ได้รับการประสานงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า สลากฯ งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะยึดอายัดไว้ทั้งหมด สำหรับในส่วนของสลากฯ ที่ถูกรางวัล กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะดำเนินการจ่ายเงินรางวัลให้กับผู้ถูกรางวัล ดังนั้น ในวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา เมื่อมีผู้สวมเสื้อลายกองสลากพลัส นำสลากฯ งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 มาขอขึ้นเงินรางวัล เจ้าหน้าที่สำนักงานสลากฯ จึงไม่สามารถจ่ายรางวัลให้ได้ในทันที เนื่องจากไม่เป็นไปตามที่ได้มีการประสานงานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้

ต่อมา เมื่อผู้ที่นำสลากฯ มาขอรับเงินรางวัลดังกล่าว แสดงเอกสารบันทึกรับต้นฉบับสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีการลงนาม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ตัวแทนบริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด (กองสลากพลัส) กับผู้ติดต่อขอรับต้นฉบับสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 และตัวแทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้กับเจ้าหน้าที่สำนักงานสลากฯ ในขณะระหว่างที่รอตรวจสอบเอกสาร ทางสำนักงานสลากฯ ได้มีการประสานไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องว่าเป็นไปตามเอกสารดังกล่าวหรือไม่ หลังจากนั้น เมื่อได้รับคำตอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าเป็นไปตามเอกสารดังกล่าวจริง โดยเป็นขั้นตอนของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่กำหนดขึ้นใหม่ สำนักงานสลากฯ จึงได้รีบดำเนินการจ่ายรางวัลที่ 1 ให้กับผู้ถือสลากฯ มาขึ้นเงินรางวัลทันที และผู้ถือสลากฯ มาขอรับเงินรางวัล ก็ได้รับเงินรางวัลที่ 1 ไปครบถ้วนถูกต้องตามขั้นตอนทุกประการ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสลากฯ ได้กล่าวขอโทษและขออภัยในความไม่สะดวกที่ทำให้การขึ้นเงินรางวัลมีความล่าช้าในขั้นตอนการดำเนินงานดังกล่าวไปแล้ว

Advertisement

กลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท. ชวน “รถเก่า” เข้า “คลินิกรถ” ลดฝุ่น PM2.5

People Unity News : 3 กุมภาพันธ์ 2566 กลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท. ชวนประชาชนเข้าร่วมโครงการ คลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5 เพื่อบำรุงรักษารถยนต์ ลดควันดำ ต้นเหตุ PM2.5

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  ชวนผู้ใช้รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป เข้าตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ฟรี  ที่ “คลินิกรถ ลดฝุ่น PM 2.5”  เพื่อลดการปล่อยฝุ่นละออง PM 2.5 จากรถยนต์ใช้งาน หลังกรมควบคุมมลพิษรายงานว่า ช่วง 1-2 วันนี้ หลายจังหวัดทั่วประเทศมีปริมาณฝุ่น pm2.5 เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะอาศัยในเขตเมือง โดยโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการรถยนต์ 9 ราย ประกอบด้วย TOYOTA , ISUZU , MITSUBISHI , NISSAN , MAZDA , FORD , HONDA , SUZUKI และ HINO ร่วมให้บริการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ฟรี ซ่อม บำรุงรักษาและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง โดยให้ส่วนลดราคาทั้งค่าน้ำมันเครื่อง ค่าอะไหล่และค่าแรงให้กับรถยนต์ใช้งานที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป เพื่อลดการปล่อยฝุ่นละออง PM 2.5 จากรถยนต์ใช้งาน พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ของประชาชนทั่วไป หากรถยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานจะได้รับส่วนลดที่เพิ่มมากขึ้น โดยโครงการนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ถึง เดือนเมษายน 2566

“รถบรรทุก รถเมล์ขนาดใหญ่ควรมีการตรวจสภาพรถอย่างเข้มงวด เพราะใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณมากกว่า และรถยนต์เก่าอายุมากกว่า 20 ปี ในบ้านเราตัวเลขเมื่อสิ้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีมากกว่า 3 ล้านคัน ก็ควรหมั่นตรวจเช็คสภาพ ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดควันดำแล้ว ยังจะช่วยผู้ใช้รถประหยัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซ่อมแซมรถด้วย” นายสุรพงษ์ กล่าว

ที่ผ่านมาบริษัทรถยนต์ได้ร่วมมือกันให้ส่วนลดค่าบำรุงรักษา เพื่อลดควันดำมากกว่า 252,414 คัน รวมเป็นงบประมาณกว่า 160 ล้านบาท

สำหรับผู้ใช้รถที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถประสานศูนย์บริการใกล้บ้าน เพื่อตรวจสอบรายละเอียดส่วนลดและระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ เนื่องจากแต่ละบริษัทให้การสนับสนุนที่แตกต่างกัน โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ shorturl.at/ejqKT

Advertisement

ฝุ่นยังคลุ้ง! เช้านี้ PM 2.5 ยังสูงเกินค่ามาตรฐาน 43 จังหวัด

People Unity News : 3 กุมภาพันธ์ 2566 ฝุ่นยังคลุ้ง! เช้าวันนี้ (3 ก.พ.66) ปริมาณ PM 2.5 ยังเกินค่ามาตรฐาน 43 จังหวัด ด้าน รมว.ทส. ขอความร่วมมือลดการเผา บริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบครบวงจร

ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ วันนี้ พบว่า ปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน 43 จังหวัด อาทิ ปทุมธานี กรุงเทพฯ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ส่วนผลการตรวจวัดตามรายภาคพบเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ กรุงเทพฯและปริมณฑล ตรวจวัดได้ 54 – 119 มคก./ลบ.ม. ภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 34 – 154 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วัดได้ 29 – 96 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก ตรวจวัดได้ 48 – 117 มคก./ลบ.ม. ส่วนภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐาน 4 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 32 – 79 มคก./ลบ.ม. โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่

ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุถึงมาตรการลดฝุ่นพิษ ว่า ได้ขอความร่วมมือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริหารจัดการเชื้อเพลิงในแต่ละพื้นที่แบบครบวงจร ทั้งการชิงเก็บ ลดการเผา

คพ.ชี้สถานการณ์ PM 2.5 กทม. รุนแรงระดับ 3 ต่อเนื่องอีก 2 วัน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.พ. คพ. เผยดัชนีคุณภาพอากาศใน กทม. อยู่ระดับ 3 เหตุมีการสะสมของฝุ่น PM 2.5 โดยจะมีสภาพเช่นนี้ไปอีก 2 วัน แนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง รวมถึงพิจารณา WFH เพื่อลดการจราจรและลดความเสี่ยง หากรุนแรงถึงระดับ 4 จะแนะนำให้ปิดโรงเรียน

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)  กล่าวว่า ดัชนีคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครวันที่ 2 ก.พ.อยู่ที่ระดับ 3 (ระดับสีส้ม) ซึ่งเป็นระดับที่ประชาชนทั่วไปยังสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ แต่เพื่อลดความเสี่ยงจึงแนะนำให้ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพหรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง อุปกรณ์ที่สำคัญคือ หน้ากากอนามัย หากสวมใส่ถูกวิธีจะลดการรับฝุ่น PM2.5 ได้ 50-60% ย้ำถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์

สำหรับการที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครขอความร่วมมือ Work from home (Wfh) ระหว่างวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ เป็นคำแนะนำของกรมควบคุมมลพิษเนื่องจากการลดการเดินทางจะลดฝุ่น PM2.5 จากยานยนต์และลดความเสี่ยงของประชาชนด้วย พร้อมย้ำว่า หาก ศกพ. คาดการณ์ว่า ดัชนีคุณภาพอากาศจะรุนแรงระดับ 4 ต่อเนื่อง 3-4 วันจะแนะนำให้ปิดโรงเรียน เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ ซึ่งแนะนำให้ออกมาตรการพื้นที่อื่นๆ แนะนำให้กำหนดมาตรการตามสถานการณ์ในพื้นที่

นายปิ่นสักก์กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้การสะสมของฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้นในระยะนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่ปิดซึ่งเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในฤดูหนาว เมื่อประกอบกับการเผาในพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่าจึงทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น

ภาครัฐได้ยกระดับมาตรการแก้ปัญหาที่เข้มข้นขึ้นในการลดแหล่งกำเนิด PM2.5 โดยในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากการจราจรได้กำหนดมาตรฐานรถยนต์ให้เป็นมาตรฐานยูโร 5 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 ส่วนในต่างจังหวัดมีแหล่งกำเนิดจากการเผา ได้กำหนดแนวทางในการเปลี่ยนวัสดุทางการเกษตรเป็นปุ๋ยหรือพลังงานชีวมวล ตลอดจนมาตรการจัดระเบียบการเผา โดยบางช่วงต้องหยุดเผาและการลงทะเบียนขออนุญาตเผาเพื่อไม่ให้เผาพร้อมๆ กัน พร้อมกันนี้ได้ประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านในการดำเนินการตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดนเพื่อลดจุดความร้อน ซึ่งทุกหน่วยงานกำลังเร่งแก้ปัญหาอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน

Advertisement

ศิริราชฯ เปิดตัว 2 นวัตกรรมใหม่ รักษาผู้ป่วยโรคสั่น-AI อ่านค่าวินิจฉัยโรคทรวงอก

People Unity News : 1 กุมภาพันธ์ 2566 ศิริราชพยาบาล เปิดตัว 2 นวัตกรรมการแพทย์แบบใหม่ ช่วยผู้ป่วยโรคสั่นไม่ทราบสาเหตุ รักษาหายได้ทันที เพียงแต่ยิงรังสีอัลตราซาวด์เข้าไปเฉพาะจุดผ่านชั้นผิวหนังลงไปในเนื้อสมอง ไม่ต้องผ่าตัดเปิดสมอง ในอนาคตจะนำนวัตกรรมนี้ใช้รักษาโรคพาร์กินสัน ส่วนอีกนวัตกรรมนำเทคโนโลยี AI อ่านค่าเอกซเรย์วินิจฉัยเกี่ยวกับ 8 กลุ่มโรคทรวงอก ได้อย่างแม่นยำ

ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับ ศ.คลินิก พญ.อัญชลี ชูโรจน์ หัวหน้าภาควิชารังสีวิทยา และ อ.พญ.ยุวดี พิทักษ์ปฐพี สาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ แถลงข่าวเปิดตัว 2 นวัตกรรม การพัฒนาการวินิจฉัยเอกซเรย์ด้วย AI และรักษาโรคสั่นที่ไม่ทราบสาเหตุด้วย MRI และอัลตราซาวด์ โดยการรักษาพัฒนาใช้ AI ทำให้การอ่านและแปลผลการรักษาด้วยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แตกต่างไปจากเดิม ที่เห็นเป็นสีขาวดำ การอ่านผลจะเปลี่ยนเป็นแสดงสีและตำแหน่ง ทำให้การวิเคราะห์ภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งระยะเวลาในการอ่านผลใช้เพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ ที่ผ่านมามีการใช้ในการวินิจฉัย 8 กลุ่มโรค ได้แก่ สภาวะปอดแฟบ, หัวใจโต, ปอดเป็นฝ้าขาว, ก้อนเนื้องอกที่มีขนาดใหญ่ กว่า 3 ซม., ก้อนเนื้องอกที่มีขนาดเล็กกว่า 3 ซม. สภาวะที่มีน้ำในเยื่อหุ้มปอด, สภาวะของปอดที่บวมน้ำ และสภาวะที่คล้ายวัณโรค

อ.พญ.ยุวดี กล่าวว่า ส่วนรักษาโรคสั่นที่ไม่ทราบสาเหตุด้วย MRI และอัลตราซาวด์ มีการนำเครื่องที่ทันสมัย และเริ่มใช้ในต่างประเทศมารักษาผู้ป่วย โรคสั่นโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือจากพันธุกรรม โดยผู้ป่วยต้องมีการสั่นที่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการรับประทานอาหาร เขียนหนังสือ หรือ ธุรกรรมการเงิน จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ เดิมการรักษาแบบนี้จะใช้การผ่าตัดเปิดสมอง แต่ด้วยเทคโนโลยีนี้จะมีการยิงรังสีที่มีความร้อนลงไปตำแหน่งของเนื้อสมองใต้ผิวหนัง เพื่อให้เกิดรอย ลดอาการสั่น โดยที่ผ่านมาศิริราชมีการรักษาผู้ป่วยไปแล้ว 3 รายด้วยกัน ซึ่งการรักษานี้สามารถลดอาการสั่นได้ทันทีหลังรักษา ซึ่งการรักษาผู้ป่วยจะใช้ในผู้ที่มีอาการมือสั่นทั้ง 2 ข้าง และไม่ต้องการผ่าตัด ปัจจุบันพบให้พบดี แต่จะเป็นการรักษาอาการสั่นของมือข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น และยังไม่ครอบคลุมสิทธิการรักษา แต่ในอนาคตมีแนวโน้มนำนวัตกรรมนี้มาใช้ในการรักษาโรคพาร์กินสัน

ปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลนี้ เนื่องจากเป็นนวัตกรรมใหม่ จึงราคาตก 200,000 บาท แต่เพื่อให้ประชาชนได้รับและเข้าถึงการรักษาด้วยวิธีการนี้ ทางศิริราชพยาบาลนำเข้าสู่ โครงการช่วยเหลือและรักษาของโรงพยาบาลศิริราช

Advertisement

Verified by ExactMetrics